วันนี้เรามี walk-in review โครงการโฮมออฟฟิศหรู ในย่านรามคำแหง มาฝากกัน กับโครงการ Metier Rama 9 ที่ตั้งอยู่ติดกับ The Mall รามคำแหง เดินทางสะดวก ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรามคำแหง 12 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ที่นี่จะเน้นความเป็นส่วนตัวมีแค่ 8 ยูนิตและพื้นที่ใช้สอย จอดรถได้ 6 คัน พร้อมลิฟต์โดยสาร ตอบโจทย์การทำงานและการอยู่อาศัย ในราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท ไปชมกันได้เลยค่ะ

16 February 2021

  • Metier Rama 9 (เมติเย่ร์ พระราม9)
  • W&W Property And Development Co., Ltd.
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่:  ซอยรามคำแหง 15 เขตบางกะปิ
  • เนื้อที่โครงการ 1-0-72 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต
  • Exclusive Business Mansion (บ้านแฝด) 5 ชั้น หน้ากว้าง 12.5-15.5 เมตร ที่ดิน 46.5-50  ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 563 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ลิฟต์โดยสาร 6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 สูง 3 ม. / ชั้น 2 สูง 3.4 ม. / ชั้น 3 สูง 3 ม. / ชั้น 4 สูง 3 ม.
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : มิถุนายน 2562
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ตุลาคม 2563
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 062-313-1000

Home Office ทำเลใจกลางเมือง

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • โครงการตั้งอยู่ในทำเลใจกลางรามคำแหง อยู่ในโซนที่มีความอุดสมบูรณ์สูง ติดห้างสรรพสินค้าใหญ่ในพื้นที่ หาของกินของใช้ง่าย
  • โครงการไม่ได้อยู่ติดถนนหลัก อยู่ถัดเข้ามาในซอย 150 m. จึงเหมาะกับคนที่หาบ้านและที่ทำงานที่ได้เป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย
  • เดินทางสะดวกเข้าซอยไม่ลึก อยู่ในระยะเดินได้สบายๆ มีตัวเลือกในการเดินทางทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรามคำแหง 12 ที่กำลังก่อสร้าง และท่าเรือเดอะมอลล์ที่อยู่ใกล้ๆกับโครงการ

พิกัด Google Maps : 13.752972, 100.608769
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ทำเลที่ตั้งโครงการถือเป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้ เพราะตั้งอยู่ใจกลางในย่านรามคำแหง อยู่ติดกับ The Mall รามคำแหง ซึ่งหากให้พูดถึงรามคำแหงถือว่าเป็นศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เพราะมีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษา และศูนย์การค้าทั้งประเภท Department store, Hyper market, Super market หรือตลาดสด ตลาดนัดมีหมด เรียกว่าเดินไปไหนก็หาของกินได้ง่ายไม่มีวันเบื่อ และเริ่มมีการปรับปรุงห้าง และรูปแบบที่อยู่อาศัยให้ดูทันสมัยมากขึ้น ยกตัวอย่างห้างเก่าแก่อย่าง The Mall รามคำแหง 2 ก็ถูกทุบทิ้งเตรียมสร้างใหม่ รวมไปถึงหลังจากปี 2018 เป็นต้นมามีโครงการเปิดใหม่ในย่านนี้มากขึ้นเรื่อยๆสำหรับความอุดมสมบูรณ์เราจะแบ่งเป็น 3 ช่วงต้น(แยกรามคำแหง-วัดเทพลีลา) ช่วงกลาง(หน้าม.รามคำแหง) ช่วงปลาย(Indoor หัวหมาก-แยกลำสาลี)

เริ่มที่ช่วงต้นที่เป็นโซนของ The Mall ราม 1, 2, 3 ที่อยู่ใกล้ๆกันเลย โดยปัจจุบันมีการทุบทิ้ง The Mall รามคำแหง 2 แล้วปรับเปลี่ยนเป็นโครงการ Mixed-used เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของย่านนี้ และก็ยังมี Foodland, Big C ให้ช้อปปิ้งข้าวของก่อนเข้าบ้าน และถ้าใครหิวๆแล้วขี้เกียจลงจากรถก่อนถึงโครงการมี KFC Drive Thru ให้วนซื้อไก่ทอดกรอบๆไปกินที่ห้องด้วยนะ / ช่วงกลางเป็นโซนของสถานศึกษา(ม.รามคำแหง + สาธิตรามฯ)และพื้นที่ของการกีฬามากกว่า ดังนั้นจะไม่มีห้างขนาดใหญ่ แต่จะมีร้านค้า ร้านอาหารเต็ม 2 ข้างทาง รวมไปถึงมีตลาดนัดที่เปิดให้ช้อปกันเพลินๆในช่วงเย็น / ช่วงปลายความคึกคักจะไปเกาะอยู่แถว รพ.รามคำแหง ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร 2 ข้างทาง รวมไปถึงมีทางลัดที่เชื่อมเข้า The Mall บางกะปิ, ตะวันนา, Makro หรือฝั่งตรงข้ามก็มี Happy Land, Tesco Lotus และตลาดบางกะปิอีกด้วย

โครงการ Metier Rama 9 จะอยู่ในซอยรามคำแหง 15 ถ้ามาจากถนนหลัก ถนนรามคำแหงก็เข้าซอยมาเพียง 150 m. เดินทางสะดวกเข้าซอยไม่ลึก ไม่ซับซ้อน อยู่ในระยะเดินได้สบายๆในแง่ของการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ถนนรามคำแหง ถือว่ามีตัวเลือกการเดินทางที่ค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ รถตู้ เรือด่วน สองแถว มอเตอร์ไซค์ ที่มีให้เลือกใช้ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่คาดว่าจะเปิดใช้งานปี 2566  โดยโครงการ Metier Rama 9 จะอยู่ในซอยรามคำแหง 15 จะอยู่ใกล้กับ สถานีรามคำแหง 12 ส่วนท่าเรือก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการห่างไป 200 m. เป็นท่าเรือเดอะมอลล์ 3 อยู่ทางด้านหลังของเดอะมอลล์ รามคำแหง พอดีเดินจากโครงการไปท่าเรือได้สบายๆ หรือจะไปขึ้น Airport Rail Link สถานีรามคำแหงก็ได้นะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

Image 1/7
ติดกับที่ตั้งโครงการทางฝั่งทิศใต้จะเป็นอาคารสูงประมาณ 3 ชั้น

ติดกับที่ตั้งโครงการทางฝั่งทิศใต้จะเป็นอาคารสูงประมาณ 3 ชั้น

รายละเอียดโครงการ

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • จำนวนยูนิตน้อยเพียง 8 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวทั้งการทำงานและการอยู่อาศัย
  • เน้นพื้นที่ใช้สอย 500 กว่า ตร.ม. ใช้งานได้ถึง 5 ชั้น (ชั้น 1- ชั้นดาดฟ้า) สามารถปรับพื้นที่ทำงานและอยู่อาศัยได้หลากหลาย และได้ที่จอดรถถึง 6 ที่จอด
  • ให้วัสดุดี เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วน เน้นความปลอดภัย การใช้งานที่สะดวกสบาย

 

โครงการ Metier Rama 9 มีพื้นที่โครงการ 1-0-72 ไร่ มีทั้งหมด 8 ยูนิต รูปแบบอาคารในโครงการจะเป็นบ้านแฝด 5 ชั้น ที่ออกแบบการใช้งานให้เป็นโฮมออฟฟิศ ที่มีส่วนทำงานและส่วนพักอาศัย โดยจะมีแบบเดียว ขนาดพื้นที่ใช้สอย 563 ตารางเมตร แปลงที่ดิน 46.5-50 ตารางวา จัดเป็นโครงการโฮมออฟฟิศอาศัยขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่มากเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัย และสามารถดูแลในเรื่องความปลอดภัยได้ง่าย

ภายในโครงการจะประกอบด้วยส่วนที่เป็นโฮมออฟฟิศและถนนที่อยู่ตรงกลางของพื้นที่โครงการ มี รปภ. ดูแลการเข้า-ออกอยู่ทางด้านหน้า ในส่วนของถนนภายในโครงการเป็นถนนวิ่งสวนทางกันกว้าง 5.4 ม. ระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งอันนี้ช่วยให้ใช้พื้นที่ถนนได้เต็มที่ บรรยากาศภาพรวมในโครงการสวยงาม ปัจจุบันโครงการเปิดขายแล้ว โฮมออฟฟิศทั้งหมดสร้างเสร็จพร้อมขาย และมีตัวอย่างที่จัดพื้นที่การใช้งานไว้ให้สามารถมาเยี่ยมชมโครงการได้ค่ะ

บริเวณด้านหน้าของโครงการจะมีป้ายชื่อของโครงการขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน เข้าจากซอยรามคำแหง 15 เป็นซอยที่อยู่ติดกับห้าง The Mall รามคำแหง เข้ามาประมาณ 150 m. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ

พื้นที่ด้านในโครงการจะจัดให้โฮมออฟฟิศหันหน้าเข้าหากันสองฝั่ง ถนนกว้าง 5.4 m. ระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินจึงไม่มีเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าให้เกะกะสายตาดูเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นถนนของโครงการจะปูด้วย Stamped Concrete ทั้งหมด มีลวดลายและความแข็งแรงในการใช้งาน

ส่วนระบบไฟส่องสว่าง ที่เป็นไฟถนนของโครงการจะเป็นระบบ Solar cell ช่วยประหยัดค่าไฟของโครงการได้

แปลนชั้น 1 โฮมออฟฟิศจะเป็นลักษณะของบ้านแฝดคือใช้กำแพงตรงกลางระหว่างตัวอาคารร่วมกัน อาคารแต่ละหลังสามารถจอดรถภายในบริเวณด้านในได้ถึง 6 ที่จอด ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ และเป็นประเด็นสำคัญมากสำหรับโฮมออฟฟิศ เพราะจะต้องมีที่จอดที่เพียงพอต่อผู้มาทำงานและผู้มาประสานงานติดต่อ เข้ามาด้านในชั้น 1 จะเน้นการจัดเป็นพื้นที่ต้อนรับ  มีพื้นที่ทำเป็น Reception ให้วางชุดรับแขก และมีพื้นที่ให้สามารถกั้นเป็นห้อง Meeting room เพื่อรับรองแขกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ ส่วนลิฟต์ของอาคารจะอยู่ตรงกลางสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นดาดฟ้า ส่วนด้านในจะเป็นส่วน Service ต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องเก็บของ และมีห้องน้ำสำหรับแม่บ้านเตรียมไว้ให้ ในกรณีที่เรากั้นพื้นที่จัดให้มีส่วนแม่บ้านอยู่พักอาศัยร่วมด้วย

มากันที่บริเวณด้านหน้าของโฮมออฟฟิศ หน้ากว้าง 12.3 m. สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 6 คัน โดยทางโครงการจะติดหลังคามาให้ทุกหลังเป็นหลังคาโพลีคาร์บอเนต กัน UV พื้นลานจอดรถทั้งหมดจะปูด้วย Stamped Concrete ต่อเนื่องมาจากถนนในโครงการ

ระบบไฟฟ้าในโครงการจะอยู่ใต้ดินทั้งหมด โดยจะมีตู้ระบบไฟของแต่ละบ้านอยู่ทางด้านหน้า มีช่องสำหรับทิ้งขยะจากด้านในของตัวบ้าน ช่วยเพิ่มความสะดวก ไม่ต้องออกมาทิ้งขยะนอกตัวบ้าน ป้องกันกลิ่น และทำให้ภาพรวมบรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยมากขึ้น ส่วนประตูรั้วจะเป็นแบบบานเลื่อนไฟฟ้าเลื่อนเก็บไปทางด้านข้างของแนวกำแพง ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิด จอดรถได้เต็มพื้นที่

ชั้น 1 จะเป็นหน้าต่างกระจกเต็มบาน เป็นกระจกเขียวตัดแสงพร้อมกรอบอลูมิเนียมทำสีเทา Euro Profile พื้นที่ทางด้านข้างของตัวบ้านเทพื้นคอนกรีตมาให้สำหรับจอดรถไว้ทางด้านข้างได้ 2 คัน

หรือเราจะปรับพื้นที่ทางด้านข้าง จัดเป็นพื้นที่สวนสีเขียวเพิ่มความร่มรื่นให้กับโฮมออฟฟิศแบบในอาคารตัวอย่างก็ได้ค่ะ

เดินอ้อมมาทางด้านหลังของตัวอาคารจะมีประตูห้องเก็บของใต้บันไดอีก 1 ตำแหน่ง และประตูเชื่อมไปห้องน้ำแม่บ้านทางด้านหลัง

มาที่ประตูทางเข้าหลักของโฮมออฟฟิศ จะเป็นประตูกระจกบานเปิดออก 2 ฝั่ง พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ LifeSmart  ที่สามารถสั่งเปิด-ปิด ประตูได้ 4 ระบบ ได้แก่ ลายนิ้วมือ , ใส่รหัส , แตะ NFC และสั่งปลดล็อคผ่าน Application

นอกจากนี้โครงการจะมีการวางระบบรักษาความปลอดภัย โดยจะติดตั้งกันขโมยระบบ Magnetic Sensor ไว้ที่ประตูทางเข้าบ้านในชั้น 1 ทั้งหมด พร้อมกริ่งสัญญาณเตือนหากมีการบุกรุกเข้าไปในอาคาร และยังสามารถสั่งเปิด-ปิดประตูหน้าบ้านและประตูทางเข้าโครงการจาก สวิตช์ภายในบ้านได้

เข้ามาด้านในชั้น 1 จะจัดเป็นพื้นที่ต้อนรับ  มีพื้นที่ทำเป็น Reception ให้วางชุดรับแขก ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทั้งหมด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m. ภายในจึงดูโปร่งโล่ง

บริเวณด้านหน้าที่เป็นหน้าต่างกระจกสามารถจัดเป็นพื้นที่ต้อนรับได้ พื้นที่ใช้งานเมื่อวานชุดที่นั่งทั้ง 2 ฝั่งแล้วยังมีระยะที่เดินใช้งานได้สะดวก

มีพื้นที่ให้สามารถกั้นเป็นห้อง Meeting room เพื่อรับรองแขกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นได้

พื้นที่ภายในเมื่อจัดแบ่งโซนเป็นห้องประชุมหรือห้องรับรอง สามารถวางชุดเก้าอี้แบบ 4-6 ที่นั่งได้สบายๆ และได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างกระจกบานเลื่อนทางด้านข้าง

ส่วนลิฟต์ของอาคารจะอยู่ตรงกลางสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นดาดฟ้า เป็นลิฟต์ของ Mitsubishi รับน้ำหนักได้ 320 kg. (สำหรับ 4 คน) ความเร็ว 60 เมตร/นาที ประตูลิฟต์กว้าง 70 cm. ทางซ้ายมือจะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ และห้องเก็บของในชั้นนี้

ส่วนห้องน้ำในชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ ส่วนอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ของ Kasch ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

ถัดมาที่ด้านในสุดจะมีประตูเปิดออกไปด้านหลังของตัวอาคารได้ ส่วนทางขวามือจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน โดยที่บันไดจะติดตั้งอุปกรณ์ Club Motion Sensor เพื่อจับความเคลื่อนไหวและส่งเป็นเมสเสจเข้ามือถือทันที และตั้งค่าให้ใช้งานร่วมกับ Home Automation อื่นๆได้ เช่น การสั่งเปิดไฟอัตโนมัติ เมื่อมีการใช้บันได

ชั้น 2 จะจัดเป็นพื้นที่สำหรับทำงานเป็นหลัก โดยจะเป็นพื้นที่โล่งให้สามารถจัดวางโต๊ะทำงานได้ตามการใช้งาน มีพื้นที่ให้กั้นเป็นเป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว หรือทำเป็นห้องประชุมในชั้นนี้ได้ มีห้องน้ำที่ออกแบบมาให้แยกการใช้งานชายและหญิง เหมาะกับการทำงานของพนักงานที่ต้องอยู่ร่วมกัน และมีห้องเก็บของให้เช่นกันในชั้นนี้ ส่วนทางด้านหลังจะมีประตูเปิดไปที่บันไดหนีไฟทางด้านหลังอาคารได้

พื้นที่ส่วนทำงานในชั้นนี้จัดไว้แบบโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน และมีพื้นที่ระเบียงให้ออกไปยืนด้านนอกได้ วัสดุภายในปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทั้งหมด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.4 m.

อีกฝั่งสามารถจัดพื้นที่เป็นมุมพักผ่อนในสำนักงานได้ หรือจะกั้นพื้นที่ทำเป็นห้องทำงานแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน

พื้นที่จริงในบริเวณนี้จะได้เป็นพื้นที่เปิดโล่งนะคะ ทางโครงการเลยกั้นพื้นที่เป็นห้องทำงานที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นให้ดูเป็นไอเดียในการจัดการใช้งานให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

บริเวณบันไดที่ชั้น 2 ออกแบบให้มีช่องหน้าต่างและช่องแสง ช่วยให้โถงบันไดโปร่งโล่ง แสงธรรมชาติเข้าถึงไม่มืดทึบ น่าใช้งานมากขึ้นโดยในช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในบริเวณนี้เลย สำหรับบันไดในพื้นที่โซนทำงานจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่กว่าบันไดที่อยู่ในโซนพักอาศัยของตัวบ้าน เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่จะมีการใช้งานที่มากกว่านั้นเอง

ส่วนทางด้านหลังจะมีประตูเปิดไปที่บันไดหนีไฟทางด้านหลังอาคารได้ และเป็นตำแหน่งที่วาง Condensing units ของเครื่องปรับอากาศ การวางไว้ตำแหน่งนี้ดูเรียบร้อย เป็นสัดส่วนดีและดูแลซ่อมแซมง่ายด้วยค่ะ

ใกล้กับโถงบันไดจะเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของในชั้นนี้

ส่วนห้องน้ำในชั้นโซนทำงานจะออกแบบมาให้แยกการใช้งานชายและหญิง เหมาะกับการทำงานของพนักงานที่ต้องอยู่ร่วมกัน

ชั้น 3 ยังคงจัดเป็นโซนทำงานอยู่ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นส่วนพักอาศัยได้เช่นกัน เพราะมีการวางงานระบบต่างๆทั้งส่วนครัวและในห้องน้ำเตรียมไว้ให้แล้ว เช่น มีส่วนอาบน้ำไว้ให้พร้อม กรณีจัดเป็นโซนทำงานถือว่าให้พื้นที่มาเท่ากับชั้น 2 สามารถกั้นแบ่งโซนทำเป็นห้องประชุม ห้องทำงานแบบส่วนตัวเพิ่มได้ และยังมีห้องเก็บของเฉพาะในชั้นนี้ให้เหมือนกับชั้น 2

บรรยากาศโดยรวมที่โครงการจัดมาให้ดูเป็นไอเดีย คือวางโต๊ะทานอาหารแบบ 6 ที่นั่ง ก็ยังมีพื้นที่เหลือเดินรอบใช้งานได้สะดวก วัสดุภายในจะเปลี่ยนเป็นพื้น SPC (Stone Plastic Composite) มีคุณสมบัติกันน้ำ 100% วัสดุพื้นมีส่วนผสมของหิน (Stone) จึงมีการหดตัวและการขยายตัวน้อยกว่าพื้นลามิเนต มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่ออุณหภูมิสูง ส่วนภายในชั้นนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m.

บริเวณส่วนครัวทางโครงการจะวางงานระบบต่างๆไว้ให้ สามารถทำเป็น Pantry ประกอบอาหารแบบครัวเปิด หรือกั้นแบ่งโซนการใช้งานได้ กรณีจัดชั้นนี้ให้เป็นส่วนพักอาศัย

สำหรับชั้นนี้ก็จะมีส่วนระเบียงเช่นกัน ให้สามารถออกไปยืนสูดอากาศ เปิดให้อากาศถ่ายเท หรือจัดสวนกระถางเล็กๆ เพิ่มมุมมองสวยๆในชั้นนี้ได้

โดยทางโครงการมีการออกแบบแผงบังสายตาที่สามารถเปิด-ปิดได้ เป็นการช่วยเพิ่มมุมมองของตัวอาคารให้ดูมีมิติสวยงามมากขึ้น อีกทั้งยังเป็น Shading ป้องกันแดดช่วยให้อาคารและระเบียงไม่ร้อน และพรางสายตาไม่ให้มองเห็นพื้นที่ด้านในของตัวอาคารบางส่วน

อีกฝั่งของชั้นนี้ ทางโครงการกั้นพื้นที่เป็นไอเดียสามารถกั้นแบ่งโซนทำเป็นห้องประชุม ห้องทำงานแบบส่วนตัวเพิ่มได้

หากเรากั้นพื้นตามแบบบ้านตัวอย่างจะสามารถจัดเป็นห้องประชุมขนาด 4-6 ที่นั่งได้สบายๆ

ห้องถัดมากั้นผนังทำเป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว สามารถจัดชุดโต๊ะทำงาน และมีชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่ง ไว้ร่วมกันได้ใช้งานได้สบายๆไม่อึดอัด

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบ ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับเก็บงานระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย

ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่ การติดกระจกบานใหญ่แบบนี้นอกจากจะใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้น ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า อุปกรณ์ก๊อกน้ำ และชุดโถสุขภัณฑ์ ของ Kasch ให้พร้อมใช้งาน มีพื้นที่รอบอ่างล้างหน้าให้วางของใช้ต่างๆได้ มีชุดโถสุขภัณฑ์ชายมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยติดฉากกั้นกระจกและลดระดับลงมาเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang ของ Kasch โดยโครงการจะมีช่อง Junction box ไว้ให้สำหรับต่อเครื่องทำน้ำอุ่น

ทางด้านข้างของห้องน้ำจะมีประตูเปิดไปพื้นที่ระเบียงที่อยู่ในห้องน้ำสามารถเปิดระบายอากาศได้ พื้นที่ระเบียงเราสามารถจัดเป็นพื้นที่สวน ช่วยเพิ่มความร่มรื่นน่าใช้งานมากขึ้น อีกทั้งทำให้ห้องน้ำได้แสงธรรมชาติในตอนกลางวันไม่มืดทึบ ด้านบนก็ใช้เป็นที่ติดตั้ง Condensing units ของเครื่องปรับอากาศในชั้นนี้

ใกล้กับโถงบันไดจะเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของในชั้นนี้

บริเวณบันไดที่ชั้น 3 จะมีขนาดเล็กกว่าชั้นโซนทำงานเล็กน้อย แต่ยังคงใช้วัสดุและโครงสร้างเดียวกัน ตรงข้ามกับบันไดจะมีประตูเปิดไปที่บันไดหนีไฟทางด้านหลังอาคารได้

ชั้น 4 จะจัดเป็นพื้นที่สำหรับส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยจะแบ่งเป็นห้อง Master Bedroom และห้องนอนรอง อีกหนึ่งห้องโดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องใช้งานได้ความเป็นส่วนตัวแยกโซนการใช้งานเป็นสัดส่วน มีลิฟต์โดยสารตรงกลาง ถัดไปเป็นห้องเก็บของและมีประตูเปิดไปบันไดหนีไฟทางด้านหลังของตัวอาคารได้

มาที่ห้องนอน Master Bedroom จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ ที่หันออกทางระเบียงที่อยู่ทางด้านหน้าตัวบ้าน สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติเห็นวิวจากภายนอกแบบมุมกว้างได้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

พื้นที่ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ แล้วยังเหลือพื้นที่ให้จัดวางชุดโซฟาเป็นส่วนพักผ่อนภายในห้องได้

ด้านในของห้องนอนจะเป็นส่วน Walk in closet และห้องน้ำของห้องนอนใหญ่

ภายในส่วน Walk in closet มีพื้นที่จัดวางพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมีพื้นที่สำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องน้ำในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้พร้อมกัน 1-2 คน ได้เลย

ชุดอ่างล้างหน้ามีให้ 2 อ่างแบบ His & Her ชุดเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Kasch มีพื้นที่ทางด้านข้างให้วางเครื่องใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้

อีกฝั่งของห้องน้ำจัดพื้นที่เป็นเป็นส่วนอาบน้ำ มีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวพร้อมอุปกรณ์ มีประตูบานเปิดกระจกแบ่งโซนการใช้งานให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปิดเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ Kasch พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดชำระติดไว้ที่ผนังด้านข้างและด้านหลัง

มาที่ห้องนอนถัดมา จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้านเช่นกัน มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

ภายในห้องน้ำในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน

ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อกน้ำ ได้เคาน์เตอร์ยาวทำให้มีพื้นที่ทางด้านข้างให้วางเครื่องใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ ส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์จะอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง มีฉากกั้นอาบน้ำแบ่งโซนการใช้งานไว้เรียบร้อย

ทางด้านข้างของห้องน้ำมีประตูเปิดไปพื้นที่ระเบียง สามารถเปิดระบายอากาศได้ หรือจัดเป็นพื้นที่สวน เพิ่มความร่มรื่นในการใช้งาน และได้แสงธรรมชาติในตอนกลางวัน ด้านบนก็ใช้เป็นที่ติดตั้ง Condensing units ของเครื่องปรับอากาศในชั้นนี้

มุมมองจากชั้น 4 มองเห็นบรรยากาศภาพรวมของโครงการแบบนี้

ใกล้กับโถงบันไดและหน้าลิฟต์จะเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของในชั้นนี้

บริเวณบันไดที่ชั้น 4 จะมีช่องแสงช่วยให้โถงบันไดโปร่งโล่ง มีแสงธรรมชาติเข้าถึงไม่มืดทึบ  ตรงข้ามกับบันไดจะมีประตูเปิดไปที่บันไดหนีไฟทางด้านหลังอาคารได้

ชั้น 5 หรือชั้นดาดฟ้า ชั้นนี้ลิฟต์จะขึ้นมารับ-ส่งได้ โดยไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได สามารถใช้จัดเป็นพื้นที่พักผ่อน หรือจัดเป็นพื้นที่สวน ปลูกต้นไม้จัดสวนแบบส่วนตัวได้ ทางด้านหลังจะมีบันไดหนีไฟที่ลงไปสุดทางที่ชั้น 1 ของตัวอาคาร

ลิฟต์ออกแบบเป็นกรอบกระจก 3 ด้านช่วยให้พื้นที่ด้านบนดูโปร่งโล่งไม่มีผนังทำให้ดูไม่ทึบตัน โดยลิฟต์จะขึ้นมารับ-ส่งได้จากชั้นล่าง โดยไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น

เราสามารถต่อเติมทำหลังคาและปูพื้นทำเป็นที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi outdoor ขึ้นมามองวิวโดยรอบได้

มุมมองจากชั้น 5 มองเห็นบรรยากาศภาพรวมของโครงการแบบนี้ อาคารสีเหลืองทางซ้ายมือ คือ The Mall รามคำแหง ที่อยู่ติดกับโครงการเรา

ทางด้านหลังจะมีบันไดหนีไฟที่ลงไปสุดทางที่ชั้น 1 ของตัวอาคาร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ระบบ CCTV ภายในโครงการ 3 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2 ม.และรั้วไม้ระแนงสูง 1.5 ม. รวม 3.5 ม.
  • ถนนหลักกว้าง 5.4 ม. ระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน
  • ไฟส่องสว่างในโครงการระบบ Solar cell
  • ประตูรั้วโครงการแบบประตูบานเลื่อนไฟฟ้า
  • ระบบรักษาความปลอดภัย แบบ Home automation

ราคา

16 February 2021

  • Exclusive Business Mansion (บ้านแฝด) 5 ชั้น หน้ากว้าง 12.5-15.5 เมตร ที่ดิน 46.5-50  ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 563 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
  • Promotion  : ส่วนลด 400,000 บาท
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 10%
  • ดาวน์ 10% ของราคาซื้อขาย
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

หากลองดูเปรียบเทียบโฮมออฟฟิศที่อยู่ในทำเลเดียวกันและใกล้เคียงจะพบว่า ถ้าอยู่บนถนนเส้นรามคำแหงเลยนั้น จะมีเฉพาะโครงการ Metier Rama 9 ตำแหน่งที่ตั้งคืออยู่ติด The Mall รามคำแหง ส่วนที่เหลือจะอยู่ที่ถนนพระราม 9 เป็นส่วนใหญ่ ส่วนระดับราคาเมื่อเปรียบเทียบแล้วโครงการ Metier Rama 9 นั้นปัจจุบันราคาสูงกว่า แต่ถ้าเทียบกับจำนวนพื้นที่ใช้สอยก็ได้มากกว่าเช่นกัน และได้ที่จอดรถถึง 6 คัน แบบที่จอดในรั้วบ้านจริงๆได้ ซึ่งถ้าใครมองหาโฮมออฟฟิศที่เน้นพื้นที่ใช้สอย สามารถรองรับพนักงานได้อย่างน้อย 30 คนขึ้นไป เน้นการเดินทางสะดวกทั้งคนมาทำงานและคนมาติดต่อ อนาคตมีรถไฟฟ้าผ่านให้ใช้งาน เข้าซอยมาหน่อยในระยะเดินได้สบายๆ โครงการ Metier Rama 9 ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจ

หรือมองว่านอกจากเป็นที่ทำงานแล้วยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยร่วมด้วย การที่มีจำนวนยูนิตไม่มากก็จะได้เรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย การดูแลจัดการก็ง่ายตามไปด้วย โครงการมีการออกแบบพื้นที่การใช้งานเพื่อรองรับการอยู่อาศัยมาค่อนข้างดี ห้อง Master Bedroom และห้องนอนรอง ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องใช้งานได้ความเป็นส่วนตัวแยกโซนการใช้งานเป็นสัดส่วน มีชั้นดาดฟ้าที่ลิฟต์ขึ้นมารับ-ส่งได้ โดยไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได ให้วัสดุดีเหมาะกับการใช้งาน พร้อมระบบอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่สามารถควบคุมผ่าน Application บนมือถือได้ เหมาะกับการใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบันดีค่ะ

ถ้าผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับโครงการนี้ comment มาพูดคุยกันได้นะคะ หรือว่ามีโครงการไหนอยากให้ไปรีวิวก็บอกกันมาได้เลยค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc