ปัจจุบันในแต่ละวันเรามีเรื่องให้ครุ่นคิดหรือปวดหัวกันเยอะอยู่แล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคระบาด อากาศร้อน รถติด ฝุ่น PM 2.5 หรือปัญหาส่วนตัวของแต่ละคน ซึ่งการจะหาพื้นที่สักที่ที่อยู่แล้วสบายใจคงหนีไม่พ้น “บ้าน” ของเราหรอกครับ ที่จะเป็นสถานที่ให้เราพักกายพักใจได้อย่างเต็มที่ และไม่ต้องกังวลใด ๆ เมื่ออยู่อาศัย ซึ่งผมเชื่อหรือเกินครับว่าทุกคนก็อยากจะมีบ้านในฝันที่จะเป็นพื้นที่ Comfort Zone ของทุกคนอย่างแน่นอน

แต่เชื่อไหมครับว่าปัญหาเล็ก ๆ บางอย่างที่เรามักจะมองข้ามก็ทำให้บ้านของเรานั้นไม่น่าอยู่ได้โดยไม่รู้ตัวเลย เช่น เรื่องของฝุ่นและเชื้อโรคที่สะสมอยู่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาดที่เป็นปัจจัยให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไปจนถึงการต้องเสียเวลาวันละเป็นชั่วโมงเพื่อทำความสะอาดบ้านในมุมต่าง ๆ

โดยนอกจากจะทำให้บ้านดูไม่สวยงามแล้ว เชื่อไหมครับว่าแบคทีเรียในฝุ่นละอองที่สะสมภายในบ้านส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวภายในร่างกาย ที่ทำหน้าที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันของเราเสื่อมและเสียสมดุล ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคมะเร็งปอดได้ง่าย และนอกจากนี้ ยังมีงานศึกษาวิจัยที่ชี้ว่า แบคทีเรียจากภายนอกที่เล็ดลอดเข้าไปในบ้าน ตามประตู, หน้าต่าง หรือทางใดก็ตาม อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียในฝุ่นละอองกลายเป็นแบคทีเรียดื้อต่อยาปฏิชีวนะ หรือที่เรียกว่า “เชื้อดื้อยา” ได้ด้วย ซึ่งจะเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีกนะครับ

แถมการทำความสะอาดหรือกำจัดฝุ่นภายในบ้านยังใช้แรงและเวลาในการจัดการได้ลำบาก เพราะฝุ่นเล็ก ๆ เหล่านี้จะสะสมอยู่ในจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้น ซอกโต๊ะ ตู้เตียง หรือในอากาศภายในบ้าน แถมอุปกรณ์เดิม ๆ ที่ใช้งานในการทำความสะอาดกันมาก็ไม่ได้ช่วยทุ่นแรงเท่าที่ควรในยุคที่โลกหมุนเร็วอย่างในปัจจุบัน

ดังนั้นวันนี้ผมจึงมีตัวช่วยพิเศษที่จะช่วยให้เรามีบ้านที่สะอาดและปลอดภัย แถมยังประหยัดเวลาในการจัดการส่วนนี้ได้มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักครับ กับ 3 เครื่องใช้ไฟฟ้ากำจัดฝุ่นและเชื้อโรคภายในบ้าน อย่างประหยัดแรงและเวลาให้มาชมกันครับ

หลาย ๆ ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินชื่อแบรนด์ “realme” มาบ้างจากแบรนด์สมาร์ทโฟนนะครับ แต่ทราบหรือไม่ว่า realme เขาทำ Product อื่น ๆ ที่น่าสนใจออกมาไม่น้อยเลย โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือนของ realme กันนะครับ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านของทุกคนเป็น Comfort Zone ได้โดยใช้เวลาไม่มากและไม่ต้องเสียแรงเยอะเลย ตามผมไปชมกันเลยครับ

realme TechLife Robot Vacuum Cleaner

ก่อนอื่นเริ่มกันที่พื้นก่อนเลยครับ เพราะเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่เราใช้งานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนไหนของบ้านก็มีละอองฝุ่นสะสมได้ไม่ยากเลย และเป็นพื้นที่รองรับทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้าน รองรับการเดิน ตู้เก็บของ ชั้นวางทีวี เตียง โซฟา และอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อพื้นสะอาดก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

