cover

รีวิวฉบับที่ 930 สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศกันอยู่ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Ace โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พร้อมลิฟต์ในตัว โครงการแรกจาก Aland ผู้ประกอบการน้องใหม่ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 15 ใกล้ทางขึ้นทางด่วน เป็นโครงการขนาดเล็กมีเพียง 8 ยูนิต โครงการจะทำออกมาเป็นแบบไหนไปดูกันเลยดีกว่าค่าา

Fact @ 22 September 2015

  • The Ace (ดิ เอจด์)
  • บริษัท Aland Development จำกัด
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • เนื้อที่โครงการ 594 ตารางวา จำนวน 8 ยูนิต
  • โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น มีลิฟต์โดยสาร
  • Type A  พื้นที่ใช้สอย 900 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ 18 ที่จอดรถ
  • Type B  พื้นที่ใช้สอย 470 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 9 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 59-60, 120 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 17.5 ล้านบาทหรือ 291,666 ตร.ว ( เฉพาะแปลงพิเศษ)
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2557
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2559
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 081-845-5456, 084-464-4466, 080-889-5555

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.742445, 100.644444

Map รวม

โครงการ The Ace ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 15 บนถนนศรีนครินทร์ตอนบน ระหว่างแยกกรุงเทพกรีฑากับแยกพระราม 9- ศรีนครินทร์   โดยถนนศรีนครินทร์เป็นถนนที่มีจุดเริ่มต้นที่ถนนลาดพร้าว บริเวณใกล้เดอะมอลล์บางกะปิ ไปสิ้นสุดที่ถนนสุขุมวิท จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยความที่ถนนเส้นนี้เป็นเหมือนหลอดเลือดใหญ่ของกรุงเทพชั้นกลางโซนตะวันออกเฉียงใต้  จึงทำให้มีผู้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างติดขัด ข้อดีของทำเลนี้คือเป็นทำเลที่มีช่องทางในการเข้าถึงได้หลาหลาย ทั้งจากรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ และ Airport Rail Link อีกทั้งยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก และ ใกล้ทางด่วน

การเข้าถึงโครงการ สามารถเข้าได้จากทางถนนศรีนครินทร์ โดยโครงการจะอยู่ลึกเข้าไปในซอย ศรีนครินทร์ 15 ประมาณ 160 เมตรโครงการอยู่ทางขวามือ  ซอยศรีนครินทร์นี้ 15 เป็นซอยตันที่มีระยะทางไม่ลึกมาก สำหรับการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่าโดยสามารถใช้ถนนศรีนครินทร์ออกไปยัง ถนนรามคำแหง , ถนนพัฒนาการ , ถนน อ่อนนุช หรือสามารถเดินทางเข้าเมืองอย่าง อโศก , พระราม9 , ทองหล่อ , เอกมัยได้ไม่ยาก

ที่กลับรถ

จุดกลับรถบริเวณใกล้ๆกับโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 4  จุดกลับรถที่ 1, 2 และ 4 เป็นจุดกลับรถในกรณีที่เราวิ่งจากถนนศรีนครินทร์ที่มุ่งหน้าไปทางพัฒนาการ – อ่อนนุช ส่วนจุดกลับรถที่ 3 จะเป็นจุดกลับรถในกรณีที่วิ่งจากถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าลาดพร้าว รามคำแหง ถ้า เรามาจากเส้นพระราม 9 จะต้องไปกลับรถที่จุดกลับรถที่  3 ซึ่งจะค่อนข้างไกลหน่อยซึ่ง ไม่เป็นปัญหาในช่วงเวลาที่ปริมาณรถไม่เยอะ แต่ถ้าช่วงเย็นหรือเช้าก็จะเจอรถติดหน่อย

กลับรถ

สำหรับการออกจากโครงการไปเส้นศรีนครินทร์มุ่งหน้าพัฒนาการอาจจะลำบากนิดนึงนะคะ เนื่องจากตัวปากซอยศรีนครินทร์ 15 มีระยะค่อนข้างกระชั้นกับทางขึ้นทางด่วน Motor Way ทำให้เวลาที่เราออกมาจากซอยแล้วจะถูกบังคับเลี้ยวซ้ายเลียบทางด่วนไปที่สะพานกลับรถเข้าถนนกรุงเทพกรีฑาแล้วถึงจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์ค่ะ

กลับรถ2

ส่วนการออกจากโครงการไปเส้นรามคำแหงก็ต้องเลี้ยวซ้ายเลียบมอเตอร์เวย์เพื่อกลับรถแล้วเบี่ยงขวากลับเข้าเส้นมอเตอร์เวย์ตรงไปเรื่อยๆแล้วออกตรงทางลงแยกศรีนครินทร์ – พระราม 9 วนเพื่อเข้าถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหงค่ะ

ทางขึ้นทางด่วน

โครงการนี้มีจุดเด่นที่ค่อนข้างใกล้ทางด่วน สำหรับทางด่วนที่ใกล้ๆก็มีทางพิเศษศรีรัชโดยมีทางลงทางด่วนอยู่ที่ก่อนถึง The Nine บนถนนพระราม9 ถ้าหากจะขึ้นทางด่วน จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดอยู่บริเวณหน้าโครงการคือ ออกจากซอยเลี้ยวขวาขึ้น Motor Way หรือ เลี้ยวซ้ายไปสะพานกลับรถแล้วตรงผ่านแยกพระราม 9-ศรีนครินทร์ เพื่อขึ้นทางด่วนพระราม 9

ส่วนคนที่ไม่ใช้รถ ก็มี Airport Link สถานีหัวหมากเป็นทางเลือก โดยตัวสถานีอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.3 กิโลเมตรรวมระยะกลับรถ  ซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลหน่อย แต่ยังดีที่ตัวสถานีและจุดใกล้ถนนใหญ่จะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ หรือจะเรียกแท็กซี่จากสถานีเลยก็ยังได้ การขึ้นรถไฟสาย Airport Rail Link จะสะดวกสำหรับเส้นทางที่จะไปสนามบินสุวรรณภูมิ แต่หากจะเข้าเมืองจะต้องไปลงที่สถานีพญาไท แล้วต่อ BTS หรือ MRT ซึ่งจะค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรค่ะ นอกจากนั้นยังมีสถานีรถไฟใกล้เคียงคือสถานีหัวหมาก มีพื้นที่จอดรถข้างตัวสถานี แต่ปัจจุบันคนที่ใช้รถไฟเดินทางก็หาได้ค่อนข้างยากแล้ว

ความอุมสมบูรณ์

บริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ The Ace มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับบริเวณใกล้เคียงทางใต้ลงมาอย่างถนนพัฒนาการ และช่วงบางนา -อ่อนนุช เพราะถนนศรีนครินทร์จะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางซะมากกว่า ส่วนถนนพัฒนาการจะเป็นถนนที่ต่อจากถนนเพชรบุรี ที่สามารถไปทองหล่อ – อโศก – ดินแดง – ประตูน้ำได้ มีสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus, Max Value และที่เปิดใหม่อย่าง London Street จาก MK Group รวมไปถึงม.เกษมบัณฑิต และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ลงมาอีกหน่อยช่วงบางนา – อ่อนนุช จะมีศูนย์การค้าอย่างซีคอนสแควร์ และสวนหลวงร.9 มีอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นบ้างประปราย ส่วนถ้าขึ้นเหนือไปจะเป็นรามคำแหงและราชมังคลากีฬาสถาน

Map รวม-1

การเดินทางของเราวันนี้จะเริ่มจากสะพานข้ามแยกประดิษมนูธรรม, แยกรามคำแหงและแยกพระราม 9 ตัดใหม่ วิ่งขนานยาวไปกับถนนพระราม ลงจากสะพาน เบี่ยงซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางกะปิ แล้วกลับรถ ตรงไปเรื่อยๆถึงซอยศรีนครินทร์ 15 ซึ่งจะอยู่ก่อนจุดขึ้นทางด่วน Motor way ค่ะ

The ACE by aland-14

เริ่มจากขึ้นสะพานข้ามแยกบนถนนพระราม 9 มุ่งหน้าศรีนครินทร์

วิ่งขนานไปบนเส้นพระราม 9 สะพานนี้จะพาเราหนีรถติดจากแยกประดิษฐ์มนูธรรม แยกพระราม 9 ตัดใหม่ และแยกรามคำแหง ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ

ก่อนถึงทางลงสะพานจะมีทางออกไปเส้นรามคำแหง เราก็ขับผ่านไป

ลงจากสะพานมาแล้วก็จะวิ่งบนถนนพระราม 9 กว้าง ซึ่งเป็น 8 เลน เหนือเกาะกลางขึ้นไปเป็นทางยกระดับศรีรัช เราจะขับตรงไปยาวๆไม่วอกแวก

ตรงมาสักพักใหญ่ๆจะเจอ The Nine พระราม9  Community Mall ที่มีทั้งร้านอาหาร, Supermarket และร้านค้าขายของทั่วไป ใครหิวก็แวะทานอาหารกันก่อนได้ค่ะ มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้าด้วยนะ

ถนนช่วงนี้จะมีทางลัดไปเข้าถนนรามคำแหงได้หลายทางเลย สังเกตได้ง่ายๆที่ป้ายเส้นทางลัดซ้ายมือ ถนนช่วงนี้ก็จะมี Tesco Lotus Express , อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นอยู่ทั้งสองข้างทางค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายบอกทางให้เบี่ยงซ้ายจะไปยังบางกะปิ ตรงไปจะไปยังเส้นศรีนครินทร์ หรือถ้าชิดขวาจะเป็นจุดกลับรถ

The ACE by aland-23

ตรงมาหน่อยจะเจอทางลัดออกไปศรีนครินทร์เส้นบางกะปิได้ แต่ถ้าใครไม่ทัน ข้างหน้ายังมีทางออกให้อีกค่ะ

ขับมาอีกนิดจะเป็นทางเบี่ยงซ้ายมุ่งหน้าบางกะปิ เราก็ออกซ้ายไปเลย ถ้าเผลอตรงไปจะขึ้นสะพานวนรถไปยังถนนศรีนครินทร์ซึ่งสามารถกลับรถมาโครงการได้เหมือนกัน แต่เราไปเส้นทางที่ใกล้กว่าดีกว่าเนอะ

The ACE by aland-27

ออกมาจากทางเบี่ยงเราก็จะเข้าเส้นศรีนครินทร์แล้วว ซึ่งถนนเส้นนี้ถ้าตรงไปเรื่อยๆก็จะไปผ่านแยกกรุงเทพกรีฑา แยกลำสาลี และไปถึงบางกะปิได้ค่ะ

จุดกลับรถแรกที่เราเจอจะเป็นที่กลับรถสำหรับเข้าโรงพยาบาลสมิติเวชจากเส้นรามคำแหง เราใช้กลับรถเข้าโครงการไม่ได้นะคะ

จุดกลับรถถัดมาก็ยังเป็นจุกลับรถสำหรับคนที่วิ่งมาจกเส้นรามคำแหงอยู่ค่ะ

ตรงมาไม่นานก็จะเจอจุดกลับรถอีกจุด ตรงนี้กลับรถได้แล้วค่ะ จากแยกพระราม 9 – ศรีนครินทร์มาถึงจุดกลับรถนี้มีระยะทางประมาณ 650 เมตร

จุดสังเกตคือ ตึกSMK(สินมั่นคงประกันภัย) และ Niche Cars ค่ะ

กลับรถมาแล้วจะผ่านร้านอาหารมดแดง, U Tower, คอนโด The Iris พอเห็นตึก Denso ก็เตรียมชิดซ้ายไว้เลยค่ะ ใกล้จะถึงแล้วว

The ACE by aland-34

โครงการจะอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 15 ตรงช่วงโค้งและถ้าออกจากโครงการจะเข้าถนนศรีนครินทร์ค่อนข้างยาก และอันตรายเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วน Motor Way ไปเพื่อไปกลับรถ แต่โดยปกติแล้วเพื่อนบ้านในซอยเค้าก็จะรอจังหวะรถน้อยๆแล้วเลี้ยวตัดเข้าถนนศรีนครินทร์กันไปเลยค่ะ

เข้ามาในซอยต้นซอยซ้ายมือเป็นร้านขายผ้าเกาหลีขนาดค่อนข้างใหญ่ ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลค่ะ

ถัดมาจะเป็นอาคารบริษัท ซ้ายมือเป็นบริษัทรุ่งแสงชล เป็นโฮมออฟฟิศสูง 5 ชั้น ขวามือเป็นอู่รถและบริษัทฐาปนาวิศวกรรม

เข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอสำนักงานขายของโครงการแล้วค่ะ ตรงกันข้ามตัวโครงการคือโรงงานช็อคโกแลต

ถัดจากโรงงานช็อคโกแลตจะเป็นโฮมออฟฟิศอีก 1 อาคารคือบริษัทไทยภาสิทธิ์ ส่วนอาคารที่เห็นกำลังก่อสร้างคือของโครงการ The Ace เป็นยูนิตที่อยู่แปลงริมสุดของพื้นที่โครงการค่ะ

เดินมาอีกนิดก็จะเจอร้านอาหารตามสั่ง 2 ร้าน, Minimart และร้านพิมพ์งาน

ร้านพิมพ์งาน และร้านอาหารร้านที่ 1

ไม่ไกลกันเป็นร้านอาหารร้านที่

ติดกับร้านอาหารร้านที่ 2 เป็น Minimart ค่ะ

DSCF5731

ซ้ายมือคือ Minimart สุดซอยจะเป็นทางตันค่ะ บริเวณท้ายซอยจะเป็นอู่ซ่อมรถ และที่พักให้เช่า ราคาถูกค่ะ

Surrounding

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยดีกว่าค่ะ ซอยศรีนครินทร์ 15 จะเป็นซอยตัน ระยะจากต้นซอยถึงสุซอยประมาณ 350 เมตร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับเนื่องจากซอยนี้ไม่พลุกพล่าน และเพื่อนบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยหรือทำงานในซอยอยู่แล้วระยะจากปากซอยถึงตัวโครงการประมาณ 160 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงกลางของซอย สามารถเข้าออกได้สะดวก ถนนในซอยเป็นถนนคอนกรีต รถสามารถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน แต่ถ้ามีรถมาจอดข้างทางอาจจะทำให้การสัญจรติดขัดบ้างค่ะ ถึงแม้ว่าบนถนนศรีนครินทร์จะไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์มากนักแต่สภาพแวดล้อมในซอยที่ส่วนใหญ่จะเป็นออฟฟิศ, ที่พักอาศัยส่วนบุคคล, ร้านอาหารตามสั่ง รวมไปถึงที่พักอาศัยสำหรับเช่าทั้งอพาร์ทเมนท์และแมนชั่น ก็พอจะเอื้อให้การใช้ชีวิตประจำวันไม่ลำบากมากนักค่ะ

The ACE by aland-บ้านแฝดหลังแรก-15

ด้านหน้าโครงการเป็นโรงงานช็อคโกแลต ไม่มีกลิ่นรบกวนค่ะ แต่ตอนเย็นๆอาจจะมีคนงานเปิดเพลงเสียงดังสักหน่อย

ฝั่งขวาของโครงการจะเป็นออฟฟิศ อพาร์เมนท์สำหรับเช่าซะส่วนใหญ่ค่ะ ส่วนแปลงที่ดินของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ริมถนนและลึกเข้าไปประมาณ 28 เมตร แต่ตัวบ้านจะร่นระยะจากของเขตแปลงที่ดินลงไปประมาณ 5 เมตร จึงทำให้เหลือพื้นที่สำหรับจอดรถหรือกลับรถตรงนี้ได้ค่ะ

The ACE by aland-บ้านแฝดหลังแรก-17

ซ้ายมือของโครงการเป็นสำนักงานขายของโครงการ ซึ่งที่ตรงนี้ไม่ใช่พื้นที่ของโครงการนะคะ หลังจากสำนักงานขายย้ายออกแล้วที่ตรงนี้อาจจะพัฒนาเป็นอย่างอื่นในอนาคตค่ะ

DSCF5854

ด้านหลังโครงการติดกับที่ดินเปล่า ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่สีเขียว มีถนนเข้าไปในซอยตัน ซึ่งในอนาคตอาจจะถูกพัฒนาเป็นโครงการอื่นๆค่ะ 

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Max Value พัฒนาการ 1.1 กิโลเมตร
  • สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก 1 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus พัฒนาการ 2.7 กิโลเมตร
  • London Street จาก Mk Group 2.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 3 กิโลเมตร
  • สวนปิยะภิรมย์ 5.5 กิโลเมตร
  • โรงแรม The Grand Four Wings 3.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาราม 1.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 2.9 กิโลเมตร
  • สำนักงานเขตสวนหลวง 3 กิโลเมตร
  • สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น 5.1 กิโลเมตร(รวมระยะกลับรถ)
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 5.2 กิโลเมตร(รวมระยะกลับรถ)
  • ABAC 4.8 กิโลเมตร
  • ราชมังคลากีฬาสถาน 5.6 กิโลเมตร
  • The Nine พระราม9 5.9 กิโลเมตร (รวมระยะทางกลับรถ)
  • ซีคอนสแควร์ 6.9 กิโลเมตร
  • สวนหลวงร.9 11.1 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

แปลนโครงการ

ที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งแปลงที่ดินเป็น 8 แปลง ผังดูง่ายๆ โดยมีถนนเส้นหลักตรงหน้าโครงการซึ่งเป็นถนนในซอยใช้ร่วมกันเป็นถนนสาธารณะกว้าง 8.2 เมตร แปลงบ้านจะวางหน้าบ้านหันไปทางถนนในซอย สุดถนนเป็นซอยตัน ไม่มีที่กลับรถนะคะ ต้องกลับรถในพื้นที่หน้าบ้าน ซึ่งก็มีมาให้พอสมควร สามารถกลับรถหน้าบ้านได้เลยถ้าไม่มีรถจอดอยู่เต็มนะคะ  ตัวบ้านเป็นโฮมออฟฟิศซึ่งต้องมีลูกค้ามาติดต่องานบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ข้อดีของซอยตันคือไม่พลุกพล่าน ไม่มีคนขาจรผ่านไปมา จะมีแค่ผู้ที่มาติดต่อหรืออยู่อาศัยในซอยนี้อยู่แล้ว  สำหรับโครงการมีจำนวนบ้านแค่ 8 ยูนิต แบ่งเป็น Type A ที่ไม่มีผนังกั้นกลางมี 2 ยูนิตที่แปลง 1 และ 4 ส่วน Type B จะมีขนาดเป็นครึ่งนึงของ Type A อยู่ที่แปลง 2, 3, 5, 6, 7 และ 8 ไม่มีส่วนกลางจึงไม่ไม่มีเก็บค่าส่วนกลางค่ะ 

DSCF5721

โครงการเป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 594 ตารางวา ถือว่าเป็นโครงการเล็กแบบไม่จัดสรร สามารถเข้าถึงได้จากหลายเส้นทาง แต่ทุกทางจะต้องเข้าซอยศรีนครินทร์ 15 ซึ่งเป็นซอยบนถนนศรีนครินทร์เท่านั้น เข้าซอยมา 160 เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านขวา ซึ่งหันหน้าบ้านทุกหลังออกไปยังถนนในซอยศรีนครินทร์ 15 การก่อสร้างเสร็จแล้วประมาณ 3 จาก 8 หลัง มีผู้ซื้อโครงการไปแล้ว 2 หลัง

โครงการนี้เป็นโครงการขนาดเล็ก เพียง 8 ยูนิต ไม่มี Facility และส่วนกลาง ดังนั้นจึงจะขอข้ามไปดูที่บ้านตัวอย่างต่อเลยค่ะ  

 


Product Walkthrough

The Ace เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น  จำนวน 8 ยูนิต มีแบบทั้งหมด 2 แบบ คือ Type A มีพื้นที่ใช้สอย 900 ตารางเมตร ที่จอดรถ 18 คัน บนที่ดิน 120 ตารางวา มีจำนวน 2 หลัง และ Type B คือ Type A เอามากั้นผนังแบ่งครึ่งตรงกลาง พื้นที่ใช้สอย 470 ตารางเมตร ที่จอดรถ 9 คัน บนที่ดิน 59-60 ตารางวา มีจำนวน 6 หลัง ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้นอกจากจะให้ที่จอดรถมาเยอะพอสมควรแล้วยังมีลิฟต์ โดยสารอยู่ในตัวด้วยค่ะ ในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้าน Type A จะใกล้เคียงกับ บ้าน Type B เลย เพียงแต่ Type A ได้พื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เนื่องจากไม่มีผนังกั้นแบ่งตัวบ้าน ซึ่งตัวบ้านที่เราซื้อจะได้เป็นบ้านเปล่า พร้อมลิฟต์ และห้องน้ำตกแต่งมาตรฐานตามบ้านตัวอย่างค่ะ โดยแบบที่เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกวันนี้จะเป็นส่วนของบ้านแฝด Type B และบางส่วนของ บ้านเดี่ยว Type A นะคะ ไปดูกันเลยค่ะ

Plan1

มาเริ่มกันที่แปลนชั้นแรก ตัวบ้านระยะตั้งแต่ประตูทางเข้าถึงหลังบ้าน ขนาดประมาณ 12×15.7 เมตร ที่จอดรถมีขนาดประมาณ 8.4 x 10 เมตร สามารถจอดรถได้ 6 คันโดยจอดเรียง 3 คัน 2  แถว และยังมีพื้นที่หน้าบ้านที่ทางโครงการร่นระยะไว้ประมาณ 5 เมตร  ซึ่งสามารถจอดรถได้อีก 3 คัน รวมเป็น 9 คันแบบพอดีๆ แต่ถ้าเข้ามาจอดพร้อมๆกันเต็มพื้นที่อาจจะต้องคอยเลื่อนรถ ลำบากเวลาเข้าออกหน่อยนะคะ ทางเข้าบ้านมีการยกระดับ ขึ้นมา 2 ขั้น ไม่มีทางลาดในกรณีที่มีการขนของหนักๆที่ต้องใช้รถเข็น เข็นเข้าบ้าน อาจจะลำบากนิดนึงค่ะ กรณีนี้อาจจะทำทางลาดเสริมด้านข้างได้ค่ะ เพราะพื้นที่ทางเข้าค่อนข้างกว้าง เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วก็จะเจอกับพื้นที่ต้อนรับและโถงพักคอย จัดวางบันไดและลิฟท์โดยสารไว้ด้วยกันทางซ้ายมือ ผนังทางด้านขวามือจะเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ และ สามารถเดินออกไปสูดอากาศบริเวณด้านข้างบ้านได้  ส่วนห้องน้ำหลังของบ้านใกล้กับส่วนซักล้าง เวลาเข้าห้องน้ำต้องเดินออกไปเข้านอกบ้าน  โดยรวมแล้ว Space ชั้นล่างค่อนข้างโล่ง ไม่มีกั้นผนังทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และ พื้นที่ใช้สอยได้ง่ายค่ะ หรือจะทำเป็น Reception ก็นั่งได้หลายคนอยู่นะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ในผังจัดพื้นที่ใช้สอยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งตรงกลางเป็นโถงที่ในผังจัดพื้นที่ให้เป็นออฟฟิสเล็กๆ เชื่อมต่อไปยังส่วนออฟฟิศ/ห้องประชุมทางด้านหน้าของตัวบ้าน และมีระเบียงเปิดออกไปด้านนอกได้ ส่วนอีกฝั่งบริเวณจะเป็น Open Space เชื่อมต่อกันกับชั้น 1  ถัดไปด้านในจะเป็นห้องผู้จัดการ ติดกับห้องผู้จัดการจะเป็นห้องน้ำรวมของชั้นนี้ และโถงบันไดหนีไฟค่ะ

Plan2

ที่ชั้น 3 ลักษณะการวางผังจะคล้ายๆกับชั้น 2 แต่การจัดวางฟังก์ชั่นจะปรับเปลี่ยนนิดหน่อยตาม Privacy ที่เพิ่มขึ้น คือขึ้นบันไดมาจะเจอกับโถงกลางที่สามารถทำเป็นส่วนทานอาหาร หรือออฟฟิศก็ได้ มาทางด้านขวาจัดเป็นห้องนั่งเล่นหรือออฟฟิศเชื่อมต่อกับระเบียงที่มีขนาดใหญ่กว่าชั้น 2 นิดหน่อย ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นระเบียงมาแทนที่ Open Space ที่ชั้น 2 ถัดจากระเบียงไปจะเป็นห้องน้ำ ครัวและโถงบันไดหนีไฟค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนสุดหรือชั้น 4 ชั้นนี้จะถูกออกแบบให้แตกต่างจากชั้นอื่นๆ เพราะทำเป็นที่พักอาศัยให้แล้ว เพราะมีการวางฟังก์ชั่นไว้เป็นห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก ขึ้นบันไดมาก็จะไม่เจอโถงกลางแล้วค่ะ เพราะพื้นที่โถงจะถูกแทนที่ด้วยห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอนแต่ละห้อง เพราะฉะนั้นเมื่อขึ้นมาเราจะเจอทางแยกซ้ายขวา ซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ขวามือจะเป็นโถงบันไดหนีไฟและห้องนอนเล็กที่มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวค่ะ

เนื่องจากบ้านที่โครงการให้เป็นบ้านเปล่าไม่มีการแถมเฟอร์นิเจอร์ การจัดพื้นที่ของผังและบ้านตัวอย่างเป็นเพียงแนวทางในการจัดพื้นที่ใช้สอย เราสามารถจัดพื้นที่ตามความต้องการของเราได้ค่ะ 

มาดูตัวบ้านกันบ้างค่ะ บ้านแฝดจะมีหน้าตาแบบนี้ ตัวบ้าน 2 หลังจะมีผนังกั้นกลาง ตัวอาคารออกแบบเป็นสไตล์ Modern โทนสีที่ใช้เน้นคุมโทนสีออกเทา โดยเจือสีเทาลงไปในสีน้ำเงิน สีน้ำตาลอ่อน ส่วนสีวงกบเป็นสีดำทั้งหลัง มีความโดดเด่นตรงฝ้าระเบียงและฝ้าหลังคาที่ใช้เป็นสีไม้ช่วยขับให้ตัวบ้านไม่ดูกลืนกันเกินไปค่ะ ส่วนสายไฟที่เห็นพาดไปมานั้นในอนาคตทางโครงการจะดำเนินการทำให้เรียบร้อยขึ้นค่ะ 

ประตูรั้วของตัวบ้านเป็นประตูรั้วไฟฟ้าควบคุมด้วยระบบรีโมท เป็นประตูเลื่อนเก็บได้สุดเลยค่ะทำให้สามารถเปิดหน้าบ้านได้กว้างเต็มพื้นที่การนำรถเข้ามาจอดก็สามารถทำได้สะดวกขึ้น ส่วนถ้าวันไหนไม่ได้ใช้รถ ก็มีประตูเล็กสามารถเปิดเข้าไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตูสุดทั้งบานค่ะ

โดยที่รั้วจะมีมอเตอร์ควบคุมอยู่ด้านในตัวบ้าน บริเวณนี้ค่ะ

พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตฉาบเรียบธรรมดา ดูแลทำความสะอาดง่ายค่ะ

The ACE by aland-บ้านแฝดหลังแรก5 copy

เดินดูรอบๆบ้านกันก่อนดีกว่า บริเวณรอบบ้านจะมีพื้นว่างระหว่างตัวอาคารและรั้วพอให้หายใจ จะเอาต้นไม้พุ่มเล็กๆมาลงก็ได้ หรือจะเป็นต้นตีนตุ๊กแกชิดแนวรั้วเวลามองออกมาจะได้เห็นอะไรเขียวๆ ผ่อนคลายดี แต่ต้องหมั่นดูแลไม่ให้รกนะคะ นอกจากนั้นยังมีเครื่องเติมอากาศออกซิเจน Medo สำหรับบำบัดน้ำเสียมาให้ด้วย ซึ่งตัวนี้จะช่วยให้การบำบัดน้ำในตัวบ้านเร็วขึ้นค่ะ

หลังบ้านเป็นลานซักล้าง พื้นเป็นคอนกรีต ถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำทางโครงการก็แถมให้หมดเลย ตัวท่อที่ทางโครงการให้เป็นท่อรับแรงดันสูง ที่จะทนและรับแรงดันได้มากกว่าท่อทั่วไปนะคะ

ประตูเข้าหลักของบ้านเป็นประตูไม้ไม้แท้ปิดผิววีเนียร์บานเปิดคู่ มาพร้อมช่องแสงความสูงเท่าประตูช่วยให้ภายในดูโปร่งและสามารถเห็นเวลามีลูกค้าจะเข้าตามาติดต่องานด้วย

ข้างประตูจะมีเต้ารับแบบมีฝาครอบที่ทางโครงการให้มาค่ะ

ข้างประตูอีกด้านจะมีเจาะช่องเก็บของไว้ ตรงนี้เราสามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าและที่เก็บร่มได้นะคะ

พื้นทางเข้ายกสูงขึ้น  2 สเต็ป วัสดุปิดผิวพื้นเป็นไม้สำเร็จรูปทำสีธรรมชาติ

มือจับประตูเป็นอลูมิเนียมสีเงินยาว จับได้สะดวกค่ะ

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่โล่งๆ ซึ่งเป็นข้อดีของโฮมออฟฟิศคือเราสามารถจัดพื้นที่ได้ตามใจชอบ โดยจะจัดเป็นส่วนต้อนรับโถงนั่งคอย และพื้นที่นั่งทำงานอย่างบ้านตัวอย่างก็ได้ เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นเป็นเพียงแค่การจำลองบรรยากาศโครงการเค้าไม่ได้มีแถมมาให้นะ เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดในบ้านกันทีละส่วนดีกว่าค่ะ

ทางฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของบันได ลิฟต์โดยสาร และทางไปหลังบ้านค่ะ

ส่วนทางขวาทางโครงการจัดเป็นชุดรับแขกและโต๊ะต้อนรับ สังเกตจะเห็นว่าบ้านมีช่องแสงค่อนข้างเยอะทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน ซึ่งช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้น แต่บางช่วงเวลาแดดอาจจะส่องเข้ามามากเกินไปจนร้อน แนะนำให้ติดเป็นมู่ลี่นะคะ จะได้สามารถความคุมปริมาณแสงที่จะเข้ามาภายในตัวบ้านได้

ประตูทางฝั่งนี้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกลามิเนตสีเขียวตัดแสง หนา 8 มม. กรอบอลูมิเนียมสีดำ สูงประมาณ 2 เมตร มองออกไปจะเป็นพื้นที่สวนข้างบ้านถ้าจัดเป็นเฉลียงเล็กๆหรือเอาต้นไม้มาลงคงจะดูร่มรื่นขึ้นอีกเป็นกองเลยค่ะ

กรอบอลูมิเนียมค่อนข้างหนาดูแข็งแรง ปลอดภัยมากค่ะ ประตูบานเลื่อนนี้จะล็อคจากด้านในเท่านั้น ส่วนมือจับด้านในเป็นแบบตามภาพ ขนาดจับพอดีมือค่ะ

บริเวณตรงกลางบ้านมี ช่องโล่งเป็น Double Space และมีช่องแสงอยู่ด้านบนอีกจุดหนึ่ง  ซึ่งจะทำให้บ้านมีความโปร่งมากขึ้น

มองขึ้นไปด้านบนสักหน่อยมีกระจกบานใหญ่ที่เป็นช่องแสงให้ชั้น 2 และชั้น 1 เดี๋ยวเราจะไปดูชัดๆกันอีกครั้งที่ชั้น 2 นะคะ

ด้านหลังเป็นบานกระจกติดตายไม่สามารถออกไปหลังบ้านได้ แต่ถ้าใครอยากให้เชื่อมต่อกับพื้นที่หลังบ้าน จะเปลี่ยนเป็นประตูก็ไม่ว่ากันแต่แนะนำเป็นประตูบานทึบนะคะ จะปลอดภัยกว่าบานประตูกระจก พื้นที่ตรงนี้สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆให้พนักงานพักผ่อนนั่งทานกาแฟได้

สวิทช์ไฟของ Panasonic เลือกสีมาได้เข้ากับแนวคิดโดยรวมของบ้านค่ะ

ห้องไฟฟ้าที่หลังบ้านจะอยู่ถัดมาจากลิฟท์โดยสาร ติดกับประตูที่ออกไปลานซักล้างหลังบ้าน

The ACE (1)

ลิฟต์ของ Kone บรรทุกได้ 8 คน เนื่องจากลิฟต์ของบ้าน Type B ยังไม่เรียบร้อย เลยเอาภาพลิฟต์ตัวที่เสร็จแล้วมาให้ดูกันนะคะ

The ACE by aland-บ้านแฝดหลังแรก-1

ภายในลิฟต์เป็นสีวัสดุดูทันสมัย และมีกระจกบานยาวพร้อมราวจับค่ะ

The ACE (3)

หน้าลิฟต์จะมีทรศัพท์ฉุกเฉิน และแผงปุ่มกดลิฟต์หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

collage

หน้าตาห้องไฟฟ้า มีการเก็บงานได้เรียบร้อยดี จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือสามารถไว้เก็บของได้ แต่ไม่แนะนำให้เก็บของประเภทของเหลวหรือมีความชื้นนะคะ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ป้องกันไว้ก่อนเนอะ

ออกมาส่วนหลังบ้านเป็นลานซักล้าง พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตร มีห้องน้ำรวมของชั้นนี้อยู่ทางขวามือ เปิดมาก็เจอเลยค่ะ

บานประตูเป็นประตูสำเร็จรูปของ Leowood มือจับและตัวล็อคอลูมิเนียมดูแข็งแรงดีค่ะ

The Ace ศรีนครินทร์

หลังบานประตูมีตัวกันกระแทกมาให้ด้วย เผื่อใครกะแรงไม่ถูกเปิดมาประตูจะได้ไม่กระแทกผนังจนเป็นรอยนะคะ

ห้องน้ำที่ชั้น 1 มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ซึ่งตรงนี้ถ้าอยากให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็อาจจะติดตั้งฉากกระจกห้องอาบน้ำเพิ่มได้ แต่ถ้าใช้ไม่บ่อยก็ไม่ไม่จำเป็นต้องติดนะ

อ่างล้างมือของ Mogen มีช่องเก็บของใต้อ่าง ระยะวางห่างออกมาจากผนังไม่มาก แต่ไม่เป็นปัญหาในการใช้งานเพราะห้องน้ำค่อนข้างมีพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนก๊อกน้ำของ American Standard

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen ระยะติดตั้งเหมาะสมพอจะมีระยะห่างจากอ่างล้างมือ ส่วนสายชำระและที่วางกระดาษทิชชู่ก็วางถูกต้องตามมาตรฐาน อาจจะชิดโถสุขภัณฑ์ไปสักหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหาในการใช้งาน

ขนาดสายชำระ อาจจะเล็กไปนิดนึงนะ

มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศบริเวณส่วนอาบน้ำ

ตรงพื้นส่วนอาบน้ำมีลดระดับลงไปประมาณ 2-3 เซนติเมตร

ขนาดของฝักบัวค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ

พื้นจากตัวบ้านออกมายังลานซักล้าง ลดระดับไว้สูงประมาณ 10 เซนติเมตรเวลาก้าวเดินต้องระวังนิดนึงนะ ถ้าก้าวพลาดอาจจะได้รับบาดเจ็บได้

ตรงใต้บันไดขึ้นไปชั้น 2 มีพื้นที่ว่างก็อาจจะจัดจัดเป็นพื้นที่นั่งทำงานเล็กๆ หรือใช้เป็นห้องเก็บของใต้บันไดได้ แต่ควรกั้นห้องให้เรียบร้อยนะคะ เพราะตรงนี้แขกไปใครมา ก็เห็นหมดนะ

ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูด้วยไม้สำเร็จรูป สีธรรมชาติ ทั้งลูกตั้งและลูกนอนค่ะ ราวจับบันไดใช้สีเดียวกันกับตัวบันได ส่วนราวเป็นเหล็กพ่นสีดำทำออกมาเข้ากันได้ดีเลย

ชานพักบันไดจะแบ่งเป็น 2 ช่วงช่วงแรกจะเป็นชานพักแบบสามเหลี่ยมซึ่งจะเหมือนเป็นบันไดแบบไม่เต็มขั้น เวลาเดินก็ต้องระวังก้าวพลาดหรือสะดุดด้วยนะคะ ส่วนชานพักช่วงที่สองเป็นชานพักสี่เหลี่ยมมีความปลอดภัยมากกว่าแบบแรกหน่อย บริเวณตัวบันไดจะมีไฟติดผนังมาให้เพียง 1 ดวง เพราะฉะนั้นถ้าอยู่อาศัยจริงควรจะต้องติดตั้งเพิ่มเผื่อในเวลากลางคืนนะคะ

จุดต่อระหว่างชานพักช่วงที่ 2 ราวบันไทำแบบเชื่อมกันเก็บรายละเอียดดีค่ะ เสียดายที่ชานพักช่วงแรกความสูงต่างกันมากไปหน่อยเลยทำรวมจับเชื่อมถึงกันยาก

พื้นชั้น 2 และ 3 จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สีขาว ขนาด 60×60 เซนติเมตร สีตัดกันกับตัวบันไดเลย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับส่วนโถงก่อน สำหรับบ้านตัวอย่างจัดมาให้เป็นชุดโซฟานั่งพักผ่อนซึ่งจริงๆโถงตรงนี้สามารถจัดเป็นที่นั่งทำงานก็ได้ค่ะ โถงนี้จะแบ่งชั้นนี้ออกเป็น 2 ส่วน ถ้าไปทางด้านซ้ายจะเป็นทางไปห้องผู้จัดการ ส่วนด้านขวาจะเป็นทางไปส่วนออฟฟิศ หรือห้องประชุม

ด้านขวาเป็นพื้นที่สำหรับออฟฟิศหรือห้องประชุม  จะเห็นว่าโฮมออฟฟิสหลังนี้มีเต้าเสียบหลายจุด ซึ่งค่อนข้างจะเพียงพอต่อการใช้งานในออฟฟิศ เราแทบไม่ต้องเดินไฟเพิ่มเติมเลย

ตัวอย่างการจัดออฟฟิศที่ทางโครงการทำมาให้ดูเป็นสไตล์โมเดิร์น เรียบๆแต่แฝงไว้ด้วยความเท่ห์ น่าใช้งาน สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการจัดได้นะคะ

อีกด้านจัดเป็นโต๊ะประชุมใหญ่ ตรงนี้จัดวางได้ดีแล้วค่ะ แต่ถ้าหากต้องการห้องประชุมที่มีความสงบจะกั้นห้องเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ

พื้นที่ตรงนี้สามารถวางตู้เก็บของอย่างที่โครงการทำมาให้ก็ได้หรือจะ Built-in เป็นตู้วางของแบบเต็มพื้นที่เลยก็ได้ค่ะ

อีกด้านนึงทางซีกซ้ายติดกับบันไดจะเป็นลิฟต์โดยสาร และบันไดหนีไฟ

ส่วนทางซีกขวาติดกับโถงจะเป็น Double Space ที่เราเห็นจากชั้น 1 ถัดไปโซนของห้องผู้จัดการ และห้องน้ำรวมของชั้น 2 ค่ะ

บริเวณ Open Space ที่ชั้น 2 มีกระจกมองไปเห็นเพื่อนบ้านข้างเคียง แนะนำให้ติดมู่ลี่บังสายตาก็ได้ ถ้าไม่อยากให้ฝั่งตรงข้ามเห็นเราเดินไปเดินมา

เข้ามาในห้องผู้จัดการพื้นที่สามารถวางโต๊ะค่อนข้างยาวได้ 1 ชุด ด้านข้างมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานสูง มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะทีเดียว แต่อาจจะร้อนในช่วงกลางวัน ตรงนี้ก็แนะนำให้ติดมู่ลี่ หรือจะเป็นม่านกันรังสียูวีก็ได้ค่ะ ถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัว

จากในห้องผู้จัดการสามารถมองออกไปที่โถงและส่วนออฟฟิศได้ด้วยค่ะ

สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 2 นี้จะเป็นห้องน้ำรวมไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Cotto สีน้ำตาลเข้ม ขนาด 40×40 เซนติเมตร มีหน้าต่างบานกระทุ้งหนึ่งบานให้แสงสว่างและระบายอากาศค่ะ

ห้องน้ำลดระดับค่อนข้างสูง เวลาเดินต้องระวังสะดุดด้วยนะคะ

สุขภัณฑ์ของ Mogen ตำแหน่งติดตั้งตามมาตรฐาน มีก๊อกน้ำให้ 1 จุด

มีโถสุขภัณฑ์ชายของ American Standard

ระหว่างห้องน้ำและลิฟท์โดยสารเป็นห้องเก็บของและบันไดหนีไฟ

ให้ดูโถงบันไหนีไฟ ตัวบันไดหนีไฟเป็นคอนกรีตค่ะ

เดี๋ยวเราจะขึ้นไปชั้น 3 กันต่อเลย ลักษณะตัวบันได ชานพักบันได และโถงบันไดจะเหมือนกับที่ชั้น 1 ค่ะ

โถงที่ชั้น 3 ไม่มีจัดตัวอย่างมาให้ดูนะโดยรวมๆผังชั้นนี้จะเหมือนที่ชั้น 2 ค่ะ โดยในผังจัดพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนพักอาศัยมากขึ้นโดยมีการจัดฟังก์ชั่นให้เป็นส่วนครัวทางด้านซ้าย และห้องนั่งเล่นหรือส่วนออฟฟิศทางด้านขวา แต่เราสามารถจัดพื้นที่ใช้สอยได้ตามความต้องการของเราเลยนะ จะเปลี่ยนเป็นออฟฟิศทั้งชั้นเลยก็ได้

จากโถงหันไปทางด้านขวาจะเป็นพื้นที่ใหญ่ ไม่มีการกั้นห้องไว้ เราสามารถปรับแต่งได้เองเลยค่ะ

ถ้าพื้นที่ออฟฟิศที่ชั้น 2 เพียงพอแล้ว ในชั้นนี้เราอาจจะจัดเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนให้พนักงานก็ได้ค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้ค่อนข้างกว้าง นอกจากจะจัดเป็นห้องนั่งเล่นแล้วยังสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆเข้าไปได้อีกเช่นห้องอ่านหนังสือ หรือ Game Room ให้ทุกคนได้เข้ามาผ่อนคลายกันค่ะ

มีช่องแสงเป็นประตูบานเลื่อนคู่ให้เต็มพื้นที่ผนังด้านหน้าตัวบ้านช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้ดูโปร่งขึ้น และในวันที่แดดไม่แรงยังสามารถเปิดเพื่อรับลมธรรมชาติได้อีกด้วยค่ะ

ระเบียงไม่กว้างมาก แต่ถ้าจะลงไม้กระถางก็ยังสามารถทำได้ค่ะ จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านด้วย

ฝ้าตรงระเบียงจะตีระแนงสีไม้ธรรมชาติ ฝ้าตรงนี้ที่ช่วยให้ตัวบ้านดูไม่น่าเบื่อที่เราเห็นจากหน้าบ้านนั่นเองค่ะ นอกจากนั้นยังมีไฟส่องสว่างติดไว้บนฝ้าให้เป็นระยะๆ ค่ะ

มีลูกเล่นนิดหน่อยตรงระแนงฟาสาด (Facade)ของบ้าน สามารถเลื่อนปรับปริมาณแสงที่จะเข้ามาในห้องได้อิสระค่ะ

กลับมาที่อีกด้านนึ่ง ของโถงจะเป็นส่วนของครัวและห้องน้ำรวมชั้น 3 ค่ะ

มีระเบียงเล็กๆก่อนจะถึงส่วนครัว

ระเบียงตรงนี้ก็ลดระดับค่อนข้างสูงนะคะ เวลาเดินก็ต้องระมัดระวังกันนิดนึง

พื้นที่ระเบียงตรงนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถเอาชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆมาวางได้ 1 ชุดค่ะ

ก่อนจะถึงส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำของชั้น 3 ค่ะ

The ACE by aland-บ้านแฝดหลังแรก93

ช่างติดตั้งกระจกขยันดีนะคะสำหรับรายละเอียดมุมกระจกตรงนี้ จริงๆตัดตรงติ่งล่างทิ้งไปเลยก็น่าจะประหยัดเวลาและดูดีกว่านะคะ

อ่างล้างมือที่ชั้น 3 มีพื้นที่วางของข้างใต้อ่างและด้านข้างอ่างนิดหน่อยค่ะ ขนาดของอ่างที่ชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าชั้นล่างนิดหน่อยค่ะ

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen ตัวโถอาจจะวางกระชั้นอ่างล้างมือไปนิดนึงนะ เวลานั่งทำธุระอาจจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ส่วนตำแหน่งติดตั้งสายชำระถูกต้องแล้ว แต่ตำแหน่งที่วางกระดาษทิชชู่อาจจะใกล้สายชำระไปหน่อย อาจจะมีเปียกๆชื้นๆบ้าง

พื้นที่อาบน้ำลดระดับประมาณ 2-3  เซนติเมตรพื้นที่อาบน้ำพอดีๆ ไม่คับแคบเกินไปค่ะ

ฝักบัวอาบน้ำมีแยกเป็น เรนชาวเวอร์และฝักบัวธรรมดา ตรงผนังเจาะเป็นที่วางของ เราอาจจะใส่ชั้นวางเพื่อจะได้วางของได้มากขึ้นค่ะ

ขนาดของตัวฝักบัวค่อนข้างใหญ่

มาที่ส่วนครัวตรงนี้ถ้าเราจะติดตั้งเคาท์เตอร์ครัวก็คงจะติดตั้งได้ที่ผนังฝั่งที่ไม่มีช่องแสงเท่านั้น ส่วนเรื่องกลิ่นถ้ากังวลว่าจะคลุ้งอยู่ในห้องก็สามารถติดเครื่องดูดควันได้ค่ะ

มีช่องแสงขนาดใหญ่ที่ผนังด้านหนึ่ง ครึ่งบนเป็นบานเปิดคู่ส่วนครึ่งล่างเป็นบานติดตายค่ะ

ซึ่งส่วนครัวนี้ถ้าคิดว่าจะมีการทำอาหารแบบจริงจังแนะนำว่าควรจะกั้นเป็นครัวปิดไปเลยนะคะ กลิ่นจะได้ไม่ออกไปรบกวนด้านนอก

ขึ้นไปชั้นบนสุดกันค่ะ สำหรับตัวบันไดและโถงบันไดก็จะเหมือนกับชั้นล่างนะคะ

พื้นชั้น 4 เป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 12 มิลลิเมตร

ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเจอระเบียงเล็กๆก่อนแล้วแจกไปห้องนอนเล็กทางซ้าย และห้องนอนใหญ่ทางด้านขวาค่ะ

ระเบียงที่ชั้น 4 สามารถมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้เลย ถ้าอยากจะออกมานั่งชิลล์ก็ต้องดูจังหวะดีๆนะคะ

เราไปดูฝั่งห้องนอนเล็กกันก่อนค่ะ

ตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นลิฟท์โดยสาร บันไดหนีไฟและห้องเก็บของนะคะ

ห้องเก็บของนี้ที่จริงแล้วคือห้องไฟที่เดินสายไฟขึ้นมาจากชั้นล่าง ดังนั้นจึงมีช่องตรงพื้นอยู่ ถ้าหากจะใช้งานเป็นห้องเก็บของก็ควรกั้นผนังเตี้ยๆไว้กันของตกลงไปด้านล่างค่ะ

มาที่ห้องนอนเล็กพื้นที่สามารถวางเตียงควีนไซส์ได้กำลังพอดี จากรูปทรงของห้องที่ผนังด้านนึงเป็นช่องแสงบานใหญ่ทำให้การวางตำแหน่งเตียงสามารถวางหัวเตียงชิดฝั่งซ้ายและขวาได้เท่านั้น หรือถ้าพื้นที่ออฟฟิศที่ชั้นล่างยังไม่พอ ห้องนี้ก็สามารถรองรับฟังก์ชั่นการเป็นห้องทำงานได้ดีค่ะ

วิวจากห้องนอนเล็กเป็นที่ดินเปล่าด้านหลังโครงการ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นหลายต้นค่ะ

อีกฝั่งนึงของห้องนอนจะเป็นห้องน้ำ ที่มีพื้นที่เหลือให้สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนเล็กมีแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ห้องนี้ช่างติดกระจกขยันเข้ามุมหลบหน้าต่างให้เราอีกแล้วค่ะ

พื้นลดระดับสูงประมาณ 8 เซนติเมตร จบงานด้วยลามิเนตไม่ค่อยทนน้ำต้องระวังในการใช้งานด้วยนะคะ

ตำแหน่งติดตั้งโถสุขภัณฑ์ สายชำระและที่วางกระดาษทิชชู่อยู่ในตำแหน่งมาตรฐาน ระยะเหมาะสมไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

อ่างล้างมือบนเคาท์เตอร์ลอยตัวไม่มีพื้นที่วางของบนอ่างล้างมือแต่มีพื้นที่เก็บของใต้อ่างค่ะ

พื้นที่อาบน้ำพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร ไม่มีกั้นห้องอาบน้ำให้นะคะ แต่สามารถติดตั้งเองได้ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ใช้งานได้สะดวกไม่มีเหลี่ยมมุม

ขนาดของฝักบัวขนาดมาตรฐาน ปรับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้ค่ะ

เวลาเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะตัวประตูจะเปิดมาชนกับผนังตรงส่วนอาบน้ำค่ะ

มาที่ห้องนอนใหญ่กัน

ห้องนอนใหญ่ ขนาดประมาณ 5×6 เมตร ตำแหน่งของห้องจะถูกวางไว้ตรงส่วนหน้าของบ้าน จะได้วิวเป็นโรงงานช็อคโกแลตและสนามบอล ส่วนตำแหน่งการวางเตียงคงจะไม่มีที่ให้เลือกมากนัก เพราะมีผนังทึบเพียงแค่ฝั่งเดียวคือผนังทางด้านขวาค่ะ หรือถ้าเราไม่ต้องการจัดเป็นห้องนอน จะจัดเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ

มีช่องแสงมาให้เยอะ และสูงเต็มผนัง ข้อดีคือความโปร่งและได้แสงธรรมชาติแต่ข้อเสียคือจะเสียความเป็นส่วนตัวไป ทางแก้คือติดผ้าม่านหรือมู่ลี่ที่นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวแล้วยังสามารถควบคุมแสงที่จะเข้ามาในห้องได้อีกด้วยค่ะ

ระเบียงทางด้านหน้าและด้านข้างของห้องนอนใหญ่ ขนาดไม่กว้างมากเน้นเป็นแนวยาว พอจะวางกระถางต้นไม้ได้ค่ะ

มองกลับมาอีกด้านจะเป็นห้องน้ำและประตูที่เข้ามาในห้องนอน

ประตูห้องน้ำไม่สามารถเปิดไปจนสุดบานได้นะ จะติดตำแหน่งที่เป็นห้องอาบน้ำค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ให้อ่างล้างมือของ Mogen ที่มีพื้นที่วางของบนอ่างและพื้นที่เก็บของใต้อ่าง และกระจกก็ได้เป็นบานใหญ่เต็มผนังมาค่ะ มีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศมา 1 บาน

ขนาดของอ่างล้างมือค่ะ

สุขภัณฑ์ของ Mogen ระยะติดตั้งมาตรฐานไม่มีปัญหาในการใช้งานค่ะ

ส่วนอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างชัดเจน ถ้าต้องการกั้นห้องอาบน้ำก็สามารถทำได้ค่ะ ส่วนฝักบัวแยกเป็นแบบ Rain Shower และแบบธรรมดา

ฝักบัวขนาดมาตรฐาน ดีไซน์ดูทันสมัยดีค่ะ

Type A Plan

สำหรับ Type A ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว จะใกล้เคียงกับ บ้าน Type B เลย เพียงแต่ได้พื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เนื่องจากไม่มีผนังกั้นแบ่งตัวบ้าน ซึ่งตัวบ้านที่เราซื้อจะได้เป็นบ้านเปล่า พร้อมลิฟต์ และห้องน้ำตกแต่งมาตรฐานเช่นกันค่ะ ในส่วนของการวางผังที่ชั้น 1 เริ่มจากที่จอดรถที่สามารถจอดแถวละ 6 คัน ซ้อนกันได้ 3 แถวรวมแล้วได้ 18 คัน เมื่อเข้าบ้านไปจะเจอกันโถงต้อนรับ เชื่อมอยู่กับห้องทำงานที่แบ่งพื้นที่ให้เป็นห้องประชุม้านหลัง ส่วนห้องน้ำจะอยู่นอกตัวอาคารต้องออกไปที่ส่วนซักล้างก่อนเพื่อเข้าห้องน้ำค่ะ ส่วนลิฟต์โดยสารจะมี 1 ตัว อยู่กลางบ้านซึ่งและบันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ทางขวาค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอห้องทำงานขนาดใหญ่มีระเบียง ตรงส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนออฟฟิศหลักที่จะวางโต๊ะทำงานให้พนักงานบริษัท ติดกันกับห้องทำงานจะเป็นห้องผู้จัดการทางด้านขวา ส่วนด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่เตรียมอาหารและห้องน้ำแยกชาย-หญิง ค่ะ ซึ่งพื้นที่เตรียมอาหารที่ชั้นนี้มีขนาดไม่ใหญ่นักไม่เหมาะที่จะใช้ทำครัวแบบจริงจัง อาจจะจัดเป็นแค่ส่วนชงกาแฟหรือเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆก็ได้ค่ะ

 

Type A Plan-2

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ทางโครงการวางผังมาให้เป็นห้องอเนกประสงค์ ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังครัวและห้องน้ำรวมทางด้านซ้าย และห้องนอนที่มีห้องน้ำภายในตัวที่ด้านขวา ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่ต้องยึดตามที่ทางโครงการวางมาให้ก็ได้ค่ะ จากผังเราจะเห็นว่าห้องอเนกประสงค์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เราสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน หรือจะเป็นพื้นที่พักผ่อน/ห้องอ่านหนังสือให้พนักงาน และยังสามารถทำเป็นส่วนรับประทานอาหารได้อีกด้วยค่ะ และถ้าพื้นที่อเนกประสงค์ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานแล้ว ตัวห้องนอนก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นนะคะ เพราะความเป็นส่วนตัวจะหายไป ไม่เหมาะกับการเป็นห้องนอนแล้วค่ะ ในส่วนของครัวถ้าจะมีการทำครัวแบบจริงจังแนะนำให้กั้นเป็นห้องให้เรียบร้อยค่ะ จะได้ไม่มีกลิ่นรบกวน

ชั้นที่ 4 จะเป็นชั้นที่มีการวางผังมาเพื่อให้ใช้สำหรับอยู่อาศัยค่ะ เพราะชั้น 4 จะมีความ Privacy เมื่อขึ้นมาจะเจอโถงทางเดินที่แจกไปห้องนอนใหญ่ทางขวาและห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องทางซ้าย ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำภายในตัวค่ะ สำหรับชั้นนี้ถ้าจะใช้เพื่ออยู่อาศัย สามารถปรับบริเวณโถงทางเดินให้เป็นห้องนั่งเล่น ดูทีวีก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหากไม่ได้ใช้อยู่อาศัย พื้นที่ห้องนอนแต่ละห้องก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @22 September 2015 

  • Type A  18 ที่จอดรถ 900 ตารางเมตร ที่ดิน 120 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท หรือ 291,666 บาท ต่อ ตารางวา
  • Type B  9 ที่จอดรถ 470 ตารางเมตร ที่ดิน 59-60 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท หรือ 296,610 บาท ต่อ ตารางวา

  • จองและทำสัญญา 500,000 บาท
  • ดาวน์ 20%
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละ 1%
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

The Ace เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 15 มีทางเข้าอยู่บนถนนใหญ่ศรีนครินทร์ช่วงแยกกรุงเทพกรีฑา ถึงแยกพระราม 9- ศรีนครินทร์ ซึ่งความอุมสมบูรณ์ของถนนศรีนครรินทร์ช่วงนี้ยังเป็นรองเมื่อเทียบกับบริเวณใกล้เคียงอย่างถนนพัฒนาการ ที่มีทั้งสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus, Max Value, London Street รวมไปถึงสถานศึกษาต่างๆเช่นเกษมบัณฑิต และช่วงบางนา -อ่อนนุช ที่มีศูนย์การค้าอย่างซีคอนสแควร์ และสวนหลวงร.9 แต่ถ้ามองวงแคบลงมาอย่างบริเวณในซอยของตัวโครงการเลยก็ถือว่าไม่ขี้เหร่นัก เพราะมีทั้งที่พักรายเดือนราคาไม่แพงไว้รองรับพนักงานที่จะย้ายมาอาศัยใกล้ออฟฟิศ และร้านอาหารอยู่ในระยะใกล้ ซึ่งถ้ามองในแง่การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกและรองรับพนักงานได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ทำเลนี้เอื้อกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากเพราะเป็นจุดที่สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายเส้นทางทั้งจากถนนเส้นหลักๆอย่างรามคำแหง, พระราม 9, พัฒนาการ และอ่อนนุช แต่อาจจะมีรถติดบ้างในช่วงเช้าและเย็น สำหรับทางด่วนถ้ามาจากในเมืองสามารถใช้ทางด่วนศรีรัชวิ่งมาลงพระราม 9 มุ่งหน้าเข้าศรีนครินทร์ ส่วนถ้าเป็นจากโครงการเข้าเมืองก็มีทางขึ้นทางด่วนพระราม 9 ประมาณ 1 กิโลเมตร และถ้าเป็นขาออกจากเมืองก็สะดวกแค่ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตรก็สามารถเข้ามอเตอร์เวย์ ไปสุวรรณภูมิ,ฉะเชิงเทรา และชลบุรีได้เช่นกันค่ะ ส่วนข้อเสียหลักๆเลยก็คือถ้าออกจากโครงการและจะเข้าเส้นศรีนครินทร์ต้องไปกลับรถตรงเลียบทางด่วน Motor Way ค่ะ

ส่วนคนไม่ใช้รถ เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือ Airport Link สถานีหัวหมากเป็นทางเลือกได้ แต่ต้องใช้บริการพี่วินที่บริเวณสถานีหรือพี่แท็กซี่ โดยระยะทางจากสถานีถึงโครงการรวมระยะกลับรถประมาณ 2.3 กิโลเมตร  เมื่อออกจากสถานีจะต้องไปกลับรถที่แยกพัฒนาการเพื่อมุ่งหน้าขึ้นถนนศรีนครินทร์(บางกะปิ)แล้วกลับรถก่อนถึงแยกกรุงเทพกรีฑาเพื่อเข้าโครงการ แต่บริเวณโครงการจะไม่มีพี่วินให้บริการนะ ต้องออกมาเรียกแท็กซี่ที่หน้าปากซอยเอาค่ะ

วัสดุของโครงการโดยทั่วไปจะอยู่ในระดับมาตรฐาน พื้นที่จอดรถและพื้นหลังบ้านเป็นคอนกรีตขัดหยาบ พื้นภายในเป็นแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตร, ลามิเนต 12 มิลลิเมตร พื้นห้องน้ำชั้นล่างเป็นกระเบื้อง Cotto 40×40 เซนติเมตร ส่วนผนังห้องน้ำเป็น กระเบื้อง Cotto 30×40 เซนติเมตร, ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ กันลื่น 60×60 เซนติเมตร ส่วนผนังเป็นหินอ่อน ขนาด 30×60 เซนติเมตร ตัวบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดด้วยไม้ธรรมชาติ ส่วนอุปกรณ์ประตู หน้าต่างให้ค่อนข้างดี ดูแข็งแรงและดูพิถีพิถันในการเลือกใช้ ส่วนพิเศษที่ได้เพิ่มมาคือลิฟท์โดยสาร แต่เสียดายที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ

แบบบ้านแฝด Type B มีการจัดฟังก์ชั่นออกมาได้ลงตัวดี ให้ช่องแสงมาเยอะ มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วนและยังมีการแบ่งทั้งส่วนออฟฟิศทำงานและส่วนพักอาศัยได้อย่างลงตัว ส่วนบ้านเดี่ยว Type A ก็จัดฟังก์ชั่นออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน เพียงแต่บ้านจริงทั้ง 2 Type จะได้มาเป็นบ้านเปล่าๆ ซึ่งส่วนใหญ่โครงการที่เป็น Home Office ก็จะทำเป็นบ้านเปล่ามาให้อยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นพื้นที่ออฟฟิศก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องจัดสรรเองนะคะ โดยเฉพาะ ตัวบ้านเดี่ยว Type A จะมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ถ้ามีการจัดการตกแต่งที่ดีก็จะเป็นโฮมออฟฟิศที่น่าอยู่น่าทำงานค่ะ

เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กจึงไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ แต่ภายในบ้านจะมีกันขโมยแบบ Megnetic Sensor และ Shock Sensor และลิฟท์มาให้ค่ะ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 17.5-35 ล้านบาท , 22 September 2015 

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5.0/10 – เข้าถึงได้จากหลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน แต่เข้าเส้นศรีนครินทร์ลำบากหน่อย
  • ความปลอดภัย 7.25/10  – โครงการขนาดเล็ก จำนวนยูนิตน้อยจึงไม่มีการจัดซุ้มทางเข้าโครงการและรปภ.ให้ แต่ยังดีที่มีติดกันโขมยและรั้วไฟฟ้าให้ค่ะ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบสวยดูดี การจัดพื้นที่ภายในมีการแบ่งฟังก์ชั่นค่อนข้างดี
  • วัสดุ 7.5/10 – ใช้วัสดุค่อนข้างดี แต่การเก็บงานยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ -/10 – เป็นโครงการขนาดเล็กเลยมีพื้นที่จำกัด พื้นที่สีเขียวที่มีก็จะเป็นพื้นที่ข้างบ้านนิดหน่อยที่เหลือก็จะเกิดขึ้นได้ด้วยมือเรา เช่นการลงไม้กระถางรอบบ้านและระเบียง
  • สาธารณูปโภค -/10 –เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็กที่ไม่มี Facility และเก็บค่าส่วนกลางใดๆ ดังนั้นโครงการนี้จึงไม่มีคะแนนสาธารณูปโภคค่ะ
  • 7.55 / 9.00  (ไม่คิดสาธารณูปโภค-พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ)

BOTTOM LINE

The Ace เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านแบบโฮมออฟฟิศ สำหรับอยู่อาศัยและทำงานไปในตัว อาจจะมีพนักงานในองค์กรไม่เยอะมาก เป็นโครงการที่มีขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ยังเดินทางได้สะดวก ไม่ต้องการส่วนกลาง มีรถใช้ส่วนตัวเป็นหลัก และไม่ได้เน้นกิจการที่ต้องมีหน้าร้านสำหรับรับลูกค้าตลอดเวลา โครงการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณ 17.5-35 ล้านบาทหรือกำลังผ่อนต่อเดือน 123,000-280,000 บาทต่อเดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )