ใครจะรู้บ้างว่า “แสงธรรมชาติ” ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ทำให้สุขภาพดีได้อย่างไม่รู้ตัว  

ใช่แล้วค่ะ เพื่อนๆ สามารถมีสุขภาพดีได้จากแสงธรรมชาติ เพียงแค่เข้าใจและพยายามนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม ก็สามารถเพิ่มรอยยิ้ม พร้อมสุขภาพที่ดีขึ้นได้

เรามา รู้จัก “แสงธรรมชาติ” กัน ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ???

จากการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยที่น่าเชื่อถือต่างๆ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า แสงธรรมชาติมีผลดีต่อระบบการทำงานของร่างกาย เราจะขอเลือกผลของงานวิจัยที่น่าสนใจให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันนะคะ

แสงช่วยลดอาการซึมเศร้า

Anne-Marie Gagné, 2011 พบว่า แสงธรรมชาติที่มีช่วงคลื่นแสงสีฟ้า (Blue light) เมื่อมีสัดส่วนที่เหมาะสมจะสามารถบำบัดโรคซึมเศร้าหรืออารมณ์ผันแปรตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder (SAD)) และ Ancoli-Israel S, 2003 พบว่า แสงธรรมชาติในตอนเช้าช่วยชะลออาการกระวนกระวายในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) สอดคล้องกับงานวิจัยของ Mishima K,1994 พบว่า แสงในช่วงเข้าสามารถบำบัดอาการนอนไม่หลับของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม (Dementia) ในผู้สูงอายุ

แสงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Greets, 2003 พบว่า ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในองค์กรและการเรียนในสถานศึกษามีมากขึ้นเมื่อมีการนำแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่ทำงาน และ Wout van Bommel, 2006 พบว่า การผสมผสานคลื่นสีและความเข้มแสงในอัตราส่วนที่เหมาะสมตามปริมาณการขึ้นลงของฮอร์โมนเมลาโทนิน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการทำงาน รวมทั้งมีผลดีต่อการผ่อนคลายความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

แผนภูมิ 1 แสดงช่วงคลื่นแสงสีฟ้า (Blue Wave) ช่วง 447-484 nm กระตุ้นการผลิตสารเคมีของสมอง ลดอาการมเศร้าได้ (ที่มา : PsychEducation.org, 2012)

สรุปผลวิจัยได้ว่า แสงมีความสำคัญต่อระบบกลไกของร่างกายมนุษย์ ไม่เพียงเฉพาะการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังประสานเข้ากับการทำงานของระบบสมองอันเป็นส่วนสำคัญของระบบนาฬิกาของร่างกาย (Circadian System) มีผลให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ควบคุมการหลับและการตื่นนอน ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ การสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายเราอีกด้วย รวมทั้งระบบการคิด และการจำ การพูด การสร้างฮอร์โมน และอื่นๆ นอกจากนั้น แสงยังสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังได้ โดยเฉพาะแสงธรรมชาติในช่วงเช้าจะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี ทำให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย

รูปที่ 1 แสดงแนวทางการสร้างแสงไฟทดแทนแสงธรรมชาติ เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเดียวกัน

 

 

 

รูปที่ 2 แสดงภาพบรรยากาศโครงการแมกโนเลียส์ I ที่มีการนำแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านส่วนต่างๆ

จากข้อมูลข้างต้น เพื่อนๆ คงเห็นประโยชน์ของแสงธรรมชาติกันแล้ว บางประเทศจะมีช่วงฤดูกาลที่มีแสงธรรมชาติน้อย ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า จึงมีการประดิษฐ์แสงไฟที่ให้ผลดีเช่นเดียวกับแสงธรรมชาติ แต่ประเทศเราโชคดีที่มีแสงธรรมชาติตลอดทั้งปี เหลือแต่ “การนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้อย่างเหมาะสม” เท่านั้น แล้วทำอย่างไร จึงจะเรียกว่า “เหมาะสม” ?? เนื้อหาตอนหน้าจะขอแนะนำการปรับปรุงบ้านให้รับแสงธรรมชาติอย่างเหมาะสมกันนะคะ

แบ่งปันข้อมูล : ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด