ช่วงนี้ผมจะพามาติดตามสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียม High Rise เด่นๆ ที่พึ่งเปิดตัวโครงการกันไปในช่วง Q2 ที่ผ่านมา ว่าแต่ละตัวอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอะไรบ้าง ระยะเท่าไร และมีรายละเอียดโครงการและความคืบหน้าถึงไหนแล้วมาให้ดูกันครับ ทางทีมงาน ThinkOfLiving ได้เลือกโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจมาทั้งหมด 10 โครงการ โดยมีระยะการเดินทางไม่เกิน 300 เมตร จำนวน 5 โครงการ และในระยะการเดินทางเกิน 300 เมตร ขึ้นไป จำนวน 5 โครงการ มีรายละเอียด ดังนี้
- Q Sukhumvit (BTS นานา 0 ม.)
- Life Asoke (MRT เพชรบุรี 130 ม. / ARL มักกะสัน 20 ม.)
- Rhythm Rangnam (BTS อนุเสาวรีย์ 130 ม.)
- The Lofts Asoke (MRT เพชรบุรี 200 ม.)
- The Monument (BTS สนามเป้า 300 ม.)
- Saladaeng One (MRT ลุมพินี 390 ม.)
- The Line (BTS หมอชิต 400 ม. / MRT จตุจักร 350 ม.)
- Hyde Sukhumvit 11 (BTS นานา 550 ม.)
- Noble BE 33 Sukhumvit (BTS พร้อมพงษ์ 700 ม.)
- Q Chidlom Phetchaburi (BTS ชิดลม 800 ม. / ARL ราชปรารภ 900 ม.)
อยู่ไกลแค่ไหนถึงจะเรียกว่าใกล้… by Mr.Oe
มีคำถามชวนปวดหัวมากมายเรื่องระยะทางโครงการครับ โดยเฉพาะโครงการที่เกาะแนวรถไฟฟ้า ซึ่งหลายๆโครงการก็มักจะโฆษณาว่าอยู่ติดรถไฟฟ้าบ้าง อยู่ใกล้รถไฟฟ้าบ้าง ซึ่งบางโครงการก็ใกล้จริง แต่บางโครงการนี่อยู่ห่างไปเป็นกิโล ยังบอกว่าตัวเองใกล้รถไฟฟ้าหน้าตาเฉยก็มี เราก็เลยต้องมาทำความเข้าใจกันว่า แบบไหนเรียกว่าใกล้ และแบบไหนควรจะบอกว่าไกลกันนะครับ
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าระยะทางวัดจากแผนที่ กับระยะทางเมื่อเดินในชีวิตจริงนี่มันแตกต่างกันคนละโลก และความรู้สึกใกล้-ไกล ของมนุษย์แต่ละคนนั้นก็ต่างกัน ลองจินตนาการถึงตอนในห้างมีเซลส์ลดราคาสินค้าดูสิครับ ผมเชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายคนสามารถเดินห้างได้ตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด ซึ่งถ้าเอาระยะทางมารวมกันเผลอๆจะเกิน 10 กิโลเอานะครับ เราเดินห้างนานๆได้เพราะห้างมันเย็นไม่ร้อน มีของที่เราสนใจอยากจะดู และเราไม่ได้เดินต่อเนื่องนานๆ มีหยุดเลือกของมีนั่งเล่นหาขนมกิน การเดินห้างมาราธอนจึงเป็นเรื่องสามัญที่คุณผู้หญิงไม่คิดเรื่องระยะทางใกล้ไกลแต่อย่างใด จัดเป็นความบันเทิงยามว่างซะด้วยซ้ำ
หากลองจับสาวๆนักช้อปเดินอึดๆ ไปเดินรอบสนามฟุตบอลกลางแดดเปรี้ยง นี่จะกลายเป็นคนละเรื่องในทันที แม้ระยะทางรอบสนามฟุตบอลจะแค่ 400 เมตร แต่ผมเชื่อว่าคงมีน้อยคนที่จะสนุกและมีความสุขกับการใส่ส้นสูงแต่งหน้าจัดเต็ม มาเดินกลางแดดนะครับ อ้อ มันจะท้าทายขึ้นไปอีกไหม ถ้าเอาน้องหมาหน้าโหดๆสักสี่ห้าตัว ไปวิ่งเล่นไล่งับชายกระโปรงด้วย … การเดินระยะทาง 400 เมตร ในสภาพแบบนี้ คงไม่มีสาวๆคนไหนรู้สึกดี และรู้สึกว่า ระยะทางมันใกล้นิดเดียวแน่ๆครับ
ระยะทางใกล้ไกล แค่ไหนสำหรับคนทั่วไป มันจึงมีผลมาจากสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมและความน่าเดินของเส้นทางนั้นๆด้วยนะครับ หากเส้นทางไม่น่าเดิน อันตราย สกปรก ไม่มีร่มเงา เดินไปไม่ถึง 200 เมตร เราก็จะรู้สึกว่ามันไกล แต่เส้นทางเดินสบาย มีร่มเงา มีดอกไม้ใบหญ้า มีเพื่อนร่วมทางเดินดูปลอดภัย ระยะทาง 500 เมตรเราก็เดินได้สบายๆไม่รู้สึกว่าไกลสักเท่าไร ซึ่งเรื่องนี้ชาวต่างชาติที่บ้านเมืองเจริญแล้ว และสภาพอากาศค่อนข้างดี จึงถนัดเดินมากกว่าคนไทยนะครับ เพราะที่ที่เขาเติบโตมามันเอื้อต่อการเดินอยู่แล้ว เช่นคนญี่ปุ่น การเดินไปสถานีรถไฟฟ้าหรือไปโรงเรียน ที่ระยะทาง 1 กิโลเมตรนี่จัดว่าเป็นระยะเดินสบายนะครับ คือเดินไม่เกิน 15 นาที รวมไปถึงคนยุโรปด้วยครับ แต่ถ้าเป็นคนไทย 1 กิโลเมตรนี่ โบกพี่วินนั่งมอไซค์กันแน่ๆ
สำหรับประเทศไทย ระยะทางมาตรฐานโดยเฉลี่ย หากมีถนนทางเดินมาตรฐาน สำหรับระยะที่เรียกว่า ใกล้ สำหรับการเดินเท้า ควรอยู่ในระยะทางไม่เกิน 500 เมตร ซึ่งบวกลบได้มากน้อยกว่านี้ขึ้นกับความร่มรื่น ความปลอดภัยและความน่าเดินของเส้นทาง ส่วนระยะทาง 500 – 800 เมตร ยังถือว่าเดินได้แต่ก็ไกลและไม่สะดวกเท่าไร เหมาะกับคนขยันเดินซะมากกว่าครับ อย่างไรก็ดี ที่ยกตัวอย่างมานี้ คือการเดินไปหรือกลับอย่างเดียวนะครับ เช่นการเดินไปรถไฟฟ้าแล้วขึ้นรถไฟต่อไปทำงาน … ส่วนการเดินไปซื้อของแล้วเดินกลับทันทีเช่น ระยะทางเดินไป Supermarket หรือมินิมาร์ท เราต้องคิดเผื่อเดินกลับด้วยนะครับ ซึ่งใช้หลักการคิดเหมือนกัน และพิจารณาจากความรู้สึกใกล้ไกลของตัวเราเองเป็นสำคัญ ดังนั้น ก่อนจะเลือกที่อยู่อาศัยแต่ละที่
หากมีเวลา ควรไปลองเดินดูของจริงด้วยครับ อย่าด่วนปักใจเชื่อระยะทางในโบรชัวร์แต่เพียงอย่างเดียว 😀
สืบเนื่องจากเศรษฐกิจไทย ในปี 2558 มีโอกาสขยายตัวประมาณ 3.0-5.0% โอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยทีเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ดีภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังล่าช้ากว่าที่คาดไว้มาก แต่ยังมีแรงหนุนที่ดี กับการลงทุนปรับตัวเข้าสู่ประชาเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของภาครัฐและภาคเอกชน ถ้ามองจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ในปี 2558 ในแง่ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา ภาพรวมโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 4.5-7 % ขึ้นอยู่กับต้นทุนที่ซี้อมา และอัตราค่าเช่าในทำเลนั้นๆ
ซึ่งทางเหล่าผู้ประกอบการหลายราย ยังคงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจอยู่ว่าทำเลรอบๆสถานีรถไฟฟ้านั้นยังร้อนแรงอยู่ ฉะนั้นในปี 2558 ช่วงเดือน 2-3 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการเปิดโครงการใหม่ โดยจะเน้นพื้นที่จุดสำคัญต่างๆในกรุงเทพฯ สำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้นำตลาดในแถบกรุงเทพฯ คือ “โครงการคอนโดมิเนียม” ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม “ระดับไฮเอนด์” โดยเฉพาะ คอนโดกลางเมือง ย่านสำคัญๆทางเศรษฐกิจที่วันนี้จะมาพูดถึงกันครับ
Q Sukhumvit
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
Q Sukhumvit by Q House ติด BTS นานา มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท !! ต้องบอกก่อนว่าที่ตั้งโครงการที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าในย่านกลางเมือง มูลค่าของดินเปล่าต้องไม่ธรรมดาแน่ แว่วๆมาว่าทาง Q House ซื้อที่แปลงนี้มาถึงตารางวาละ 1.8 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท บนเนื้อที่ดินประมาณ 3-1-68 ไร่ เป็นคอนโด High Rise 42 ชั้น 1 อาคาร 273 ยูนิต ที่จอดรถ 645 คัน คิดเป็น 236% เลยทีเดียว!! ทำเลแถวๆนี้ก็มีคอนโดต่างๆมากมายอยู่หลายเจ้าเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่จะต้องเดินเข้าไปในซอยประมาณ 300-500 เมตร
โครงการนี้ราคาเริ่มต้นประมาณ 26.3 ล้านบาทหรือประมาณ 285,869 บาทต่อตารางเมตร เป็นกลุ่ม Segment ของ Super Luxury Class สำหรับโซนนี้ผมว่าเป็น โซนยอดนิยมชาวต่างชาติ นะ เพราะแถวจะมีถนนนานาเหนือ จะเด่นเรื่องที่มีชาวต่างชาติมีอยู่อาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาวกันค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นแขกขาวนะ เพราะมีสถานฑูตปากีสถานตั้งอยู่ จากที่ผมเห็นจะมีโรงแรมและร้านอาหารต่างชาติเยอะมาก และที่สำคัญอยู่ใกล้กับอาคารออฟฟิศต่างๆ ตามริมถนนสุขุมวิทด้วย ทำให้ชาวต่างชาติบางกลุ่มสนใจที่จะลงทุนในคอนโดอยู่บ้าง
Life Asoke
Life Asoke by AP อยู่ห่างจาก MRT เพชรบุรีประมาณ 130 ม. และ ARL มักกะสัน 20 ม. ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ทำทางลงจากสถานีต้องรอดูอีกที บริษัทเอพี ได้จับมือร่วมกันกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group-MEC) องค์กรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ลงนามในสัญญาเข้าร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้าร่วมกันเป็นโครงการที่ 5 ภายใต้ชื่อโครงการ ‘LIFE อโศก’ ร่วมกันพัฒนาผ่านบริษัท เอพี (เพชรบุรี) จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัทในอัตรา AP 51% : MJRI 49% โดยที่ตัวโครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 34 ชั้น จำนวน 1,634 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้
จุดเด่นของโครงการ คอนโด Life อโศก นั้นคงไม่พ้นเรื่อง Transit ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง Air Port Link สถานีมักกะสัน(เห็นว่าจะสร้างทางลงเชื่อมของ ARL มาใกล้หน้าโครงการ) และ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรี อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัชอีกด้วยนับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คอนโดที่ได้บริเวณ Hub Transit แบบนี้ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อคอนโดฯในย่านนี้มักจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าโดยคอนโดฯ ที่จะปล่อยเช่าได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุนในบริเวณนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นตึกที่แพงที่สุดแต่ควรเป็นตึกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้สะดวก อีกอย่างเห็นคงจะเป็นเรื่องของราคา ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่แอบได้ยินมาว่าไม่แพงอย่างที่คิด ถ้าเทียบกับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวแถวนี้ ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม.(ไม่คอนเฟิร์มนะครับ)
ถ้าจากสภาพแวดล้อมปัจุจบันยังดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไร แต่ในอนาคตไม่นานนี้คงจะพลิกโฉมแอเรียแถวนี้ไปเลย ซึ่งอีกประมาณ 2-3 ปีต่อจากนี้ จะมี Community Mall + Office Mix Use ของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) โครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม “คลิ๊กที่นี่“ ซึ่งก็เป็นบริษัทในเครือของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์นั่นเอง ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณมักกะสัน 497 ไร่ นี้ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ฃว่าโปรเจ็คยักษ์ในตำนานที่เคยพับเอาไว้จะกลับมาอีกครั้ง “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ผสมโรงกับเวอร์ชั่นของ คสช. ด้วยนะครับ
Rhythm Rangnam
- ทางทีมงานได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ “Click Here“
Rhythm Rangnam by AP มูลค่าโครงการประมาณ 2,400 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโด High Rise สูงประมาณ 28 ชั้น มี 392 ยูนิต ราคาโดยเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ประมาณ 5 – 8 ล้านบาท ส่วนราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านกว่าบาท หรือประมาณ 142,000 บาท/ตร.ม.
ตัวโครงการตั้งอยู่ช่วงต้นของซอยรางน้ำฝั่งตรงข้ามกับห้าง Century อยู่ภายในถนนรางน้ำ ซึ่งตัวที่ดินของโครงการนี้จะอยู่ถัดจาก KING POWER Duty free มาเพียงไม่กี่คูหา สำหรับที่ดินจะอยู่ใกล้กับถนนพญาไท จุดเด่นของโครงการนี้บนทำเลนี้จะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีอนุสาวรีย์ เพียงประมาณ 130 ม. ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และ Airport Link จะอยู่ถัดไปเพียง 1 สถานีนั้นก็คือ Airport Link พญาไท
จุดเด่นของที่ตั้งโครงการ Rhythm รางน้ำ นี้คือเป็นโครงการในย่านชุมชนที่อยู่ใกล้ BTS นั่นเอง โดยซอยรางน้ำมีองค์ประกอบของทำเลน่าอยู่หลายจุด ทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งย่านอนุสาวรีย์ที่เต็มไปด้วยสินค้าราคาย่อมเยาว์เอาใจนักเรียนนักศึกษา และการเดินทางไปไหนมาไหนที่สะดวกสบาย มีรถตู้ไปได้หลายจุด เพราะปากซอยรางน้ำฝั่งถนนพญาไทเป็นศูนย์รวมคิวรถตู้หลายสาย สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็เยอะ รถเมล์ก็แยะ ทำให้ในซอยย่อยๆของรางน้ำมีอพาร์ทเม้นท์และโรงแรม 3 ดาว เกิดขึ้นมามากมาย และส่วนใหญ่จะเต็มไม่มีเหลือในช่วงปิดเทอมที่เด็กๆจากต่างจังหวัดมาหาที่พักเพื่อเรียนกวดวิชากัน นอกจากนี้การมีสวนสาธารณะอย่างสวนสันติภาพและคิงพาวเวอร์อยู่ในซอยก็ช่วยเสริมความน่าอยู่ให้กับซอยได้เป็นอย่างดี
รายงานการสำรวจของพลัสฯ คอนโดของย่านพญาไท-พหลโยธิน
**รายงานสำรวจราคาของพลัสฯ คอนโดในย่านพญาไท และ พหลโยธินตอนต้นครับ อันนี้เป็นของช่วงต้นปี 58
The Lofts Asoke
The Lofts Asoke จะอยู่ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ประมาณ 200 ม. ทำเลของโครงการนั้นถือว่าดีนะครับ อยู่ติดถนนอโศกแบบหน้าโครงการกว้างจริงจัง ไม่เหมือนกับ Ashton Asoke รอบๆเป็นแหล่งใกล้อาคารสำนักงานทั้งหลาย แปลงที่ดินอยู่ตรงเยื้องๆตึก Grammy อีกทั้งอยู่ใกล้กับมศว. อีกด้วย เรื่องแหล่งมอลล์ช้อปปิ้งต้องบอกว่าโครงการ The Lofts Asoke นี่ได้อานิสงค์พวกมาจากอภิมหาโปรเจ็คของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)ด้วย นั้นก็คือโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ที่โปรเจ็คกำลังก่อร่างสร้างตัวในอีกไม่ช้าแล้ว อยู่เยื้องกันนิดเดียวเอง
ตัวโครงการมีเนื้อที่ดินประมาณ 1-2-55 ไร่ เป็นอาคารสูง 30 ชั้น จำนวนยูนิตยังไม่แน่นอน 2xx ยูนิต พูดถึงเรื่องวิวโครงการนี้จะได้รับวิวพื้นที่สีเขียวสบายตาอยู่สองจุดนั่นก็คือระยะใกล้เป็นของโรงเรียนวัฒนา วิทยาลัย และระยะปานกลางจะเป็นวิวสวนมักกะสันครับ จุดเด่นอีกอย่าง คืออยู่ใกล้ MRT เพชรบุรี ที่เป็น Interchange ไป ARL ด้วยง่ายต่อการเดินทางไปสนามบินเลย รวมทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติ ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ ต้องรอดูกันอีกที่ว่าโครงการจะเปิดตัวที่ราคาต่อตารางเมตรกันเท่าไร เร็วๆนี้ครับ โดยตอนนี้ทางโครงการเค้าเปิดเว็ปไซต์ให้ register ได้แล้วนะครับที่นี่เลย : คลิ๊กที่นี่
The Monument
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
The Monument by Sansiri อยู่ห่างจาก BTS สนามเป้าประมาณ 300 ม. สำหรับโครงการนั้นเพิ่งเริ่มเปิดขายไปวันที่ 10 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท พัฒนาบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ บนถนนพหลโยธิน ประกอบด้วยอาคารสูง 24 ชั้น จำนวน 86 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 46.25 ตารางเมตร จนถึงเพนท์เฮ้าส์ขนาด 140.25 ตารางเมตร ด้วยราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาท !!
ส่วนกลางครบวงจรการใช้ชีวิตของคนเมือง อาทิเช่น ล็อบบี้ เลาจ์ ห้องโยคะ ห้องดูหนัง (Theatre Room) ห้องน้ำชา (High Tea Room) ห้องสมุด (Library) ห้องนวดส่วนตัว (Message Room) ห้องสตีม (Steam Room) โซเชียล เลานจ์ (Social Lounge) ส่วนด้านบนสุดของอาคาร บริเวณชั้น 23 และ 24 ถูกดีไซน์ขึ้นเป็นสวนแนวตั้งที่ร่มรื่น The Monument สนามเป้า นี่ถือเป็นโครงการระดับ Super Luxury Class นะครับ ถึงแม้ว่ารอบๆที่ตั้งโครงการจะอยู่ระหว่าง Community Mall “The Season” ที่กำลังก่อสร้าง และโรงพยาบาลพญาไท 2 ฝั่งตรงข้ามเป็น ททบ.5 ครับ อาจจะไม่โดดเด่นเหมือนกับใจกลางเมืองหรือโซน CBD แต่ทาง Sansiri เคลมมาว่า วัสดุที่ใช้ภายในโครงการนี่ระดับ A+ หรูหราแน่นอน
ราคาเปิดตัวแม้จะแพงอยู่มาก แต่เมื่อดูจากมูลค่าโครงการที่ 1,400 ล้านบาท กับจำนวนยูนิตที่ค่อนข้างเป็น Private ส่วนตัวมากคือมีเพียง 86 ยูนิต เฉลี่ยตกอยู่ที่ยูนิตละ 16 ล้านบาท อีกทั้งที่จอดรถมีมากถึง 102% แต่อย่างที่ทราบว่าจะซื้อคอนโดต้องดู Location เป็นองค์ประกอบสำคัญสุดถึงแม้ตัวโครงการจะสร้างให้ออกมาดูดีเริ่ดหรูขนาดไหนแต่ Location มันแพงเกินก็อาจไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเท่าไร แต่ทางแสนสิริต้องการจับกลุ่มเซกเมนต์ Luxury ที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อวัน 10 พฤษภาคม 2558 เปิด Pre-Sale วันแรก ผมได้ยินมาแว่วๆว่า ยอดขายพุ่งถึง 80% ทีเดียว และล่าสุดได้ยินมาว่า Sold Out เรียบร้อย!!
Saladaeng One
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
Saladaeng One by SC Asset สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT ลุมพินี 390 ม. สำหรับโครงการศาลาแดง วัน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองมากในตอนนี้ เพราะทาง SC Asset ประกาศกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนเลยว่าเป็นระดับ Super Luxury เป็นคอนโด High Rise 33 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น 1 อาคาร 187 ยูนิต และ Pool Villa อีก 1 อาคาร ที่จอดรถประมาณ 192 คันคิดเป็น 102% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ในอาคาร 7 ชั้น ที่ชั้น 1-4 และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น บนที่ดินประมาณ 1-3-95.5 ไร่
จุดเด่นของโครงการนี้ที่เห็นชัดก็คงจะมีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือเรื่องของวัสดุโครงการ ให้มาค่อนข้างดีพอสมควร อีกอย่างก็คงจะเป็นเรื่องของวิว ที่นี่ต้องบอกว่าวิวทิศเหนือ ที่อยู่ชั้นสูงหน่อยเป็นวิวสวนลุมพินี 160 องศา ตระการตาสุดๆ หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ วิวสวนขนาดนี้ในทำเลใจกลางเมืองสุดๆ แต่ราคาก็ไม่ธรรมดาเช่นกันนะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 13 ล้านบาท หรือประมาณ 260,000 บาท/ตร.ม. เลยทีเดียว ทำเลแหล่ง CBD อย่างถนนสาทร ถนนสีลม โรงแรม และสถานฑูตต่างๆ ถือว่าดีทีเดียว ก็ต้องมารอดูผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าระดับ luxury กัน ในวันเปิดตัว 28 พฤษภาคม นี้นะครับ
The Line
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
- ทางทีมงาน TOL ได้ทำรีวิวเจาะลึกไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
The Line by Sansiri + BTS Group ห่างจากรถไฟฟ้า BTS หมอชิตประมาณ 400 ม. และ MRT จตุจักรประมาณ 350 ม. ตัวโครงการมีที่ดิน 5 ไร่ ติดถนนพหลโยธิน มูลค่าโครงการกว่า 5 พันล้านบาท จะพัฒนาเป็นอาคารสูงประมาณกว่า 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 841 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 26 ตารางเมตร ที่จอดรถช่องจอด 50% ถ้ารวมซ้อนคันคิดเป็น 60% จุดขายสำคัญคือสามารถเห็นวิวสวนจตุจักรแบบไม่มีอะไรบดบัง ทางแสนสิริมั่นใจว่า “คอนโดฯที่ขายในย่านนี้มีไม่เยอะเท่ากับโซนสุขุมวิท เช่น Mลาดพร้าว Mจตุจักร และ The Saint เรื่องซัพพลายไม่น่าเป็นห่วง และโครงการเดอะไลน์ก็มีจุดขายที่เห็นวิวสวนจตุจักร” และที่ดินด้านหน้าที่เป็นตึกแถวประมาณ 5 คูหา จะทำเป็น Minimall พร้อมทางเชื่อม skywalk เดินมาจาก bts หมอชิตได้เลย
ซึ่งทาง skywalk และ mini mall นี้ ตามแผนจะสร้างเสร็จเปิดใช้ ก่อนหน้าที่ตัว คอนโดจะเสร็จ ต้องรออีกเป็นปีเลย ทางโครงการแค่บอกว่าจะมีนะครับ ยังไม่ได้เคลมเป็นลายลักษณ์อักษรอะไร ต้องรอดูกันอีกที เป็นปีๆ Minimall จะสูงประมาณ 23 เมตร ทางskywalk เชื่อมเข้าที่ชั้น 5 แล้ว ลูกบ้านสามารถลงลิฟท์มาชั้น 1 ออกประตูหลังของมอลล์ แล้วแตะ keycard เข้าสู่โครงการได้เลย (ไม่ต้องเดินออกมาประตูหน้าแล้วเข้าทางเข้าหลักของคอนโด) เช่นกันครับตอนไป BTS ก็ใช้ทาง mini mall นี่แหละเชื่อม่ skywalk แล้วเดินไป bts ตัดปัญหาความเปลี่ยวในช่วง นอกเวลาทำงานไปได้เยอะเลยครับ มี7-11 ด้วยนะครับ โดยจะเป็นห้องที่ชิดกับทางเข้าหลักของโครงการ
ราคาขายเคาะมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 4-20 ล้าน พื้นที่ใช้สอย 25.25-105.75 ตร.ม. เฉลี่ยประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม. แต่ฝั่งสวนที่รับวิวสวนจตุจักรยังต้องบวกราคาเพิ่มไปอีกเป็นหมื่นต่อตร.ม.นะครับ!! ราคานี้คู่แข่งที่ไม่หนีกันมากก็คงจะมี M Ladprao ซึ่งผมว่าค่อนข้างจะขายยากอยู่เหมือนกันนะสำหรับราคานี้ แต่ทางแสนสิริก็ยังยืนยัน นอนยัน ว่าราคานี้เหมาะสม ต้องรอดูความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคหลายๆกลุ่มว่ายังไง ล่าสุดวันที่ 22 พฤษภาคม หลังจากที่เปิดตัวไปไม่ถึงอาทิตย์ ข่าวแว่วเข้าหูมาว่า วิวทิศตะวันตกเห็นสวนจตุจักรเต็มตา ได้ขายไปเกือบหมดแล้วนะครับ อือหือ (O_o)..
HYDE sukhumvit 11
HYDE sukhumvit 11 ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS สถานีนานาประมาณ 550 เมตร
ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร A 39 ชั้น, B 8 ชั้น ประมาณ 478 ยูนิต พื้นที่โครงการประมาณ 2-1-58 ไร่ ราคาเริ่มต้นประมาณ 5 ล้านบาท หรือประมาณ 185,000 บาท/ตร.ม.
ทำเลโครงการนี้หลักๆก็คือนานา ซึ่งตอนต้นพูดถึงย่านนานาใน Q สุขุมวิทไปแล้ว แต่ตัวของโครงการ HYDE 11 นี่จะอยู่ในซอยนะครับ ความคึกคักก็จะลดตามลงไป ภานในซอยจะเป็นย่านโรงแรม residence ซะส่วนใหญ่เกือบทั้งซอย กลุ่มคนที่อยู่อาศัยมีชาวต่างชาติเยอะมากหลายชาติเหมือนกัน เป็นย่าน Downton ย่านนึงในใจกลางเมือง และตัวซอยก็ไม่ได้เป็นซอยตันนะครับ สามารถลัดเลาะเชื่อมไปได้ทั้งซอยสุขุมวิท 13 , 15 หรือออกถนนนานาเหนือได้เลย คนที่สนใจโครงการนี้ผมว่าถ้าลงทุนให้เช่า ไม่น่าคุ้มนะครับ เพราะว่าเรทค่าเช่าในย่านนี้จะไม่สูงเท่า โซนอโศกที่ถัดไป อีกทั้ง ชาวต่างชาติบางกลุ่มก็ยังชอบแบบ Service & Residence มากกว่าด้วย
Noble BE 33 sukhumvit
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
Noble BE 33 sukhumvit อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 700 เมตร หรือในระยะเดินประมาณ 9 นาที เอาเข้าจริงหากจะเดินก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ซึ่งตัว BTS พร้อมพงษ์เองจะอยู่ติดกับ The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อยกระดับสุขุมวิทให้เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ โรงแรม ออฟฟิศที่พักอาศัย และศูนย์ความบันเทิงต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งตอนนี้ ดิ เอ็มควอเทียร์เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้กับย่านนี้ได้มากทีเดียว หากใครยังไม่เคยไปเดินสามารถอ่านรีวิว ดิ เอ็มควอเทียร์ ของ Mr.Boom ได้ ที่นี่
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่เรารู้จักกันดีและอยู่มานานคู่ย่านพร้อมพงษ์คือ ดิ เอ็มโพเรียม ที่หลายๆคนก็คงมาเดินเล่นช็อปปิ้งกันบ้างแล้ว ในดิ เอ็มโพเรียมนี้ก็มี TCDC ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบอยู่ข้างในด้วย หากใครที่ทำงานเกี่ยวกับด้านงานออกแบบน่าจะชอบนอกจากนี้ยังมีวิลล่า มาร์เก็ต และสวนเบญจสิริ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ บริเวณพร้อมพงษ์เป็นแหล่งพักอาศัยของคนญี่ปุ่นที่มาทำงานในไทย โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 39 มีคอนโดฯขึ้นหลายโครงการ และเป็นโครงการราคาสูงยูนิตละตั้งแต่ 5-10 ล้านบาท ดังนั้น หากจะลงทุนทำธุรกิจในย่านนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ
บริเวณย่านพร้อมพงษ์นี้จะอุดมไปด้วยชาวต่างชาติมากมายเลย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่เป็นย่านของคนญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นน่ารักๆจึงมีให้เลือกหลากหลาย ใครที่ทำงานหรือพักอาศัยในย่านนี้ มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น หรือต้องติดต่อทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่นน่าจะตอบโจทย์ ในเรื่องของทำเลหากพิจารณาจากการเดินทางกว้างๆแล้ว ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกและแน่นอนว่าใกล้รถไฟฟ้า มีรถโดยสารสาธารณะบริการ และทำเลแถวนี้มีข้อดีตรงที่มีทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายเส้น ส่วนเรื่องของราคานี่ยังไม่คาดเดาได้ครับ รออีกไม่กี่วัน ทางโนเบิลก็จะเปิดขายอย่างเป็นทางการแล้วประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้..
Q Chidlom Phetchaburi
- ทางทีมงาน TOL ได้เคยทำรีวิวทำเลไปแล้วสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ “Click Here“
Q Chidlom Phetchaburi โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี และใกล้กับถนนชิดลม ซึ่งเป็นโครงการแรกของอนันดาที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตร โดยระยะอยู่ที่ประมาณ 800 เมตรจาก BTS ชิดลม และ Airport Rail Link สถานีราชปรารภ ประมาณ 900 ม. ซึ่งระยะก็ใกล้เคียงกับ BTS ชิดลม
ทำเลที่ตั้งคือตั้งอยู่ระหว่าง ตึกคอนโดแมนฮัทตัน 34 ชั้น กับตึก KPI 24 ชั้น โดย Q Chidlom Phetchaburi จะมีความสูง 38 ชั้น
ที่ด้านหลังตรงข้ามคลองกับที่ดินโครงการ ในอนาคตจะพัฒนาเป็นโครงการที่ชื่อว่า The Market ที่เน้นช้อปปิ้งแฟชั่นต่างๆ โครงการ The Market นี้อยู่ห่างจากโครงการ Q Chidlom แค่ร้อยกว่าเมตรเอง อีกทั้งในอนาคตจะยิ่งคึกคักกว่าเดิมด้วยการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านเมืองบนถนนเพชรบุรี สถานีที่ใกล้ที่สุดอยู่ใกล้กับห้างพันธุ์ทิพย์ ใกล้กับตัวโครงการ Ideo Q สยาม-ราชเทวีของอนันดาก่อนหน้านี้
สิ่งที่มีพัฒนาการขึ้นแบบจะเปลี่ยนโฉมของย่านนี้คือ สวนสาธารณะขนาดใหญ่บนถนนราชดำริ ใกล้แยกประตูน้ำ เพราะทำบนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สิน เป็นปอดแห่งใหม่กลางกรุงเทพ สวนแห่งใหม่อยู่ข้างๆ Isetan CTW ซึ่งเชื่อมต่อกันได้กับ สยาม สยามพารากอน สำหรับราคาของโครงการปัจจุบัน มีแค่ให้เปิดลงทะเบียนในเว็ป register เท่านั้น ราคานี่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการนะครับ น่าจะประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม. (แต่ยังไม่คอนเฟิร์มนะ) ต้องรอดูกันอีกที ของแบบนี้ใครชอบทำเลนี้ต้องแล้วแต่พิจารณาครับ
