Rhythm สุขุมวิท 36-38 คอนโดใหม่จาก AP ใกล้ BTS สถานีทองหล่อ [รีวิวฉบับที่ 646]

รีวิวฉบับที่ 646 … สวัสดีครับวันนี้จะพาไปชมคอนโด Rhythm สุขุมวิท 36-38 หลังจากที่เราได้พาไปชมทำเลและบรรยากาศของโครงการนี้ไปแล้ว คราวนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างกันครับ เนื่องจากโครงการนี้เป็น 1 ใน 3 โครงการที่ AP ร่วมทุนกับ Misubishi ดังนั้นการออกแบบจึงใช้แนวคิด “Living Unordinary การออกแบบสถาปัตยกรรมที่เชื่อมต่อแนวคิดแบบญี่ปุ่น”  โดยตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิทซอย 36 กับ 38 อยู่ห่างจากบีทีเอสทองหล่อประมาณ 400 เมตร เราไปดูรายละเอียดกันครับ

Fact @ 29 July 2014

• RHYTHM SUKHUMVIT 36-38 (ริทึ่ม สุขุมวิท 36-38)
• บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จํากัด  
• LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่) 
• คอนโด High Rise  25 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 1 อาคาร  ยูนิตรวม 496 ยูนิต + 1 ร้านค้า
• ที่ดินประมาณ  2 ไร่ 2 งาน 76.3 ตารางวา
• ที่จอดรถรวมซ้อนคันประมาณ 47.5%
  
• Studio 24 ตารางเมตร
• 1 Bedroom 33 – 49 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 54.50 – 86 ตารางเมตร
• ราคาเริ่มต้นที่ 4.1 ล้านบาท
• ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรประมาณ : 171,000 บาท ต่อตารางเมตร
• ปีที่ก่อสร้าง :  เดือนสิงหาคม 2557
• ปีที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ  : มกราคม 2560
• http://www.apthai.com/RHYTHM/RHYTHM-Sukhumvit36-38/?_ds=t
• โทร   02-610-3333

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.721604, 100.576542

แผนที่จากทางโครงการ ตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนสุขุมวิท และ BTS แบบในแผนที่นะครับ ซึ่งเราเคยทำรีวิวทำเลไปแล้ว (รีวิวทำเล RHYTHM 36-38) เลยจะขออธิบายทำเลแบบคร่าวๆ

Rhythm สุขุมวิท 36-38 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 กับซอยสุขุมวิท 38 ครับ ห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 400 เมตร ถนนเส้นหลัก คือ ถนนสุขุมวิทซึ่งวิ่งไปออกถนนพระราม 4 และ ถนนเพชรบุรีได้ พื้นที่ใกล้เคียงโครงการล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายครับ เช่น Terminal 21, Emporium, Rain Hill, Gateway Ekamai, J Avanue, K-Village, Major Ekamai, Big C Ekamai นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามโครงการ หรือซอยทองหล่อกับซอยเอกมัยยังเป็นแหล่งร้านอาหารมากมาย รวมทั้งเป็นแหล่งของนักท่องราตรีที่ไป Hang Out กันอีกด้วย

ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 36 แต่ทาง AP ตัดถนนผ่านหน้าโครงการ และมอบให้เป็นถนนสาธารณะ ซอยนี้มีชื่อว่า ” AP ” (เอพี) เชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 36 กับซอยแสงชัย สามารถทะลุออกซอยสุขุมวิท 38 ซอย 40 และ 42 ได้ การเดินทางมายังโครงการโดยรถส่วนตัว ถ้ามาจากถนนสุขุมวิทก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 36 ตรงเข้ามาประมาณ 350 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอย AP โครงการจะอยู่ซ้ายมือครับ  หรือถ้าเข้าซอยสุขุมวิท 38 ตรงเข้ามาประมาณ 240 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยแสงชัย และตรงเข้าซอย AP โครงการจะอยู่ขวามือครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ลงบีทีเอสสถานีทองหล่อถ้าจะไปทางซอย 36 มีพี่วินรออยู่หน้าปากซอยครับ หรือถ้าจะเดินก็ต้องระมัดระวังด้วยนะครับเพราะซอยนี้ไม่มีทางเท้าครับ ถ้าเดินมาทางซอย 38 จะมีทางเท้าให้จนถึงโครงการเลยครับ และยังมีร้านอาหารทั้งสองข้างทางในซอยให้เลือกกินในช่วงค่ำจนเกือบเช้ากันเลยทีเดียวครับ

ตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งซอยสุขุมวิท 36 หน้าโครงการอยู่ตรงฝั่งซอย AP ซึ่งเชื่อมกับซอยแสงชัยเพื่อไปทะลุออกซอย 38 ได้ครับ โดยซอยสุขุมวิท 36 มีอาคารสูง 6-7 ชั้นอยู่ติดกับโครงการ ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ดินเปล่า ส่วนตะวันออกเฉียงใต้ติดกับบ้านของคนในซอยนั้น และมีอาคารสูง 5-6 ชั้นครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

 

 

เจาะลึกตัวโครงการ

Rhythm สุขุมวิท 36-38 คอนโดระดับ LUXURY CLASS จากค่าย AP ที่ได้ร่วมมือกับ Mitsubishi โดยได้ใช้แนวคิด Living Unordinary การออกแบบสถาปัตยกรรมเชื่อมแนวคิดแบบญี่ปุ่น ซึ่งได้นำแนวคิดหลักๆ มาใช้ เช่น การจัดสวนสไตน์ Engawa  การออกแบบที่ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ภายนอก และภายในให้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน การแบ่งพื้นที่ระหว่างยูนิตแบบ Interlock มาดูกันครับว่าแนวคิดโครงการนี้หน้าตาจะเป็นแบบไหนกัน

 

รูปหน้าตาอาคารออกแบบมาคล้ายกับตัว U ครับ มีต้นไม้ล้อมรอบอาคาร ถนนหน้าตัวอาคารจากรูปทางเข้าตัวอาคารน่าจะไปทางขวามือครับแต่ของจริงจะเป็นแบบนี้รึป่าว จะมีไอระเพิ่มมาอีกมั้ยต้องรอดูครับ

รูปด้านหน้าโครงการ มีถนนตัดหน้าโครงการ ชื่อว่าซอย AP ซึ่งทางโครงการได้ตัดถนนเส้นนี้เพื่อเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 36 กับ ซอยสุขุมวิท 38 ซึ่งทำให้สะดวกต่อการเข้าออกโครงการครับ

รูปสวนด้านล่าง ตามแนวคิด Engawa ของญี่ปุ่น คือ การออกแบบให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ภายนอกและภายในให้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสความรู้สึกโปร่งสบายใกล้ชิดธรรมชาติ มีการใช้น้ำเข้ามาเป็นส่วนประกอบของสวนดูแล้วรู้สึกร่มรื่น สบายตาดีครับ

รูปล็อบบี้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 5 เมตรครับ บริเวณล็อบบี้นั้นใช้กระจกบานใหญ่ทำให้เห็นวิวสวนด้านนอก เพื่อให้เกิดการเชื่อมพื้นที่ภายใน และภายนอก

รูปสระว่ายน้ำชั้น 6 น้ำเป็นสีม่วงซึ่งโดยปกติคอนโดทั่วไปจะเป็นสีฟ้า และน้ำเงิน แต่ของจริงสีน้ำจะเป็นแบบนี้รึป่าวต้องรอดูโครงการเสร็จนะครับ

รูปห้องออกกำลังกายชั้น 25 ผนังกระจก และทำเป็นหลี่ยมมุมฟันปลาเพื่อให้พื้นที่ของเครื่องเล่นแต่ละเครื่องมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งจะเห็นวิวฝั่งทิศเหนือ และทิศตะวันออก เราไปดูแปลนกันบ้างครับ 

จากแปลนเมื่อเข้าโครงการจะมีจุด Drop Off อยู่ซ้ายมือ ให้วนซ้ายเพื่อจอดหน้า Lobby หรือถ้าจะเข้าอาคารจอดรถเลยให้เลี้ยวขวา ถนนรอบตัวอาคารจะเป็นแบบ One Way ดังนั้นถ้าจะออกจะโครงการก็ต้องไปอ้อมหลังอาคาร และผ่านจุด Drop Off  แล้วออกโครงการครับ

ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำสีม่วงแปลกจากที่อื่น ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า หรือน้ำเงิน พร้อมห้องซาวน่าแยกชายหญิง เนื่องจากโครงการนี้แยก Fitnes ให้ไปอยู่ชั้น 25 ถ้าอยากว่ายน้ำต่อก็ต้องลงมาชั้น 6 ครับ ส่วนเรื่องการเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะเวลาจะใช้งานส่วนกลางลูกบ้านคนอื่นๆสามารถออกจากโถงลิฟท์ไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องพักที่ชั้นนี้เลย และตรงทางเข้าห้องพักของชั้นนี้เค้าจะมีประตูกั้นไว้ให้อีกที

สำหรับยูนิตทีติดกับสระว่ายน้ำ 4 ยูนิตนั้น ต้องรอดูตอนโครงการสร้างเสร็จครับว่าจะมีอะไรมาช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านรึเปล่า เช่นต้นไม้แบบพุ่มสูง หรือระดับพื้นที่ต่างกัน แต่ที่แน่ๆคือจะต้องได้ยินเสียงจาการใช้งานใช้บริเวณสระว่ายน้ำ ส่วนวิวที่จะจากสระว่ายน้ำ ก็เป็นวิวธรรมดาไม่ได้หวือหวาอะไรเป็นพิเศษ ไม่เหมือนกับคอนโดที่เอาสระว่ายน้ำไปอยู่ชั้นบนสุด วิวที่สระหันไปคือทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นฝั่งพระรามสี่ เป็นอาคารบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ห้องพักอาศัยชั้น 7 ถึง 16 มี 28 ยูนิต ชั้นเหล่านี้เป็นชั้นที่มียูนิตเยอะที่สุดและชั้นที่เหลือจะมีจำนวนยูนิตน้อยลง เพราะชั้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตัวอาคารจะร่นระยะตามข้อบังคับของกฎหมาย ผังอาคารเป็นตัว U วิวหลักๆก็แบ่งเป็นวิว ภายใน กับ ภายนอก วิวรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นแบบ City View เพราะทำเลอยู่ในย่านสุขุมวิท วิวที่จะโล่งหน่อยก็เป็นทิศตะวันออกและใต้ เพราะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยซะเป็นส่วนมาก แต่ต้องขอบอกก่อนว่าตอนที่ไปเก็บข้อมูล ห้องฝั่งทิศตะวันออกขายหมดแล้ว และ ห้องขนาด 75-86 ตร.ม.ที่หันทางทิศใต้ก็ขายหมดแล้วเช่นกัน

ชั้น 17 จะเริ่มมีระยะร่นที่ฝั่งขวาของอาคารก่อน โดยยุบห้องหายไป 1 ยูนิตและ มีสวนสีเขียวเพิ่มขึ้นมาแทนครับ เนื่องจากตัวอาคารเป็นรูปตัวยู และแกนลิฟท์ไม่ได้อยู่ตรงกลางอาคารทำให้ห้องที่อยู่ท้ายสุดฝั่งขวามีระยะเดินไกลหน่อย โดยระยะทางเดินจากลิฟท์มาถึงห้องสุดท้ายฝั่งสวน ประมาณ 70 เมตรครับ

 

 

ชั้น 18 ไม่ได้มีสวนเหมือนชั้น 17 แต่การวางผังส่วนอื่นๆก็เหมือนกันหมดครับ

จากแปลนชั้น 19 จะเห็นว่า ตัวสวนจะวางสลับข้างระหว่างซ้ายกับขวาของตัวอาคารไปเรื่อยๆ ยูนิตฝั่งที่ไม่มีสวนจะหายไปเนื่องจากทำเป็นทางหนีไฟที่เชื่อมต่อมาจากชั้น 20 ครับ สำหรับเรื่องการใช้งานสวน คนที่จะใช้งานได้จะมีเพียงแค่ห้องของชั้นนั้นเท่านั้น เพราะลิฟท์เป็นแบบล็อคชั้น เช่นถ้าคุณอยู่ที่ชั้น 18 จะมาใช้งานสวนที่ชั้น 19 ไม่ได้นะครับ

ผังชั้น 20 – 22 จะเหมือนกันหมดยกเว้นแค่ชั้น 21 ไม่มีสวนเท่านั้นเอง  และบันไดหนีไฟตั้งแต่ชั้น 20 ขึ้นไปเหลือแค่ 2 จุดครับ

ชั้น 23-24 จากแปลนจะเห็นว่าตัวอาคารถอยร่นเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด จำนวนยูนิตก็น้อยลงครับ ก็จะได้ความสงบและความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นอื่นๆ

สำหรับชั้น 25 หรือชั้นสูงสุดของอาคารจะเป็นห้องออกกำลังกายครับ มีห้องน้ำแยกชาย หญิง และมีลานกลางแจ้งให้ทำกิจกรรม หรือจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้ แต่น่าเสียดายที่สระว่ายน้ำไม่ได้อยู่ชั้นนี้ครับ เพราะจะได้วิวที่ดูดีหน่อย การแยกส่วนกลางออกจากกันแบบนี้มีข้อเสียอยู่หน่อยคือ ถ้าใครอยากออกกำลังกายเสร็จแล้วจะมาแช่น้ำในสระว่ายน้ำต่อต้องเดินลงมาที่ชั้น 6 ครับ วิวจากห้อง Fitness จะหันไปหาถนนสุขุมวิทและเป็น City วิวนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร และจากุซซี่
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
• ห้อง Sauna (แยกชาย-หญิง)
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 124 : 1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถรวมซ้อนคัน 236 คัน คิดเป็น 47%
• ระบบ CCTV / Access Card
• ลิฟท์ล็อคชั้น

 

Product Walkthrough

โครงการนี้มีห้องแบบ Studio, 1Bedroom และ 2Bedroom  แต่ละแบบมีลักษณะของห้องที่ต่างกันครับ ซึ่งในการแบ่งห้องได้นำแนวคิดแบบ INTERLOCK มาใช้ คือดีไซน์ห้องสี่เหลี่ยมออกเป็น 2 ห้อง โดยแยกส่วนพื้นที่ห้องน้ำออกมา แทนการใส่รวมเข้าไปในพื้นที่ห้องใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในห้องสี่เหลี่ยมได้อย่างเต็มที่ แนวคิดแบบ INTERLOCK เมื่อนำมาแบ่งพื้นที่จะได้ตามรูปด้านบนครับ คือห้อง Studio จะได้พื้นที่ส่วนครัวเพิ่มขึ้น ส่วนห้อง 1Bedroom จะได้ระยะดูทีวีเพิ่ม ซึ่งสามารถวางจอทีวีได้ใหญ่ขึ้น ซึ่งผมได้นำมารีวิวให้ดูด้วยครับ

มาดูแปลนห้องตัวอย่าง Studio 24 ตารางเมตร กันครับ ห้องนี้จะได้ครัวแบบเปิด ไม่มีการกั้นห้องมาให้ดังนั้นเวลาทำครัวกลิ่นจะกระจายทั่วทั้งห้อง  ถ้าจะแก้ไขด้วยการกั้นห้องก็ยังพอทำได้ อาจจะทำเป็นกระจกบานสไลด์ แต่ต้องยอมเสียพื้นที่ส่วนนั่งเล่นออกไป การวางเตียงสามารถเลื่อนเข้าไปให้ชิดกับหน้าต่างก็ได้ยอมเสียพื้นที่ข้างเตียงเพื่อให้ส่วนของโซฟาร่นเข้าไปอีกทำให้องศาการดูทีวีดีขึ้นกว่าเดิม ระเบียงห้องจากแปลนมีขนาดเล็กมาก วางราวตากผ้าก็น่าจะเต็มพื้นที่แล้วครับแนะนำเป็นราวแบบพับได้ ห้องน้ำถือว่าแบ่งส่วนได้ดีครับถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังสามารถแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้

ห้องตัวอย่างไม่มีประตูมาให้ดู เลยไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไรและ กลอนประตู Digital ที่จะแถมมาให้นั่นเป็นแบบไหนนะครับ พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เดินเข้าไปซ้ายมือเป็นครัว ขวามือเป็นห้องน้ำ ตรงไปที่เห็นเทาๆ ยื่นออกมาเป็นตู้เสื้อผ้าครับ เลยตู้ไปเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี ตรงไปเป็นระเบียง

เดินเข้ามาเจอเตียง 5 ฟุตครับ และมีโซฟานั่งข้าง ๆ พร้อมโต๊ะกลาง ที่เห็นทั้งหมดทางโครงการไม่ได้มีให้นะครับเค้าวางให้ดูเป็น Idea ในการตกแต่ง ไฟซ่อนตรงที่ Drop ฝ้าลงของจริงไม่เป็นแบบนี้นะครับ ฝ้าจะทึบระยะจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร หรือถ้าจะ Drop ฝ้าของจริงจะเตี้ยลงมาอีก ไฟที่ได้เป็นดาวน์ไลท์แบบสีเหลี่ยม 4 ดวง

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 70 เซนติเมตร เดินเข้ามายืมชมวิวได้ครับ

หน้าต่างได้กระจกบานใหญ่แบบเต็มบานจากพื้น และการใช้งานจริงก็ไม่อันตรายเพราะมีเฟรมตัดแบ่งสัดส่วนมาให้เพิ่มความแข็งแรงได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวว่านอนกลิ้งลงมาแล้วจะชนกระจกร่วงลงไป ซึ่งเป็นบานติดตาย 3 บาน และบานกระทุ้ง 1 บานครับ

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 1.5 เมตร เป็นระยะที่จะวางโซฟาเพิ่มไม่ได้ ต้องนั่งดูบนเตียงเท่านั้น หากนั่งดูจากโซฟาจะเป็นมุมเอียงผมว่าดูลำบากครับถ้าวางโซฟาตามห้องตัวอย่าง การวางเตียงแบบห้องตัวอย่างมุมปลายเตียงเหลือพื้นที่นิดเดียวอาจจะเดินเข้าลำบากหน่อย เพราะมีกำแพงที่ยื่นเข้ามาจากตรงระเบียงครับ

ทีวีและตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียงครับ ของจริงจะได้แค่ตู้เสื้อผ้าบานกระจก กับแอร์(ยังไม่ระบุยี่ห้อ) ชั้นวางทีวีไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ

ตู้เสื้อผ้าเปิดได้ 3 บาน เป็นแบบ Soft Close ทั้งหมด ข้างในตู้ไม่ได้ทะลุถึงกัน จะกั้นตรงส่วนที่เป็นลิ้นชักในตู้ครับ

ลิ้นชักในตู้แบบนี้ครับชั้นบนเป็นกระจกออกแบบมาให้ใส่พวกเครื่องประดับ

ลิ้นชักใต้ตู้ไว้ใส่รองเท้าครับ 

ประตูตรงระเบียงเป็นบานเลื่อนเปิดฝั่งซ้ายได้ฝั่งเดียวครับ

พื้นที่ระเบียงเล็กประมาณนี้ กว้าง 70 เซนติเมตร ยาว 1.20 เมตร วางราวตากผ้าก็เต็มแล้วครับ แนะนำให้ติดราวแบบพับได้อาจจะต้องสั่งทำครับ

ไฟตรงระเบียงอยู่ระดับเหนือศรีษะนิดเดียว ที่ติดสูงกว่านี้ไม่ได้เพราะด้านบนติดคอมแอร์ครับ

การติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์จะเป็นแบบแขวนเท่านั้น เพราะถ้าวางกับระเบียงจะไม่มีพื้นที่ให้ใช้งานเลย และทางโครงการได้ติดระแนงเพื่อบังคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้ด้วย

จากระเบียงมองกลับเข้าไปในห้อง ซ้ายมือถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นครัวซึ่งเป็นครัวเปิดเวลาทำอาหารก็จะได้กลิ่นทั้งห้อง อาจจะติดกระจกบานเลื่อนได้ครับ แต่ก็ต้องยอมเสียพื้นที่นิดหน่อย  ส่วนครัวที่เห็นในรูปได้ทั้งหมดยกเว้นตู้เย็น และเครื่องซักผ้า การหยิบของจากตำแหน่งตู้เย็นมาวางตรงส่วนเตรียมอาหารอารจะลำบากนิดนึงเพราะตู้เย็นเปิดฝั่งซ้ายมือ แต่เราลองหาซื้อตู้เย็นที่เปิดสองประตูได้ครับเพื่อแก้ปัญหา

Pantry เป็นวัสดุหินควอตซ์ครับ ผนังเป็นกระจกทำให้เช็ดทำความสะอาดง่าย ช่องวางเครื่องซักผ้า จะเป็นแบบฝาหน้า 6 kg. จะใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้วครับ ต้องระวังเรื่องความชื้นด้วยครับ หรือถ้าปกติใครจ้างซักรีดอยู่แล้วไม่ต้องซื้อมาใส่ก็ได้แล้วทำเป็นตู้เก็บของแทนครับ  ไมโครเวฟของ Franke ที่ทางโครงการมีให้เวลาใช้อาจจะลำบากสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องก้มลงไปใช้งาน

ถังขยะอยู่ใต้ Sink มีฝาปิดมาให้ด้วยครับ มีลิ้นชัก 2 ชั้น ชั้นบนแบ่งช่องให้ใส่ช้อน ซ้อม หรืออุปกรณ์ในครัว

Sinkล้างจานไซน์เล็กแบบฝังของ FRANKE ไม่มีที่พักจาน

เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิค 2 หัว ของ Franke ทำความสะอาดง่ายครับ ด้านขวามือจะเห็นเป็นกระจกของจริงเป็นปูนฉาบเรียบทาสี เสียดายที่ทางโครงการไม่ทำผนังกระจกมาให้ เพราะจะทำความสะอาดจะง่ายขึ้นแต่สามารถติดเองได้ครับ

เครื่องดูดควันของ Franke

ตู้ด้านบนได้แบบนี้ครับ เป็นบานเปิดแบบ Swing มี Soft Close มาให้ทั้งหมด ตู้ที่อยู่บนตู้เย็นจะเอื้อมหยิบของยากนิดนึงครับเนื่องจากตู้เย็นที่ยื่นออกมา สำหรับตู้เหนือเตาและที่ดูดควันจะมีพื้นที่ไม่เยอะเพราะต้องแบ่งช่องไว้ให้งานระบบเครื่องดูดควัน เลยใส่ได้แค่ขวดเล็กๆน้อยๆ

เรามาดูห้องน้ำกันบ้างครับ ประตูกระจกบานเลื่อนเปิดฝั่งซ้ายข้างเดียว สำหรับคนที่ไม่เคยชินอาจจะรู้สึก Sexy หน่อยเพราะถึงแม้จะไม่เห็นชัดเจนแต่ก็เห็นเป็นเงาลางๆ ว่าขยับตัวไปอยู่ตรงไหน เวลามีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนอาจมีเกร็งๆ ตอนเข้าห้องน้ำนะครับ

รางประตูอยู่ด้านใน และยกสูงจากพื้นมาพอสมควร ทำให้เวลาทำความสะอาดล้างห้องน้ำ น้ำจะไม่กระเด็นออกมานอกห้อง

เดินเข้าห้องน้ำมาเจอชุดอ่างล้างหน้า และกระจก ของจริงกระจกจะติดผนังไปเลยครับไม่มีไฟซ่อนมาให้

ชุดอ่างล้างหน้าของ Cristina เป็นไฟเบอร์นะครับไม่ใช่เซรามิค ซึ่งราคาระดับนี้ น่าจะใช้วัสดุที่ดูดีกว่านี้หน่อย

ฝั่งขวาของอ่างล้างหน้ามีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบของ Siemens

เดินเข้าจากประตูขวามือเป็นชุดชักโครกพร้อมสายชำระของ Kohler ครับ

พื้นที่ข้างชักโครกเหลือประมาณนี้ครับ ที่ใส่กระดาษชำระอยู่ซ้ายมือหยิบได้สะดวกครับ

ฝั่งซ้ายของอ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ส่วนอาบน้ำ ได้พื้นที่ประมาณนี้ครับมีฉากกั้นเป็นกระจก  Tempered ประตูเปิดเข้าด้านในช่วยให้น้ำที่เกาะกับประตูไม่เลอะพื้นที่ส่วนแห้งครับ ส่วนผนังห้องน้ำทั้งห้องเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้จากพื้นถึงฝ้า ทำความสะอาดง่ายดีครับ

พื้นส่วนแห้งเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนแห้งเป็นกระเบื้องผิวด้านครับ

ชุดอาบน้ำมีเป็น Rain Shower และฝักบัวของ Kohler  ก๊อกน้ำทำแยกน้ำอุ่นกับน้ำเย็นไว้แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ต้องซื้อติดเอง มีที่วางสระบู่มาให้แต่น่าจะเล็กไปนะครับ

แปลนห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร ครัวที่ได้เป็นแบบเปิด เชื่อมกับห้องนั่งเล่นปัญหาคือเวลาทำอาหารกลิ่นจะรบกวนได้แนะนำให้กั้นและทำได้ไม่ยากด้วยครับ เพราะตำแหน่งห้องแบ่งมาเป็นสัดส่วนอยู่แล้ว แค่ทำฉากกั้นตรงแนวรอยต่อของพื้นก็ได้แล้ว โต๊ะทานอาหารก็แนะนำให้หาแบบพับได้มาใช้เพราะถ้าไม่ได้ทำครัวจะได้ขยายโต๊ะไปใช้พื้นที่หน้า Pantry แทน ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีเยอะขึ้นเนื่องจากการแบ่งห้องแบบ INTERLOCK ทำให้ได้พื้นที่ส่วนนี้เพิ่มขึ้น วางทีวีได้ใหญ่ขึ้น ห้องน้ำของแบบนี้ให้มา 1 ห้องและเข้าได้ทางเดียวจากในห้องนอนเท่านั้น เวลามีเพื่อนมาเยี่ยมจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านห้องนอนเราไปครับ

เดินเข้ามาซ้ายมือเป็นโต๊ะกินข้าว ขวามือเป็นครัวติดกับครัวเป็นทางเข้าห้องนอน ตรงไปเป็นห้องนั่งเล่น และระเบียงครับ

ไฟของจริงได้ดาวน์ไลท์ 4 ดวง ไฟฮาโลเจนและพวกไฟซ่อนใต้ฝ้าไม่ได้นะครับ และฝ้าของจริงก็จะไม่ได้ Drop ให้

พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องสีครีมขนาด 60 x 60 ซม. สะดวกต่อการทำความสะอาดครับ

หน้าตาคล้ายกับห้อง Studio เลยครับแต่จะมีพื้นที่ส่วน Pantry มากกว่านิดนึง เครื่องซักผ้าห้องนี้วาง 6.5 kg ซึ่งใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนตำแหน่งวางตู้เย็นเวลาหยิบของออกจากตู้เย็นมาทำอาหารก็สะดวกครับ

แบบเดียวกับห้อง Studio เลยครับ

บัวตรงผนังเป็นหินควอตส์วัสดุเดียวกับ Pnatry แต่ผนังด้านข้างก็ยังเป็นปูนฉาบเรียบอยู่ดีเวลาทำความสะอาดก็ยากครับ

Sink ล้างจานไซน์เล็กเหมือนห้อง Studio เลย วางชามชิ้นเดียวก็เต็มแล้วครับ

ชุดตู้ด้านบนเป็นบานเปิดแบบ Swing มี Soft Close มาให้ทุกบาน

โต๊ะกินข้าวตัวนี้ไม่ได้แถมให้นะครับทางโครงการวางให้ดู หรือจะวางแบบ 4 ที่นั่งใช้โต๊ะแบบพับได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้ดีไซน์โต๊ะมีให้เลือกหลายแบบเลย ที่อิเกียก็มีครับ

มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันบ้าง กำแพงของจริงที่ได้เป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา ไม่มีตกแต่งเฟอร์อะไรให้เลย ลองสังเกตดูจะเห็นว่าห้องตัวอย่างของที่นี่ใช้กระจกงกเงาค่อนข้างเยอะ ทำให้ระยะห้องดูกว้างมากขึ้น ถ้าดูจากรูปถ่ายจะกะเกณฑ์พื้นที่จริงได้ยากหน่อยครับ ขนาดโซฟาก็วางได้เต็มที่แค่ 2 – 3ที่นั่งเท่านั้น

ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.3 เมตร สามารถติดทีวีได้ 50 นิ้วสบายๆ เลยครับ จะเห็นได้ว่าตัวห้องนั่งเล่นจะมีความกว้างมากขึ้นเนื่องจากการใช้หลักออกแบบ Interlock

มาดูตรงระเบียงกันครับ เป็นกระจกบานเลื่อนสลับ ตัวระเบียงจะมีขนาดกว้างกว่าแบบ Studio พอสมควรทำให้มีพื้นที่เหลือพอให้เดินออกไปได้

พื้นที่ระเบียงสามารถตั้งราวตากผ้าได้ครับ

ระเบียงยาวประมาณ 3.5 เมตร กว้างประมาณนี้ครับ คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนบริเวณนี้ ทางโครงการติดระแนงเพื่อบังสายตาไว้ให้ครับ

จากระเบียงมองกลับเข้าไปในห้องครับ ผนังห้องทั้งหมดเป็นฉาบปูนเรียบทาสีนะครับ ไม่ใช่ผนังกระจกแบบในห้องตัวอย่าง ส่วนที่ยื่นออกมาขวามือที่ติดกับโซฟาเป็นห้องน้ำของห้อง Studio ครับ โซฟาใช้แบบตัวแอลก็ได้แต่วางแล้วจะเต็มพื้นที่พอดี และยังช่วยป้องกันการเดินเตะ หรือสะดุดตรงมุมที่ยื่นออกมาได้ด้วยครับ ซ้ายมือจะเห็นขาวๆ เป็ยวงกบประตูห้องนอนที่อยู่ระว่างห้องนั่งเล่นกับครัว แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูมาให้ดูครับ

เดินเข้าห้องนอนมาเจอแบบนี้ ขวามือเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นหน้าต่าง ทางโครงการวางที่นอนแบบ 5 ฟุตให้ดูครับ

พื้นที่รอบเตียงยังเหลืออีกครับ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเดินเข้าออกได้สะดวกครับ

แอร์และทีวีติดอยู่ปลายเตียงครับ ระยะดูทีวีประมาณ 90 เซนติเมตร บานหน้าต่างบานใหญ่ติดตาย 3 บาน บานกระทุ้ง 1 บานครับ

อีกฝั่งของเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการมีให้ครับอยู่ติดกับห้องน้ำ เป็นตู้บานเลื่อน เป็นหน้าบานกระจก 1 บานครับ

เปิดตู้ออกมาเป็นแบบนี้ครับมีลิ้นชัก 3 ชั้น

มาต่อที่ห้องน้ำ ประตูห้องน้ำไม่ได้ติดมาให้ดูครับ เดินเข้าไปในห้องน้ำเจอแบบนี้ กระจกที่ได้จะเป็นขนาดเล็กติดผนังธรรมดา ไม่ได้ให้เต็มระยะกำแพงและซ่อนไฟแบบในห้องตัวอย่างนี้ครับบานกระจกของจริงจะติดผนังไปเลยไม่มีไฟซ่อน จริงๆราคาระดับนี้น่าจะทำมาให้เลย

ชักโครก เป็นของ Kohler ชุดอ่างล้างหน้าเป็นของ Cristina ซึ่งเป็นไฟเบอร์ ได้เหมือนกับห้อง Studio พื้นส่วนแห้งเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้

ปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบของ Siemens ทางขาวมืออ่างล้างหน้าครับ

พื้นที่ส่วนเปียกมีกระจก Tempered กั้นกับส่วนแห้ง ประตูเปิดเข้าทำให้น้ำไม่เลอะเทอะส่วนแห้งครับ พื้นที่อาบน้ำได้ประมาณนี้ครับวัสดุพื้นเป็นกระเบื้องผิวด้าน

Rain Shower เหมือนกับห้อง Studio

ฝักบัวแท่งสี่เหลี่ยม และก๊อกน้ำก็เหมือนกับห้อง Studio ครับ ต้องติดเครื่องทำน้ำอุ่นเองครับ

ที่วางสบู่เล็กเหมือนเดิมครับ

ไฟในห้องน้ำได้ดาวน์ไลท์ 2 ดวง และพัดลมระบายอากาศ

ชุดสวิทซ์ไฟ และปลั๊กไฟ เป็นของ Siemens ทั้งหมดครับ

แปลน 2 ห้องนอนครับ ขนาด 86 ตารางเมตรใหญ่สุดของที่นี่ ไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูนะครับเอาแปลนมาให้ดู จากประตูทางเข้าห้องจะเจอห้องนั่งเล่นซ้ายมือเป็นครัวครับ พื้นตรงส่วนครัวที่เป็นสีเทาเข้มๆ จะเป็นกระเบื้องครับซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาด  มีระเบียงติดกับห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นส่วนติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ห้องนอนใหญ่มุมซ้ายบนมีห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยครับ ส่วนห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกับด้านนอก สังเกตว่าห้องน้ำมีประตู 2 บานเข้าได้จากนอกห้องนอน และในห้องนอนได้  ซึ่งตอนที่ไปทำรีวิวห้องขนาด 86 ตารางเมตรขายหมดแล้ว แต่ก็เอามาให้เป็นข้อมูลไว้ด้วยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 July 2014

• Studio ชั้น 6 ห้อง A01 เนื้อที่ 24 ตร.ม. ราคา 4.12 ล้านบาท หรือ 171,836 บาท/ตร.ม.
• Studio ชั้น 17 ห้อง A04 เนื้อที่ 24 ตร.ม. ราคา 4.4 ล้านบาท หรือ 183,386 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 17 ห้อง B06 เนื้อที่ 33 ตร.ม. ราคา 6.02 ล้านบาท หรือ 182,611 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 20 ห้อง B04 เนื้อที่ 41.5 ตร.ม. ราคา 7.6 ล้านบาท หรือ 183,194 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom ชั้น 15 ห้อง C03 เนื้อที่ 54.5 ตร.ม. ราคา 9.62 ล้านบาท หรือ 176,614 บาท/ตร.ม.

• Fully Fitted
• ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• ตู้เสื้อผ้า
• เครื่องปรับอากาศ
• ไมโครเวฟ
• จอง 30,000 บาท : Studio/1Bedroom
• จอง 50,000 บาท : 2Bedroom
• ทำสัญญา 50,000 บาท : Studio/1Bedroom
• ทำสัญญา 80,000 บาท : 2Bedroom
• ดาวน์ 12.5% ผ่อนดาวน์ 25 งวด (งวดพิเศษ 2 งวด)
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาและ Promotion ต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

เจาะลึกรวบยอด

Rhythm 36-38 เป็นทำเลที่ใกล้กับ BTS ทองหล่อ มีระยะเดินประมาณ 400 เมตร เป็นทำเลฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อ โครงการตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38 สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง สภาพแวดล้อมในซอยจะเป็นพื้นที่หลายๆประเภทรวมๆกันมีทั้ง บ้านพักอาศัย คอนโด และร้านอาหาร กลางวันกับกลางคืนบรรยากาศก็จะต่างกัน ดึกๆจะคึกคักหน่อยเพราะมีร้านอาหารริมทางออกมาตั้งขายกันเยอะ ส่วนราคาที่ดินเมื่อขึ้นชื่อว่าแถวทองหล่อแล้วก็ย่อมสูงเป็นธรรมดา แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับฝั่งซอยทองหล่อครับ เพราะถ้าเทียบกับโครงการฝั่งนั้นจะมีจุดด้อยอีกข้อคือการไม่มีแหล่ง Shopping Mall ในระยะใกล้ๆ

สำหรับการใช้รถยนต์การเข้าออกตัวโครงการ ถือว่าสะดวกดีสามารถเข้าออกได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและ พระราม 4 ถ้ามาจากถนนสุขุมวิทก็เข้าได้ทั้งซอยสุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38 เพราะทาง AP ตัดที่ดินของตัวเองทำเป็นถนนสาธารณะเชื่อมทั้ง 2 ซอยเข้าด้วยกัน ถ้าจะไปโซนสาทรหรือสีลมก็เลี่ยวรถติดบนสุขุมวิทไปออกเส้นพระรามสี่ได้ และวิ่งไปขึ้นทางด่วนตรงท่าเรือคลองเตยก็ได้ ส่วนขาลงก็ลงตรงแยกกรมศุลกากรแล้วเลี้ยวเข้าพระราม 4 ได้เลย สำหรับข้อเสียคงเลี่ยงไม่พ้นเรื่องรถติดนะครับ เพราะแถวนี้เวลาติดก็ติดกันจริงจังมาก ที่จอดรถนับรวมซ้อนคันได้ประมาณ 47% ถือว่าน้อยไปหน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถเดินได้ทั้งซอย 36-38 แต่แนะนำให้เดินซอย 38 เพราะมีทางเท้าให้เดินตั้งแต่หน้าโครงการไปจนถึงสถานีเดินได้ง่ายกว่า ส่วนซอย 36 จะไม่ค่อยน่าเดินเพราะไม่มีทางเท้าให้เดินเลย และบันไดเลื่อนทางขั้นก็อยู่ฝั่งซอย 38 ด้วย อีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึงทางโครงการไม่มี Shuttle Bus มาให้ดังนั้นลูกบ้านต้องเดินอย่างเดียวหรือไม่ก็ใช้บริการพี่วินที่อยู่หน้าปากซอย ตรงนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะถ้าไป Shopping มาถือข้าวของพะรุงพรังจะนั่งรถเข้าโครงการก็ลำบากอยู่

เรื่องของวิวก็แบ่งเป็น 2 ส่วน เนื่องจากตัวอาคารเป็นรูปตัว U เลยมีวิวภายใน กับ ภายนอก Court ภายในก็จะเป็นสระว่ายน้ำ ภายนอกจะได้ City View เป็นส่วนมาก มีแค่บางทิศที่ได้วิวโล่งๆ หน่อย อย่างทิศตะวันออกและใต้เพราะเป็นที่พักอาศัยแนวราบ ฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตรงซอยสุขุมวิท 36 มีอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น ทิศเหนือเป็นวิวถนนสุขุมวิทและ BTS โดยระยะประมาณ 300 เมตร บริเวณปากซอยสุขุมวิท 36 จะมีคอนโดตั้งอยู่ติดๆกัน 3 โครงการคือ Noble Remix สูง 11 ชั้น และ 33 ชั้น, Keyne สูง 28 ชั้น, และThe Crest 28 ชั้น ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลยูนิตฝั่งที่เห็นวิวโล่งๆก็ Sold Out ไปหมดแล้วเหลือแต่ City View ทางทิศเหนือและตะวันออกครับ

คุณภาพวัสดุที่ให้มาแบบดีและไม่ดีปะปนกันไป ที่ให้มาตามาตรฐานจะมีชุดเครื่องครัว และเคาน์เตอร์ครัวใช้วัสดุท๊อปหินสังเคราะห์ เตาเซรามิค เครื่องดูดควัน แบรนด์ FRANKE สุขภัณฑ์ก็ใช้ของ KOHLER แต่ติดตรงที่ชุดอ่างล้างหน้าในห้องน้ำใช้วัสดุที่ทำจากไฟเบอร์เป็นแบรนด์ของ CRISTINA ซึ่งดูแล้วไม่เหมาะกับราคาระดับนี้ อีกเรื่องคือระยะฝ้าเพดาน ที่สูงแค่ 2.6 เมตร ถ้าเทียบกับคอนโดในระดับ 160,000 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร อาจจะเตี้ยไปนิดนึงนะครับ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Lobby และ สระว่ายน้ำจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แนวคิดการออกแบบสไตน์ญี่ปุ่นที่เอามาใช้ฃนั้น จะออกมาเป็นแบบไหน จะดูหรูหราและใช้วัสดุสามราคารึเปล่า อันนี้ต้องรอตึกเสร็จจึงสามารถบอกได้ครับ

ส่วนแบบห้องทั้งแบบ Studio และ 1 ห้องนอน จะใช้แนวคิด INTERLOCK คือดีไซน์ตัวยูนิตออกมาเป็นคู่ๆ มีรูปร่างเป็นเหมือนตัว L ประกบกัน โดยพื้นที่ส่วนที่ยื่นมาซ้อนทับกันคือห้องน้ำและห้องนั่งเล่น แทนที่จะได้หน้ากว้างที่เท่าๆกันทั้งห้อง ก็จะได้พื้นที่บางส่วนที่มีหน้ากว้างมากขึ้น สามารถใช้งานได้ดีขึ้น ห้อง Studio จะได้พื้นที่ส่วนครัวและขนาดของห้องน้ำเพิ่มขึ้น จากการยื่นห้องน้ำเข้าไปในยูนิตข้างๆ ส่วนห้อง 1Bedroom จะได้ระยะดูทีวีเพิ่มทำให้วางทีวีได้ใหญ่ขึ้น หน้าต่างในห้องทั้ง 2 แบบ ให้บานใหญ่เกือบเต็มพื้นที่กำแพงยกเว้นส่วนที่เอาไว้ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ พื้นที่ระเบียงของห้อง Studio อาจจะเล็กไปเพราะเน้นพื้นที่ในห้องมากกว่า ถ้าใครพอมีงบประมาณกัดฟันเลือกห้องแบบ 1 Bedroom จะดีกว่าเพราะแบบลงตัวกว่าใช้งานได้สะดวกกว่า

สาธารณูปโภคแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ชั้น 6 และชั้นบนสุด โดยชั้น 6 จะมีสระว่ายน้ำ ห้องซาวน่า และชั้น 25 เป็นห้องออกกำลังกาย พร้อมลานให้ทำกิจกรรมหรือจัดปาร์ตี้ถือว่าครบทุกอย่างที่เป็นสาธารณูปโภคหลัก ๆ ที่คอนโดสมัยนี้มักจะมีให้ ซึ่งถ้าทำออกมาสวย หรูหราและใช้งานได้จริงก็จะโอเคมากครับ แต่น่าเสียดายที่สระว่ายน้ำไม่ยกขึ้นไปไว้ชั้น 25 ชั้นเดียวกับห้องออกกำลังกาย  นอกจากจะไม่ได้วิวสวยๆแล้ว ลูกบ้านคนไหนอยากใช้งาน 2 อย่าง เช่นออกกำลังกายเสร็จแล้วอยากว่ายน้ำต่อก็ต้องเสียเวาลาเดินหน่อย ถ้าหากในอนาคตมีตึกสูงมาด้านสระว่ายน้ำจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความเป็นส่วนตัวลดลง

สุดท้ายคือเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคา RHYTHM 36-38 อาจจะดูยังไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไร เพราะตารางเมตรละ 170,000 ยังมีตัวเลือกให้เลือกอื่นให้พิจารณาอีกมาก เช่นโครงการที่ติดรถไฟฟ้าแต่เป็นสถานีที่ไกลออกไปอีกหน่อย หรือคอนโดมือ 2 ที่อยู่ใกล้ตัวสถานีกว่านี้ แต่ถ้าใครอยากได้คอนโดที่ติด BTS ทองหล่อเลยแต่มีงบประมาณไม่พอ โครงการนี้ก็เป็น 1 ในตัวเลือกได้ครับ เพราะโครงการที่ติดสถานีจริงๆราคาก็ขยับหนีออกไปอีกเช่นกันครับ

ส่วนเรื่อง Package นั้นต้องบอกว่า RHYTHM ทำการบ้านมาดีเหมือนกัน ตรงที่เลือกแพคเล็ก 24 ตารางเมตร ขายในราคา 4 ล้านต้นๆ ซึ่งแถวนี้คงจะหาห้องราคานี้ยากหน่อย เพื่อรองรับคนที่มีงบไม่มาก แต่ผู้ซื้อก็ต้องคิดนิดนึงนะครับว่าพื้นที่ใช้สอย 24 ตารางเมตรนั้นโอเคแล้วหรือไม่ หรือจะเลือกสถานีที่ไกลออกไปเช่น อ่อนนุช ปุณณวิถี อุดมสุข เพื่อแลกกับพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นก็ตามแต่ความชอบส่วนบุคคลละครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร, 29 July 2014

• ทำเล 7.0/10 – ทำเลดี อยู่ในโซนสงบใกล้รถไฟฟ้าทองหล่อ ห่าง 400 เมตร
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สามารถเข้าออกได้หลายทาง แต่ที่จอดรถน้อยเกินไปหน่อย
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินได้ไม่ใกล้ไม่ไกล แถมตรงซอยสุขุมวิท 38 ยังมีของขายริมทางให้เลือกซื้อ
• วัสดุ 7.0/10 – พอได้ สมราคา แต่มีบางตัวที่ดูแล้วไม่เหมาะ
• แบบ 7.5/10 – ใช้แนวคิด INTERLOCK ในการแบ่งห้อง ทำให้ห้องได้พื้นที่เพิ่มขึ้น และลงตัวดีครับ
• สาธารณูปโภค 8.0/10 – พื้นที่ส่วนกลางให้ครบที่ ชั้น 6 และ25 ถือว่าดีครับ

• LUXURY CLASS
• 7.3 / 10.00

BOTTOM LINE

RHYTHM สุขุมวิท 36-38 เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยย่านทองหล่อ แต่ชอบความสงบหลีกเลี่ยงความวุ่นวายจากตัวถนน เดินทางโดยรถยนต์บ้าง แต่ใช้ BTS เป็นหลักเป็นคนชอบเดิน มีงบประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