หลายท่านคงคุ้นหน้าคุ้นตากับเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่อง realme TechLife Robot Vacuum Cleaner กัน ซึ่งเป็นเครื่องที่ผมเองก็ใช้งานจริง และเห็นว่ามีจุดเด่นที่น่าสนใจกว่าเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติทั่วไป เลยอยากมีโอกาสได้ลองมาแนะนำให้รู้จักกันครับ

โดยอย่างแรกเลย จุดนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดเลยคือเจ้าเครื่องนี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติปกติทั่วไปนะครับ แต่เป็นทั้งหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ดูดฝุ่นและถูพื้นไปด้วยภายในเครื่องเดียวเลย ดังนั้นไม่ต้องเสียเวลาหลังจากดูดเสร็จแล้วต้องมานั่งถูเองอีกรอบ ช่วยประหยัดเวลาและทุ่นแรงไปได้เยอะพอสมควร นอกจากนั้นยังมีระบบการทำงานและวัสดุที่แข็งแรงที่ช่วยทำให้ยิ่งประหยัดแรงและเวลาไปได้อีกหลายส่วนเลย

โดยสิ่งต่อมาที่น่าสนใจคือ Sensor นำทางอัจฉริยะ ที่ใช้เป็นรุ่น LiDAR Nevigation เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ก่อนอื่นต้องเท้าความให้ฟังยังงี้ก่อนครับ.. ในปัจจุบันหุ่นยนต์ทำความสะอาดส่วนใหญ่ในตลาดใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยนำทาง ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทางแบบแรงฟืด (Inertial Navigation), การนำทางด้วยภาพ (Camera Visual Navigation) หรือ LiDAR ระบบนำทางแบบแรงฟืดจะใช้ไจโรสโคป (Gyroscope) ในการนำทางเป็นหลัก โดยข้อเสียคือระบบมีแนวโน้มที่จะทำความสะอาดซ้ำพื้นที่เดิมซ้ำ สแกนพื้นที่ไม่ครอบคลุม จดจำตำแหน่งไม่แม่นยำ ในขณะที่รุ่นที่ใช้การนำทางด้วยภาพ (Camera Visual Navigation) ที่ต้องใช้กล้องเป็นหลัก ข้อเสียคืออาจจะได้รับผลที่ไม่คงที่เมื่อแสงในสภาพแวดล้อมมีปัญหาโดยตรง ส่งผลให้การมองเห็นไม่ชัดเจนและเกิดการชนสิ่งกีดขวางสูง นำไปสู่การชำรุดได้ง่าย แต่สำหรับเซนเซอร์ LiDAR จะสามารถตรวจจับตำแหน่ง การเคลื่อนไหวและประมวลผลที่แม่นยำสูง รองรับเส้นทางที่ซับซ้อน จดจำไวและสามารถกำหนดพื้นที่เข้าถึงเฉพาะได้ด้วย

บวกกับโปรแกรมต่าง ๆ ภายในตัวจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อและวางแผนในการทำความสะอาดได้ล้ำลึกกว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติทั่วไป โดยอีกหนึ่งความพิเศษของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้คือสามารถสั่งการและตั้งค่าได้หลากหลาย เช่น ตั้งเวลาทำความสะอาดห้องต่าง ๆ, กำหนดปริมาณน้ำในการถูของแต่ละห้อง, กำหนดแรงดูดในแต่ละห้องต่างๆ, กำหนดโซนที่ต้องหลีกเลี่ยง ห้ามถูและกำหนดกำแพงเสมือนเพื่อไม่ให้เข้าไปทำความสะอาดในโซนนั้น, กำหนดห้องที่ต้องการทำความโดยเฉพาะได้, กำหนดตารางการทำความสะอาดได้ และรองรับ Google Assistant และ Alexa ควบคุมผ่านเสียงได้ด้วย

นอกจากนั้นยังรองรับการบันทึกได้ถึง 5 แผนที่ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดห้องนอนก่อน ด้วยปริมาณน้ำน้อยและแรงดูดปกติ จากนั้นไปห้องนั่งเล่นและห้องครัว โดยใช้ปริมาณน้ำสูงสุดและแรงดูดสูงสุด หรือคุณสามารถกำหนดกำแพงเสมือนขึ้นมา เพื่อสร้างพื้นที่ไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไปหรือห้ามถู เช่น ห้องเด็กเล่น เป็นต้น

โดยทั้งหมดนี้ สามารถสั่งการได้แม้ตอนที่ไม่ได้อยู่บ้าน เพียงกดสั่งผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น บ้านของคุณก็จะสะอาดโดยอัตโนมัติ หลังจากทำความสะอาดเสร็จสิ้น 1 รอบ คุณสามารถตั้งชื่อและปรับโครงสร้างส่วนต่าง ๆ บนแผนที่ และตั้งค่าตามความต้องการอื่น ๆ ได้ 

ส่วนไฮไลท์อื่น ๆ ของ realme Techlife Robot Vacuum Clean ที่ผมมองว่าน่าสนใจก็จะมีพวกแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่ ที่สามารถใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมง เรียกเก็บเข้าสู่เต้าชาร์จได้อย่างอัตโนมัติ, ปรับความแรงในการดูดได้ 4 ระดับ, เลือกโหมดเงียบเสียงได้, ใช้อุปกรณ์ที่แข็งแรงทนทานแต่มีน้ำหนักไม่เยอะ และมีดีไซน์ที่ทันสมัยด้วยครับ

โดยส่วนตัวผมใช้งานเครื่องนี้แล้วก็รู้สึกสะดวกสบายดีนะครับ (นี่ผมก็เปิดทิ้งไว้ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ด้วยเช่นกัน) และถ้าถามผมว่าเจ้า realme Techlife Robot Vacuum Clean เหมาะกับใคร ผมคงต้องบอกว่าสามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยเลย เพราะเป็นเครื่องที่ใช้งานได้ไม่ยาก และใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งคอนโด (ผมเอง) หรือบ้านก็สามารถทำความสะอาดได้ในหลาย ๆ ประเภทพื้นเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการทำความสะอาดบ้าน หรือต้องการให้บ้านสะอาดอยู่ตลอดเวลา แม้ตอนที่ไม่ได้อยู่บ้าน ก็เรียกว่าน่าจะตอบโจทย์สุด ๆ ไปเลยครับ เพราะนอกจากจะแค่กดไม่กี่ปุ่มก็ใช้งานได้ง่ายแล้ว ยังสามารถสั่งการจากโทรศัพท์มือถือจากที่อื่นได้ด้วย โดยเครื่องนี้จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 12,999 บาท ซึ่งก็จัดว่าราคาก็เกาะกลุ่มกันอยู่ประมาณนี้ (เกือบหมื่นถึงหมื่นต้นๆ) ไม่ได้ต่างกับแบรนด์อื่น ๆ ในตลาดนักนะครับ

realme Handheld Vacuum Cleaner

และถ้าพูดถึงการทำความสะอาดส่วนอื่นภายในบ้านที่ยากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนะครับ อาจจะเป็นทั้งพื้นหรือพื้นที่อื่น ๆ ภายในบ้าน ก็มีอีกอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับช่วยจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกเช่นกันกับ realme Handheld Vacuum Cleaner ซึ่งถูกออกแบบมาภายใต้สโลแกน “ให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย” ตรงกับหัวข้อที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่เลยครับ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือไม้ทำความสะอาดพื้นนั่นแหละครับ แต่ความพิเศษคือไม่ใช่แค่ทำความสะอาดพื้นเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบเลย ซึ่งหลังจากที่ผมลองใช้เองแล้ว ก็ประทับใจในหลาย ๆ อย่างเลยนะครับ และถ้าพูดตามตรงคือผมไม่ได้ทำความสะอาดบ้านเองบ่อยนัก แต่เมื่อได้ลองใช้ก็แอบรู้สึกว่า “เอ๊ะ มันก็ไม่ได้ยากนินา” ฮ่า ๆ ลองไปชมรายละเอียดกันครับ

อย่างแรกเลยที่ประทับใจคือการที่สามารถแยกส่วนประกอบได้ง่าย ไม่ว่าจะทั้งเป็นการเปลี่ยนรูปแบบหัวแปรงในการทำงานได้หลากหลายเพื่อตอบสนองการใช้งานได้หลายพื้นที่ หรือการแยกส่วนเพื่อนำอุปกรณ์ไปทำความสะอาดและเก็บได้สะดวก โดยแต่ละหัวแปรงที่ให้มาก็ใช้ได้ในหลาย ๆ พื้นที่ครับ ประกอบไปด้วย

แปรงขัดพื้นแบบใช้มอเตอร์ (แปรงหลัก) – ช่วยทำความสะอาดพื้นและมีฟันหวีช่วยป้องกันการพันของเส้นผม เทียบเท่ากับการกวาดพื้น 2,200 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียว

แปรง 2 in 1 – ช่วยทำความสะอาดพื้นเรียบ พร้อมขนแปรงป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน ใช้งานได้ในพื้นที่ที่ต้องการความละเอียดอ่อน เข้าซอกมุมได้ง่าย

เครื่องมือทำความสะอาดมุมแคบ – ช่วยดูดฝุ่นในพื้นที่เข้าถึงยาก เช่น ช่องว่าง ซอกและมุมต่างๆ ของบ้านและเฟอร์นิเจอร์

ท่อต่อ – ช่วยเพิ่มความยาวของอุปกรณ์ ให้ทำความสะอาดได้ระยะที่ไกลมากขึ้น เช่นด้านบนซอกของตู้ต่าง ๆ หรือเครื่องปรับอากาศ

อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเขาใช้หัวกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) ครับ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วสิ่งนี้มีคุณสมบัติอย่างไร ผมจะมาอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังครับ

HEPA คือแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานกันหลากหลายในส่วนที่ต้องการความสะอาดมาก ๆ ตั้งแต่อุปกรณ์การแพทย์ไปจนถึงรถยนต์, เครื่องบินและบ้านเรือน รองรับการกรองฝุ่นอนุภาค 0.1 ไมครอนและ 0.3 ไมครอน ที่มักจะพบได้ในควัน, ฝุ่น, แบคทีเรียและมลพิษต่าง ๆ ได้ถึง 99.7% และตัวเครื่องยังออกแบบให้มีตัวช่วยให้ฝุ่นไม่กระจายในขณะที่เครื่องกำลังทำงานด้วยแผ่นกรองภายในถ้วยเก็บฝุ่นขนาด 0.5 ลิตร ทำจากวัสดุรีไซเคิล แข็งแรงทนทาน ถอดและล้างทำความสะอาดเองได้ง่าย

ต่อมาคือตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ 2 รูปแบบ

  • Strong Cleaning Mode กำลังไฟ 140W แรงดูด 9.5 kPa สำหรับการทำความสะอาดที่เน้นความรวดเร็วบนพื้นที่ที่สกปรก
  • Soft Cleaning Mode กำลังไฟ 60W แรงดูด 4.7 kPa สำหรับการทำความสะอาดแบบทั่วไปในชีวิตประจำวัน

โดยทั้งสองรูปแบบและทุกรูปแบบหัวแปรงจะมีการควบคุมเสียงรบกวนให้ต่ำกว่า 81 เดซิเบล ด้วยการออกแบบท่อลมให้เหมาะสม ทำให้เสียงสะท้อนของอากาศลดลง จึงช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างการทำงานให้ด้วย

สิ่งสุดท้ายที่ผมชอบคือตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างเบาเลยครับ (ประมาณ 1.34 กิโลกรัม) สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ถึงแม้จะเบาแต่ตัวเครื่อง realme Handheld Vacuum Cleaner ทำจากวัสดุ ABS ซึ่งเป็นเทอร์โมพลาสติกชนิดหนึ่ง ที่มีความสมดุลทั้งในเรื่องของความแข็งและความเหนียว ทำให้มีคุณสมบัติทนแรงกระแทก ทนต่อแรงเสียดสีอย่างดี อีกทั้งยังออกแบบมาให้เก็บได้ง่ายด้วยครับ จะเก็บติดผนังหรือแยกส่วนก็ทำได้ไม่ยาก

ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 3,999 บาท และถ้าให้คิดว่าอุปกรณ์นี้เหมาะกับใคร ผมคงมองไปถึงคนที่อาจจะไม่ได้ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำนักอย่างผมเองเป็นประเภทแรก ที่เมื่อทำทั้งทีก็จัดเก็บซะหมดในเวลาไม่นานได้ง่าย ๆ ไม่รบกวนเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน หรือถ้าใครที่ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำอยู่แล้วก็จะได้คุณภาพในการทำความสะอาดที่สูงมากยิ่งขึ้นในเวลาที่ลดลงครับ

realme Techlife Air Purifier

อุปกรณ์สุดท้ายของเราในวันนี้ จัดว่าขาดไปแทบจะไม่ได้แล้วนะครับสำหรับทุกครัวเรือน เพราะปัญหาเรื่องฝุ่นควันหรือมลพิษในอากาศนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย โดยเฉพาะหากสิ่งเหล่านั้นอยู่ในบ้านของเรา ซึ่งช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ปัญหา PM 2.5 ก็จัดเป็นปัญหาใหญ่ของเราแบบปฎิเสธไม่ได้เลย ทำให้เครื่องฟอกอากาศมีราคาสูงขึ้นหรือขาดตลาดไปเลยในบางช่วง แต่ต่อให้ไม่มี PM 2.5 การกรองอากาศในบ้านนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกันครับ เพราะเป็นสิ่งที่นำมาทั้งโรคภัยต่าง ๆ มากมาย

ถ้าไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้ผมจะพาทุกมารู้จักกับ realme Techlife Air Purifier เครื่องฟอกอากาศที่มีค่า CADR สูงถึง 330 ลบ.ม./ซม. ซึ่งถ้าเห็นเป็นตัวเลขก็คงจะนึกภาพกันไม่ออก เริ่มกันง่าย ๆ ที่ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) คืออัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์จากเครื่องฟอกอากาศที่วัดค่าได้ (รองรับโดย Association of Home Appliance Manufacturers ) หรือพูดง่าย ๆ คือยิ่งค่า CADR มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าอากาศในห้องจะถูกเปลี่ยนให้เป็นอากาศที่ดีเร็วยิ่งขึ้น หรือถ้าเวลาจะซื้อเครื่องฟอกอากาศก็วัดกันง่าย ๆ ที่สุดก็ตรงนี้แหละครับ โดยค่า CADR 330 ลบ.ม./ซม. จะเหมาะกับห้องขนาดประมาณ 39 ตร.ม. ครับ ซึ่งก็จัดว่าใหญ่เอาเรื่องเลยเหมือนกันนะครับ ถ้าเป็นคอนโดอยู่ 1-2 คนทั่วไปก็ใช้สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้สบาย ๆ ส่วนถ้าเป็นบ้านหรือทาวน์โฮมทั่วไป ก็สามารถใช้สำหรับพื้นที่ห้องรับแขกและพื้นที่รับประทานอาหารร่วมกันได้เลยนะ

โดยภายในจะมี Filter การกรอง 3 ขั้นตอน ประกอบไปด้วย

1. ไส้กรองชั้นที่ 1(ฝาหน้า) : ไว้สำหรับกรองเส้นผม แมลง ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ได้เลย
2. ไส้กรองชั้นที่ 2 : สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็ก สามารถทำความสะอาดได้ง่ายโดยการถอดนำออกมาล้างได้เลย
3. ไส้กรองอากาศแบบ HEPA H12 : สามารถกรองPM 2.5/ฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ตัวนี้จะมี Sensor ที่เครื่องสำหรับคอยบอกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วนะ จากนั้นเราก็สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนเองได้ง่ายครับ

นอกจากนั้น realme TechLife Air Purifier ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศประสิทธิภาพสูงจาก Sharp ในตัว ที่สามารถตรวจจับความเข้มข้นของ PM2.5 ในอากาศได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหมายถึงอนุภาคของแข็งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 ไมครอน ระบุบนแผงการทำงานซึ่งจะแสดงสีเขียว สีส้มและสีแดง ที่คอยบอกถึงคุณภาพอากาศที่ดี ปานกลาง และไม่ดี ตามลำดับ และมีโหมดตั้งเวลาการทำงานได้ 2, 4 และ 8 ชั่วโมง สำหรับช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย

โดยส่วนตัวผมมองว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะอากาศดี ๆ ไม่ได้สามารถมองเห็นได้ง่ายเหมือนฝุ่นบนพื้นที่หายไป ดังนั้นถ้าจะให้พูดถึงการทำงานของเครื่องนี้ นอกจากระบบกรองอากาศที่เข้มข้นแล้ว จึงมีจุดเด่นข้ออื่นที่ผมคิดว่าน่าสนใจเป็นพิเศษอีก ข้อแรกคือการทำงานที่ถูกออกแบบมาให้ค่อนข้างเงียบเป็นพิเศษ โดยมีนวัตกรรมการออกแบบท่อลม (Through CFD technology) คือเทคโนโลยีการคำนวณการไหลของของเหลว ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของท่อลม จะช่วยในเรื่องของความสมดุลของปริมาณอากาศ ความกดอากาศ ประสิทธิภาพ และความเงียบในการทำงาน นอกจากนั้นยังมีการปรับโหมดได้หลายรูปแบบให้เหมาะกับแต่ละช่วงเวลา รวมไปถึงการถอดล้างทำความสะอาดในแต่ละส่วนได้ง่าย และมี Sensor แจ้งเตือนสำหรับเปลี่ยนไส้กรองชั้นในสุดให้ด้วยครับ โดยจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3,999 บาท ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับแบรนด์อื่น ๆ ทั่วไปนะครับ

เมื่อเรามีอุปกรณ์ที่ดีและและทำงานได้ตรงจุดประสงค์ การทำความสะอาดบ้านที่ใช้แรงและเวลาเยอะก็เป็นเรื่องง่ายไปเลย เพราะถ้าจะให้เทียบกันกับวิธีการและอุปกรณ์ในการทำความสะอาดบ้านแบบเดิม ๆ ผมคงตอบได้อย่างมั่นใจว่า 3 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่งแนะนำไปนี้ คืออุปกรณ์ที่ประหยัดแรงและเวลาได้ดีกว่าอย่างแน่นอนครับ และด้วยเหตุผลนี้คงช่วยให้ทุกคนมี “บ้าน” สำหรับพักพิงกายและใจได้อย่างดีที่สุด ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเช่นกัน

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ และสำหรับใครที่สนใจ Product เหล่านี้ก็สามารถติดตามได้ที่ realme ขอบคุณครับ