..ใครที่ชอบห้องฝ้าเพดานสูงเชิญทางนี้ เพราะคอนโด Flexi รัตนาธิเบศร์ สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะครับ โดยจะเป็นโครงการที่มีการออกแบบแตกต่างจากเพื่อนบ้าน และคอนโดแบรนด์ Flexi ทำเลอื่นๆ ด้วยลักษณะห้องฝ้าเพดานสูง 3.6 m. ที่เรียกว่า Cloud Space ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งได้เต็มที่มากขึ้น หรือถ้าเป็นห้องแบบ Simplex ก็จะมีฝ้าที่สูงกว่าปกติอยู่ที่ 3 m. ส่วนจุดเด่นอื่นๆหรือ Highlights ที่น่าสนใจจะมีดังนี้ครับ

  • ห้องฝ้าเพดานสูง 3 – 3.6 m. มีความโปร่งโล่ง และสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งของห้องเพิ่มเติมได้
  • ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT บางกระสอ ในระยะเดินถึงได้สบายๆ
  • ให้ส่วนกลางมาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย และมีสระว่ายน้ำในร่มให้ใช้งาน

ข้อมูลโครงการ

Flexi Rattanathibet (เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์) ณ วันที่ 25 มกราคม 2566

 ชื่อโครงการ  Flexi Rattanathibet (เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกะสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
 ที่ดิน  1-3-52 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  474 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  17 ยูนิต
 ที่จอดรถ  130 คัน หรือคิดเป็น 27%
 เริ่มก่อสร้าง  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 28.5 – 29 ตร.ม.
  • 1 Bedroom KC-Out พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Cloud Space ขนาดโฉนด 31 – 32 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Simplex พื้นที่ใช้สอย 49 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Cloud Space ขนาดโฉนด 48 – 49 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 51.5 – 52.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  ห้องแบบ Simplex สูง 3 เมตร, ห้องแบบ Cloud Space สูง 3.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.89 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ https://www.sena.co.th/project/flexi-rattanathibet
 Call Center  1775 กด 47

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า เดินทางไปทำงานในเมืองได้สะดวก และเรียกรถสาธารณะหน้าโครงการได้ง่าย
  • ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT สถานีบางกระสอ ในระยะเดินได้ง่ายเพียง 270 m.
  • ใกล้ห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัล / BigC / Esplanade และ The Mall งามวงศ์วาน รวมถึงยังมีตลาดขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกล หาของกินได้ง่าย
  • ใกล้ทางด่วนศรีรัชเพียง 4.5 km.

พิกัด Google Maps : 13.863210, 100.501022
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Flexi รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า ทำให้สามารถเดินทางไปทำงานในเมืองได้ง่ายมากๆ เพราะถ้าตรงเลยแยกแครายมาอีกหน่อยก็จะเจอกับทางด่วนศรีรัชแล้วครับ รวมถึงยังอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์เพียง 350 m. มีซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง BigC และตลาดยอดฮิตของคนในย่านอย่าง ตลาดนกฮูก และตลาดต้นสัก ให้เราเดินซื้อของเข้าบ้านง่ายๆได้อีกด้วย จึงนับว่าเป็นทำเลที่ใช้ชีวิตได้สะดวกเลยครับ

นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่มีศูนย์ราชการสำคัญๆเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงพาณิชย์ สำนักงาน ปปช. และกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงทำให้เหมาะกับคนที่อาจรับราชการอยู่แถวๆสนามบินน้ำ-ติวานนท์ แถมยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง อุทยานมกุฏรมยสราญให้ไปเดินเล่น/วิ่งออกกำลังกายกันได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้ย่านนี้เจริญและเดินทางสะดวกมากขึ้นก็คือ “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” ซึ่งโครงการนี้ก็จะอยู่ระหว่าง MRT สถานีบางกระสอ และ MRT สถานีแยกนนทบุรี นั่นเองครับ

รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด :

โดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT บางกระสอ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 270 m. เป็นระยะที่เดินได้สบายๆครับ และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีบางซ่อน หรือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูนก็ได้

จุดกลับรถที่ใกล้ที่สุด :

เป็นทำเลที่มีระยะกลับรถที่สะดวกมากๆ โดยจะอยู่ห่างจากสะพานกลับรถทั้ง 2 ฝั่งประมาณ 1 – 1.5 km. ซึ่งเป็นระยะที่ปลอดภัยในการใช้งาน สามารถใช้ชีวิตขับรถไปทำงาน หรือวนรถไปช้อปปิ้งที่ห้างใกล้บ้านได้สะดวกเลย

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

สำหรับใครที่ต้องขับรถไปทำงานในเมืองเป็นหลัก จะมีทางด่วนศรีรัชให้ใช้งานอยู่ในระยะ 4.5 km. โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปวนกลับรถมาก่อนเลยครับ

นอกจากนี้ที่ตั้งโครงการยังพอจะมองเห็น “วิวแม่น้ำเจ้าพระยา” จากระยะไกลได้อีกด้วยครับ โดยจะอยู่ห่างประมาณ 3 km. ซึ่งห้องที่จะมองเห็นก็อาจต้องเป็นชั้นสูงๆสัก 25 – 30 ขึ้นไป และเป็นทิศใต้กับตะวันตกครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทรอบๆโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ จึงสามารถเรียกรถสาธารณะได้ง่ายมาก อีกทั้งยังมีชุมชนแนวราบและคอนโดสูงอยู่ข้างเคียง ดังนั้นจึงจะมีบางทิศที่อาจโดนบล็อควิวทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วยครับ

แต่ทิศที่ค่อนข้างการันตีวิวเปิดโล่งได้ระดับหนึ่งก็คือ “ทิศใต้” หรือด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนใหญ่ เพราะฝั่งตรงข้ามจะเป็นชุมชนแนวราบเล็กๆ ซึ่งการจะรวมเป็นที่ดินผืนใหญ่เพื่อทำคอนโดสูงก็จะมีโอกาสน้อยกว่านั่นเอง แต่ก็แลกมากับเป็นทิศที่แดดอาจร้อนอยู่สักหน่อยนะ

ภาพจากชั้นดาดฟ้าที่ 36

ทิศเหนือ : ติดกับ City Home Rattanathibet อาคารพักอาศัยสูง 24 ชั้น ดังนั้นหากต้องการวิวที่เปิดโล่งก็อาจต้องเป็นชั้นประมาณ 20 กว่าๆขึ้นไป ซึ่งด้านหลังเป็นวิวศูนย์ราชการของสนามบินน้ำครับ

ภาพจากชั้นดาดฟ้าที่ 36

ทิศใต้ : เป็นทางเข้าด้านหน้าโครงการ ติดกับ ถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ฝั่งตรงข้ามเป็นชุมชนแนวราบจึงไม่บังวิว และสามารถเห็นแม่น้ำระยะไกลๆได้ด้วย แต่อาจต้องเป็นห้องชั้นสูงๆ 25 – 30 ขึ้นไปนะครับ

ภาพจากชั้นดาดฟ้าที่ 36

ทิศตะวันออก : ติดกับ ซอยรัตนาธิเบศร์ 26 และชุมชนแนวราบ ซึ่งปากซอยยังมีที่ดินว่างผืนใหญ่ที่อาจกลายเป็นโครงการสูงขึ้นมาบังวิวได้ในอนาคต หรือถัดไปก็จะมีคอนโดลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน สูง 29 – 30 ชั้นบังวิวอยู่แล้วเช่นกัน แต่ถ้าเป็นชั้นสูงๆ 30 ขึ้นมาก็จะมองเลยไปเห็นวิวในเมืองฝั่งติวานนท์-แยกแครายได้ครับ

ภาพจากชั้นดาดฟ้าที่ 36

ทิศตะวันตก : ติดกับ ชุมชนแนวราบ และปัจจุบันเราจะได้วิวเปิดโล่งที่มองไปยังเซ็นทรัล+วิวแม่น้ำไกลๆทางฝั่งธน เพียงแต่ทางทิศนี้ก็จะเห็นว่ามีที่ดินว่างผืนใหญ่อยู่ ซึ่งก็จะมีโครงการสูงเกิดขึ้นในอนาคตมาบังวิวส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน แต่ก็จะไม่ได้อยู่ในระยะประชิดครับ

เรามาเดินดูทำเลรอบๆกันสักหน่อย เริ่มจากทางด้านซ้ายของโครงการจะอยู่ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4 – 5 ชั้น และถัดมาก็จะเป็นทางเข้าของ City Home ซึ่งด้านในจะมีเซเว่นตั้งอยู่ด้วย ระยะทางเพียง 120 m. สามารถเดินมาได้สบายๆ

และถ้าเดินต่อมาอีกประมาณ 350 m. ผ่านที่ดินแปลงที่ว่างอยู่มาหน่อย ก็จะถึงเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์แล้วครับ

ซึ่งถึงแม้จะเป็นระยะที่พอเดินได้ แต่ปกติก็คงขับรถมาอยู่ดีครับ เพราะมีสะพานกลับรถให้ใช้งานสะดวกอยู่แล้วนั่นเอง

กลับมาที่หน้าโครงการอีกครั้ง ทางด้านขวาจะอยู่ติดกับอาคารสูง 1 – 2 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ตรงปากซอยรัตนาธิเบศร์ 26 รวมถึงยังมีร้านอาหารให้อุดหนุนกันด้วย ส่วนด้านในซอยจะเป็นชุมชนและอู่ซ่อมรถนะครับ

นอกจากนี้เรายังสามารถเดินบนทางเท้าเรื่อยๆ เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า MRT สถานีบางกระสอ ได้อีกด้วยครับ โดยระหว่างทางก็จะผ่านอาคารพาณิชย์ต่างๆ ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ และคอนโดลุมพินี

เดินมาเรื่อยๆประมาณ 270 m. ก็จะเจอกับบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งใกล้กว่าเดินไปเซ็นทรัลเมื่อครู่เท่าตัวเลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ~ 350 m. (ระยะเดิน)
  • BigC รัตนาธิเบศร์ ~ 1.6 km.
  • Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย ~ 2 km.
  • Lotus แคราย ~ 2.2 km.
  • ตลาดนกฮูก ~ 4.1 km.
  • ตลาดสินทอง ~ 4.7 km.
  • ตลาดต้นสัก นนทบุรี ~ 5.1 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.พระนั่งเกล้า ~ 5.1 km.
  • รพ.ทรวงอก ~ 2.5 km.
  • รพ.นนทเวช ~ 4.8 km.
  • รพ.วิภาวดี ~ 10.3 km.

โรงเรียน

  • รร.นนทบุรีคริสเตียนวิทยา ~ 4.2 km.
  • รร.สาธิตคริสเตียนวิทยา ~ 4.2 km.
  • ม.ราชมงคลเทคโนโลยีสุวรรณภูมิ ~ 4.3 km.
  • รร.นานาชาติ St.Andrews สามัคคี ~ 8.2 km.

สถานที่ราชการ

  • ศูนย์ราชการ จ.นนทบุรี ~ 1.5 km.
  • อุทยานมกุฏรมยสราญ ~ 1.7 km.
  • กระทรวงสาธารณสุข ~ 3.8 km.
  • สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ~ 6.4 km.
  • สำนักงาน ปปช. ~ 6.6 km.
  • กระทรวงพาณิชย์ ~ 6.9 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • ส่วนกลางให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต มีความสวยงามน่าใช้งาน สามารถชมวิวมุมสูงได้
  • สระว่ายน้ำในร่มยาวกว่า 20 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังทั้งวัน
  • ฟิตเนสใหญ่มาก มีหลายโซนให้เลือกเล่นเหมือนเป็น Gym ตามห้างดังๆ
  • มีการแบ่งโซนชัดเจนดีไม่รบกวนกัน ระหว่างพื้นที่ส่วนกลาง ทางสัญจร และโซนพักอาศัย
  • มีตำแหน่งห้องน่าสนใจหลายจุด ทั้งห้องมุมที่มีขนาดใหญ่ เปิดรับวิวถึง 2 ด้าน และห้องที่ได้ Single Corridor มีความเป็นส่วนตัวสูง

“Flexi” เป็นแบรนด์คอนโดใหม่จากเสนา ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 1 – 2 ปีที่แล้ว โดยตั้งใจจะให้เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ใน GEN Y, GEN Z ที่รักในการใช้ชีวิตแบบอิสระ ตามคอนเซปต์  “FLEXI YOUR LIFE” ใช้ชีวิตยืดหยุ่นได้ตามใจ ให้คุณได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ในทุกด้านของชีวิต

..ปัจจุบันคอนโดแบรนด์นี้ได้มีการเปิดตัวมา 3 – 4 ทำเลแล้วครับ แต่สำหรับโครงการ Flexi รัตนาธิเบศร์ จะมีความพิเศษไม่เหมือนทำเลอื่นๆเลยคือ จะมีรูปแบบห้องเป็นฝ้าเพดานสูงที่เรียกว่า Cloud Space จึงทำให้มีความโปร่งโล่ง และเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวสูงของห้องเพิ่มได้ รวมถึงยังเป็นตัว Top ที่เรียกได้ว่า Premium ที่สุดของแบรนด์นี้ในปัจจุบันอีกด้วย

Master Plan ของโครงการชั้น 1 จุดที่ผมชอบคือ “การออกแบบทางสัญจร” ที่แยกกันชัดเจน ซึ่งเส้นทางเดินของรถยนต์จะแยกออกมาจากพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ จึงทำให้บริเวณ Lobby และสวนด้านหน้ามีความเป็นส่วนตัว สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย จะเดินข้ามผ่านลานกว้าง หรือมาเดินเล่นที่สวนก็ไม่ต้องระวังรถวิ่งผ่าน อีกทั้งสวนด้านหน้ายังทำหน้าที่เป็น Buffer กันฝุ่น/เสียง/พรางสายตา จากรถที่ผ่านไป-มาบนถนนใหญ่ด้านนอกได้อีกด้วย

ส่วนพื้นที่ภายในอาคารหลักๆ ก็จะเป็นส่วนต้อนรับอย่าง Lobby หรือ Flexi Lounge และ Meeting Room ที่เอาไว้รับรองแขกจากภายนอกได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องพาขึ้นอาคารให้เสียความเป็นส่วนตัว และการขึ้นอาคารก็จะต้องใช้ Key Card Access เข้าไปบริเวณโถงลิฟต์เพื่อความปลอดภัย ซึ่งคนภายนอกจะไม่สามารถเข้าไปได้นั่นเองครับ

เริ่มกันที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการ จะเห็นว่าพื้นที่ดินมีการยกระดับให้สูงขึ้นจากพื้นถนนพอสมควร หมดกังวลเรื่องน้ำท่วมในอนาคตไปได้เลยครับ

ด้านซ้ายมือจะเป็น Drop-Off ให้วนรถรับ-ส่งคนได้บริเวณใต้อาคาร และลูกบ้านก็สามารถเดินเข้า Lobby ได้แบบชิลๆ ไม่ต้องกลัวแดดร้อนหรือฝนตก

ซึ่งรถแท็กซี่/บุคคลภายนอกจะสามารถวนกลับออกไปได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลาแลกบัตรให้ยุ่งยาก และไม่ต้องขับเข้าไปในโครงการให้เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเอง

แต่ถ้าเป็นลูกบ้านจะเข้าไปจอดรถในอาคาร ก็ต้องผ่านป้อม รปภ. และไม้กั้นกระดกที่อยู่ทางขวามือก่อนนะครับ ซึ่งจะเปิดแบบอัตโนมัติด้วยสัญญาณ Bluetooth เหมือน Easy Pass บนทางด่วน มาพร้อมกับกล้อง CCTV คอยตรวจจับภาพเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนนะ

ด้านข้างของอาคารทางซ้ายมือจะเป็นที่จอดรถของ Visitor และยังมีช่องจอดสำหรับ EV Charger ไว้คอยให้บริการอีกด้วย

แปลนชั้น 2 – 6 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมดครับ สามารถจอดได้ 130 คัน หรือคิดเป็น 27% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะทำเลนี้เรายังมีการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และรถไฟฟ้า โดยชั้นจอดรถเหล่านี้จะมีโถงลิฟต์ให้ใช้ตรงขึ้นสูงชั้นพักอาศัยได้สะดวกเลยครับ

ทางขึ้นชั้นจอดรถจะอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร และจะเป็นทางเดินรถแบบ Two-way ซึ่งเราอาจต้องใช้ความระมัดระวังรถที่ขับสวนทางกันไป-มา ตรงบริเวณทางโค้งด้วยนะครับ

ส่วนตรงกลางชั้นจอดรถก็จะมีโถงลิฟต์ให้ใช้งานขึ้นชั้นพักอาศัยแบบนี้ได้สะดวก

กลับลงมาที่ด้านหน้าโครงการอีกครั้ง ต่อไปเราจะเข้าไปดูภายในอาคารกันบ้างครับ

เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับ Flexi Lounge หรือโถง Lobby ขนาดใหญ่ ซึ่งตกแต่งด้วยผนังสีสันสวยงาม ดูสดใสและสนุกสนานมากครับ

ภายในมีชุดโซฟาให้นั่งเล่นพักผ่อน และพบปะกับเพื่อนๆได้หลายชุด อีกทั้งยังสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวภายนอก โดยผ่านช่องแสงขนาดใหญ่เหล่านี้ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของสวนด้านหน้าโครงการแห่งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและความร่มรื่นให้แก่โครงการแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น Buffer คอยกันฝุ่น/เสียงจากถนนใหญ่ด้านหน้า และช่วยพรางสายตาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนในโครงการได้อีกด้วยครับ

ถัดเข้ามาด้านใน Lobby ก็จะมีห้อง Meeting Room ที่อยู่ตรงกลาง และห้องนิติบุคคลอยู่ทางด้านขวามือ

ภายในห้อง Meeting Room จะมีโต๊ะขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่ง พร้อมกับโซฟาที่สามารถประชุมร่วมกันเป็น 10 คนเลยก็ได้ครับ ซึ่งเราอาจไว้ใช้คุยงานแบบส่วนตัว โดยเฉพาะกับบุคคลภายนอกที่อาจไม่สะดวกพาขึ้นอาคาร ก็สามารถมาใช้ฟังก์ชันตรงนี้ได้เลย

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ที่ต้องใช้ Key Card Access สำหรับลูกบ้านเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ด้านในจะมีลิฟต์โดยสารและ Mailbox ให้แวะรับจดหมายก่อนขึ้นห้องได้สะดวก

แปลนชั้น 7 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยและส่วนกลางอยู่ร่วมกัน ซึ่งจะมีประตูกระจกกั้นโซนเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยจะมีอยู่ถึง 2 จุดด้วยกัน ทำให้คนที่พักห้องแต่ละด้านของอาคารจะไม่ต้องเสียเวลาเดินอ้อมโถงลิฟต์ตรงกลางไป-มานั่นเอง

ส่วนกลางหลักๆจะมี Co-Working Space และสวนเล็กๆ จัดเป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยได้ใช้เสียงหรือมีความวุ่นวายมากนัก ทำให้เป็นชั้นที่อาจเหมาะกับคนที่ชอบมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนที่สวนแบบส่วนตัวชิลๆแบบนี้ครับ

บรรยากาศของโถงลิฟต์ชั้น 7 จะมีความสว่างโปร่งโล่งกว่าชั้นอื่นๆ เพราะจะอยู่ติดกับช่องแสงและสวนโดยตรง ซึ่งถ้าเป็นโซนห้องพักอาศัยก็จะต้องใช้ Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยครับ

ห้องกระจกตรงกลางจะเป็น Co-Working Space สำหรับโซนแรกจะมีชุดโซฟาและเก้าอี้ให้มานั่งเล่น/อ่านหนังสือ/ทำงานกันได้แบบชิลๆ โดยบริเวณใต้โซฟาจะมีปลั๊กไฟให้ใช้งานได้สะดวกหลายตำแหน่งเลยครับ

โซนที่ 2 จะสามารถเลื่อนประตูกระจกมากั้นไว้ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นได้ ซึ่งภายในจะเป็นโต๊ะให้นั่งทำงานกันได้แบบจริงจังมากขึ้น โดยจะมานั่งทำงานแบบเดี่ยวหรือแบบกลุ่มกับเพื่อนๆก็ได้ครับ

ซึ่งนอกจากเราจะสามารถทำงาน/อ่านหนังสือ พร้อมกับชมวิวพื้นที่สีเขียวด้านนอกไปด้วยได้แล้ว ยังมีดีไซน์ของโต๊ะให้เชื่อมต่อกัน ระหว่างพื้นที่ภายในกับภายนอกแบบนี้ด้วยครับ

สำหรับสวนภายนอกในอนาคตก็อาจมีพวกโต๊ะ/เก้าอี้มาลงเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงาน/อ่านหนังสือนอกอาคารกันได้ด้วย ที่โดดเด่นมากๆก็คือ Island Table ขนาดใหญ่ตรงกลาง ซึ่งอาจใช้พื้นที่ตรงนี้ในการจัดกิจกรรมหรือปาร์ตี้ก็ได้นะ

แปลนชั้น 8 – 34 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยจะมีเพื่อนบ้าน 17 ห้อง/ชั้น ลักษณะอาคารเป็นรูปตัว L ที่จะไม่มีการบังวิวกันเอง ซึ่งถ้าใครอยากจะเน้นวิวที่เปิดโล่งและมีโอกาสน้อยที่จะถูกบังวิวในอนาคต ผมแนะนำเป็นห้องทางทิศใต้ที่หันไปทางถนนใหญ่ด้านหน้าโครงการ โดยชั้นสูงๆจะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ไกลๆได้อีกด้วย เพียงแต่อาจเป็นทิศที่แดดค่อนข้างร้อน และเป็นห้องใหญ่ที่ราคาสูงอยู่สักหน่อยนะครับ ส่วนตำแหน่งห้องอื่นๆที่น่าสนใจจะมีดังต่อไปนี้

  • สีแดง : เป็นห้อง 2 Bedrooms ที่จะอยู่ตรงมุมอาคาร ได้วิวทั้ง 2 ฝั่ง และยังระบายอากาศได้ดี โดยจะมีเพียงชั้นละ 3 ยูนิตเท่านั้น
  • สีส้ม : เป็นห้อง 1 Bedroom ที่นอกจากจะได้วิวเปิดโล่งแล้ว ยังได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัวหน้าห้องค่อนข้างสูงนั่นเอง
  • สีน้ำเงิน : เป็นห้อง 1 Bedroom ที่อยู่ตรงสุดทางเดิน และผนังไม่ติดกับเพื่อนบ้านเลย จึงเป็นอีกห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากข้างห้อง

ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศของโถงลิฟต์ และโถงทางเดินบนชั้นพักอาศัยนะครับ ซึ่งก็จะดูเรียบร้อยเหมือนกับโครงการทั่วๆไป ข้อสังเกตหนึ่งสำหรับบริเวณหน้าโถงลิต์ เนื่องจากเค้าจะไม่ได้อยู่ติดกับช่องแสงใดๆ เลยจะต้องเปิดไฟช่วยตลอดเวลา

รวมถึงผนังทั้ง 2 ด้านจะเป็นคอนกรีตที่ค่อนข้างหนา (ด้านหนึ่งก็คอร์ลิฟต์ อีกด้านก็ผนังกันไฟของบันไดหนีไฟ) ดังนั้นบริเวณนี้จึงอาจเป็นจุดอับสัญญาณของโทรศัพท์บางค่ายได้ครับ (สังเกตจากตอนที่เดินดูโครงการกับเจ้าหน้าที่หลายๆคน)

แปลนชั้น 35 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดครับ โดยมีฟังก์ชันหลักๆอย่าง Fitness / Bike Gym / Battle Rope / Boxing และ Dance & Yoga Room ให้เราสามารถขึ้นมาเลือกออกกำลังกายกันได้ตามความชอบ

รวมถึงยังมี Sunset Club & Game ให้มานั่งเล่นพักผ่อน ชมวิวพระอาทิตย์ตก และจัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆได้ หรือถ้าใครอยากจะขึ้นมานั่งทำงานก็จะมี Flexi Studio ที่เป็นเหมือน Workshop ส่วนตัวให้ใช้งานอีกด้วยนะ

นี่คือบรรยากาศของโถงทางเดินหลักบนชั้น 35 ซึ่งส่วนตัวผมชอบมากๆ ดูทันสมัยและเหมือนได้เดินอยู่ตามห้างข้างนอกเลยครับ โดยแต่ละฟังก์ชันก็จะกั้นด้วยผนังกระจกเพื่อความโปร่งโล่ง ทำให้เราสามารถมองเห็น Activity ของคนที่มาใช้งานได้ ตอนอยู่จริงก็คงจะมีบรรยากาศคึกคักน่าดู

เริ่มกันที่ห้องแรกทางซ้ายมือจะเป็น Flexi Studio หรือเป็นห้อง Workshop ที่ด้านในจะมีโต๊ะขนาดใหญ่ให้เราได้มานั่งทำงานจริงจังกันได้ เพราะงานบางอย่างก็อาจต้องใช้พื้นที่ในการทำงานเยอะ หรือบางครั้งก็ต้องทำร่วมกับเพื่อนหลายๆคน ซึ่งถ้าพื้นที่ในห้องคอนโดไม่เพียงพอ ก็สามารถมาใช้งานตรงนี้กันได้นะครับ

ติดกันจะเป็น Sunset Club & Game ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะเป็นห้องที่หันไปทางทิศตะวันตก ช่วงเย็นๆเราจะสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆได้ด้วย อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ให้เราได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆได้ โดยหลักๆก็จะเป็นโต๊ะพูล และอนาคตก็อาจมีพวก Board Games อื่นๆเพิ่มเข้ามาด้วยก็ได้

ด้านในจะมีเคาน์เตอร์บาร์ให้มานั่งจิบเครื่องดื่ม และเหมาะจะใช้จัดปาร์ตี้ร่วมกับเพื่อนๆมากๆครับ โดยด้านในก็จะมีพวกตู้เย็นและอ่างล้างจานให้ยืมใช้งานครบ

ถัดมาจะเป็นฟังก์ชันหลักอย่าง Fitness ที่มีขนาดใหญ่มากๆ ด้านในมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ และแบ่งเป็นโซนแยกกันชัดเจนตามประเภทของอุปกรณ์ อย่างโซนด้านหน้าสุดก็จะเป็น Weight Training เอาไว้เล่นกล้ามกระชับสัดส่วน

ส่วนด้านในจะเป็นกลุ่ม Cardio เอาไว้มาเบิร์นเผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย มีทั้งลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยานให้ใช้งานหลายตัว

โดยเราสามารถวิ่งไปพร้อมกับชมวิวมุมสูงไปด้วยแบบนี้ได้เลยครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของ และห้อง Bike Gym แยกออกมาจากโซนอื่นๆ เหมาะที่จะชวนเพื่อนๆมาเปิดคลาสลดหุ่นลดพุงกันเป็นกลุ่มได้ พร้อมกับมีทีวีจอใหญ่ให้ดูหนังฟังเพลงไปด้วยแบบเพลินๆ

อีกห้องหนึ่งจะเป็นโซน Boxing ให้มาฝึกต่อยมวยกันได้ โดยอนาคตจะมี Stage และอุปกรณ์สำหรับต่อยมวยเข้ามาเพิ่มให้อีกนะครับ ส่วน Battle Rope ก็จะเป็นเชือกที่เอาไว้แกว่งเพื่อออกกำลังแขนให้กล้ามโตๆได้

อีกด้านหนึ่งของชั้นนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย/หญิงให้ใช้งานได้สะดวก รวมถึงยังมีฟังก์ชันส่วนกลางอีก 2 อย่างคือ Dance & Yoga Room และสวนสาธารณะด้านนอก ซึ่งจะอยู่ตรงสุดทางเดินครับ

สำหรับ Dance & Yoga Room จะเป็นห้องที่ล้อมรอบด้วยผนังกระจกและช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถชมวิวสวนและตัวเมืองที่อยู่ภายนอกได้ โดยภายในจะมีพวกเสื่อและบอลโยคะให้ใช้งาน จะมายืดเส้นยืดสาย เล่นโยคะ หรือเต้นแอโรบิคก็ได้ครับ

ส่วนภายนอกจะเป็นสวนที่เราสามารถออกมาเดินเล่น และชมวิวมุมสูงของชั้น 35 แบบนี้ได้

แปลนชั้น 36 จะเป็นอีกหนึ่งชั้น Main Facilities ที่หลักๆก็จะเป็นสระว่ายน้ำทั้งชั้นเลย รวมถึงยังมีพื้นที่นั่งเล่นชมวิว และมีห้องน้ำให้ใช้งานในชั้นเดียวกันได้สะดวกอีกด้วย

สระว่ายน้ำของโครงการนี้จะเป็นสระแบบในร่ม ที่เราสามารถขึ้นมาใช้งานได้ตลอดเวลาไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝนอีกต่อไป แถมยังมีลมเย็นๆคอยพัดผ่าน และสามารถว่ายไปเกาะขอบสระเพื่อชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย

โดยสระนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นน้ำตื้นเค้าจะทำเป็นเบาะขนาดใหญ่ ให้เราได้มานั่ง/นอนเล่นพักผ่อนกันชิลๆได้ และส่วนที่เป็นน้ำลึกอีกด้านก็จะเอาไว้ว่ายน้ำจริงจังครับ

ด้านขวาของสระจะเป็นส่วนที่เรียกว่า Outdoor Seat เป็นพื้นที่ต่างระดับพร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้ให้มานั่งเล่นชมวิวกันได้ โดยจะอยู่ติดกับระบบน้ำล้นที่ปลายสระ ให้เราได้ฟังเสียงน้ำเอื่อยๆเพลินๆไปครับ

อีกด้านของสระก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเหมือนกัน โดยจะเป็นชุดโซฟาเบาะผ้าแบบจริงจัง ซึ่งบอกเลยว่าตรงนี้ลมเย็นมากๆ เพราะเป็นบริเวณช่องลมของอาคารพอดี อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ Safety ต่างๆเตรียมเอาไว้ให้พร้อมเผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย

สระว่ายน้ำมีขนาด 20 x 6 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง แถมยังชมวิวสวยๆจากมุมสูงแบบนี้ได้อีกด้วย

ส่วนบริเวณข้างสระก็จะมี Shower ให้ล้างตัวก่อนลงว่ายน้ำ และยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานครบอีกด้วย

ภายในก็จะมีโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำครับ ถึงจะมีแค่อย่างละห้องสำหรับฝั่งผู้ชาย แต่ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ใช้งานภายในชั้นเดียวกับสระได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนชั้นหรือต้องกลับไปอาบที่ห้องตัวเองให้ยุ่งยาก

ชั้นดาดฟ้าหรือ Rooftop ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สวนกลางแจ้งให้ขึ้นมาเดินเล่นและชมวิวกันได้ โดยจะแบ่งเป็นหลักๆ 3 โซนคือ Organic Garden หรือแปลงปลูกผักสวนครัว / Bar&Hangout เป็นจุดที่เหมาะกับจัดปาร์ตี้หรือนั่งเล่นชิลๆ / ส่วนบริเวณ Garden จะเป็นพื้นที่โล่งกว้างเอาไว้ทำกิจกรรมอื่นๆได้ในอนนาคต ซึ่งการจะขึ้นมาบนชั้นนี้ได้จะต้องเดินขึ้นบันไดหนีไฟมาจากชั้น 36 ก่อนหน้านี้ครับ

ขึ้นบันไดมาเราจะเจอกับโซน Bar&Hangout ที่อยู่ตรงกลาง พร้อมกับสวนเล่นระดับอีกนิดหน่อย โดยอนาคตอาจมีการนำโต๊ะ/เก้าอี้มาวางเพิ่มให้นะครับ

ส่วนบริเวณปลายสวนจะเป็นแปลงปลูกผัก Organic ที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาเก็บผลผลิต และนำไปประกอบอาหารของเองตัวเองได้ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ขึ้นอยู่กับการจัดการของนิติในอนาคต)

ส่วนอีกด้านก็จะเป็นสวนที่เน้นพื้นหญ้าจริงเป็นหลัก ดังนั้นจึงแนะนำให้ขึ้นมาใช้ตอนช่วงแดดร่มๆหน่อยจะดีกว่าครับ โดยเราสามารถมานั่งเล่น เดินชมวิว หรือจะใช้ลานกว้างไว้จัดกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆก็ได้

สุดท้ายคือบันไดนี้จะเชื่อมต่อไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ด้านบน ซึ่งปกติก็อาจไม่ได้ให้ลูกบ้านขึ้นมาใช้งานเพื่อความปลอดภัยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

  • Flexi Lounge
  • Meeting Room
  • Mail Box
  • Delivery Area
  • First Aid
  • Garden
  • Parking
  • EV Charger
  • Laundry

ชั้น 7

  • Co-Working Space
  • Relaxing Space (Garden)

ชั้น 35

  • Fitness
  • Bike Gym
  • Battle Rope Gym
  • Boxing
  • Dance And Yoga
  • Sunset Club And Game Room
  • Flexi Studio

ชั้น 36

  • Cloud Swimming Pool ขนาด 20 x 6 m.
  • Outdoor Seat
  • Outdoor Shower Zone

Rooftop

  • Private Lounge
  • Organic Garden
  • Party Zone / Bar&Hangout

 

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 158 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 130 คัน หรือคิดเป็น 27%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access / RFID หรือ Bluetooth Access

 

แบบห้อง

Highlights :

  • ห้องฝ้าเพดานสูง 3 – 3.6 m. และเป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนใครในย่าน ทำให้มีความสูงโปร่ง สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งได้มากขึ้น
  • ช่องแสงมีขนาดใหญ่ เน้นใช้ผนังกระจกภายในเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางและโปร่งโล่งมากขึ้น
  • Fully Furnished ดีไซน์แบบ Made From Her เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่

โครงการ Flexi รัตนาธิเบศร์ จะมีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ โดยจะมีห้อง Type พิเศษที่ทางโครงการเรียกว่า Cloud Space ซึ่งจะมีบางห้องและบางฟังก์ชันที่ได้ฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3.6 m. ที่ไม่เหมือนใครในย่าน สามารถจัดเป็นพื้นที่ชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นได้ และมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 28.5 – 29 ตร.ม.
  • 1 Bedroom KC-Out พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Cloud Space ขนาดโฉนด 31 – 32 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Simplex พื้นที่ใช้สอย 49 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Cloud Space ขนาดโฉนด 48 – 49 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 51.5 – 52.5 ตร.ม.

  • 1 Bedroom KC-Out พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.

จุดเด่นของแปลนนี้ก็คือ ห้องนอนจะกั้นด้วยผนังทึบแยกจาก Living Area จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งพื้นที่ข้างเตียงก็ยังมีขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นโต๊ะนั่งทำงานริมหน้าต่างได้อีกด้วย ส่วนห้องน้ำก็สามารถเข้าได้จากในห้องนอนเลยครับ เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือลุกมาเข้าตอนกลางดึกก็จะสะดวกมากๆ

แต่ถ้ามีแขกมาใช้งานในบางครั้ง ก็อาจต้องเสียความเป็นส่วนตัวสักเล็กน้อย เพราะจะต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน นอกจากนี้ครัวก็มีขนาดใหญ่ทีเดียว แถมยังอยู่ติดกับระเบียงด้วย จึงสามารถเปิดระบายอากาศเพื่อทำอาหารจริงจังได้เต็มที่เลย ทำให้เป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ชอบความเป็นส่วนตัว หรือจะชอบทำอาหารทานเองก็ได้อีกด้วย

ประตูหน้าห้องจะเป็นไม้บานทึบที่มีช่องตาแมว พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐาน ธรณีประตูจะมีการยกขอบพื้นสูงขึ้นมาเพื่อกันเศษฝุ่นไม่ให้เข้าห้อง รวมถึงด้านหลังบานประตูก็จะมี Stopper ติดตั้งเอาไว้เพื่อกันกระแทกด้วยครับ

ภายในเราจะพบกับ Common Area ก่อนเป็นอันดับแรก แถมยังสัมผัสได้ถึงความสูงโปร่งของฝ้าเพดาน ที่สูงกว่าห้องทั่วไปอยู่ที่ 3 m. พร้อมกับปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตสีธรรมชาติ

อีกหนึ่งข้อดีของห้องฝ้าเพดานสูงแบบนี้คือ เราสามารถใช้พื้นที่แนวตั้งให้เป็นประโยชน์ได้ด้วย โดยอาจติดตู้/ชั้นวางของแขวนผนังที่ด้านบน ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นได้ครับ

บริเวณหน้าห้องจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้รองเท้า และโต๊ะทานอาหารครับ

โดยตู้ใบนี้ทางโครงการก็จะ Built-in มาให้แบบนี้เลย สามารถใช้เก็บรองเท้าเข้าตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงยังใช้วางของที่เราอาจต้องหยิบจับก่อนออกจากห้องเป็นประจำได้ด้วย

ส่วนพื้นที่บนผนังก็อย่าทำให้สูญเปล่าครับ เราอาจติดที่แขวนของ/แขวนกุญแจเพิ่มเติม และด้านบนก็ Built-in ตู้แขวนลอยเพิ่มเข้าไปอีกก็ได้ ซึ่งจะช่วยซ่อนเบรคเกอร์ไฟฟ้าตรงนี้ไปได้แบบเนียนๆเลย

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถนั่งทานข้าวไปและดูทีวีไปด้วยได้ แต่หากใครที่คิดว่ามุมนี้ตอนกลางคืนจะมืดเกินไป ก็อาจติดตั้งโคมไฟสวยๆห้อยลงมาจากด้านบน เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศตอนดินเนอร์ก็ได้นะครับ

ถัดเข้ามาจะเป็น Living Area ซึ่งจะอยู่ใกล้กับช่องแสงที่ส่องผ่านมาจากระเบียงและห้องครัว โดยจะมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.35 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้ก็จะมีโซฟากับชั้นวางทีวีตามห้องตัวอย่างเลย

ถัดมาจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน ที่กั้นระหว่างครัวและ Living Area ทำให้ช่วยกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหารได้ โดยจะเป็นกระจกเขียวตัดแสงและกรอบอลูมิเนียมสีดำ

ซึ่งภายในห้องก็จะได้แสงสว่างจากระเบียงที่ส่องเข้ามา แต่ความร้อนจะถูกกักเอาไว้แค่ภายในครัวเท่านั้น เหมือนเรามีฟังก์ชันช่วยกรองถึง 2 ชั้นนั่นเองครับ ส่วนภายในห้องครัวก็จะมีพื้นที่กว้าง 1.3 m. สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 ฝั่งได้สบายๆ

ภายในครัวค่อนข้างกว้างขวาง อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้โดยตรง และสามารถทำครัวได้อย่างจริงจังเลยครับ

Top เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำและความร้อนได้ดี พร้อมติดตั้ง Hob&Hood จาก TEKA และเราอาจติด Backsplash ที่ผนังเพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายมากขึ้นก็ได้ครับ ส่วนช่องเก็บของผมก็ว่าเพียงพอสำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนนะ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และตู้เก็บของอีกใบหนึ่ง ซึ่งช่วยทำให้ห้องนี้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น โดยเราอาจทำเป็นมุมเครื่องชงกาแฟแบบห้องตัวอย่างนี้ก็ได้ครับ และแน่นอนว่าพื้นที่ด้านบนเรายังสามารถแขวนตู้/ชั้นวางของเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ระเบียงภายนอกมีขนาด 2.6 x 0.9 m. สามารถออกมาใช้งานตากผ้า/ปลูกต้นไม้ได้สบายๆ และด้วยความที่เป็นห้องฝ้าเพดานสูง เค้าจึงทำประตูให้มีช่องแสงเพิ่มเติมที่ด้านบน เพื่อให้แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านในและทำให้โปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงยังมีพื้นที่ให้ติดตั้ง Condensing Unit หลบมุมมองสายตาจากในห้อง ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วยครับ

ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบแยกออกจาก Living Area ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากๆ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้าง สามารถใช้งานได้สบายๆ ตรงกลางห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตที่ทางโครงการแถมมาให้ได้แบบนี้

ด้านล่างฐานเตียงมีช่องเล็กๆให้เก็บของได้ ส่วนปลายเตียงจะมีพื้นที่กว้างประมาณ  30 –  50 cm. ให้แทรกตัวเดินผ่านได้แบบพอดีๆ และเราสามารถติดทีวีแขวนผนัง เพื่อนอนดูบนเตียงได้สบายๆเลยครับ

ด้วยความสูงของฝ้าเพดานที่มากกว่าห้องทั่วไป ทำให้ได้ช่องแสงด้านข้างขนาดใหญ่ไปด้วย บรรยากาศภายในห้องจึงสว่างโปร่งโล่ง พร้อมมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้

และพื้นที่ริมหน้าต่างจะมีขนาดกว้างประมาณ 1 m. ซึ่งทางโครงการก็ได้จัดเป็นโต๊ะอเนกประสงค์มาให้ เหมาะที่จะนั่งทำงานอ่านหนังสือชิลๆ พร้อมกับชมวิวภายนอกไปด้วยแบบนี้

โดยที่เราอาจต้องหาโต๊ะสตูลเล็กๆมานั่งเพื่อประหยัดพื้นที่ หรือจะนั่งบนเตียงไปเลยก็ได้ครับ เพราะด้วยระยะความกว้างอาจไม่พอ ที่จะวางเป็นเก้าอี้นั่งทำงานจริงจังสักเท่าไหร่นักนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ โดยจะมีพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวได้ประมาณ 60 cm. และมีพื้นที่ข้างตู้เหลือประมาณ 60 cm. เช่นกัน ให้เราสามารถวางตะกร้าผ้าหรือ Built เป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆเพิ่มได้ครับ

ภายในตู้เสื้อผ้ามีช่องให้เก็บของและที่แขวนเสื้อพอสมควร พร้อมทั้งมีกระจกเงาบานใหญ่ให้ส่องแต่งตัวด้วย และที่ชอบมากๆก็คือ เราจะมีพื้นที่บนหลังตู้เสื้อผ้าให้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ด้วย

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนดี เริ่มกันที่พื้นที่ส่วนแห้งจะมีขนาด 1.35 x 1.65 ตร.ม. มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก COTTO กระจกเงาบานใหญ่ และช่องเก็บของตามจุดต่างๆครบ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 90 x 95 cm. สามารถยืนใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งเราจะต้องติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอง เพื่อกันน้ำไม่ให้กระเด็นเปียกทั่วทั้งห้อง ส่วนภายในจะมี Hand Shower ที่ปรับระดับความสูงได้ มาพร้อมกับ Junction box ให้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติม และด้านบนก็จะมีพัดลมดูดอากาศครับ

  • 2 Bedroom Cloud Space ขนาด 48 ตร.ม.

เรียกได้ว่าเป็นห้อง Signature ที่ไม่เหมือนใครในย่านเลยก็ว่าได้ครับ โดยพื้นที่ในห้องจะมีฝ้าเพดานที่สูงอยู่ 2 ระดับคือ บริเวณห้องนอนที่ 2 เราจะได้ฝ้าเพดานสูงพิเศษ 3.6 m. ซึ่งจะถูกออกแบบให้มีชั้นสองที่สามารถเดินขึ้นไปใช้ด้านบนได้ ทำให้เรามีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ส่วนบริเวณห้องอื่นๆที่เหลือก็จะสูง 3 m. ตามปกติ

แปลนห้องโดยรวมถือว่าจัดออกมาได้ลงตัวมากๆครับ ด้วยความที่เป็นห้องมุมจึงมีช่องแสงถึง 2 ด้าน และสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี มีการออกแบบให้ครัวกั้นด้วยผนังกระจก เพื่อให้ได้รับแสงสว่างและทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น แต่ยังสามารถกั้นกลิ่น/ควัน และทำอาหารได้จริงจังระดับหนึ่ง

ส่วนห้องนอนก็จะแยกออกไปด้วยโถงทางเดินกลางห้อง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง และห้องน้ำก็สามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากๆ ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 2 – 3 คน ซึ่งอาจเป็นคนที่มีครอบครัวหรือมีลูกเล็กๆก็ได้ ชอบห้องหน้ากว้างที่บรรยากาศโปร่งโล่ง มีความเป็นส่วนตัว ได้ห้องฝ้าสูงพิเศษที่สามารถจัดและออกแบบฟังก์ชันได้ไม่เหมือนใครแบบนี้ครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Common Area ที่ค่อนข้างสว่างและโปร่งโล่งมากๆครับ เพราะจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ด้านเลย โดยที่ฝ้าเพดานห้องก็จะสูง 3 m. และปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตเหมือนกับห้องมาตรฐานอื่นๆนะ

บริเวณหน้าห้องจะเป็นพื้นที่วางตู้เก็บรองเท้าและโต๊ะทานอาหาร แน่นอนว่าเราสามารถ Built ตู้แขวนผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ครับ

ส่วนบริเวณโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งก็จะอยู่ตรงกับช่องแสงพอดี ทำให้สามารถทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวภายนอกไปด้วยได้ หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์นั่งทำงานอ่านหนังสือก็เข้าท่าดี

แต่ข้อดีจริงๆก็คือ ถ้าเราเปิดช่องหน้าต่างและประตูระเบียงไว้พร้อมกัน ก็จะทำให้สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นสบายก็แทบจะไม่ต้องเปิดแอร์เลยครับ แต่แนะนำให้ติดมุ้งลวดกันแมลงและฝุ่นเพิ่มเติมสักหน่อยครับ

ถัดมาจะเป็นโซฟานั่งดูทีวีที่มีระยะกว้างประมาณ 2.1 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งโซฟาและชั้นวางทีวีครบเหมือนเดิม

และเนื่องจากห้องนี้จะมีเสาโผล่ออกมาตรงกลาง (บริเวณด้านหลังทีวี) ดังนั้นทางโครงการจึงได้ Built-in ชั้นวางของด้านข้างเพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยพรางสายตาให้เสาดูเนียนไปกับผนัง รวมถึงยังทำให้สามารถเก็บของได้มากขึ้นอีกด้วยครับ

ส่วนระเบียงจะกว้างประมาณ 2.8 x 0.9 m. สามารถนำพวกโต๊ะปิกนิกมาวางเพื่อนั่งเล่น หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นได้สบายๆ แถมพวก Condensing Unit ก็จะแขวนหลบอยู่ด้านบนแบบนี้ จึงทำให้ออกมาใช้งานระเบียงได้เต็มที่เลยครับ

ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นโถงทางเดิน ที่แยกฟังก์ชันอื่นๆออกไปจาก Common Area ทำให้มีความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เริ่มต้นที่ห้องครัวจะถูกกั้นด้วยผนังกระจกทั้งหมด เพราะต้องการให้ภายในได้รับแสงสว่างจากหน้าต่างภายนอก แต่ยังมีประตูคอยกันกลิ่น/ควันไม่ให้ฟุ้งเข้าไปในห้อง จึงสามารถทำอาหารได้จริงจังระดับหนึ่งเลย

ที่สำคัญคือ ผนังกระจกนี้จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวาง และรู้สึกโปร่งโล่งมากขึ้นเยอะเลยครับ โดยภายในห้องครัวจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.4 x 1 m. และเปลี่ยนพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดครัวจะ Built-in มาให้ครบเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ เพียงแต่ตู้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย จึงทำให้มีพื้นที่ทำอาหารและช่องเก็บของเยอะขึ้น เหมาะกับสมาชิกครอบครัวที่อาจมีมากขึ้นนั่นเอง

ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อความโปร่งโล่งเช่นกัน อาจเพิ่มความเป็นส่วนตัวโดยการใช้ผ้าม่านเลื่อนปิดด้านในได้นะครับ

ภายในถือว่าเป็น Highlight ของห้องนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะจะได้ฝ้าเพดานสูง 3.6 m. และทางโครงการก็จะ Built-in ชั้นลอยพร้อมบันไดมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลย

โดยเราจะได้เป็นห้องเปล่าๆ (ไม่มีเฟอร์นิเจอร์) ให้มาจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนของเด็กๆ ห้องทำงาน และห้องอื่นๆที่เราอยากใช้งานครับ

เริ่มที่บริเวณใต้ชั้นลอยจะมีฝ้าสูง 2.1 m. ให้ยืนใช้งานได้สบายๆ สามารถวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต แถมยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางเป็นโต๊ะนั่งทำการบ้าน/อ่านหนังสือของน้องๆได้อีกด้วย ส่วนปลายเตียงเราก็ยังสามารถแขวนทีวีบนผนัง และใช้เป็นพื้นที่เก็บของตรงใต้บันไดได้นะครับ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะเป็นโครงสร้างเหล็กที่กว้างประมาณ 65 cm. ให้เดินขึ้น-ลงแบบพอดีๆ แต่ถึงจะมีราวกันตกเหล็กมาให้ด้านข้างแบบนี้ ก็ต้องระมัดระวังตอนใช้งานจริงสักหน่อยนะครับ เพราะตอนผมเดินก็รู้สึกค่อนข้างชันพอสมควร (อาจไม่ค่อยเหมาะกับเด็กสักเท่าไหร่ แต่สามารถปรับแก้โดยการเพิ่มพวก Safety ต่างๆเข้ามาได้)

ด้านบนมีขนาดพื้นที่ประมาณ 2.55 x 1.5 m. และมีความสูงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 1.4 m. เท่านั้น จึงไม่สามารถขึ้นมายืนแบบเต็มความสูงได้ (ถ้าขึ้นมาก็คือต้องนั่งหรือนอนอย่างเดียว)

สำหรับการใช้งานฟังก์ชันนี้เราก็อาจทำเป็นพื้นที่เก็บของ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องสต็อกสินค้าที่บ้านหรือมีของเยอะๆ / พื้นที่เตียงนอนเสริมสำหรับแขก หรือคนที่เข้ามาทำงานในห้องนี้ที่สามารถปีนขึ้นมาพักได้ / หรือนำโต๊ะหมู่บูชามาตั้งทำเป็นหิ้งพระขนาดใหญ่ เป็นต้น

ติดกันจะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่กั้นด้วยผนังทึบมีความเป็นส่วนตัวสูง ภายในมีความกว้างขวางและได้ช่องแสงเป็นของตัวเอง

พื้นที่รอบๆเตียงกว้างประมาณ 30 – 60 cm. สามารถเดินผ่านได้แบบพอดีๆ รวมถึงเรายังติดทีวีแขวนผนังที่ปลายเตียงได้อีกด้วย

ส่วนอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำครับ โดยมีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ 90 cm. ให้ใช้งานได้สบายๆ พร้อมกับเพิ่มชั้นวางของข้างตู้เสื้อผ้า เพื่อให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน 2 คนมากขึ้น

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก COTTO ครบเช่นเดิม

แต่ที่พิเศษขึ้นก็คือ ห้องน้ำนี้จะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องครัวก่อนหน้านี้ จึงทำให้แต่ละฟังก์ชันสามารถมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว้าง 1.55 x 1.75 m.

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.15 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สะดวก และเช่นเดิมว่าเราจะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะครับ ในส่วนนี้จะต้องไปติดตั้งเพิ่มเติมเองนะ

  • 1 Bedroom Simplex ขนาด 28.5 – 29 ตร.ม.

ห้องนี้เป็นขนาดเริ่มต้นเล็กที่สุดของโครงการ ซึ่งจะเห็นว่าเค้าให้ความสำคัญกับห้องนอนมาก เพราะจะอยู่ติดกับระเบียงด้านในสุดเลย จึงทำให้ได้แสงและวิวเต็มๆ แถมยังเป็นพื้นที่ใช้สอยกว้างมากที่สุดในห้องอีกด้วย ในขณะที่ฟังก์ชันอื่นๆจะอยู่บริเวณหน้าห้อง และได้แสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาจากประตูกระจกบานเลื่อนของห้องนอนแทน

จากแปลนห้องเราจะเห็นการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่จะใหญ่เป็นพิเศษ กับส่วนของฟังก์ชันใช้งานอย่างห้องน้ำ ห้องครัว และพื้นที่แต่งตัว จะกลายเป็นมุมเล็กๆที่หลบสายตาออกไปจากห้องหลัก ซึ่งเราจะได้เป็นครัวเปิดที่หากต้องการทำอาหารจริงจัง ก็อาจต้องทำประตูกั้นเพิ่มสักหน่อย

โดยภาพรวมจึงเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน เน้นความโปร่งโล่งและการเชื่อมต่อของพื้นที่ให้มีความกว้างขวาง อีกทั้งยังเป็นห้องที่มีราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่ายที่สุด เหมาะกับคนที่อาจมีงบประมาณจำกัดด้วยนั่นเองครับ

บรรยากาศห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/7

  • 1 Bedroom Cloud Space ขนาด 31 – 32 ตร.ม.

สำหรับใครที่ชื่นชอบห้องฝ้าเพดานสูงแบบ Cloud Space แต่มีงบไม่ถึงห้อง 2 Bedrooms ก่อนหน้านี้ หรืออาจไม่ได้ต้องการพื้นที่เยอะขนาดนั้น เค้าก็ยังมีห้อง Cloud Space แบบ 1 Bedroom ให้เลือกด้วยครับ

ซึ่งความพิเศษของห้องนี้ก็คือ พื้นที่ฝ้าเพดานสูง 3.6 m. จะกลายเป็นบริเวณ Living Area ทั้งหมดเลย จึงทำให้มีบรรยากาศที่โปร่งโล่งเป็นพิเศษ โดยใต้ชั้นลอยบริเวณหน้าห้องจะเป็นครัวปิด และชั้นบนก็จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้ขึ้นไปใช้สอยได้ ส่วนภายในห้องนอนก็จะเป็นฝ้าสูง 3 m. เหมือนปกติ แต่จะมีความเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะถูกกั้นด้วยผนังทึบนั่นเองครับ

บรรยากาศห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/10

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

แบบแปลน

Image 1/17

ราคา

Flexi รัตนาธิเบศร์ ราคา ณ วันที่ 25 มกราคม 2566

  • 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 28.5 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom KC-Out พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Cloud Space ขนาดโฉนด 31 – 32 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.18 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Simplex และ Cloud Space ขนาดโฉนด 48 – 49 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 51.5 – 52.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานห้องแบบ Simplex สูง 3 เมตร, ห้องแบบ Cloud Space สูง 3.6 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
  • จอง 1,990 บาท (Promotion ถึงสิ้นเดือน มีนาคม 2566)
  • ทำสัญญา 0 บาท (Promotion ถึงสิ้นเดือน มีนาคม 2566)
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.ม./เดือน
  • link ลงทะเบียน >> https://www.sena.co.th/project/flexi-rattanathibet?utm_source=ThinkofLiving#project_pro

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า ทำให้สามารถเดินทางไปทำงานในเมืองได้ง่าย และมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล / BigC และ Esplanade รวมถึงยังมีตลาดยอดฮิตของคนในย่านให้เดินจับจ่ายใช้สอยอยู่ไม่ไกล ทั้งตลาดนกฮูก และตลาดต้นสัก ซึ่งนับว่าเป็นย่านที่ใช้ชีวิตได้สะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่เต็มไปด้วยศูนย์ราชการสำคัญๆหลายแห่ง จึงทำให้เหมาะกับคนที่อาจรับราชการอยู่แถวๆสนามบินน้ำ-ติวานนท์ได้อีกด้วยครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : เนื่องจากเป็นฝั่งขาเข้าเมืองอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลากลับรถตอนไปทำงานช่วงเช้า โดยจะอยู่ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชประมาณ 4.5 km. อีกทั้งยังเป็นทำเลที่มีจุดกลับรถในระยะใช้งานสะดวก ซึ่งจะห่างจากโครงการด้านละประมาณ 1 – 1.5 km. ส่วนที่จอดรถในโครงการจะมี 130 คัน หรือคิดเป็น 27% ถือว่าให้มาตามมาตรฐานเพียงพอ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : อยู่ติดถนนใหญ่จึงสามารถเรียกรถสาธารณะหน้าโครงการได้ง่าย อีกทั้งยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT สถานีบางกระสอ ในระยะเดินถึงได้ประมาณ 270 m. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวก โดยไม่ต้องเสียเวลารถติดอยู่บนท้องถนนนั่นเองครับ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้มาครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย โดยหลักๆก็ยังคงเป็นการดีไซน์ Made From Her ตามแบบฉบับของเสนา ที่มีการใส่ใจรายละเอียดของการใช้งานง่าย และมีพื้นที่เก็บของเพียงพอ ซึ่งมีเกรดวัสดุเหมาะสมกับราคา และส่วนตัวผมจะชอบช่องแสง+ผนังกระจกของโครงการนี้ ที่เค้าให้มาขนาดใหญ่และเยอะดี เลยทำให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งและกว้างขวางครับ

การออกแบบโครงการ : เป็นคอนโดแบรนด์ Flexi ที่ไม่เหมือนทำเลอื่นๆ และมีการออกแบบที่แตกต่างจากคอนโดเสนาที่เราคุ้นเคย โดยเฉพาะเรื่องห้องฝ้าเพดานสูงที่มีความโปร่งโล่ง และถึงแม้จะมี 36 ชั้น แต่ก็สูงเทียบเท่าตึก 44 ชั้นเลย ประกอบกับมีเพื่อนบ้าน 474 ยูนิต ก็ถือว่าไม่เยอะมากครับ เมื่อเทียบกับส่วนกลางจึงถือว่าให้ Facilities มาเยอะเพียงพอสบายๆ แต่สำหรับอัตราส่วนลิฟต์ 158 :  1 ถือว่าหนาแน่นอยู่สักหน่อย

ในด้านการวางผังอาคารถือว่าน่าสนใจ มีการแบ่งโซนการใช้งานได้ดี แยกระหว่างทางสัญจร พื้นที่ส่วนกลาง และโซนพักอาศัยออกจากกันได้ชัดเจน ผมชอบตรงสวนด้านหน้าที่ทำหน้าที่เป็น Buffer ให้กับโครงการได้ดี ส่วนตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L ทำให้ไม่บังวิวกันเอง ห้องชั้นสูงๆสามารถมองได้ไกลและอาจเห็นแม่น้ำเลยก็ได้ แต่ถ้าจะให้เซฟๆหน่อยก็จะเป็นห้องทิศใต้ที่ได้วิวเปิดโล่งสุด ตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจะเป็น 2 Bedrooms ห้องมุมที่ได้วิว 2 ฝั่ง และยังมีห้องที่ได้ Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัวด้วยครับ

การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ซึ่งจะเป็นห้องแบบ 1 – 2 Bedrooms และยังแบ่งออกเป็นห้องแบบ Simplex ที่ได้ฝ้าเพดานสูงเป็นมาตรฐาน 3 m. และห้องแบบ Cloud Space ที่จะมีฟังก์ชันได้ฝ้าสูงพิเศษ 3.6 m. ให้เราได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวสูงของห้องเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นการแขวนตู้/ชั้นวางของบนผนัง และการทำชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมก็สามารถทำได้ เพียงแต่ความสูงฝ้าด้านบนจะมีเพียง 1.4 m. อาจไม่สามารถขึ้นไปใช้งานได้จริงจัง เหมาะจะทำเป็นพื้นที่เก็บของ หิ้งพระ หรือพื้นที่นั่ง/นอนเล่นก็ได้ครับ

สำหรับห้อง 1 Bedroom Simplex จะเป็นห้องไซส์เล็กสุดที่ราคาจับต้องง่าย เน้นฟังก์ชันที่กั้นด้วยผนังกระจก ทำให้ดูกว้างและโปร่งโล่งคล้ายสตูดิโอ ส่วนห้อง 1 Bedroom KC-Out จะเป็นห้องที่กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบแยกออกไป ทำให้มีความเป็นส่วนตัวที่สูงมากๆ สุดท้ายคือห้อง 2 Bedrooms จะเป็นห้องหน้ากว้างที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นห้องมุมที่ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง มีความสว่างโปร่งโล่งเป็นพิเศษ เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัวก็ดี หรือคนที่ต้องการห้องเล็กๆไว้จัดฟังก์ชันที่ต้องการก็ได้ครับ

สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต การดีไซน์จะเน้นสีสันที่ดูสนุกสนานและทันสมัย เพื่อให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยฟังก์ชันหลักๆจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายอย่าง Fitness ที่มีอุปกรณ์ให้เล่นเยอะและมีหลายโซนให้เลือก ทีเด็ดคือสระว่ายน้ำในร่มที่ยาว 20 m. สามารถว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ตลอดทั้งวัน พร้อมกับชมวิวไปด้วยได้ นอกนั้นก็จะเป็นจุดให้นั่งเล่นพักผ่อน พื้นที่นั่งทำงาน และสวนบนชั้นดาดฟ้าที่เราสามารถขึ้นไปเดินเล่นและชมวิวมุมสูงกันได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 บาท/ตร.ม., 25 มกราคม 2566

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างเซ็นทรัล และแวดล้อมไปด้วยศูนย์ราชการ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 4.5 km. มีสะพานกลับรถให้ใช้งานสะดวก ที่จอดรถ 27%
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – เรียกรถสาธารณะง่าย และใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางกระสอ 270 m. ในระยะเดินถึงได้
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ดีไซน์ Made From Her เกรดเหมาะสมกับราคา
  • แบบ 7.75/10 – เน้นห้องฝ้าเพดานสูง 3 m. บรรยากาศโปร่งโล่ง มีแบบห้องใหม่ Cloud Space ฝ้าสูง 3.6 m. สามารถใช้พื้นที่แนวสูงให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ชั้นลอยจะสูงแค่ 1.4 m.
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ฟังก์ชันออกกำลังกายเยอะดี พร้อมสระว่ายน้ำในร่ม และสวนบนดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวได้

  • MAIN CLASS
  • 7.94 / 10.00

Flexi รัตนาธิเบศร์ เหมาะกับใคร

โครงการ Flexi รัตนาธิเบศร์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงในระยะเดินถึงได้ อีกทั้งยังใกล้ห้างเซ็นทรัลอีกด้วย โดยเน้นเป็นห้องพักที่ได้ฝ้าเพดานสูง มีความโปร่งโล่ง และสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งได้ดี เฟอร์นิเจอร์ครบแบบ Made From Her ให้ใช้งานง่าย ที่เก็บของก็เพียงพอ และมีส่วนกลางที่เน้นพื้นที่ออกกำลังกายเยอะๆมาให้ใช้งานครบครัน มีงบประมาณระดับ 1.89 – 3.3 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 23,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc