รีวิวฉบับที่ 2139 … Centro พหลฯ-วิภาวดี จาก AP โครงการนี้ ปัจจุบันเริ่มเปิดขายเฟสที่ 4 ค่ะ เฟสนี้ถือว่าเป็นเฟสที่ราคาเริ่มต้นเท่ากับช่วง Pre-sale เมื่อ 3 ปีก่อนเลยนะคะ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.99 ล้านบาท เป็นบ้านขนาด 3-4 ห้องนอน 154-200 ตร.ม. เข้า-ออกไปยังถนนพหลโยธิน และ วิภาวดี-รังสิตสะดวก และยังถือว่าเป็นโครงการใกล้ห้าง ห่างจาก Future Park รังสิตประมาณ 2 กม. ใครที่มองห้าบ้านราคาประมาณ 5 ล้านบาท ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน ลองมาอ่านรีวิวนี้กันค่ะ

ข้อมูลโครงการ

9 October 2020

  • เซนโทร พหลฯ-วิภาวดี (Centro Phahon-Vibhavadi)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถ.พหลโยธิน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 61-2-30.84 ไร่ จำนวน 266 ยูนิต
  • ALEXIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ (ในร่ม 1 คัน)
    – ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท (โปรโมชัน 4.99 ล้านบาท)
  • MAGNITUDE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.19 ล้านบาท (โปรโมชัน 6.99 ล้านบาท)
  • SUNSHINE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท (โปรโมชัน 7.59 ล้านบาท)
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.60 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 56,000  บาท
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2564
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • Call Center : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 14.0043899,100.6192001
หรือสามารถคลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ Centro พหลฯ-วิภาวดี มีทางเข้า-ออกหลักอยู่ที่ถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า (ฝั่งเดียวกับ Future Park รังสิต) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในย่านนี้ เน้นการใช้ถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีเป็นหลัก ได้ความสะดวกสบายเพราะใกล้ห้างด้วยค่ะ

Centro พหลฯ-วิภาวดี เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ในโซนรังสิตค่ะ โซนนี้จะมีโครงการบ้านแนวราบเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะเลย เนื่องจากเป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้ ผ่านถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต หรือจะใช้เดินทางออกนอกเมืองไปยังปทุมธานีหรืออยุธยาก็ได้ค่ะ ซึ่งบนถนนเส้นนี้ก็จะใช้เดินทางไปยังหลากหลายมหาลัยชื่อดังที่อยู่ทำเลนี้ได้ เช่น ม.รังสิต, ม.กรุงเทพ รังสิต, ม.ธรรมศาสตร์ เป็นต้น

ความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลนี้อยู่ที่แถว Future park รังสิต ที่มีทั้งห้างหลากหลาย เป็นแหล่งหาของกินและแหล่ง Shopping ของคนแถวนี้เลยค่ะ นอกจากห้างแล้วบริเวณนี้ก็ยังถือว่ามีตลาดแทรกตัวอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่มีชุมชนคนอยู่อาศัยกันเยอะ เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องกินได้เลย

ส่วนเรื่องการเดินทาง ถนนพหลโยธินเองถือว่าเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้เดินทางเข้าไปใจกลางเมืองกรุงเทพฯ มีทางด่วนดอนเมือง-โทลเวย์ ที่เหมาะกับคนที่มองหาบ้านอยู่ชานเมือง แต่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าเมืองค่ะ ตัวโครงการเองก็จะเชื่อมต่อกับถนนรังสิต-นครนายกได้  ใช้ไปยังถนนรังสิต-ปทุมธานี หรือว่าไปทางฝั่งนครนายกเพื่อไปใช้วงแหวน-กาญจนาฯก็ได้เช่นกัน ถือว่ามีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายค่ะ

จุดที่น่าสนใจของโครงการอีกเรื่องที่เรามองคือ โครงการนี้มีเส้นทางเข้าโครงการ 2 เส้นทางค่ะ 1) เข้าจากถนนพหลโยธิน 2) เข้าจากถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งตรงนี้เรามองว่าเป็นข้อดีของโครงการนะคะ เพราะจากโครงการเองถ้าต้องการไปยังฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต ก็ขับไปได้เลย และวนกลับเข้าทางถนนรังสิต-นครนายกได้ เป็นลูป (เส้นทางวนรถ) ที่ไม่ต้องกลับรถค่ะ ประหยัดเวลาด้วย และได้ความสะดวกสบายด้วยค่ะ ถ้าสั่งอาหารจาก Delivery ต่างๆก็ไม่น่าจะรอนาน ค่าส่งก็ไม่แพงด้วยนะ

เส้นทางการเดินทาง

เส้นทางการเดินทางในวันนี้เราขับมาจากถนนวิภาวดี-รังสิต มายังถนนพหลโยธินผ่านโซนฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิตมา และกลับรถก่อนถึงม.กรุงเทพ โดยโครงการสามารถเข้า-ออกได้จากถนนพหลโยธินเป็นหลักค่ะ ซึ่งถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อจากรังสิตไปยังห้าแยกลาดพร้าวได้ง่าย และมี Tollway อยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วย จึงเหมาะกับคนที่ทำงานที่ต้องใช้เส้นทางนี้เป็นประจำค่ะ วันที่เราไปฝนตกพรำๆทั้งวันเลย รูปเส้นทางการเดินทางนี้ก็จะชุ่มฉ่ำหน่อยนะคะ เลื่อนดูได้เลยค่ะ

Image 1/8
เริ่มต้นกันที่ถนนพหลโยธินค่ะ ฝั่งขาออกเมือง มุ่งหน้าไปทางรังสิต ซ้ายมือเจอกับ Big-C ส่วนขวามือจะเป็นเซียร์ รังสิต

เริ่มต้นกันที่ถนนพหลโยธินค่ะ ฝั่งขาออกเมือง มุ่งหน้าไปทางรังสิต ซ้ายมือเจอกับ Big-C ส่วนขวามือจะเป็นเซียร์ รังสิต

ถนนเส้นนี้ทาง AP ได้มีการปรับทัศนียภาพใหม่ดูดีเลยค่ะ เป็นถนนที่กว้าง มีการจัดสวนสองข้างถนน

ตัวถนนเองก็แยกเลนเข้า-ออกคนละฝั่ง ลดความอันตราย และมีบรรยากาศที่ร่มรื่นจากต้นไม้ที่ปลูกสองฝั่งและเกาะกลางถนน

ขับตรงมาจะเจอกับคลอง ตัวสะพานข้ามคลองก็ทำออกมาดูเรียบร้อยสวยงาม

ผ่านคลองตรงมาเราจะเจอกับวงเวียนขนาดใหญ่ ตรงนี้จะเป็นทางเข้าหลัก 2 โครงการของ AP ฝั่งซ้ายเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น โครงการ Pleno พหลโยธิน-รังสิต ส่วนทางขวามือเป็นโครงการที่เราจะมารีวิวค่ะ Centro พหลฯ-วิภาวดี

วนบริเวณวงเวียนก็เลี้ยวเข้าโครงการได้เลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

สถานศึกษา

  • ม.กรุงเทพ ~ 7 km.
  • ม.รังสิต ~ 8.2 km.
  • รร.โชคชัย รังสิต ~ 8.3 km.
  • รร.สายปัญญา รังสิต ~ 9.6 km.
  • ม.ธรรมศาสตร์ ~ 13 km.
  • รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ~ 14.3 km.

ศูนย์การค้าและตลาด

  • Future Park รังสิต ~ 2.1 km.
  • Tesco Lotus รังสิต ~ 2.2 km.
  • Zpell ~ 2.5 km.
  • Major Cineplex รังสิต ~ 2.7 km.
  • ตลาดรังสิต ~ 3 km.
  • เซียร์ รังสิต ~ 6 km.
  • ตลาดไท ~ 16 km.

สถานพยาบาล

  • รพ.เปาโล รังสิต ~ 3.2 km.
  • รพ.บางปะกอก รังสิต2 ~ 6 km.
  • รพ.ปทุมเวช ~ 4.5 km.
  • รพ.ธรรมศาสตร์ ~ 11 km.

รายละเอียดโครงการ

Centro พหลฯ-วิภาวดี เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 61 ไร่ครึ่ง รวมทั้งโครงการมีบ้าน 266 หลัง โดยโครงการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2560 ค่อยๆเปิดขายไปทีละเฟส สร้างเสร็จแล้วขาย ปัจจุบันกำลังก่อสร้างเฟสที่ 4 อยู่ค่ะ เป็นเฟสเกือบสุดท้ายของโครงการแล้วนะ ดังนั้นถ้าใครที่สนใจและได้เข้าไปดูในโครงการก็จะได้เห็นบรรยากาศการอยู่อาศัยจริง เพื่อนบ้านเป็นอย่างไร สภาพโครงการหลังจากที่มีคนอยู่อาศัยว่าเรียบร้อยไหม? ซึ่งเราได้ไปเห็นมาก็รู้สึกว่าโครงการนี้ดูแลความเรียบร้อยดีอยู่นะคะ ต้นไม้ตัดแต่งเรียบร้อย หลังคาที่จอดรถ ถ้าใครจะต่อเติมเพิ่มก็ต้องส่งแบบให้ทางนิติบุคคลดูก่อน เพื่อคุมบรรยากาศภายในโครงการให้ไปในทิศทางเดียวกันค่ะ

มาดูที่ Master Plan ของโครงการกันค่ะ โครงการนี้จะมีทางเข้า-ออกโครงการอยู่จุดเดียว รูปร่างโครงการจะลึกเข้าไป โดยเฟสแรกๆจะอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก ส่วนเฟส 4 ที่เปิดใหม่จะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ โดยในเฟสนี้บ้านที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Alexia นะคะ แต่ถ้าใครสนใจแบบบ้านอื่นๆ ในโครงการนี้ยังมีบ้านทุกแบบเปิดขายอยู่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางจะมีอยู่ 2 จุดหลักๆคือที่ทางเข้าโครงการ เป็นอาคาร Clubhouse รวมกับซุ้มประตูทางเข้า และตรงกลางโครงการเป็นสวนขนาดใหญ่ เราไปดูบรรยากาศภายในโครงการและส่วนกลางกันดีกว่าค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการจะออกแบบเป็นส่วนเดียวกับ Clubhouse สูง 2 ชั้น ทำให้ทางเข้าดูมีขนาดใหญ่ เป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการได้ค่ะ

เนื่องจากหน้าทางเข้าจะเป็นวงเวียนที่ใช้ร่วมกันระหว่าง 2 โครงการของ AP ตรงนี้จึงมีการจัด Landscape ด้านหน้าให้ดูสวยงาม เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เลยค่ะ ดูตัดกับความวุ่นวายจากถนนพหลโยธินด้านนอกเข้ามายังโซนที่อยู่อาศัย

บริเวณซุ้มประตูทางเข้าหลายๆโครงการจะออกแบบด้วยวัสดุปิดทึบ แต่โครงการนี้จะใช้โครงโปร่งดูแปลกตาดีค่ะ เราชอบที่ลมสามารถพัดผ่านได้ มองเข้าไปเห็นต้นไม้สีเขียวที่อยู่ด้านใน

ทางเข้า-ออกจะมีทั้งไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อน แยกทางเข้า-ออกเป็นสองฝั่ง มีพี่รปภ.คอยดูแลอยู่ตรงกลาง

การเข้า-ออกจะใช้ Keycard ระบบ RFID เหมือนกับ Easypass ของทางด่วนค่ะ ในช่วงเวลากลางวันจะเป็นไม้กั้นกระดก ส่วนช่วงกลางคืนจะปิดประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติอีกชั้น

นอกจากทางเข้า-ออกของรถแล้วก็จะมีทางเท้าและประตูเข้า-ออกสำหรับคนเดินด้วยค่ะ และที่ทางเข้าก็จะมี CCTV ติดตั้งอยู่ค่ะ

Clubhouse จะถูกออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกันกับซุ้มประตูทางเข้าเลย เป็นอาคารสูง 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำ , Lounge , Kids room และ Fitness

ที่ชั้น 1 เราจะเจอกับ Lounge ก่อนค่ะ เป็นห้องที่ออกแบบมาดูโปร่ง ห้องจะสูงกว่าระดับฝ้าเพดานปกติ ได้บรรยากาศผ่อนคลาย มุมนี้ถ้าใครมีแขกมาหาและไม่สะดวกให้ไปที่บ้านก็สามารถนัดเจอ พูดคุยธุระตรงนี้ได้นะคะ

ออกจาก Lounge จะเจอกับสระว่ายน้ำค่ะ ตรงนี้จะเป็นสระกลางแจ้งนะ

แยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ โดยสระเด็กจะมีขนาด 5.5×4.5 เมตร

ส่วนสระผู้ใหญ่จะมีขนาด 16.5×4.5 เมตร เป็นสระระบบเกลือ สามารถว่ายออกกำลังกายได้อยู่นะคะ แต่ก็อาจจะเขินหน่อยเพราะตำแหน่งอยู่ด้านหน้าที่มีคนขับรถผ่านไปมา อาจจะเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกๆ และมาใช้สระเล่นกันมากกว่า

สำหรับห้องน้ำและจุดล้างตัวสำหรับคนที่ใช้งานสระว่ายน้ำและส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 ค่ะ หลบอยู่ทางด้านหลังนะ

เดินมาเราจะเจอกับจุดล้างตัว มี 2 จุดทางขวามือ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในค่ะ แยกชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำก็จะมีห้องสุขาและห้องอาบน้ำ สำหรับคนที่มาว่ายน้ำหรือใช้ฟิตเนสก็ชำระล้างร่างกายก่อนเข้าบ้านได้

ห้องน้ำชายก็เช่นกันค่ะ เพียงแต่ผังห้องน้ำจะแตกต่างไปเล็กน้อย มีโถสุขภัณฑ์ชายเพิ่มเข้ามา

ขึ้นมาที่ชั้นบน ห้องตำแหน่งเหนือสระว่ายน้ำจะเป็น Kids Room มีการออกแบบที่ใช้พื้นโฟมรองรับการกระแทก มีมุมนั่งเล่นและของเล่นจัดวางเอาไว้ สามารถพาลูกๆมาเล่นกับเพื่อนได้บริเวณนี้นะคะ

มาที่ฟิตเนสกันต่อค่ะ ตำแหน่งของฟิตเนสจะอยู่เหนือซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ทำให้มองวิวได้ทั้งฝั่งหน้าโครงการและมองวิวเข้าไปในโครงการได้ ตัวห้องจะดูสว่าง โปร่ง มีเครื่องเล่นจัดวางหลากหลายประเภท

มองจากฟิตเนสเข้ามาในโครงการจะเห็นบ้านตัวอย่างและ Sale Gallery

มาดูสวนที่อยู่กลางโครงการกันต่อนะคะ

สวนสาธารณะกลางโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ เน้นไปที่สนามหญ้าโล่ง เด็กๆมาวิ่งเล่นได้เต็มที่

รอบๆสวนก็จะมีทางเดินอยู่ สามารถมาเดินออกกำลังกายท่ามกลางพื้นที่สีเขียวได้

มีมุมเครื่องเล่นเด็กอยู่ด้วย ให้เด็กมาวิ่งเล่นปีนป่ายได้ค่ะ

บรรยากาศภายในสวนเราจะเห็นว่าตรงกลางจะเน้นสนามหญ้า ส่วนรอบๆสวนจะมีต้นไม้ใหญ่ปลูกเป็นแนว

มาดูบรรยากาศถนนภายในโครงการค่ะ ช่วงต้นตัวถนนจะค่อนข้างใหญ่เลย มีการปลูกต้นไม้ใหญ่สองฝั่งถนน ดูร่มรื่นมากเลย

ส่วนถนนหน้าบ้านก็ถือว่ามีระยะที่กว้าง มีทางเท้าเลยแนวต้นไม้ปลูกข้างรั้วบ้าน (ไม่ใช่รั้วบ้านชิดกับถนนเลย) ทำให้บรรยากาศหน้าบ้านดูร่มรื่นพอสมควร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

พื้นที่ส่วนกลางขนาดมากกว่า 2 ไร่ (813.2 ตร.วา)

  • อาคาร Clubhouse 2 ชั้น
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 16.5×4.5 เมตร แยกสระเด็กขนาด 5.5×4.5 เมตร
  • Lounge
  • Fitness
  • Kids room
  • สวนสาธารณะ

ระบบรักษาความปลอดภัยและการบริการ

  • Security Gate เข้าออกโดยใช้ Keycard ระบบ RFID (เหมือน Easy pass ของทางด่วน)
  • CCTV ที่ทางเข้า-ออกโครงการ
  • รปภ. 24 ชั่วโมง
  • ติดตั้ง Magnetic Sensor ให้ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ของบ้าน

แบบบ้าน

สำหรับโครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี จะมีแบบบ้านอยู่ทั้งหมด 4 แบบค่ะ ชื่อว่า Alexia , Starry , Magnitude และ Sunshine เป็นบ้าน 3-4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ 154-200 ตร.ม. ปัจจุบันบ้านแบบ Starry ขายหมดไปแล้ว ส่วนในเฟส 4 ที่เพิ่งเปิดขายนั้น บ้านแบบ Alexia จะมีจำนวนมากที่สุดในเฟสนี้นะคะ ซึ่งในรีวิวนี้ เราจะรีวิวบ้านแบบ Alexia และ Sunshine ให้ดูกันค่ะ

บ้านแบบ Alexia นั้นจะเป็นบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ พื้นที่ 154 ตร.ม. 51 ตร.วา ราคาจะอยู่ที่ 4.99 ล้านบาท ในขณะที่แบบต่อมาที่ขายจะเป็นแบบ Magnitude พื้นที่ 190 ตร.ม. 61 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาทค่ะ ถ้าดูที่ราคาจะเห็นว่าแตกต่างกันอยู่ 2 ล้านบาทเลย ซึ่งบ้านแบบ Alexia นั้นทาง AP ทำราคาลงมาเพื่อให้หยิบจับได้ง่ายขึ้น โดยมีความแตกต่างจากบ้านแบบอื่นๆอยู่ค่ะ
1) เรื่องแรกคือโครงสร้างของบ้าน ในแบบ Alexia นั้นจะเป็นบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบ Pre-cast เป็นระบบที่ก่อสร้างได้เร็วขึ้น ความแข็งแรงทนทานเท่ากับระบบก่ออิฐฉาบปูน แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องการทุบหรือต่อเติมที่ทำไม่ได้ค่ะ (ถ้าถอดประตูออกแบบไม่กระทบโครงสร้างทำได้นะคะ แต่จะทุบผนังเลยทำไม่ได้) ส่วนบ้านแบบที่เหลือของโครงการนี้จะใช้ระบบก่ออิฐฉาบปูนค่ะ
2) วัสดุ บางอย่างที่ให้มาภายในบ้าน แบบ Alexia จะไม่ได้เหมือนกับบ้านแบบอื่นๆ เช่น Wallpaper , เคาน์เตอร์ครัว และ ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน(Magnetic Sensor)

ดังนั้น เรามองว่าคนที่ซื้อบ้านแบบ Alexia ต้องพอใจกับฟังก์ชันที่ให้มาภายในบ้าน ไม่ต้องการซื้อแล้วไปต่อเติมภายในมากมายค่ะ ส่วนฟังก์ชันด้านในจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปดูรีวิวบ้านแบบนี้ละเอียดกันต่อเลย


ALEXIA

ALEXIA เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ (ในร่ม 1 คัน) ราคาโปรโมชันของบ้านแบบนี้อยู่ที่ 4.99 ล้านบาท จุดที่น่าสนใจของบ้านแบบนี้คือเป็นบ้านตอนลึกค่ะ แปลว่าถ้าดูจากหน้าบ้านจะรู้สึกว่าบ้านขนาดไม่ใหญ่มาก แต่พอได้เข้ามาภายในตัวบ้าน ความรู้สึกจะเปลี่ยนไป เพราะเป็นบ้านที่มีฟังก์ชันใช้งานลึกเข้าไปอีกเยอะ

บ้านตอนลึกนั้นจะมีข้อจำกัดเรื่องที่จอดรถอยู่ค่ะ เพราะเป็นแบบบ้านที่จอดรถในร่มได้ 1 คัน ส่วนพื้นที่นอกตัวบ้านนั้นจะจอดได้อีก 1-2 คันก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินในแปลงที่เลือกอีกทีนะคะ เราสามารถต่อเติมหลังคาที่จอดรถเพิ่มเติมได้ (แยกจากโครงสร้างตัวบ้านไปเลย) โดยส่งแบบให้กับทางนิติบุคคลดูก่อน ทางนิติฯจะคอยดูไม่ให้ดีไซน์หรือสีโดดเด่นหรือหลุดจากบรรยากาศรวมๆในโครงการค่ะ

ชั้น 1 ของบ้านจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่จอดรถเราจะขอเรียกว่าฝั่ง Service นะคะ เป็นที่จอดรถ บันได ห้องน้ำ และครัว โดยครัวจะเป็นห้องปิดแยก อยู่ในตัวบ้านเลย เดินงานระบบไว้ให้ ต่อเติมได้ไม่ลำบาก ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่ยาวจากหน้าบ้านไปสู่หลังบ้านเลยค่ะ ซึ่งความที่บ้านเป็นตอนลึก (เราตีผังบ้านออกเป็น 3 ส่วน) ดังนั้นในการจัดพื้นที่เราสามารถกั้นเป็นห้องเพิ่มเติมที่ด้านหลังได้นะคะ เผื่อใครอยากได้ห้องนอนเพิ่ม หรือจัดเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือที่ชั้นล่างได้ โดยที่ฟังก์ชันกินข้าวและรับแขกยังถือว่ากว้างขวาง ใช้งานสบายอยู่

ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง โดย Master Bedroom จะกินพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด มีห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัว ส่วนห้องนอนรองจะเป็นห้องทางฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำร่วมกันด้านนอกค่ะ

มาดูที่ตัวบ้านกันนะคะ หน้าบ้านแบบ Alexia จะเป็นบ้านตอนลึก มองจากด้านหน้าอาจจะดูไม่ได้ใหญ่ อลังการ แต่พื้นที่ใช้สอยภายในจะครบและขนาดใช้งานสบายค่ะ สำหรับบ้านแบบนี้จะมี 2 โทนสีให้เลือก สีเทาแบบในรูป และโทนสีครีมอีกสีค่ะ

ทางเข้าบ้านจะได้เป็นประตูรั้วบานเลื่อน ทางเข้าคนเดินและรถจะใช้ทางเดียวกันค่ะ

ทางด้านหน้าก็จะมีตู้จดหมายพร้อมบ้านเลขที่ กริ่ง และไฟส่องสว่างมาให้ รวมไปถึงตำแหน่งทิ้งขยะ ช่วยให้ขยะอยู่ในตำแหน่งของมันอย่างเรียบร้อย หน้าบ้านก็ไม่มีถังขยะหลากสีวางด้วยนะคะ

ที่จอดรถของ Alexia สามารถจอดได้ 2 คัน โดยจะจอดในร่มได้ 1 คัน ความกว้างที่จอดประมาณ 2.8 เมตร และจอดด้านนอกได้อีก 1 คัน (ต้องวัดจากขนาดที่ดินอีกครั้งนะคะว่าระยะด้านข้างกว้างพอจอดหรือไม่) โครงสร้างที่จอดรถจะเป็น Slab on ground ค่ะ

ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ข้างที่จอดรถค่ะ ซึ่งเราจะเห็นว่าหน้าบ้านถูกเว้นระยะเข้ามาจากแนวรั้วค่อนข้างเยอะเลย ทำให้สามารถปลูกต้นไม้ได้นะคะ ส่วนที่จอดรถก็อาจจะจอดเพิ่มได้เป็น 3 คันเลย

รอบๆตัวบ้านจะมีการปลูกหญ้าให้ค่ะ ฝั่งนี้จะมีห้องเก็บของอยู่ด้านนอกตัวบ้านนะคะ

มาทางฝั่งหลังบ้านจะมีลานซักล้างเล็กๆ เป็นโครงสร้าง Slab On Ground

ตัวบ้านอีกฝั่งจะเป็นสนามหญ้าค่ะ สำหรับบ้านที่มีขนาดที่ดินใหญ่สามารถต่อเติม Glass House เพิ่มได้นะ

กลับมาที่ทางเข้าบ้านอีกครั้งแต่ ตรงทางเข้าจะมีเฉลียงเข้าบ้านในร่ม ยกระดับสูงขึ้นมาจากสนามหญ้ารอบๆตัวบ้าน โดยทางเข้าจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living area ของบ้าน หน้ากว้าง 3 เมตร แต่มีความลึกมากกว่า 9 เมตรเลยค่ะ ความสูงของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.6 เมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่เลยนะคะ สำหรับรูปร่างพื้นที่ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบนี้ก็มีข้อดีเรื่องการจัดฟังก์ชัน ในบ้านทั่วไปเรามักจะเจอกับพื้นที่ที่สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนนิดๆ จัดชุดห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว และเหลือมุมผนังเอาไว้วางชั้นวางของแล้วจบ แต่บ้านที่เป็นตอนลึกแบบนี้เราสามารถลงได้ 3 ฟังก์ชันสบายๆ

ส่วนที่ติดกับประตูทางเข้ามีขนาดประมาณ 3×3 เมตร วางเป็นชุดโซฟาพักผ่อน ดูทีวี และมุมรับรองแขกได้ในตัวค่ะ

พื้นที่ถัดมาจะอยู่ตรงกับบันไดพอดี เราอาจจะจัดเป็นโต๊ะขนาดใหญ่เป็นโต๊ะทำงานและโต๊ะกินข้าวยาวลึกเข้าไปก็ได้ หรือจะเป็นมุมพักผ่อนอีกจุดก็ได้นะคะ

อย่างในบ้านตัวอย่างจะจัดโซฟารับแขกเพิ่มตรงนี้อีกชุด เป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่งเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่ด้านในสุดจะเป็นโต๊ะกินข้าว ซึ่งเราสามารถเลือกเป็นโต๊ะกลม โต๊ะเหลี่ยม วางชิดผนังด้านหนึ่งก็ได้นะคะ หรือใครจะเอาโต๊ะกินข้าวไว้หน้าบันได และกั้นพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน

ส่วนห้องน้ำของชั้นนี้จะอยู่ข้างบันไดค่ะ โดยพื้นที่บ้านฝั่งนี้จะมีประตูทางออกไปยังที่จอดรถ และมีครัวอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน

ห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะมีขนาด 1.5×2 เมตร เป็น Powder room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้มา แต่จะเดินงานระบบไว้ เผื่อใครจะติดฝักบัวอาบน้ำเพิ่มเติมก็ทำได้นะคะ

ห้องครัวที่อยู่ด้านหลังระดับพื้นนั้นจะต่ำกว่าพื้นบ้านชั้น 1 ส่วนอื่นๆ เราจะได้ห้องโล่งขนาด 2.9×1.95 เมตร เดินงานระบบไว้ให้รองรับการต่อเติมเคาน์เตอร์ครัวต่างๆ ห้องครัวนี้จะเป็นครัวปิด ซึ่งมีหน้าต่างและประตู เวลาทำอาหารก็เปิดระบายกลิ่นควันออกทางหลังบ้านได้เลย

เราขึ้นชั้น 2 มาดูด้านบนบ้านกันต่อนะคะ ที่ชั้น 2 นี้ ห้องฝั่งหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ส่วนห้องทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนรองค่ะ

ห้องนอนรองทางฝั่งขวามือค่ะ ห้องที่ใกล้บันไดจะได้ขนาดใหญ่กว่า แต่จะไกลจากห้องน้ำกว่าอีกห้องนอนนะ

ห้องนอนแรกติดบันไดค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่งผนัง ทำให้การระบายอากาศภายในห้องทำได้สะดวก ตัวห้องมีขนาด 4.1×2.9 เมตรค่ะ เราสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้นะคะ เราแนะนำให้หันหัวเตียงไปทางซ้ายมือ เวลานอนจะได้ไม่ร้อนจากความร้อนใกล้กระจกค่ะ

ส่วนผนังฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้าห้องก็เหมาะกับการวางตู้เสื้อผ้า หรือทำมุมโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงาน

อีกห้องจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 2.9×3 เมตรค่ะ ห้องนี้สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้นะคะ

ในบ้านตัวอย่างจะตกแต่งไว้เป็นห้องนอนเด็ก มีมุมนั่งเล่นข้างหน้าต่าง

ส่วนห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองจะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกไว้ด้านใน มีหน้าต่างเป็นช่องแสง และระบายอากาศ

ตัวอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จะได้ของ Cotto ค่ะ

พื้นที่ส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นมานะคะ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเวลาใช้งานจะได้สะดวกค่ะ

มาดูห้องนอนใหญ่ทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ห้องนี้เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับระเบียงนะคะ ในบ้านตัวอย่างจะทำฉากทึบปิด กั้นเป็นพื้นที่แต่งตัวค่ะ

พื้นที่ภายในห้องมีขนาด 3×6 เมตรเลย และความสูง 2.6 เมตร ถือว่าไม่อึดอัดค่ะ

ใครที่ชอบห้องสว่างๆอาจจะสลับหัวเตียงได้นะคะ เพราะในบ้านตัวอย่างจะตกแต่งโดยปิดหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้าน

มุมหน้าห้องน้ำสามารถกั้นทำเป็นพื้นที่แต่งตัวได้ค่ะ

บรรยากาศห้องจริงในบ้านมาตรฐานค่ะ

สำหรับห้องนอนนี้จะมีห้องน้ำในตัว เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้ง อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ก่อนเลย

สังเกตว่าสุขภัณฑ์จะมีการอัพเกรดขึ้นมาจากห้องน้ำอื่นๆนะคะ อย่างอ่างล้างหน้าก็จะเป็นแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์ มีพื้นที่วางของเก็บของมากขึ้น

ALEXIA บ้านมาตรฐาน

ด้านล่างนี้จะเป็น gallery ของบ้านมาตรฐานที่ขายในโครงการค่ะ แต่หลังนี้จะลองกั้นห้องที่ชั้นล่างเพิ่มเติมให้ดู กลายเป็นบ้านที่มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำได้นะคะ ลองเลื่อนดูรูปด้านล่างได้ค่ะ

Image 1/14
ดีไซน์แบบ Alexia ที่มีหน้าบ้านโทนสีครีมค่ะ

ดีไซน์แบบ Alexia ที่มีหน้าบ้านโทนสีครีมค่ะ


Magnitude

บ้านตัวอย่างอีกแบบที่จะพาไปดูเป็นบ้านที่มีชื่อว่า Magnitude เป็นบ้านขนาด 190 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถค่ะ สำหรับบ้านแบบนี้จะเป็นแบบหน้ากว้าง เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นว่าบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลย ส่วนภายในพื้นที่ใช้สอยแต่ละฟังก์ชันก็มีขนาดกว้าง ใช้งานสบาย

ชั้น 1 เราขอแบ่งพื้นที่ออกเป็นทางซ้าย ฝั่งที่จอดรถ ตรงกลางบ้าน และทางขวาพื้นที่นั่งเล่นนะคะ โดยจุดที่น่าสนใจคือการวางพื้นที่ห้องนอนชั้นล่างไว้คนละฝั่งกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ตรงนี้ก็จะช่วยให้ห้องนอนนี้ได้ความสงบมากขึ้น เหมาะกับฟังก์ชันที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อาจจะนอนพักผ่อนหรือทำงานอยู่ ก็จะห่างจากคนที่นั่งพูดคุยกินข้าวหรือดูทีวีได้ค่ะ และมีห้องน้ำอยู่ตำแหน่งไม่ไกลอีกด้วย ส่วนตำแหน่งกลางบ้านจะเป็นฟังก์ชันอย่างบันไดและห้องครัว โดยห้องครัวจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน สามารถเดินอ้อมไปทางด้านหลังได้ หรือจะตัดเข้าไปจากประตูที่จอดรถก็ไม่ไกลมากค่ะ ส่วนฟังก์ชัน Living area ที่อยู่ทางขวามือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับแขก และกินข้าวต่อเนื่องกัน พื้นที่ตรงนี้ก็จะออกแบบให้มีหน้าต่างเยอะ รับแสงและระบายอากาศได้ดี

ชั้น 2 จะเป็นส่วนพักผ่อนของครอบครัวค่ะ โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางขวามือส่วนห้องนอนรองจะอยู่ซ้ายมือโดยใช้ห้องน้ำร่วมกัน ความน่าสนใจคือบ้านแบบนี้จะมีพื้นที่ Family area อยู่ตรงกับบันไดที่ชั้น 2 พื้นที่ตรงนี้สามารถกั้นเป็นห้องได้ หรือจะเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือแบบเปิดโล่งก็ได้ค่ะ เราลองไปดูบ้านตัวอย่างกันนะคะ

Magnitude บ้านหน้ากว้างค่ะ

ที่จอดรถของบ้าน Type นี้จะมีความกว้าง 5 เมตร ลึก 4 เมตร มีประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถด้วยค่ะ

ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ด้านข้าง เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน

เข้ามาภายในบ้านจะเป็น Living Area ลึก 6.6 เมตรค่ะ

ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับแขก ส่วนนี้จะดูโปร่งและสว่างเลย มีหน้าต่างและประตูขนาดใหญ่ 2 ด้าน

สามารถจัดชุดโซฟา 3-4 ที่นั่งได้ค่ะ พื้นที่ส่วนนี้มีขนาด 3.5×3 เมตร

ถัดเข้ามาด้านในจะมีขนาดใหญ่ขึ้น วางโต๊ะกินข้าว 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ตรงนี้มีขนาด 3.5×3.9 เมตรค่ะ

ถัดเข้าไปอีกฝั่งจะเป็นครัวค่ะ ในบ้านจริงพื้นที่ครัวจะเป็นห้องปิดนะคะ แต่ในบ้านตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นครัวฝรั่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวแทน คนที่ชอบดีไซน์แบบนี้ก็สามารถทุบผนังดัดแปลงต่อเติมทีหลังได้ค่ะ โครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ต่อเติมได้ไม่ยาก

บรรยากาศ Living area+Dining area ของบ้านแบบ Magnitude

ในบ้านจริงส่วนนี้จะได้เป็นครัวปิดนะคะ

สำหรับบ้านแบบ Magnitude จะมีการก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้สองฝั่งตามแปลนบ้านค่ะ ขนาดครัวจะอยู่ที่ 2.55×2.6 เมตร

มีหน้าต่างไว้ระบายอากาศ และประตูออกไปยังลานซักล้างที่อยู่หลังบ้านด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับครัวจะเป็นบันไดค่ะ โดยบ้านแบบนี้จะมีห้องเก็บของใต้บันได มีประตูปิดมิดชิดให้มาด้วย

และมีทางออกไปยังพื้นที่จอดรถของบ้าน ใครที่กลับบ้านมาแล้วไม่อยากเดินผ่านห้องนั่งเล่น กลัวจะรบกวนคนที่ใช้งานอยู่ก็เดินเข้าประตูนี้ขึ้นบันไดเข้าห้องตัวเองได้เลย

ถัดเข้าไปจะเป็นห้องน้ำที่ชั้น 1 อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถค่ะ ส่วนในสุดจะเป็นห้องนอนที่ชั้นล่างนะคะ

ห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะออกแบบไว้ให้มีพื้นที่อาบน้ำด้านใน รองรับการใช้งานห้องนอนชั้นล่างค่ะ โดยสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำยังเป็นของ Cotto อยู่นะคะ

ห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเป็นห้องที่มีหน้าต่าง 3 ด้านของผนังเลย โดยมีขนาด 3×3.2 เมตร ใช้เป็นห้องนอน หรือห้องทำงานได้ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันค่ะ โครงสร้างบันไดนี้จะเป็นคสล. เดินแล้วแน่น ไม่รู้สึกโคลงเคลงค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเจอกับ Family area ตรงกับบันไดเลย พื้นที่ส่วนนี้มีขนาด 2.4×2.7 เมตร

หันมาทางซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปยังห้องนอนรอง 2 ห้องและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน

ห้องน้ำก็จะมีผังและสุขภัณฑ์เช่นเดียวกับห้องน้ำที่ชั้นล่างนะคะ แยกพื้นที่ส่วนเปียก/ส่วนแห้งไว้ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมา

สุขภัณฑ์จะใช้ของ Cotto ด้านหลังมีผนัง Low wall สามารถวางข้าวของเครื่องใช้ได้ วางเทียนหอม Diffuser ดับกลิ่น สร้างบรรยากาศให้ห้องน้ำก็ได้นะคะ

ส่วนอาบน้ำจะได้ฝักบัวแบบ Hand shower มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำค่ะ

มาดูห้องนอนทางฝั่งหลังบ้านกันก่อน ห้องนี้จะมีหน้าต่างอยู่ 2 ด้าน ตัวห้องมีขนาด 2.15×3.2 เมตร วางเตียง 3.5 ฟุตและมีทางเดินรอบๆเตียงได้นะคะ

เรามองว่าเป็นห้องที่อยู่อาศัยคนเดียวสบายเลย มีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและเก็บของในตัวค่ะ

อีกห้องนอนรองจะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ ห้องนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ เพียงแต่ไม่มีห้องน้ำในตัวนะ ขนาดห้องอยู่ที่ 2.7 x 5.2 เมตรค่ะ

ขนาดเตียงก็เลือก 5-6 ฟุตได้สบาย เดินได้รอบเตียง อยู่กัน 1-2 คน

มุมหน้าทางเข้าก็จัดเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมทำงาน / พักผ่อนส่วนตัวในห้องนอนได้ค่ะ

เราไปดู Master Bedroom ของบ้านกันต่อนะคะ ทางเข้าติดกับ Family area เลย

เข้ามาจะเป็นพื้นที่กลางห้อง ฝั่งขวามือเป็นหน้าบ้าน เหมาะกับการวางเตียงนอนพักผ่อน ส่วนทางซ้ายมือเป็นมุมแต่งตัวและห้องน้ำ

ส่วนพักผ่อนจะมีขนาด 4×4 เมตร ถือว่าใหญ่เลยค่ะ วางเตียงขนาดใหญ่ได้และมีทางเดินรอบเตียง

ห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัวภายใน กว้าง 70 ซม.

มองจากระเบียงเข้าไปในห้อง ถือว่าห้องมีขนาดใหญ่ แบ่งฟังก์ชันต่างๆเป็นสัดส่วนดีนะคะ

พื้นที่หน้าห้องน้ำมีขนาด 2.4×2.8 เมตร จัดเป็น Walk-in Closet ได้ ใครจะกั้นแยกเป็นห้องก็ได้เช่นกันค่ะ

ห้องน้ำก็จะมีขนาดและ Layout คล้ายกับห้องน้ำอื่นๆในบ้าน เพียงแต่สุขภัณฑ์จะอัพเกรดขึ้นมา

ยี่ห้อยังเป็นของ Cotto อยู่ค่ะ แต่ว่าตัวอ่างจะเป็นรุ่นฝังเคาน์เตอร์ ทำให้เรามีพื้นที่รอบๆเคาน์เตอร์วางข้าวของเครื่องใช้ และมีชั้นเก็บของใต้เคาน์เตอร์เพิ่มขึ้นมาด้วย

ส่วนห้องอาบน้ำก็จะมีชั้นวางของ ได้ฝักบัวแบบ Hand Shower พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.35×0.90 เมตร ถือว่าใช้งานหมุนตัวสบาย


STARRY

แบบ Starry นี้จะเป็นบ้านขนาด 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถค่ะ แบบนี้จะขายหมดไปแล้วนะคะ

จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือมีครัว 2 จุดค่ะ คือครัวที่อยู่ในห้องปิด กับพื้นที่หน้าห้องครัวที่สามารถทำเป็น Pantry หรือครัวฝรั่งได้ ส่วนห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ชั้นล่างนี้จะมาอยู่ใกล้กับพื้นที่กินข้าว สามารถทุบผนังทิ้งกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่โล่งต่อเนื่องกันได้ หรือจะกั้นเอาไว้ และใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนก็ได้ค่ะ โดยที่ห้องน้ำชั้นล่างนี้ก็จะดีไซน์แบบมีพื้นที่อาบน้ำให้มาด้วย

ส่วนชั้น 2 นั้นจะเป็นห้องนอน โดยแนวคิดจะเหมือนเดิมค่ะ Master Bedroom จะมีพื้นที่ใช้สอยในห้องขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัวและมีระเบียง ส่วนห้องนอนเล็กจะมีขนาดกะทัดรัดลง และต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน


SUNSHINE

แบบบ้านสุดท้ายคือแบบ Sunshine บ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ มีพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

จุดเด่นของบ้านแบบนี้มีหลายอย่างค่ะ ชั้น 1 เราจะเห็นว่าทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ทางด้านข้าง และมีพื้นที่สวนแทรกอยู่กลางบ้านเลย ทำให้ก่อนเข้าบ้านเราจะเจอกับพื้นที่สีเขียว และหลังจากเข้าบ้านก็จะเจอโถงหน้าบันไดและพื้นที่สีเขียวอีก โดยฟังก์ชันรับแขกและกินข้าวนั้นจะถูกวางไว้ทางฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องนอนที่ชั้นล่างจะอยู่ทางหน้าบ้านแทน

ส่วนชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องนอนโดยทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว เป็นห้องขนาดใหญ่วางเตียงขนาดใหญ่ได้ และมีพื้นที่ Family area แยกเป็นสัดส่วนอยู่ข้างๆบันไดหันออกฝั่งหน้าบ้าน ทำให้เราสามารถเลือกกั้นเป็นห้องปิดได้ ทำห้องนอนเพิ่มก็ได้ค่ะ ถือเป็นบ้านที่รองรับการอยู่อาศัยได้ 3 Generationเลย


สรุปโครงสร้างและวัสดุที่ได้ภายในตัวบ้าน

  • บ้านแบบ Alexia โครงสร้าง Pre-cast
  • บ้านแบบ Starry, Magnitude และ Sunshine โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน
  • พื้นที่จอดรถและพื้นลานซักล้างนอกตัวบ้าน โครงสร้าง Slab on ground
  • พื้นชั้น 1 กระเบื้องแกรนิตโต้
  • พื้นชั้น 2 และห้องนอน ไม้ลามิเนต
  • ผนังติด Wallpaper (ยกเว้นแบบ Alexia)
  • ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ครัว : เดินงานระบบและก่อเคาน์เตอร์ให้ (ยกเว้นแบบ Alexia ไม่มีชุดครัว)
  • ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ของ Cotto
  • สัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor (ยกเว้นแบบ Alexia)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

09 October 2020

  • ALEXIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ (ในร่ม 1 คัน)
    – ราคาโปรโมชัน 4.99 ล้านบาท
  • MAGNITUDE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาโปรโมชัน 6.99 ล้านบาท
  • SUNSHINE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 56,000 บาท
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ (สำหรับแปลงโปรโมชัน)
  • ฟรี ค่าติดตั้งและประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา (สำหรับแปลงโปรโมชัน)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Centro พหลฯ-วิภาวดี ตั้งอยู่ในโซนรังสิต มีจุดน่าสนใจอยู่ 2 จุดคือ 1) สามารถเข้าไปยังโครงการผ่านทางถนนพหลโยธินหรือรังสิต-นครนายกได้ ซึ่งข้อดีของการที่มีทางเข้า-ออกโครงการผ่านถนนพหลโยธินคือ การใช้งานทางด่วนดอนเมือง-โทลเวย์ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้เยอะเลยค่ะ และ 2) ใกล้กับ Future park รังสิต ที่ถือว่าเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของคนที่อาศัยอยู่ทำเลนี้ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
เรื่องความปลอดภัยภายในโครงการก็จะตามมาตรฐานทั่วไป คือมีทางเข้า-ออกที่ใช้ Keycard มี CCTV มีรปภ.ดูแลความเรียบร้อย ส่วนในตัวบ้านจะได้ระบบ Magnetic Sensor ที่ชั้น 1 ในบ้านทุกแบบ(ยกเว้น ALEXIA)

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3-4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ จึงเหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว มีที่ดินโดยรอบบ้าน อยู่กันได้ 2-3 Generations แม้กระทั่งบ้านขนาดเล็กสุดอย่าง Alexia ก็สามารถจัดห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มได้อีก 1 ห้องค่ะ ส่วนเรื่องความแตกต่างของบ้านแต่ละแบบนั้น แต่ละแบบบ้านก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกันไปเล็กน้อยเช่น Sunshine ที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่สีเขียวอยู่กลางบ้าน และห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องค่ะ ทีนี้จะเลือกบ้านแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของแต่ละคนนะคะ

วัสดุ :
ในเรื่องของโครงสร้างบ้าน แบบ Alexia จะใช้โครงสร้างแบบ Pre-cast ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องการทุบผนังและต่อเติมภายในบ้าน ส่วนแบบอื่นๆ Starry, Magnitude, Sunshine จะใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนค่ะ ในส่วนของวัสดุภายในบ้านก็จะได้ตามมาตรฐานของราคานะ พื้นจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และลามิเนต ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ของ COTTO ส่วนครัวจะมีก่อเคาน์เตอร์ในห้องครัวให้ยกเว้นแบบ Alexia นอกจากนั้นถ้าเป็นแบบ Starry, Magnitude, Sunshine ก็จะได้ Wallpaper กับ Magnetic Sensor ที่ชั้นล่างของบ้านค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
โครงการสร้างมาประมาณ 2-3 ปีโดยแบ่งขายไปทีละเฟสค่ะ ปัจจุบันเราก็เลยได้เห็นบรรยากาศเฟสแรกๆที่มีคนเข้ามาอยู่อาศัยกันแล้ว ซึ่งเรามองว่าดูร่มรื่นและสะอาดดีนะคะ ทั้งสองข้างทางของถนนหน้าบ้านก็จะมีต้นไม้ใหญ่ปลูก ถนนก็ถือว่าขับรถสวนกันได้สะดวก ตรงกลางของโครงการก็จะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่เป็นสนามหญ้าให้มาเดินเล่นออกกำลังกายได้ค่ะ นอกจากนั้นตรงทางเข้าหลักของโครงการจะเป็นเส้นทางที่ทาง AP ปรับทัศนียภาพ และใช้ร่วมกับโครงการ Pleno ที่เป็นทาวน์โฮมของ AP ข้างๆ เลยทำให้มีพื้นที่สีเขียวอยู่ที่หน้าโครงการอีกด้วย

สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นอาคาร Clubhouse ที่ถูกออกแบบมาเป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้าที่อยู่หน้าโครงการ เป็นอาคาร 2 ชั้น ประกอบด้วย Lounge, สระว่ายน้ำ, Kids room และฟิตเนส ส่วนที่ 2 จะอยู่กลางโครงการเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 8 ล้านบาท, 09 October 2020 

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – เข้าโครงการได้ 2 ทาง ใกล้ห้าง
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รปภ. ไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อน มี Magnetic Sensor ใน 3 แบบบ้านใหญ่
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – Target 2-3 Gens ที่ต้องการ 3-4 ห้องนอน 2 ที่จอด มีบ้านให้เลือกถึง 4 แบบตาม Lifestyle และงบประมาณ
  • วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ร่มรื่นตั้งแต่ทางเข้าถึงด้านในโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ฟังก์ชันมาตรฐาน มีสวนตรงกลาง
  • 7.99 / 10.00 

BOTTOM LINE

Centro พหลฯ-วิภาวดี เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาบ้านเดี่ยวเข้า-ออกจากถนนพหลโยธินหรือวิภาวดี-รังสิต ในงบประมาณ 5-8 ล้านบาท เน้นความสะดวกสบาย ใกล้ห้าง ใกล้ทางด่วน อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดกลาง 2-3 Generations มีกำลังผ่อนอยู่ 35,000 – 56,000 บาทต่อเดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Websitewww.thinkofliving.com
Twitterwww.twitter.com/thinkofliving
YouTubewww.youtube.com/ThinkofLiving
Instagramwww.instagram.com/thinkofliving
FacebookThinkofLiving