เพิ่งได้เฮกันไปเมื่อปลายปี 62 เลยนะคะสำหรับชาวบางแค เพราะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงสถานีเพชรเกษม 48 – หลักสอง ที่ก่อสร้างมาหลายปีได้ฤกษ์เปิดใช้งานกันแล้ว แถมรถไฟฟ้าสายนี้ยังสามารถวิ่งเชื่อมไป interchange กับสายสีเขียวสายหลักที่วิ่งเข้าสาทร สยามได้อีกด้วย

เห็นทำเลน่าสนใจแบบนี้..วันนี้เราจึงจะมาช่วยเพื่อนๆ ตามหาทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้า “ย่านบางแค” งบประมาณ 5 ล้านบาท ในทำเลที่พอจะเดินทางไปรถไฟฟ้าได้ไม่เกิน 4 km. จะมีโครงการไหนบ้างลองมาดูกันค่ะ

ขอเกริ่นก่อนว่าทำไมวันนี้เราจึงพาทุกคนมาตามหาทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าย่านบางแค หรือเพราะจะแคร์บางคน..ไม่ใช่ค่า^^ แต่เป็นเพราะว่าย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงคือมีทั้งศูนย์การค้า ตลาดขนาดใหญ่ และการเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ แต่จะอยู่ในทำเลที่ขยับออกจากตัวเมืองมาหน่อย ทำให้ยังพอมีบ้านแนวราบที่ราคายังพอหยิบจับไหวให้เลือกซื้อได้

ถนนหลักของย่านนี้คือ “ถนนเพชรเกษม” เป็นเส้นที่เชื่อมต่อระหว่างทางเข้าเมืองกับจังหวัดนครปฐม เดิมทีจะเป็นแหล่งรวมของที่อยู่อาศัยแนวราบทำเลหนึ่งของกรุงเทพฯ มีความเป็นชุมชนดั้งเดิม สังเกตจากความหนาแน่นของบ้านเรือน ตึกแถว และ อาคารพาณิชย์ที่เรียงรายกันเต็มทั้ง 2 ฝั่งถนน

จุดเปลี่ยนที่สำคัญของทำเลนี้คือการมาของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ส่งผลให้เริ่มมีการสร้างคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้าทั้ง Low Rise และ High Rise มีการพัฒนาโดยรอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีคนย้ายเข้ามาอาศัยอยู่กันมากขึ้น ในขณะที่คนดั้งเดิมที่พักอาศัยอยู่ในทำเลนี้ก็จะได้ประโยชน์จากการมาของรถไฟฟ้าเต็มๆเพราะทำให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น

พูดถึงความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษม ร้านอาหารส่วนมากจะเป็นร้านในตึกแถว มีตลาดบางแคที่เป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำให้จับจ่ายซื้อของสดของแห้งกัน ส่วนห้างที่ใกล้ๆ ก็มี ซีคอน บางแค, The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C และ ร้านอาหาร ร้านขนมสวยๆ นั่งสบายๆ อยู่หลายร้าน มีรพ.เพชรเกษม 2 รพ.บางไผ่ รพ.พญาไท3 ส่วนสถานศึกษา มีมหาวิทยาลัยสยามและวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม

รถไฟฟ้าที่พาดผ่านทำเลนี้ก็คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งตั้งแต่ช่วงปลายปี 62 จนถึงต้นปี 63 ที่ผ่านมาก็เปิดให้บริการกันจนครบทุกสถานีแล้ว โดยเส้นทางจะต่อขยายมาจากโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้จะแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ

ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ มีระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร มีทั้งหมด 10 สถานี โดยเริ่มต้นจากสถานีบางซื่อซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม , รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน และ แอร์พอร์ตลิงค์ ติดกันคือสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ จากนั้นจะผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ผ่านแยกบางพลัด แยกบรมราชชนนี แยกบางขุนนนท์ (เชื่อมต่อกับสายสีส้มและสีแดงอ่อน) ที่แยกไฟฉาย และสิ้นสุดที่สถานีท่าพระ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค

ช่วงหัวลำโพง – บางแค มีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร โดยเส้นทางเริ่มจากสถานีหัวลำโพงวิ่งตามแนวถนนพระรามที่ 4 เข้าสู่ถนนเจริญกรุง ผ่านวัดมังกรกมลาวาส วังบูรพา ถนนสนามไชย ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ เข้าสู่ถนนอิสรภาพ ผ่านสี่แยกท่าพระ ซึ่งจะมีสถานีร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ- ท่าพระ แล้ววิ่งไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านบางไผ่ บางหว้า ภาษีเจริญ บางแค สิ้นสุดที่วงแหวนรอบนอกถนนกาญจนาภิเษก คือตรงบริเวณสถานีหลักสอง นั่นเองค่ะ

ข้อดีของ MRT สายสีน้ำเงินย่านบางแคคือ สามารถเชื่อมต่อเข้าตัวเมืองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนโดยสาร เช่น จาก The Mall บางแคก็ขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีหลักสอง นั่งยาวๆ ไปถึงสีลมได้ในเวลาประมาณ 25 นาที แต่หากต้องการเปลี่ยนไปนั่ง BTS ก็ให้เปลี่ยนไปขบวนที่สถานีบางหว้าใช้เวลาจากสถานีหลักสองถึงบางหว้าประมาณ 7 นาทีเท่านั้น

จากการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ เราขอสรุปภาพรวมของย่านบางแคออกเป็น 3 โซนนะคะ เริ่มจากโซนที่ 1 คือเพชรเกษมฝั่งเลขคู่ จะอิงไปทางฝั่งถนนบางแวก ถนนพุทธมณฑลเพราะมีซอยลัดสำคัญอย่างซอยเพชรเกษม 48 ที่ลัดไปบางแวกได้ และมีถนนพุทธมณฑลสาย 1 ที่วิ่งยาวไปออกถนนบรมราชชนนี แถวตลิ่งชันได้โดยไม่ต้องกลับรถ หรือถ้าต้องการใช้ถนนราชพฤกษ์ก็ไม่ต้องกลับรถเช่นกัน สามารถใช้เส้นเพชรเกษมตรงยาวๆ ไปเชื่อมได้เลย

แต่โซนฝั่งเลขคู่ถ้าจะอยากมาใช้ถนนกาญจนาภิเษกจะต้องไปกลับรถบนถนนเพชรเกษมก่อน ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ยังคงมีรถเยอะอยู่นะคะ หรือต้องใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 1 เพื่อไปเชื่อมเข้าวงแหวนฯ อีกที ความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นนี้จะติดอยู่กับถนนหลักอย่างเพชรเกษมเป็นส่วนใหญ่ สำหรับสภาพแวดล้อมในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวเก่าแก่ที่สร้างมานานแล้ว

โซนที่ 2 คือเพชรเกษมเลขคี่ เรามองว่าฝั่งนี้มีถนนรองให้เลือกใช้ได้หลายเส้นทางทั้งถนนกัลปพฤกษ์ ถนนจอมทอง ซอยกำนันแม้น และทางลัดในโซนนี้จะเชื่อมต่อกัน จึงเป็นฝั่งที่มีทางเลือกในการเดินทางหลากหลายกว่า เหมาะกับคนที่เดินทางเข้าเมืองไปโดยใช้เส้นราชพฤกษ์ หรือมีธุระแถวบางมด พระราม 2 บางขุนเทียนบ่อยๆ ก็เดินทางสะดวก แถมสามารถเข้าถนนกาญจนาภิเษกได้โดยไม่ต้องกลับรถเลย

เนื่องจากโซน 2 มีถนนตัดใหม่หลายสายทำให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างพวกศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ตามมาเปิดตัวกันเพียบ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช้อปปิ้งที่นอกเหนือจากบนเส้นหลักอย่างเพชรเกษมได้ดี

โซนที่ 3 จะอิงกับถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลักและออกไปทางฝั่งพุทธมณฑลมากขึ้น การเดินทางไปนครปฐมของโซนนี้ง่ายทีเดียว หรือเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้วงแหวนกาญจนาภิเษกเป็นประจำ แต่ที่กลับรถบนถนนกาญจนาภิเษกค่อนข้างไกลหน่อยนะคะ ความอุดมสมบูรณ์ก็จะอิงตามถนนวงแหวนฯนี่แหละ มีพวกคอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่หลายแห่ง ส่วนในซอยก็จะเป็นที่อยู่อาศัย ร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่อยู่อาศัยในโซนนี้ก็จะมีราคาที่ย่อมเยากว่าโซน 1 และ 2 ค่ะ

จากที่เราเริ่มหาข้อมูลทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าในย่านนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 63 ก็พบว่าทาวน์โฮมงบ 5 ล้านบาท เป็นโปรดักส์ที่ใกล้จะหายากในทำเลนี้แล้ว เพราะตอนแรกที่เราหาได้ข้อมูลมาทั้งหมด 6 โครงการ แต่พอโทรไปเช็คราคาอีกทีเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 63 ก็ขายหมดไปแล้วถึง 2 โครงการเลยทีเดียว วันนี้จึงเหลือทาวน์โฮมที่นำมาฝากเพื่อนๆ 4 โคงการ อ้างอิงตามโซนที่ได้อธิบายไป ดังนี้

โซนที่ 1 ทาวน์โฮมทางฝั่งเพชรเกษมเลขคู่ มีอยู่ 1 โครงการคือ The Metro เพชรเกษม 48

โซนที่ 2 มีทาวน์โฮมให้เลือกอยู่ 2 โครงการ คือ Casa City กัลปพฤกษ์-สาทร และ Cher วงแหวน-สาทร

โซนที่ 3 กำลังจะมีโครงการใหม่เปิดตัวในอีก 2 เดือนข้างหน้า คือ Golden Town 2 บางแค ซึ่งจะอยู่ในบริเวณเดียวกับโครงการรุ่นพี่อย่าง Golden Town บางแค เราไปดูกันทีละโครงการเลยนะคะ


The Metro เพชรเกษม 48 จาก Property Perfect ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 แยก 4-7 โครงการนี้มีระยะถึงรถไฟฟ้า 1.1 km. ใกล้สุดในบรรดาทาวน์โฮมงบ 5 ล้านบาทที่เปิดขายอยู่ มีราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท จากหน้าโครงการก็เห็นมีพี่วินวิ่งผ่านไปมาอยู่บ้าง แต่ถ้าจากปากซอยเพชรเกษม 48 เข้ามายังโครงการนี่หายห่วงเลย เพราะช่วงต้นซอยจะมีทั้งพี่วิน ทั้งร้านค้า ร้านอาหารราคาย่อมเยาให้เลือกซื้อก่อนเข้าบ้านได้เพียบทีเดียว

โครงการอยู่ในซอยแยกจึงมีความเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ถ้าช่วงกลางคืนก็ระวังกันหน่อย เพราะพื้นที่โดยรอบโครงการบางส่วนยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

โปรดักส์ของโครงการเป็นทาวน์โฮม 128 หลัง ส่วนใหญ่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และมีแบบ 2 ชั้นให้เลือกอยู่ 4 หลัง แต่ยังไม่เปิดขายนะคะ

สำหรับ Facilities ส่วนกลางจะวาง Clubhouse สระว่ายน้ำ และสวนไว้บริเวณหน้าโครงการเลย ทำให้ลูกบ้านสามารถแวะใช้งานได้สะดวกและยังเป็นหน้าเป็นตาเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมด้วยค่ะ

บรรยากาศบริเวณ Clubhouse และสวนส่วนกลาง ออกแบบมาในสไตล์ยุโรปให้ดูหรูหรา ภายในสวนมีเครื่องเล่นให้คุณหนูๆ ได้มาออกกำลังกาย

บ้านตัวอย่างที่เปิดให้เข้าชมมีแบบเดียว เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และหากครอบครัวที่มีผู้สูงอายุก็สามารถกั้นห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มได้อีก 1 ห้องค่ะ

บริเวณหน้าบ้านกว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่จะแน่นๆ หน่อย ถ้าจอดคันเดียวจะลงตัวกว่า จะได้มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับตากผ้า หรือวางกระถางต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ได้

พื้นที่ชั้น 1 ออกแบบมาให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ทานอาหารของครอบครัว

พื้นที่ด้านในสุดติดกับหลังบ้าน จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถกั้นเป็นห้องนอนผู้สูงอายุเหมือนในบ้านตัวอย่างได้ หรือถ้าบ้านไหนอยากทำเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ค่ะ

ตำแหน่งของบันไดจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทำให้ได้แสงจากหน้าต่างพอดี ช่วงกลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ยังสามารถเดินขึ้นลงได้

ห้องนอนบนชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องใหญ่สุดบนชั้นนี้ หรือจะเรียกว่าห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ แถมมีห้องน้ำในตัวด้วยนะ

ภายในมีพื้นที่ใช้สอยพอให้วางเตียงเดี่ยว โต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้าได้

สำหรับห้องนอนเล็กจะอยู่ด้านหลังบ้านทั้ง 2 ห้อง มีพื้นที่พอๆ กัน เป็นห้องนอนที่ต้องแชร์ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้ร่วมกัน ไม่ได้มีห้องน้ำในตัว

ห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่ใช้สอยเต็มๆ ทั้งชั้น 3 มีฟังก์ชันครบทั้งห้องน้ำในตัวและมีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet ได้ด้วยค่ะ

ทาวน์โฮม 3 ชั้นอีกแบบหนึ่งจะมีหน้าตาและฟังก์ชันที่เหมือนกับแบบแรกเลย แตกต่างกันที่หน้าบ้านกว้างขึ้นเป็น 5.7 เมตร ทำให้ทาวน์โฮมแบบนี้จอดรถ 2 คันได้สบาย และตอนนี้ก็เหลือเป็นหลังสุดท้าย เป็นหลังหน้าสวนราคา 5.99 ล้านบาทค่ะ


มาดูโครงการที่อยู่ในโซน 2 กันบ้างกับ Casa City จาก Q House มีระยะห่างจากสถานีบางแค 2.7 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในซอยกำนันแม้น เป็นซอยลัดไปเชื่อมออกได้หลายทาง ทั้งถนนกัลปพฤกษ์ ถนนเทอดไท ถนนเพชรเกษม และลัดเลาะไปออกวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ด้วย

เนื่องจากเป็นซอยลัดทำให้มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการ อย่างเช่นร้านค้า ร้านอาหารราคาย่อมเยาก็มีให้เห็นอยู่ตลอดทาง

โครงการนี้มีจำนวนยูนิตเยอะกว่าเพื่อนๆ หน่อยอยู่ที่ 256 หลัง จัดวางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางกระจายกัน โดย Clubhouse จะอยู่ด้านหน้าและแยกสวนไว้ตรงกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทั้งโครงการเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายขึ้น

บรรยากาศของบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง จัดฟังก์ชันมาให้ครบตามมาตรฐานทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร แยกสระเด็ก : 3×3.6 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร ติดกับสระว่ายน้ำจะมีห้องฟิตเนส และสวนส่วนกลางที่อยู่ช่วงกลางๆ โครงการค่ะ

ทาวน์โฮมของโครงการนี้เป็นแบบ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านอยู่ที่ 106 ตารางเมตร เหลือขายเพียง 1 ยูนิตสุดท้าย เป็นแปลงมุมได้พื้นที่สวนข้างบ้าน ขนาดที่ดิน 24.3 ตารางวา ฟังก์ชันบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ราคา 4.49 ล้านบาท

ถ้าเทียบกับทาวน์โฮม 2 ชั้นในทำเลใกล้ๆ กัน ยังมีโครงการอื่นที่ราคาหยิบจับง่ายกว่านี้ แต่ราคานี้จะแลกมากับการได้บ้านในแบรนด์ Q House ซึ่งเป็น Developer เจ้าใหญ่ค่ะ

บรรยากาศภายในตัวบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างด้านข้าง ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้เยอะกว่าแปลงปกติ

พื้นที่ใช้สอยในชั้น 1 จะเชื่อมต่อบริเวณนั่งเล่นเข้ากับพื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่ด้านหลังบ้านสามารถทำเป็นครัวได้และหากทำประตูเปิดแบบในบ้านตัวอย่างก็สามารถระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

ห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่ใช้สอยในฝั่งหน้าบ้านตลอดแนว แชร์ห้องน้ำร่วมกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง แต่จะมีประตูเปิดเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องนอนเลย

บรรยากาศภายในห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง มีพื้นที่พอให้วางเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กวัยรุ่น ที่ของใช้ยังไม่เยอะนักได้

*ขอบคุณรูปจาก www.qh.co.th/project/Casa-City-Town-Home/Casacity-KallapraprukSathorn


3. Cher วงแหวน – สาทร

หรือคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการ Cher วงแหวน-สาทร ได้จากที่นี่เลยค่ะ

อีกโครงการหนึ่งที่อยู่ในโซน 2 คือ Cher วงแหวน-สาทร จาก Peace&Living มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางแค 2.4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 0010 เราสามารถใช้ถนนบางแคเป็นทางลัดเพื่อเชื่อมออกไปถนนเพชรเกษมได้ ก็จะอยู่ใกล้ทางขึ้นลงสถานีบางแคพอดี และทำเลของโครงการยังอยู่ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก จึงสามารถออกไปทางพระราม 2 บางขุนเทียนได้สะดวก

โครงการนี้มีจำนวนยูนิต 131 หลัง เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 56 ยูนิต และ ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 75 ยูนิต มีระยะทางจากถนนกาญจนาภิเษก 0010 เข้ามาถึงประตูรั้วโครงการประมาณ 170 เมตร จัดวาง Clubhouse 2 ชั้น สระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางไว้ด้านหน้าโครงการ

บรรยากาศบริเวณ Clubhouse 2 ชั้น โดยวางฟิตเนสไว้ที่ชั้นบน เวลาออกกำลังกายก็จะได้วิวสระและสวนด้านล่าง

แบบแรกเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวขยายแบบพ่อ แม่ ลูก เพราะพื้นที่ชั้นล่างไม่เหมาะให้กั้นทำห้องนอนผู้สูงอายุ ในราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท

Highlight อย่างหนึ่งของโครงการนี้อยู่ที่วัสดุในการก่อสร้างที่ใช้การก่ออิฐมอญ ทำให้ตัวบ้านสามารถทุบ เจาะ เพื่อเชื่อมพื้นที่ได้สะดวกต่างจากบ้านส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่มักใช้เป็น Precast นะคะ

บรรยากาศภายในบ้านบริเวณชั้น 1 จะเปิดโล่งพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเชื่อมต่อกัน

บรรยากาศบริเวณห้องนอนใหญ่ที่ได้พื้นที่ใช้สอยฝั่งหน้าบ้านตลอดแนว และได้ช่องแสงบานใหญ่ด้วยค่ะ

อีกแบบหนึ่งเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แบบบ้านนี้สามารถกั้นห้องนอนเพิ่มที่ชั้นล่างได้ และส่วนที่เราชอบคือ ห้องนอนทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัว และห้องนอนใหญ่ที่ชั้นบนสุดได้ระเบียงกว้างดี ในราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท

หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร ครอบครัวที่มีรถ 2 คันก็สามารถจอดได้ แต่จะแน่นๆ นิดนึง ถ้าจอดรถคันเดียวและเว้นพื้นที่ด้านข้างเอาไว้ตากผ้าหรือปลูกต้นไม้กระถางจะดูลงตัวกว่าค่ะ

บรรยากาศบริเวณชั้น 1 จะวางตำแหน่งของบันไดไว้ข้างบ้าน ทำให้พื้นที่ใช้สอยส่วนอื่นต่อเนื่องกัน ดูโล่งดีค่ะ ใครอยากให้บ้านดูกว้างขึ้นลองใช้กระจกตกแต่งดูอย่างในบ้านตัวอย่างได้

เข้ามาด้านในตัวบ้านจัดเป็น Pantry ครัวฝรั่งเล็กๆ เหมาะทำอาหารที่ไม่ได้มีกลิ่นฉุนนัก และสามารถเสริฟที่โต๊ะอาหารที่อยู่ติดกันได้เลย

แต่หากใครชอบทำครัว ก็แนะนำให้ต่อเติมหลังบ้านเพิ่มจะเหมาะกว่าค่ะ ส่วนที่เราชอบคือบ้านตัวอย่างทำหลังคาที่เป็น Skylight เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเหมาะกับทาวน์โฮมนะ เพราะจะช่วยให้พื้นที่ด้านในตัวบ้านไม่มืดจนเกินไป

ขึ้นมาที่ห้องนอนใหญ่ที่ได้พื้นที่ใช้สอยแบบเต็มชั้น พร้อมห้องน้ำในตัว

ระเบียงกว้างๆ แบบ Semi-Outdoor ให้มานั่งเล่นรับลมได้ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝนค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้


ปิดท้ายด้วยโครงการที่มีแพลนจะเปิดตัวในอีก 2 เดือนข้างหน้ากับ Golden Town 2 บางแค จาก Golden Land ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มาจากฝ่ายขายจะอยู่ใกล้ๆ กับโครงการเดิม ในบริเวณ Golden Empire

เราจึงลองประมาณระยะทางคร่าวๆ ว่าสามารถเดินทางไปถึงสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง ในระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร แต่ขากลับจะค่อนข้างไกลหน่อย เพราะต้องไปกลับรถบนเส้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งที่กลับรถจะค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟฟ้าถึงโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร

Golden Empire ก็จะตั้งอยู่ในซอยสุขสันต์ 6 เป็นชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ

ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ Golden Town บางแค โครงการแรก ซึ่งโครงการที่ 2 ก็จะมาในสไตล์อิตาลี ในราคาเริ่มต้น 2.37 ล้านบาทค่ะ


สรุป

บทความวันนี้เราจะลองมาสรุปแยกเป็นประเด็นที่ดูน่าสนใจ ดังนี้

โครงการที่มีทำเลใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด : เราขอแนะนำโครงการ The Metro เพชรเกษม 48 อยู่ใกล้รถไฟฟ้าที่สุด ด้วยระยะ 1.1 กิโลเมตร สามารถเรียกพี่วินจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 ในราคาไม่เกิน 15 บาท รองลงมาจะเป็นโครงการ Casa City กัลปพฤกษ์-สาทร และ Cher วงแหวน-สาทร ที่มีระยะทางพอๆ กันอยู่ที่ 2 กิโลเมตรกว่าๆ แต่ก็ยังเรียกหาพี่วินมอเตอร์ไซค์ไม่ยากเพราะแต่ละโครงการตั้งอยู่ในซอยที่เป็นซอยลัดทั้งหมดค่ะ

โครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุด : เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เราขอแนะนำโครงการ The Metro เพชรเกษม 48 อีกรอบ ที่มีจำนวนบ้านทั้งโครงการ 128 ยูนิต และ Cher วงแหวน-สาทร ที่มีจำนวน 131 ยูนิต ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ทำให้ลูกบ้านทั้ง 2 โครงการแชร์กันใช้ Facilities ส่วนกลางแบบไม่หนาแน่นนัก

โครงการที่ออกแบบบ้านหน้ากว้าง  : สำหรับคนที่ใช้อยากได้บ้านหน้ากว้าง หรืออยากจะจอดรถ 2 คันแบบสบายๆ เราแนะนำเป็นบ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร ซึ่งมีให้เลือก 2 โครงการ คือ Casa City กัลปพฤกษ์-สาทร (ทาวน์โฮม 2 ชั้น) และ The Metro เพชรเกษม 48 (ทาวน์โฮม 3 ชั้น)

โครงการที่ราคาหยิบจับง่ายที่สุด : เราขอแบ่งออกเป็นโปรดักส์แบบทาวน์โฮม 2 ชั้นและ 3 ชั้นนะคะ โดยทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีราคาเริ่มต้นหยิบจับง่ายสุดคือ Cher วงแหวน-สาทร ที่มีราคา 3.6 ล้านบาท ส่วนทาวน์โฮม 3 ชั้นที่ถูกสุดจะเป็นของโครงการ The Metro เพชรเกษม 48 กับแบบบ้านหน้ากว้าง 5 เมตรค่ะ

โครงการที่มีบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งานที่สุด : สำหรับคนที่เน้นเรื่องของบรรยากาศภายในโครงการและมี Facilities ส่วนกลางน่าใช้งานมากที่สุด ในความรู้สึกส่วนตัวขอยกให้ Casa City กัลปพฤกษ์-สาทร เพราะ มีการแยกพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ส่วน ทำให้ลูกบ้านทั้งโครงการเข้ามาใช้งานได้ง่าย และมีการจัดวางสระว่ายน้ำเอาไว้ด้านใน Clubhouse อีกที จึงให้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน


จบแล้วนะคะสำหรับบทความตามหาโครงการทาวน์โฮมใกล้รถไฟฟ้าในงบ 5 ล้านบาท ที่กลายเป็นของหายากขึ้นทุกทีๆ แต่ละโครงการก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยใครหลายๆคนในการตัดสินใจ เลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองได้ และคราวหน้า Think of Living จะพาไปชมโครงการทำเลไหนอีก อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะ