มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี พหลโยธิน(PHA)…สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เป็นสถานีที่ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว อยู่ระหว่างสถานี MRT สวนจตุจักร และสถานี MRT ลาดพร้าว ใกล้กับบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นแยกที่เชื่อมถนน 3 สายหลักเข้าด้วยกันคือ ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต ครับ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ
- Central Plaza ลาดพร้าว
- Union Mall
- มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
- โรงเรียนหอวัง
- บริษัท การบินไทย จำกัด (ห่าง 1 กิโลเมตร)
- บริษัท ปตท จำกัด (ห่าง 800 เมตร)
- Tesco Lotus
- Big C Extra (ห่าง 900 เมตร)
- สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ ห่าง 1.5 กิโลเมตร)
- สวนสมเด็จย่า
เพียงแค่การกด Like ก็เป็นการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกทำเลใกล้รถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน…สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เป็นสถานีที่ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว อยู่ระหว่างสถานี MRT สวนจตุจักร และสถานี MRT ลาดพร้าว ใกล้กับบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นแยกที่เชื่อมถนน 3 สายหลักเข้าด้วยกันคือ ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต ครับ
การคมนาคม
การคมนาคมจากบริเวณ MRT พหลโยธินนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯฝั่งเหนือจุดนึงเลยก็ว่าได้ เพราะจากบริเวณนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นทางหลักต่างๆ ไม่ว่าจะออกต่างจังหวัดสายเหนือ ก็ใช้เส้นเส้นวิภาวดีรังสิตขาออกที่มุ่งหน้าไปดอนเมือง-รังสิต หรือจะเข้าเมืองก็สะดวก โดยใช้เส้นพหลโยธินขาเข้า ไปทางอารีย์ มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือจะหลบรถติดเส้นสะพานควาย อารีย์ มาวิ่งวิภาวดี มุ่งหน้าแยกดินแดงเพื่อขึ้นทางด่วนดินแดงก็ได้เช่นกัน อีกทั้ง5แยกนี้ก็ยังสามารถต่อไปยังเส้นลาดพร้าวได้อีกทางด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณ 5 แยกลาดพร้าวนี้นับเป็นแยกนึงที่เรื่องชื่อมากเรื่อง การจราจรติดขัด ทั้งขาเข้าและขาออก โดยเฉพาะช่วงต้นลาดพร้าว และบริเวณเส้นขาออกพหลโยธิน ตั้งแต่หน้าห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังเลิกงานหรือในช่วงเวลาเร่งด่วน ในหลายๆครั้งติดยาวไปจนถึงเมเจอร์ รัชโยธินเลยทีเดียว
การเดินทางในเส้นลาดพร้าวตอนต้นนั้น ถึงการจราจรจะค่อนข้างติดขัด แต่ก็มีซอยเล็กๆ เพื่อที่จะไปออกเส้นอื่นๆ เช่นไปออกรัชดา หรือออกวิภาวดีได้ ซึ่งก็น่าจะพอเป็นอีกทางเลือกในการเลี่ยงรถติดบนถนนสายหลักได้ แต่ถ้าช่วงเวลาปกติที่รถไม่ได้ติดมาก วิ่งเส้นหลักจะดีกว่านะครับ เพราะซอยพวกนี้จะค่อนข้างแคบและอ้อมพอสมควร
แต่ก่อนที่จะไปดูรอบๆสถานี ผมขอโชว์แผนที่เส้นลาดพร้าวให้ดูก่อนว่าผมจะเดินสำรวจไปทางไหนบ้าง เส้นสีแดงคือฝั่งซอยลาดพร้าวเลขคี่นะครับ ส่วนเส้นสีเขียวก็จะเป็นฝั่งเลขคู่ครับ และตัวเลข1-10ก็คือเลขซอยนะครับ
เจาะลึกรอบสถานี
หากพูดถึง MRT พหลโยธิน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คนนึกถึงคงหนีไม่พ้น ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ห้างสรรพสินค้าที่เปิดเป็นห้างแรกของย่านนี้และมีผู้คนมาใช้เป็นที่พบปะกันอย่างหนาแน่นในทุกวันมากว่า 20 ปี!! อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่มาคู่กันคือโรงแรมเซ็นทาร่า นั่นเอง ส่วนคนที่เดินทางมาจาก MRT ถ้าจะมาที่นี่ก็ออกประตู 3 และก็อย่าเผลอเข้าใจผิดว่าห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว จะต้องไปลงสถานีลาดพร้าวล่ะ สมัยก่อนผมเคยชินกับคำว่าลาดพร้าวจนไปลงผิดประจำ – -”
ที่นี่ผมจะพาไปสำรวจดูทำเลรอบๆของสถานีพหลโยธินกันไปทีละประตูทางออกนะครับ รวมถึงซอยเล็กๆแต่ละซอยที่สามารถใช้เป็นซอยลัดได้
สถานีพหลโยธิน มีประตูทางออกอยู่ทั้งหมด 5 ประตู
ประตู 1 ซอยลาดพร้าวซอย4
ประตู 2 มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
ประตู 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โรงเรียนหอวัง
ประตู 4 ห้าแยกลาดพร้าว
ประตู 5 ยูเนี่ยนมอลล์ ซอยลาดพร้าวซอย1
ประตูทางออก 5
ขออนุญาตเริ่มที่ประตูทางออก5นะครับ เพราะถ้าคนที่พักอาศัยอยู่แถวนี้ น่าจะใช้ประตูนี้กันมากที่สุด เนื่องจากทางออกนี้จะออกมาที่บริเวณปากซอยลาดพร้าวซอย1พอดี ซึ่งพอเราขึ้นมาจากทางออกจะเป็นบริเวณตลาดหน้าข้างห้างหน้ายูเนี่ยนมอลล์พอดีครับ
ผมถ่ายตอนประมาณ 4โมงเย็น ร้านก็กำลังตั้งๆกันอยู่ ประมาณ 5โมงก็เต็มหมดแล้วครับ
เดินผ่านตลาดมาแค่นิดเดียว ก็จะเป็นปากซอยลาดพร้าวซอย1 ซอยนี้จะมีรถเข้าออกตลอดเวลาเพราะสามารถทะลุไปได้หลายที่และยังมีบ้านคนอาศัยอยู่ข้างในซอยเป็นจำนวนมากครับ
บริเวณปากซอยก็มีพี่วินดูแลตลอดเวลา ซอยนี้มาดึกๆพี่วินก็ยังอยู่รอครับ
บรรยากาศภายในซอย1ตอนต้นนี่จะคึกคักมาก เรียกได้ว่าอยู่ได้ไม่มีอดเพราะของกิน ร้านค้า โชห่วย มินิมาร์ท ร้านตัดผม ร้านเช่าหนัง มีให้เห็นตลอดทางครับ
เดินเข้าซอย1มาได้ประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอตลาดตรงนี้ครับ มีชื่อว่า “สวนไผ่”
ข้างในจะมีร้านอาหารหลายร้านเลย เรียกว่าเป็น Food Court ได้เหมือนกันนะครับ แต่จะเปิดช่วงเย็นๆนะ สัก 5 โมงครึ่งร้านถึงจะเริ่มเปิดครบครับ
ด้านหลังตรงที่ขายอาหารก็จะมีตลาดสดเล็กๆอยู่ สอบถามแม่ค้าได้ความว่าเปิดขายตั้งแต่ประมาณตี5 ถึงสายๆครับ
อพาร์ทเม้นในซอยมีให้เห็นตลอดทาง แต่ส่วนมากจะเป็นตึกเก่าๆ บางห้องก็ไม่มีแอร์ต้องติดเอง ค่าเช่าเริ่มที่ประมาณ 3,000 บาท(สำหรับห้องไม่มีแอร์)
ให้ดูชัดๆว่าคนอยู่เต็มตลอดครับ และขนาดห้องเล็กมาก แบบเข้าไปนอนเลย ห้องน้ำยืนอาบคนเดียว…
มาเดินในซอย 1 กันต่อจะเห็นว่าซอยนี้ป้ายบอกทะลุไปออก พหลโยธิน 24 ได้ด้วย
พอเข้าซอย 1 มาได้สักประมาณ 400 เมตร ก็จะเริ่มเป็นโซนบ้านเดียวละครับ ความคึกคักก็จะน้อยลง อ่อ..แล้วในซอยนี้ไม่มีทางเท้านะครับ เป็นถนน2เลนส์ เวลาเดินต้องระวังๆรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่สะพายกระเป๋า ไม่ควรเดินคนเดียวตอนดึกๆนะครับ
พอเข้ามาในซอยลึกหน่อย อพาร์ทเม้นก็จะเริ่มดูดีขึ้น ใหม่ขึ้น (เพราะสร้างทีหลัง) และแน่นอนค่าเช่าแพงกว่าอพาร์ทเม้นเก่าที่ใกล้ๆปากซอยแน่นอนครับ
นอกจากอพาร์ทเม้นทั่วไปแล้ว ในซอยยังมีเซอวิส อพาร์ทเม้นด้วย ถือว่าเจริญไม่ใช่น้อยเลย
เข้าซอย1 มาได้ราวๆ 900 เมตรจะเจอทางแยกนี้ครับ ถ้าเลี้ยวขวาสามาถไปทะลุออกรัชดาได้ตรงบริเวณหลังศาล ถ้าไปทางซ้ายก็ไปทะลุเข้าโลตัสครับ หรือถ้าตรงไปก็จะไปออกซอยพหลโยธิน 24 ได้อีกด้วย
ตรงนี้สามารถทะลุห้างโลตัสไปออกถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนหอวังได้นะครับ ห้างโลตัสนี้ไม่มีแลกบัตร จึงมีรถมาใช้เส้นทางนี้ลัดกันบ่อยๆ เพราะถ้ามาจากเส้นพหลโยธินแล้วจะมาลาดพร้าวซอย1 ก็จะสามารถเลี่ยงรถติดตรงบริเวณฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าวได้เยอะเลยครับ
ให้ดูเพิ่มเติมจาก Google Map ครับ ซึ่งใน Google Map นั้นเป็นทางตัน แต่จริงๆคือจุดทะลุได้ตามลูกศรแดงหลังห้างโลตัสนะครับ
ถ้าเลี้ยวขวาแยกเมื่อกี้นี้ ก็จะเป็นเส้นทางที่ตรงไปออกรัชดาได้ครับ มีป้ายรัชดาคอยบอกตลอดทาง แต่จริงๆผมไม่ค่อยแนะนำให้ออกรัชดาจากเส้นนี้เท่าไรนะครับ เพราะซอยทางออกแคบมากๆๆๆๆๆๆๆ นอกจากว่าคุณจะขี่มอเตอร์ไซด์หรือขับรถยนต์ไซส์เล็ก
ระยะทางไม่ไกลมากเท่าไร ถนนในซอยเป็น2เลนส์ปกติตลอดทาง ยกเว้นแค่ตรงทางออกที่เป็นลูกศรแดงด้านขวาซึ่งตรงนั้นจะเล็กมากๆ
นี่ครับทางออกรัชดาข้างหลังศาลซึ่งแคบมากๆ ขนาดผมลองขับVIOS ออกยังต้องพับกระจกข้างเลยครับ และมอเตอร์ไซด์จะสวนก็ยังสวนไม่ได้เลย – -;
ถ้ารถไม่ติดจริงก็วิ่งถนนใหญ่เถอะครับ
เราย้อนกลับออกมาปากซอย1 แล้วไปเดินสำรวจกันต่อ
บริเวณริมถนนลาดพร้าวช่วงต้นนั้นค่อนข้างจะคึกคักตลอดเวลา มีร้านค้าแผงลอยเพียบ เรียกได้ว่าไม่มีอดแน่นอน
มีร้านอาหารรถเข็น ตั้งโต๊ะ บนทางเท้าหลายร้านเลย พอตกเย็นก็จะเริ่มตั้งกันแล้ว จะมองว่าดีก็ดีในแง่มีของกินเยอะและอร่อยด้วยสิ แต่อีกแง่ก็จะมีปัญหาเรื่องความสะอาดบนทางเท้าตามมาด้วย อันนี้คงเป็นปัญหาของผู้สมัครผู้ว่าฯ ต่อไป เพราะปัญหาแผงลอยมีกันมาหลายปีและแก้ไม่เคยได้ครับ
เดินมาถึงลาดพร้าว1/1 ก็ยังคงมีร้านรถเข็นที่ตั้งโต๊ะบนทางเท้าครับ มีหลายร้านมาก
เลยซอย 1/1 มาก็จะมาเป็นซอย 3 ครับ จะมีอาคารพร้อมพันธ์อยู่หน้าปากซอย ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานและอพาร์ทเม้นครับ
บริเวณทางเดินในซอย 3 จะเป็นซอยเงียบๆซึ่งไม่ควรออกมาเดินดึกๆคนเดียวเป็นอย่างยิ่ง อย่างตอนผมเดินถ่ายรูป รปภ ตึกยังเดินมาเตือนให้ระวังกล้องเลยครับ
ซอยนี้มีทางเท้าฝั่งเดียว แต่แค่ช่วงต้นๆนะครับ เข้าไปหน่อยก็จะเป็นถนน2เลนส์ไม่มีทางเท้าเหมือนซอยอื่นๆละครับ
อาคารพร้อมพันธ์ครับ ดูดีเหมือนกันนะ ถ้าในส่วนของอพาร์ทเม้นค่าเช่าอยู่ดี 8,000++ นะครับ
กลับออกมาเส้นลาดพร้าว เดินต่อมาก็จะเจอคอนโด High rise อย่าง Ideo ลาดพร้าว 5 ครับ ซึ่งตั้งอยู่หน้าปากซอย 5 พอดี
Ideo Ladprao5
ถัดมาจาก Ideo ก็มีคอนโดHigh rise อีก1ตึกก็คือ The Zest ครับอยู่บริเวณปากซอย 7 ครับ
เดินเลยซอย7 มาก็จะเจอ Big C และ Home Pro ครับ สาขานี้เปิดถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้แต่เดิมเป็น Carrefour เก่าครับ
ถ้าเลย Big C ไปผมขอยกไปเป็นบริเวณของสถานีลาดพร้าวนะครับ งั้นผมขอข้ามสะพานลอยเดินย้อนกลับไปลาดพร้าวฝั่งเลขคู่มั่งครับ
ลงสะพานลอยมองขึ้นฟ้า เห็นตึก Issara เด่นเป็นสง่า
ข้ามสะพานลอยมาก็จะเป็นซอยลาดพร้าว12 ครับ อพาร์ทเม้นแถวนี้ก็จะคล้ายๆกันคือเป็น อพาร์ทเม้นเก่าๆหน่อย ที่ค่าเช่าไม่ได้สูงมาก
ต่อมาเป็นซอย 10 ครับ ซอยนี้ทะลุไปตลาดลุงเพิ่มได้ด้วยนะครับ
ในแผนที่จะโชว์ให็เห็นว่าซอยเลขคู่ ตั้งแต่ซอย 4, 6, 8, 10 แถม 12 ด้วย สามารถใช้ทะลุมายังตลาดลุงเพิ่ม หรือจะใช้ทะลุไปออกเส้นวิภาวดีก็ยังได้
สภาพในซอยจะเป็นซอยสงบๆมีแต่บ้านคน และจะไม่มีทางเท้าครับ (เหมือนทุกๆซอยในบริเวณนี้) แต่ซอยนี้ชาวบ้านไม่ค่อยจอดรถหน้าบ้านกันเท่าไรนะ ถือว่าเยี่ยมเลย 🙂
The Unique 10 ครับ ที่ Mr.Oe ได้ทำรีวิวไปแล้ว
กลับมาปากซอยจะมีที่ทำการไปรษณีย์อยู่หน้าปากซอยเลย แต่วันที่ถ่ายนี้เป็นวันอาทิตย์ครับเลยปิด
มีธนาคารกสิกรด้วย จริงๆแถวนี้มีครบเกือบทุกธนาคารครับ หรือถ้าเสาร์ อาทิตย์ธนาคารที่ตั้งริมถนนปิด ก็เดินไปเซ็นทรัลหรือยูเนียน มอลล์ ก็มีครบทุกธนาคารแน่นอน
มีปั๊มน้ำมัน Esso ที่ติดกันคือ คอนโด The Light ครับ
ปากซอย 6 ครับ ที่เห็นควันเยอะๆอย่างงี้ก็แน่นอน ร้านแผงลอยอีกแล้วครับ พอเริ่มเข้าใกล้สถานี ร้านอาหารรถเข็น แผงลอยก็มาล่ะครับ
ฝั่งซอยเลขคู่จะไม่ค่อยคึกคักเท่าฝั่งเลขคี่เท่าไรครับ แต่ก็พอจะมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่บ้าง
มาถึงปากซอย 4 ก็จะมีร้านอาหารเหนือ “เจียงฮาย” อยู่ ร้านนี้แนะนำก๋วยเตี๋ยวยำอร่อยครับ (^o^)
ปากซอย4 ก็มีพี่วินสแตนบายครับ เพราะซอยนี้ไปทะลุเซนต์จอห์น และตลาดลุงเพิ่มได้
ประตูทางออก1
ตรงกับปากซอย 4 ก็จะใกล้ๆกับประตูทางออกที่ 1 ครับ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอย 2 กับ ซอย 4
ลาดพร้าวซอย 2 ก็สามารถใช้ทะลุไปออกวิภาวดีได้ด้วยนะครับ แต่เป็นทางทะลุสั้นๆ
ทะลุออกมาก็จะเป็นซอยวิภาวดี 26 ครับ ซึ่งจริงๆนั้นก็คือซอยเดียวกัน อยู่ที่ว่าเรียกจากฝั่งไหนก็เป็นตามชื่อถนนฝั่งนั้น
จากภาพในแผนที่จะเห็นได้ว่าเป็นซอยลาดพร้าว2 และซอยวิภาวดี26 เป็นซอยเดียวกัน เป็นซอยสั้นๆแค่ประมาณ200เมตรครับ
ถ้ามาวันอาทิตย์ช่วงเย็นๆในซอยนี้จะรถเยอะและจอดเต็มตลอด2ฝั่งครับ และร้านอาหารที่เป็นตึกแถวตรงซ้ายมือนี้ก็จะคนเยอะตลอดด้วยเช่นกัน เพราะคนจะมาโบสถ์เซนจอห์นกันเยอะนั่นเอง
ใครเป็นคริสต์ แล้วไม่สะดวกตื่นเช้าไปโบสเช้าวันอาทิตย์ ก็มาที่นี่ได้ครับ ที่นี่เค้าจะเริ่มกันตอนประมาณ 6 โมงเย็นของทุกวันอาทิตย์นะครับ
ประตูทางออก2
ผมเดินย้อนกลับมาลาดพร้าวซอย 2 ครับแล้วเลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอประตูทางออก 2 ครับ บริเวณทางออกก็จะมีร้านข้าว ร้านนั่งชิว พอเริ่มมืดหน่อยก็จะเริ่มได้ยินเสียงดนตรีจากแถวนี้กันละ
เดินเลยทางออก2มาก็จะพบเจอกับ 5 แยกลาดพร้าวครับ
มีร้านนั่งชิว อารมณ์แบบริมทะเลประมาณนี้ แต่อันนี้เป็นริมถนนนะครับ พอดึกๆร้านนี้คนเยอะตลอดเลย
เดินเลยร้านนั่งชิวเมื่อสักครู่มาหน่อยก็จะเจอมหาวิทยาลัยเซนจอห์นครับ เป็นสถาบันที่เรียนได้ตั้งแต่อนุบาล ไปยันปริญญาเอกเลย เรียกได้ว่ามีครบทุกระดับชั้น แต่ด้านหน้านี้เป็นส่วนของมหาวิทยาลัยนะครับ
ประตูทางออก4
ย้อนกลับมาที่สถานี MRT ครับ ตรงนี้เป็นทางออก 4 ครับ ออกมาก็ใกล้ๆ กับร้านอัดรูป และแยกลาดพร้าวครับ
ถ้าออกทางออก4 มาเดินย้อนกลับมาทางลาดพร้าวก็จะเจอร้านอาหารตรงนี้ 3 ร้านครับ เดินเลยไปหน่อยก็หน้ายูเนี่ยนมอลล์ครับ
หน้าประตูทางออก4 ก็จะเป็นลานโล่งๆแบบนี้ครับ เลี้ยวซ้ายไปก็แยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาก็จะเป็นร้านอัดรูป ร้านกล้องที่มีเยอะมากๆในแถวนี้
เดินเลยมาขึ้นสะพานลอยก็จะเป็นทางเข้าห้องยูเนี่ยนมอลล์ อีกทางหนึ่งครับ ซึ่งทางเชื่อมกับสะพานลอยที่ไปเซ็นทรัลลาดพร้าวได้
ถนนพหลโยธินตรงหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ รถโล่งอย่างเหลือเชื่อครับ สำหรับวันอาทิตย์ที่ผมไปถ่าย ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน จะไม่ใช่ภาพนี้แน่นอนครับ
ประตูทางออก3
ทางออก3 เป็นทางออกที่มีคนใช้บริการมากครับที่สุดเพราะเป็นทางออกที่ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าวมากที่สุด แต่จากทางออกก็ต้องเดินข้ามสะพานลอยไปหน่อยนึงนะครับ ไม่ได้ติดหน้าห้างแบบถึงเลย
ประตูทางออก3นั้นโผล่ขึ้นมาตรงสวนสมเด็จย่าพอดีครับ เป็นจุดแยกขึ้นสะพานวนไปเส้นลาดพร้าวครับ
บริเวณสวนสมเด็จย่าครับ เป็นสวนเล็กๆ ส่วนมากผู้คนจะไว้ใช้เดินผ่านเพื่อข้ามไปถนนวิภาวดีมากกว่า และก็จะมีคนพเนจรมาแอบนอนอยู่หลายคนเหมือนกัน เพราะสวนนี้ไม่มีรั้ว ไม่มี รปภ เลยอาจไม่ค่อยปลอดภัย ไม่เหมาะสำหรับมานั่งเล่นเท่าไร ถ้าอยากไปสวนสาธารณะ แนะนำข้ามไปสวนจตุจักรหรือสวนรถไฟจะสบายอารมณ์กว่านี้
ก่อนพาไปเซ็นทรัล ขอพามาชมสวนรถไฟก่อน หลังจากทะลุสวนสมเด็จย่าเมื่อสักครู่มา ก็ข้ามสะพานลอยมาฝั่งริมสวนจตจุักรตรงถนนวิภาวดีครับ จากนั้นก็เรียกพี่วินหรือTaxi เข้าทางนี้ได้เลย (พอดีผมขับรถถ่ายรูปอาจมืดๆเบลอๆหน่อยนะครับ ขออภัยครับ)
ถ้ามาสวนรถไฟแล้วอยู่เลนส์อย่างผมนี่จริงๆเลี้ยวเข้าไม่ได้นะครับ ต้องเข้าตั้งแต่อันก่อนหน้านี้ พอดีผมถือมือถือถ่ายเมื่อกี้เลยเลี้ยวไม่ทัน >.<” เลยต้องมาแอบลักไก่เลี้ยวตรงนี้ครับ แต่จริงๆทำไม่ได้นะครับ
ตรงเข้ามาหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า สวนรถไฟ เพราะอดีตเป็นสนามกอล์ฟ ของการทางรถไฟฯ ครับ สวนนี้มีขนาดใหญ่มากๆๆ เพราะมันคือสนามกอล์ฟ 18 หลุมเก่านั่นเอง ด้วยความที่เป็นสวนใหญ่มาก จึงมีผู้มาใช้บริการเยอะ แต่ก็ไม่ได้หนาแน่นเกินไปแน่นอนเพราะสวนใหญ่มากๆใครอยากมาขี่จักรยาน พายเรือ วิ่ง ว่ายน้ำ จีบสาว เตะบอล ตีเทนนิส ดูผีเสื้อ ฯลฯ เยอะไปหมด มาได้ที่นี่ครับ มีครบแน่นอน เรียกว่าเป็นปอดขนาดใหญ่มากของย่านนี้เลย
พายเรือเค้าก็มีนะครับ ธรรมดาที่ไหน พายไปมองวิวสวนก็ได้ วิวเมืองก็ได้ เห็นตึก ปตท ด้วย ใครไม่เคยมาแนะนำว่าต้องมาครับ
เรากลับมาที่MRT ทางออก3ดีกว่า ที่นี่เราจะไปเซ็นทรัลกัน จากทางออก3 ถ้าเราจะไปเซ็นทรัล ลาดพร้าว ก็จะต้องมาข้ามสะพานลอยตรงนี้ครับ
แต่ถ้าใครจะต่อไปเส้นลาดพร้าวโดยรถเมล์ ก็เดินเลยสะพานลอยไปหน่อย ก็จะเป็นป้ายรถเมล์ครับ มีสายขาโหดอย่างสาย 8 ประจำการจอดแช่แถวนี้ประจำ
สะพานลอยข้ามไปเซ็นทรัลครับ สะพานลอยนี้เชื่อมไปได้ทั้งเซ็นทรัล และยูเนี่ยนมอลล์ครับ
ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ก็จะเต็มไปด้วยร้านอัดรูปครับ ราคาถูกด้วย ใบไม่ถึง 3 บาทแล้วคุณภาพก็ดีทีเดียวครับ
ลงบันไดเลื่อนมาหน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวก็จะเป็นป้ายรถเมล์ครับ นอกจากป้ายรถเมล์แล้วตรงนี้ก็ยังมีคิวรถตู้อยู่ด้วย ไปได้หลายที่เลยครับ ทั้งสะพานใหม่ มีนบุรี บางใหญ่ งามวงวานศ์ ลองถามๆจากพี่ๆวินรถตู้ได้เลยครับ
หน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ คนเยอะตลอดเวลาจริงๆ
เลยเซ็นทรัลมาก็จะเป็นถนนหอวัง และโรงเรียนหอวังครับตรงนี้มีพี่วิน และที่จอดรถTaxi รออยู่ด้วย ส่วนถ้าใครจะไปโรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลลาดพร้าวก็เดินเลยไปหลังห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวจากถนนหอวังนี้นะครับ
โรงเรียนหอวังครับ ผมถ่ายตอนเกือบทุ่มแล้วเลยโดนร้านค้ามาตั้งแผงลอยบังป้ายโรงเรียนซะงั้น (- -“)
ข้ามสะพานลอยหน้าโรงเรียนหอวังมาก็จะเป็นห้างโลตัสครับ ซึ่งโลตัสนี้แหละที่ไปทะลุ ซอยลาดพร้าว 1 ได้
ตรงที่รถเลี้ยวออกนั้นแหละครับ คือทางเข้าห้างโลตัส ยังไงถ้าใครจะใช้เป็นทางทะลุออกลาดพร้าว 1 ก็แวะซื้อของเค้าหน่อยก็ได้นะครับ เค้าอุตส่าห์ยอมเปิดทางให้ทะลุเนอะ
เดินย้อนกลับฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ก็จะมีโครงการที่กำลังก่อสร้าง และ thinkofliving ก็ได้เคยรีวิวไปนานแล้ว นั่นคือ M ลาดพร้าวนั่นเอง
กลับมาปิดท้ายให้ชมบรรยากาศหน้าเซ็นทรัลอีกรอบตอนประมาณสองทุ่ม พอเริ่มดึกรถเริ่มเยอะแล้วครับ 🙂
เจาะลึกรวบยอด
การคมนาคม การเดินทางต่างๆค่อนข้างสะดวกมากสามารถเชื่อมไปไหนต่อไหนได้หลายที่ ไม่ว่าจะออกต่างจังหวัดไปสายเหนือก็ใช้เส้นวิภาวดีรังสิต หรือพหลโยธินได้ อีกทั้งเข้าเมืองก็สะดวกไม่ว่าจะวิ่งพหลโยธินขาเข้าไปตามแนวรถไฟฟ้า BTS หรือไปขึ้นทางด่วนที่ดินแดงจากวิภาวดีก็ได้ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมไปเส้นลาดพร้าว ทะลุต่อออกรัชดาได้อีกด้วย แต่ก็อย่างที่กล่าวไปแต่แรกว่าแยกลาดพร้าวเป็นแยกนึงที่การจราจรหนาแน่นมาก แต่ต้องยอมรับตั้งแต่มีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกก็ช่วยทำให้แยกนี้ลดปริมาณรถติดลงไปได้เยอะพอสมควร และอีกอย่างแถวนี้ซอยที่ใช้เป็นทางลัดมีเยอะก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยหลบรถติดในช่วงเวลาที่รถหนาแน่นได้พอสมควร จึงเรียกได้ว่าย่านนี้ค่อนข้างสะดวกทั้งผู้ใช้รถยนต์ ส่วนผู้ใช้รถไฟฟ้าแน่นอนสะดวกมากเพราะมีทางออกถึง 5 ประตูทางออกเลย ถ้าอยู่ลาดพร้าวซอย1, 2, 4 นี่มีสถานีอยู่หน้าปากซอยบ้านเลยทีเดียว
สภาพแวดล้อมและชุมชน รอบๆสถานีเรียกได้ว่ามี”ครบ”ไม่ว่าจะห้างดังอย่าง เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่เดินได้ทุก lifestyle คนหรู ไม่หรู คนติดดิน เด็กนักเรียน เดินได้หมด หรือถ้าชอบช้อปปิ้ง อยากได้เสื้อผ้าวัยรุ่นที่ไม่ใช่แบรนเนม ก็ไปเดิน ยูเนี่ยนมอลล์ ได้ หรือเลยไปอีกหน่อยก็ยังมีตลาดลุงเพิ่ม(ตลาดหลังการบินไทย) ไว้เป็นอีก1ตัวเลือกด้วย นอกจากแหล่งช้อปปิ่งแล้วก็ยังมี Supermarket ทั้ง Lotus ทางฝั่งพหลโยธิน และ Big C ทางฝั่งลาดพร้าว
นอกจากห้างสรรพสินค้า บริเวณนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่(มากๆ)อยู่อีก 2 ที่คือสวนวชิรเบญจทัศ(สวนรถไฟ) และสวนจตุจักร ที่สามารถไปเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจได้ รับรองว่าใครไม่เคยไปติดใจแน่นอน
นอกจากนั้นไปอีกบริเวณ MRT พหลโยธินนั้นก็ยังใกล้สถานศึกษา ทั้งโรงเรียนหอวัง โรงเรียนเซนจอห์น มหาวิทยาลัยเซนจอห์น และก็ยังใกล้ที่ทำงานใหญ่ๆทั้ง ปตท. และการบินไทยอีกด้วย ใครมีบุตรหลานเรียนแถวนี้ หรือยิ่งถ้าคุณผู้ปกครองทำงาน การบินไทย หรือ ปตท. ก็ยิ่งสะดวกเลยแหละครับ
ส่วนจุดที่เป็นจุดพักอาศัยจริงๆในบริเวณ MRT พหลโยธินนี่ ส่วนมากก็จะไปอยู่ที่บริเวณลาดพร้าวต้นๆมากกว่าทั้งฝั่งเลขคู่และฝั่งเลขคี่ซึ่งแถวนั้นก็ครึกครื้นตลอดเวลา ของกินมีเพี๊ยบ แต่ทางฝั่งเลขคู่อาจจะสงบกว่าหน่อยเพราะจะมีพวกแผงลอยน้อยกว่า แต่แถวนี้เวลาดึกๆเข้าซอยก็ต้องคอยระวังนิดนึงครับ เพราะคนอาศัยอยู่เยอะ แล้วยังเป็นซอยทะลุด้วย มอเตอร์ไซด์ขี่มาข้างหลังก็ต้องระวังๆกันด้วยครับ แถวนี้มีการฉกชิ่ง วิ่งราวบ่อยเหมือนกัน(แต่จริงๆทุกที่ก็ต้องระวังหมด)
การพัฒนาในอนาคต ถ้าเรามองตั้งแต่อดีตมาต้องบอกว่าย่านนี้ไม่เคยหยุดพัฒนาเลย จากที่ตรงนี้สมัยก่อนคนกรุงเทพฯมองว่าตรงนี้เป็นย่านที่เรียกว่านอกเมืองและรถก็สุดแสนจะติดกับแยกลาดพร้าว ต่อมาได้มีรถไฟฟ้า MRT มาผ่าน มีการปรับปรุงสะพานข้ามแยกลาดพร้าวเพื่อรถปริมาณรถติดไปได้มากทำให้ย่านนี้เป็นอีกย่านที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้ามองต่อในอนาคตก็จะมี BTS สายสีเขียวมาผ่านหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวทางเส้นพหลโยธินอีก ซึ่งตรงนี้ก็จะนับเป็นอีก 1 interchange เลย ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ก็มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ส่วนมากที่สร้างใหม่ตอนนี้ก็จะเป็นคอนโด Low rise ในซอยเสียส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะเช่าอยู่ก็มีอพาร์ทเม้นให้เลือกอยู่เยอะเลยทั้งเก่าทั้งใหม่ และราคาก็ไม่ได้แพงแบบอยุ่ในเมืองอย่างสุขุมวิท สีลมด้วย
สรุป สถานี MRT พหลโยธินนั้นน่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการอาศัยอยู่ในย่านที่มีหลายๆอย่างครบอยุ่แล้วในตัว ทั้งห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ที่อุปโภค บริโภค สวนสาธารณะ และเป็นทำเลที่ราคาจับต้องได้ จะใช้รถก็ได้ ใช้รถไฟฟ้าก็สะดวกมาก แต่อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่อยากอยุ่ย่านหรูๆ ไฮโซเยอะๆเพราะแถวนี้ก็ยังคงเป็นบ้านตึกแถวแบบเดิมๆอยู่
*อ่านสักนิด* ในการเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็แปลก เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลครับ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกครับ
สุดท้ายนี้ รบกวนขอให้เพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยกัน Comment แบ่งปัน เพิ่มเติมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอร่อย ทางลัดเล็กๆน้อยๆ หรือสภาพแวดล้อมทั้งดีและไม่ดี ให้กับผู้อ่านที่กำลังหาบ้านโซนMRTพหลโยธินด้วยนะครับ