รีวิวฉบับที่ 1823 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมคอนโด iCONDO Green Space เสรีไทย ที่ตั้งอยู่บนถนนเสรีไทย ใกล้เดอะมอลล์บางกะปิ โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่มีจุดเด่นเรื่องการจัดพื้นที่สีเขียวและมีพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำให้มาถึง 2 สระเลย รูปแบบห้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bedroom แต่จะมียูนิตพิเศษที่เป็น Pool Access ด้วย โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่เเล้ว จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 28 February 2019

  • iCONDO -Green Space Serithai (ไอคอนโด กรีนสเปซ เสรีไทย)
  • บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต :  บึงกุ่ม
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 505 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 247 ยูนิต และอาคาร B 258 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 164 คันคิดเป็น 32%
  • ที่ดินประมาณ 6-2-43.5 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q1 2018
  • สร้างเสร็จ : Q1 2019
  • Studio 26.26-26.3 ตร.ม. จำนวน 23 ยูนิต
  • 1 Bedroom 24.4-45.9 ตร.ม. จำนวน 482 ยูนิต แบ่งออกเป็น

  • 1 Bedroom 24.4-45.9 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Pool access 36 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.12 ล้านบาท

  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 70,400บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1375
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.776720, 100.661794

    เเผนที่จากทางโครงการค่ะ iCondo Green Space เสรีไทย จะตั้งอยู่บนถนนเสรีไทย และในอนาคตทำเลนี้จะใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สายคือสายสีเหลืองและสายสีส้มค่ะ

    ทำเลของ iCondo Green Space เสรีไทย นั้นตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เสรีไทย หรือ ถนนสุขาภิบาล 2 ระหว่างซอย 8 และ 10 ถือเป็นเสรีไทยช่วงต้นๆฝั่งที่อยู่ใกล้กับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า นิด้า ถนนเส้นนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษแต่ก็เป็นเส้นที่เชื่อมต่อมาจากถนนลาดพร้าว ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะกระจุกกันอยู่บริเวณแยกบางกะปิ ทั้งเดอะมอลล์บางกะปิ ตะวันนา แฮปปี้แลนด์ ตลาดบางกะปิ ตรงย่านนี้สภาพแวดล้อมจะเป็นชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยค่อนข้างเยอะและแยกนี้ก็เป็นจุดรวมของถนนหลายสายทั้งถนนลาดพร้าว ถนนนวมินทร์ ถนนศรีนครินทร์ ถนนรามคำแหง ซึ่งเราสามารถใช้เป็นทางเลือกในการเดินทางได้ แต่ในทางกลับกันการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ติดขัดตามไปด้วย ยิ่งปัจจุบันทั้งเส้นลาดพร้าวเเละรามคำแหงกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่ด้วยเเล้ว อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกันเยอะหน่อยนะคะ ถ้าวิ่งไปทางฝั่งตะวันออก(เสรีไทยตอนปลาย)จะเป็นทางมุ่งหน้าไปมีนบุรี โซนนี้จะใกล้กับสวนสยาม , ตลาดมีนบุรี , Amorini , Fashion Island และมีแหล่งงานที่สำคัญในย่านนี้อย่าง นิคมอุตสาหกรรมบางชัน  ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัย มีหอพัก อาคารพาณิชย์มาขึ้นอยู่บริเวณใกล้ๆกับสถานที่สำคัญ มีบ้านแนวราบมาขึ้นอยู่เยอะพอสมควร

    ในส่วนของการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็จะมีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว เช่นรถมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ แท็กซี่ ซึ่งสามารถเรียกใช้งานกันได้สะดวกเพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ หน้าโครงการเลยก็จะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้บริการ ซึ่งมีรถผ่านตลอดเวลา ใช้เดินทางไปยังเดอะมอลล์บางกะปิซึ่งเป็นศูนย์รวมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้ในระยะทางประมาณ 2.5 กม. ไปต่อรถเอาตรงนั้นก็จะมีหลากหลายสายรถเมล์ รถตู้ให้เลือกอีก ตัวโครงการเองก็จะมีรถตู้รับส่งที่เดอะมอลล์บางกะปิให้นะคะ แต่รถตู้นี้จะคิดค่าบริการ แต่คาดว่าจะราคาถูกกว่ารถโดยสารอื่นๆที่วิ่งผ่าน (อันนี้อาจจะต้องรอทางนิติบุคคลของโครงการคอนเฟิร์มอีกที)

    ในส่วนของรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใกล้ๆทำเลนี้นั้น จะมีอยู่ 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มาจากมีนบุรี เเละจะวิ่งไปยังสถานีศูนย์วัฒนธรรม (เฟสเเรก) จากโครงการสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีคลองบ้านม้านะคะ คือจากหน้าโครงการวิ่งเข้ามาตรงเเยกนิด้าเลี้ยวซ้าย ตำแหน่งที่มาตัดกับถนนรามคำแหงก็จะเป็นตัวสถานีเเล้ว ระยะทางประมาณ 1.5 กม. และอีกหนึ่งรถไฟฟ้าที่จะใกล้กับโครงการเราก็คือสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะวิ่งมาจากลาดพร้าว(ตัดกับถนนรัชดาภิเษก) ไปยังสำโรง ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการเราที่สุดจะเป็นสถานีบางกะปิ ตัวสถานีก็จะอยู่ตรงเดอะมอลล์บางกะปินั่นเลยค่ะ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. เรามารอลุ้นกันว่าจะสร้างเสร็จกันเมื่อไหร่ ถ้าสร้างเสร็จเเล้วพื้นที่เเถวนี้น่าจะเดินทางสุขใจมากขึ้นนะคะ มีรถไฟฟ้า ไม่มีการกั้นถนนทำการก่อสร้างเเล้ว

    เส้นทางการเดินทาง

    เส้นทางการเดินทางวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปยังโครงการผ่านถนนรามคำแหงค่ะ มุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นสะพานข้ามเเยกลำสาลี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีบูรพา เจอกับเเยกนิด้า เลี้ยวขวาเข้าถนนเสรีไทย เจอจุดกลับรถก็กลับรถชิดซ้ายไว้ เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยค่ะ เส้นทางจะมีจุดสังเกตอะไรบ้างไปดูกันเลย

    เริ่มต้นที่ถนนรามคำแหงนะคะ ขวามือจะเป็นสนามกีฬาหัวหมาก มี Indoor Stadium , ราชมังคลา ที่มักจะมีการจัดงานคอนเสิร์ตอะไรพวกนี้บ่อยๆ วันไหนมีงานไม่ควรผ่านเส้นนี้เลยนะคะ รถติดไม่ขยับเลยค่ะ ลงเดินอาจจะเร็วกว่าด้วยซ้ำ

    ขับตรงมาเราจะเจอกับสะพานข้ามเเยกลำสาลี ชิดขวาขึ้นสะพานไปเลย บนถนนรามคำแหงเส้นนี้กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มกันอยู่ ดังนั้นเลนถนนก็จะมีการปิดบ้างบางเลน บางช่วงเวลาก็จะเบี่ยงไปมาชวนสับสนหน่อย ช่วงนี้ก็จะรถติดมากขึ้นด้วย อาจจะไม่สามารถขับเร็วได้ การเดินทางอาจจะต้องเผื่อเวลามากหน่อยนะคะ

    ขึ้นสะพานมาก็ขับตรงไปอย่างเดียวเลย ตรงนี้จะพาเราข้ามเเยกลำสาลี ที่เรียกได้ว่าการจราจรสุดโหดไม่เเพ้กัน เเยกลำสาลีถือเป็นอีกจุดตัดที่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ก็ได้ ไปยังลาดพร้าว หรือนวมินทร์ก็ได้ ใครที่จะเเวะเดอะมอลล์บางกะปิก่อนก็อาจจะไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามเเยกนี้ ซึ่งจะมีถนนที่ตัดเข้าเดอะมอลล์บางกะปิได้เลยจากถนนรามคำแหงค่ะ สะดวกเหมือนกันนะคะ

    ลงสะพานมาก็ขับตรงไปก่อน

    พอเจอโรงเรียนถนอมบุตรทางซ้ายมือก็ให้เราชิดซ้ายไว้

    เราจะผ่าน AMWAY สำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

    เจอเเยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีบูรพาค่ะ เเยกนี้จะอยู่ก่อน Big-C , Paseo นะคะ

    ขับตรงมาเราจะเจอกับเเยกนิด้า ให้เราชิดขวาเตรียมเลี้ยวขวา (เลี้ยวซ้ายจะเป็นนิด้าค่ะ)

    พอเลี้ยวขวามาเราจะอยู่บนถนนเสรีไทยแล้ว ถนนเส้นนี้มุ่งหน้าไปเป็นมีนบุรี สวนสยามได้ค่ะ บรรยากาศก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เเบบตึกแถวเดิม มีร้านค้าบ้าง และเป็นอาคารเเนวราบเเทบทั้งสิ้น

    เราขับตรงมาจะเจอกับโครงการ iCondo Green Space เสรีไทย ทางขวามือค่ะ ตรงนี้เราจะต้องกลับรถนะคะ ทางซ้ายมือจะมีปั๊มน้ำมันบางจากตั้งอยู่เยื้องๆกับโครงการเราค่ะ

    iCondo Green Space เสรีไทย จะมีข้อดีทางการเดินทางด้วยรถอยู่ข้อหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือจุดกลับรถแรกหลังจากผ่านแยกนิด้านี้ได้ ซึ่งเมื่อเราเทียบกับโครงการอื่นๆข้างเคียงที่ตั้งอยู่ตรงจุดกลับรถนี้พอดี ทำให้การที่จะขับรถเข้าโครงการ จะต้องไปใช้จุดกลับรถถัดไปที่ห่างไปอีกประมาณ 800 เมตรเลย

    เมื่อเรากลับรถมาเเล้วให้เราชิดซ้าย จะเจอกับร้านขายมอเตอร์ไซค์ค่ะ ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกันเลย ตอนนี้อาจจะดูยากหน่อย เพราะมีแต่ป้ายหาเสียงบัง

    เลี้ยวเข้ามาถึงโครงการ iCondo Green Space เสรีไทย เเล้วค่ะ

    สภาพบรรยากาศรอบๆโครงการ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    iCondo Green Space เสรีไทยตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เสรีไทยหรือถนนสุขาภิบาล 2  ลักษณะของที่ดินเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ทางเข้าติดกับถนนใหญ่ วางผังแบ่งอาคารออกเป็น 2 อาคาร สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีคอนโด Low Rise อยู่บ้างข้างเคียง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการพอสมควรจึงไม่บดบังวิวมากนัก อีกทั้งโครงการที่เป็น Low Rise ก็ไม่ได้เน้นวิวอะไรมากอยู่แล้ว ท้ายโครงการจะติดกับคลองเเสนแสบค่ะ

    • ทิศเหนือ – ติดกับถนนเสรีไทยหรือถนนสุขาภิบาล 2 ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มน้ำมันหรือและร้านล้างรถ ส่วนที่ดินข้างๆโครงการจะเป็นที่พักอาศัยเเนวราบ
    • ทิศตะวันออก – ฝั่งที่ติดถนนใหญ่จะมีที่เปล่าของโครงการ (ติดกับทางเข้า ตำแหน่งของสำนักงานขายเดิม) ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะปรับเป็นร้านค้า
    • ทิศใต้ – ติดคลองแสนแสบ
    • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนเสรีไทย 8 ภายในซอยเป็นที่อยู่อาศัยเเนวราบเป็นส่วนมาก

    ทิศเหนือ ถนนหน้าโครงการเป็นถนนเสรีไทยฝั่งเข้าเมืองไปยังโซนบางกะปิ บรรยากาศเป็นถนนใหญ่ฝั่งละ 3 เลน จุดกลับรถเพื่อมายังโครงการอยู่ไม่ไกล ถ้ามาจากบางกะปิ สามารถกลับรถเเล้วชิดซ้ายเพื่อเข้าโครงการได้เลย

    ติดกับถนนใหญ่ ข้างๆกับทางเข้าโครงการจะเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์

    ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฝั่งตรงข้ามกับหน้าโครงการจะมีปั๊มน้ำมันบางจาก และร้านล้างรถ มีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่ด้านในด้วยค่ะ

    ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หันหน้าออกหน้าโครงการเดินมาทางซ้ายมือ ตรงนี้จะเป็นตำแหน่งของสำนักงานขาย ณ ปัจจุบัน ด้านหน้าก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่ สามารถขึ้นเพื่อไปยังโซนเดอะมอลล์ บางกะปิซึ่งเป็นศูนย์รวมการเดินทางได้ง่ายระยะห่างประมาณ ​2.5 กม.

    ทิศตะวันตก เลยป้ายรถเมล์มาจะเป็นเสรีไทยซอย 8 ภายในส่วนมากเป็นที่พักอาศัยแนวราบค่ะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • NIDA ~ 1.4 km.
    • สวนนวมินทร์ ~ 2.3 km.
    • สวนพฤกษชาติคลองจั่น ~ 2.4 km.
    • The Mall บางกะปิ ~ 2.5 km.
    • Paseo รามคำแหง ~ 2.7 km.
    • ตะวันนา ~ 2.8 km.
    • Makro บางกะปิ ~ 3.2 km.
    • ตลาดบางกะปิ ~ 3.2 km.
    • รร.บางกะปิ ~ 3.4 km.
    • รพ.รามคำแหง ~ 3.6 km.
    • Tesco Lotus บางกะปิ ~ 3.7 km.
    • รพ.เวชธานี ~ 4.0 km.
    • ม.รัตรบัณฑิต ~ 5.1 km.
    • ราชมังคลากีฬาสถาน ~ 5.4 km.
    • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 5.5 km.
    • รพ.ลาดพร้าว ~ 5.6 km.
    • รร.วัดบางเตย ~ 6.3 km.
    • Big C หัวหมาก ~ 6.5 km.
    • รร.บดินทร์เดชา 1 ~ 7.3 km.
    • รร.บดินทรเดชา 2 ~ 7.8 km.
    • ตลาดหัวมุม ~ 8.9 km.


    เจาะลึกตัวโครงการ

    iCondo Green Space เสรีไทย เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 6 ไร่ครึ่ง ออกแบบสไตล์ใน Tropical Resort เน้นพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ ห้องพักอาศัยจะมีทั้งแบบ Studio และ 1 Bedroom แต่จะหนักไปที่แบบ 1 Bedroom มากกว่า 90% รวมเเล้วมีทั้งหมด 505 ยูนิต ขายเป็นแบบ Fully Furnished ค่ะ

    ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ การวางผังอาคารจึงต้องวางขนานไปกับแนวที่ดิน ตัวอาคารจริงจึงห่างจากถนนใหญ่ ซึ่งอาจจะเดินไกลหน่อย แต่ก็มีข้อดีที่จะช่วยลดเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ได้ และทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น

    โดยแนวอาคาร A แม้จะลึกเข้ามาประมาณ​ 50 เมตร แต่ทางเข้าจริงของอาคารทั้ง 2 จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งระยะจากถนนเสรีไทยเข้ามายังจุด Drop-off ตรงกลางจะอยู่ที่ประมาณ 135 เมตร การจัดวางพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่อยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมด โดยทั้ง 2 อาคารจะมี Lobby ที่เป็น Double space มี Mail room แยกกันคนละอาคาร และมีสระว่ายน้ำเเยก 2 สระ ตั้งอยู่หน้าอาคาร ส่วนอาคาร A จะมีฟิตเนสเพิ่มขึ้นมา ส่วนอาคาร B จะมี Working Space ค่ะ ที่จอดรถจะอยู่ตั้งแต่ทางเข้ามาเลย จนไปถึงท้ายโครงการ ซึ่งจะเป็นลานจอดรถ Out-door รวมๆแล้วสามารถจอดได้ทั้งหมด 164 คันเเบบไม่ซ้อนคัน เเละ

    เนื่องจากท้ายโครงการอยู่ติดกับคลองจึงต้องมีระยะร่นตามกฎหมาย ทางโครงการจึงจัดให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนหย่อม ให้ลูกบ้านมาเดินเล่นพักผ่อนกันได้ เรียกว่า outdoor green space พื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านอาคาร A หรือ อาคาร B สามารถมาใช้งานรวมได้ทุกจุดค่ะ

    มาดูผังแต่ละอาคารกันค่ะ เริ่มกันที่อาคาร A ทางเข้าจะอยู่ใกล้กับจุด Drop off หน้าทางเข้า Lobby จะมีทางเดินหน้าอาคารที่จะไปยังส่วนกลางข้างๆและขึ้นไปยัง Fitness ที่อยู่ชั้น 2 พื้นที่ใต้ Fitness จะเป็นห้องน้ำ แยกชาย-หญิง เป็นห้องน้ำส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Lobby ของอาคาร A ก่อน และจะมีห้องนิติบุคคลอยู่ข้างๆกัน สามารถเปิดกระจกติดต่อได้ตั้งแต่หน้าอาคาร(คล้ายติดต่อห้องบัญชีของบริษัทต่างๆเลย) ง่ายกับการที่มี Messenger มาฝากของไว้ จะได้ไม่ต้องเข้ามาภายในอาคารด้วย พื้นที่ตั้งแต่ส่วนกลางและ Lobby ยังเป็นพื้นที่ที่คนภายนอกสามารถเข้าถึงได้นะคะ ตรงนี้อาจจะสะดวกกับผู้อยู่อาศัยของอาคาร B ด้วย แต่ก็จะเป็นส่วนที่บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกบ้านสามารถเดินเข้าถึงได้สะดวกเช่นกัน ทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำ แต่ส่วนที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นคือพื้นที่ภายในอาคาร ตั้งแต่โถงลิฟต์เป็นต้นไป ซึ่งจะมีระบบสแกนใบหน้าเพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษด้วย เดี่ยวเราจะเห็นตัวอย่างจริงข้างล่างอีกที  ข้างโถงลิฟต์ฝั่งหน้าอาคารจะเป็นห้อง Mail Room ค่ะ

    สำหรับโครงการนี้จะมีลิฟต์ให้มาอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนความหนาแน่นลิฟต์จะอยู่ที่ 126:1 ถือว่าหนาแน่นอยู่นะคะ แต่โครงการนี้เป็น Low rise ที่มีห้องอยู่ที่ชั้น 1 ด้วยทำให้ความหนาแน่นจะลดลงนะคะ ส่วนทางเดินของแต่ละชั้นจะเป็นแบบ Double Corridor ที่มีห้องอยู่ 2 ฝั่งทางเดินเลย ซึ่งแต่ละห้องประตูเข้าห้องจะตรงกันอยู่หน้าห้องเราเลย ซึ่งก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างในกรณีที่เปิดห้องออกมาพร้อมกัน ทีนี้เพื่อนฝั่งตรงข้ามก็จะมองเข้าไปเห็นภายในห้องเราพอดีเลย ห้องใครไม่เรียบร้อยก็อายไปเลย

    จุดเด่นอีกหนึ่งจุดของห้องพักอาศัยโครงการนี้คือที่ชั้น 1 ห้องพักจะมีขนาดเพิ่มขึ้นมากกว่าชั้นอื่นๆอยู่ประมาณ 7 ตร.ม. ทั้งห้องด้านหน้าและห้องด้านหลังซึ่งจะได้ระเบียงที่กว้างขึ้น ห้องด้านหน้าอาคารก็จะเป็นห้องแบบ Pool Access เดินจากห้องมายังระเบียงลงสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนห้องด้านหลังก็จะมีระเบียงกว้างขึ้น มองเห็นสวนที่จัดไว้ทางด้านหลังได้เต็มที่ค่ะ

    ชั้น 2 ยังคงมีการวางห้องเหมือนกันกับชั้น 1 ค่ะ แต่จะมีพื้นที่ส่วนกลางต่างๆเช่น Lobby , ห้องนิติบุคคล ที่ได้พื้นที่แบบ Double volume ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ของชั้น 2 ยังไม่มีห้องพักค่ะ และด้านบนของห้องน้ำส่วนกลางชั้น 1 จะเป็น Fitness โดยฟิตเนสจะสามารถเข้าได้จากหน้าอาคารเท่านั้นค่ะ

    ในส่วนของห้องพัก ที่ชั้นนี้จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดเลย การวางผังจะคล้ายกันไป ทั้งด้านหน้า และด้านหลังอาคาร แต่จะมีขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้ Layout หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยห้องที่อยู่ด้านหน้าอาคาร(วิวสระว่ายน้ำ)จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องที่อยู่รอบนอกประมาณ 6 ตร.ม.ค่ะ และเนื่องจากในแต่ละอาคารจะมีลิฟต์ให้บริการอยู่ 2 ตัวต่ออาคาร ตำแหน่งลิฟต์จะค่อนไปทางทิศใต้ของอาคาร ทำให้ห้องที่อยู่ด้านในหรือค่อนไปทางทิศเหนือก็จะต้องเดินไกลหน่อยนะคะ แต่ก็จะทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นเพราะคนเดินผ่านหน้าห้องเราไม่เยอะมากเท่ากับห้องที่อยู่ตรงกลาง ส่วนห้องที่อยูด้านหลังอาคารทางปีกทิศใต้ก็จะได้ข้อดีที่ฝั่งนี้ยูนิตไม่เยอะมาก เเละเดินไม่ไกลลิฟต์ค่ะ ส่วนทางเดินหน้าห้องพักนั้น ถึงเเม้ว่าปลายสุดของทางเดินทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นหน้าต่างที่สามารถช่วยให้เเสงส่องเข้ามาทางเดินได้ และสามารถช่วยระบายอากาศ กลิ่นอับชื้นบริเวณทางเดินได้ แต่ด้วยความที่ตัวอาคารยาวมาก 20-30 เมตรเลย เลยทำให้ทางเดินกลางๆอาคารแสงอาจจะส่องมาไม่ถึง ทำให้การใช้งานจริงอาจจะต้องเปิดไฟบริเวณทางเดินไว้ตลอดเวลานะคะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีความแตกต่างจากชั้นที่ 2 ตรงที่พื้นที่บนห้อง Juristic และ Lobby จะกลายมาเป็นห้องพักแบบ Studio แทน ส่วนพื้นที่ครึ่งนึงของ Fitness จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ส่วนอีกครึ่งยังเป็นพื้นที่ Double Volume ของฟิตเนสอยู่ค่ะ

    ชั้น 4-8 จะเป็น Typical Floor แล้วค่ะ จะมีส่วนที่แตกต่างจากชั้น 3 ตรงที่พื้นที่ส่วนที่เป็น Double Volume ของ Fitness จะเป็นห้องพักเเบบ 1 Bedroom ค่ะ เราจะเห็นได้ว่าห้องพักในแต่ละชั้นจะวางผังเหมือนกันหมดเลย โดยห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ 30.3-37.5 ตร.ม.จะเป็นห้องทางด้านหน้าอาคาร หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการ และไม่ค่อยร้อนมากเพราะเเดดช่วงบ่ายจะมาจากอีกฝั่ง ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.2-31.7 จะเป็นห้องที่อยู่รอบนอกอาคาร ห้องฝั่งนี้จะหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะตอนเย็นๆจะค่อนข้างร้อน แต่ก็จะได้ข้อดีตรงที่ทิศทางลมของประเทศไทยจะพัดมาจากทางนี้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยใช้เวลาอยู่ห้องในช่วงกลางวันมากกว่า

    มาดูที่อาคาร B กันบ้าง อาคาร B นี้จะเป็นอาคารรูปตัว L ตรงๆค่ะ การวางผังจะคล้ายกับอาคาร A แต่สลับด้านซ้าย-ขวากัน คือทางเข้าจะอยู่ทางทิศเหนือของอาคารเเทน เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Lobby และ Co-Working space แทน (ซึ่งอาคาร A จะไม่มี) ส่วนห้องน้ำจะอยู่ปลายสุดของสระว่ายน้ำ ตำแหน่งมุมอาคารพอดี ซึ่งจะเข้าได้จากทางด้านนอกอาคารเท่านั้น พื้นที่ส่วนที่เริ่มระบบสแกนก็จะเริ่มตั้งแต่เข้ามายังโถงลิฟต์ เป็นระบบ Scan ใบหน้าค่ะ เข้ามายังโถงลิฟต์ก็จะติดกับ Mail Room ที่อยู่ข้างๆกัน ส่วนที่เป็นห้องพักที่ชั้นนี้จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom มีทางเดินเป็นแบบ Double Corridor และมีห้องแบบ Pool Access และ Garden Access ที่ชั้น 1 ค่ะ

    ที่ชั้น 2 จะมีห้องเพิ่มขึ้นมา 1 ห้องตำแหน่งบนห้องน้ำของชั้น 1 ค่ะ ห้องปีกทางนี้จะได้เป็นห้อง 1 Bedroom หน้ากว้างนะคะ แต่จะเดินจากลิฟต์ไกลหน่อย แลกมากับความเป็นส่วนตัว

    ชั้น 3-8 จะเป็น Typical Floor ของอาคาร B แล้วค่ะโดยจะมีห้องแบบ Studio เพิ่มมาตำแหน่งบน Lobby จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นจะอยู่ที่ 33 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าเยอะอยู่นะคะ เดี๋ยวเราไปดูอาคารจริงกันเลยดีกว่าค่ะ

    ทางเข้าโครงการจะเข้ามาจากถนนเสรีไทยนะคะ ป้อมยามจะถัดเข้ามาจากถนนเล็กน้อย พอให้มีระยะที่รถเข้ามาจอดรถเผื่อการแลกบัตรได้ซัก 2-3 คัน ช่วยระบายไม่ให้รถติดบนถนนใหญ่ได้ค่ะ ช่องทางเข้า-ออก จะมีอยู่ 2 ช่อง เข้าและออก การรักษาความปลอดภัยของบริเวณนี้จะใช้ไม้กั้นกระดกและมีพี่รปภ.ที่อยู่ป้อมตรงกลางคอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชม.ค่ะ

    บริเวณทางเข้าจะปูพื้นด้วยคอนกรีตสแตมป์ ทั้งสองฝั่งจะมีการออกแบบ Landscape สไตล์ Tropical ช่วยสร้างความร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลยค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนทางขวามือจะมีทางเดินสำหรับคนที่เดินเข้ามาภายในโครงการ ตรงนี้จะไม่มีหลังคาหลบฝนให้นะคะ อาจจะร้อนเล็กน้อย แต่ก็เป็นเส้นทางที่สามารถเดินไปป้ายรถเมล์ที่อยู่หน้าโครงการได้สะดวกที่สุดแล้วค่ะ

    ทางเข้าจะเป็นไม้กั้นกระดก ที่เราต้องใช้ Key Card ในการเข้า-ออก ส่วนผู้ที่มาติดต่อก็จะต้องเเลกบัตรนะคะ

    ระบบ Key-Card จะต้องเปิดกระจกเพื่อเอื้อมมือออกไปแตะ Key-Card เข้ากับเครื่องอ่านก่อน ไม้กั้นกระดกก็จะยกขึ้นให้ ซึ่งระบบแบบนี้ก็จะมีข้อเสียเล็กน้อยที่เวลาฝนตกที จะเข้า-ออก คนในรถก็อาจจะเปียกได้ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆก็จะมีกล้อง CCTV ที่ติดไว้หน้าโครงการ บันทึกป้ายทะเบียนรถที่เข้า-ออกโครงการได้สะดวก

    เข้ามาโครงการจะเป็นถนนภายในโครงการค่ะ ทางเข้า-ออกจะใช้ทางเดียวกันนะคะ ส่วนที่จอดรถภายในโครงการจะอยู่ on ground หมดเลย เป็นแบบ Out door รวมแล้วจะอยู่ที่ 164 คัน จะจอดแบบเข้าซองข้างถนนหลักของโครงการนี่เลยค่ะ

    เมื่อเข้ามาพื้นที่ถนนจะเปลี่ยนเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดา เราชอบการออกแบบที่นำเอาเสาไฟฟ้าภายในโครงการชิดริมรั้วฝั่งที่จอดรถ ส่วนฝั่งขวามือที่เป็นส่วนที่พักอาศัยและภายในอาคารจะมีแนวรั้วต้นไม้สูงและแนวต้นไม้ใหญ่กั้น ทำให้พื้นที่ที่เป็นที่จอดรถจะถูกกันไว้ ไม่สามารถมองออกมาเห็นได้ค่ะ ในขณะที่ที่จอดรถก็ยังสามารถเห็นพื้นที่สีเขียวจากแนวรั้วทั้งสองด้านได้อยู่

    ตัวอาคารจะถูกวางขนานไปกับที่จอดรถซึ่งจะเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนน มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มทรงสูงกั้นพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนออกจากกัน

    ทางเข้าภายในอาคารจะอยู่ตรงกลางค่ะ ซึ่งอาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้า ส่วนอาคาร B จะอยู่ลึกเข้าไปจากถนน แต่ตำแหน่งทางเข้าและ Lobby ของทั้ง 2 อาคารจะอยู่ตรงกลางใกล้กัน มีจุด Drop-off จุดเดียวกัน ทำให้ไม่มีอาคารใด ได้เปรียบกว่ากันเรื่องเข้าถึงจากหน้าโครงการได้ใกล้กว่าค่ะ

    ที่จอดรถนอกจากด้านข้างถนนทางซ้ายมือแล้ว เลยจากทั้ง 2 อาคารเข้าไปจะมีลานจอดรถอยู่ด้านหลังอีก ขนาดใหญ่พอสมควร แต่ยังเป็นที่จอดรถกลางเเจ้งนะคะ ช่วงเวลาฝนตกอาจจะลำบากหน่อย พกร่มไว้ในรถเสมอนะคะ

    ที่ลานจอดรถก็จะมีการปลูกต้นไม้รอบๆ ถ้าต้นไม้โดเต็มที่ก็จะดูร่มรื่นมากขึ้นกว่านี้แน่นอนค่ะ

    เราจะเห็นกล้องวงจรปิดหรือ CCTV คอยติดตั้งไว้ตลอดทางบริเวณที่จอดรถ ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยให้อีกขั้น

    ปลายสุดเลยจากที่จอดรถไปจะเป็นท้ายโครงการที่ติดกับคลองแสนแสบ ตรงนั้นก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกหนึ่งจุด เป็นอะไร ตามไปชมกันค่ะ

    ส่วนนี้จะเรียกว่า Green Playground ใครที่มีครอบครัวสามารถพาคุณหนูๆมาเล่นตรงนี้ได้

    มีพื้นที่นั่งเล่นและเครื่องเล่นจัดสรรไว้ให้ ตั้งอยู่กลางพื้นที่สีเขียวริมคลองค่ะ คลองตรงนี้วันที่ไปก็ไม่มีกลิ่นรบกวนอะไรนะคะ และมีแนวต้นไม้ปลูกไว้บังทัศนียภาพที่อาจจะไม่น่าดู และยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งานพื้นที่ตรงนี้ได้อีกด้วย

    มองจากสวนท้ายโครงการกลับเข้าไป ระยะทางอาจจะไม่ได้ใกล้กับที่พักอาศัยมาก แต่ก็ถือว่ามีพื้นที่ให้เราได้เดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นได้ค่ะ ตอนดึกๆเราก็จะเห็นว่าบริเวณที่จอดรถก็จะมีไฟส่องสว่างติดตั้งไว้ให้ พระอาทิตย์ตกดินไปเดินกลับเข้าอาคารก็จะไม่มืดเกินไปค่ะ

    กลับมาที่ตัวอาคารกันบ้าง อย่างที่บอกไปว่าทางเข้าทั้งอาคาร A และอาคาร B จะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร มี Drop-off ที่ใช้ร่วมกันค่ะ การออกแบบหน้าตาของอาคารจะเน้นที่โทนสีเทาเข้ม และจะมีการ Random กรอบภายนอกด้วยเส้นสีขาวและสีน้ำตาลเหลือง ทำให้หน้าตาของอาคารดูมีลูกเล่นไม่เหมือนกันจนน่าเบื่อไปทั้งหมดค่ะ

    อาคาร A จะอยู่ใกล้กับถนนใหญ่มากกว่า ตัวอาคารจะมีผังเป็นรูปตัว L ที่ขาส่วนที่ยาวกว่ามีการบิดป้านออกไปเล็กน้อยตามเเนวที่ดินด้วยค่ะ

    ส่วนอาคาร B ที่อยู่ด้านในจะมีผังเป็นรูปตัว L เช่นกัน แนวทางการออกแบบเหมือนกันค่ะ

    พื้นที่ตรงกลางของระหว่าง 2 อาคารจะมีการตกแต่งเป็นสวนเล็กๆอยู่

    มีมุมนั่งพักผ่อน Outdoor หลายๆมุม และมีการลงต้นไม้หลากหลายพันธุ์ค่ะ

    พื้นที่ตรงนี้เนื่องจากอยู่ระหว่าง 2 อาคารพอดี ทำให้เกิดร่มเงามาจากตัวอาคาร ทำให้สามารถมานั่งใช้งานได้เเทบทั้งวันเลยค่ะ เราไปตอนเที่ยงๆก็ยังร่ม และมีลมพัดผ่านด้วยนะคะ

    เดินไปดูพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆของอาคาร A กันก่อนนะคะ ทางซ้ายมือจะเป็นประตูเข้าไปยัง Lobby ของอาคาร A ตรงไปจะเป็นสระว่ายน้ำและฟิตเนส

    เข้ามายัง Lobby ของอาคาร A พื้นที่ตรงนี้จะเป็น Double Space มีมุมนั่งพักผ่อนหลายจุด ทางซ้ายมือจะเป็นห้องทำงานของนิติบุคคล

    ทางขวามือจะเป็นพื้นที่โถงลิฟต์ บริเวณ Lobby ยังเป็นส่วนที่เเขกสามารถมานั่งรอลูกบ้านได้ แต่การจะเข้าไปยังโถงลิฟต์ได้นั้นจะมีระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นนึง

    โครงการนี้จะให้ระบบรักษาความปลอดภัยมาเป็นแบบ Face recognition หรือระบบสแกนใบหน้าของผู้อยู่อาศัยนั่นเองค่ะ

    ออกมาดูส่วนกลางอื่นๆกันบ้างนะคะ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะเป็นแบบ On ground แทบทั้งหมด จะมีสระว่ายน้ำอยู่ 2 สระ หน้าอาคาร A และอาคาร B

    นอกจากสระว่ายน้ำเเล้ว ก็จะมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ตามจุดต่างๆ เป็นพื้นที่ Outdoor ที่สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนได้ มีสวนรอบๆ คาดว่าเมื่อต้นไม้โตเต็มที่จะแผ่ร่มเงาปกคลุมมากกว่านี้ค่ะ

    เดินออกมาเราจะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 เดินขึ้นไปจะเป็นส่วนของฟิตเนสนะคะ

    ตรงนี้จะมีชื่อเรียกว่า Green Fitness เมื่อเข้ามาจะมีทั้งพื้นที่ที่เป็น Double space และพื้นที่ที่มีความสูงปกติ มองวิวไปทางหน้าอาคารได้ 3 ด้าน

    ภายในจัดเครื่องเล่นไว้ให้ค่อนข้างครบมีทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน บาร์ดัมเบล บอล เเละเครื่องที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนกลางทั้งหมดลูกบ้านทั้ง 2 อาคารสามารถมาใช้ร่วมกันได้ค่ะ

    สำหรับใครที่ต้องการใช้ห้องน้ำ ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ที่ชั้น 1 ล่างฟิตเนสเลย เข้าได้จากด้านนอกอาคารใต้บันไดนั่นแหละค่ะ เข้าไปสุดห้องน้ำหญิงจะอยู่ทางซ้าย ห้องน้ำชายจะอยู่ทางขวา

    ภายในก็จะมีฟังก์ชันให้ค่อนข้างครบแล้ว ตกแต่งด้วยสีขาวและวัสดุปิดผิวลายไม้ดูสะอาดตา มีหน้าต่างระบายอากาศภายในห้องน้ำ และมีล็อกเกอร์ให้เก็บของด้วย

    มีการตกแต่งที่ดูดีเลยทีเดียวนะคะ อ่างฝังใต้เคาน์เตอร์ มีการซ่อนไฟแบบ indirect light ทั้งด้านหลังกระจกเงาเเละฝ้าเพดาน

    ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ก็จะมีห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และโถปัสสาวะให้มาครบ

    ห้องน้ำหญิงก็จะได้ฟังก์ชันคล้ายกัน และมีการตกแต่งโทนเดียวกันค่ะ

    บรรยากาศภายในห้องน้ำหญิงค่ะ

    มาดูสระว่ายน้ำกันบ้าง โครงการนี้จะมีชื่อเรียกสระว่ายน้ำว่า Emerald Lagoon หน้าอาคาร A จะมีขนาด 25×6 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นสระระบบเกลือค่ะ

    มีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวอยู่ข้างสระด้วย มีการบังสายตาด้วยต้นไม้รอบๆสร้างความเป็นส่วนตัวจากถนนที่อยู่ถัดออกไป

    นอกจากสระปกติเเล้วก็จะมีสระเด็กอยู่ข้างๆค่ะ

    ตัวสระจะมีแนวอาคารที่เป็นรูปตัว Lโอบล้อมไว้ 2 ฝั่ง ช่วยให้เราสามารถมาใช้สระนี้ได้ระยะเวลายาวนานขึ้น เพราะว่ามีแนวอาคารช่วยเป็นร่มเงาบังเเดดให้ และสระจะถูกวางไว้ฝั่งทิศตะวันออกค่ะ

    ปลายสุดมีเตียงริมสระจัดไว้ให้นอนเล่นชิลล์ๆได้

    ไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของโครงการนี้เลยคือห้องชั้นล่างฝั่งหน้าอาคารจะได้เป็นห้องแบบ Pool Access เราจะเห็นได้ว่า 2 ห้องจะมีจุดลงไปยังสระน้ำร่วมกันได้

    ถึงเเม้จะเป็นห้องล่างที่เป็นส่วนที่คนจะเดินผ่านเข้าออกเยอะที่สุด แต่โครงการได้ออกแบบให้ตัวประตูอยู่ลึกเข้าไปจากแนวผนังอาคาร มีการปลูกต้นไม้บังสายตาจากคนที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางเเละสระว่ายน้ำ ไม่ให้มองเข้าไปเห็นห้องเราได้ นอกจากภายในห้องจะได้ความเป็นส่วนตัวเเล้ว ยังทำให้พื้นที่สระว่ายน้ำดูโอบล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวด้วยค่ะ

    เรามาดูภายในอาคาร B กันบ้าง ส่วน Lobby ก็จะมีการออกแบบคล้ายกับ Lobby อาคาร A

    ที่อาคารนี้จะไม่มี Fitness ภายในอาคาร จะต้องไปใช้ร่วมกับอาคาร A แทน แต่จะได้พื้นที่ Green working space ภายในอาคารแทนค่ะ มีทั้งเป็นมุมนั่งเล่น เเละห้องที่เป็นสัดส่วน สามารถมาใช้คุยงานประชุมงานได้

    สามารถมองวิวด้านหน้าและด้านข้างได้ เเละด้วยความสูงที่เป็น Double Space ทำให้บรรยากาศส่วนนี้ดูโปร่งโล่งมากขึ้นค่ะ

    หน้าอาคาร B ก็จะมีสระว่ายน้ำอีกเช่นกัน ฝั่งนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 29×6 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีห้องที่เป็น Pool Access เช่นกัน

    มีการปลูกต้นไม้เลียบไปตามความยาวของสระทั้ง 2 ฝั่งเลย

    จุดล้างตัวก็จะมีมาให้ 1 จุด ฝั่งที่อยู่ติดกับถนน แต่จะมีแนวต้นไม้พรางตาให้ค่ะ

    มีมุมนั่งพักผ่อน outdoor อยู่หลายๆมุมให้เลือกใช้งาน

    ลองมาดูภายในอาคารกันค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับโถงลิฟต์ค่ะ ข้างๆกันจะเป็นห้อง mail room ส่วนนี้จะแยกอาคารกันนะคะ ใครที่อยู่อาคาร B ก็จะเข้ามายังโถงลิฟต์ของอาคาร A ไม่ได้

    บรรยากาศการตกแต่งโทนลิฟต์จะเน้นเป็นลายไม้เป็นหลัก

    บรรยากาศของห้อง Mail Room จะมีให้ทั้งสองฝั่งค่ะ

    ทางเดินหน้าห้องก็จะมีบางจุดที่อยู่ใกล้หน้าต่าง สามารถเปิดหน้าต่างระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์และความชื้นได้ ทางเดินก็จะได้แสงสว่างจากธรรมชาติอีกด้วย

    แต่ก็จะมีส่วนที่ไม่ติดกับหน้าต่างเลย ส่วนนี้ก็ต้องอาศัยการเปิดไฟทางเดินช่วยตลอดเวลาค่ะ นอกจากนี้ทางเดินจะเป็นแบบ Double corridor ประตูห้องก็จะตรงกันข้ามกันเลย สามารถมองเข้าไปเห็นภายในห้องฝั่งตรงข้ามได้ง่ายมาก

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • Lobby
    • สระว่ายน้ำ (emeral lagoon) 2 สระ ระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร หน้าอาคาร A ขนาด 25 x 6 เมตร หน้าอาคาร B ขนาด 29×6 เมตร
    • ห้องออกกำลังกาย (Green Fitness) 1 ห้อง
    • Outdoor Green Space สวนหย่อมรอบโครงการ
    • Face detection : ระบบสแกนใบหน้า
    • Free Wifi ในพื้นที่ส่วนกลาง
    • ลิฟต์ล็อคชั้น
    • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ :  126:1
    • ที่จอดรถประมาณ 164 คันคิดเป็น 32%
    • ระบบ CCTV / Access Card
    • รถตู้รับส่งที่ the mall บางกะปิ (คิดค่าบริการเพิ่มเติม)


    Product Walkthrough

    ห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมวันนี้จะมีทั้งหมด 2 ห้องนะคะ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งคู่เลย โดยห้องแรกจะเป็นห้องที่หันหน้าไปทางด้านหน้าอาคารหรือทิศตะวันออก ส่วนอีกห้องจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ทั้ง 2 แบบนี้จะเป็น Unit type ที่มีเยอะที่สุดภายในโครงการเลย แต่ห้องที่เราจะพาไปชมจะอยู่ที่ชั้น 1 ดังนั้นจะมีระเบียงที่เพิ่มขึ้นมาทำให้ขนาดห้องจะต่างจากห้องชั้นอื่นๆอยู่ประมาณ 7 ตร.ม. โครงการนี้จะขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์หลักๆมาครบ ตอนนี้ก็สร้างเสร็จพร้อมอยู่กันเเล้วด้วย เราไปชมภายในห้องกันเลยดีกว่าค่ะ

    ห้องแรกที่เราจะพาไปชมเป็นห้อง Type C ขนาดประมาณ 36-37.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Pool Access สามารถลงสระว่ายน้ำจากระเบียงได้เลย ตัวห้องเป็นห้องหน้ากว้าง มีครัวปิด และห้องนอนที่มีประตูทึบ แยกสัดส่วนออกมาสร้างความเป็นส่วนตัวออกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ ห้องนี้เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารก่อน โดยห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโซฟา ต่อเนื่องจากพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับครัวปิด ซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ครัวนี้จะให้มาเฉพาะเคาน์เตอร์และอ่างล้างจาน ไม่มีเตาให้มานะคะ พื้นที่ตรงนี้จะต่อเนื่องไปกับระเบียง ซึ่งเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า วาง CDU แต่สำหรับห้องที่อยู่ชั้นล่าง จะสามารถเดินออกไปอีกส่วน(ที่เป็นเส้นประ) เพื่อเดินไปยังสระว่ายน้ำได้เลย เเละพื้นที่ระเบียงที่กว้างเต็มหน้ากว้างของห้อง ใช้งานได้เต็มที่ค่ะ

    อย่างที่บอกไปว่าโครงการนี้จะขายเป็นแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในห้องนี้จะมีทั้งหมดดังนี้ค่ะ

    1. โซฟา
    2. โต๊ะหน้าโซฟา
    3. ชั้นวางโทรทัศน์
    4. เตียงนอน
    5. โต๊ะข้างเตียง X 2
    6. โต๊ะทานอาหาร
    7. เก้าอี้ทานอาหาร X 2
    8. โต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้ครบชุด
    9. ตู้เสื้อผ้า
    10. ชั้นวางของปลายเตียง

    ประตูเข้าห้องจะเป็นบานทึบสีขาว มี Digital door lock ของ Samsung ให้มาทุกห้อง มีมือจับแบบก้านโยก ป้ายเลขที่ห้อง และตาแมวให้มา ระดับพื้นภายในห้องจะสูงกว่าบริเวณทางเดินเล็กน้อย กันฝุ่นผง ความสกปรกจากบริเวณทางเดินปลิวเข้าห้องได้ค่ะ

    เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นส่วนเดียวกับพื้นที่รับประทานอาหารกันก่อน ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ เเละประตูทางเข้าห้องนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องครัว โดยห้องนี้จะมีความสูงอยู่ที่ 2.4 เมตร วัสดุมาตรฐานก็จะมีพื้น ได้เป็นพื้นลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีขาว และไฟส่องสว่างเป็นไฟดาวน์ไลท์ ห้องนี้ทั้งหมดจะมีขนาดรวมประมาณ 6.8×4.55 เมตร ส่วนห้องนั่งเล่นสามารถรับแสงสว่างที่เข้ามาจากห้องครัวได้ แต่ก็อาจจะลึกเข้ามาหน่อยนะคะ วันฟ้าหม่นก็อาจจะต้องเปิดไฟตลอดเวลาขณะใช้งาน

    พื้นที่ส่วนนั่งเล่นนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 2.95 x 2.7 เมตร  ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 2.5 เมตร สามารถเลือกทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ

    ทางเดินจะอยู่ที่ 90 ซม. ถือว่าเดินผ่านเข้าออกสบายอยู่นะคะ ไม่ต้องหลบเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย ประตูห้องเมื่อเปิดเข้ามาก็มีติดตั้ง Door Stopper ให้มา ช่วยกันไม่ให้ประตูเปิดไปชนชั้นวางทีวีที่อยู่ข้างๆด้วย

    โซฟาและโต๊ะวางของหน้าโซฟาที่ได้มาจะหน้าตาแบบนี้ค่ะ

    อีกฝั่งจะเป็นตำแหน่งวางทีวี ซึ่งจะอยู่ข้างๆกันกับประตูทางเข้าห้องน้ำเลย

    ชั้นวางทีวีจะได้มาเฉพาะชิ้นล่างนะคะ มีช่องใส่ของต่างๆดีไซน์ล้อไปกับหน้าตาของอาคาร ช่องเก็บของก็จะมีทั้งบานเปิดสวิงเเละลิ้นชัก เน้นโทนมีขาวเเละลายไม้ ให้เข้ากับแนวความคิดการออกแบบโครงการที่เน้นความ Green ขนาดจะอยู่ที่ 1.20×0.35 เมตร

    ติดกับกับโซฟาจะเป็นชุดรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง

    ดีไซน์จะได้แบบนี้เลย แต่การใช้งานอาจจะลำบากเล็กน้อยเพราะฝั่งที่อยู่ติดกับโซฟาไม่สามารถเลื่อนถอยออกมาได้อีก การใช้งานอาจจะต้องเลื่อนเก้าอี้ออกมาวางข้างกันทำมุม 90 องศาแทนค่ะ แต่เวลาเก็บก็ตามภาพเลย เพื่อให้เหลือระยะทางเดินสะดวก

    ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิด เข้าออกผ่านประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้แสงจากภายนอกยังสามารถเข้ามายังส่วนห้องนั่งเล่นได้ ตัวรางมีทั้งบนและร่างเปิด-ปิดสะดวก แต่จะเป็นการเปิด- ปิดได้ทางเดียวนะคะ

    พื้นที่ในครัวจะมีขนาดประมาณ 2×1.8 เมตร พื้นครัวจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องเซรามิคแทนค่ะ ทางเดินตรงนี้จะค่อนข้างกว้างเลย ขนาดอยู่ที่ 1.15 เมตร คนนึงใช้งานครัว อีกคนยังสามารถเดินสวนเข้า-ออกไปยังระเบียงได้สะดวก

    ครัวจะให้เคาน์เตอร์มาหน้าตาแบบนี้ มีช่องสำหรับวางตู้เย็นอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์

    เคาน์เตอร์จะมีขนาด 1.3 เมตร ไม่มีเตากับ Back splash ให้มา เราอาจจะติดกระเบื้องบริเวณผนังด้านหลังเพิ่มได้ ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และใครที่ชอบทำอาหารเราอาจจะซื้อเตาไฟฟ้าแบบวางบนเคาน์เตอร์มาใช้ได้นะคะ พอไม่ใช้ก็ยกเก็บได้ จะได้มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์เหลือสำหรับเตรียมอาหารได้ สำหรับใครที่กลัวเรื่องกลิ่นควัน โชคดีที่ตำแหน่งครัวนี้จะอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศออกไปนอกห้องได้เต็มที่

    ตู้ชิ้นบนจะเป็นบานเปิดสวิงมีชั้นวางต่างๆดังภาพ เเละมีหมุดให้เเขวนผ้าเช็ดมือหรือว่าอุปกรณ์ทำครัวด้วย โครงการนี้จะมีซิลิโคนกันกระเเทกติดไว้ให้ เวลาเราปิดตู้ก็จะไม่กระแทกเสียงดังจนเกินไป

    ส่วนชิ้นล่างจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟได้ มีลิ้นชักและตู้บานเปิดสวิงเก็บของอื่นๆได้อีกค่ะ

    ต่อจากครัวจะเป็นพื้นที่ออกไปสู่ระเบียงค่ะ ตรงนี้จะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนค่ะ ซึ่งเมื่อเรามองจากภายในห้องเราก็ยังจะเห็น CDU และเครื่องซักผ้าที่อยู่ตรงระเบียงได้ค่ะ

    ภายในห้องและระเบียงจะมีธรณีประตูก่อสูงขึ้นมาจากพื้น ทำให้ฝุ่นจากระเบียงไม่ปลิววน หรือถูกลมพัดเข้ามาให้ห้องได้ง่ายด้วย

    ระเบียงนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 1 x 1.4 เมตรเป็นตำแหน่งวาง CDU ค่ะ เป็นแบบแขวนผนัง ลมร้อนจะเป่าข้าง ตรงนี้เราอาจจะติดกริลเพิ่มเพื่อเบื่องเเอร์ให้เป่าออกไปยังภายนอกอาคารได้ เวลาเราใช้งานระเบียงก็จะได้สบายขึ้นด้วย เเละเมื่อมองจากภายนอก จะมีระเเนงเหล็กกล่องพรางพื้นที่ตรงนี้ไว้ ทำให้ดูเรียบร้อยมากขึ้นค่ะ

    ด้านล่างตำแหน่งวาง CDU เราสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ มีเดินงานระบบไว้ให้เรียบร้อย

    สำหรับห้องที่เป็น Pool Access จะมีระเบียงอีกส่วนหนึ่งขนาดประมาณ 7 ตร.ม.เพิ่มขึ้นมาค่ะ ตรงนี้จะมีรั้วกั้นเเละประตูเปิด-ปิด ตรงลงสระว่ายน้ำได้เลย

    พื้นที่ระเบียงก็จะมีขนาดประมาณ 4.4×1.5 เมตร สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ แบบที่ไม่ต้องปลูกต้นไม้ก็ยังได้พื้นที่สีเขียว เพราะโครงการมีการปลูกเเนวต้นไม้ให้เเล้วเพื่อพรางตาจากคนอื่นที่มาใช้งานสระว่ายน้ำ ไม่ให้มองเข้ามาภายในห้องเราได้ค่ะ

    ห้อง 2 ยูนิตก็จะใช้ทางลงสระร่วมกัน 1 จุด ห้องข้างๆกันก็จะทักทายกันได้ตรงนี้

    ดังนั้นห้องที่อยู่ที่ชั้น 1 ก็จะได้วิวที่เป็นสระว่ายน้ำ บรรยากาศสไตล์รีสอร์ทค่ะ

    กลับเข้าห้องมาดูพื้นที่ส่วนอื่นๆกันต่อ เดี๋ยวเราจะพาไปดูภายในห้องน้ำกันนะคะ

    ห้องน้ำจะเป็นแนวลึกเข้าไปแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันโดยมีธรณีกั้น ขนาดห้องน้ำรวมเเล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1.35 x 2.3 เมตร เเละมีความสูงอยู่ที่ 2.3 เมตร วัสดุกรุพื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาเเละสีขาวทั้งหมด

    ภายในห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย ทำให้ทำความสะอาดได้สะดวกมากขึ้น เวลาล้างห้องน้ำ ก็ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะไหลออกนอกห้องน้ำ

    พื้นที่ส่วนแห้งก็จะมีโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าแบบเเขวนผนังพร้อมกระจกเงา มีตำแหน่งปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบให้มาด้วยตรงผนังข้างๆอ่าง เผื่อใครจะเป่าผม ม้วนผมในห้องน้ำก็สะดวกขึ้น และมีราวเเขวนผ้าเช็ดตัวติดตั้งไว้ให้ตรงนั้น

    อ่างล้างหน้าจะได้ของ Cotto มีพื้นที่วางอุปกรณ์แปรงฟัน ล้างมือเล็กน้อยขอบอ่าง ใครว่าไม่พออาจจะหาชั้นวางของมาติดเพิ่มได้นะคะ

    โถสุขภัณฑ์ได้เป็นของ Cotto เช่นกัน ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่วางกระดาษชำระ

    พื้นที่อาบน้ำจะอยู่ในสุด ตรงนี้จะมีการเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้

    พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดอยู่ที่ 1.00×0,90 เมตร ใช้งานหมุนตัวสะดวกอยู่ และยังมีการติดตั้งก๊อกน้ำซักล้างไว้ให้ด้วย

    บริเวณผนังจะมีช่องเข้าไปสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำพวกโฟมล้างหน้า แชมพู ยาสระผมเพิ่มเติมได้ หรือเราจะติดชั้นวางเพิ่มขึ้นก็ได้เผื่อช่องอื่นๆเอาไว้วางเทียนหอม อุปกรณ์ที่เราซื้อมาตุน

    ฝักบัวอาบน้ำจะได้เป็นแบบสายอ่อน มีที่วางสบู่ให้มาด้วย ของ Prema

    ต่อมาจะไปดูห้องนอนกันบ้างนะคะ ห้องนอนห้องที่นี่จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 2.55×4.0 เมตร หน้าต่างที่ได้จะเป็นบานเลื่อน และดีไซน์ที่กว้างเกือบเต็มความกว้างห้อง เเละสูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเป็น Low wall ทำให้ภายในห้องได้แสงสว่างจากภายนอกเต็มที่ อย่างห้องนี้เป็น Pool Access ด้านนอกก็จะมีการปลูกเเนวต้นไม้ไว้ให้เเล้ว ทำให้ห้องนี้มองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวเต็มๆ ดูสบายตาค่ะ

    โครงการจะมีเตียงมาให้แล้วเเต่ขนาด 5 ฟุต ไม่ได้ให้ฟูกมานะคะ

    ฐานเตียงจะมีฟังก์ชันที่เป็นลิ้นชัก สามารถเลื่อนออกมาเก็บของเพิ่มเติมใต้เตียงได้

    ปลายเตียงจะมีทางเดินเหลือประมาณ 0.40 เมตร ไม่สามารถวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆได้นะคะ แต่ถ้าใครอยากติดทีวีที่ผนังปลายเตียงก็ยังสามารถติดตั้งได้อยู่

    ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างจะมีทางเดินเหลือ 0.85 เมตร ถือว่ากว้างเลยค่ะ มีโต๊ะข้างหัวเตียงมาให้หน้าตาแบบนี้

    ตรงมุมห้องฝั่งนี้ที่ติดกับหน้าต่างจะมีช่องเว้าเข้าไป มี Built-in เฟอร์นิเจอร์เป็นชั้นวางทีวีให้มา เเต่ถ้าเราจะวางทีวีตรงนี้ก็อาจจะต้องนอนดูทีวีแบบเอียงๆแทน ดังนั้นมุมนี้เราอาจะเป็นพื้นที่วางของเเทน หรือไม่ก็อาจจะปรับเป็นมุมทำงานส่วนตัวภายในห้องนอนแทนก็ได้นะคะ พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 0.90×0.30 เมตร

    มาดูอีกฝั่งของห้องนอนกันบ้างค่ะ ฝั่งนั้นจะมีมุมข้างประตูที่เป็นตู้เสื้อผ้า มุมแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้ง

    ข้างเตียงฝั่งนี้จึงมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างเลย มีโต๊ะหัวเตียงให้มาด้วย และมีโต๊ะเครื่องแป้งให้มาด้วย

    หน้าตาของโต๊ะหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นแบบนี้ ดีไซน์โทนเดียวกันกับชั้นวางทีวีข้างนอก มีลิ้นชักเก็บของเเละช่องโล่งด้านล่าง สามารถวางหนังสือหรืออะไรที่เราอ่านก่อนนอนได้ค่ะ

    ชุดโต๊ะเครื่องแป้งก็มีลิ้นชักให้มาแบบนี้ พร้อมเก้าอี้และปลั๊กไฟ เผื่อใครแต่งหน้าทำผมก็จะสะดวกเลย

    ตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานเปิด ด้านในก็จะมีราวเเขวนผ้า ลิ้นชัก ชั้นวางต่างๆให้มาแบบนี้ค่ะ หน้าบานก็จะมีกระจกเงาให้ด้วย สามารถตรวจเช็คการเเต่งตัวก่อนออกจากบ้านได้เลย

    หน้าตู้เสื้อผ้าจะมีระยะอยู่ที่ 0.90 เมตร สามารถยืนเช็คได้ทั้งตัว ผนังข้างๆเราอาจจะติดหมุดเเขวนเพิ่มได้ เผื่อใครจะเเขวนพวกเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ หรือจะเป็นพวกกระเป๋าก็ได้ค่ะ

    มาดูห้องตัวอย่างอีกแบบกันนะคะ ห้องนี้จะเป็นห้อง Type A Garden Access ที่อยู่ฝั่งด้านหลังอาคาร เป็นห้องชั้น 1 มีระเบียงใกล้ชิดสวน ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 31.2 ตร.ม. ตำแหน่งฟังก์ชันภายในห้องจะคล้ายกันกับห้องที่แล้วนะคะ คือเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ส่วนนั่งเล่น ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นห้องน้ำ ต่อกับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัว ซึ่งได้เป็นครัวปิดเช่นกัน แต่ตรงนี้จะมีความต่างกันตรงที่โต๊ะรับประทานอาหารจะถูกนำมาวางไว้ที่ห้องครัวแทน โดยครัวก็จะเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจก 2 ด้าน ฝั่งนึงเชื่อมเข้าสู่ห้องนั่งเล่น อีกฝั่งเชื่อมเข้าสู่ระเบียง พื้นที่ระเบียงสำหรับห้องที่เป็น Garden Access ก็จะมีระบียงกว้างออกไปจากชั้นบนอีกประมาณ 0.90 เมตร มีความกว้างเต็มหน้ากว้างของห้อง ส่วนในห้องนอนจะมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ยังวางเตียง 5 ฟุตได้อยู่ค่ะ แต่ตำแหน่งการวางเตียงจะถูกดันไปชิดกับหน้าต่างเเทน ทำให้ห้องนี้มีโต๊ะหัวเตียงให้อยู่ฝั่งเดียว และอีกหนึ่งจุดที่แตกต่างคือตู้เสื้อผ้า ที่ตำแหน่งจะหันเข้าเตียง ทำให้ระยะการใช้งานจะเล็กลงจากเดิม และฟังก์ชันอย่างโต๊ะเครื่องแป้งจะหายไป กลายเป็นชั้นวางพร้อมกระจกเงาข้างตู้เสื้อผ้าแทน ซึ่งก็อาจจะเหมาะกับคุณผู้ชายหรือคนที่ไม่ได้เน้นการแต่งตัวมากก็ได้ค่ะ

    สำหรับห้องนี้เมื่อเข้ามาในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลย ซึ่งเชื่อมต่อไปยังครัวได้ส่วนทางซ้ายมือของภาพจะเป็นห้องนอนค่ะ ในกรณีกลางวันที่เราอยู่คนเดียว เราสามารถเปิดประตูทิ้งไว้ แสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนอนก็จะส่องเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มได้อีกด้วย ช่วยให้ห้องสว่างขึ้นค่ะ ในส่วนของวัสดุทุกอย่างก็จะได้เหมือนกันกับห้องที่เเล้วนะคะ พื้นห้องนอนห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนต ห้องน้ำและห้องครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังและฝ้าจะได้มาเป็นฉาบเรียบทาสี ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ค่ะ

    พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีขนาดประมาณ 2.70×2.35 เมตร สามารถวางโซฟาชิดเข้ามุมห้องได้เลย มีโต๊ะหน้าโซฟาให้มาตามภาพ

    ระยะทางเดินจะอยู่ที่ 1 เมตร เดินเข้า-ออก ใช้งานสะดวกค่ะ

    ชุดโซฟาที่ได้จะหน้าตาแบบนี้เป็นแบบ 2 ที่นั่งเข้ามุม

    ฝั่งตรงข้ามจะเป็นชั้นวางทีวีดีไซน์เหมือนเดิมค่ะ

    ตรงชั้นวางทีวีก็จะมีการเดินงานระบบต่างๆไว้ให้ครบเลย ตำแหน่งทีวีก็จะตรงข้ามกับโซฟาพอดี

    เข้ามาดูในห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำก็จะเหมือนเดิมค่ะ เปิดประตูมาจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อน มีอ่างล้างหน้าแบบเเขวนผนัง เเละโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พื้นที่บริเวณนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 1.4×1.35 เมตร

    ข้างๆอ่างล้างหน้าก็จะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำให้มาเช่นกัน

    พื้นที่ส่วนเปียกก็จะอยู่ด้านในทางซ้ายมือ มีขนาดประมาณ 1.0×0.90 เมตร จัดว่าใช้งานหมุนตัวสะดวก มีก๊อกน้ำซักล้างให้มา มีช่องตรงผนังใส่อุปกรณ์อาบน้ำได้ ตรงนี้ไม่มีฉากกั้นมาให้ แต่เราสามารถไปหาซื้อฉากกั้นมาติดตั้งเพิ่มเองได้ เวลาใช้งานน้ำจากการอาบน้ำจะได้ไม่เปียกไปทั่วห้องน้ำด้วย

    ต่อไปจะไปดูที่ห้องครัวกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าจะเป็นกระจก ในขณะที่ประตูห้องนอนจะเป็นบานทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว

    ประตูทางเข้าครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ช่วยให้แสงจากภายนอกเข้ามายังส่วนนั่งเล่นได้

    ห้องนี้จะมีความแตกต่างจากห้องที่แล้วตรงที่ส่วนครัวและส่วนที่นั่งรับประทานอาหารจะรวมอยู่ด้วยกัน คืออุ่นอาหารเสร็จก็สามารถนั่งทานได้เลย หลายๆคนก็จะชอบห้องแบบนี้ตรงที่เวลาที่เราทานอาหารมีกลิ่นแรง กลิ่นจากอาหารก็จะไม่ติดไปตามเบาะภายในโซฟาห้องนั่งเล่น

    พื้นที่ส่วนนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 1.78×2 เมตร เมื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์ลงไปจะเหลือทางเดินอยู่ที่ประมาณ 60 ซม. ถือว่าพอเดินเข้าออกได้ แต่ถ้ามีคนนึงใช้งานเคาน์เตอร์ครัวอยู่ อีกคนก็ไม่สามารถเดินผ่านได้ค่ะ

    ชุดครัว Built-in ที่ให้มาจะเหมือนกันกับห้องเมื่อสักครู่ ตัวเคาน์เตอร์จะมีขนาดอยู่ที่กว้างประมาณ 1.3 เมตร อ่างล้างจานจะได้ของ MEX

    ส่วนชุดโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นแบบ 2 ที่นั่งถือว่ามีระยะสำหรับเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกใช้งานสะดวกค่ะ ส่วนหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ก็จะได้แบบนี้เลย

    ถัดออกไปจะเป็นระเบียงสำหรับวางเครื่องซักผ้าและ CDU ตัวระเบียงจะมีขนาดอยู่ที่ 1×1.4 เมตร คล้ายกับห้องที่แล้ว เมื่อจัดวางเครื่องซักผ้าและ CDU ไว้ฝั่งนึงแล้วยังเหลือทางเดินเข้า-ออกได้สะดวกค่ะ

    ที่บอกว่าเข้า-ออกได้เพราะว่าห้องที่เป็น Garden Access จะเป็นห้องที่มีระเบียงกว้างขึ้นมา

    เป็นระเบียงที่ยาวเต็มหน้ากว้างห้อง ถึงเเม้ว่าจะเปิดประตูเดินออกไปยังสวนเหมือนกับสระว่ายน้ำไม่ได้ แต่ก็สามารถเลืกหาชุดเฟอร์นิเจอร์ Outdoor มาวางเป็นมุมนั่งเล่นชมสวนด้านหลังได้เหมือนกันนะคะ ระเบียงจะมีขนาด 0.90×4.4 เมตร

    มาดูที่ห้องนอนกันบ้าง ประตูห้องนอนจะเป็นบานทึบ ลูกบิดประตูจะได้เป็นมือจับกลม เมื่อเข้ามาห้องนี้จะมีเตียง 5 ฟุตวางไว้ให้ แต่จะถูกวางชิดไปที่หน้าต่างหน่อย ส่วนบานหน้าต่างก็จะได็แบบเต็มความกว้างของห้องและสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อง(Low wall) ทำให้แสงเข้ามาได้เต็มที่ค่ะ

    เตียงดีไซน์แบบมีลิ้นชักข้างเตียงให้ มีอยู่ด้านเดียวฝั่งประตู มีระยะข้างเตียงที่เลื่อนเข้า-ออกได้สะดวก

    ปลายเตียงจะเหลือทางเดินประมาณ 0.45 เมตร ยังพอเดินเข้า-ออกได้ค่ะ

    ส่วนฝั่งที่ติดกับหน้าต่างจะเหลือที่ประมาณ 20 ซม. เอาไว้ติดรางม่านได้

    ส่วนปลายเตียงมุมห้องมี Built-in มาให้เเบบนี้ มีพื้นที่ด้านใต้สามารถหากล่องใส่ของเเละมาจัดเก็บบริเวณนี้ได้ค่ะ

    มองย้อนกลับออกไปเราจะเห็นว่าผนังข้างประตูจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า และมีชั้นวางของอยู่ข้างๆตู้

    ข้างตู้จะมีกระจกเงาให้มาด้วย เนื่องจากห้องนี้เราจะไม่มีโต๊ะเครื่องเเป้งให้มา อาจจะต้องปรับพื้นที่ข้างตู้มาเป็นพื้นที่วางเครื่องสำอางค์แต่หน้าแทน หรือเราจะหาโต๊ะเครื่องแป้งมาวางตรงนี้เพิ่มก็ได้นะคะ

    นอกจากนี้ข้างเตียงฝั่งนี้จะมีโต๊ะข้างหัวเตียงให้มา เเต่เมื่อจัดวางลงไปแล้วทำให้ไม่มีระยะหน้าตู้เสื้อผ้าเหลือเท่าไหร่ ทีนี้เวลาเราจะเลือกเสื้อผ้าอะไรในตู้ก็จะลำบากหน่อย

    ตู้เสื้อผ้าถึงแม้จะให้มาเป็นบานเลื่อนเเต่ด้วยความกว้างที่อยู่ประมาณ 0.90 เมตร อาจจะไม่พอสำหรับคนที่อาศัยกัน 2 คน หรือลูกบ้านสายแฟชั่นเท่าไหร่นะคะ อาจจะต้องเอาพื้นที่ข้างตู้ปรับเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มแทน

    ส่วนปลายเตียงจะมีผนังที่เราสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังไว้ในห้องนอนก็ได้ หรือจะหาหมุดมาเเปะไว้ที่กำแพงเผื่อจะเป็นที่เเขวนร่ม เเขวนเสื้อผ้าหรือกระเป๋าอื่นๆเพิ่มเติมได้ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 FEBRUARY 2019

    • 1 Bedroom 24.4 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
    • 1 Bedroom Pool access 36 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.12 ล้านบาท
    • Fully Furnished
    • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • รถตู้รับ-ส่ง เดอะมอลล์ บางกะปิ
    • จอง 10,000 บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล – ติดถนนเสรีไทยฝั่งขาเข้าเมือง ใกล้กับบางกะปิ ซึ่งถือเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งตลาดบางกะปิ ตลาดนัดตะวันนา ห้างสรรพสินค้าอย่าง The Mall บางกะปิ Hyper Market ทั้งโลตัส Makro ใกล้แยกบางกะปินี้ ไปจนถึงเเหล่งงานที่อยู่ทั้งบนถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง ทั้งบริษัทเเละบุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆใกล้เคียง บนถนนศรีนครินทร์และถนนนวมินทร์ รวมไปถึงยังมีสถานศึกษาอย่างนิด้าอีกด้วย จึงถือว่าเป็นทำเลที่มีความคึกคักไปด้วยผู้คนตลอดเวลา และด้วยความที่แยกบางกะปิเป็นแยกที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหนทางต่างๆได้หลากหลาย แต่ว่าการจราจรมักจะติดขัดเสมอ ดังนั้นจึงมีความต้องการทางด้านที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นบริเวณนี้อยู่ด้วย จึงเกิดโครงการประเภทคอนโดมิเนียมเยอะขึ้นในช่วงหลัง เพื่อรองรับกลุ่มคนทำงานบริเวณนี้หรือนักศึกษาที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก และมีความอุดมสมบูรณ์สูง

    การเดินทางโดยใช้รถ – สามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง จากถนนเสรีไทยเองสามารถออกเมืองไปยังมีนบุรี สวนสยามได้ หรือจะเข้าเมืองไปยังเดอะมอลล์บางกะปิได้ในระยะ 2.5 กม. ความสะดวกอีกอย่างของทำเลนี้เมื่อเดินทางเข้ามายังโครงการคือหลังจากผ่านแยกนิด้า สามารถกลับรถได้ตั้งแต่จุดกลับรถเเรก ซึ่งถือว่าสะดวกขึ้นมาก และจากถนนเสรีไทย สามารถเชื่อมกับถนนศรีบูรพา เพื่อไปยังถนนรามคำแหงได้ ตัวถนนรามคำแหงเองก็ใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังเส้นพระราม 9 ได้สะดวกเช่นกัน หรือวิ่งยาวไปยังพระขโนงได้เลย ต่อมาจากแยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนลาดพร้าว ที่สามารถใช้เดินทางไปยังเส้นเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราได้ หรือจะไปยังรัชดา-ลาดพร้าว หรือจะยาวไปยังห้าเเยกลาดพร้าวเลยก็ได้ หรือจะเชื่อมไปยังถนนนวมินทร์เพื่อใช้ไปยังรามอินทราก็ถือว่าสะดวกเช่นกัน เเต่จะมีข้อควรระวังอยู่ที่ ปัจจุบัน บนถนนลาดพร้าวเเละถนนรามคำแหงมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเเละสายสีส้มอยู่ ทำให้การจราจรสาหัสมากจริงๆค่ะ ในส่วนของจำนวนที่จอดรถ โครงการนี้สามารถจอดได้ 164 คัน หรือประมาณ 32% ซึ่งถือว่าไม่ได้ให้มามากนะคะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ความสะดวกอีกอย่างนึงของทำเลนี้เลยคือระบบขนส่งมวลชนที่หลากหลาย ตั้งแต่หน้าโครงการเลยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ สามารถใช้เดินทางไปยังเดอะมอลล์บางกะปิได้ง่าย ซึ่งตรงเดอะมอลล์ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการเดินทางอีกจุดนึงเลย ทั้งมีรถเมล์หลายสาย และรถตู้ที่ให้บริการหลากหลายเส้นทางเลย เรียกว่าจากเดอะมอลล์บางกะปิสามารถเดินทางไปได้รอบกรุงเทพเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีท่าเรือที่อยู่ไม่ไกล (สถานีวัดศรีบุญเรือง) ใช้เดินทางหนีรถติดไปยังเส้นเพชรบุรี ประตูน้ำ ไปจนถึงผ่านฟ้าได้เลย ส่วนระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าก็กำลังเร่งก่อสร้างอยู่ สายสีส้ม ที่จะเดินทางจากมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีคลองบ้านม้า ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กม. ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะวิ่งมาจากลาดพร้าวไปยังสำโรง สถานีที่ใกล้โครงการเราที่สุดจะเป็นสถานีบางกะปิ ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม.ค่ะ 

    วัสดุ – ขายเป็นแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์หลักๆให้มาครบ โครงการก็สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เลย วัสดุต่างๆที่ให้ก็จะเป็นพื้นลามิเนต ผนังเเละฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานเป็นดาวน์ไลท์ มีห้องน้ำ ระเบียง ที่จะได้พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค ส่วนผนังห้องน้ำก็จะกรุด้วยเซรามิคเช่นกัน ครัวให้มาเป็นครัวปิด ไม่มีเตามาให้ มีแต่ Built-inเคาน์เตอร์และอ่างล้างจานของ MEX ส่วนในห้องน้ำสุขภัณฑ์หลักๆจะได้เป็นของ Cotto ค่ะ ส่วนฝักบัวจะเป็นของ Prema

    การออกแบบ – ด้วยแนวความคิดของโครงการที่จะเน้นพื้นที่สีเขียว และการออกแบบสไตล์ Tropical Resort ทำให้เราจะเห็นตั้งแต่การวางผังเลยว่าจะมีการเเยกพื้นที่ส่วนที่รถสามารถเข้าถึงได้ กับพื้นที่ส่วนอยู่อาศัยจากกันอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองส่วนก็จะมีการปลูกต้นไม้รอบๆรั้ว และมีพื้นที่สีเขียวเเทรกตัวอยู่ตลอด ในรอบๆอาคารมีการจัด Landscape ที่เน้นต้นไม้เมืองร้อนนานาพันธุ์ บรรยากาศเหมือนพักผ่อนอยู่ตามรีสอร์ทค่ะ ในส่วนของห้องพักแต่ละชั้นจำนวนก็จะเยอะหน่อย และการวางตำแหน่งลิฟต์ที่อิงมากทางปีกนึงของอาคารเลย ทำให้จะมีห้องพักที่ต้องเดินจากลิฟต์ไปค่อนข้างไกลหน่อย แต่ห้องโซนนั้นก็จะได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นแทน ในส่วนการออกแบบภายในห้องพัก หลักๆคือจะเป็นห้องหน้ากว้างที่สามารถแบ่งพื้นที่ครึ่งนึงเป็นห้องนอนและอีกครึ่งเป็นส่วนครัวได้ ทำให้แทบทุกห้องจะได้ครัวและห้องนอนอยู่ติดผนังอาคาร ได้รับแสงสว่างเเละระบายอากาศได้ดี และยังสามารถกั้นให้ห้องนอนเป็นห้องที่มีประตูทึบปิดได้มิดชิดอีกด้วย เพิ่มความเป็นส่วนตัวเมื่อมีเเขกมาเยี่ยมเยือนได้ค่ะ

    สาธารณูปโภค – พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดในโครงการจะอยู่ On Ground แต่จะถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวเพิ่มความร่มรื่นได้มาก ในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งานอาจจะไม่ได้หลากหลายหรือแปลกใหม่ คือจะมีฟังก์ชันมาตรฐานให้มาครบค่ะ มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ Lobby สวนและ Co-working Space แต่ขนาดที่ให้มาถือว่าไม่น้อยเลย เช่นสระว่ายน้ำที่ให้มาถึง 2 สระ ขนาดก็ยาวมากกว่า 25 เมตรเลยทั้งคู่ หรือจะเป็นฟิตเนสที่มี Double Space ภายใน

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคา AVG 70,000 บาท/ตร.ม., 28 February 2019

    • ทำเล 7.5/10 – ใกล้บางกะปิ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูง
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – มีเส้นทางหลากหลายให้เลือกเดินทาง
    • ไม่ใช้รถ 8/10 – โครงการติดถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์หน้าโครงการ มีรถตู้รับ-ส่งเดอะมอลล์บางกะปิ(คิดค่าบริการเพิ่มเติม)
    • วัสดุ 7.25/10 – มาตรฐานตามระดับคอนโดนี้ค่ะ
    • แบบ 8/10 – ใช้เเนวคิดแบบ Tropical Resort ออกแบบมาร่มรื่นสวยงามตาม Concept
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ขนาดใหญ่ ใช้งานได้เต็มที่ พื้นที่เหมาะสมกับจำนวนยูนิต

    • MAIN CLASS
    • 7.64 / 10.00

    BOTTOM LINE

    iCONDO Green Space เสรีไทย เป็นคอนโด Low Rise ใกล้แยกนิด้า บางกะปิ เหมาะกับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยทำเลนี้ เน้นการเดินทางหลากหลายทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัว และการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ห้องพักสร้างเสร็จพร้อมอยู่ อาศัย 1-2 คน ชอบพื้นที่สีเขียวและส่วนกลางที่ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กจนเกินไป มีงบประมาณ 2-3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000-21,000 บาทต่อเดือน