โครงการ Life Ladprao Valley จาก AP เค้าเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ และเปิดตึกให้ชมในรอบสื่อกันไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมาครับ ซึ่งผมก็ไม่รอช้ารีบ Walk-in เข้าไปชมและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆมาให้ทุกคนได้ชมกัน โดยเฉพาะ “พื้นที่ส่วนกลาง” ที่เป็นจุดเด่นที่สุดของเค้า

เพราะผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงอยากเห็นว่า โครงการนี้สร้างเสร็จแล้วของจริงจะเป็นอย่างไร จะสวยเหมือนในภาพตัวอย่างที่โฆษณาไว้หรือเปล่าใช่มั้ยครับ? …ซึ่งหลังจากที่ผมได้ไปสัมผัสมาแล้วก็บอกเลยว่าสวยจริง และยังสามารถสรุปภาพรวม Highlight หรือจุดที่น่าสนใจอื่นๆของโครงการได้อีกดังนี้

  • Facilities : มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ถึง 4 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำอีก 3 สระด้วยกัน
  • Concept : โครงการมีแนวคิดการออกแบบคือ Valley + Adventure ซึ่งก็สามารถทำบรรยากาศออกมาได้ไม่ใช่แค่สวยงามร่มรื่น แต่ยังมีบริบทของความเป็นหุบเขาที่เราจะได้ผจญภัยไปกับฟังก์ชันต่างๆอีกด้วย
  • ทำเล : ห้าแยกลาดพร้าวแบบนี้ เราสามารถเดินไปห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว / BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ MRT พหลโยธินได้ ในระยะ 350 – 500 m.
  • วิว : ห้องพักส่วนใหญ่จะได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง ไม่มีตึกสูงบังในระยะประชิด (ยกเว้นห้องทิศเหนือที่จะมีเพื่อนบ้านใกล้ๆอยู่บ้าง) รวมถึงยังสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวกว่า 700 ไร่ ของสวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯได้ครับ

ข้อมูลโครงการ

Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว – แวลลีย์) ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564

 ชื่อโครงการ   Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว – แวลลีย์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนน พหลโยธิน เขต จตุจักร
 ที่ดิน  5-2-33.2 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 44 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  1,140 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  30 ยูนิต
 ที่จอดรถ  482 คัน คิดเป็น 42%
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2561
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2564
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.8 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 – 37 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.6 – 66.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.55 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  ห้อง 1 Bedroom เริ่ม 5.19 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 149,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ  https://www.apthai.com/en/condominium/life/life-ladprao-valley
 Call Center  1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.815666, 100.562973

หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Life Ladprao Valley ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ใกล้กับห้าแยกลาดพร้าวฝั่งขาเข้า ซึ่งเป็นจุดที่เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์และคึกคักที่สุด ของโซนกรุงเทพฯทางตอนเหนือก็ว่าได้ครับ สังเกตจากโดยรอบโครงการจะมีทั้งห้างสรรพสินค้า และรถไฟฟ้า 2 สายที่มา Interchange กันบริเวณนี้พอดี เลยทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกมากเลยทีเดียว โดยทั้งหมดก็ยังอยู่ในระยะที่เดินไปใช้งานได้ครับ (ประมาณ 350 – 500 m.) นอกจากนี้ยังมีแหล่งงานและอาคารสำนักงานสำคัญๆอีกเพียบ และมีทางด่วนให้ใช้อยู่ไม่ไกลอย่างทางพิเศษศรีรัช และทางยกระดับอุตราภิมุข

ตัวโครงการจะไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ซะทีเดียวนะครับ แต่ที่ดินของเค้าจะอยู่ร่นเข้ามาด้านในประมาณ 350 m. ซึ่งก็ได้ความเป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวาย รวมถึงยังสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางอีกด้วย

  1. สีแดง : เส้นทางหลักที่เข้ามาจากถนนพหลโยธิน และเป็นทางเข้า-ออกของรถยนต์ โดยด้านหน้าจะมี BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเราสามารถใช้เดินข้ามสถานีไปยังเซ็นทรัลได้อีกด้วย
  2. สีน้ำเงิน : เส้นทางนี้เข้า-ออกเฉพาะคนเดินเท่านั้นนะครับ จะมีประตูเล็กๆที่มาออกตรงซอยพหลโยธิน 22 ได้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถเดินไป Union Mall และ MRT สถานีพหลโยธินได้สะดวก

และนี่คือภาพทางเข้าด้านหน้าของถนนพหลโยธิน ซึ่งบันไดเลื่อนของรถไฟฟ้า BTS จะอยู่ด้านหน้าตรงนี้เลยครับ ถือว่าสะดวกมากๆ และเราก็สามารถใช้เพื่อข้ามฝั่งไปช้อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลได้อีกด้วยนะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบของโครงการทางทิศเหนือ จะมีคอนโดตึกสูงรุ่นพี่ตั้งอยู่ก่อนแล้วค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเค้าเลยออกแบบให้อาคารเป็นรูปตัว T และเปิดรับวิวทางทิศอื่นๆที่จะได้วิวที่เปิดโล่งมากที่สุด ซึ่งห้องทางทิศใต้ยังสามารถมองเฉียงๆไปทางตะวันตก และเห็นวิวพื้นที่สีเขียว 700 ไร่ได้อีกด้วยนะ ส่วนทิศอื่นๆสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ M Ladprao คอนโดสูง 44 ชั้น และ Life Ladprao สูง 45 – 46 ชั้น ซึ่งยังอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็มีการเว้นระยะไม่ให้ห้องพักอยู่กระชั้นชิดกับเพื่อนบ้านมากเกินไปอยู่บ้างครับ
  • ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ เป็นทิศที่หันมาทาง Union Mall และมองเห็นห้าแยกลาดพร้าวกับพื้นที่สีเขียว 700 ไร่ได้ แต่ในอนาคตอาจมีเพื่อนบ้านใหม่อย่าง The Crest Park Residence สูง 38 ชั้น ขึ้นมาบังวิวส่วนหนึ่งไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ปิดวิวสวนไปทั้งหมดหรอกครับ
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบดั้งเดิม ได้วิวที่เปิดโล่งของโซนลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ อู่ซ่อมรถและถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามคือเซ็นทรัลลาดพร้าว และมองเห็น ปตท. สำนักงานใหญ่ กับถ้าเรามองไปทางตะวันตกเฉียงใต้ก็จะเห็นพื้นที่สีเขียว 700 ไร่ได้เหมือนกันครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เซ็นทรัล ลาดพร้าว ~ 440 m. (ระยะเดิน)
  • Tesco Lotus ~ 490 m. (ระยะเดิน)
  • Union Mall ~ 500 m. (ระยะเดิน)
  • Big C Extra ~ 1.7 km.
  • Major รัชโยธิน ~ 3.3 km.
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 3.6 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนหอวัง ~ 500 m. (ระยะเดิน)
  • มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ~ 1.8 km.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 4.5 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • Facilities : เป็นโครงการที่มีส่วนกลางเยอะ และจัดเต็มที่สุดในย่านลาดพร้าว ณ ตอนนี้ก็ว่าได้ครับ โดยจะมีให้ใช้งานทั้งหมด 4 ชั้น ตั้งแต่พื้นดินไปจนถึง Roof Top และมีสระว่ายน้ำมาให้ถึง 3 สระด้วยกัน
  • Concept : แนวคิดในการออกแบบโครงการคือ Valley + Adventure ภาพรวมที่ออกมานับว่าสื่อถึง Concept โครงการได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ ฟังก์ชันส่วนกลาง และกิจกรรมที่ให้เราได้ทำภายใน เช่น พื้นที่สีเขียว ทางเดินลาดเอียง บันไดลาดชันเหมือนขึ้นเขา ทางเดินในถ้ำ และกิจกรรมปีนเขา เป็นต้น
  • การวางผังอาคาร : หากสังเกตดีๆจะเห็นว่า เค้าพยายามวาง Layout ห้องพักให้มีส่วนยื่นออกมานอกอาคาร เพื่อที่จะทำให้ห้องส่วนใหญ่เป็นลักษณะห้องมุม ได้ความเป็นส่วนตัว และชมวิวได้ดีมากขึ้น รวมถึงยังส่งผลต่อลักษณะรูปร่าง และ Facade อาคาร ที่ดูสวยแปลกตาดีอีกด้วย

สำหรับโครงการ Life Ladprao Valley เป็นคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น 1 อาคาร และมีจำนวนห้องพักอาศัย 1,140 ยูนิต และมี Concept ในการออกแบบ Valley + Adventure โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คนในเมืองที่เป็น World Explorer หรือเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว การเดินทาง ท่องโลกกว้างไปยังสถานที่ต่างๆ อาจเป็นคนที่เบื่อชีวิตและความวุ่นวายในเมือง แล้วกำลังมองหาโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางที่สนุก ตื่นเต้น และมีกิจกรรมที่ให้รู้สึกเหมือนเราได้ผจญภัยในทุกๆวันนั่นเองครับ

(ปล. จริงๆเค้ามีที่มาของแนวคิดและการดีไซน์ฟังก์ชันต่างๆด้วยนะ ว่าทำไมถึงจัดออกมาแบบนี้ได้ยังไง ไว้ถ้ามีโอกาสได้ทำ Full Review คราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟัง วันนี้เราดูเป็นภาพรวมไปก่อนเนอะว่ามีไรเจ๋งๆบ้าง)

Image 1/6
แปลนชั้น G

แปลนชั้น G

Life Ladprao Vallery : Floor G

สำหรับ Highlight ที่สะดุดตาเป็นอย่างแรกคือ Sculpture ที่อยู่บริเวณด้านหน้า Lobby และจุด Drop Off ของอาคาร ซึ่งเวลาที่เราเข้า-ออก หรือมีคนมารับ-มาส่ง ก็จะต้องได้เห็น Facade สีส้มนี้อย่างแน่นอน โดยถ้าเราเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน ก็จะเห็นเป็นลักษณะเหมือนช่องเขาที่เป็นชั้นดินหลายๆชั้นสวยงามมาก ซึ่งได้แรงบัลดาลใจมาจาก Antelope Canyon ที่รัฐ Arizona นั่นเองครับ

Image 1/6
ทางเข้าโครงการและป้อมยาม

ทางเข้าโครงการและป้อมยาม

Life Ladprao Vallery : Floor 6

ชั้นนี้ผมเรียกว่าเป็นเหมือน Oasis เล็กๆบนอาคารก็แล้วกันครับ ถือเป็นจุด Facilities ที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดเลย ด้วยลักษณะของพื้นที่สีเขียวที่เป็นเนิน มีทางเดินลาดเอียงเหมือนช่องเขา และสระว่ายน้ำที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ พร้อมกับซ่อนอยู่ข้างใต้ชั้นลอยของเนินสวนเหล่านี้เหมือนเป็นถ้ำ เลยทำให้ห้องพักอาศัยแทบจะมองไม่เห็นคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำเลยล่ะครับ

Image 1/6
นี่คือลักษณะทางเดินที่เป็นเหมือนช่องเขา พื้นจะลาดเอียงเบาๆ ให้รู้สึกเหมือนได้เดินเทรลนั่นเองครับ

นี่คือลักษณะทางเดินที่เป็นเหมือนช่องเขา พื้นจะลาดเอียงเบาๆ ให้รู้สึกเหมือนได้เดินเทรลนั่นเองครับ

Life Ladprao Vallery : Floor 44

ชั้นนี้จะเน้นเป็น Active Facilities โดยมีจุดน่าสนใจคือ Skywalk Circuit หรือสะพานเหล็กสีส้มที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งตรงจุดนี้เค้าต้องการจำลองการเดินขึ้นเขาที่มีความลาดชัน หรือเดินบนสะพานแขวนเพื่อข้ามแม่น้ำ/หุบเหวนั่นเองครับ ถือเป็นอีกจุดที่เราสามารถมาเดินออกกำลังกาย ชมสวนรอบๆ และให้ความรู้สึกเหมือนการผจญภัยได้ดีเลยทีเดียว

และอีกจุดหนึ่งที่ผมชอบไม่แพ้กันก็คือ “โถงทางเดิน” ที่ระหว่างทางจะมีลักษณะเหมือนการเดินในถ้ำมืดๆหน่อย ก่อนจะออกไปเจอการผจญภัยในโลกกว้างที่สว่างๆ และน่าตื่นเต้นด้านนอกนั่นเองครับ

Image 1/10
และนี่ก็คือภาพรวมของ Active Zone ของชั้น 44 ที่จะมี Skywalk อยู่ตรงกลาง ส่วนรอบๆก็จะมีฟังก์ชันแบบ Indoor ต่างๆกระจายอยู่ทั่ว แยกออกเป็นส่วนตัวไปเลย

และนี่ก็คือภาพรวมของ Active Zone ของชั้น 44 ที่จะมี Skywalk อยู่ตรงกลาง ส่วนรอบๆก็จะมีฟังก์ชันแบบ Indoor ต่างๆกระจายอยู่ทั่ว แยกออกเป็นส่วนตัวไปเลย

อีกด้านหนึ่งของอาคารก็มี Highlight เป็น Skylight ที่เป็นพื้นกระจกของสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้น 44 M ซึ่งนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สวยมากๆ และทำให้ผมอยากมาถ่ายภาพโครงการในวันนี้ด้วยนั่นเอง โดยลักษณะทางเดินจะเป็นเหมือนถ้ำหรือช่องเขา แล้วพอเราเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนก็จะเห็นคนกำลังว่ายน้ำ ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้มาดำน้ำและอยู่ในโลกใต้น้ำเลยครับ

Image 1/4
ทางเดินเชื่อมไปยังโซนสระว่ายน้ำจะเป็นเหมือนทางเดินริมหน้าผา ที่เราสามารถชมวิวที่เปิดโล่งข้างๆได้ตลอดทาง และมองเห็นพื้นที่สีเขียวกว่า 700 ไร่ได้อีกด้วย

ทางเดินเชื่อมไปยังโซนสระว่ายน้ำจะเป็นเหมือนทางเดินริมหน้าผา ที่เราสามารถชมวิวที่เปิดโล่งข้างๆได้ตลอดทาง และมองเห็นพื้นที่สีเขียวกว่า 700 ไร่ได้อีกด้วย

และการขึ้นไปใช้งานชั้นลอยของโครงการนี้ เราจะต้องใช้เส้นทางเดินขึ้นบันไดนี้เท่านั้น โดยลักษณะจะเป็นเหมือนช่องเขาแคบๆ ที่เรากำลังจะได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของยอดเขาแล้วนั่นเอง

Life Ladprao Vallery : Floor 44 M

แล้วเมื่อเราขึ้นบันไดมาถึงด้านบนก็จะเจอสระว่ายน้ำ และวิวสวยๆแบบนี้เป็นรางวัล เหมือนเวลาที่เราไปเที่ยวเดินป่าเดินเขานั่นแหละครับ ระหว่างทางมันอาจเหนื่อยและไม่ราบรื่น แต่ที่ปลายทางก็มีสิ่งที่คุ้มค่าเหนื่อยรอเราอยู่แน่นอน ยิ่งตอนที่ผมมาถ่ายอยู่นี้เป็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินด้วยนะ สวยสุดๆไปเลย

Image 1/4
สระว่ายน้ำหรือ Lap Pool มีความยาว 35 m. สามารถขึ้นมาว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ

สระว่ายน้ำหรือ Lap Pool มีความยาว 35 m. สามารถขึ้นมาว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ

ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนของสระว่ายน้ำชั้น 44

ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนของ Active Zone ที่ชั้น 44

ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนของ Lap Pool ที่ชั้น 44 M

ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนของห้าแยกลาดพร้าวที่มองจากสระว่ายน้ำชั้น 44 M

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น G

  • The Canyon Lobby
  • The Valley Breeze
  • Living Area
  • Meeting Room
  • Garden
  • EV Charger

ชั้น 6

  • The Avalon (Garden & Pool)

ชั้น 44

  • Skywalk Circuit
  • Theater Room
  • Sky Lounge (Alpine Lounge)
  • The Residence
  • Terrarium Library
  • Rock Canyon
  • Active Court
  • Verico GYM
  • Aqua Valley (บ่อวารีบำบัด และเครื่องออกกำลังกายในน้ำ)

ชั้น 44 M

  • Lap Pool ระบบเกลือ ยาว 35 m. (Grand Vallery Bay )

 

  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 190 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 482 คันคิดเป็น 42%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Face Scan / RFID

 

แบบห้อง

โครงการนี้มีแบบห้องค่อนข้างหลากหลายเลยนะครับ แต่หลักๆจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 Type คือ

  • Studio ขนาด 28.8 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 35 – 37 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 48.6 – 66.5 ตร.ม.

และทั้งหมดจะขายแบบ Fully Fitted คือให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วนได้แก่ เคาน์เตอร์ครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ โดยห้องตัวอย่างที่เราจะได้ชมวันนี้จะเป็น 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. จำนวน 2 ห้อง จะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมกันเลยครับ

ห้องแบบแรกจะมีจุดเด่นคือ “ห้องนอนที่ยื่นออกไปด้านนอก” ทำให้เกิดเป็นลักษณะคล้ายห้องมุม ได้ช่องหน้าต่างแบบ Bay Window ที่เราจะสามารถชมวิวรอบๆได้ดีมากขึ้น และมีจุดที่น่าสนใจอีกจุดนึงก็คือ “การแบ่งฟังก์ชันตรงกลางห้อง” ซึ่งเค้าจะกั้นแยกทุกฟังก์ชันออกจากกันด้วยผนังกระจกเป็นสัดส่วนชัดเจนมาก

โดยนอกจากจะมีห้องนั่งเล่นตรงกลางแล้ว ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่จะสามารถจัดเป็นห้องอื่นๆตาม Lifestyle ของเราได้ จนอาจเรียกได้ว่านี่เป็นกึ่งๆห้อง 1 Bedroom Plus ก็ได้ครับ ส่วนห้องน้ำและครัวปิดก็จะอยู่ด้านหน้าห้องเป็นมาตรฐาน สามารถทำครัวได้จริงจังอยู่นะ

และนี่คือมุม Highlight ของผนังกระจกเข้ามุม Bay Window ของห้องนอนที่ยื่นออกมา ทำให้ชมวิวได้ดีขึ้น และบรรยากาศเหมือนได้อยู่ห้องมุมเลยครับ ส่วนบรรยากาศห้องอื่นๆ สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลย

Image 1/7

ห้องตัวอย่างที่ 2 ถึงแม้จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องแรก แต่ภายในเค้ามีการจัดฟังก์ชันที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เลยทำให้เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตไม่เหมือนกันครับ

ซึ่งห้องนี้เราจะได้ “Common Area” ที่มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่งมากขึ้น โดยแลกกับเราจะได้ครัวเปิด ที่เวลาประกอบอาหารอาจต้องคำนึงเรื่องกลิ่นสักนิดนึง ส่วน “ห้องนอน” ก็จะกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไปเป็นส่วนตัวมากๆ ซึ่งเรายังสามารถใช้งานห้องน้ำได้สะดวก เพราะเข้า-ออกได้ 2 ทาง และนอกจากนี้เค้ายังให้ความสำคัญกับ “ห้องนั่งเล่น” ที่จะเป็นส่วนยื่นออกไปและอยู่ติดกับหน้าต่าง จึงเหมาะกับคนที่ชอบดูทีวีไปและชมวิวไปด้วย หรือชอบใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้บ่อยๆ และต้องการความเป็นส่วนตัวของห้องนอนที่มากขึ้นครับ

และนี่คือภาพบรรยากาศจุดเด่นของห้องนี้ ที่จะเห็นได้ทั้งความโปร่งโล่งของ Common Area และความเป็นส่วนตัวของห้องนอนที่แยกออกไปครับ ส่วนบรรยากาศอื่นๆก็คลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลย

Image 1/5

ราคา

Life Ladprao Valley ราคา ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564

  • 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร
  • Studio และ 1 Bedroom จอง 50,000 บาท และ 2 Bedrooms จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญาฟรี
  • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

สำหรับใครที่มองหาคอนโดในย่านลาดพร้าว

ปัจจุบันจะมีตัวเลือกทั้งหมด 4 โครงการด้วยกันครับ โดยแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

  • The Line Phahonyothin Park : เป็นโครงการที่มีราคามือ 1 จับต้องได้ง่ายที่สุดในย่าน ณ ตอนนี้เลยครับ ด้วยราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ประมาณ 105,000 บาท แถมยังขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ได้เลยอีกด้วย โดยมีสิ่งแลกมาคือ มีระยะห่างจากห้างสรรพสินค้าและรถไฟฟ้าที่มากกว่าเพื่อนบ้านอื่นๆพอสมควรครับ
  • Life Ladprao : โครงการรุ่นพี่ของ AP ที่มาบุกเบิกทำเลนี้เอาไว้ ตอนนี้ขายไปกว่า 90% แล้วนะครับ มีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ดีมากๆ พอเราออกมาจากโครงการตรงบริเวณถนนใหญ่ ซ้ายมือคือ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ฝั่งตรงข้ามคือ Central และขวามือคือ Tesco Lotus ข้อเสียเปรียบเพื่อนบ้านเล็กๆน้อยๆก็คือ เค้าเป็นโครงการที่มียูนิตเยอะที่สุดนั่นเอง
  • Life Ladprao Valley : โครงการนี้โดดเด่นเรื่อง Facilities มากที่สุดในย่านตอนนี้ก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีส่วนกลางมากถึง 4 ชั้น 3 สระว่ายน้ำแล้ว ยังออกแบบได้ถึง concept ความเป็นหุบเขาและการผจญภัยได้ดีมากๆ แถมยังสามารถมองเห็นวิวสวน 700 ไร่ได้อีกด้วย แน่นอนว่าราคาก็สมน้ำสมเนื้อพอสมควรครับ และสิ่งที่ต้องแลกมาอีกอย่างคือ ทำเลที่ถอยร่นเข้ามาจากถนนใหญ่ ทำให้การไปใช้รถไฟฟ้าหรือห้างสรรพสินค้า ก็จะมีระยะเดินได้ประมาณ 350 – 500 m.
  • The Crest Park Residences : โครงการใหม่ล่าสุดที่มาเปิดในย่านนี้ และยังเป็นแบรนด์คอนโดสูงสุดของ SC ASEET อีกด้วย แน่นอนว่าราคาของเค้าค่อนข้างสูง แต่สเป็ควัสดุภายในห้องก็จัดมาให้ดีที่สุดในย่านด้วยเช่นกันครับ นอกจากนี้เค้ายังเป็นโครงการที่อยู่ใกล้ MRT มากที่สุด แถมอยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวที่สุดด้วย เท่ากับว่าเค้าจะไม่โดนบังวิวสวน 700 ไร่ และแสงไฟตอนกลางคืนสวยๆของห้าแยกลาดพร้าวเลยนั่นเอง (ปล.ปัจจุบันข้อมูลบางส่วนยังไม่เป็นทางการ แต่ผมเคย walk-in เข้าไปชมมาแล้ว ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง รอข้อมูลอัพเดตจากโครงการอีกครั้งนะครับ)

สำหรับใครกำลังมองหาโครงการที่มีการออกแบบสไตล์หุบเขา

อันนี้ผมแถมให้นะ… คือการออกแบบสไตล์นี้ เท่าที่ผมรู้จะมีอีกโครงการหนึ่งคือ Ideo Mobi Eastpoint ที่อยู่ใกล้กับ BTS บางนา โดดเด่นในเรื่องการเชื่อมต่อโพเดี้ยมชั้นล่าง เลยทำให้พื้นที่ส่วนกลางสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกัน และกลายเป็นชั้นที่มีขนาดใหญ่มากๆ สวนกับสระว่ายน้ำก็จะมีการเล่นระดับ มีที่นั่งเป็นเหมือนถ้ำใต้สระว่ายน้ำ แถมตัวตึกยังออกแบบเป็นลักษณะคล้ายกับภูเขาอีกด้วย

โดยเค้าจะเป็นโครงการที่อยู่กันคนละทำเลกัน ความอุดมสมบูรณ์ก็จะน้อยกว่าแถวลาดพร้าว แต่ราคาก็จะย่อมเยาว์กว่าเช่นกัน เริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท (หรือประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.) ซึ่งผมก็นำข้อมูลมาฝาก เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชอบโครงการสไตล์แบบนี้นะครับ

Life Ladprao Valley เหมาะกับใคร

Life Ladprao Valley เหมาะกับคนที่กำลังหาคอนโดย่านลาดพร้าว ที่เดินไปห้างและรถไฟฟ้าได้ ตัวโครงการมีแนวคิดและส่วนกลางที่โดดเด่นชัดเจน เป็นสไตล์หุบเขาและการผจญภัย อาจเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ ชอบใกล้ชิดธรรมชาติ การผจญภัยในส่วนกลางที่สนุกๆ และมองเห็นวิวพื้นที่สีเขียว 700 ไร่ได้สวยมากๆ หรืออาจเป็นคนที่ชอบว่ายน้ำ ซึ่งก็จัดมาให้ถึง 3 สระเลยทีเดียว ส่วนตัวห้องก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานได้ดี มีงบประมาณระดับ 5.19 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 36,000 บาท/เดือนขึ้นไป


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc