เข้าฤดูร้อนปีนี้ได้ยินเสียงบ่นจากคนรอบตัวเป็นเสียงเดียวกัน ถึงสภาพอากาศที่ร้อนเกินจะทนไหว แม้อยู่ในบ้านที่มีหลังคาปกคลุม ไม่ได้โดนแสงแดดโดยตรง แต่อุณหภูมิที่สูงไปเกือบ 40 องศา และมากกว่านั้นในบางวัน กลับสร้างปัญหาการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก หลายบ้านเลือกแก้ปัญหาโดยการเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ต้องมากังวลกับปัญหาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น จริงๆแล้วนอกจากการเปิดพัดลม เปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว ยังมีตัวช่วยอื่นๆอีกหลายอย่าง ที่เราสามารถนำมาใช้ภายในบ้านเพื่อช่วยลดอุณหภูมิได้เช่นกัน เช่น พัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น แอร์เคลื่อนที่ แล้วจะเลือกใช้แบบไหนดี แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ

พัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น แอร์เคลื่อนที่ แตกต่างกันอย่างไร

พัดลมไอน้ำ จัดเป็นอุปกรณ์คลายความร้อนที่เห็นกันมานานโดยพัฒนามาจากพัดลม แต่ส่วนมากแล้วเราจะเห็นนิยมใช้กันภายในนอกอาคาร หรือในพื้นที่เปิดโล่ง เพราะมีข้อจำกัดจากการใช้ไอน้ำ หลักการทำงานของพัดลมไอน้ำ (Mist Fan) คือ การพ่นหมอกไอน้ำ ผ่านการเป่าลมเพื่อลดอุณหภูมิโดยรอบ ให้ละอองน้ำกระจายตัว สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้ พร้อมทั้งช่วยลดฝุ่น กลิ่น ควัน ลดไฟฟ้าสถิตในบริเวณโดยรอบ จึงเหมาะกับใช้งานในพื้นที่เปิดโล่งหรือในบริเวณที่สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ง่าย มีอากาศหมุนเวียนได้ตลอดเวลา เพราะความชื้นอาจสร้างความเสียหายต่อพื้น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ นอกจากนี้พัดลมไอน้ำ ยังถูกนำไปใช้เพื่อลดความร้อนในงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สายการผลิตชิ้นงาน เครื่องจักร เพื่อควบคุมความชื้นในโรงงานต่างๆ ได้อีกด้วย

สำหรับพัดลมไอน้ำ ที่นิยมใช้กันภายในบ้านพักอาศัย จะมีขนาดที่หลากหลาย โดยส่วนมากจะถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้สะดวก ขนย้าย เปลี่ยนตำแหน่งการใช้งานได้ง่าย และไม่มีน้ำหนักมากจนเกินไป โดยที่ตัวเครื่องจะมีถังสำหรับเก็บน้ำสำหรับใช้ในการพ่นทำไอน้ำ เราต้องคอยหมั่นเติมน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอเพื่อให้ตัวเครื่องสามารถพ่นไอน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ข้อควรระวังในการใช้งานพัดลมไอน้ำ พื้นที่และบริเวณโดยรอบจะมีความชื้นได้ง่าย จึงควรเลือกใช้งานในห้องหรือบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่เป็นมุมอับ ไม่ใช่พื้นที่ปิด และไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีปัญหาระบบหายใจ เนื่องจากไอน้ำ และความชื้นจะเข้าสู่ร่างกาย จนอาจทำให้เป็นโรคปอดบวมได้

ราคาของ พัดลมไอน้ำ ขนาดพกพาขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้นประมาณ 300-500 บาท ใช้งานได้แบบชั่วคราว กรณีที่ต้องการใช้งานแบบจริงจังสามารถเป่าลมแรงมากขึ้น สามารถใช้งานได้จริงในห้องหรือพื้นที่ขนาดเล็ก-ปานกลาง ราคาจะเริ่มที่หลักพันบาทขึ้นไป มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์ ขนาด และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น มีรีโมทคอนโทรล ฟิลเตอร์กรองอากาศ เป็นต้น

ข้อดี ของพัดลมไอน้ำ

  • ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนได้
  • ลมเย็นสบายแบบธรรมชาติ
  • ช่วยลดควัน ฝุ่น ไฟฟ้าสถิต
  • ราคาถูกกว่าเครื่องปรับอากาศ
  • เหมาะกับการใช้ในพื้นที่โล่ง กลางแจ้ง และห้องที่มีขนาดใหญ่
  • สามารถเคลื่อนย้ายได้ เสียบปลั๊กใช้งานได้เลย
  • ไม่ต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้ง ไม่ต้องต่อท่องานระบบ

ข้อเสีย ของพัดลมไอน้ำ

  • ให้ความเย็นได้น้อยกว่าเครื่องปรับอากาศ
  • ให้ความเย็นเฉพาะบริเวณใกล้ๆ
  • มีละอองน้ำพ่นออกมา มีความชื้นสูง
  • เหมาะสำหรับที่โล่งแจ้ง ห้องที่อากาศระบายได้ดี
  • ต้องคอยเติมน้ำและทำควาามสะอาดที่บริเวณถังน้ำ
  • ไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีปัญหาระบบหายใจ
  • มีเสียงดังขณะเปิดใช้งาน

พัดลมไอเย็น  เป็นพัดลมที่ถูกพัฒนาต่อมาจากพัดลมไอน้ำ ให้สามารถใช้งานและลดอุณหภูมิได้มากขึ้น ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงได้ประมาณ 4-10 องศาเซลเซียส  สามารถใช้ในอาคาร บ้านพักอาศัย โดยไม้ต้องกังวลเรื่องความชื้นแบบพัดลมไอน้ำ และเคลื่อนย้ายได้ง่าย หลักการทำงานของพัดลมไอเย็น คือการดึงความร้อนเข้าสู่ตัวเครื่องผ่านแผ่นทำความเย็น ก่อนเปลี่ยนเป็นไอเย็นออกมา ทำงานด้วยระบบ Evaporative Cooling Systems เมื่อดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปในพัดลม และปะทะกับแผ่นทำความเย็น Cooling Pad ในตัวเครื่อง ที่มีลักษณะเหมือนรังผึ้งที่อุ่มน้ำอยู่ น้ำบนแผ่นทำความเย็นจะระเหย และดึงความร้อนออกจากอากาศที่ถูกดูดเข้ามา แล้วเป่าอากาศออกมานอกตัวเครื่อง ทำให้อุณหภูมิในอากาศลดลง โดยจะไม่มีการพ่นละอองน้ำออกมาเหมือนพัดลมไอน้ำ

นอกจากจะมีการพัฒนาการสร้างไอเย็นแล้ว ในแง่ของการใช้งานยังคงต้องมีการเติมน้ำที่ตัวเครื่อง โดยจะมีถังสำหรับเก็บน้ำสำหรับใช้ในการทำไอเย็น เราต้องคอยหมั่นเติมน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอเพื่อให้ระบบทำความเย็นของตัวเครื่องทำงานได้สม่ำเสมอ แม้จะใช้การพ่นไอเย็นแต่ก็มีข้อจำกัดในการคงความเย็นในพื้นที่ที่จำกัดเช่นกัน แตกต่างจากเครื่องปรับอากาศ เพราะเป็นการพ่นไอเย็นออกมาได้เฉพาะจุด ในบริเวณนั้นเท่านั้น

ราคาพัดลมไอเย็น มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2,500 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์ ขนาดและคุณสมบัติพิเศษต่างๆ มีความจุถังน้ำเริ่มต้นที่ประมาณ 12 ลิตร ใช้กำลังไฟฟ้าเริ่มต้นประมาณ 46 วัตต์ ไปจนถึง 133 วัตต์ พร้อมมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงด้วยเทอร์มอล ฟิวส์ (Thermal Fuse)

ข้อดี ของพัดลมไอเย็น

  • ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนได้ถึง 10 องศาเซลเซียส ได้ความเย็นมากกว่าพัดลมไอน้ำ
  • ไล่อากาศร้อน ช่วยระบายกลิ่นอับ กรองดักฝุ่นได้
  • ไม่มีละอองน้ำบริเวณรอบตัวเครื่องไม่เปียกชื้น
  • สามารถเคลื่อนย้ายได้ เสียบปลั๊กใช้งานได้เลย
  • สามารถใช้งานได้ทั้งพื้นที่โล่งแจ้ง และในพื้นที่ปิด
  • ไม่ต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้ง ไม่ต้องต่อท่องานระบบ
  • ราคาถูกกว่าเครื่องปรับอากาศ

ข้อเสีย ของพัดลมไอเย็น

  • ให้ความเย็นได้น้อยกว่าเครื่องปรับอากาศ
  • ให้ความเย็นเฉพาะบริเวณใกล้ๆ
  • ต้องคอยเติมน้ำและทำความสะอาดที่บริเวณถังน้ำ
  • การใช้งานเหมาะกับพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
  • มีเสียงดังขณะเปิดใช้งาน

แอร์เคลื่อนที่ (Portable Air Conditioner) จัดเป็นเครื่องปรับอากาศที่ถูกพัฒนามาจาก เครื่องปรับอากาศที่นิยมใช้กัน แต่ให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา โดยไม่ต้องติดตั้งไว้กับตัวบ้าน สามารถเสียบปลั๊กและใช้งานได้เลย โดย ขนาด BTU จึงค่อนข้างต่ำกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 5,000 – 12,000 BTU แอร์เคลื่อนที่ มีหลักการทำงานโดยภายในจะไม่มีคอมเพรสเซอร์แยกด้านนอกเพื่อระบายความร้อนเหมือนแอร์บ้าน ดังนั้นบางรุ่นจึงจำเป็นต้องใช้ท่อระบายความร้อนให้กระจายไปนอกห้อง มีถังไว้รองน้ำจากตัวเครื่องที่ต้องเททิ้งเอง เป็นน้ำที่เกิดจากไอน้ำเมื่อทำความเย็น

เนื่องจากแอร์เคลื่อนที่จะมีขนาดเล็ก ขนย้ายง่าย จึงมีข้อจำกัดทำให้แอร์เคลื่อนที่ถูกตัดฟังก์ชันต่างๆ ออกไปพอสมควร ปัจจุบันแอร์เคลื่อนที่ถูกออกแบบให้มีหลากหลายขนาดสามารถใช้งานได้ในหลากหลายพื้นที่ เครื่องขนาดเล็กและขนาดกลาง เหมาะกับห้องพักขนาดเล็ก หอพัก อพาร์ทเม้นต์ คอนโดมิเนียม หรือพกพาไปใช้งานไนสถานที่ต่างๆได้ง่าย เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ในเต๊นท์ เป็นต้น หรือใช้เป็นเครื่องเสริมความเย็นเพิ่มในห้องขนาดใหญ่ที่ต้องการเพิ่มความเย็น เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ห้องจัดเลี้ยง เป็นต้น  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในงานในสถานที่กลางแจ้ง ได้อีกด้วยเพื่อลดอุณหภูมิในบริเวณนั้น เช่น เต๊นท์กลางแจ้ง เป็นต้น

เลือก BTU ให้เหมาะกับขนาดห้อง

แอร์เคลื่อนที่ โดยปกติแล้วจะมีขนาดที่เล็กกว่าแอร์ชนิดอื่น มีมาตรฐานของ BTU เป็นตัวบอกถึงประสิทธิภาพในการทำความเย็นของตัวเครื่องเหมือนแอร์ทั่วไป ส่วนอัตราการกินไฟเกือบเทียบเท่าแอร์บ้านในขนาด BTU เท่าๆกัน ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในการเลือก BTU ให้สัมพันธ์กับขนาดห้องด้วย โดยสามารถดู BTU กับขนาดห้องได้ดังนี้

  • 5,000 BTU ครอบคลุมพื้นที่ 5 – 8 ตารางเมตร
  • 8,000 BTU ครอบคลุมพื้นที่ 8 – 12 ตารางเมตร
  • 10,000 BTU ครอบคลุมพื้นที่ 12 -15 ตารางเมตร
  • 12,000 BTU ครอบคลุมพื้นที่ 16 – 20 ตารางเมตร
  • 15,000 BTU ครอบคลุมพื้นที่ 25 – 30 ตารางเมตร

แอร์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน นับว่ามีราคาไม่แพง และมีคุณภาพใช้งานได้ปลอดภัย มีการพัฒนาขนาด BTU ให้มากขึ้นเพื่อให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยราคาแอร์เคลื่อนที่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ  12,000 บาท (10,000 BTU) , 13,000 บาท (14,000 BTU) , 24,000 บาท (18,000 BTU) ขึ้นอยู่กับแบรนด์ ขนาด และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ

ข้อดี ของแอร์เคลื่อนที่

  • ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนได้ความเย็นมากกว่าพัดลมไอเย็น
  • ไม่มีละอองน้ำบริเวณรอบตัวเครื่องไม่เปียกชื้น
  • สามารถเคลื่อนย้ายได้ เสียบปลั๊กใช้งานได้เลย
  • ไม่ต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้ง
  • ราคาถูกกว่าเครื่องปรับอากาศ

ข้อเสีย ของแอร์เคลื่อนที่

  • ขนาด BTU น้อยกว่าแอร์บ้าน จึงให้ความเย็นได้น้อยกว่า
  • ให้ความเย็นเฉพาะบริเวณใกล้ๆ
  • เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ปิดมากกว่าพื้นที่เปิด
  • อัตราการกินไฟเกือบเทียบเท่าแอร์บ้านในขนาด BTU เท่าๆกัน
  • มีท่อลมร้อนเป่าออกนอกห้อง เพื่อระบายความร้อน

จบแล้วค่ะ กับความรู้เรื่อง พัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น แอร์เคลื่อนที่ และ Tips ในการเลือกซื้อเพื่อที่จะได้เครื่องที่เหมาะกับการใช้งาน ผู้อ่านคนไหนสนใจเรื่องอะไรเพิ่มเติม ลอง Comment บอกกันมา หรือให้คำแนะนำได้นะคะ