สวัสดีค่ะ … วันนี้จะพาชม Mini Review เนื้อหาหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดจากทีมงาน ThinkofLiving “ กิน.อยู่.คู่กัน ” ฉบับลาดพร้าว ให้ชมกันเป็นน้ำจิ้ม ก่อนได้อ่านฉบับเต็มกัน โดยเราจะนำมาแจกฟรีกันอีกครั้งในงาน Think of Living in Central Ladprao 2017 ในวันที่ 20-26 กรกฎาคม 2017 ที่จะถึงนี้ค่ะ
เรื่องสำคัญที่ขาดกันไม่ได้ ก็คงจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยกับเรื่องอาหารการกิน ซึ่งมีผลในการใช้ชีวิตไม่น้อยไปกว่าการเดินทาง คำถามที่ว่า ” บ้านอยู่ไหน แถวนั้นมีอะไรอร่อย ? ” คงเป็นคำถามของใครหลายๆคนที่เวลานึกถึงสถานที่ต่างๆ จะต้องนึกภาพร้านอาหารเจ้าอร่อยในบริเวณนั้นตามมาด้วยอยู่เสมอ วันนี้เราลองมาดูกันว่าในแต่ละย่านนั้นเป็นอย่างไรและมีอะไรน่าสนใจกันบ้างค่ะ
“จตุจักร-บางซื่อ”
“จตุจักร-บางซื่อ” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนปอดของคนในย่านนี้ทั้งสวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ และ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกันยังมีตลาดนัดคนเดิน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมลำดับต้นๆของกรุงเทพฯ นั่นก็คือตลาดนัดสวนจตุจักรที่มีความคึกคักเป็นพิเศษในวันเสาร์ – อาทิตย์ มีของขายหลากหลายประเภท ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของแต่งบ้าน ของกิน นอกจากนั้นยังมี JJ Green ตลาดนัดขายของเก่าและ ใหม่ สถานที่กว้างขวางที่สำคัญไม่ร้อนเพราะเปิดตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวมโครงข่ายการคมนาคม ในอนาคตจะมีการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อและพัฒนาพื้นที่โดยรอบในเชิงพาณิชย์ มีแหล่งงานที่สำคัญอย่าง SCG จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ย่านนี้กลายเป็นทำเลเนื้อหอมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาพัฒนาโครงการกันเป็นจำนวนมาก
การใช้ชีวิตและการเดินทางของคนในย่านนี้พึ่งพารถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมีให้เลือกทั้ง BTS สายสีเขียวและ MRT นอกจากนั้นยังมีรถสาธารณะต่างๆให้เลือกใช้ ที่อยู่อาศัยในย่านนี้จะมีทั้งแนวราบ ส่วนคอนโดมิเนียมมักจะเป็น High Rise ที่ชูจุดขายเป็นวิวเปิดโล่งของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ อย่างสวนจตุจักร อีกอย่างคือการเดินทางที่สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน โดยราคาเฉลี่ยปัจจุบันของโครงการในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 100,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร
หัวใจสำคัญของย่านนี้คือมี “สวนสาธารณะขนาดใหญ่” มีตลาดนัดคนเดินซึ่งสามารถเดินเล่นหาของกินของใช้ได้ นอกจากนั้นยังใกล้กับถนนกำแพงเพชร 2 เป็นถนนที่ขนาบข้างสวนจตุจักร เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักแต่งบ้านทั้งหลาย เพราะมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั้งที่อยู่ข้างทางและใน JJ mall ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมีทั้งโซนติดแอร์และในร่ม ทำเลนี้มีจุดเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือคือการมาของ ทางด่วนจตุจักร – กาญจนาภิเษก ซึ่งมีจุดขึ้นลงอยู่บนถนนเส้นนี้ ช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น
อาหารการกินและความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ นอกจากร้านอาหารข้างทางแล้ว บริเวณ MRT สถานีกำแพงเพชร จะมีตลาดอตก. ตลาดสดในร่มขนาดใหญ่ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร มีแบ่งเป็นโซนขายผลไม้ ขายอาหารคาว-หวาน และมีศูนย์อาหารแบบนั่งรับประทานได้อยู่ด้านใน การเดินทางเข้าถึงค่อนข้างสะดวก มีที่จอดรถ ใครที่อยู่ในย่านนี้สามารถมาฝากท้องที่นี่ได้ ส่วนย่าน บางซื่อ-เตาปูน ย่านค้าขายเก่าแก่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง อาหารการกินของคนในย่านนี้จะกระจายอยู่ทั่วไปตามอาคารพาณิชย์ ตึกแถว ส่วนใหญ่เป็นร้านเก่าแก่ที่ขายกันมารุ่นสู่รุ่น มีตลาดที่แทรกตัวอยู่ในชุมชนอย่าง “ตลาดบางซื่อ” ที่เป็นตลาดเช้า(ตีสาม-9โมงเช้า) และ “ตลาดเตาปูน” ที่เริ่มขายกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ตัวอย่างร้านขึ้นชื่อในย่านนี้มี ร้านก๋วยจั๊บสามทุ่ม ตั้งอยู่บนฟุตบาทข้างทางรถไฟชุมทางบางซื่อเมื่อก่อนร้านนี้เปิดเวลาสามทุ่ม แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนช่วงเวลาเป็น 6 โมงเช้า-สี่ทุ่ม แต่ชื่อร้านก็ยังคงเป็น “ก๋วยจั๊บสามทุ่ม” เหมือนเดิม ทีเด็ดของร้านนี้คือเส้นก๋วยจั๊บที่เหนียวนุ่ม หมูติดกระดูกอ่อนที่เวลาเคี้ยวจะกรุบๆ และเต้าหู้ทอดของที่นี่ไม่ต้องกลัวเหนียวเพราะกรอบเกรียวทุกอัน และ ข้าวขาหมูจตุจักร ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร 2 ค่ะ นี้เป็นแค่ส่วนนึงของร้านอาหารมากมายที่เราจะพาไปชิมกันนะคะ ในเล่มจะจัดเต็มคัดสรรแต่ร้านค้าที่ดูแล้วอดใจไปลองชิมกันไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ
นี่เป็นเพียงออเดิฟเรียกน้ำย่อยจากบทความในหนังสือตอน ย่านจตุจักร-บางซื่อ ซึ่งยังไม่ใช่เวอร์ชั่นเต็มนะคะ สำหรับใครที่อยากอ่านบทความฉบับเต็ม สามารถอ่านได้ในหนังสือ กิน.อยู่.คู่กัน ที่จะมาแจกให้ผู้อ่านทุกท่านในงาน Think of Living in Central Ladprao 2017 ในวันที่ 20-26 กรกฎาคม 2017 ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วเจอกันนะคะ