สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับ เรื่องน่ารู้รอบบ้าน มาให้อ่านกัน ……. หลายคนเวลาซื้อบ้านหรือคอนโด บางโครงการก็จะมีการเตรียมงานระบบน้ำร้อน หรือ ระบบทำน้ำอุ่นแถมมาให้ ซึ่งตอนซื้อ หลายๆคนก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่ามันคงเหมือนกัน คือยังไงเราก็ได้อาบน้ำอุ่นเเหละ แต่ความเป็นจริงแล้ว ระบบน้ำอุ่นกับระบบน้ำร้อนนี่ ไม่เหมือนกันนะคะ โดยจะมีความเเตกต่างกันทั้งการเดินระบบตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างเลย การใช้พลังงานก็แตกต่างกัน รวมไปถึงการใช้งานอีกด้วย แบบไหนดี แบบไหนไม่ดี?? เเบบไหนเหมาะสมกับใคร ?? ในบทความนี้เรามาไขข้อข้องใจกันดีกว่าค่ะ

เครื่องทำน้ำอุ่น 

ขอเริ่มกันที่เครื่องทำน้ำอุ่นกันก่อน ระบบนี้จะเป็นระบบที่พบเห็นได้โดยทั่วๆไป คือไม่ต้องตระเตรียมท่ออะไรก่อนก็สามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งได้เลย หลักการทำงานก็ง่ายมาก คือน้ำจากท่อน้ำซึ่งเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ จะไหลผ่านเข้าเครื่องแล้วออกมายังสายฝักบัวเป็นน้ำอุ่นเลย ดังนั้นถ้าเราสังเกตบริเวณตัวเครื่องทำน้ำอุ่น จะมีท่อนึงเดินออกมาจากผนังเข้าไปยังตัวเครื่อง และจากตัวเครื่องก็จะมีสายอ่อนซึ่งเป็นสายฝักบัวที่ออกมานั่นเองค่ะ ข้อสำคัญที่สุดของเครื่องทำน้ำอุ่นเลย คือ ต้องติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันจากการโดนไฟดูด โดยเครื่องทำน้ำอุ่นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

  • แบบผ่านร้อน – หลักการของระบบนี้คือน้ำที่ไหลเข้ามาจะผ่านท่อหรือขดลวดทองเเดงที่เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ใหญ่มากแต่ร้อน ทำให้น้ำร้อนที่ไหลผ่านปริมาณไม่มาก จึงทำให้น้ำร้อนได้เร็ว ตัวเครื่องนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็จะมีข้อเสียตรงที่ท่อไม่ใช่ท่อใหญ่มาก อาจจะเกิดการอุดตันภายในท่อได้จากหินปูน ทำให้น้ำอาจจะไหลออกมาได้ไม่สม่ำเสมอค่ะ
  • แบบหม้อต้ม – แบบนี้ น้ำจะไหลเข้ามายังหม้อต้มซึ่งอาจจะทำจากทองเเดงหรือวัสดุสังเคราะห์ และทำให้ร้อน(เหมือนต้มน้ำให้ร้อนนั่นเองค่ะ) ดังนั้นแบบนี้จึงอาจจะต้องใช้เวลาในการทำน้ำให้ร้อนก่อนที่จะใช้งานได้
    ซึ่งหม้อต้มที่ทำจากทองแดงก็จะมีข้อดีที่ทนความร้อนได้ดี ใช้งานได้นานกว่า แต่ก็อาจจะมีตะกรันน้ำได้ ดังนั้นต้องคอยหมั่นเช็คจุดกรองน้ำก่อนที่น้ำจะเข้าไปในหม้อด้วยนะคะ
    ส่วนหม้อทำความร้อนจากวัสดุสังเคราะห์มักจะทำมากจากพลาสติกที่มีคุณภาพสูง ที่เรียกว่า Grilon (เจ้าพลาสติกชนิดนี้มักใช้ทำเป็นหม้อน้ำในรถยนต์ด้วยค่ะ) ดังนั้นสามารถทนความร้อนสูงๆได้แน่นอน 
    การเลือกใช้หม้อต้มแบบพลาสติกควรเลือกแบบที่หม้อเป็นชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อ และใช้พลาสติกที่คุณภาพดีหน่อย เพื่อกันการรั่วซึมและยืดอายุในการใช้งานค่ะ

<span style="color: #000000">ขอบคุณภาพประกอบจาก www.panasonic.com</span>

<span style="color: #000000">ขอบคุณภาพประกอบจาก บุญถาวร</span>

เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขายอยู่ทั่วๆไป บางรุ่นก็จะขายเฉพาะแค่ตัวเครื่อง บางรุ่นก็จะรวมสายฝักบัวเข้ามาด้วย หรือแบบที่ดีไซน์รวมกับ Rain Shower ก็มีให้เลือกเช่นกันค่ะ โดยราคาของเครื่องทำน้ำอุ่นก็จะมีตั้งแต่ 2-3 พันบาทไปจนถึง 3 หมื่นบาทก็มีค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อกำลังผลิตความร้อนหรือวัตต์ และวัสดุที่ใช้ทำเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยค่ะ 

จุดสังเกตง่ายๆว่าโครงการที่เราซื้อมาให้เป็นระบบน้ำอุ่นหรือระบบน้ำร้อนคือ ถ้าเป็นระบบน้ำอุ่นเราจะเห็นเป็น Junction Box อยู่ข้างๆตำแหน่งฝักบัวเเบบนี้ แปลว่าทางโครงการเตรียมท่อไว้ให้เเล้ว เราสามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งเองทีหลังได้ค่ะ หรือบางโครงการก็ให้เครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งมาพร้อมๆกับตัวห้องเลยค่ะ

เครื่องทำน้ำร้อน 

ส่วนเครื่องทำน้ำร้อนจะมีหลักการคือ มีท่อน้ำอยู่ 2 ท่อ แบ่งเป็นท่อที่เข้าเครื่องทำน้ำร้อนท่อหนึ่ง และท่อน้ำเย็นอีกท่อ น้ำที่ผ่านเครื่องทำน้ำร้อนออกมาจะเป็นน้ำที่ร้อนเลย และจะมาผสมกับน้ำเย็นอีกที เมื่อเราจะใช้งานก็จะต้องผสมน้ำร้อนเเละน้ำเย็นเองผ่านก๊อกน้ำผสม ดังนั้นเรามักจะเห็นหัวก๊อก 2 หัว ที่สามารถปรับระดับความร้อนเย็นได้กับระบบนี้ และเนื่องจากเครื่องทำน้ำร้อนจะผลิตน้ำร้อนจริงๆออกมาเลย ดังนั้นในเเง่การใช้พลังงานจึงใช้พลังงานมากกว่าและกินไฟมากกว่า (บางเครื่องก็ใช้พลังงานมากกว่า 10,000 วัตต์เลย)

ในส่วนค่าพลังงานที่ใช้ ในแต่ละเครื่องก็มักจะมีบอกอยู่เเล้วว่าเครื่องนี้ใช้พลังงานไปกี่วัตต์ ยิ่งจำนวนวัตต์มาก หมายถึงน้ำร้อนที่ผลิตก็จะผลิตได้เร็วมากขึ้นด้วยค่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆคือ เครื่องทำน้ำร้อน 3,000 วัตต์ กับเครื่องทำน้ำร้อน 6,000 วัตต์ ในเวลาเท่ากัน เครื่องทำน้ำร้อนที่จำนวนวัตต์สูงกว่า น้ำที่ออกมาก็จะร้อนเร็วกว่าเครื่องที่จำนวนวัตต์น้อยค่ะ ทั้งนี้ก็จะกินไฟมากกว่านะคะ

ถึงแม้ว่าจะกินไฟมากกว่า แต่ข้อดีของระบบน้ำร้อนก็มีนะคะ เช่น น้ำที่ไหลออกมาก็จะเเรงกว่า (แรงดันน้ำมากกว่า) เพราะน้ำมากจาก 2 ท่อ (น้ำร้อนและน้ำอุณหภูมิปกติ) และระบบนี้ติดตั้งเครื่องเดียว ก็สามารถส่งน้ำไปได้หลายๆจุดเช่น ส่งไปได้ทั้งครัว ทั้งห้องน้ำ อ่างล้างมือ อ่างล้างจาน หรือโซนอาบน้ำ ใช้เครื่องเดียวรวมกันไปเลยได้ค่ะ ในขณะที่ถ้าเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นเราจะต้องใช้ 1 เครื่องต่อ 1 จุดเท่านั้น

ส่วนชนิดของเครื่องทำน้ำร้อนก็จะเหมือนกับเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ คือจะมีแบบผ่านร้อนที่น้ำไหลผ่านท่อ และแบบหม้อต้มที่จะมีขดลวดไฟฟ้าที่ให้ความร้อนกับน้ำโดยตรงเหมือนกัน ซึ่งเมื่อน้ำที่ร้อนเเล้วจะมีถังสำหรับเก็บน้ำร้อนเอาไว้ เเล้วจึงจ่ายน้ำไปยังจุดต่างๆที่เราจะใช้งาน น้ำร้อนเเละน้ำเย็นจะถูกนำมารวมกันเเละปรับอุณหภูมิโดยก๊อกน้ำผสมค่ะ

โครงการที่เรามักจะเห็นเป็นระบบน้ำร้อน มักจะเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ขึ้นไป เหตุผลหนึ่งก็คงเป็นเรื่องความเรียบร้อยสวยงามของห้องด้วย เพราะระบบน้ำร้อน เราสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนซ่อนไว้จุดใดจุดหนึ่งของห้องได้

หรืออีกจุดสังเกตหนึ่งคือระบบก๊อกจะเป็นแบบ 2 หัวคือฝั่งหนึ่งปรับความเเรงของน้ำเย็น อีกฝั่งเป็นน้ำร้อน เราก็ผสมตามความชอบของเราได้เองเลยค่ะ ซึ่งข้อดีของระบบนี้อีกอย่างนึงคือ อุณหภูมิน้ำที่ไหลออกมาค่อนข้างจะเสถียรกว่าระบบน้ำอุ่น ที่จะเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน

แต่การติดตั้งระบบน้ำร้อนก็จะมีความวุ่นวายมากอยู่ค่ะ คืออาจจะต้องออกแบบตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบก่อสร้างเลย ว่าจะทำห้องน้ำนี้เป็นระบบน้ำร้อน เพราะจะต้องเตรียมท่อน้ำ 2 ท่อ ซึ่งการที่เราอยากจะมาติดตั้งทีหลังก็อาจจะได้นะคะ เเต่ก็จะวุ่นวายหน่อย และไม่ค่อยเรียบร้อยสวยงาม เพราะตัวท่ออาจจะต้องเดินอยู่นอกผนังกันเลยทีเดียว

<span style="color: #000000">ขอบคุณภาพประกอบจาก www.panasonic.com</span>

ในส่วนของค่าเครื่องทำน้ำร้อนก็มีตั้งแต่ 4-5 พัน ไปจนถึง 2-3 หมื่นเลย ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ วัสดุ และรุ่นผลิตภัณฑ์เลย

ราคาค่าติดตั้ง

ทั้งเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นราคาค่าติดตั้งอย่างเดียวไม่รวมเดินท่อก็จะอยู่ที่ประมาณ 800-1,500 บาท ซึ่งถ้าเรามาเดินท่อน้ำหรือเดินสายไฟทีหลังก็จะต้องมีค่าแรง ค่าอุปกรณ์เพิ่มขึ้นตามระยะทางการเดินท่อเดินสายไฟด้วยค่ะ ซึ่งเราเห็นร้านค้าหลายๆร้านก็จะมีให้บริการ ติดตั้ง และตรวจเช็คเครื่องให้อยู่เเล้ว อย่างที่ HomePro ค่าบริการตรวจเช็คเครื่องทำน้ำร้อน/น้ำอุ่นอยู่ที่ 650 บาท

อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้สังเกตก่อนติดตั้งอีกสักนิดคือมิเตอร์ที่บ้านหรือที่คอนโดเรามีขนาดเท่าไหร่? ในกรณีที่บ้านใช้มิเตอร์ 5 amp ก็ควรเลือกใช้เครื่องทำน้ำร้อนหรือเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีค่าวัตต์ที่ไม่สูงมาก ไม่ควรเกิน 3,500  วัตต์นะคะ ไม่งั้นอาจจะเกินไฟฟ้าขัดข้องภายในบ้านได้ค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้

การดูแลรักษา

เครื่องทำน้ำอุ่นเเละเครื่องทำน้ำร้อนก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้านะคะ ดังนั้นอย่าลืมที่จะหมั่นตรวจสอบสวิตช์ ELCB ป้องกันไฟรั่ว ไฟดูดเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย และถ้าเราอยากจะทำความสะอาดตัวเครื่องก็ต้องปิดสวิตช์และเบรกเกอร์ก่อน ใช้เพียงผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดภายนอกได้ รุ่นไหนมีตัวกรองก็อย่าลืมถอดตัวกรองออกมาล้างด้วยค่ะ จะได้ใช้งานไปนานๆ

<span style="color: #000000">ขอบคุณภาพประกอบจาก www.boonthavorn.com</span>

โดยสรุปแล้วเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อนมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้

  • การใช้งาน – ระบบน้ำอุ่นจะใช้งานได้ 1 จุดติดตั้งต่อ 1 เครื่องเท่านั้น ส่วนระบบน้ำร้อนสามารถติดตั้ง 1 เครื่อง เเละต่อออกไปได้หลายจุดใช้งาน เช่นอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ฝักบัวอาบน้ำ เป็นต้น
  • ความร้อนของน้ำ – ระบบน้ำร้อนจะได้น้ำที่ค่อนข้างเสถียรมากกว่าระบบน้ำอุ่น และน้ำที่ออกมาก็จะมีความแรงที่มากกว่าเนื่องจากความดันน้ำมากกว่า น้ำร้อนจะเกิดจากการผสมของเราเอง ส่วนระบบน้ำอุ่นจะสามารถปรับอุณหภูมิได้ที่ตัวเครื่องค่ะ
  • การติดตั้ง – ระบบน้ำอุ่นจะติดตั้งง่ายและสะดวกกว่ามาก ตามบ้านทั่วๆไปก็สามารถซื้อมาติดตั้งได้เลย ส่วนถ้าใครอยากติดตั้งระบบน้ำร้อนอาจจะต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบห้องและพื้นที่ใช้งานก่อนว่าเราจะใช้งานน้ำบริเวณไหนบ้าง และต้องเดินท่อแยกตั้งแต่ก่อสร้างเลย หรือถ้าจะมาติดตั้งเองทีหลังก็ได้แต่ก็จะวุ่นวายมากกว่าค่ะ

ซึ่งการเลือกใช้งาน สำหรับคนที่ซื้อบ้านหรือคอนโดก็อยากให้ลองพิจารณาสักนิดว่าทางโครงการมีเตรียมระบบอะไรไว้ให้เราบ้าง เช่นถ้าโครงการเดินระบบน้ำร้อนมาให้ เราก็ควรจะเลือกซื้อเครื่องทำน้ำร้อนมาติดตั้งให้เหมาะสมกับงานระบบที่เตรียมไว้ค่ะ ไม่เช่นนั้นการใช้งานเครื่องทำน้ำร้อนหรือเครื่องทำน้ำอุ่นอาจจะพังได้ง่าย ถ้าเราใช้งานมันผิดประเภทนะคะ

สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะ ใครมีหัวข้ออะไรอยากรู้เพิ่มเติมก็แสดงความคิดเห็นมาได้เลยค่ะ 🙂

แล้วก็อย่าลืมมาลงทะเบียนรับหนังสือ “ชีวิต ติด รถไฟฟ้า”  หนังสือที่จะช่วยให้คุณหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 3 สายใหม่ได้อย่างง่ายดายขึ้น

คลิกลงทะเบียนรับฟรีได้ที่ > https://bit.ly/2Fqs3FZ

และมารับเล่มจริงได้ที่งาน ThinkOfLiving Condo Expo 2019 ที่สยามพารากอนวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์นี้นะคะ