TIGER LANE จาก แสนสิริ

เรียกได้ว่าเปิดตัวมาพร้อมๆกับการเปิดทดลองใช้รถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย “หัวลำโพง – หลักสอง” เลยนะคะ กับโครงการ Tiger Lane จาก แสนสิริ  ถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่จากแสนสิริด้วย ซึ่งโครงการนี้มีความน่าสนใจอยู่หลายๆอย่าง และสร้างขึ้นมาเฉพาะกับทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ใจกลางเสือป่า ใกล้เยาวราชแห่งนี้ด้วย วันนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศของโครงการนี้กัน มาดูกันว่าเมื่อสร้างเสร็จออกมาเเล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

ทำเลที่ตั้งโครงการ

ที่ตั้งของโครงการ Tiger Lane ตั้งอยู่ในซอยเจ้าคำรพ ใกล้ถนนเสือป่า ถนนเส้นนี้ถือว่ามีความพิเศษอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนมังกรหรือว่าเยาวราชได้เลย และถือว่าเป็นย่านชุมชนเก่าที่มีความสำคัญต่อคนไทยเชื้อสายจีนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นย่านธุรกิจ แหล่งทำมาค้าขาย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ตรงนี้เรามองว่าเป็นแหล่งที่ดึงดูดผู้คนหลายๆรุ่น ให้แวะเวียน และ เยี่ยมเยือนพื้นที่บริเวณนี้เสมอ แม่เรายังไปต้องไปซื้อสมุนไพรที่เยาวราชมาต้มพะโล้อยู่แม้บ้านจะอยู่ไกลจากทำเลนั้นหลายสิบกิโลเมตรก็ตาม เพื่อนเราก็ยังคอยชวนไปตะลุยหาของกินเเถวนั้นช่วงเย็นๆ หรือจะไปทำบุญ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาประจำปี ก็ยังต้องไปยังทำเลนี้ เรียกว่าเป็นย่านที่คุ้นเคยของคนไทยเชื้อสายจีนจริงๆค่ะ พอวันเวลาเปลี่ยนผ่านไป อาคารพาณิชย์หรือแหล่งทำมาค้าขายของผู้คนเหล่านี้ก็ย่อมทรุดโทรมไปตามวันเวลา อีกทั้งยังมีเรื่องข้อกฏหมายต่างๆ ทำให้แทบจะไม่มีโครงการที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์เกิดขึ้นใหม่เลยค่ะ Tiger Lane จึงถือเป็นโครงการประเภทอาคารพาณิชย์เปิดใหม่ในทำเลเฉพาะที่มีเอกลักษณ์ทำเลนี้ค่ะ

Tiger Lane 

Tiger Lane เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นที่มีอยู่เพียง 5 ยูนิตเท่านั้น รูปแบบการขายในโครงการสามารถเลือกได้ว่าอยากได้เป็นแบบ Bare Shell หรือ Fully Fitted ซึ่งในแบบ Fully Fitted ก็ยังสามารถเลือกได้อีกว่า จะจัดรูปแบบอาคารเป็น Home Office หรือว่า Residence โดยความแตกต่างจะอยู่ที่วัสดุปูพื้นที่เป็นกระเบื้องกับพื้นลามิเนตค่ะ เราจะเห็นได้ว่า โครงการนี้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานได้ทั้งเป็นอาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ หรือจะเป็นที่พักอาศัยอย่างเดียวก็ได้ คล้ายๆกับรูปแบบอาคารพาณิชย์ดั้งเดิมบนทำเลนี้ค่ะ และก็เพราะจำนวนยูนิตของโครงการนี้มีแค่ 5 ยูนิต จึงเป็นโครงการไม่จัดสรร ทำให้บ้านแต่ละหลังมีอิสระในการจัดการพื้นที่ภายในได้เต็มที่ จะเปิดชั้นล่างเป็นคาเฟ่ก็ได้ จะเป็นออฟฟิศก็ดี หรือจะเอาไว้พักอาศัยอย่างเดียวก็ไม่ผิดค่ะ แต่ด้วยราคาที่เริ่มต้น 38 ล้านบาทไปแล้ว และเป็นโครงการไม่จัดสรร หลายๆคนอาจจะมีคำถามเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยกันบ้าง ว่ามีอะไรให้? โครงการนี้จะมีติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ที่หน้าบ้าน และมีระบบ Sensor ที่ประตู-หน้าต่างด้านหลังบ้านให้ทุกชั้นค่ะ

และอีกจุดเด่นที่เรามองว่าสำคัญของโครงการนี้เลยคือ ” ที่จอดรถ “ ค่ะ แม้ทำเลนี้จะเป็นย่านธุรกิจที่มีคนอยู่อาศัยและทำมาค้าขายกันมากมาย แต่ว่าหน้าบ้านและหน้าร้านค้าต่างๆกลับไม่มีที่จอดรถเลยค่ะ เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาสำคัญของคนที่อยู่แถวนี้กัน อาจจะหาที่จอดตามตรอกซอกซอยได้บ้าง หรือจะเช่าที่จอดรถรายเดือนเพื่อแก้ปัญหานี้กันไป แต่ระยะทางจากบ้านไปยังที่จอดรถนั้นๆก็ไม่ใช่ระยะที่เรากำหนดได้อยู่ดี ไหนจะค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มเติมอีก ดังนั้นจุดเด่นของโครงการนี้อย่างนึงเลยคือมีที่จอดรถให้ยูนิตละ 2 คันค่ะ (ยูนิตใหญ่หัวมุมจะได้ที่จอดรถ 3 คัน) และอีกเรื่องที่เด่นของโครงการนี้คือมีลิฟต์ภายในบ้านทุกหลัง (ตรงนี้เรามองว่าผู้อยู่อาศัยในโครงการนี้อาจจะมีอากง อาม่าอยู่ด้วย รุ่นนี้มักจะเป็นวัยที่ติดทำเล ไม่อยากย้ายบ้านไปไหนไกลๆจากสถานที่คุ้นเคย) ลิฟต์จึงเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนวัยนี้ได้ค่ะ

สำนักงานขาย Tiger Lane

ก่อนที่จะพาไปดูโครงการกัน เราอยากพามาชมสำนักงานขายกันซักเล็กน้อย เพราะการออกแบบสำนักงานขายของโครงการนี้ มีแนวคิดการออกแบบที่อิงกับทำเลที่ตั้งของชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่ไม่น้อย เช่นการเลือกสีต่างๆที่แสดงถึงพลัง สื่อถึงโชคลาภ ตามความเชื่อของคนจีนด้วย

ความหมายของสีต่างๆที่เลือกใช้ในสำนักงานขาย

  • สีแดง เป็นสีแห่งความสุข ความสำเร็จ โชคลาภ
  • สีเหลือง เป็นสีของจักรพรรดิและอำนาจ
  • สีเขียว สีแห่งความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ การฟื้นฟู ความหวัง ความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า (Wallpaper สีเขียวที่ผนังก็ทำขึ้นจากเยื่อไผ่ โดย Jim Thompson)
  • สีชิง (สีเขียวอ่อน) เป็นสีที่มักใช้ในการตกแต่งบ้าน สื่อถึงความมีอายุยืนยาวและความสามัคคีของคนในครอบครัว
  • สีดำ เป็นสีที่เป็นกลาง เป็นอมตะ ความรู้ ความมั่งคั่ง และพลังอำนาจในการควบคุม
  • สีทอง สีของความร่ำรวย สูงส่งและเป็นสีแห่งชัยชนะ

การเลือกรูปภาพตกแต่งและปลอกหมอนต่างๆที่วางอยู่บนโซฟา ก็จะเป็นสัญลักษณ์ของเสือทั้งหมด 8 ตัว ซึ่งเป็นเลขมงคลของชาวจีน สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า ทำมาค้าขายรุ่งเรือง

บรรยากาศภายในโครงการ

TIGER LANE เป็นอาคารพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่ในซอยเจ้าคำรพ ซอยนี้สามารถเชื่อมต่อระหว่างถนนมังกรและถนนเสือป่าได้ ตัวโครงการจะมีถนนแยกเข้ามาจากซอยเจ้าคำรพอีกที ทำให้พื้นที่หน้าโครงการเป็นสัดส่วนจากถนนหลัก ปูพื้นด้วยแสตมป์คอนกรีต จากภาพเราจะเห็นว่ามีอาคารหน้าตาใกล้เคียงกันขนาบถนนอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา แต่สำหรับโครงการ TIGER LANE จะเป็นอาคารที่อยู่ฝั่งขวามือค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ของแสนสิริเช่นกัน แต่ยังไม่กำหนดว่าจะขายในรูปแบบไหน (ซึ่งอาจจะปล่อยเช่าก็ได้)

การออกแบบของTIGER LANE จะนำรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ ชิโน-โปรตุกีส มาใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบ ทำให้ตัวอาคารมีกลิ่นอายย้อนยุคนิดๆ

หน้าอาคารจะมีการออกแบบแผงกันแดดเป็นรูป Four-leaf clover หรือใบโคลเวอร์สี่แฉก ที่เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและโชคลาภ และการเลือกใช้สีในอาคารทั้งกรอบประตูหน้าต่างและผนังจะเป็นโทนสีเขียวที่ผสมขึ้นมาโดยเฉพาะ สื่อถึงความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ค่ะ

บ้านภายในโครงการจะมีอยู่ 3 แบบค่ะ
1. The Imperial (แปลงกลาง) ขนาดที่ดิน 24 ตร.ว. พื้นท่ีใช้สอย 254 ตร.ม
2. The Imperial Garden (แปลงริมด้านใน) มีพื้นที่สวนเล็กๆอยู่ข้างตัวบ้าน พื้นท่ีใช้สอย 254 ตร.ม
3. The Emperor (แปลงมุมด้านหน้า) ขนาดที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นท่ีใช้สอย 403 ตร.ม.

The Emperor

ผังบ้านแบบ The Emperor จะเป็นบ้านที่ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ TIGER LANE สูง 4 ชั้น ราคาหลังนี้อยู่ที่ 79.9 ล้านบาทค่ะ

สำหรับแบบ The Emperor เรามีแค่บรรยากาศที่ชั้น 1 มาให้ชมกัน ถือว่าเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่เลยทีเดียวนะคะ หน้าบ้านสามารถตกแต่ง จัดเป็นสวนรอบๆได้ และเป็นแปลงมุม ทำให้สามารถจัดพื้นที่ชั้นล่างเป็นร้านค้าได้ด้วยค่ะ

ด้านข้างเนื่องจากเป็นแปลงมุม จะมีกระจกอยู่ด้วย ทำให้ภายในบ้านสว่างมากขึ้น

ภายในบ้านจะปูพื้นกระเบื้องไว้ให้ ความสูงที่ชั้นล่างจะอยู่ที่ 3 เมตร บรรยากาศเลยดูโปร่ง โล่ง

จัดมุมต้อนรับเล็กๆไว้ที่ด้านหน้าได้

มีลิฟต์ให้มาทุกหลังค่ะ และมีห้องน้ำอยู่ที่ชั้น 1

ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นห้องสุขาที่มีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือให้เท่านั้นค่ะ ไม่มีที่อาบน้ำ

ข้างๆกับลิฟต์และห้องน้ำจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ ตัวบันไดจะมองไม่เห็นโดยตรงจากชั้น 1 ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ได้

สำหรับยูนิตหลังนี้ ที่บันไดจะมีหน้าต่างด้วย ช่วยระบายอากาศและเป็นช่องแสงได้

The Imperial

ผังบ้าน The Imperial ค่ะ ภายในบ้านตัวอย่างของที่จะพาไปชมจะเป็นบ้านเปล่านะคะ ไม่ค่อยมีการตกแต่งอะไรเท่าไหร่ ถือว่าซื้ออะไรไป ได้อย่างที่เห็นเลยแทบทั้งหมดเลยค่ะ

ด้านหน้าอาคารมีการออกประดับประดาด้วยแบบขอบบัว และโค้งสไตล์ ชิโน-โปรตุกีส ดูน่ารักดีค่ะ บ้านแบบนี้สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีรั้วหน้าบ้านให้มา

มุมอาคารบริเวณหน้าบ้านก็จะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ให้

เข้ามาในบ้านสามารถจัดมุมนั่งเล่นก็ได้ค่ะ ในกรณีที่เราต้องการบ้านพักอาศัยจริงๆ

ด้านในก็สามารถทำเป็นมุมรับประทานอาหารได้

บรรยากาศห้องน้ำที่ชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้อง มีโถสุขภัณฑ์ โถปัสสาวะชาย และอ่างล้างหน้าให้มา

หลังบ้านมีพื้นที่ จัดเป็นครัวหรือลานซักล้างได้

ตำแหน่งทางขึ้นชั้น 2 จะเจอกับลิฟต์และบันไดอยู่ตรงข้ามกันค่ะ เราชอบการเลือกกระเบื้องพื้นที่บริเวณหน้าบันไดนะคะ โทนสีต่อเนื่องไปกับสีบันไดดี

บันไดก็จะมีราวจับที่ออกแบบล้อไปกับสไตล์ของอาคาร

รายละเอียดราวกันตกดูไม่ซ้ำกับโครงการอื่นแน่นอนค่ะ

ที่ชั้น 2 พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นที่โล่ง มีกระจกทรงยาวสูง ถึงแม้จะเป็นกระจกทรงยาวสูง แต่ก็จะมีกระจกกั้นไว้เป็นราวกันตกให้อีกชั้นนึงด้านล่างของบานหน้าต่าง ป้องกันอันตรายได้ด้วยค่ะ เผื่อไว้บ้านไหนมีเด็กเล็กอาจปีนป่ายพลัดตกไปได้ บางช่วงของหน้าต่างด้านหน้าอาคารจะมีแผงกันแดด การออกแบบแผงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากใบโคลเวอร์ 4 แฉก สัญลักษณ์ของโชคลาภและความโชคดี

ห้องน้ำจะอยู่ทางด้านหลังบ้านค่ะ ด้านหลังก็จะมีหน้าต่างบานเล็กๆไว้ให้ ดูแล้วอาจจะเล็ก แต่ก็จะได้ข้อดีที่สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิดผนังด้านหลังนี้ได้ และไม่ได้เปิดมุมมองภายในบ้านเราให้กับบ้านฝั่งตรงข้ามมองเข้ามากเกินไป

ห้องน้ำที่ชั้นนี้จะมีห้องอาบน้ำให้มาค่ะ ลวดลายกระเบื้องก็ดูมีสีสัน สนุกสนานเช่นกัน

ชั้น 2 กับชั้น 3 ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งเหมือนกันค่ะ แต่ที่ชั้น 3 ทางหน้าบ้าน นอกหน้าต่างจะมีระเบียงเล็กๆอยู่ สามารถปลูกไม้กระถาง เป็นวิวให้กับภายในบ้านได้

ส่วนชั้น 4 จะถูกจัดไว้เป็นที่พักอาศัย แบ่งเป็น 2 ห้องนอน โดยใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง เป็นห้องน้ำที่เข้าได้ 2 ทางค่ะ คือจากห้องนอนทางด้านหน้าบ้านและจากโถงทางเดินตรงกลาง

ภายในห้องน้ำก็จะมีฟังก์ชันครบ แยกส่วนเปียก – ส่วนแห้งให้ มีการเลือกลวดลายของกระเบื้องแตกต่างไปในแต่ละห้อง

สังเกตได้ว่ากระจกเงาที่เลือกใช้ภายในห้องน้ำจะมีดีไซน์เป็นรูปวงรีทุกห้องเลย ล้อไปกับดีไซน์ของราวบันไดและรั้วบ้าน

ห้องที่อยู่ด้านหน้าจะมีผนังกั้นไว้แบ่งพื้นที่เล็กๆ สามารถจัดเป็นมุม Walk-in Closet เป็นพื้นที่แต่งตัวส่วนตัวภายในห้องนอน และเป็นห้องที่สามารถเดินเข้าไปยังห้องน้ำได้จากในห้องนอน

แต่ห้องนอนที่อยู่ด้านหลังจะมีข้อดีคือมีระเบียงส่วนตัวค่ะ

ระเบียงด้านหลังนี้ก็ถือว่าขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปนะคะ

ภายในด้านหลังจะไม่มีผนังกั้นใดๆ เลยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่าห้องที่อยู่ด้านหน้าค่ะ

จบกันไปแล้วนะคะกับการพาชมโครงการ Tiger Lane ในครั้งนี้
ใครที่สนใจ โครงการนี้จะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม และ 1 กันยายน 2562 ที่จะถึงนี้ค่ะ


Living Expo 2019

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving