สวัสดีครับ.. ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นถึงข่าวเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ทั้งแนวราบและคอนโดในอำเภอศรีราชากันเยอะมากๆ!! ซึ่งทีมงาน ThinkOfLiving ก็ได้มีโอกาสไปเก็บข้อมูลทำรีวิวมาแล้วหลายๆโครงการ อาทิเช่น เซน ซิตี้ คอนโด, The Zea คอนโดมิเนียม, 123 Residence Sriracha และ Nusa Sriracha เป็นต้น
โครงการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นที่ Developer เจ้าเล็กและใหญ่ได้เข้ามาลงทุน เพราะเห็นถึงความน่าสนใจในศักยภาพทำเลของศรีราชา ในวันนี้.. ตัวผมเลยได้ลงสำรวจพื้นที่ของศรีราชาว่าทำไม ถึงเป็นทำเลที่น่าอยู่? ทำไมถึงมีโครงการเกิดใหม่มากมายเต็มไปหมด? และเพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงชอบมาอยู่ในย่านนี้กัน? มาติดตามไปพร้อมกันเลยครับ 😀
- Mr.Oe ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงศรีราชาสู่การเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ของประเทศไทยไว้แล้ว “คลิ๊กที่นี่“
อำเภอศรีราชา ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย พื้นที่ส่วนใหญ่มีภูเขาล้อมรอบและเป็นที่ลาดเนิน ที่ว่าการอำเภอศรีราชาตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ตำบลศรีราชา ห่างจากตัวจังหวัดชลบุรี 24 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานคร 105 กิโลเมตร พื้นที่ในการปกครองของอำเภอมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองชลบุรีและอำเภอบ้านบึง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอหนองใหญ่ และอำเภอปลวกแดง (จังหวัดระยอง)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบางละมุง
- ทิศตะวันตก จรดอ่าวไทยและเขตอำเภอเกาะสีชัง
อำเภอศรีราชาแบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ ออกเป็น 8 ตำบล ดังนี้
- ศรีราชา (Si Racha)
- หนองขาม (Nong Kham)
- สุรศักดิ์ (Surasak)
- เขาคันทรง (Khao Khansong)
- ทุ่งสุขลา (Thung Sukhla)
- บางพระ (Bang Phra)
- บึง (Bueng)
- บ่อวิน (Bo Win)
การมาทำโรงเลื่อยไม้ที่ศรีราชาของ “เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี“ (อ่านประวัติของท่าน คลิ๊กที่นี่ ) ทำให้เกิดชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งต่อมาเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี จึงได้กราบทูลต่อกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (สมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลปราจีน) ขอให้ย้ายที่ทำการอำเภอจากเดิมที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางพระมาอยู่ที่ศรีราชา และได้เปลี่ยนชื่ออำเภอบางพระ เป็นอำเภอศรีราชา ตั้งแต่ พ.ศ.2460 เป็นต้นมา (ในรูปประกอบอันนี้คือเกาะลอย ศรีราชา สมัยประมาณ 40 กว่าปีก่อน ที่เห็นเป็นทางรถไฟนะครับ เอาไว้ขนไม้จากในป่า เพราะสมัยก่อนทำไม้กันนะครับ แถวนั้น บางทีมีเรือสำเภาด้วย)
ศรีราชาแต่เดิมหลังจากพ้นยุคของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีมาแล้ว ผมได้มีโอกาสสอบถามผู้ใหญ่หลายๆท่านในพื้นที่ได้ความว่า เป็นเมืองที่มีชาวจีนล่องเรือสำเภาขนาดใหญ่เข้ามาค้าขายและอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นว่าเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ทะเลและภูเขา เหมาะแก่การอยู่อาศัยและประกอบอาชีพได้ ทำให้ปัจจุบันมีชาวเชื้อสายจีนอยู่ทั่วไปในเมืองเต็มไปหมด มีบันทึกของชาวเรือในอดีตกล่าวว่า เกาะสีชังเป็นจุดที่เรือสำเภาจีนมักใช้จอดพักเรือก่อนเดินทางเข้าสู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา หรือก่อนเดินทางออกสู่มหาสมุทร จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีเรือสินค้าและเรือเดินทะเลขนาดเล็กใหญ่เข้ามาจอดลอยลำในบริเวณดังกล่าวอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน
ด้วยภูมิประเทศเป็นจังหวัดที่ติดทะเล ทำให้ชลบุรีได้เป็นเมืองหลัก ทางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายของภาคตะวันออก มีการก่อตั้งท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญขนาดใหญ่ของประเทศไทย และตามติดมาด้วยโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานน้ำตาลทราย และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
เครือสหพัฒน์ – บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในศรีราชาเขตตำบลหนองขามและ ตำบลบึง เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภคของคนไทย มีระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย และเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สำคัญในภาคตะวันออก ถึงขนาดมีสนามบินในตัวเลยนะเอ้อ คงไม่ต้องบอกเลยว่ารอบๆของเครือสหพัฒน์นั้นมีจำนวนแหล่งที่พักอาศัยมากขนาดไหน
ปัจจุบันอำเภอศรีราชา มีนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญๆ คือ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ปิ่นทอง, เหมราช, บ่อวิน, อมตะซิตี้, อีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเอาเท่าที่ยกมาให้ดูจะมีผู้ประกอบการ(โรงงาน) มากกว่า ราวๆ 1,100 ราย และกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลพวงมาจาก น้ำท่วมในเขตอุตสาหกรรมตอนบนของกรุงเทพ และความสะดวกในการขนส่งสินค้าในอนาคต น่าจะทำให้ฝั่งตะวันออกมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับภาคอุตสาหกรรม
การเกิดขึ้นของนิคมทั้งหลายเหล่านี้ ทำให้เกิดความต้องการแรงงานจำนวนมากตามมา นั่นแหละครับ.. เมื่อมีแหล่งงานก็ต้องมีแหล่งที่อยู่อาศัยตามมานั่นเอง ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ตั้งแต่ระดับบุคคลจนไปถึงระดับประเทศหลายเจ้าเข้าไปพัฒนารอบๆพื้นที่ใกล้นิคม ให้เป็นที่อยู่อาศัยกันเต็มไปหมดทั้งแนวราบและแนวสูง ยิ่งพวกราคาต่ำล้านจะขายดีมากๆเป็นพิเศษ เพราะแรงงานหลายๆคนเป็นกลุ่มกำลังเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวหลังจากเรียนจบกันเยอะพอสมควรครับ
ต้องขอเกริ่นก่อนนิดนึงนะครับ อย่างที่บอกไปด้านบนว่านิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายในศรีราชานั้น หลายอุตสาหกรรมนั้นเริ่มมาจากประเทศญี่ปุ่น จากที่เห็นเยอะๆจะเป็นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่เข้มงวดมากในเรื่องของการควบคุมการผลิต ทุกขั้นตอน เพราะมีการแข่งขันกันสูง นั้นทำให้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเกือบทุกบริษัทจะส่งพนักงานลงมาควบคุมและตรวจสอบด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีผู้บริหารที่ต้องมาเองอีกด้วย ทำให้กลุ่มคนพวกนี้ต้องมาอาศัยอยู่ที่ใกล้ที่ทำงานในประเทศไทยนั่นเอง พูดง่ายๆว่าชาวญี่ปุ่นที่มาอยู่อาศัยในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานระดับบนหน่อย ที่มีค่าครองชีพและกำลังทรัพย์ค่อนข้างสูงนะครับ
แต่สังเกตว่าชาวญี่ปุ่นนั้น จะมากระจุกตัวอยู่กันแถวศรีราชา ใกล้ๆกับริมทะเลกันเยอะมาก!! ทั้งๆที่แถวนี้ก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับที่ทำงานของพวกเขามากสักเท่าไร จากที่ผมได้ลงพื้นที่และได้สอบถามชาวญี่ปุ่นที่ได้มาทำงานที่ไทยบางท่าน ได้ความประมาณว่า
“ชาวญี่ปุ่นนั้นเห็นว่าพื้นที่แถบตำบลศรีราชานั้นมีภูมิประเทศที่คล้ายกับบ้านเกิดของพวกเขานั้นคือ โยโกฮามา ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือแห่งแรกที่ทั่วโลกรู้จักญี่ปุ่นนั้นเอง อีกทั้งชาวญี่ปุ่นนั้นมีความคิดว่าการที่พวกเค้าทำงานในเขตโรงงานอุตสาหกรรมทั้งวันแล้ว เวลาเลิกงานพักผ่อนควรอยู่ห่างออกมาหน่อยไม่ควรอยู่ใกล้กับโรงงานเหล่านี้มากไป.. เพื่อให้พักฟื้นทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ทำให้พวกเค้าหลายๆคนนั้นเลือกโลเคชั่นที่ศรีราชานั่นเอง “
เขตตำบลศรีราชา หนึ่งใน Location ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมากที่สุด อยู่ติดกับทะเล และมีเนินเชิงแนวภูเขาทำให้ได้วิวทิวทัศน์สีเขียวปะปนมาด้วยบางส่วน เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิท ซึ่งตัดใจกลางเมืองและมีทางเชื่อมไปถนนรองเส้นอื่นๆอาทิเช่น ถนนเก้ากิโล, ถนนศรีราชาหนองค้อ และถนนศรีราชาหนองยายบู่ เป็นต้น และบริเวณพื้นที่นี้นั้นใกล้กับห้างสรรพสินค้า ใกล้ย่านร้านค้าร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงเรียนสำคัญๆต่างๆ และที่สำคัญที่สุดแลนด์มาร์คของชาวศรีราชา สวนสุขภาพและเกาะลอย
“เกาะลอย” ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งของศรีราชา บริเวณวงเวียนหอนาฬิกาใหม่ เชื่อมโดยสะพานข้ามยาวประมาณ 500 เมตร มีความสำคัญทั้งในเชิงการท่องเที่ยว และเชิงประวัติศาสตร์ ในเกาะลอยนั้นยังมีท่าเรือสำหรับข้ามไปยัง เกาะสีชัง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของศรีราชาอีกด้วย
สำหรับพื้นที่ในเกาะลอย แบ่งสัดส่วนเป็นร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ร้านอาหาร เครื่องดื่ม และสวนพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงสวนเต่าทะเลของเทศบาลเมืองศรีราชาฯ (ที่ช่วยเหลือเต่าทะเลที่ติดมากับอวนของชาวประมง โดยความร่วมมือระหว่างเทศบาลและชาวประมง) ใจกลางของเกาะลอยนั้นคือ “วัดเกาะลอยศรีมหาราชา” โดยนักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเกาะลอย เช่น หลวงพ่อทันใจ และ เจ้าแม่กวนอิม
สวนสุขภาพเกาะลอย(สวนสุรศักดิ์มนตรี) อยู่ด้านนอกของเกาะติดถนนเจิมจอมพล ตอนเช้าและเย็นที่นี่จะเต็มไปด้วยคนรักสุขภาพมากมาย มาออกกำลังกาย และเป็นจุดนัดพบของชุมชนผู้สูงอายุ, แม่บ้าน และเด็กนักเรียนอีกด้วย มีลานสเก็ต เครื่องออกกำลังกาย free wifi และอุปกรณ์เด็กเล่นให้ด้วยนะครับ ที่สำคัญตอนเย็นที่นี่จะมีเต้นแอโรบิก จะบอกว่าคนเยอะมากๆ ผมเคยเห็นออกข่าวฟรีทีวีอยู่ด้วยว่าที่นี่เป็นที่ๆคนมาเต้นแอโรบิกเยอะสุดในประเทศไม่รู้จริงรึเปล่านะครับ (>_<”)
แถมบริเวณ สวนสุขภาพและเกาะลอย ยังเป็นที่ใช้จัดงานและร้านค้าในเทศกาลสำคัญต่างๆในศรีราชาอีกด้วย อาทิเช่น เทศกาลงานลอยกระทง เทศกาลงานประเพณีกองข้าว เทศกาลงานวัฒนธรรมไทยญี่ปุ่น งานประจำปีปีใหม่ ดูจากในรูปนะครับ ว่าคนที่นี่ให้ความสำคัญกับงานเหล่านี้ขนาดไหน คนจะเยอะแบบนี้แทบทุกเทศกาลกันเลยนะ ตามคำขวัญของเมืองเลย 😀 “ซอสพริกอร่อย เกาะลอยงามล้ำ อุตสาหกรรมรุ่งเรือง เมืองเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อนุรักษ์เต่าทะเล ประเพณีกองข้าว”
จะขอเริ่มพูดถึงเรื่องแหล่งอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้าก่อนนะครับ.. ในเขตตัวเมืองศรีราชาเนี่ย ถ้าคิดถึงห้างละก็ คนในพื้นที่มักจะคิดถึงห้างแลนด์มาร์คนั่นก็คือ แปซิฟิคพาร์ค โรบินสันศรีราชานั่นเอง เพราะมีมาเกือบยี่สิบปีแล้ว อีกทั้งในห้างยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ห้องประชุมจัดงาน และธนาคารหลากหลายสี ทำให้เป็นห้างหัวใจหลักสำหรับคนที่นี่เลย และก็มีห้างตึกคอมที่เจาะกลุ่มของลูกค้าไอทีต่างๆ อาหารการกินก็มีให้เลือกบ้างแต่ไม่เยอะเท่ากับแปซิฟิคพาร์ค
ต่อมา.. เมื่อชาวญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยกันมาก ความต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ทำให้มีหลายๆคนก็คิดถึงอาหารบ้านเกิดของตัวเอง จึงทำให้พื้นที่ด้านหลังของห้างโรบินสันที่เรียกกันว่า “ศรีราชานคร” มีกลุ่มนักลงทุนหลายคน มารวมตัวกันทำธุรกิจสำหรับชาวญี่ปุ่น จับมือกันทยอยซื้ออาคารพาณิชย์กันทั้งซอยเลยก็ว่าได้ และก็ได้ทำร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเช่าหนังสือและหนังดีวีดีญี่ปุ่น สถานสอนภาษาไทย-ญี่ปุ่น ร้านของหวานญี่ปุ่น และบาร์สำหรับชาวญี่ปุ่นอีกด้วย อย่างที่เห็นในภาพ
แต่ยังไม่จบอยู่แค่นี้ เมื่อกลุ่มแรงงานญี่ปุ่นเริ่มมาลงหลักปักฐานกันมากขึ้น จนถึงหลายๆคนพาครอบครัวภรรยาและบุตรมาอยู่ด้วยเต็มเมืองไปหมด ทำให้มีการขยายตัวชุมชนกลุ่มนี้ขึ้นไปอีก มีการสร้างโรงเรียนสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ(ศรีราชา) และเกิดคอมมูนิตี้มอลล์ ที่เป็นสไตล์ชาวญี่ปุ่นขึ้นตามมา ได้แก่ Easy Point 1-2 , J-PARK และ สิ้นปีนี้จะเปิดตัว(สร้างเสร็จ)ใหม่อีกห้างนึงคือ AEON Sriracha Shopping Center ที่อยู่ติดกับโรงเรียนอัสสัมชัญครับ ทำให้ปัจจุบันศรีราชานั้นมีตัวเลือกของห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดกว้างและหลากหลายเพิ่มมากขึ้นทีเดียว
ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าในทั้งตัวเมืองศรีราชา และ รอบๆนิคมอุตสาหกรรม มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่มากมาย ทั้ง Low Rise และ High Rise จนคนในพื้นที่นั้นยังสงสัยเลย.. ว่ามันจะไม่โอเวอร์เกินความต้องการของตลาดหรือเปล่า คือ ศรีราชาในปัจจุบัน เต็มไปด้วยคนทำงาน ซึ่งจะมีทั้งคนงานโรงงานคนไทย และคนทำงานโรงงานชาวต่างชาติ และชาติที่นิยมมาทำงานอยู่อาศัยในศรีราชาในตอนนี้คือชาวญี่ปุ่น ว่ากันว่าในตอนนี้มีชาวญี่ปุ่นที่ทำงานประจำอยู่ในย่านนี้ร่วม 8,000 ตำแหน่ง เมื่อนับรวมพวกที่ทำไม่ประจำ(พักอาศัยหลักเดือน) และลูกเมียของคนทำงานแล้ว
พอจะประเมินได้คร่าวๆว่ามีชาวญี่ปุ่นที่ศรีราชาไม่ต่ำกว่า 10,000 คนเป็นอย่างน้อย ซึ่งในปัจจุบันถือว่ายังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการนะครับ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมดีๆ ที่พอจะตั้งราคาค่าเช่าได้เหมาะสมในระดับนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่ง บางแห่งเต็มยาวต่อคิวเช่าก็มี ทำให้เกิดความต้องการและการเติบโตของรูปแบบการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยอย่างถาวร
ในส่วนของคอนโดมิเนียมหรือกลุ่มบ้านจัดสรร มีการลงทุนจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฝั่งริมทะเลถึงแม้ทะเลแทบนี้จะเล่นน้ำไม่ได้ก็ตาม ในช่วงปี 2556-2557 ที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมฝั่งตะวันตกของสุขุมวิทเปิดขายประมาณ 3,280 ยูนิต จากทั้งหมด 7 โครงการ โดยทั้งหมดเป็นของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ทั้งหมด และส่วนใหญ่มีอัตราการขายเกิน 70% อีกด้วย ราคาเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้อยู่ที่ประมาณ 63,500 บาท/ตร.ม. โดยที่จะเริ่มต้นประมาณ 52,000บาท/ตร.ม. และสูงสุดประมาณ 95,000 บาท/ตร.ม. ยังไงก็ตามถึงแม้ว่าราคาของคอนโดในย่านนี้จะสูงขึ้นมาขนาดนี้ก็ตาม… แต่ในปี 2558 ตั้งแต่ต้นปี ก็ยังมีการเปิดตัวคอนโดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มาลงทุนในพื้นที่ศรีราชาอยู่ดี
ผมได้มีโอกาสเอาคำถามนี้ ไปถามกับชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในศรีราชา 2 คน ซึ่งคนนึงทำงานในนิคมท่าเรือแหลมฉบัง อีกคนทำงานในนิคมอมตะนคร ตำแหน่งการงานของทั้งคู่ค่อนข้างดี และได้งบสำหรับที่พักค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคนไทย คืองบราวๆ 30,000 – 50,000 บาท/เดือน และ ทั้งคู่เลือกอยู่อาศัยเป็น Serviced Apartment ผมเลยถามว่ามันดีอย่างไร ? เลยสรุปได้ความประมาณนี้ว่า
Serviced Apartment ต่างจากโรงแรมตรงที่ว่า ลูกค้าสามารถเช่าได้ทั้งในราคารายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ภายในห้องจะตกแต่งต่างจากโรงแรม ซึ่งมีครัว มีเครื่องซักผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์การอยู่อาศัยมีครบทุกอย่าง ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเสียมากกว่า นอกจากนี้ยังแตกต่างจาก Apartment ธรรมดาด้วยเพราะว่า Serviced Apartment มีบริการให้ เช่น มีแม่บ้านทำความสะอาด มีอาหารเช้า กลางวัน เย็น ตามสั่ง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆส่วนใหญ่ก็จแล้วแต่ละเจ้าว่ามีเนื้อที่ดิน และต้นทุนขนาดไหน อาทิเช่น ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา เทนนิส ห้องอ่านหนังสือ สนามพัทกอล์ฟ เป็นต้น ราคาของ Serviced Apartment ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ใช้สอย, ตำแหน่งโลเคชั่น และความหรูหราของห้องครับ
ปัจจุบัน ศรีราชามีการแข่งขันในส่วนของ Serviced Residence กันสูงมาก ส่วนใหญ่จะแข่งกันทำให้ออกมาดีเพื่อเรียกฐานลูกค้าให้จดจำเอาไปบอกต่อๆกัน บ้างก็เอา Facility จัดเต็มมาเกทับกันบ้าง เอาความปลอดภัยสุดยอดมาเป็นตัวเลือกต่างๆนา ในตัวเมืองตำบลศรีราชานั้นมี Residence เต็มไปหมดส่วนใหญ่จะเป็น Serviced Apartment นะครับ
แต่ล่าสุดนั้นมีการพัฒนาไปอีกขั้น ที่พัฒนาตลาดของ Serviced Residence ให้เป็น “แนวราบ” ถือเป็นของแปลกและใหม่พอสมควร เรียกว่าทำหมู่บ้าน(บ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น) ขึ้นมาเอาไว้ปล่อยเช่าและมีเซอร์วิสนั่นเอง การทำแบบนี้ทำให้ค่าเช่ารายเดือนนั้นต้องสูงมากแน่นอน แต่ก็เลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนว่าเหมาะสำหรับชาวต่างชาติหรือนักธุรกิจที่ต้องการมาอยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่นี้ และต้องการ เนื้อที่ดินและพื้นที่ใช้สอย มากเป็นพิเศษ แว่วๆมาว่าโครงการนี้ค่าเช่ารายเดือนประมาณ 60,000 – 70,000 บาท/เดือน เลยทีเดียว !
เป็นยังไงบ้างครับ เพื่อนๆนักอ่าน ได้ทำความรู้จักศรีราชามากขึ้นบ้างหรือยัง การเติบโตอย่างรวดเร็วของที่นี่เป็นที่ที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่าง พัทยา เชียงใหม่ หรือหัวหิน การบูมขึ้นของศรีราชา นั้นเกิดมาจากปัจจัยด้านรูปแบบการพัฒนาเมือง แหล่งอุตสาหกรรม คอมมูนิตี้มอลล์ และแนวโน้มอนาคตที่เกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว แต่ท้ายที่สุดหากคุณคิดจะลงทุนอสังหาฯในทำเลย่านนี้ ก็ยังตอบโจทย์ได้ด้วยจำนวนประชากร
แหล่งชุมชนแรงงาน และเม็ดเงินลงทุนหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นๆ นอกจากนี้หากคิดจะเก็งกำไรระยะยาว ต้องมองให้ไกลหน่อยว่า ตัวทำเลจะมีศักยภาพเติบโตได้มากกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีกหรือไม่? ควรต้องวิเคราะห์หลายๆด้านถึงระบบขนส่งมวลชน การกระจุกตัว-ขยายตัวของเมือง ติดตามข่าวสารการพัฒนาของเมืองว่ามีความเป็นไปได้ขนาดไหน และที่สำคัญคือเงินในกระเป๋าของคุณด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ ThaiSiam Digital Imagine โดยคุณ James Skyviews และทีมงาน Chonburi Skyview Air Team นะครับ ที่ได้ให้ทีมงานเราได้ใช้รูปประกอบภาพลอยฟ้าจากโดรน เป็นภาพประกอบในรีวิวนี้ ทำให้เห็นภาพและเข้าใจถึงเมืองศรีราชาอันงดงามด้วยนะครับ 😀
Source of Information
พื้นที่และอาณาเขต : Wikipedia
เกาะลอย : http://www.thongteaw.com/
ประวัติเมืองศรีราชา http://www.srirachaoutlook.com/
Special Thanks : Facebook Page “ThaiSiam Digital Imagine”
Credit รูปจากโดรนสวยๆ : Facebook Page “Chonburi Skyview“