เวลาที่เราเลือกที่จะสร้างบ้านหรือตกแต่งห้องขึ้นมา หลายๆคนคงเจอกับปัญหามากมายหลายประการใช่ไหม หนึ่งในนั้นก็คงเป็นเรื่องของวัสดุ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนอยากสร้างบ้านแต่ไร้ประสบการณ์ หรือว่าจะเป็นผู้รับเหมามากความรู้ก็ต้องเจอปัญหาเดียวกันหมดนั่นก็คือ “งบประมาณ” เราต่างก็ต้องเลือกและแลกสิ่งที่เราอยากได้เปรียบเทียบกับราคาและความคุ้มค่ากันไป

บางคนชื่นชอบความ Minimal โทนไม้แบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น บางคนชอบความหรูหราของหินอ่อนแบบอิตาลี แต่พอเจอกับราคาที่ต้องจ่ายแล้ว อาจจะหงายเงิบกันไปเลยก็มี จนหลายๆคนกลับไปเลือกใช้วัสดุพื้นฐานอย่างกระเบื้องแทน ทั้งๆที่ใจอยากได้พื้นเป็นหินอ่อน ผนังเป็นไม้ด้วยซ้ำ และอีกข้อหนึ่งที่หลายคนมักจะเจอก็เช่นคุณสมบัติต่างๆของวัสดุ ที่เราเลือกใช้ เช่น ถ้าเรานำเอาหินอ่อนจริงๆมาปูพื้น เนื่องจากหินอ่อนมีน้ำหนักมากและเมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเกิดคราบดำ ทำความสะอาดยาก ไม่ทนต่อกรด ความร้อน และรอยขีดข่วนเท่าไหร่นัก เงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ทำให้หลายๆบริษัท พยายามคิดและพัฒนาวัสดุทดแทนต่างๆขึ้นมา ทั้งในแง่ราคา คุณสมบัติ และอื่นๆอีกหลายด้าน เพื่อเป็นการสร้างตัวเลือกให้หลากหลายให้กับผู้ใช้อย่างเราๆอีกด้วย

“Nordic Plank Wood” Fiber Cement Floor by LL DANISH DESIGN by TPI

หนึ่งในวัสดุที่พัฒนาขึ้นมาและเริ่มมีการวางขายอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นคือ ไฟเบอร์ ซีเมนต์ (Fiber Cement) แต่พอพูดชื่อขึ้นมาแล้ว หลายคนก็คงอาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่หลายๆคนก็คงไม่แน่ใจว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่? มันมีคุณสมบัติอะไร? แล้วมันสามารถเอามาทำอะไรได้บ้าง? เดี๋ยวเราจะลองเล่าให้คุณผู้อ่านเข้าใจและเห็นภาพเกี่ยวกับวัสดุชนิดนี้มากขึ้นค่ะ

ไฟเบอร์ซีเมนต์นั้น เกิดจากการผสมกันระหว่าง ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เส้นใยเซลลูโลส ทรายบดละเอียด น้ำ และสารเติมแต่งโดยผ่านกระบวนการอบไอน้ำแรงดันสูง ขออธิบายที่มาที่ไปให้เห็นภาพซักเล็กน้อย ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ โดยทั่วไปจะนำมาใช้เป็นวัสดุประสานและเป็นวัสดุหลักในการผลิตคอนกรีต ซึ่งตามคุณสมบัติของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ จะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานมาก แต่ถ้าเรานำเอาตัวมันมาขึ้นรูปเป็นแผ่นบางๆ มันจะแข็งแต่เปราะและหักง่าย ดังนั้น การที่เราผสมเส้นใยเซลลูโลสเข้าไปก็จะช่วยทำให้ตัวแผ่นที่เราขึ้นรูปนั้นมีความเหนียวและคงทนมากขึ้น พูดง่ายๆคือเราเพิ่มแรงดึงเข้าไปในตัววัสดุให้มันมีความเหนียวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับแรงอัดได้ดีเพียงอย่างเดียว ซึ่งจริงๆแล้วหลักการนี้ก็คล้ายๆกับการที่เราทำคอนกรีตเสริมเหล็กนั่นเอง (คสล.ที่เรารู้จักกันดี) ตัวคอนกรีต ก็มีตัวซีเมนต์เป็นวัสดุยึดและแข็งแรง ส่วนเหล็กก็เพิ่มแรงดึงและแรงอัดนั่นเอง ดังนั้นคุณสมบัติของไฟเบอร์ซีเมนต์สามารถ ทนต่อความร้อน ทนความชื้น ไม่บวมน้ำ รับได้ทั้งแรงกด และแรงกระแทกได้สูง ไร้ซึ่งปลวกและเชื้อรา เมื่อรีดเป็นแผ่นออกมาแล้ว มันก็ง่ายต่อการนำไปใช้งานดัดแปลงได้หลากหลายมากขึ้นอีก เช่น นำไปใช้เป็นวัสดุพื้น ผนัง ฝ้า ไปจนถึงหลังคา เป็นต้น

พอเราได้รู้ที่มาที่ไป ของคุณสมบัติไฟเบอร์ซีเมนต์กันแล้ว มาดูกันที่หน้าตาความสวยงามของวัสดุชนิดนี้กันบ้างดีกว่า หลายๆแบรนด์ เรียกวัสดุชนิดนี้ว่าเป็นวัสดุทดแทน เนื่องมาจากว่า เราสามารถดัดแปลงวัสดุชนิดนี้ให้มี Texture หน้าตา สีสัน รูปทรง เลียนแบบวัสดุที่มีอยู่แล้วได้ ลวดลายที่นิยมก็คงจะหนีไม่พ้น ลายไม้ เพราะถ้าเราเทียบไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดกับไม้จริงแล้ว แน่นอนว่า ราคาไม้จริงจะสูงมากกว่าหลายเท่าตัว และอาจมีการบวมน้ำ ปลวกกิน เชื้อรา ที่สำคัญติดไฟง่าย เป็นปัญหาที่เราได้ยินบ่อยๆเกี่ยวกับการใช้วัสดุไม้ ดังนั้นทางผู้ผลิตจึงพัฒนาไฟเบอร์ซีเมนต์ออกมาให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานจริง ๆ และปรับปรุงคุณภาพวัสดุให้ดีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ไฟเบอร์ซีเมนต์ยังสามารถนำไปใช้งานทดแทนส่วนอื่นๆได้อีกทั้งภายในและภายนอกอาคาร เช่น ใช้แทนลูกตั้งและลูกนอนบันได ใช้เป็นไม้ฝาบ้าน ใช้ตกแต่งเป็นระแนง หรือใช้เป็นบัวผนังป้องกันคราบฝุ่นผงเมื่อถูหรือทำความสะอาดบ้านก็ได้ ถือว่าเป็นวัสดุที่เราสามารถดัดแปลงไปใช้งานได้หลากหลาย

ถ้าเราต้องการใช้วัสดุทดแทนพื้นไม้ ก็สามารถขึ้นรูปไฟเบอร์ซีเมนต์ออกมาให้เป็นชิ้นเข้าลิ้นกันได้เหมือนพื้นไม้ รอยต่อก็จะเชื่อมกันดูเรียบเนียนดี และจะไม่มีปัญหาเหมือนพื้นไม้ธรรมชาติทั่วไปที่จะเกิดการยืด-หดตัวของวัสดุตามอุณหภูมิอีกด้วยและมีอายุการใช้งานสั้นอีกต่างหาก และ TPI Natural Wood ซึ่งมีระบบเข้าลิ้นและร่องนั้น จะมีขนาดให้เลือกเช่น 15*240*1.2 cm, 20*240*1.2 cm 25*240*1.2 cm

ส่วนลวดลายและสีสันของวัสดุก็สามารถสร้างได้หลากหลายแตกต่างกันไปได้ ตามแต่จินตนาการของเรา อย่างที่ TPI มีก็จะมีลายไม้ต่างๆแบบมาตรฐานมาให้เลย เราสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์หรือขอตัวอย่างวัสดุของจริงมาดูเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ด้วย ตรงนี้เราก็จะได้ลายไม้และโทนสีที่สม่ำเสมอกันด้วย เป็นการทดแทนไม้ ซึ่งเดิมที ไม้บางลายที่เราต้องการเกิดจากชนิดต้นไม้ และอายุของต้นไม้ที่ต่างกัน ทำให้คุณสมบัติก็แตกต่างกันด้วยไม้บางชนิดก็จะมีเงื่อนไขสามารถใช้ได้เฉพาะภายในบ้าง แต่ถ้าเราเลือกใช้ TPI Natural Wood ก็ตัดข้อจำกัดเหล่านี้ออกไปได้

ส่วนเทคนิคการสร้างลวดลายบนดิจิทัลบอร์ด (Digital Board) นั้น ทางบริษัท TPI ได้มีนวัตกรรมการปริ้นท์ลวดลายลงบนไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด (High Quality Digital Printed Surface) เป็นดิจิทัลปริ้นท์ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เราไม่ต้องจำกัดลวดลายอยู่แค่ลายไม้เท่านั้น เราสามารถเลือกลวดลายเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้แบบที่เราต้องการ

นอกจากลายไม้แล้ว อีกหนึ่งลวดลายที่น่าสนใจคือลายหินอ่อนนั่นเอง ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้เป็นพื้น ผนัง หรือ Top เคาน์เตอร์ครัวก็ได้ ซึ่งถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบลวดลายหินอ่อนอยู่แล้ว การที่เราจะนำหินอ่อนมาใช้จริงก็ต้องคำนึงถึงเรื่องการดูแลรักษาต่าง ๆ เนื่องจากหินอ่อนเป็นวัสดุที่เกิดรอยขูดขีดได้ง่าย และเมื่อโดนกรดหรือสารเคมีต่าง ๆ สีของหินอ่อนนั้นก็จะเปลี่ยนสีไปหรือเกิดรอยด่างได้ด้วย ดิจิทัลบอร์ดลายหินอ่อนก็อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้เหมือนกัน ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์  https://onlinemarket.tpipolene.co.th เพื่อดูตัวอย่างลวดลายอื่นๆได้

นอกเหนือไปจากลวดลายธรรมชาติแล้ว Digital Board สามารถพิมพ์ลวดลายภาพวาดหรือภาพถ่ายลงบนวัสดุขนาดมาตรฐาน 1.2 x 2.4 เมตร ซึ่งความหนาเริ่มต้นตั้งแต่ 6-20 มม. และสามารถเลือก Texture ผิวได้ 2 แบบคือ High Gloss ผิวเงาพิเศษ และแบบ Extra Hard ที่จะเป็นผิวแข็งพิเศษ

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจของไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดคือ เราสามารถนำเอาวัสดุชนิดนี้มาดัดโค้งได้ เนื่องจากความยาวและเหนียวของเส้นใยเซลลูโลสที่เป็นส่วนประกอบ ทำให้เราสามารถขยายการใช้งานวัสดุชนิดนี้ มาทำเป็นผนังตกแต่งได้

ส่วนการติดตั้งก็ง่ายมากเพียงใช้กาวซีเมนต์ M502 หรือSuper Fix M612(ของทาง TPI) หรือ กาวพียูแรงยึดเกาะสูงในการติดแผ่นดิจิทัลบอร์ด สามารถติดตั้งได้รวดเร็วกว่าวัสดุอื่น ๆ อีก ในขณะที่ยังคงความสวยงามตามที่ต้องการ

ถ้าหากท่านใดสนใจก็สามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์, ผลิตภัณฑ์ Natural Wood และดิจิทัลบอร์ด กับทางบริษัท TPI Polene ได้โดยตรงเลย หรือแวะชมได้ที่ www.tpipolene.co.th

ช่องทางติดต่ออื่นๆ:
onlinemarket.tpipolene.co.th
Facebook page: TPI Polene (Public) Co., LTD
www.suwannabhumi.tv
TPI Direct: 092-281-2919 หรือ 092-281-2920

 

อ่านเพิ่มเติม