blue สุขุมวิท 105 คอนโด Low Rise แบรนด์ใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ล่าสุด จาก Grand Unity ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) เป็นทำเลที่น่าสนใจและน่าอยู่อาศัยจากความอุดมสมบูรณ์ที่ครบ และยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกอีกด้วย โครงการมาพร้อมสไตล์โดดเด่นทั้งส่วนกลางและห้องพักอาศัย จัดมาให้ครบแบบพร้อมอยู่ ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท* โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้

  • ทำเล : ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล ตรงข้ามโรงเรียนลาซาล ความอุดมสมบูรณ์ครบ ใกล้ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอล์ หาของกินของใช้ง่าย
  • การเดินทาง : เข้าเมืองได้ง่าย มีทางลัดเข้า-ออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด มีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้ 2 สายทั้ง BTS แบริ่ง และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานี ศรีลาซาล พร้อมบริการ Shuttle Service
  • ส่วนกลาง : จัดส่วนกลางที่ยาวต่อเนื่องกันได้ขนาดใหญ่ แบ่งฟังก์ชันและแยกโซนได้ดีน่าใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งสายออกกำลังกาย ทำงานและสายพักผ่อน
  • ห้องพักอาศัย :   ได้ความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยอยู่สบาย ได้ครัวปิดทุกแบบ จัดมาให้แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่

ข้อมูลโครงการ

blue Sukhumvit 105 (บลู สุขุมวิท 105) ณ วันที่ 14 มีนาคม 2566

 ชื่อโครงการ  blue Sukhumvit 105 (บลู สุขุมวิท 105)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จํากัด
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซ.สุขุมวิท 105 (ลาซาล 57) เขต บางนา
 ที่ดิน  3-1-18 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  387 ยูนิต (แบ่งเป็น อาคาร A = 202 ยูนิต, อาคาร B = 185 ยูนิต)
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   29 ยูนิต ที่อาคาร A
 ที่จอดรถ  135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  สร้างเสร็จพร้อมอยุ่
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 24.30 -32.60 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 32 – 35.70 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.5 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.79 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 86,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคา(ต่ำสุด-สูงสุด) 1.79 – 3.29 ล้านบาท*
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://grandunity.co.th/th/blue-sukhumvit-105
 Call Center 02-652-4000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.659356, 100.631668
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ blue สุขุมวิท 105 ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล ตรงข้ามโรงเรียนลาซาล ติดถนนหลักสัญจรง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีทางลัดเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ 3 สายทั้งสุขุมวิท ศรีนครินทร์ และบางนา-ตราด การเดินทางเข้าเมืองทำได้ง่าย ใกล้ทางด่วนและมีรถไฟฟ้าให้ใช้งาน 2 สาย

โครง blue สุขุมวิท 105 การตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล บริเวณตรงข้ามกับโรงเรียนลาซาลพอดี ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์มากๆของซอยเลยก็ว่าได้เพราะมีทั้งโรงเรียนนานาชาติ ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Lasalle’s Avenue และดาดฟ้า อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับห้าง Central บางนา ทำให้เรื่องอาหารการกินนี่ไม่ต้องห่วงเลย รวมถึงทำเลย่านนี้ก็ยังมีอาคารสำนักงานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Central City Tower , ภิรัชทาวเวอร์ และไบเทค บางนา เป็นต้น

สำหรับถนนซอยลาซาล (หรือสุขุมวิท 105) บริเวณกลางซอยไปจนถึงท้ายซอยฝั่งศรีนครินทร์ จะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่สัญจรได้ง่ายกว่าฝั่งสุขุมวิท อีกทั้งยังมีทางลัดไปเชื่อมต่อกับถนนสำคัญๆถึง 3 สาย (สุขุมวิท, ศรีนครินทร์, บางนา-ตราด) และยังมีรถไฟฟ้า 2 สาย ที่ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากๆอีกด้วย นั่นจึงทำให้ที่ตั้งของโครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจของย่านมากๆทีเดียว

โดยซอยลาซาลจะมีทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ และเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ดังนี้

  1. ถนนสุขุมวิท : เป็นเส้นทางหลักที่สามารถมาขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้ ระยะทางประมาณ 3.7 km. (โดยทางโครงการจะมี Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง ให้บริการด้วยนะ)
  2. ถนนศรีนครินทร์ : เป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด สามารถเข้าเมืองไปทางบางกะปิ และยังมาขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ได้ในระยะทางประมาณ 1.2 km. ซึ่งปลายปี 65 นี้ก็คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ใช้งานบางส่วนแล้วด้วย
  3. ถนนบางนา-ตราด : ใช้ทางลัดผ่านซอยลาซาล 55 และซอยบางนา-ตราด 30 ซึ่งความพิเศษของซอยนี้คือสามารถขึ้นสะพานกลับรถไปยังห้าง Central บางนา หรือจะไปขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี แล้วมุ่งหน้าออกไปทางชลบุรีได้
  4. ถนนบางนา-ตราด : ซอยลาซาล 23 เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มักนิยมใช้มาออกถนนบางนา-ตราด โดยจะเหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางไปใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร บริเวณสี่แยกบางนา หรือจะมาไบเทคและอาคารภิรัชทาวเวอร์ก็ได้

Image 1/2
เส้นทางจากโครงการไปทางด่วนบูรพาวิถี ระยะทางประมาณ 3.5 km.

เส้นทางจากโครงการไปทางด่วนบูรพาวิถี ระยะทางประมาณ 3.5 km.

  • ทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดคือ ทางด่วนบูรพาวิถี สามารถใช้ซอยลาซาล 55 เพื่อไปลัดออกถนนบางนา-ตราด แล้วขึ้นสะพานกลับรถไปขึ้นทางด่วนตรงหน้าห้างเซ็นทรัลได้ ในระยะทางประมาณ 3.5 km. สามารถออกเมืองไปทางชลบุรีได้
  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงการประมาณ 5.4 km. สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 4 – สาทร – เพลินจิต หรือจะไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัชก็ได้

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิท ผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล จากนั้นก็ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆได้เลย เลี้ยวขวาตามเส้นทาง ระยะทางประมาณ 3.6 km. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

Image 1/5
เริ่มจากใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิทผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล

เริ่มจากใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิทผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนหลักลักษณะที่ดินจะเป็นตอนลึกเข้าไปด้านใน ดังนั้นวิวที่ได้รับส่วนใหญ่จึงจะเป็นด้านข้างทางทิศตะวันตกและตัะวันออกเป็นหลัก ส่วนมากจะเป็นชุมชนแนวราบและซอยลาซาล 57 ค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่เพราะอยู่ติดกับถนนหลักด้านหน้า ทำให้สามารถเดินไปจับจ่ายใช้สอย หรือไปใช้บริการรถสาธารณะได้สะดวก เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและบ้าน 2 ชั้น
  • ทิศใต้ : ติดกับ ถนนลาซาล และฝั่งตรงข้ามเป็นโรงเรียนลาซาล
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ซอยลาซาล 57 เป็นซอยตัน ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ว่างและคอนโดสูง 8 ชั้น

Image 1/17
ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการจะเป็นโรงเรียนลาซาล

ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการจะเป็นโรงเรียนลาซาล

บรรยากาศโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดถนอมทรัพย์ ~ 110 m. (ระยะเดิน)
  • ตลาดนัดลาซาล 48 ~ 240 m. (ระยะเดิน)
  • Lasalle’s Avenue ~ 1.3 km.
  • Makro ~ 2 km.
  • Big C ~ 2.1 km.
  • Dadfa ~ 2.2 km.
  • Central บางนา ~ 3.4 km.
  • ตลาดต้นไทร ~ 3.8 km.
  • JAS URBAN ~ 3.8 km.
  • Seacon Square ~ 5.5 km.
  • Paradise Park ~ 5.6 km.
  • Mega Bangna ~ 8.9 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 1.7 km.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 3.8 km.
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ ~ 4.1 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนลาซาลกรุงเทพ ~ 100 m. (ระยะเดิน)
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 1.3 km.
  • Thai-Singapore International School ~ 2.6 km.
  • St. Andrews International School ~ 4.2 km.
  • St Joseph Bang Na School ~ 5 km.
  • วิทยาลัยดุสิตธานี ~ 5.9 km.
  • Berkeley International School ~ 7 km.
  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ ~ 7 km.

สถานที่ทำงาน

  • Central City Tower ~ 3.3 km.
  • CenterPoint Entertainment ~ 3.6 km.
  • ไบเทค บางนา ~ 4.4 km.
  • อาคารภิรัชทาวเวอร์ ~ 4.4 km.
  • Interlink Tower Bangna ~ 5.6 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ bule สุขุมวิท 105 เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร และมีจำนวนทั้งหมด 387 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-1-18 ไร่ โดยปัจจุบัน bule สุขุมวิท 105 ถือเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่โครงการล่าสุดของทาง Grand Unity ที่ได้ทำคอนโดแบรนด์ใหม่นี้ออกมา

ซึ่งคำว่า “bule” ก็หมายถึง “สีฟ้า” และทำให้นึกถึงสายน้ำ ดังนั้นการดีไซน์ของ Facade ภายนอกอาคาร จะมีลักษณะเป็นเหมือนคลื่นน้ำ ที่มีส่วนโค้งเว้ายื่นออกมา เป็นลูกเล่นที่ค่อนข้างแตกต่างจากโครงการในย่านเดียวกัน แถมยังมีผลต่อพื้นที่การใช้งานในห้องพักอาศัยอีกด้วย โดยโครงการนี้จะมี Highlights ที่น่าสนใจ ได้แก่

  • ส่วนกลางยาวตั้งแต่ด้านหน้าโครงการไปจนถึงด้านหลัง ทำให้มีขนาดใหญ่และใช้งานต่อเนื่องกันได้ดี แถมยังได้พื้นที่สีเขียวแนวยาวตลอดแนวอาคารทั้ง 2 อาคาร
  • แบ่งโซนการใช้งาน Facilities ชัดเจน โดยอาคาร A จะเน้นทำงานและรับแขก ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นออกกำลังกาย รวมถึงมีประตูกั้นจากส่วนพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยด้วย
  • แยกทางเข้า-ออกคนละจุด ทำให้การสัญจรของรถยนต์ทำได้ง่าย ไม่ต้องวนรถหรือสวนทางกันด้านใน
  • มีตำแหน่งห้องที่ผนังติดห้องข้างๆด้านเดียวให้เลือกเยอะ จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว

ส่วนรายละเอียดต่างๆของโครงการในแต่ละชั้น และส่วนกลางเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลยค่ะ

Master Plan ของโครงการ จะมีทางเข้า-ออกจากซอยลาซาล 57 ที่อยู่ด้านข้าง และแบ่งทางเข้า-ออกจากกันชัดเจน โดยที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารทั้งหมด 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่ามีมาให้เยอะพอสมควร

ที่น่าสนใจก็คือ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ทางด้านข้างของอาคาร โดยจะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียว และมีความยาวต่อเนื่องกันตลอดแนวอาคารทั้ง 2 อาคาร จึงทำให้ดูแล้วมีขนาดค่อนข้างใหญ่ดี สามารถเดินไปใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกัน หรือหากใครที่ชอบใช้ Facilities ไหนเป็นประจำ ก็อาจเลือกพักอาศัยที่อาคารนั้นๆได้เลย จะได้สามารถมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เช่น อาคาร A จะเป็นแนวนั่งทำงานพักผ่อน และยังใช้เป็นส่วนต้อนรับแขกได้อีกด้วย ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นกิจกรรมออกกำลังกายเป็นหลัก

 

ขึ้นมาที่ชั้น 2 แต่ละอาคารก็จะมี Facilities ที่ใช้งานต่อเนื่องมาถึงด้านบนได้ โดยจะแยกออกจากโซนห้องพักอาศัยชัดเจนด้วยประตู Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ซึ่งถ้าใครที่ชอบใช้งานส่วนกลางเหล่านี้บ่อยๆ ก็อาจเลือกอยู่อาศัยที่ชั้นนี้ได้สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ชั้น 4 จะเป็นอีกหนึ่งชั้นที่ยังคงมีส่วนกลางให้ใช้งาน แต่ก็จะเป็น Pocket Garden เล็กๆ ให้เราได้ขึ้นมานั่งพักผ่อน หรือชมวิวแบบสงบๆได้ เพราะจะไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนส่วนกลางชั้นอื่นๆมากนัก

Image 1/4
บริเวณทางเข้าโครงการ

บริเวณทางเข้าโครงการ

โครงการแยกทางเข้า-ออกคนละจุด ทำให้การสัญจรของรถยนต์ทำได้ง่าย ไม่ต้องวนรถหรือสวนทางกันด้านใน เริ่มที่บริเวณทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก ติดไม้กระดกระบบ RFID สำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกไว้

บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีแนวทางเดิน สามารถเดินเข้าโครงการทางด้านในได้

จากแนวทางเดินจะเชื่อมมาที่ทางเข้าของอาคาร A และมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปด้านในโครงการได้ โดยบริเวณนี้จะมีประตูแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน

เข้ามาที่อาคาร A ทางด้านหน้าจะเป็นส่วน Co-Working Space โดยจะแบ่งเป็น 2 ชั้น ลักษณะแบบ Double Volume มีบันไดเชื่อมต่อไปด้านบนได้

มาที่ชั้นล่างก่อน จะเป็นทางเข้าเชื่อมต่อมาจากที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Smart Locker และห้องน้ำ ในส่วนของ Smart Locker ไว้ให้บริการฝากของต่างๆได้หลากหลายขนาด ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Application บนโทรศัพท์มือถือได้ สามารถเช็คได้ว่ามีของมาฝากส่งไว้หรือยัง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง Double Volume พร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ทางด้านข้าง บรรยากาศจึงโปร่งโล่งดีมากๆ

จากพื้นที่ Co-Working Space จะมีบันไดเพื่อเดินเชื่อมไปส่วนกลางอื่นๆในชั้นนี้ โดยในอาคาร A จะเป็นแนวนั่งทำงานพักผ่อน

เดินขึ้นมาจะมีห้อง Meeting room ไว้ให้ใช้งาน ทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้พร้อม มีกระดานให้ใช้งาน ห้องติดเครื่องปรับอากาศไว้ให้เรียบร้อย

Image 1/4
Co-Working Space

Co-Working Space

ถัดมาจะเป็นห้อง Co-Working Space ซึ่งจะมีโซฟานั่งเล่นกระจายตัวอยู่หลายจุด สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงาน หรือเอาไว้ใช้รับรองแขกภายนอกได้ด้วย

Image 1/2
Game Room

Game Room

เดินขึ้นมาจากห้อง Co-Working Space จะเป็นห้อง Game Room ให้ขึ้นมาใช้เวลาพักผ่อนเล่นเกมส์ต่างๆได้ โดยโครงการจะเตรียม Air Hockey Table , Table Football ไว้ให้

มากันที่อาคาร A เริ่มจากทางเข้าจากส่วนที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Mail Room และห้องน้ำ ของอาคารนี้เตรียมไว้ให้

Mail Room ของอาคาร A จะมีช่องจดหมายเฉพาะห้องของลูกบ้านอาคาร A เท่านั้น โดยแยกโซนกันระหว่าง 2 อาคาร เพื่อให้สามารถรับจดหมายได้สะดวกมากขึ้น

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วน Lobby ของอาคาร A จัดชุดโซฟาให้นั่งได้สบายๆ ได้วิวบรรยากาศพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่ทางด้านข้างของตัวอาคารไปด้วย

จาก Lobby เพื่อจะไปโถงลิฟต์ ขึ้นไปชั้นบนของอาคาร จะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเป็นระบบ Facescan เพื่อความปลอดภัย

เข้ามาก็จะเป็นโถงลิฟต์ของอาคาร A โดยจะมีลิฟต์โดยสารให้ใช้งาน 2 ตำแหน่ง บริเวณโถงลิฟต์จะได้แสงธรรมชาติ สว่างโปร่งโล่ง ช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟก็ใช้งานได้

Image 1/5
แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร

แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร

ถัดมาจะพามาเดินดูบรรยากาศของพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร ซึ่งออกแบบเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปถึงอาคาร B ได้ โดยตลอดทางก็จะมีที่นั่งพักผ่อน ทางเดินและปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดทาง และมี Badminton Court แบบกลางแจ้งให้เรามาเล่นออกกำลังกายกันได้

มากันที่อาคาร A เริ่มจากทางเข้าจากส่วนที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Mail Room และห้องน้ำ ของอาคารนี้เตรียมไว้ให้ เช่นกัน

Image 1/3
Lobby อาคาร B

Lobby อาคาร B

ส่วน Lobby ของอาคาร B จัดชุดโซฟาให้นั่งได้หลากหลาย ได้วิวบรรยากาศพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่ทางด้านข้างของตัวอาคารเช่นกัน

Image 1/3
Mail Room ของอาคาร B

Mail Room ของอาคาร B

ทางด้านข้างจะเป็น Mail Room ของอาคาร B มีประตูทางเข้าแยกไปส่วนของโถงลิฟต์ โดยจะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเป็นระบบ Facescan เพื่อความปลอดภัย

จาก Lobby อาคาร B จะสามารถเดินขึ้นไปในใช้งานชั้น 2 ได้ โดยอาคาร B จะเน้นเป็นแนว Active เน้นเป็นสายออกกำลังกาย

Image 1/3
Fitness

Fitness

ภายใน Fitness มีเครื่องออกกำลังกายครบ พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

Image 1/2
Fitness

Fitness

เดินขึ้นมาชั้นบนก็จะมีเครื่องเล่นหลากหลายชิ้น ให้เลือกใช้งานตามความชอบ พร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ ที่สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวภายนอกไปด้วยได้

เดินออกมาที่ด้านนอกของอาคาร B ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้งของโครงการ

บริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากจะมีความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังช่วยทำให้ห้องพักอาศัยด้านบน สามารถชมวิวผืนน้ำของสระได้ดีมากขึ้นอีกด้วย

สระว่ายน้ำกลางแจ้งความยาว 7.8 x 35 m. ที่สามารถว่ายน้ำออกกำลังได้แบบจริงจัง

พร้อมพื้นที่นั้งพักผ่อนริมสระ ช่วงเช้าของวันจะได้แนวร่มจากตัวอาคารพอดี สามารถมาว่ายน้ำได้สบายๆ แดดไม่ร้อน

ติดกันจะเป็นสระน้ำตื่น สามารถให้เด็กๆมาใช้งานเป็นสระว่ายน้ำเด็กได้ หรือมานั่งแช่น้ำหย่อนใจได้

พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ จะมีให้เลือกหลากหลายอยู่รอบๆสระ

พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ จะมีให้เลือกหลากหลายอยู่รอบๆสระ

Image 1/3
ห้องน้ำหญิง

ห้องน้ำหญิง

ในชั้นนี้จะมี มีห้องน้ำ-อาบน้ำ (แยกชาย-หญิง) ไว้ให้พร้อมใช้งาน สามารถเดินจากสระว่ายน้ำ หรือ Fitness มาใช้งานได้สะดวกมากๆ ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และ Locker เตรียมไว้ให้ครบ

Image 1/3
ห้องน้ำชาย

ห้องน้ำชาย

ภายในแบ่งพื้นที่เป็นห้องน้ำ ห้องน้ำชายจะเพิ่มส่วนโถสุขภัณฑ์ชาย มาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

Image 1/4
แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร B

แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร B

บรรยากาศของพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร B ออกแบบเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปถึงอาคาร A ทางด้านหน้าได้ โดยปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดทาง ปลายสุดทางเดินจะเป็น Calorie Counting Steps เป็นบันไดที่เดินเชื่อมต่อขึ้นไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้น 2 มีการออกแบบโดยเล่นสีสันของบันไดให้มีความสดใสและน่าถ่ายรูปเล่นสวยๆ พร้อมเพิ่มตัวเลขนับแคลอรี่ให้ดูกันเล่นๆอีกด้วย

เรามาดูชั้นพักอาศัยโดยจะจัดให้เป็นห้องพักทั้งหมดแบบเต็ม Floor  โดยอาคาร B จะมีห้องในชั้นอยู่ที่ 27 ห้อง/ชั้น ซึ่งน้อยกว่าอาคาร A อยู่ที่ 29 ห้อง/ชั้น บวกกับตำแหน่งของอาคารที่อยู่ถัดเข้ามาในซอย ห่างจากถนนหลักพอสมควร เลยทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า ในเรื่องการวางตำแหน่งห้องพัก ส่วนมากห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องไซส์ใหญ่ ข้อดีคือเป็นด้านที่สามารถมองเห็นส่วนกลางสวยๆได้ดี ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ ซึ่งถ้าใครชอบวิวไหนก็ลองเลือกตามที่ถูกใจกันได้ ส่วนห้องทางทิศตะวันออกที่รับวิวชุมชนภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นห้องไซส์เล็กที่ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า และตำแหน่งห้องที่น่าสนใจอื่นๆจะมีดังนี้

  • กรอบสีแดง :  เป็นห้องพักเดียวที่ไม่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเลย ซึ่งดูเผินๆก็จะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ตำแหน่งจะอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ข้อดีคือเดินมาใช้ลิฟต์ได้ง่านสะดวก แต่ก็จะมีโอกาสที่เราจะได้ยินเสียงของลิฟต์หรือคนที่มาใช้งานขึ้น-ลงได้ง่ายด้วยเช่นกัน
  • กรอบสีส้ม : เป็นตำแหน่งห้องตรงสุดทางเดิน และมีผนังติดกับห้องข้างๆนแค่ด้านเดียว แน่นอนว่าเราจะได้ความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ อาจได้ยินเสียงรถจากถนนได้บ้าง แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องเสียงล่ะก็ เรายังจะได้วิวที่เปิดโล่งของถนนหลัก และโรงเรียนลาซาลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยนะ
  • กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งห้องที่มีผนังติดกับห้องข้างๆแค่ด้านเดียวเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมากๆเลยทีเดียว

Image 1/4
โถงลิฟต์ในส่วนพักอาศัย

โถงลิฟต์ในส่วนพักอาศัย

บริเวณโถงลิฟต์และแนวทางเดินในส่วนพักอาศัย โดยแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight มีหน้าต่างช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้ มีทางหนีไฟ และติดอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle ไว้ให้เรียบร้อย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร A

ชั้น 1

  • Lobby
  • Mail Room
  • Co-Working Space
  • Meeting Room
  • Garden
  • Laundry
  • Smart Locker
  • EV Charger 1 ตำแหน่ง
  • Badminton Court

ชั้น 4

  • Multi Garden
  • Game Room

อาคาร B

ชั้น 1

  • Lobby
  • Mail Room
  • Laundry
  • Swimming Pool ขนาด 7.8 x 35 m.
  • บันได Calorie Counting Steps
  • Fitness
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 96 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 101 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 92 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / RFID

แบบห้อง

รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ blue สุขุมวิท 105 จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท มีจุดเด่นสำคัญได้แก่

  • เน้นห้องหน้ากว้าง เน้นความโปร่งโล่งด้วยการกั้นผนังกระจกตรงกลางห้อง
  • ตัวเลือกห้องที่ออกแบบเพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ในรูปแบบของห้อง Plus ให้ใช้งานได้หลากหลายและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
  • ได้ช่องหน้าต่างบานใหญ่ เพิ่มช่องแสงด้านข้างคล้าย Bay Window ช่วยเปิดมุมมองให้ดูกว้างมากขึ้น
  • ด้วยดีไซน์การออกแบบ Facade ของอาคาร เลยทำให้ระเบียงของห้องพักมีพื้นที่ใช้สอยตรงส่วนโค้งเว้าเพิ่มขึ้น (ไม่ได้อยู่ในโฉนด แต่ใช้งานได้เหมือนเป็นพื้นที่ห้องตัวเอง)
  • เฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ เป็นแบบ Multi-Function สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้

แบบห้องของโครงการนี้มีให้เลือก 2 Type หลักๆ ขายแบบ Fully Furnished ขาดแค่ฟูกที่นอน กับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom ขนาด 24.30 -32.60 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 32 – 35.70 ตร.ม.

1 Bedroom Type A ขนาด 24 – 24.5 ตร.ม. เป็นห้องไซส์เล็กสุดของโครงการ ขนาดเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้การกั้นห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดี แถมยังมีห้องครัวปิดขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับระเบียง จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง พื้นที่ในครัวมีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้า อันนี้ดีนะไม่ต้องไปวางที่ระเบียงตากแดดตากฝน ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องครัว ซึ่งเราสามารถเปิดเชื่อมต่อกับประตูระเบียง เพื่อระบายอากาศ/กลิ่น/ความชื้นได้ตลอดเวลา โดยแยกจากพื้นที่โซนพักผ่อนส่วนอื่นในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับตากผ้า แขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้

เริ่มจากประตูหน้าห้องได้บานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตทำสีขาว มือจับของจริงเป็น Digital Door Lock ของ ICON บริเวณประตูทางเข้าจะทำตัวจบระหว่างพื้นห้องด้านในไว้ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันฝุ่นจากแนวทางเดิน

ถัดเข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นของตัวห้อง ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.

เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้หลากหลาย

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.65 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี

การใช้งานส่วนต่างๆภายในห้องใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกตรงกลางห้อง ช่วยทำให้ห้องยังได้แสงธรรมชาติ ตัวห้องจะดูกว้าง โปร่งโล่งมากขึ้น

โครงการใช้บานเลื่อนแบบ 2 ตอน เป็นกระจกใสช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass ที่แตกแล้วจะเป็นเมล็ดข้าวโพดใช้งานได้อย่างปลอดภัย เราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้

เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 50 cm. มีพื้นที่ให้วางชั้นวางของเล็กๆข้างเตียง มีปลั๊กไฟและช่องเสียบ usb เตรียมไว้ให้  ฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้

ปลายเตียงนอกจากจะแขวนทีวีติดผนัง เพื่อนอนดูบนเตียงสบายๆได้แล้ว โครงการจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าซ่อนไว้ในผนังด้วย ซึ่งทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่เกะกะพื้นที่ทางเดินรอบเตียง

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 70 cm.เป็นระยะที่ใช้งานเดินได้สะดวก ส่วนระยะข้างเตียงถึงหน้าต่างกระจก กว้างประมาณ 15 cm. ค่อนข้างพอดีใช้งานให้ยืนเปิดหน้าต่างได้แบบพอดีๆ

ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ลอยฟุ้งเข้ามาในห้องได้ แต่แสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านใน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น

โครงการออกแบบพื้นที่ครัวปิดขนาดเหมาะกับการใช้งาน ตำแหน่งครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่น/ควันออกไปภายนอกโดยตรงได้เลย จึงเป็นแบบห้องที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจังได้

โครงการออกแบบพื้นที่ครัวให้สามารถใช้งานเป็นส่วนทานอาหารได้ด้วย พื้นที่ภายในครัวประมาณ 2.2 x 1.65 m. มีระยะให้ยืนทำครัวได้ใช้งานได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องทั้งหมดเหมาะกับการใช้งานสามารถทนความชื้น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานลามิเนตสีขาวทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้  ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น ซึ่งการออกแบบให้ตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน ที่อาจต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนกันสักนิดนึง โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele แต่จะไม่ได้มี Backsplash ตรงผนังมาให้นะ เวลาทำอาหารก็ระวังเลอะกันนิดนึง หรืออาจติดตั้งเพิ่มเติมเองก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย

จากส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ เป็นบานเลื่อนกระจก เปิดระบายอากาศ รับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่

ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.65 x 0.70 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้

พื้นที่ระเบียงจะมีการติดระแนงสีดำ ช่วยป้องกันนก บินเข้ามาทำรัง หรือรบกวนพื้นที่ระเบียง เวลาตากผ้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะปลิวหาย เป็นแผงบังสายตา บังแสงแดดบางส่วนได้อีกด้วย

ถัดมาเป็นห้องน้ำตำแหน่งจะอยู่ติดดกับส่วนครัวด้านในของตัวห้อง ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป เวลาเดินเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย ปัจจุบันห้องน้ำสำเร็จรูปพัฒนาระบบต่างๆในการใช้งานได้ไม่แตกต่างจากห้องน้ำปกติแถมยังลดความเสี่ยงของการรั่วซึมในแต่ละจุด

สนใจอ่านบทความ “ห้องน้ำสำเร็จรูป” แตกต่างจากห้องน้ำทั่วไปอย่างไร ? คลิกที่นี่

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ

ผนังติดกระจกเงาแนวยาวตลอดแนวผนัง การติดกระจกแบบนี้นอกจากจะใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้น

ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Hafele มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ส่วนใต้อ่างล้างหน้ามีตู้ Built In ของ Hafele สามารถเก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Hafele และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระ ไว้ที่ผนังด้านหลังในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวกไว้ให้พร้อมใช้งาน

ชุดอุปกรณ์สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Hafele เช่นกัน

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว Tempered Glass แบบ 3 ตอนมาให้ เวลาเปิดเต็มบานจะทำให้มีช่องทางเดินเข้าออกมากขึ้น พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.9 m. โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง

ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ของ Hafele ที่สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้

ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟ และสวิตช์ไฟภายในห้องจริงทั้งหมดจะใช้ของ Schneider

1 Bedroom Plus Type C ขนาด 31.50 – 35.50 ตร.ม. เป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ ที่เหมาะกับคนต้องการ “ห้องอเนกประสงค์” เอาไว้ทำฟังก์ชันอื่นๆเพิ่มเติมตาม Lifestyle ของแต่ละคนได้ครับ เช่น ห้องทำงานช่วง WFH หรืออาจเป็นห้องแต่งตัวของสาวๆ ห้องสตูดิโอไว้ Live สดขายของออนไลน์ รวมไปถึงอาจห้องนอนเล็กของลูกน้อยก็ได้

อีกหนึ่งจุดเด่นคือภายในห้องสามารถจัดฟังก์ชันแยกโซนใช้งาน ออกจากโซนพักผ่อนได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยเราสามารถระบายอากาศของครัวและห้องน้ำ ผ่านทางห้องอเนกประสงค์ได้ง่ายๆ ด้วยการเปิดประตูเชื่อมต่อออกไปทางระเบียง ซึ่งก็จะทำให้กลิ่น/ควัน/ความชื้น สามารถระบายออกไปได้ง่าย โดยไม่รบกวนพื้นที่ส่วนพักผ่อนอื่นๆของห้อง

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น และส่วนทางอาหารโดยจะเป็นพื้นที่รวมกันอยู่ในโซนเดียวกัน พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m. ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกส่องเข้ามาถึงด้านใน

เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟาแบบยาว พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.54 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″

สำหรับโซฟาเราจะได้เป็นโซฟาเล็กๆ ที่มาวางต่อกันกลายเป็นตัวยาวแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะใช้นอนดูทีวีได้สบายๆแล้ว ยังใช้นั่งทานอาหารหรือทำงานตรงโต๊ะอเนกประสงค์เพิ่มได้อีกด้วย

ภายในห้องใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกใสนิรภัย Tempered Glass ที่แตกแล้วจะเป็นเมล็ดข้าวโพดใช้งานได้อย่างปลอดภัย

เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

โครงการจะมี Built-in มาให้โดยจะมีความสูงถึงระดับฝ้าเพดานสามารถเก็บของได้เต็มที่ ภายในแบ่งช่องสำหรับราวแขวน ลิ้นชักเล็ก และมีพื้นที่วางของด้านบนเช่นกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย

มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 1 m. ใช้งานยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้สะดวก บริเวณฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 60 cm. ส่วนระยะข้างเตียงถึงหน้าต่างกระจก กว้างประมาณ 50 cm. เป็นระยะที่ใช้งานเดินได้สะดวก

ปลายเตียงจะมีแนวผนังให้แขวนทีวีติด แนะนำให้แขวนติดกับผนังตามแบบห้องตัวอย่างเพราะจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือรอบเตียงเดินใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้เข้ามาในห้องได้ แต่แสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านใน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น

ภายในห้องครัวจะได้ชุดครัวก็จะได้ Built-in มาเหมือนกับห้องที่แล้ว เพียงแต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พื้นเป็นกระเบื้องให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างประมาณ 1.8 x 1.65. m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานลามิเนตสีขาวทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น การตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน ที่อาจต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนกันสักนิดนึง โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele แต่จะไม่ได้มี Backsplash มาให้หรืออาจติดตั้งเพิ่มเติมเองก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนอีกด้านของห้องครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้มีความโปร่งโล่งและได้แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาถึงด้านในได้ รวมถึงเรายังสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับระเบียง เพื่อระบายอากาศออกสู่ภายนอกโดยตรงได้อีกด้วย

มาที่ห้องอเนกประสงค์ภายในเราสามารถจัดเป็นห้องอะไรก็ได้ ขนาดพื้นที่ของห้องจะกว้างประมาณ 2.3 x 1.8 m. ซึ่งก็พอที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตกับตู้เสื้อผ้าเล็กๆอีกใบ เพื่อทำเป็นห้องนอนที่ 2 สำหรับลูกหรือแขกได้ หรือจะทำเป็นห้องทำงานช่วง WFH ที่มีความเป็นส่วนตัว ทำเป็นห้องแต่งตัว โดยพื้นบริเวณนี้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด

ห้องอเนกประสงค์จะได้ความโปร่งโล่ง น่าใช้งานเพราะจะได้แสงสว่างจากระเบียงที่อยู่ด้านข้างแบบนี้

ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาดประมาณ 2.2 x 0.7 m. สามารถออกมาใช้งานเป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้

ถัดมาเป็นห้องน้ำตำแหน่งจะอยู่ติดดกับส่วนครัวด้านในของตัวห้อง ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป เวลาเดินเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ

ผนังติดกระจกเงาแนวยาวตลอดแนวผนัง ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Hafele ส่วนใต้อ่างล้างหน้ามีตู้ Built-in สามารถเก็บของใช้ต่างๆได้ ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ และติดตั้งอุปกรณ์ๆ เป็นของ Hafele เช่นกัน

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว Tempered Glass แบบ 3 ตอนมาให้ เวลาเปิดเต็มบานจะทำให้มีช่องทางเดินเข้าออกมากขึ้น พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.85 m. โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง

ด้านในติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ของ Hafele ที่สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้

ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้

1 Bedroom Type B ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม. จุดเด่นหลักๆของห้องนี้คือ Common Area ที่มีขนาดใหญ่และหน้ากว้างมากๆ โดยเราจะได้เฟอร์นิเจอร์โซฟาแบบ Multi-Function ที่สามารถจัดและปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามความต้องการได้หลากหลาย และมีการกั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เลยทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดีทีเดียว

อีกทั้งยังมีการออกแบบที่น่าสนใจในอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างในห้องนอน ที่ได้เพิ่มช่องแสงด้านข้างเข้ามา ซึ่งช่วยเปิดมุมมองให้กว้างและโปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงยังมีการเว้าผนังเพื่อซ่อนตู้เสื้อผ้าเอาไว้ด้านใน เลยไม่ต้องวางเกะกะพื้นที่ใช้สอยในห้องนอน ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สุดท้ายคือครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังทานเอง เพราะสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้เต็มที่

Image 1/13
1 Bedroom Type B ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม.

1 Bedroom Type B ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

ราคา

blue สุขุมวิท 105 ราคา ณ วันที่ 14 มีนาคม 2566

  • 1 Bedroom ขนาด 24 – 32.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.5 – 35.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท*
  • Promotion : ฟรีทุกค่าใช้จ่าย*

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
  • มีรถ Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง
  • จอง 2,500 บาท
  • ทำสัญญา 2,500 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

บทสรุป

ทำเล : ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ง่าย เพราะมีทั้งตลาด ร้านสะดวกซื้อ และคอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้สถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนลาซาลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปเรียนได้เลย รวมถึงโรงเรียนนานาชาติอื่นๆ ก็มีอยู่ทั้งในซอยลาซาล-แบริ่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการใช้ชีวิตของทำเลโครงการนี้ จะอิงไปทางศรีนครินทร์และบางนา-ตราดเป็นหลัก จะค่อนข้างสะดวกที่สุด ความน่าสนใจในแง่ที่อยู่อาศัย ถือเป็นโครงการใหม่พร้อมอยู่ล่าสุดในเวลานี้ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่มือ 1 ที่สามารถเข้าอยู่ทันทีในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท

การเดินทางโดยใช้รถ : ซอยลาซาล (หรือ สุขุมวิท 105) เป็นถนนที่มีทางลัดสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด อย่างซอยลาซาล 55 ก็สามารถเชื่อมต่อกับซอยบางนา-ตราด 30 และไปออกตรงสะพานกลับบรถพอดี ทำให้สามารถข้ามไปฝั่งเซ็นทรัลได้สะดวกมาก อีกทั้งยังมีทางด่วนให้ใช้เข้า-ออกเมืองได้อีกด้วย ทั้งทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี ที่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 – 5.4 km. ส่วนที่จอดรถของโครงการจะมีอยู่ 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ด้วยทำเลที่เป็นย่านชุมชน ตังโครงการติดถนนหลักทำให้มีรถสาธารณะต่างๆให้เลือกเยอะ หรือจะไปใช้รถไฟฟ้า จะมีอยู่ถึง 2 สาย ทั้งสายสุขุมวิทสีเขียว BTS แบริ่ง และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานี ศรีลาซาล ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยทั้ง 2 ฝั่ง สามารถใช้เข้าเมืองได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งทางโครงการเองก็ยังมี Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มให้อีกด้วย

การออกแบบโครงการ : จำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 387 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดกลางๆ แต่สามารถจัดพื้นที่ส่วนกลางให้มีขนาดใหญ่และน่าใช้งานได้ โดยการจัดตำแหน่ง Facilities ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเค้าจะวางเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันที่ด้านข้างอาคาร อีกทั้งยังสามารถแบ่งโซนแยกการใช้งานได้ดีอีกด้วย ในด้านการวางผังอาคารจะมีทางเข้า-ออก 2 จุด ทำให้รถสามารถสัญจรได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็แลกกับต้องเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยอีกสักหน่อย ส่วนห้องพักอาศัยก็มีตำแหน่งที่น่าสนใจเยอะ หลักๆคือห้องไซส์ใหญ่หันหน้ารับวิวที่มองเห็นส่วนกลางได้ และอีกด้านจะเป็นห้องไซส์เล็กที่ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า ซึ่งจะมองเห็นวิวชุมชนแนวราบข้างเคียงเป็นหลักแทน นอกจากนี้ก็ยังมีตำแหน่งห้องที่เป็นส่วนตัวให้เลือกเยอะอีกด้วย เพราะมีหลายยูนิตที่อยู่ติดกับบันไดหนีไฟ และมีผนังติดกับห้องข้างๆแค่ด้านเดียว

การออกแบบห้องพัก : มีแบบห้องตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัว 2-3 คน จัดรูปแบบห้องใช้งานลงตัว แยกโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วน ทุกห้องจะมีฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว เลือกใช้ประตูภายในห้องเป็นบานเลื่อนใช้งานง่าย และเกิดการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ได้ดี ช่วยทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น ออกแบบพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ให้จัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือห้องนอนเล็กเพิ่มได้ วางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องแทนที่ไปไว้ระเบียง ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนอยู่ด้านบนช่วยทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้น ได้ครัวปิดเหมาะกับคนชอบทำอาหารหมดกังวลเรื่องกลิ่นควัน

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้มาครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ ที่เป็นจุดเด่นคือการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาให้เข้ากับห้องแต่ละแบบได้ลงตัวพอดี สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multi-Function ได้เคาน์เตอร์ครัวที่แบ่งช่องให้วางเครื่องซักผ้าได้ช่วยประหยัดพื้นที่ เน้นพื้นที่เก็บของ ทั้งลิ้นชักใต้เตียง ตู้สำหรับเก็บของ/รองเท้า ที่สูงถึงระดับฝ้าเพดานใช้งานได้คุ้มค่า ภายในห้องได้ช่องแสงในห้องนอนก็มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่งดี มีการใช้ประตูบานเลื่อนเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย

สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาเยอะเหมาะสมกับจำนวนยูนิต โดยความน่าสนใจคือ การวางผังโครงการที่จัดพื้นที่ส่วนกลาง ให้มีความยาวต่อเนื่องกันไปตลอดแนวด้านข้างอาคาร ตั้งแต่ด้านหน้าสุดไปจนถึงด้านหลัง จึงทำให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี แยกประเภทของ Facilities ไว้แต่ละอาคารชัดเจนดี อาคาร A จะเน้นทำงานและรับแขก ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นออกกำลังกาย ซึ่งฟังก์ชันที่มีถือว่าให้มาครบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงานอย่าง Co-Living Space และ Co-Working Space รวมถึงพื้นที่ออกกำลังกายทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แต่ที่โดดเด่นมากๆก็คือ บรรยากาศของสวนที่ร่มรื่น และยังมี Badminton Court ให้ใช้งานอีกด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 86,000 บาท/ตร.ม.,14 มีนาคม 2566

  • ทำเล 8.25/10 – ใจกลางซอยลาซาล อุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย ใกล้โรงเรียนในระยะเดิน บรรยากาศน่าอยู่อาศัย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีทางลัดเชื่อมต่อถนนหลักหลายเส้นทาง และไม่ไกลจากทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – มีรถไฟฟ้า 2 สายให้ใช้ เรียกรถสาธารณะง่าย พร้อม Shuttle Service ไป-กลับ BTS
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ช่องแสงใหญ่ เฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Function
  • แบบ 7.75/10 – จัดฟังก์ชันดี เป็นส่วนตัว เน้นบรรยากาศโปร่งโล่ง ได้ครัวปิดทุกแบบ
  • สาธารณูปโภค 8/10 – แบ่งโซนการใช้งานได้ดี ฟังก์ชันหลากหลายน่าใช้งาน

  • MAIN CLASS
  • 8 / 10.00

blue สุขุมวิท 105 เหมาะกับใคร

โครงการ blue สุขุมวิท 105 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ในซอยลาซาล เดินทางสะดวกหาของกินของใช้ได้ง่าย มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้ 2 สาย จัดส่วนกลางที่แบ่งโซนมาดี ขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันครบ ส่วนตัวห้องพักจะเน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ได้ความโปร่งโล่ง ชอบทำครัวได้ครัวปิดในทุกแบบ โดยมีงบประมาณระดับ 1.79 – 2.59 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 18,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc