..วันนี้พามาชมโครงการที่น่าสนใจของย่านราชพฤกษ์อย่าง PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern ที่มีทำเลในซอยอยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าและทางด่วน ทำให้สามารถใช้ชีวิตและเดินทางได้ค่อนข้างสะดวก แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือตัวโปรดักส์ของเค้า ที่นอกจากจะให้พื้นที่ใช้สอยเยอะแล้ว ยังมีการออกแบบโดยคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากๆอีกด้วยครับ โดยจุดเด่นอื่นๆของโครงการที่ผมสรุปมาให้ก็จะมีตามนี้เลย

  • ทำเลในซอยที่เข้า-ออกได้หลายทาง ได้แก่ ถนนนครอินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก และยังเชื่อมต่อไปยังด้านหลังห้าง Central WestVille ได้อีกด้วย
  • เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนยูนิตที่น้อย และยังออกแบบช่องแสงของตัวบ้านให้เลี่ยงการถูกมองเห็นได้ดีอีกด้วย
  • เป็นบ้านหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะ ถือว่าราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่าย และดูคุ้มค่าเมื่อเทียบกับบ้านไซส์เดียวกันของย่านในปัจจุบัน
  • ให้วัสดุมาดี โครงสร้างก่ออิฐมวลเบา ต่อเติมหลังคาจอดรถและทำเคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมใช้งาน

ข้อมูลโครงการ

Paul Ratchapruek – Rama 5 (พอล ราชพฤกษ์ – พระราม 5) ณ วันที่ 27 มีนาคม 2566

 ชื่อโครงการ   Paul Ratchapruek – Rama 5 (พอล ราชพฤกษ์ – พระราม 5)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท พาริช เอสเตท จำกัด
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
 ที่ดิน  9-2-2.3 ไร่
 จำนวนยูนิต 40 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Type A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Type B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

 ราคาเริ่มต้น   11.99 ล้านบาท
 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 = 2.95 ม. / ชั้น 2 = 3.0 ม.
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ   n/a บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2567
 เว็บไซต์โครงการ   http://parichestate.com/
 โทร   092-868-0044

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • เป็นซอยที่สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง
  • ใกล้ทางด่วน 2 สายคือ ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนศรีรัช
  • ใกล้ห้างสรรพสินค้า Central WestVille และ The Crystal มีทางลัดไปด้านหลังห้างได้ ไม่ต้องเสียเวลาออกนอกถนนใหญ่

พิกัด Google Maps : 13.816619, 100.419985
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ในย่านของโซนราชพฤกษ์ โดยเป็นซอยที่สามารถเข้า-ออกได้หลักๆ 3 – 4 เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก และ Frontage Road จัดเป็นอีกหนึ่งทำเลที่คนมามองหาบ้านแนวราบแถวนี้กันเยอะครับ เพราะเราสามารถเข้าเมืองได้ง่ายด้วยถนนนครอินทร์และทางด่วนศรีรัช รวมถึงยังมีคอมมูนิตี้มอลล์และห้างสรรพสินค้าที่ครบครันอีกด้วย

โดยความอุดมสมบูรณ์ก็จะอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งหลักๆก็จะเป็น The Crystal ที่มีร้านค้าและร้านอาหารอร่อยๆเพียบ รวมถึงอนาคตก็จะมี Central WestVille มาเปิดใหม่ด้วยนะครับ (คาดว่าจะเปิดปลายปี 2566) เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 4 ชั้น 300 ร้านค้า บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ ซึ่งก็จะทำให้ย่านนี้มีความสะดวกสบายและคึกคักมากขึ้น และตัวโครงการเองก็จะมีเส้นทางเชื่อมต่อมายังตัวห้างได้ง่ายมากๆอีกด้วย เรียกได้ว่าใกล้ทั้งห้างและทางด่วนเลยครับ

เข้า-ออกได้หลายทาง ไปเดินเซ็นทรัลได้ชิลๆ

“ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์” เป็นซอยที่ภายในจะเชื่อมต่อถึงกันหมด จึงสามารถเข้า-ออกได้หลายทาง เป็นตัวเลือกในการใช้ชีวิตได้สบายๆ ประกอบด้วย

  1. ถนน นครอินทร์ : เป็นเส้นทางหลักที่สั้นที่สุด ห่างจากปากซอยเพียง 1.2 km. โดยถนนนครอินทร์เป็นถนนเส้นหลักที่สามารถข้ามสะพานพระราม 5 เพื่อเข้าเมืองได้ง่าย รวมถึงยังใช้เป็นทางกลับบ้านจากถนนกาญจนาภิเษกได้อีกด้วยครับ
  2. ถนน กาญจนาภิเษก : เป็นอีกทางหนึ่งที่หลายๆคนน่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ มีระยะห่าง 1.2 km. โดยเราสามารถใช้เป็นทางลัดไปออกทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก และเข้าสู่วงแหวนเพื่อเดินทางไปพระราม 2 ได้ง่าย
  3. ถนน ราชพฤกษ์ : เป็นเส้นทางที่สามารถใช้ลัดเพื่อมาเดินห้าง Central WestVille และ The Crystal ได้แบบไม่ต้องเสียเวลารถติดหรือกลับรถที่ถนนใหญ่ โดยมีระยะห่าง 4.8 km.
  4. Frontage Road : เป็นเส้นทางสำหรับคนที่ต้องการไปขึ้นทางด่วนศรีรัชที่ใกล้ที่สุด ห่างจากโครงการ 4.3 km.

สำหรับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชจะอยู่ห่างจากโครงการ 6.4 km. โดยเราสามารถใช้ทางลัดภายในซอยมาออกยัง Frontage Road และไปขึ้นทางด่วนที่ด่านตลิ่งชัน เพื่อเข้าเมืองไปทางจตุจักรได้ครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านแนวราบ และเนื่องจากเป็นทำเลในซอยก็เลยมีความเงียบสงบ ไม่ค่อยวุ่นวาย เพียงแต่ตัวโครงการจะตั้งอยู่ตรงถนนช่วงหัวโค้งพอดี ดังนั้นเวลาขับรถเข้า-ออกก็อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษนิดนึงนะ

  • ทิศเหนือ : ติดกับ บ้านแนวราบ
  • ทิศใต้ : ติดกับ บ้านแนวราบและอาคารเก็บสินค้าสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับ ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ 1
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ บ้านแนวราบ

และนี่ก็คือบรรยากาศของถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางโค้งแบบนี้พอดี ดังนั้นทางโครงการจึงมีการเว้นระยะทางเข้าด้านหน้าเอาไว้ เพื่อให้สามารถเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถอยู่พอสมควรนะครับ

โดยทางด้านซ้ายของโครงการก็จะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังถนนอัจฉริยะประสิทธิ์เส้นหลัก ที่เลี้ยวขวาจะไปออกถนนทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก และถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนราชพฤกษ์ได้นั่นเอง

ส่วนทางด้านขวาของโครงการก็จะเป็นทางโค้งเหมือนกัน แต่จะมีมุมมองที่ใช้งานได้ง่ายกว่า โดยทางนี้ก็จะมุ่งหน้าไปออกถนนนครอินทร์ได้ครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • โลตัส พลัส บางใหญ่ ~ 3.4 km.
  • Central WestVille (คาดว่าจะแล้วเสร็จ Q4 ปี 2566) ~ 4.8 km.
  • Homepro ราชพฤกษ์ ~ 5.9 km.
  • The Crystal ราชพฤกษ์ ~ 6.1 km.
  • The Walk ราชพฤกษ์ ~ 6.6 km.
  • Central Plaza Westgate ~ 9.5 km.
  • IKEA บางใหญ่ ~ 9.9 km.
  • The Mall บางแค ~ 12.6 km.
  • The Circle ราชพฤกษ์ ~ 13.9 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.ธนบุรี 2 ~ 5.8 km.
  • รพ.บางกรวย ~ 12.2 km.
  • รพ.เจ้าพระยา ~ 15 km.
  • รพ.ศิริราช ปิยมหาการุณย์ ~ 15.2 km.
  • รพ.พญาไท 3 ~ 15.7 km.

โรงเรียน

  • รร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี ~ 900 m.
  • รร.เด่นหล้า ~ 2.7 km.
  • รร.นานาชาติ ดราก้อน ~ 3.6 km.
  • รร.เพลินพัฒนา ~ 7 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • โครงการขนาดเล็ก เป็นส่วนตัวเพียง 40 ยูนิต
  • บ้านเกือบทั้งหมดอยู่ติดถนน Main บรรยากาศค่อนข้างดี ขับรถสัญจรภายในได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลากลับรถในซอยย่อยๆ
  • ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse จะอยู่ทางด้านหน้า สามารถมาใช้งานได้ง่าย
  • มีการเว้นระยะตรงถนนด้านหน้าซุ้มประตู เพื่อให้รถเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัย

บริษัท พาริช เอสเตท จำกัด เป็นใคร เคยมีผลงานอะไรมาแล้วบ้าง?

..ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Developer หรือผู้พัฒนาของโครงการนี้กันสักหน่อยครับ โดยบริษัท พาริช เอสเตท จำกัด จริงๆแล้วเค้าก็มีประสบการณ์ในด้านการทำธุรกิจอสังหาฯ มานานกว่า 30 ปีแล้วนะ แต่ก่อนหน้านี้ก็จะทำอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นเป็นหลัก และได้เริ่มขยายธุรกิจเข้ามาตีตลาดในกรุงเทพเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองครับ

แน่นอนว่าการก้าวเข้ามาในตลาดขนาดใหญ่ ที่มีพวกพี่ๆหัวเรือเจ้าตลาดหลายต่อหลายเจ้าคุมบังเหียนเอาไว้อยู่ ทางบริษัท พาริช เอสเตท จึงต้องมีการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อสร้าง Branding ให้เข้มแข็งและเป็นที่จดจำแก่ชาวกรุงเทพให้ได้ ซึ่งโครงการแรกของเค้าก็คือ Life Space ดอนเมือง-สรงประภา เป็นทาวน์โฮมสไตล์ Modern ที่ตอนนี้ก็ปิดการขายไปแล้วเรียบร้อยนั่นเองครับ

และปัจจุบันก็คือโครงการ PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 ซึ่งเป็นโปรดักส์แห่งที่ 2 ที่ได้ขยับขึ้นมาทำเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ราคาสิบล้านต้นๆกันบ้าง โดยยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นบ้านสไตล์ Modern ที่ชัดเจน และเป็นโครงการขนาดเล็กยูนิตไม่เยอะเช่นเดิมครับ แต่ก็ยังด่วนตัดสินไม่ได้ว่า Fact เหล่านี้จะกลายมาเป็นลายเซ็นต์ของเค้าหรือเปล่า ดังนั้นเราจึงอาจต้องจับตามองกันต่อไปว่า Developer เจ้านี้จะมีแนวทางการพัฒนาโปรดักส์อย่างไร และอนาคตจะมีผลงานลักษณะไหนออกมาให้เราได้ชมกันอีกบ้างครับ

PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 40 ยูนิตเท่านั้นครับ โดยบ้านเกือบทุกหลังจะอยู่ติดกับถนน Main ทั้งหมดเลย แต่จะมีเฉพาะด้านในสุดเท่านั้นที่เป็นเหมือนซอยแยกย่อยออกมา ซึ่งจะเป็นโซนของบ้าน Type B ที่เป็นบ้านหน้ากว้างอยู่ประมาณ 7 – 8 หลัง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง

แต่จะมีอยู่ 2 ยูนิตพิเศษในกรอบสีแดง (หมายเลข 1 และ 2) จะเป็นหลังที่มีพื้นที่ดินข้างบ้านขนาดใหญ่มากๆครับ แน่นอนว่าก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้นมาเยอะด้วยเช่นกัน จึงเป็นแปลงที่เหมาะกับคนต้องการที่ดินเยอะๆสำหรับใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น ทำสระว่ายน้ำส่วนตัว ทำศาลา/เรือนรับรองแยกออกมาอีกหลังหนึ่ง หรือจะทำเป็นสวนขนาดใหญ่แบบจริงจังเลยก็ได้

และด้วยความที่บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนกับ Main ทำให้บางคนอาจกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวใช่มั้ยครับ แต่ด้วยลักษณะการออกแบบรั้วและช่องแสงของตัวบ้าน ที่ทางผู้พัฒนาได้ใส่เข้ามานั้น จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้พอสมควร ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นกันในพาร์ทของตัวบ้านนะ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะถูกจัดไว้ทางด้านหน้าสุด ประกอบด้วยอาคาร Clubhouse และสวนสาธารณะ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้งานครับ

ซุ้มประตูทางเข้าของโครงการจะเป็นสไตล์ Modern โดยใช้สีและวัสดุเป็นโทนเข้มทำให้ดูหรูหราและเท่มากๆ ซึ่งแตกต่างจากตัวโปรดักส์ด้านในที่จะเป็นโทนสีขาวสะอาดตา

แต่จุดที่น่าสนใจจริงๆก็คือ เค้าจะมีการเว้นระยะให้มีพื้นที่ว่างหน้า Main Gate ค่อนข้างกว้าง เพื่อที่เวลารถเข้า-ออกโครงการ จะได้มีระยะในการจอดพักรถ เพื่อรอดูรถที่ผ่านไป-มาหน้าโครงการก่อนออกตัวได้ ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นนั่นเองครับ

การเข้า-ออกจะใช้ระบบสัญญาณ Bluetooth ที่ลูกบ้านสามารถขับผ่านได้เลยแบบ Easy Pass บนทางด่วน ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับ รปภ. ตรงกลางก่อนตามปกตินะ

โดยทางโครงการจะใช้เป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการเปิด-ปิดมากกว่าไม้กั้นกระดกสักนิดนึงครับ แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

เมื่อเข้ามาด้านในเราจะเจอกับถนน Main ที่มีการปูพื้นด้วย Concrete Stamp สวยงามต่อเนื่องมาตั้งแต่ด้านนอกเลยครับ ซึ่งบริเวณด้านหน้าสุดก็จะมีอาคาร Clubhouse ตั้งอยู่ตรงกลาง ก่อนจะมีทางแยกซ้าย-ขวาไปตามโซนพักอาศัยในแต่ละส่วน

ทางซ้ายมือของซุ้มประตูทางเข้าจะมีสวนสาธารณะตั้งอยู่ ซึ่งจะเน้นเป็นพื้นที่ให้มานั่งเล่นพักผ่อนตอนเย็นๆครับ

สำหรับอาคาร Clubhouse จะเป็นสไตล์ Modern แบบเดียวกับตัวบ้านเลย และมีทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน

โดยพื้นที่ชั้นแรกจะเรียกว่า Lobby Lounge สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน และใช้ในการรับรองแขกได้ด้วย เผื่อในกรณีที่เราไม่สะดวกพาแขกเข้าบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ

ซึ่งจุดเด่นคือ “ผนังกระจกด้านหน้า” ที่ช่วยทำให้บรรยากาศภายในสว่างโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อกับพื้นที่ธรรมชาติภายนอกได้ดีมากๆ (ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่นะครับ ใครสนใจก็มาติดต่อเซลล์ตรงนี้ได้เลย)

ส่วนทางด้านขวามือของห้องจะมีประตูที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันส่วนอื่นๆได้ครับ

สำหรับพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นมุมนั่งเล่นข้างสระว่ายน้ำแบบในร่ม ทำให้เราสามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวแดดเลยครับ

ส่วนตัวสระจะเป็นแบบกลางแจ้งครับ ขนาดกว้าง 4 x 11 m.  พอจะว่ายออกกำลังกายได้อยู่นะ เพียงแต่อาจต้องว่ายวนไป-กลับหลายๆรอบสักหน่อย

จุดที่น่าสนใจของฟังก์ชันนี้ก็คือ เค้าจะมีผนังทึบอยู่ล้อมรอบทุกด้านเลยครับ จึงทำให้เป็นสระที่มี “ความเป็นส่วนตัวสูง” สามารถว่ายน้ำได้แบบไม่ต้องเขินว่าจะมีใครผ่านไป-มาเห็น โดยด้านข้างก็จะทำเป็นพื้นที่สีเขียวเอาไว้ด้วย ทำให้เวลามาใช้งานจะได้ไม่รู้สึกสดชื่นอึดอัดครับ

ทางด้านซ้ายของสระก็จะทำเป็นส่วนน้ำตื้น ให้เด็กๆสามารถลงเล่นได้ด้วยนะ

ส่วนทางด้านขวามือก็จะเป็นพื้นลาดสำหรับคนที่อาจต้องใช้รถเข็น ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังจุดจอดรถด้านหน้า และสามารถเข้ามาใช้งานส่วนกลางได้อีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องผ่าน Lobby Lounge ครับ

ถัดเข้ามาจากโซนสระว่ายน้ำจะเป็นทางเดินด้านหลัง ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำและบันไดทางขึ้นชั้น 2

โดยห้องน้ำจะแยะชาย-หญิง และด้านในก็จะมีห้องอาบน้ำล้างตัวเตรียมไว้ให้พร้อมใช้งาน

ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้อง Fitness ให้ขึ้นมาออกกำลังกายกันได้ครับ

ภายในมีอุปกรณ์หลักๆให้ใช้งานครบครัน และเพียงพอสำหรับโครงการขนาด 40 ยูนิต

โดยช่องแสงทางฝั่งเครื่อง Cardio จะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวข้างสระว่ายน้ำก่อนหน้านี้ได้แบบไม่ต้องก้มมองก็เห็น เพราะเค้าทำเป็นเนินสวนแบบเล่นระดับสูงขึ้นมานั่นเองครับ

สุดท้ายคือบรรยากาศภายในซอยโซนพักอาศัย ก็จะเป็นถนนกว้าง 9 m. พร้อมกับมีการปลูกต้นไม้ริมถนนทุกหลัง ทำให้บรรยากาศค่อนข้างดูสดชื่นดีทีเดียวครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Lobby Lounge
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 4 x 11 m.
  • Fitness
  • Garden ด้านหน้าโครงการ 1 จุด ขนาด 130 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.75 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 9.75 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะไกล ด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
  • มี Junction สำหรับต่อ EV Charger ทุกหลัง เดินไฟ 1 เฟส 30/100

แบบบ้าน

Highlights :

  • บ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะ โดยเฉพาะ Common Area คือกว้างเป็นพิเศษ
  • หน้าตาบ้านเป็นสไตล์ Modern ที่ออกแบบได้เท่และสวยงามมาก
  • ออกแบบผนังและช่องแสง โดยเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยเป็นหลัก
  • ให้วัสดุดี Built-in ครัวมาให้ครบ พร้อมกับจัดสวนรอบบ้านให้ด้วย
  • โครงสร้างแบบก่ออิฐมวลเบา สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่ายในอนาคต

โครงการนี้จะเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างทั้งหมดครับ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน แต่จะเน้นไปทางบ้าน Type A ซะเป็นส่วนใหญ่นะ ออกแบบมาเป็นสไตล์ Modern Minimal ดูทันสมัยและน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ไม่น้อยเลย ก่อสร้างด้วยระบบก่ออิฐมวลเบา (Conventional) มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่ายในอนาคต ประกอบด้วย

  • Type A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Type B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

  • Type A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

จุดเด่นของบ้านโครงการนี้คือ “พื้นที่ใช้สอย” ที่เยอะถึง 240 ตร.ม. อีกทั้งยังเป็น “บ้านหน้ากว้าง” รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จึงทำให้ภายในมีความกว้างขวางและโปร่งโล่งมากๆครับ โดยภาพรวมจะเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง เพราะจะมีข้อจำกัดเล็กๆตรงจำนวนที่จอดรถ 2 คันเป็นมาตรฐาน แต่ถ้าใครมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย เค้าก็มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างรองรับนะ

แปลนชั้น 1 จุดที่ผมประทับใจตอนเดินเข้าบ้านครั้งแรกก็คือ Common Area ที่มีความใหญ่และกว้างมากๆครับ โดยจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Living / Dining และ Pantry ซึ่งเราสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้เองตามต้องการ พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 3 ด้าน ที่สามารถมองเห็นสวนข้างบ้านได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งาน และแบ่งโซนของครัวและแม่บ้านให้อยู่แยกออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วย ส่วนทางเข้าบ้านหลักๆก็จะมี 3 ทางครับ

ความแปลกของแปลนนี้คือ “ตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์” ที่อยู่ตรงกลางด้านหน้าบ้าน ซึ่งโดยทั่วไปห้องแบบนี้มักจะอยู่ในมุมด้านข้างของบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานทำเป็นห้องนอนใช่มั้ยครับ แต่กรณีนี้ผมเลยมองว่าเค้าออกแบบมาเพื่อให้เหมาะจะทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นที่ 2 มากกว่า เพราะเราสามารถใช้รับแขกที่ไม่สนิทได้ดี โดยที่ในบ้านส่วนอื่นๆจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

แปลนชั้น 2 เรียกได้ว่าห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปครับ สำหรับห้อง Master Bedroom นอกจากจะได้พื้นที่เยอะสุดแล้ว ยังได้ห้องน้ำขนาดใหญ่แบบ Sexy Bath และมีอ่างอาบน้ำให้ใช้งานด้วย ส่วนห้องนอนที่ 2 ด้านหน้าก็จะมีช่องหน้าต่างดีไซน์เฉพาะตัวที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ สุดท้ายคือห้องนอนด้านหลังจะเป็นห้องเดียวที่ได้ระเบียงขนาดใหญ่ให้ใช้งาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นห้องไหนๆก็จะมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวกันหมดเลยนั่นเองครับ

พามาดูบ้านเปล่ามาตรฐานกันก่อนครับ ประตูรั้วด้านหน้าจะเป็นเหล็กรางเลื่อนที่ใช้งานได้ง่าย โดยจะถูกออกแบบมาเป็นเหล็กสีดำลายตารางสูงเท่ารั้วทึบเลย ซึ่งช่วยในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนได้ดีมากๆ

โดยรั้วบ้านจะเป็นผนังทึบที่กรุกระเบื้องมาให้สวยงาม ต่างจากบ้านทั่วไปที่มักจะเป็นรั้วเหล็กโปร่ง ซึ่งนอกจากแบบนี้จะดูหรูหราสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ ทำให้มองเข้าไปไม่เห็นด้านในบ้านได้เลยนั่นเองครับ

สำหรับใครที่ต้องการจะติดเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติ ทางโครงการจะทิ้ง Junction เอาไว้ให้มาต่อเพิ่มเองได้ง่ายนะครับ ส่วนอีกด้านของประตูก็จะเป็นช่องทิ้งขยะ ที่สามารถเปิดจากทั้ง 2 ทางได้สะดวก

พื้นที่สีเขียวรอบบ้านทางโครงการก็จะปลูกต้นหญ้า และต้นไทรเกาหลีมาให้เป็นมาตรฐานแบบนี้เลยครับ ซึ่งก็ดูสดชื่นและเขียวขจีดี หรือใครอยากจัดเพิ่มอีกนิดหน่อยในแบบที่ชอบก็ได้นะ

นอกจากนี้ก็จะเห็นว่า ประตูทางเข้าคนเดินจะอยู่ตรงกับประตูกระจกของห้องอเนกประสงค์พอดี จึงเป็นอย่างที่ผมบอกไปในช่วงแปลนแล้วว่า ค่อนข้างเหมาะที่จะใช้รับแขกที่อาจไม่ค่อยสนิท เพื่อที่ส่วนอื่นๆของบ้านจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ

พื้นที่จอดรถกว้าง 5.25 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ แต่ที่ชอบมากๆก็คือ เค้าจะมีการต่อเติมหลังคามาให้แล้วเรียบร้อยเลย ทำให้เราสามารถจอดรถในร่มได้แบบทั้งคัน และไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียเงินไปทำเพิ่มเอง

โดยหากสังเกตดีๆก็จะเห็นว่า มีช่องว่างระหว่างหลังคากับคานเหล็กอยู่ด้านบนด้วย ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เอาไว้ซ่อนหลังคาและรางน้ำฝนได้ดี ทำให้เวลามองดูแล้วก็จะมีความเรียบร้อยมากขึ้นนั่นเองครับ (สามารถติดตั้งรางน้ำฝนในช่องนี้เพิ่มได้เลย)

พื้นที่จอดรถจะลงเสาเข็มมาให้จนถึงรั้วหน้าบ้านเลยครับ โดยจะแบ่ง Joint แยกระหว่างพื้นใต้ชายคาที่จะเป็นเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน กับพื้นส่วนต่อเติมด้านนอกที่เป็นเสาเข็มสั้นลึก 4 m. เพื่อป้องกันดินทรุดตัวในอนาคต ก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลัก

ส่วนวัสดุปูพื้นจะเป็น Concrete Stamp ที่แข็งแรงสวยงามแบบนี้เลย มาพร้อมกับ Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงในยุคนี้เพิ่มเติมได้ด้วย (เป็นไฟแบบ 1 เฟส 30/100)

ประตูทางเข้าจะเป็นไม้บานทึบ และติดตั้ง Digital Door Lock มาให้พร้อมใช้งาน

เมื่อเราเข้ามาทางนี้ก็จะเจอกับโถงทางเดินข้างบันได และแผงควบคุมที่ติดอยู่ตรงผนังด้านข้าง โดยจะเป็นระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ซึ่งจะติดอยู่ตามประตูหน้าต่างทุกจุดของตัวบ้านเลยครับ

ติดกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่อยู่หน้าบ้าน ซึ่งของจริงเราจะได้เป็นผนังเปล่าๆนะ แต่ผมนำการตกแต่งของบ้านตัวอย่างมาให้ดูเป็นไอเดียครับ

ว่าเราสามารถ Built-in ผนังทั้งผืนให้กลายเป็นตู้เก็บของและตู้รองเท้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลย เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้เยอะมากๆ

ภายในห้องอเนกประสงค์จะกว้าง 3.2 x 3 m. ซึ่งเหมาะที่จะทำเป็นห้องทำงานมากๆ เพราะตำแหน่งของประตูกระจกนี้จะอยู่ตรงกับประตูทางเข้าคนเดินหน้าบ้านพอดี เหมาะที่จะใช้รับแขกที่ไม่ค่อยสนิท เพื่อที่ส่วนอื่นๆภายในบ้านจะได้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว

หรือถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนชั้นล่าง ห้องนี้ก็มีขนาดที่สามารถวางเตียงและตู้เสื้อผ้าอีกหนึ่งใบได้สบายๆ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ความเป็นส่วนตัวของคนที่นอนห้องนี้อาจน้อยลงสักหน่อยนะ

มาถึง Highlight ของชั้นนี้ก็คือ Common Area ที่นอกจากจะกว้างขวางแล้ว ยังมีช่องแสงที่ใหญ่มากๆอีกด้วย ซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวสวนข้างบ้าน และเปิดระบายอากาศได้ทั้ง 3 ด้านเลยครับ

โดยความสูงฝ้าคือ 2.95 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 80 x 80 cm. ซึ่งกว้างกว่าโครงการส่วนใหญ่ที่เคยเห็นกันทั่วไป จึงทำให้ยิ่งดูสวยงาม กว้างขวาง และหรูหรามากขึ้นเยอะเลยทีเดียว

เริ่มกันที่บริเวณหน้าบ้านจะเป็นส่วน Living Area สำหรับใช้นั่งเล่นพักผ่อนร่วมกัน หรือจะใช้รับแขกก็ได้ โดยระยะดูทีวีจะกว้าง 3.6 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ 50 –  60 นิ้วได้สบายๆ แถมยังใช้ชุดโซฟาตัวใหญ่แบบหลายที่นั่งได้ด้วย

ส่วนด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ 6 – 8 ที่นั่ง สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบายๆ พร้อมกับชมวิวหรือเปิดประตูเชื่อมต่อไปยังสวนข้างบ้านได้ด้วย

ติดกันจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์โล่งๆ ซึ่งทางโครงการก็ให้ไอเดียมาว่าเราสามารถทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหารได้แบบนี้เลย

ในขณะที่ครัวก็จะมีประตูกระจกกั้นแยกเป็นสัดส่วนออกไป ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันไม่ให้ลอยฟุ้งกระจายเข้ามาในบ้านครับ

โดยฟังก์ชันนี้ก็จะเหมาะไว้อุ่นอาหารเบาๆ หรือแวะทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ เช่น ขนมปัง กาแฟ ก่อนออกจากบ้านก็ได้ครับ

นอกจากนี้ก็ยังเหมาะกับวันที่มีการจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์มากๆอีกด้วย ซึ่งเราจะมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้อยู่ตลอดเวลาเลยนั่นเอง

พื้นที่ภายในกว้าง 2.7 x 2.35 m. มีการลดระดับพื้นลงจากในบ้านเล็กน้อย ทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้เต็มที่

โดยเปลี่ยนวัสดุเป็นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60 x 60 cm. ที่ยังดูสวยงามไม่แพ้พื้นที่ในบ้านเลยครับ

สำหรับครัวเราจะได้ Built-in เคาน์เตอร์แบบบ้านตัวอย่างนี้เลยครับ พร้อมติดตั้ง Hob&Hood จาก Teka และอ่างล้านจานแบบ 2 หลุมใหญ่ๆมาเลย

แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือ เค้าจะกรุผนังด้านข้างฝั่งเคาน์เตอร์ครัวเป็นกระเบื้องทั้งหมด เพื่อทำหน้าที่เป็น Backsplash ในตอนทำอาหารจะได้เช็ดทำความได้ง่ายทั้งผืนเลยนั่นเองครับ

นอกจากนี้ยังมีประตูและหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดระบายอากาศออกไปหลังบ้านได้ครับ ซึ่งก็จะเข้าสู่โซนพื้นที่ทำงานของแม่บ้านแล้วนั่นเอง

ภายนอกจะมีการเทพื้นคอนกรีต ลงเสาเข็มสั้นลึก 4 m. พร้อมปูกระเบื้องมาให้แบบบ้านตัวอย่างเลย จึงเหมาะที่จะทำเป็นครัวไทยหรือล้านซักล้างไว้ตากผ้าได้สบายๆ

ห้องพักแม่บ้านมีขนาด 1.95 x 2.2 m. พอที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าอีกหนึ่งใบได้พอดีๆ รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานสะดวกด้วย

หรือถ้าใครไม่ได้มีแม่บ้านที่ต้องพักค้างคืน ก็สามารถปรับเป็นห้องอื่นๆก็ได้ เช่น ห้องเก็บของ ห้องซักล้างไว้วางเครื่องซักผ้าและมีโต๊ะรีดผ้าจริงจัง เป็นต้น

กลับมาที่โถงทางเดินตรงบันไดหน้าบ้านอีกครั้ง ซึ่งอีกด้านจะมีประตูแยกออกไปอีก 2 ฟังก์ชันคือ ห้องเก็บของใต้บันไดที่สามารถเดินเข้าไปได้ง่ายๆแบบทั้งตัว และมีห้องน้ำให้ใช้งานด้วยครับ

ห้องน้ำนี้จะมีขนาด 1.6 x 2 m. ซึ่งจะมีพื้นที่อาบไว้รองรับการทำห้องนอนชั้นล่างด้วย และเราจะได้สุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ทั้งหมดเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ

บันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงทนทาน เวลาเดินขึ้น-ลงก็จะรู้สึกแน่นดีและไม่มีเสียงดัง ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวเหล็กให้จับเพื่อความปลอดภัยตลอดทาง รวมถึงเรายังมีช่องแสงขนาดใหญ่ และสามารถติด Chandelier สวยๆด้านบนได้อีกด้วย

ชั้น 2 ของตัวบ้านจะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งโถงบันไดก็กว้างขวางใช้งานง่าย มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3 m. และปูพื้นด้วย SPC ลายไม้สวยงาม

เริ่มกันที่ห้องนอนเล็กสุดที่อยู่ทางขวามือ และเป็นห้องนอนที่อยู่ตำแหน่งด้านหลังบ้านด้วยครับ มีขนาดกว้าง 3.2 x 4 m. และมีจุดเด่นมากๆคือ “ระเบียงที่มีขนาดใหญ่พิเศษ” รวมถึงยังได้ช่องแสงที่กว้างมากๆอีกด้วย

ระเบียงภายนอกมีขนาด 6.25 x 1.8 m. ซึ่งเราสามารถออกมาใช้งานเป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวได้สบายๆ โดยระเบียงนี้ก็จะมีส่วนเชื่อมต่อกับช่องแสงของโถงบันไดก่อนหน้านี้อีกด้วยครับ

ส่วนอีกด้านของห้องนอนก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำในตัวครับ

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่  มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Mogen ครบครัน และทั้งห้องจะปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ที่มีค่า R (Slip Resistance Rating) หรือค่ากันความลื่น ที่ทำให้เราสามารถใช้งานห้องน้ำนี้ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นครับ

พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.6 x 2.25 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.4 x 0.95 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ โดยในส่วนของ Shower จะมีฉากกั้นกระจกแบบไม่มีประตูมาให้ด้วยครับ ซึ่งช่วยกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอกได้ส่วนหนึ่ง และมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ถัดมาจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดบนชั้น 2 ลักษณะจะเป็นห้องหน้ากว้างที่เชื่อมต่อตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน จึงมีช่องแสงที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งดีทีเดียวครับ

และหากสังเกตดีๆ ถึงแม้ว่าห้องนี้จะมีผนังติดกับภายนอกถึง 3 ด้านก็จริง แต่เค้าเลือกที่จะทำผนังข้างบ้านให้เป็นผนังทึบทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านหลังข้างๆ และยังทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากผนังภายในได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการ Built-in วางโต๊ะ หรือแขวนสิ่งของต่างๆ

บริเวณหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน 5 – 6 ฟุตได้ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับช่องแสงขนาดใหญ่ และปลายเตียงก็วางทีวีได้สบายๆครับ

โดยช่องแสงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Facade ที่อยู่หน้าบ้าน ทำหน้าที่เป็นราวกันตกและช่วยพรางสายตา ให้ความเป็นส่วนตัวแก่พื้นที่ภายในได้ดี

ซึ่งเวลาที่เราเปิดประตูบานเลื่อนนี้ออก ก็จะทำให้เป็นเหมือน Semi-Outdoor Balcony ที่สามารถยืนรับลมชมวิวจากในห้องได้เลย ส่วนด้านนอกจะกว้าง 25 cm. อาจไม่ได้ออกไปใช้งานได้ แต่ถ้าใครอยากปลูกต้นไม้กระถางหรือทำเป็นไม้เลื้อยเพิ่มเติมก็ได้อยู่ครับ

ส่วนทางด้านหลังของบ้านจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็น Sexy Bath ช่องกระจกขนาดใหญ่ทีเดียว เลยทำให้ตัวห้องรู้สึกกว้างขวางและโปร่งโล่งมากขึ้น

สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet จะกว้าง 1.7 m. สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าได้เต็มที่ ซึ่งก็จะเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 1 m. ให้เดินผ่านได้สบายๆ

ห้องน้ำของ Master Bedroom แน่นอนว่ามีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.8 x 2.25 m. กระจกเงาก็บานใหญ่แบบสุดๆ และจะมีการแบ่งฟังก์ชันกันชัดเจนด้วยฉากกั้นกระจกเป็นสัดส่วน

พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะกว้าง 1.8 x 2.25 m. มีการลดระดับพื้นลงเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก พร้อมกับฉากกั้นกระจกแบบไม่มีประตูเปิด-ปิด ให้อารมณ์เหมือนโรงแรม/รีสอร์ทนั่นเอง

โดยภายในจะมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานได้ 2 อย่างก็คือ Hand Shower สำหรับยืนอาบน้ำแบบปกติ และอ่างอาบน้ำจาก American Standard เผื่อวันไหนอยากนอนแช่น้ำให้หายเหนื่อยก็สามารถทำได้ครับ

ความพิเศษอีกอย่างก็คือ ผนังทั้ง 2 ด้านจะเป็นกระจกแบบเข้ามุม Sexy Bath ที่สามารถมองเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งประโยชน์หลักๆคือ ทำให้ห้องน้ำและห้องนอนมีความสว่าง โปร่งโล่ง และดูกว้างขวาง

แต่ในแง่ของการใช้งานจริงก็อาจต้องติดตั้งมู่ลี่ หรือม่านพลาสติกมาปิดเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้นนะครับ

สำหรับห้องนอนสุดท้ายจะมีขนาดใหญ่รองลงมาจาก Master Bedroom ขนาดกว้าง 6 x 3.55 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆเยอะมากๆ

จุดเด่นของห้องนี้คือ ช่องแสงขนาดเล็กแต่กว้างเกือบเท่าตัวห้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Facade หน้าบ้านนั่นเองครับ

โดยเป็นการออกแบบที่ไม่ใช่เพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานภายในห้องด้วย

ซึ่งถ้ามองจากภายนอกก็เรียกว่าแทบจะไม่เห็นด้านในเลย ส่วนแสงสว่างที่ได้ก็ถือว่าเพียงพอนะ แต่แลกกับความโปร่งโล่งที่น้อยลงกว่าช่องแสงแบบปกติอยู่สักหน่อยครับ

และเนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้าง จึงมีพื้นที่ข้างเตียงให้ใช้งานทำเป็นมุมโต๊ะอเนกประสงค์ และมุมตู้เสื้อผ้าไว้แต่งตัวได้สบายๆ

ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงจะมีห้องน้ำให้ใช้งาน ซึ่งผมแนะนำเพิ่มเติมอย่างงี้ครับว่า หากคนที่อยู่ห้องนี้ไม่ได้มีเสื้อผ้าเยอะมากนัก ก็อาจ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ฝั่งเดียวกับห้องน้ำได้ จะทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินข้ามมาอีกฝั่งของห้องเพื่อแต่งตัวนั่นเอง

แต่ถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะที่อาจเป็นห้องนอนของสาวๆ ก็อาจ Built-in ที่ผนังฝั่งเดียวกับบ้านตัวอย่างได้ ก็จะทำให้ได้ตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่และเก็บของได้เต็มที่มากขึ้นครับ

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องนอนแรกก่อนหน้านี้เลยครับ

ความพิเศษของน้ำนี้ที่ต่างจากห้องอื่นๆคือ เค้าจะได้ช่องแสงที่ติดกับภายนอก 2 ด้านเลยทีเดียว แต่จะเปิดระบายอากาศได้เฉพาะบานกระทุ้งด้านหลังนะครับ

จึงแอบเสียดายนิดนึงที่ด้านหน้าเป็นบาน Fixed ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Facade เพราะถ้าเป็นช่องแสงแบบเปิดได้ ก็จะทำให้เป็นห้องน้ำที่ระบายอากาศได้ดีมากๆเลยนั่นเอง

  • Type B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

สำหรับบ้านหลังนี้จะยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชมกันนะครับ จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือเป็นบ้านหน้ากว้างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งฟังก์ชันภายในจะมีลักษณะคล้ายกับบ้านหลังแรกเลยครับ เพียงแต่จะมีการสลับตำแหน่งของบันไดมาไว้ด้านหน้า และตัดห้องแม่บ้านออกไป เปลี่ยนมาเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว จึงทำให้เป็นบ้านที่เหมาะกับคนที่ต้องการมีห้องผู้สูงอายุชั้นล่างจริงจัง และเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากๆนั่นเอง

ส่วนห้องนอนบนชั้น 2 จะคล้ายๆบ้านหลังแรกเลยครับ แต่ด้วยลักษณะของที่ดินหน้ากว้าง ก็เลยทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนจะดูกว้างไปด้วย ทั้งๆที่พื้นที่ใช้สอยโดยรวมของบ้านทั้ง 2 Type จะเท่ากันคือ 240 ตร.ม. แต่จริงๆแล้วก็อาจเป็นผลมาจากการที่เค้าลดขนาดพื้นที่ส่วนที่ไม่จำเป็นอื่นๆออกไปด้วย เช่น ระเบียง โถงบันได และห้องน้ำครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 ราคา ณ วันที่ 27 มีนาคม 2566

  • Type A บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 11.99 ล้านบาท*
  • Type B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    -ราคาเริ่มต้น 11.99 ล้านบาท*
  • ค่าจอง 50,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 150,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : บนถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ที่ตัวโครงการตั้งอยู่สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง จึงมีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก สะดวกทั้งคนที่จะเข้าเมืองด้วยถนนนครอินทร์ หรือจะไปใช้ถนนกาญจนาภิเษกและทางด่วนศรีรัชก็ได้ แต่ที่น่าสนใจมากๆก็คือ เป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปออกด้านหลังห้างเซ็นทรัลได้ด้วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีทำเลโดดเด่นน่าสนใจ เรียกได้ว่าใกล้ห้างและทางด่วนมากๆครับ

อีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “ความคุ้มค่า” เพราะจากที่ผมได้ลองสำรวจตลาดแถวนี้มาแล้วก็พบว่า ถ้าเป็นโครงการที่ราคาเริ่มต้นพอๆกันที่ 10 ล้านต้นๆ เราจะได้พื้นที่ใช้สอยที่เยอะกว่า 20 – 30 ตร.ม.เลยทีเดียว หรือถ้าเป็นโครงการที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน เราก็จะมีราคาจับต้องได้ง่ายกว่ามากครับ เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่ม 10 ล้านปลายๆจนถึง 20 ล้านบาทขึ้นไปแล้วนั่นเอง

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามีป้อม รปภ. ดูแล 24 ชม. เข้า-ออกด้วยระบบ Bluetooth และใช้เป็นประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า ทำให้มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งยังมีกล้อง CCTV และถ้าเป็นภายในบ้านก็จะติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ที่ประตู-หน้าต่างทุกจุดเลยครับ

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการจัดสรรบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern แบบจ๋าๆทั้งโครงการเลย มียูนิตน้อยเพียง 40 หลัง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย ซึ่งบ้านเกือบทุกหลังจะอยู่ติดถนน Main ทำให้สัญจรได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลากลับรถในซอยเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีการเว้นระยะของถนนหน้า Main Gate เพื่อความปลอดภัยในการขับรถเข้า-ออกโครงการ เพราะทำเลเค้าจะอยู่ตรงถนนโค้งพอดีนั่นเอง ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจในการออกแบบของผู้พัฒนาได้เป็นอย่างดี

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : เป็นบ้านหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะถึง 240 ตร.ม. จุดเด่นของบ้านถ้าสังเกตดีๆเราจะเห็นว่า เค้ามีการออกแบบช่องแสงโดยเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆ ตั้งแต่รั้วหน้าบ้านที่เป็นผนังทึบทรงสูงช่วยบังพื้นที่ชั้น 1 หรือหน้าต่างที่ห้องนอนชั้นบนก็จะทำเป็นแนวยาวแต่แคบ ทำให้มีแสงสว่างเพียงพอแต่มองจากด้านนอกเข้าไปไม่ได้ รวมถึงห้อง Master Bedroom ก็จะทำผนังด้านข้างเป็นแบบทึบทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวจากห้องนอนเล็กของหลังข้างๆกันด้วยนั่นเอง

มาพูดถึงเรื่องแปลนกันสักหน่อยครับ Type A จะเป็นบ้านหน้ากว้างทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส จุดเด่นอยู่ตรง Common Area ขนาดใหญ่ และจัดห้องอเนกประสงค์ให้อยู่ทางด้านหน้า ซึ่งเหมาะจะทำเป็นห้องทำงานและไว้รับแขกที่ไม่สนิท ส่วนห้องนอนชั้นบนแต่ละห้องก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป และจะมีห้องน้ำส่วนตัวทั้งหมดเลย ส่วนแบบบ้าน Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะเท่ากันครับ แต่จะเป็นบ้านหน้ากว้างทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก็เลยจะรู้สึกกว้างขวางมากขึ้น และจุดที่ต่างกันมากๆก็คือ เราจะได้ห้องนอนชั้นล่างขนาดใหญ่และเป็นส่วนตัวขึ้น โดยมีการตัดฟังก์ชันห้องแม่บ้านออกไปนั่นเอง

วัสดุ : ให้มาค่อนข้างดี โครงสร้างก่ออิฐมวลเบาสามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย ที่ชอบมากๆคือเค้าจะต่อเติมหลังคาจอดรถมาให้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินทำเพิ่มเอง ที่จอดรถและซักล้างลงเสาเข็มสั้น รั้วเป็นผนังทึบกรุกระเบื้อง และประตูเหล็กทรงสูงเป็นส่วนตัว พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 80 x 80 cm. ซึ่งเป็นแผ่นใหญ่กว่าโครงการทั่วไป และทำเคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมใช้งานเลยครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถึงแม้ว่าสวนที่ใช้งานจริงๆจะไม่เยอะนัก เพราะเป็นโครงการขนาดเล็กก็จริง แต่บริเวณริมถนนหน้าบ้านและภายในบ้านทุกหลัง ทางโครงการจะปลูกต้นไม้และจัดสวนมาให้เป็นมาตรฐานทั้งหมดเลย ซึ่งเมื่อดูภาพรวมก็จะได้เห็นพื้นที่สีเขียวที่สดชื่นดีทั้งโครงการครับ

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ โดยอาคาร Clubhouse จะประกอบด้วย Lobby Lounge / Swimming Pool และ Fitness แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆก็คือ “สระว่ายน้ำ” ที่จะถูกโอบล้อมด้วยผนังทึบทุกด้าน ทำให้คนที่มาใช้งานจะได้ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนผ่านไป-มาเห็น ซึ่งจะเป็นสระแบบกลางแจ้งและทำพื้นที่สีเขียวด้านข้าง เพื่อให้ความรู้สึกสดชื่นและไม่อึดอัดด้วยครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 11.99 – 15 ล้านบาท, 27 มีนาคม 2566

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่ภายในซอยแต่เข้า-ออกได้หลายทาง ใกล้ห้างและทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ใช้สัญญาณ Bluetooth / ประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า / CCTV / รปภ. 24 ชม. และ Magnetic Sensor ในตัวบ้านทุกยูนิต
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ยูนิตน้อย บ้านหน้ากว้างสไตล์ Modern พื้นที่ใช้สอยเยอะ ออกแบบช่องแสงโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวในทุกๆจุด
  • วัสดุ 8/10 – โครงสร้างก่ออิฐมวลเบา ต่อเติมหลังคาจอดรถมาให้แล้ว ใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ปูชั้นล่างดูสวยงาม และทำครัวมาให้พร้อมใช้งาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีการปลูกต้นไม้ริมถนนที่หน้าบ้านทุกหลัง พร้อมกับจัดสวนในบ้านให้ด้วย ดูแล้วสดชื่นดี
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ สระว่ายน้ำเป็นส่วนตัวมากๆ เพียงต่อต่อจำนวนยูนิต
  • 7.9 / 10.00

PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เหมาะกับใคร

..โครงการ PAUL ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เหมาะกับ คนที่มองหาบ้านเดี่ยวย่านราชพพฤกษ์ ใกล้ห้างเซ็นทรัลและ The Crystal รวมถึงยังใกล้ถนนกาญจนาฯ และไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้สะดวกด้วย โดยเป็นโครงการขนาดเล็ก ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว แบบบ้านหน้ากว้างมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ดีไซน์สไตล์โมเดิร์นแบบแท้ๆเลย และออกแบบช่องแสงโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก พร้อมให้วัสดุดี มีการต่อเติมทั้งหลังคาจอดรถและครัวมาให้แล้ว รวมถึงยังมีฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบอีกด้วย และมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 11.99 ล้านบาทขึ้นไป


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc