รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.168 – รีวิวคอนโด Haven Luxe อินทามระ 4

1 พฤศจิกายน 2015

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 947 วันนี้เราจะพาไปอัพเดตคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่กับโครงการ Haven Luxe คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้นในซอยอินทามระ 4 ใกล้แยกสะพานควาย 650 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้าสถานีสะพานควายอยู่ประมาณ 1 กิโลเมตร โครงการออกแบบและการตกแต่งในสไตล์ Italian มาพร้อมกับวัสดุและฟังก์ชันที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากคอนโด Low Rise ทั่วไปพอสมควร ไปชมกันเลยค่ะ 🙂

โครงการนี้ คุณบีมเคยได้ทำรีวิวไว้แล้วนะคะตอนสมัยเปิดตัวไม่นาน หากอยากย้อนกลับไปอ่านก็ (คลิกที่นี่) ค่ะ

Fact @ 09 October 2015 

  • Haven Luxe (ฮาเว่น ลุคซ์)
  • Reve Estate (บริษัท รีฟ เอสเตท จำกัด)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พญาไท
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 133 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 18 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 66 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 70%
  • ที่ดินประมาณ 0-3-68 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  กุมภาพันธ์ 2556
  • แล้วเสร็จ : 2558
  • 1 Bedroom 34 – 50.82 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรในปัจจุบัน 105,000 – 111,000 บาทต่อตารางเมตร
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆรถไฟฟ้า ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานควาย
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 090-553-3133, 02-616-6855

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.788330, 100.552992

Haven Luxe อยู่ในซอยอินทามระ 4 บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย ห่างจากแยกสะพานควายประมาณ 650 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดอยู่ประมาณ 1 กิโลเมตร

ทำเลของโครงการ Haven Luxe อยู่ในย่านสะพานควาย ถือที่เป็นทำเลที่เริ่มจะมีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมเยอะมากขึ้น หลังจากที่ซอยอารีย์แทบจะไม่มีที่ดินให้ทำแล้วนะคะ อย่างไรก็ดี ภาพรวมของทำเลย่านนี้ จะเต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ติดถนน ซึ่งเป็นทำเลค้าขายดั้งเดิมทางฝั่งประดิพัทธ์ ส่วนฝั่งอินทามระ (สุทธิสารวินิจฉัย) จะมีซอยย่อยมากมาย กระจายเชื่อมกับถนนวิภาวดี และ พหลโยธิน ซึ่งจะเต็มไปด้วยบ้านพัก อพาร์ทเมนท์ และคอนโดมิเนียม เป็นชุมชุนพักอาศัยเก่าแก่ที่ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ก่อนแล้วค่ะ ซึ่งทำให้ในย่านนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีคนอยู่เยอะ จึงเห็นร้านค้า ร้านอาหาร และมินิมาร์ท กระจายอยู่แทบจะทุกปากซอย

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน เพราะซอยเชื่อมกับถนนหลักเส้นใหญ่อย่าง พหลโยธิน และถนนวิภาวดี มีจุดขึ้นลงทางด่วนไม่ไกล ทำให้มีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นต่างๆ ได้ง่าย สามารถข้ามไปฝั่งธนฯ โดยวิ่งเข้าถนนประดิพัทธิ์ วิ่งตัดเข้าถนนสามเสน แล้วข้ามสะพานซังฮี้ ส่วนถนนพหลโยธินสามารถตรงไปอนุสาวรีย์ชัย หรือวนรถไปทางห้าแยกลาดพร้าวได้เช่นกันค่ะ แต่ในบางช่วงเวลา ก็จะรถเยอะและค่อนข้างติดนะคะ

ในส่วนของถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งเป็นถนนทางเข้าโครงการนั้นสามารถทะลุออกถนนวิภาวดีรังสิตและถนนรัชดาภิเษกได้ ถนนเส้นนี้เป็นถนน 3 เลน ที่การจราจรจะคับคั่งเป็นช่วงๆ มีการเปลี่ยนเลนให้วิ่งสวนกัน ไป 2 กลับ 1 ในช่วงเวลาเช้าเย็นที่ต่างกัน อย่างถ้าเป็นช่วงเช้าถึงกลางวัน เขาอยากจะระบายรถจากพหลโยธินไปออกวิภาวดี ก็จะไปวิภาวดีได้สองเลน ไปพหลโยธินได้เลนเดียว แต่พอเป็นกลางคืนก็จะสลับกัน ซึ่งปัจจุบันคือจากแยกสุทธิสารห้ามเลี้ยวซ้ายในวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 14.00 – 22.00 น. โดยประมาณค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ทั้งด้านอุปโภคและบริโภคในย่านนี้ค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เพราะมีร้านค้าขายอาหารตามริมฟุตบาท ร้านอาหารใต้อาคาร และซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Big C หรือจะไปไกลอีกหน่อยก็มีตลาดขายของสดคุณภาพอย่าง อตก. เลยจากสะพานควายไปแถบอารีย์ก็มี Community Mall อย่าง La Villa Market รวมไปถึงร้านอาหารชิคๆ เด็ดๆ ในซอยอารีย์อีกเพียบ ส่วนอีกฝั่งในย่านลาดพร้าวก็มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall รวมไปถึงตลาดนัดจตุจักร สำหรับสาวๆ นักช็อปให้เดินกันขาลากกันไปเลย สำหรับสถานพยาบาลนั้นที่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คือ โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล ค่ะ

ส่วนภายในถนนสุทธิสารวินิจฉัยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่สองฝั่งถนน มีร้านอาหารและร้านค้าอื่นๆเรียงราย รวมทั้งในตอนกลางคืนก็มีสถานบันเทิง คาราโอเกะตามริมถนนลูกค้าที่มาเที่ยวแถวนี้ก็จะเป็นระดับกลางถึงล่างเสียส่วนใหญ่ อาจจะดูอันตรายไปหน่อยถ้าจะเดินจากสถานีรถไฟฟ้ามายังโครงการในช่วงกลางคืนนะคะ แต่กลางวันนี่เดินสบายค่ะ

การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะนั้นก็ถือว่าสะดวกพอสมควร เพราะมีรถไฟฟ้าสถานีสะพานควายที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าเดินไกลไปสักหน่อย แต่ก็มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ตลอด ส่วนของป้ายรถเมล์ที่วิ่งเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยก็มีค่อนข้างถี่ และบริเวณถนนพหลโยธินก็มีรถตู้ให้เลือกเดินทางหลายสาย รวมทั้งทำเลก็อยู่ไม่ห่างจากอนุเสาวรีย์ชัยฯ ประมาณ 3.5 กิโลเมตร ที่จุดต่อรถขนาดใหญ่ของกรุงเทพค่ะ

สำหรับการเข้าถึงโครงการจากถนนพหลโยธินนั้นสามารถเข้าได้หลายซอยด้วยกัน

  • A วิ่งเข้าจากซอยพหลโยธิน 18
  • B เข้าทางหลัง Big C สะพานควายแล้วทะลุเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัย
  • C วิ่งเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยเลย จากแยกสะพานควาย
  • D วิ่งเข้าซอยพหลโยธิน 14

โดยวันนี้การเดินทางของเราจะเริ่มต้นจากสถานีสะพานควายแล้วเดินตามริมฟุตบาทถนนพหลโยธินดูบรรยากาศรอบข้าง ผ่านแยกสะพานควายแล้วเดินเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัย (เส้นสีม่วง) จากนั้นเดินมาเรื่อยๆจนถึงซอยอินทามระ 4 เดินเข้าซอยไปอีกประมาณ 70 เมตร ก็ถึงโครงการ เดินตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ ^^

จากสถานีสะพานควาย เดินออกที่ทางออก 2

เดินลงจากสถานีจะเห็นหมู่มวลผู้คนพนักงานออฟฟิศ และคนแถบนี้เดินกันพลุ่กพล่านทีเดียวค่ะ บริเวณนี้เป็นที่จอดรถรับ – ส่งผู้โดยสารของ Taxi, ตุ๊กตุ๊ก และวินมอเตอร์ไซต์ด้วย

เดินตรงมาอีกหน่อยเจอกับโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด

ถัดจากโรงพยาบาลก็เป็น Big C Supermarket เป็นแหล่งพึ่งพิงทั้งของกินและของใช้ของคนในละแวกนี้ นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหารและของจุกจิกตามข้างทางตลอดทางถนน

บริเวณทางออกของ Big C จะมีจุดจอดรถรับ – ส่ง อีกที่นึงของพี่ตุ๊กตุ๊ก และทางนี้สามารถเดินไปทะลุเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้ด้วยนะคะ แต่แนะนำให้เดินลัดในเวลากลางวันนะ เพราะช่วงกลางคืนอาจจะเปลี่ยวและดูอันตรายไปหน่อยค่ะ ^^

ริมทางฟุตบาทมีระยะให้เดินพอสมควร ด้านข้างเป็นอาคารพาณิชย์ที่ด้านล่างเปิดขายของต่างๆ

เดินมาถึงสี่แยกสะพานควายแล้วค่ะ ระยะห่างจากสถานีคือ 400 เมตรกว่า ก็อย่างที่รู้กันค่ะว่าแยกนี้ก็เป็นแยกรถติดอีกแยกหนึ่งของถนนพหลโยธิน แต่ก็นับว่าเป็นแยกที่ระบายรถค่อนข้างเร็วอยู่นะคะ ช่วงสายๆ ก็วิ่งได้คล่องอยู่ แต่จะมีบนถนนสุทธิสารค่ะที่รถติดหน่อย อาจจะเป็นเพราะถนนเล็กๆ ด้วย

เดินขึ้นสะพานลอยข้ามแยกสะพานควายกันค่ะ

ลงสะพานลอยมาก็เจอกับถนนสุทธิสารวินิจฉัยทางซ้ายมือ

ภายในถนนสุทธิสารวินิจฉัยนี้เป็นถนน 3 เลนขนาดเล็กๆ ถึงจะมี 3 เลนก็จริงนะแต่มีรถจอดกันเรียงรายทั้งสองฝั่งถนนเลย ทำให้การเดินรถจริงๆเดินได้เพียงเลนเดียว

สภาพตึกราบ้านช่องภายในถนนนี้ส่วนใหญ่เป็นอาคารตึกแถว 2 ชั้นเก่าแก่ มีบางอาคารเปิดเป็นร้านค้าขายของบ้าง สภาพบรรยากาศเวลาช่วงบ่ายๆ จะค่อนข้างเงียบไม่พลุ่กพล่าน

ทางฟุตบาทพอมีระยะให้เดินได้ และทางเดินเรียบร้อยดี ไม่มีการวางของขายเกินหน้าร้านออกมา

มีร้านอาหารตามข้างทางเรื่อยๆ ร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ และมีหมูสะเต๊ะขาย หอมฉุยเชียวค่ะ

เดินมาจนถึงทางสามแยก ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปเชื่อมกับถนนสาลีรัฐวิภาค สามารถออกไปเจอกับแยกสะพานควาย หรือทะลุเข้าด้านหลัง Big C ได้ค่ะ

ซอยอินทามระ 3 หน้าซอยเป็นโรงเเรมสุชาดา พาเลซ ภายในซอยนี้สามารถทะลุออกหลัง Big C และโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียลได้

เดินถัดมาก่อนจะถึงซอยอินทามระ 4 ก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ร้านใหญ่หน่อย 2 ห้องแถว ที่ขายทั้งก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ข้าวต้มโต้รุ่ง เปิด 24 ชม. ด้วยนะ ดึกๆก็มาฝากท้องกันได้นะคะ

หน้าปากซอยอินทรามาระ 4 เป็นปั๊มน้ำมัน Esso ด้านในมี B – Quik

อีกด้านนึงของปั๊มเป็น 7-11 เป็นอีกแหล่งพักพิงชั้นยอดในช่วงเวลาหิวแบบเร่งด่วน อิอิ

บริเวณหน้าปากซอยเป็นอาคารพาณิชย์และร้านค้าขายอาหารตามริมฟุตบาท

เดินตรงเข้าไปอีกประมาณ 70 เมตร จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทโดยรอบโครงการทางทิศเหนือเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 3 ชั้น ส่วนทางทิศตะวันออกติดกับโครงการ Haven พหลโยธิน ที่มีความสูงเท่าๆ กันคือ 8 ชั้น สำหรับห้องพักทางทิศนี้ก็จะถูกบังวิวไป ทางทิศใต้ติดกับสำนักงานโรงพิมที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง และสำหรับทิศตะวันตกจะปะทะกับคอนโด Atrium สูง 8 ชั้น, ฟรีเวย์ อพาร์ทเม้นท์ สูง 6 ชั้น, P&P Residence สูง 5 ชั้น และคอนโด Socio ที่มีความสูง 8 ชั้น ดังนั้นทางทิศนี้เรียกได้ว่าถูกอาคารสูงเท่าๆ กันบังวิวกันหมด ดังนั้นทิศที่วิวดี หรือไม่ถูกบังวิวมากที่สุดก็คือทิศเหนือค่ะ

ทางทิศเหนือจะเห็นวิวเมืองชัดเจน ด้านข้างมีคอนโด Sense พหลโยธิน ที่มีระยะไม่ได้บดบังทัศนียภาพค่ะ

ทางด้านทิศตะวันตกและตะวันออกจะค่อนข้างเบียดและถูกคอนโดข้างเคียงบล็อกวิว ทั้ง Socio, Atrium ที่อยู่ด้านทิศตะวันตก และ Haven พหลโยธิน โครงการเพื่อนบ้านที่อยู่ด้านทิศตะวันออกค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล ~600 เมตร
  • Big C Supercenter ~600 เมตร
  • La Villa อารีย์  ~1.7 กม.
  • ตลาดนัดสวนจตุจักร  ~2.2 กม.
  • โรงพยาบาลพญาไท 2  ~3.5 กม.
  • ยูเนี่ยนมอลล์  ~4.6 กม.
  • อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  ~3.8 กม.
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว  ~4.0 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Haven Luxe เป็นคอนโดที่ออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปของ Modern Classic แบบอิตาลี ด้วยโทนสีขาว – เทา เน้นวัสดุดีเทลเป็นเหล็กดัด อย่างระเบียงเหล็กดัดสไตล์เรอเนซองส์ ทำให้อาคารมีรูปลักษณ์ให้กลิ่นอายของความเป็นตะวันตกและความเป็น Modern ออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน ตัวโครงการแม้จะเป็นโครงการ Low Rise เล็กๆ แต่มีดีเทลค่อนข้างมากนะคะ จะพยายามเก็บรายละเอียดมาเล่าให้ฟังให้มากที่สุดค่ะ

ก่อนจะเข้าโครงการ จะขอพาไปเดินรอบๆ ก่อนนะคะ ในส่วนของรั้วรอบโครงการนั้นจะเห็นว่าโครงสร้างด้านล่างเป็นคอนกรีตยกสูงขึ้นมาค่อนข้างสูงเพื่อบังสายตาจากคนเดินและรถที่ขับผ่าน ในส่วนของบริเวณรั้วโปร่งนั้นโครงการได้ปลูกไม้พุ่มเพิ่มด้านในและยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ รั้วต้นไม้ก็จะยิ่งโตสูงขึ้นช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านภายในโครงการมากขึ้นด้วย

เดินมาในซอยเล็กๆ ที่เป็นทางเข้าของโครงการรุ่นพี่ “Haven พหลโยธิน” เพื่อดูด้านข้างอีกด้านของโครงการกันค่ะ

ด้านนี้จะเห็นรูปลักษณ์ของโครงการในส่วนของดีเทลอาคารค่อนข้างชัดเจนกว่านะ จะสังเกตุเห็นว่าหน้าต่างของโครงการนั้นเป็นหน้าต่างแบบแคบสูงที่มีความยาวไปสุดพื้นห้องเลย ตัวหน้าต่างที่แคบยาวนี้ช่วยเพิ่มความแกรนด์และเป็นตะวันตกมากขึ้น ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากโครงการโดยทั่วๆไปนะคะ เมื่อหน้าต่างมีความยาวถึงพื้นห้องแบบนี้เปิดหน้าต่างออกมาก็อาจจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นทางโครงการจึงเพิ่มเติมในส่วนของรั้วเหล็กดัดสไตล์อิตาลีเพื่อป้องกันอันตรายและยังได้รูปลักษณ์ที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

ผ้าใบทางด้านซ้ายที่มีสีแดงสลับขาวสดใสนั้นเป็นกันสาดแบบอัตโนมัติค่ะ อย่างในเวลาฝนตกนั้นกันสาดก็จะกางออกมาปิดไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าบริเวณทางเดินในอาคาร (จะมีการติดตั้งระบบในภายหลัง) และด้านขวาที่มีลาย paint ท้องฟ้านั้นเป็นผนังสำหรับปลูกไม้เลื้อย (Verticle Garden) เป็นสวนแนวตั้งสไตล์ Classic ลองจินตนาการว่าต้นไม้เลื้อยเต็มผนังเห็นผนังท้องฟ้า จะเหมือนกับไม้เลื้อยไปจนถึงท้องฟ้า เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูชัดๆ กันอีกทีนะคะ

โครงการ Haven Luxe มีทั้งหมด 10 ชั้น คือชั้นใต้ดินสำหรับเป็นที่จอดรถ 2 ชั้น และชั้นบนดิน 8 ชั้น มีที่จอดรถใต้ดินทั้งหมด 66 คัน หรือประมาณ 50% ของจำนวนยูนิต และสามารถจอดซ้อนคันเพิ่มได้อีก 27 คัน จึงเป็น 70% เมื่อรวมจอดซ้อนคัน ถือว่ามีพื้นที่จอดรถค่อนข้างมากหากเทียบกับโครงการใน Segment เดียวกันนะคะ และความหนาแน่นของโครงการจัดอยู่ในระดับที่ไม่หนาแน่นมากนัก ด้วยอัตราส่วนของลิฟต์ที่ 66.5 :1

การจัดวางฟังก์ชันออกมาค่อนข้างลงตัว โดยวางตำแหน่งของ Lobby และโถงลิฟต์โดยสารอยู่ตรงกลางเพื่อแจกคนให้เดินออกเป็นสามส่วน คือห้องพักด้านขวา พื้นที่ส่วนกลาง (Fitness, สระว่ายน้ำ) ตรงกลาง และห้องพักด้านซ้าย ซึ่งทำให้การสัญจรในอาคารสะดวกและเป็นสัดส่วนอย่างเช่น ลูกบ้านไม่ต้องเดินไกลมากนักและไม่ต้องเดินผ่านห้องพักหลายๆ ห้อง ที่จะทำให้เกิดความไม่เป็นส่วนตัวให้กับห้องพักอื่นๆได้

สำหรับห้องพักอาศัยในชั้น 1 นั้นจะมีทางเดิน (Corridor) ส่วนตัว โดยต้องใช้บัตรสแกนในการเข้า – ออก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวได้มาก ดูจากจำนวนยูนิตที่อยู่ในทางเดินส่วนตัวแล้วอาจจะส่วนตัวและปลอดภัยกว่ายูนิตชั้นบนด้วยนะ

หน้าทางเข้าโครงการยกระดับสูงจากถนนขึ้นมา พื้นถนนภายในโครงการทำเป็นคอนกรีตสแตมพ์ ให้ดูเหมือนถนนทางเดินแถบยุโรป ด้านขวาเป็นป้อมยาม

การเข้า – ออกโครงการเป็นแบบ Key Card Access ระยะใกล้ พร้อมระบบปิด – เปิดด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ และรถของลูกบ้านจะต้องติด Sticker หน้ารถทุกคันด้วยนะคะ เพื่อเพิ่มระบบความปลอดภัยเพิ่มอีกขั้นนึง

บริเวณทางลงที่จอดรถมีไฟตามขอบทางถนนและช่องแสงด้านขวาจะดึงแสงลงไปถึงชั้นใต้ดินเพราะเค้าเจาะซุ้มผนังโค้งให้เป็นช่องแสงด้วยค่ะ พื้นทางลงที่จอดรถเป็นพื้นถนนแบบเซาะร่องถี่

ซูมมาใกล้ๆ ที่พื้นถนนแบบทางลาดจะค่อนข้างแปลกตากว่าทางลาดปกติที่เรามักจะทำแบบก้างปลา (เซาะร่องห่างๆ) ซึ่งการเซาะร่องแบบในโครงการนี้จะช่วยให้ยางรถเกาะได้ดีขึ้น ไม่ลื่น รวมทั้งร่องที่ถี่ๆ นี้ยังช่วยในการระบายน้ำที่ขังให้ไหลไปตามร่องกลางและระบายสู่ท่อระบายน้ำด้านล่างได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ทางโครงการใช้ช่างจากอิตาลีมาทำงานส่วนพื้นบางส่วน และพวกงานรายละเอียดต่างๆค่ะ ซึ่งหากดูละเอียดๆ จะเห็นความแตกต่างทั้งรูปแบบและฝีมือช่างที่ต่างกันค่ะ

บนเพดานตกแต่งเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยการเจาะช่องว่างใส่ไฟดวงเล็กๆ ให้เหมือนดวงดาว และด้านข้างติดไฟ LED สีฟ้า สวยงาม (จะเห็นชัดมากตอนกลางคืน)

บริเวณทางเข้าสู่ Lobby จะมีพื้นที่ต้อนรับสำหรับนั่งคอย ทางซ้ายเป็นบันไดหนีไฟ ก่อนจะตรงเข้าไปสู่ Lobby และขั้นบันไดปูด้วยแผ่นหินหนาประมาณ 5 เซนติเมตร ดูแข็งแรงใช้งานทนทาน รวมทั้งยังมีไฟซ่อนด้านล่างให้เห็นขั้นบันไดชัดเจนมากขึ้นและดูสวยงาม เนื่องจากไม่มีจมูกบันไดแปะให้เห็นขั้นชัดเจน

บันไดหนีไฟแบบกระจกนิรภัยซึ่งนอกจากจะใช้ในการหนีไฟแล้วยังสามารถใช้เป็นบันไดหลักในการขึ้น – ลง ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ติดเครื่องสแกนบัตรไว้ให้เรียบร้อย ชุดกระจกพร้อมกรอบนี้ เป็นชุดกระจกพิเศษนำเข้าจากเยอรมัน ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงมาก สามารถทนไฟได้และมีความแข็งแรงสูงตามมาตรฐานยุโรป (เค้าติด spec ของกระจกชุดนี้ไว้ด้านข้างกระจกค่ะลองอ่านดูได้)

ภายใน Lobby เป็นแบบ Semi – Outdoor คืออยู่ในที่ร่มแต่ไม่ได้ติดแอร์ เนื่องจากเปิดพื้นที่โล่งไว้แล้วสองด้านทำให้มีลมโกรกตลอดเวลา ด้านขวาเป็นส่วนของ Mail Box ถัดไปเป็นห้องน้ำ ในส่วนของด้านหน้าเป็นส่วนของ fitness และสระว่ายน้ำค่ะ

เงยหน้าขึ้นไปด้านบน Lobby เป็นหลังคาเป็นแบบ Sky Light คือช่องแสงบริเวณโถงทางเดินในแต่ละชั้น ทำให้มีแสงสว่างธรรมชาติส่องทั่วถึงทางเดินจนลงมาถึง Lobby และไม่ต้องกลัวเปียกฝนด้วยนะ

ในส่วนของทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ทางด้านซ้าย และทางด้านขวาเป็นทางเข้าในห้องพักของชั้น 1 โดยจะมีเครื่องสแกนก่อนเข้าบริเวณทางเดิน

ห้องน้ำแยกชาย – หญิง อย่างละห้อง ดีเทลของห้องน้ำนี้คือ อ่างล้างมือแบบใช้เท้าเหยียบด้านล่างเหมือนอย่างในภาพ ข้อดีคือมือสะอาดไม่มีสิ่งสกปรกติดมือมาอีกหากต้องหมุนปิดหัวก็อกเมื่อใช้เสร็จค่ะ ไม่ต้องกลัวคนลืมปิดน้ำด้วย

ห้องน้ำผู้ชายก็ใช้อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์แบบเดียวกัน

ฝั่งพื้นที่ส่วนกลางด้านซ้ายเป็นส่วนห้อง Fitness และด้านขวาเป็นสระว่ายน้ำ

ทางเดินเป็นหินอ่อนแผ่นหนา ด้านล่างเป็นน้ำที่ไหลล้นมาจากสระว่ายน้ำ ถึงเป็นพื้นที่เล็กๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีทีเดียวค่ะ

ทางเดินเป็นหินอ่อนลวดลายสวยงามตามสไตล์อิตาลี แต่อาจจะลำบากในการใช้งานไปสักหน่อยนะคะ เพราะอาจจะลื่นได้ง่ายกว่าพื้นทรายล้างปกติ และยิ่งเวลาว่ายน้ำเสร็จตัวเปียกๆ นี่ยิ่งต้องเดินระมัดระวังมากขึ้นนะ ส่วนด้านข้างทางโครงการปลูกเป็นสวนทึบไว้เพราะติดกับพื้นที่จอดรถของโครงการ Haven พหลโยธิน การปลูกไม้ทึบแบบนี้ก็ช่วยบังสายตาได้ดีเลยค่ะ

Shower อาบน้ำก็เป็นหินอ่อนทั้งแผ่นเลย

สระว่ายน้ำขนาด 12 x 5 เมตร ระบบเกลือ มีความลึก 1.25 เมตร ด้านล่างปูกระเบื้องเซรามิกพร้อมกับติดหลอดไฟ LED  เล็กๆ ดูระยิบระยับ ด้านข้างตกแต่งผนังด้วยผนังปูนแกะสลักสวยงาม และทีวีสามารถนอนเล่นบน day bed ดูทีวีได้ด้วย ส่วนด้านบนตกแต่งฝ้าเพดานเป็นท้องฟ้าสวยงาม ซึ่งลักษณะสระว่ายน้ำในร่มแบบนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับจริตสาวๆ บ้านเราที่กลัวผิวดำดีนะคะ เพราะสามารถว่ายน้ำได้ในทุกเวลาไม่ต้องรอตอนเช้า หรือตอนเย็นเหมือนสระว่ายน้ำแบบ Outdoor สระนี้ว่ายกลางวันก็ได้ไม่โดนแดด ว่ายกลางคืนก็ไม่น่ากลัวเพราะติดไฟไว้สว่างไม่มืดค่ะ

เดินไปดูรอบข้างกันก่อนนะคะ ทางเดิน Outdoor ก็ใช้เป็นหินอ่อนเช่นเดียวกันกับพื้นด้านข้างสระว่ายน้ำ ดูเป็นเส้นทางที่ต่อเนื่องกัน

เลี้ยวมาด้านซ้ายสุดท้ายเดินจะเห็นปล่องสำหรับดูดอัดอากาศสำหรับชั้นจอดรถใต้ดิน

มาดูกำแพง (Verticle Garden) อีกที จะเห็นไม้เลื้อยที่โครงการปลูกให้เลื่อยตามลวดสลิงจนเป็นกำแพงสีเขียวเหมือนรูปทัศนียภาพ ซึ่งในวันนี้ ยังเพิ่งเริ่มปลูกไม่นาน ต้นไม้เลื้อยยังเล็กอยู่นะคะ คงต้องอดทนรออีกสักพักกว่าต้นไม้จะเลื้อยปกคลุมผนังได้สวยงามตามรูปขวา

ภายในห้อง Fitness มีเครื่องเล่นออกกำลังกายประมาณ 7 ชิ้น ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานพร้อมๆกันได้ประมาณ 7 – 8 คน ด้านหน้าเป็นกระจกสามารถมองวิวสวนเล็กๆด้านนอกได้

ลู่วิ่งของ Life Fitness สามารถ sync กับทีวีได้ โดยทีวีจะเป็นจอแสดงผลความเร็วในการวิ่งเป็นฉากเคลื่อนไหวต่างๆ ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่อดีค่ะ

ถัดจากห้อง Fitness เป็นส่วนทางเข้าไปยังห้องพักในชั้น 1 นี้อีกทาง โดยป้องกันคนเดินเข้า – ออกหน้าห้องด้วยประตูกั้น พร้อมเครื่องสแกนบัตรด้านข้าง

บริเวณโถงลิฟต์เชื่อมพื้นที่กับส่วนของ Lobby มีลูกเล่นในการแบ่งพื้นที่โถงลิฟต์ด้วยสีขาวทั้งผนังและพื้น ซึ่งเป็นสีกระเบื้องที่ต่างจากพื้น Lobby

ขึ้นมาที่ชั้นบนตรงบริเวณช่องเปิดให้แสงส่องเข้าทางเดิน และข้อดีอีกอย่างที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยคือการขยายพื้นที่แบบ Double Corridoor ให้คล้ายคลึงกับแบบ Single Corridor โดยหน้าห้องมีระยะห่างพอสมควรและดูโล่งไม่ชิดกันเท่ากับ Double Corridor และช่องตรงกลางทำให้อากาศหมุนเวียนดี ตรงโถงนี้จึงไม่รู้สึกแคบหรืออึดอัด

ก้มลงไปจะเห็น Lobby แบบนี้เลย

ทางเดินอีกด้านเป็นแบบ Single Corridor ทั้งหมด ฝ้าเพดานซ่อนไฟ LED สวยงาม

ทางเดินด้านในเป็นแบบ Single Corridoor เช่นกัน โดยห้องพักจะอยู่ทางซ้าย โถงทางเดินตกแต่งผนังด้วย Wallpaper สีดำ – เทา สวยงาม

ช่อง Service ถูกปกปิดบังสายตาด้วย Wallpaper สีเดียวกันกับผนัง

ตัวประตูช่อง Service ดูสวยงามเรียบร้อย โดยใช้เป็นตัวล็อกเปิด – ปิดด้วยการกดแล้วดึง

สุดทางเดินเป็นจะเห็นช่องแสงทรงโค้ง (arch) ด้านนอกเป็นผ้าใบกันสาดระบบอัตโนมัติ เมื่อฝนตกก็ผ้าใบก็จะกางออกมาปิด

แต่เมื่อฝนตกแรงๆ อาจจะมีน้ำสาดเข้ามาบ้าง ดังนั้นทางโครงการจึงได้เพิ่มธรณีประตูหินเทียมให้กับ 3 ห้องริมที่ติดกับช่องแสง เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า และทางเดินก็ทำเป็น Slope พร้อมมีท่อระบายน้ำ (Floor Drian) ให้ด้วย เค้าคิดเผื่อรายละเอียดพวกนี้ไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ธรณีประตูหินเทียมของประตู 3 ห้องริมจะสูงประมาณนี้ค่ะ

ชะโงกออกไปจะเห็นส่วนทางเข้าของโครงการ Haven พหลโยธิน ซึ่งทำให้ห้องทางทิศเหนือ และ(หน้า)ห้องของทิศตะวันตกได้รับผลประโยชน์ร่วมจากการมองเห็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ นี้ด้วย

บันไดหนีไฟ จะติดก้านจับสีแดงสดนำเข้าจากอิตาลีไว้ให้แบบนี้ ที่เค้าเลือกให้มันฉูดฉาดสะดุดตา ก็เพราะว่าเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้มองเห็นชัดๆ และชุดมือจับชุดนี้มันกดเปิดง่ายใช้แรงน้อยค่ะ

ลองใช้งานให้ดูค่ะ กดคันโยกลงแล้วผลัก ไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนมือจับประตูบันได้หนีไฟทั่วไป

ตัวโถงบันไดทำออกมาได้สวยดีทีเดียวค่ะ ทั้งพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลาย และราวบันไดเหล็กที่มีลวดลายสวยงาม

ด้านข้างผนังตกแต่งด้วยงานฉลุลวดลาย เป็นการยิงเลเซอร์เข้าไปในผนังเซาะเป็นร่องให้เกิดลวดลายนะคะ ไม่ใช่การทาสี เพื่อให้ชุดโถงบันไดมันมีดีเทลและอะไรที่มันแปลกตาขึ้น

ก่อนเข้าชั้นดาดฟ้ามีกฎการใช้สวนหย่อยลอยฟ้าดังนี้ค่ะ

สวนหย่อมดาดฟ้าในวันที่เข้าไปดูโครงการมีบางส่วนที่ยังไม่เสร็จดีนะคะ เลยไม่สามารถถ่ายมาให้ดูได้ครบถ้วน ดังนั้นเลยเอารูปทัศนียภาพมาให้ดูภาพรวมกันก่อนค่ะ

ขึ้นมาเจอกับพื้นที่นั่งเล่น A จะแตกต่างจาก รูปทัศนียภาพไปหน่อยนะคะ เพราะเค้ายังทำไม่เสร็จเลย … ตรงนี้เปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนครัวเล็ก ปลูกต้นโรสเเมรี่ ต้นเตย ให้กลิ่นหอม สร้างบรรยากาศได้ดีเลย

พื้นที่นั่งเล่น B เป็นซุ้มที่นั่งเหล็กดัด ซึ่งตอนนี้ทางโครงการกำลังปลูกไม้ดอกที่เป็นไม้เลื้อยให้ปกคลุมเป็นหลังคาของซุ้มนี้ค่ะ ดอกไม้ที่เป็นไม้เถาที่นำมาปลูกคลุมซุ้มนี้ เป็นพวก wisteria สีม่วงค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังเป็นต้นเล็กสูงฟุตเดียวเอง

พื้นที่ทางเดินวางหินทางเดินไว้เรียบร้อย

อีกด้านเปลี่ยนฟังก์ชันจากสวนหิน เป็นสนามหญ้าเทียม สามารถเป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ ใช้วิ่งเล่นกันได้นะ

และยังจัดให้พื้นที่พัตต์กอล์ฟเล็กๆ ให้คุณพ่อมาเล่นด้วยค่ะ

ผังชั้น 2 ภายในชั้นนี้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 16 ยูนิต ทางเดินเว้นช่องว่างไว้สำหรับให้แสงธรรมชาติเข้าอาคาร รวมทั้งทำให้บริเวณโถงทางเดินนี้กลายเป็นทางเดินแบบ Single Corridor ด้วยค่ะ น่าเสียดายที่จำนวนห้องในทิศเหนือที่ได้วิวดีๆ นั้นมีจำนวนน้อยที่สุดจากทุกๆ ด้าน

ชั้น 3 – 7  ที่มีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 18 ยูนิตต่อชั้น มองไปแล้วก็ดูจะแน่นๆ กว่าชั้น 2 ค่อนข้างชัด เพราะไม่มีช่องเปิดด้านข้าง (ยกเว้นตรงบันไดหนีไฟด้านบน) นอกจากช่องแสงที่อยู่ตรงกลางโถงทางเดิน การจัดรูปตึกเป็นรูปตัว b ดูแล้วห้องที่เป็นส่วนตัวที่สุดนั้นก็คือห้องทางด้านซ้ายบนนั่นเองค่ะ

ชั้น 8 จะมียูนิตด้านล่างแตกต่างจากยูนิตอื่น 4 ยูนิต ที่เป็นห้อง Duplex ซึ่งมีบันได สามารถเดินขึ้นไปใช้ Deck และสวนส่วนตัวได้บนชั้นดาดฟ้าค่ะ และเนื่องจากในชั้น 8 นั้นเป็นชั้นบนสุดก่อนจะถึงชั้นดาดฟ้าที่มีสวนหย่อม ดังนั้นลูกบ้านทั้งโครงการก็สามารถขึ้นมาบนชั้นนี้ได้เพื่อที่จะต้องขึ้นบันไดหนีไฟไปยังชั้นดาดฟ้า จึงทำให้ชั้นนี้ค่อนข้างพลุ่กพล่านกว่าชั้นอื่นๆ ไปสักหน่อย

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.25 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
  • สวนหย่อมดาดฟ้า
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 66.5 : 1
  • ที่จอดรถ 66 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 70%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

สำหรับห้อง 1 Bedroom มีพื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. เข้ามาเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว ซึ่งเป็นครัวเปิด สำหรับใครที่ชอบทำอาหารหนักๆ หน่อยก็อาจจะมีกลิ่นลอยฟุ้งทั่วบริเวณพื้นที่นั่งเล่นได้ด้วย จึงเหมาะสำหรับคนไม่เน้นใช้งานครัวหนักๆ อยู่แล้วก็จะได้พื้นที่ที่เชื่อมต่อกันที่ค่อนข้างโปร่งดีค่ะ ส่วนห้องน้ำนั้นออกแบบให้สามารถเข้าได้ 2 ทางทั้งจากพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ สำหรับห้องนอนนั้นมีขนาดประมาณ 1/4 ของห้อง อาจจะไม่ได้กว้างมากนักแต่ก็สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานได้ค่ะ ถัดไปเป็นระเบียงที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งได้ติดตั้งและเตรียมพื้นที่ด้านล่างคอมเพรสเซอร์แอร์สำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ให้ ด้วยพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนักอาจจะมีผลเรื่องซักผ้าตากผ้าบ้างค่ะ

โดยโครงการให้ห้องแบบ Fully Furnished ดังนั้นสิ่งที่ได้คือเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว, เครื่องปรับอากาศ แต่ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและ Wallpaper นะคะ

ประตูหน้าห้องสั่งทำพิเศษนี่ก็นำเข้าทั้งชุด มือจับก้านโยกอลูมิเนียมพ่นสีทอง มีน้ำหนักแข็งแรงดีค่ะ ที่เห็นทั้งชุดประตูบานพับและมือจับนำเข้าจากอิตาลีทั้งหมด มี Details ที่เยอะและน่าสนใจมากๆ เดี๋ยวจะอธิบายในภาพถัดไปค่ะ

ขอบประตูเซาะร่องเพื่อให้พอดีกับขอบวงกบประตู ซึ่งโดยทั่วไปแล้วขอบประตูจะเป็นแบบเรียบๆ ทำให้เวลาปิดประตูนั้นไม่สนิทพอดี.. แต่ขอบแบบนี้ประตูจะแนบปิดได้สนิทมากค่ะ

ตัวดันฝุ่นประตูก็ไม่ธรรมดานะคะ เพราะเป็นสามารถยกขึ้น – ลงได้ พอปิดประตูตัวกดด้านหลังจะไปชนกับวงกบทำให้ผ้าดันฝุ่นลงมาปิดขอบล่างของประตูพอดี เป็นข้อดีมากๆ เพราะถ้าติดผ้าดันฝุ่นธรรมดา ฝุ่นก็จะดันเข้า – ออก อยู่บริเวณประตูและก็กลายเป็นผ้า(อม)ฝุ่นไปซะเอง

ด้านข้างวงกบก็ติดยางเพื่อให้ตัวประตูแนบสนิทกับวงกบจริงๆ และยังสามารถกันประตูกระแทกกับวงกบแล้วเป็นรอยได้ด้วยค่ะ

บานพับประตูเป็นแบบสวมเข้า ไม่ใช่บานพับทั่วไปที่ต้องขันน็อต ความง่ายคือเมื่อเราอยากเปลี่ยนบานประตูสามารถซื้อบานประตูแล้วมายกสวมได้เลย ซึ่งบานพับตัวเมียนั้นมีความสูงมาตรฐานยุโรป คือประตูแบบมาตรฐานในประเทศยุโรปจะใช้ความสูงนี้ทั้งหมด (แต่เมืองไทยนี่จะมาตรฐานเดียวกันไหมต้องเช็คดูดีๆ นะคะ)

ด้านในมี Door Stopper ติดบนพื้นกันประตูกระแทกกับผนัง

ตัวจบประตูห้องเป็นหินเทียม พื้นด้านในได้เป็นลามิเนต 8 มม.

เข้ามาภายในห้องจริงตรงเสาได้กระจกสีชามาเพิ่มด้วยค่ะ นอกนั้นเสปคตามห้องตัวอย่างเลย รวมทั้งฝ้าเพดานที่ซ่อนไฟด้านข้างในด้วยนะ

ระยะดูทีวีมีระยะพอสมควรประมาณ​ 2 เมตร สามารถวางขนาดทีวีใหญ่ถึง 46 นิ้วเลยค่ะ ส่วนโต๊ะกลางนั้นถึงทางโครงการไม่ได้ให้มา แต่ก็ยังมีพื้นที่ทางเดินกว้างพอที่จะสามารถซื้อมาวางได้อยู่นะคะ

ชุดโซฟา 2 ที่นั่งได้ตามนี้เลยค่ะ

ชั้นวางทีวีเป็นแบบ Built in ติดผนัง บานเปิดเป็น Soft Close ทั้งหมดค่ะ

แต่ที่พิเศษกว่า Soft Closed คือ ตัวกันกระแทกอีกตัวค่ะ เมื่อเราผลักบานตู้ปิดแล้วตัวกันกระแทกนี้จะเด้งขึ้นมารับทันทีเลยค่ะ ซึ่งเราก็ต้องผลักไปอีกรอบเพื่อปิดบานตู้นะคะ ถือว่ามีดีเทลในการกันกระแทกที่ดีทีเดียวนะ แต่เวลาใช้งานต้องปิดสองรอบก็อาจจะเสียเวลาหน่อยนึง

ถัดมาในส่วนของเคาน์เตอร์ที่ได้นั้นจากยี่ห้อ RCD Kitchen ท็อปเป็นหินสังเคราะห์และยาวต่อเนื่องจนได้เป็นเคาน์เตอร์อเนกประสงค์ด้วย

ให้มาพร้อมกับเก้าอี้ทรงสูง 2 ตัว พื้นที่นี่สามารถใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารก็ได้ หรือเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร รวมทั้งใช้เป็นโต๊ะทำงานก็ยังได้ด้วยนะ

ในส่วนเคาน์เตอร์ครัวนั้นด้านหลังปูกระจกสีชาไว้ให้ด้วย ง่ายต่อการทำความสะอาดดีค่ะ

มือจับบานเปิดเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นเป็นปีกออกมา จับได้ถนัดมือค่ะ

Sink และก็อกน้ำสแตนเลสฝังจาก Hafele

เตาไฟฟ้าเซรามิก 2 หัวเตาและ Hood ดูดอากาศแบบเดินท่อส่งระบายนอกอาคาร จาก Teka

มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้านข้างเคาน์เตอร์ ด้านบนมีตู้ลอยสำหรับวางของ

ประตูบานเลื่อนกรอบบานเป็นอลูมิเนียมพ่นสีขาว เปิดได้ทางเดียว

มือจับเป็นก้านโยกแข็งแรงดีค่ะ ด้านข้างบุผ้าสักหลาดกันฝุ่นให้ด้วยนะ

ความสูงธรณีประมาณ 10 เซนติเมตร ต้องยกขาขึ้นเล็กน้อย

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1 x 2.2 เมตร ซึ่งถ้าไม่รวมพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้านั้นก็มีขนาดเหลือประมาณ 1 x 1.45 เมตร ซึ่งค่อนข้างเล็กไปหน่อยสำหรับการซักผ้า หรือตากผ้าอยู่นะคะ

ราวระเบียงตกแต่งสไตล์ Classic และยังมีติดกระถางพร้อมลงดอกไม้ให้ลูกบ้านด้วยนะ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบเป่าลมด้านข้าง แนะนำว่าซื้อกริลติดเผื่อเบี่ยงทิศทางลมร้อนออกด้านนอกก็จะดีทีเดียวค่ะ ช่วยให้ต้นไม้ก็ไม่เหี่ยวด้วยนะ อิอิ

ด้านข้างติดตั้งท่อน้ำทิ้ง ก็อกสนาม และปลั๊กไฟกันน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้า

หันออกไปด้านนอก ทิศนี้เป็นทิศตะวันตกที่ติดกับซอยอินทามระ 4 ใครซื้อมุมที่ติดกับพื้นที่จอดรถของอาพาร์ทเม้นท์ตรงข้ามก็จะได้รับอานิสงค์เห็นต้นไม้สีเขียวแบบนี้ไปนะคะ ^^

ประตูบานเลื่อนส่วนห้องนอนได้เป็นกระจกฝ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอน เวลามีแขกมาเยี่ยม หรือกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านใน ตัวประตูนอกจากมีตัวล็อกด้านบนแล้ว ยังมีแม่เหล็กด้านล่างด้วยเพื่อให้ประตูปิดได้สนิทมากขึ้น

มือจับยื่นออกมาจากกรอบบาน ส่วนตัวล็อกเป็นตัวล็อกก้นหอยอย่างในภาพ ด้านข้างบุด้วยผ้าสักหลาดกันฝุ่นด้วยค่ะ

รางเลื่อนขนาดเล็กมาก มีขอบน้อย ข้อดีคือเดินง่ายไม่สะดุด ไม่เจ็บฝ่าเท้า ซึ่งปกติจะไม่ค่อยเห็นทั่วไปเท่าไหร่นะคะ

ขนาดห้องนอน 2.65 x 3.5 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ เฟอร์นิเจอร์ได้ตามห้องตัวอย่างทั้งหมดเลยค่ะ ที่สำคัญคือฝ้าเพดานมีซ่อนไฟตรงหัวเตียงให้ด้วยนะ

อีกด้านนึงเชื่อมกับห้องน้ำ

พื้นที่รอบเตียงไม่กว้างขวางมากนัก แต่ก็พอเดินไป – มาได้อยู่ค่ะ

ด้านข้างเป็นหน้าต่างทรงสูง ซึ่งยาวไปถึงพื้นค่ะ

เปิดได้ทางเดียวแบบนี้ ช่วยระบายอากาศในห้องนอนได้ดีเลย และด้วยสาเหตุที่หน้าต่างนั้นมีความยาวไปจนถึงพื้นห้องนั้น จึงมีราวกันตกติดไว้ให้ด้านนอกป้องกันการผลัดตกได้

มือจับไม่มีนะ แต่มีตัวล็อกก้นหอยให้มาแบบนี้ ส่วนบานเลื่อนด้านข้างก็บุผ้าสักหลาดให้ด้วยค่ะ

ตู้เสื้อที่ได้เป็นบานเปิด 3 ตอน พร้อมไฟด้านในบริเวณราวแขวนเสื้อ เวลาเปิดตู้เสื้ออาจจะติดเตียงไปหน่อยและไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน

โต๊ะทำงานท็อปเป็นหินสังเคราะห์ สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ แค่ติดกระจกเงาเพิ่มตรงผนัง

ประตูบานเลื่อนห้องน้ำ เป็นกระจกฝ้า

รางเล็กและมีแม่เหล็กเช่นเดียวกันกับประตูห้องนอน พื้นห้องน้ำในโซนแห้งอยู่ระดับเดียวกันกับห้องนอนและไม่มี Slope ดังนั้นอาจจะทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกลำบากใจกับการล้างห้องน้ำ เพราะกลัวว่าน้ำจะซึมออกมาในห้องนอน แต่จริงๆแล้วโซนแห้งของห้องน้ำนี้นั้นเราสามารถทำความสะอาดโดยการเช็ดถูทั่วไปได้เช่นกันนะ

ห้องน้ำทำออกมาได้สวยและใหญ่ทีเดียวค่ะ ปูพื้นเซรามิกแบบยาวลายคล้ายคลึงกับไม้ลามิเนตเพื่อให้ดูเชื่อมต่อไปในทางเดียวกัน และที่สะดุดคือฝ้าเพดานห้องน้ำทำเป็นฝ้าหลุมให้ด้วยนะ

หันกลับมาอีกด้านจะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำอีกประตูนึง

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือท็อปเป็นหินสังเคราะห์มีพื้นที่วางของด้านข้างได้พอสมควร อ่างล้างมือเป็นแบบฝัง พร้อมกระจกเงาสูงไปถึงฝ้าเพดาน

อ่างล้างมือและก็อกจาก Cotto

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Cotto

ด้านบนโถสุขภัณฑ์ได้ตู้ Built in สำหรับเก็บของเล็กๆ และจากตรงนี้มีการต่อท่อน้ำร้อนไว้ให้เรียบร้อย รวมทั้งด้านข้างก็สามารถวางของได้เหมือนกันด้วยค่ะ

ในส่วนพื้นที่อาบน้ำใช้ฉากกั้นด้วยกระจก Temper

ยกธรณีสูงกันน้ำไหลออก และยังติดตั้งสแตนเลสอีกชั้นเพื่อไม่ให้น้ำที่ไหลจากบานประตูไหลออกมาเลอะด้านนอกอีกด้วยนะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างขวางอาบน้ำไปด้วยเต้นไปด้วยสบายเลยค่ะ อิอิ

มือจับทรงสี่เหลี่ยมแบบนี้

ฝักบัวได้ทั้ง 2 แบบคือ Rain Shower จาก Hafele และฝักบัวสายอ่อนจาก Cotto

ฝักบัวสายอ่อนขนาดที่ได้ประมาณเท่านี้ค่ะ เล็กกระทัดรัด แต่จับได้ถนัดมือ

ด้านข้างฝักบัวจัดเป็นชั้นวางของ วางของได้เยอะและตกแต่งออกมาสวยงามทีเดียวค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 09 October 2015 (ราคาตึกเสร็จแล้ว จะปรับขึ้นมาจากตอนเปิดตัวค่ะ)

  • 1 Bedroom Type B ชั้น 5 ห้อง 501 เนื้อที่ 35.50 ตร.ม. ราคา 3.834 ล้านบาท หรือ 108,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type I ชั้น 5 ห้อง 505 เนื้อที่ 42.60 ตร.ม. ราคา 4.6 ล้านบาท หรือ 108,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type Q ชั้น 8 ห้อง 813 เนื้อที่ 50.82 ตร.ม. ราคา 5.641 ล้านบาท หรือ 111,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5%
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลในซอยอินทามระ 4 ถือว่าเดินทางได้สะดวกปานกลาง เพราะเป็นซอยเล็กๆ สามารถทะลุออกซอยพหลโยธิน 14 ได้ และมีถนนหลักอย่างถนนสุทธิสารวินิจฉัยที่สามารถลัดไปออกถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนรัชดาภิเษกได้ แต่อาจจะมีปัญหาการเข้า – ออกในบางเวลาที่ปิดไม่ให้เลี้ยวซ้ายเข้าแยกสุทธิสาร เป็นต้นค่ะ ภายในถนนสุทธิสารวินิจฉัยเป็นชุมชนตึกแถวและอาคารพาณิชย์เก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันมีคอนโดสร้างเสร็จค่อนข้างเยอะเกิดขึ้นริมถนนและในซอย ทำให้มีร้านค้าขายของและของกินค่อนข้างมาก มีความอุดมสมบูรณ์สูง

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นถือว่าสะดวก ด้วยความที่ใกล้แยกสะพานควายเชื่อมต่อกับถนนหลักได้มาก และสามารถขึ้นทางด่วนได้สองทางทั้งจากอนุสาวรีย์-พหลโยธิน หรือดินแดง-วิภาวดี รวมทั้งโครงการสามารถรองรับรถได้ 70%  แต่อาจจะมีรถติดบนถนนสุทธิสารวินิจฉัยในบางเวลาเนื่องจากถนนค่อนข้างเล็ก

สำหรับการเดินทางแบบไม่ใช้รถนั้นก็มีรถไฟฟ้าสถานีสะพานควายที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งถึงไม่ได้อยู่ในระยะเดินแต่ก็สามารถพึ่งพิงพี่วิน ตุ๊กตุ๊ก เข้าโครงการได้อยู่ตลอด ในส่วนของจุดต่อรถใหญ่ๆ อย่างอนุสาวรีย์ก็อยู่ห่างจากโครงการ 3.5 กม. ซึ่งโดยรวมแล้วอาจจะไม่ได้สะดวกมากนัก แต่ก็มีทางเลือกให้โดยสารมากอยู่ค่ะ

วัสดุถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้นะคะ เพราะวัสดุส่วนใหญ่จะใช้เกรดพรีเมี่ยมมากกว่าโครงการที่อยู่ในระดับ Segment เดียวกัน อย่างฝ้าเพดานที่ได้มีการซ่อนไฟและทำฝ้าหลุมให้สวยงาม ประตูทำพิเศษแนบสนิทกับวงกบ รางเลื่อนแบบบางพิเศษ เคาน์เตอร์ครัวจาก RCD ท็อปหินสังเคราะห์ รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ในส่วนกลางก็ได้ในเกรดที่ดีด้วยค่ะ นอกจากนี้วัสดุหลายชิ้นทั้งในห้องและส่วนกลาง จะเป็นวัสดุนำเข้าจากยุโรป หรืออิตาลี บ้างก็จัดทำพิเศษ ซึ่งค่อนข้างจะแปลกกว่าโครงการมาตรฐานทั่วไป บางอย่างทำมาให้ใช้งานดีขึ้น บางอย่างทำมาเพื่อเติมเต็มความรู้สึกให้ภาพรวมของโครงการดูเป็นยุโรปมากที่สุด ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีค่ะ

การออกแบบนั้นจัดวางฟังก์ชันได้ค่อนข้างดี ที่เด่นๆ คือ ช่องแสงตรงกลางที่ส่องทะลุทุกๆชั้น ลงมาถึงพื้นที่ Lobby ช่วยให้อาคารโปร่งโล่ง และแสงธรรมชาติเข้าถึง ดูไม่ทึบแสง รวมทั้งยังทำให้มีพื้นที่หน้าห้องมากขึ้น จึงได้ทางเดินหน้าห้องทุกห้องเป็นแบบ Single Corridor ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน เน้นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับครัว และห้องน้ำขนาดใหญ่ แต่ในส่วนระเบียงนั้นมีขนาดเล็กไปหน่อยสำหรับการใช้งานจริง

สาธารณูปโภคได้มาครบถ้วน และดูดีน่าใช้งาน สำหรับโครงการ Low Rise แบบนี้ ทั้ง Fitness, สระว่ายน้ำ และสวนหย่อมทั้งชั้นดาดฟ้า รวมทั้งอัตราส่วนลิฟต์ 66.5 : 1 ที่จัดว่ามีความหนาแน่นไม่มากนัก โดยรวมแล้วสาธารณูปโภคที่ได้ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม. และราคา 105,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าได้สมน้ำสมเนื้อค่ะ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 105,000 บาท/ตร.ม., 09 October 2015

  • ทำเล 7.25/10 – ทำเลในเมือง มีความอุดมสมบูรณ์สูง ก็จริง แต่อยู่ในซอยย่อย และภาพรวมของทำเลย่านนี้ ยังมีข้อด้อยอยู่บ้าง
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – สะดวกเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย มีที่จอดรถเพียงพอ
  • ไม่ใช้รถ 7.0/10 – แม้จะเรียกรถสะดวก แต่ห่างจาก BTS สะพานควาย 1 กม.
  • วัสดุ 9.0/10 – ให้ของเกรดดี นำเข้าจากอิตาลี ทั้งส่วนกลางและในห้อง และให้ครบแบบ Fully Furnished
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบดี มีรายละเอียดมาก Single Corridor
  • สาธารณูปโภค 8.0/10 – ได้ครบ น่าใช้สำหรับคอนโด Low Rise แบบนี้

  • UPPER CLASS
  • 7.79 / 10.00

BOTTOM LINE

Haven Luxe เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวยุโรป เลือกโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่เพื่อนบ้านน้อย ไม่วุ่นวาย ใช้รถยนต์เป็นหลัก รถไฟฟ้าเป็นรอง ทำงานอยู่ในย่านสะพานควาย-อารีย์ มีงบประมาณ ระดับ 3.5 – 6.0 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 24,000 – 40,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )