Bless town สุขุมวิท 50 ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5 เมตร สไตล์ Modern Loft ในซอยสุขุมวิท 50 โดย เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป [รีวิวฉบับที่ 689]

สวัสดีค่ะ มิตรรักแฟนเพจผู้อ่านทุกท่าน …..รีวิวฉบับที่ 689 ฝนจะพาไปเจาะลึกโครงการ Bless Town สุขุมวิท 50 ติดสถานีสูบน้ำพระโขนง ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร จำนวน 56 ยูนิต ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัช ตัวโครงการ จัดเรื่องระบบ CCTV ให้มาแบบพิเศษคือ ลูกบ้านสามารถเปิดภาพใน CCTV ดูจาก Application ได้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ปัจจุบันโครงการเหลืออยู่ประมาณ สิบกว่าหลังค่ะ รายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรตามไปอ่านได้ค่ะ

Fact @ 7 October 2014 

• Bless Town Sukhumvit 50 (เบล็ส ทาวน์ สุขุมวิท 50)
• Blessed Asset Group Co., Ltd.
• UPPER CLASS 
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองเตย
• เนื้อที่โครงการ  ไร่
• ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร จำนวน 56 ยูนิต 
• แบบ 3 ห้องนอน  4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร
• ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตรและ Double Space สูง 6 เมตร
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20.6 ตารางวา
• ราคาเริ่มต้น 8.9  ล้านบาท  (แปลงกลาง 8.9-9.69 ล้านบาท, แปลงมุม 10.79-14.2 ล้านบาท) 
• เริ่มก่อสร้าง มิถุนายน 2555
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ธันวาคม 2557
• http://www.bagroup.co.th/page_a.php?cid=10&cname=Project%20Info
  
• สำนักงานขาย : 02-742-7468-9

ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้นะคะ 😀

New ! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.707854, 100.594931

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

 

Bless Town นั้นตั้งอยู่ในซอยย่อยของสุขุมวิท 50 ค่ะ เป็นที่ตั้งของสถานีสูบน้ำพระโขนง หากเราไม่ได้ใช้ถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิท ในการเดินทางเข้าออก สามารถเลือกใช้พระราม 4 กล้วยน้ำไท มาทางโครงการได้ค่ะ อีกเส้นทางที่สำคัญไม่เอ่ยจะไม่ได้สำหรับซอยสุขุมวิท 50 คือ ทางด่วนนั่นเอง แถวนี้เดินทางด้วยทางด่วนสะดวกค่ะ จะเสียแต่รถบรรทุกค่อนข้างเยอะ

 

ส่วนระบบขนส่งอื่นๆนั้น ระยะเดินจากบีทีเอสอ่อนนุชก็ เกือบๆโลนึงนะ ถ้าเดินเข้ามาก็ต้องเหนื่อยพอควร

เส้นทางที่ฝนใช้คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าไปทางบางนาค่ะ

จะเห็นว่ามีป้าย สุขุมวิท 50 โผล่อยู่ ในอนาคต จะสามารถไปลงที่ซอย 50 ได้นะคะ แต่ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ใช้ค่ะ เราจะไปลงที่ซอยสุขุมวิท 62 ค่ะ

ลงทางด่วนแล้วจะเห็นป้ายแยกไป สุขุมวิท 62  ก็ชิดซ้ายตามไปเลย

เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62 จะมีทางแยกซ้ายมือซึ่งเราจะไปทะลุที่ซอยสุขุมวิท 50 ได้ แต่ซอยมันจะเล็กกว่านิดนึง

ระยะทางก็ประมาณ 2.6 กิโลเมตรค่ะ ใช้ซอยสวัสดี 4 ทะลุไปได้จะซิกแซกนิดนึง เอาเอาใช้หลบรถติด

ส่วนทางที่ฝนใช้ก็ตรงไปออกสุขุมวิทแล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 ค่ะ ไกลกว่ากันหน่อยประมาณ 200-300 เมตรแต่ทางหลักเส้นสุขุมวิทนี่รถติด

ปากซอยเป็นสามแยกค่ะเราก็เลี้ยวซ้าย

BTS สถานีบางจาก จะอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 62

พอขับมาประมาณสุขุมวิท 54 มีคอมมูนิตี้มอลล์กำลังก่อสร้าง เดอะฟิลล์

เป็นศูนย์การค้าแนวไลฟ์สไตล์ แบบทั้งมี Indoor และ Outdoor คิดว่าจะเสร็จประมาณปีหน้าค่ะ แถวนี้ก็จะได้มีห้างไว้จับจ่ายมากเพิ่มขึ้น

ใกล้ BTS อ่อนนุช เข้ามาจะเริ่มเห็นคอนโดมิเนียมเรียงตัวเป็นแถวๆ

โดยห้างสรรพสินค้าที่ไว้พึ่งพาคนที่นี่คือ Tessco Lotus มายาวนาน

โลตัสนี่ทำเลก็ดีมาก สามารถเข้าจากทางเชื่อมได้เลย

เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 ค่ะ ที่ปากซอยจะมีโครงการ Rhythm 50 ตั้งอยู่

Rhythm 50 ตั้งอยู่หัวมุมพอดี ตรงข้าม Tessco Lotus

ซอยนี้เป็นซอยที่ไปทะลุขึ้นทางด่วนได้ บางทีเราจะเห็นรถบรรทุกวิ่งผ่านเยอะเพราะไปท่าเรือคลองเตยได้ค่ะ บริเวณต้นซอย ถนนจะเป็น 4 ช่องการจราจรแบบนี้

พอเข้าไปถนนจะเริ่มแคบลงเหลือ 2 ช่องการจราจร

จากปากซอยสุขุมวิท 50 เข้ามา 450 เมตรจะถึงปากทางเข้าโครงการค่ะ จริงๆสังเกตเห็นยากอยู่เหมือนกัน จุดสังเกตคือซอยเดียวกับสถานีสูบน้ำพระโขนงค่ะ

เข้ามาในซอยจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านแถว ตึกแถว หอพัก มีพี่วินฯ มีร้านขายข้าวเล็กๆ ไม่ได้จอแจมากแต่พอฝากท้องได้บ้าง

จากนั้นเราจะลอดใต้ทางด่วนไปนะคะ ซึ่งทางโครงการมีเช่าพื้นที่ใต้ทางด่วนเอาไว้สำหรับกรณีรถจอดกันเยอะในโครงการ สามารถมาจอดตรงนี้ได้ แต่ก็ต้องเดินมานะ โดยพื้นที่ใต้ทางด่วนจะมีการปรับปรุงให้เป็นพื้นที่ขายของและยาวไปถึงริมคลองเป็นตลาดน้ำเลย แต่เป็นนโยบายที่ต้องรอแน่ๆ ไ่รู้จะเห็นเป็นรูปร่างเมื่อไหร่

ซอยนี้จะเป็นซอยตันค่ะ เข้ามาเกือบสุดซอยเลย อยู่ทางซ้ายมือ จากเมื่อกี้ที่เราเลี้ยวขวาเข้ามาประมาณ 400 เมตรค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โลตัส อ่อนนุช
• บิ๊กซี เอ๊กตร้า อ่อนนุช
• BTS อ่อนนุช
• ทางด่วน
• โรงพยาบาล
• โรงเรียน
• โรงแรม
• สถานที่ราชการ

เจาะลึกตัวโครงการ

ดูผังรวมกันก่อนจะเริ่มดูภาพจริงกันนะคะ รอบๆนั้น เรียกว่าเป็นชุมชนอยู่อาศัยเลยค่ะ ถ้าไม่นับว่าภายในมีสถานีสูบน้ำนะ ซอยนี้คนเข้าออกก็มีแต่ชาวบ้านที่อาศัยค่ะ

เดินดูรอบๆกันบ้างนะคะ ซุ้มทางเข้าโครงการ

    

ห่างไปประมาณ 1 ห้องก็จะเป็นสถานีสูบน้ำพระโขนงค่ะ เป็นทางตันและ คนเข้าออกซอยนอกจากชาวบ้านแถวนี้ก็คนที่ทำงานในนี้แหละ

ติดกันกับโครงการอีกข้างก็เป็นบ้านไม้สองชั้น

มองย้อนออกไปที่ปากซอยค่ะ จะเห็นว่าสภาพเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย ร้านรวงไม่เยอะ ไม่คึกคักมาก เงียบๆ ห่างจากใต้ทางด่วนพอสมควร

   

ทางเข้าโครงการจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆด้านในตรงประตูรั้ว ซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่

 

ประตูจะเปิดทีละบานค่ะ

Key Card เป็นแบบ Long Range เหมือนบัตรอีซี่พาส ทางด่วน ไม่ต้องแตะ จะเห็นว่าอยู่ฝั่งข้างซ้ายเพราะไม่ต้องไปเปลืองพื้นที่สำหรับติดที่แตะอยู่ตรงขวามือ (ข้อมูลเพิ่มเติมจากโครงการ วันที่ 15 / 10 /2014 ) แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ต้องให้ รปภ. คอยดูด้วยว่า มีคนเนียนตามมาอีกหรือไม่

 

ส่องสภาพน้ำให้ดู เนื่องจากอยู่ติดสถานีสูบน้ำ มีกลิ่นพอสมควรบริเวณนี้

พอขับข้ามสะพานมาจะเจอยูนิตพักอาศัยเลยค่ะ

 

ส่วนกลางของที่นี่จะไม่มีสโมสรนะคะ จะมีแต่สวนอย่างเดียว

จะเห็นว่าถนนกว้างก็จริง แต่มีลูกบ้านเข้ามาอาศัยแล้วจะมีรถจอดแบบนี้เลย ถึงโครงการจะมีการดูแลว่าเช่าพื้นที่ใต้สะพานเอาไว้เผื่อ แต่สุดท้ายแล้วต้องดูระยะยาวค่ะ

มองไปด้านข้างเห็นสถานีสูบน้ำชัดเจน มีแค่คลองระบายน้ำกั้นค่ะ

งานก่อสร้างของโครงการ ส่วนโครงสร้างก็เสร็จกันไปเกือบหมดแล้ว

จะเห็นว่ามีระแนงบังแดดที่หน้าบ้านแต่ละหลัง ซึ่งสลับกันทั้งขาว และดำ

ถนนกว้างประมาณ 9 เมตร ทั้งโครงการ

ด้านในสุดเป็นเฟสสุดท้ายที่ยังมีการก่อสร้างล่าสุดค่ะ ซึ่งจะมีสวนอยู่ทางขวามืออีกจุดนึงในโครงการ

กล้อง CCTV จะมีทุกแยกและทุกซอยค่ะ ซึ่งเจ้าของบ้านแต่ละหลังสามารถ ดูหน้าบ้านตัวเองและถนนส่วนกลางได้จากมือถือค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนสาธารณะ
• ระบบ CCTV  16 ตัว ติดป้อมหน้า 2 ตัว ด้านในโครงการ 14 ตัว ติดทุกซอย , ถนนเมน และ รั้วโครงการที่ติดกับที่ว่างข้างเคียง
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• Key Card Access
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า บานเปิด
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor 2 จุด และ Motion Sensor 2 จุด ทุกหลัง

โครงสร้าง ระบบ : Conventional

• ที่จอดรถ : ลงเข็มจนถึงบริเวณใต้ตัวบ้าน และ แยกโครงสร้าง On ground
• ตัวบ้าน : ลงเสาเข็ม
• ลานซักล้าง : แยกโครงสร้าง On ground
• พื้นทั่วไป : พื้น คสล.
• พื้นห้องน้ำ : พื้น คสล. ผสมน้ำยากันซึม
• ผนังทั่วไป : ผนัง คสล. หรือ ก่ออิฐ ฉาบเรียบ ทาสี
• หลังคา : โครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป มุงหลังคาด้วย Shingle Roof

Product Walkthrough

Unit ที่โครงการจะมีอยู่เพียงแค่แบบเดียวค่ะ ที่จะต่างคือเนื้อที่รอบบ้านเช่น แปลงมุมและแปลงมาตรฐาน บ้านหน้ากว้าง 5 เมตร ลึก 16 เมตร มี 3.5 ชั้น บ้านที่ให้ขายแบบบ้านเปล่าค่ะ ชั้นแรกจะเป็นชั้นที่จัดไว้เป็นพื้นที่รับแขก ครัว ทานอาหาร มีห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ข้างล่าง ชั้นสองจะมีส่วนที่เป็น Double Space ตรง Family area ห้องเก็บของ และห้องนอน สามารถจัดเป็นห้อง Master Bedroom อีกห้อง ได้เพราะห้องน้ำใหญ่มาก ชั้นลอย เนื้อที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับห้องนอนชั้น 2 ค่ะ สามารถจัดเป็นห้องนอนหรือห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน ชั้นสุดท้ายจะเป็นห้องนอนทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ใช้สอยก็เยอะ และมีระเบียงที่มีลูกเล่นตรงเก้าอี้ม้านั่งภายนอกกับ Sky light ค่ะ ดูภาพแบนๆไปแล้ว ไปดูของจริงประกอบกันเนอะ

บ้านตัวอย่างจะอยู่ด้านหน้าของโครงการเลย ติดกับสำนักงานขาย หน้าจาบ้านทำออกมาได้ทันสมัยค่ะ และมีลูกเล่นของ Facade ที่ยื่นออกมาเพื่อใช้ในการบังแดด อย่างที่บอกไปคือระแนงจะมีสองสีคือ ขาวและดำ ซึ่งจะสลับกันแบบนี้

ประตูบ้านจะเป็นประตูรั้วค่ะ แบบเหล็กทาสีดำค่ะ สองตอน ถนนโครงการสูงจากถนนซอย 50 อยู่ 30 ซม. ตัวบ้านยกสูงกว่าถนนโครงการ 30 ซม. รวมตัวบ้านสูงกว่าถนนซอยอยู่ 60 ซม. หน้าบ้านกว้าง 5 เมตรค่ะ จอดรถแบบพอดีๆได้ 2 คัน พื้นที่จอดรถเป็น Stamp Concrete ค่ะ

 

ส่วนที่ลงเข็มนั้นจะสุดแค่ใต้ตัวบ้านค่ะ แต่เท่าที่สังเกตแล้ว ตรงส่วนที่ไม่ได้ลงเข็ม ไม่มีการแยกรอยต่อของโครงสร้างเอาไว้

มิเตอร์น้ำจะอยู่ข้างๆบ้านนอกตัวบ้าน

สำหรับแปลงมุมได้มีพื้นที่ข้างๆแบบนี้ (แล้วแต่ขนาดที่ดิน) จัดเป็นสวนเล็กๆได้

ด้านนอกมีปลั๊กไฟใส่ที่ครอบ 1 จุด

 

ห้องเก็บของภายนอกตัวบ้านค่ะ เก็บอุปกรณ์ล้างรถทำสวนได้ ห้องนี้สามารถตีให้เป็นห้องเดียวกันกับห้องใต้บันไดได้นะคะ บานประตูและหน้าต่างเป็น อลูมิเนียม Powder Coat สีดำค่ะ กระจกเขียวตัดแสงหนา 5 มิลลิเมตร

 

รายละเอียดของตัวบานประตู ในส่วนชั้นล่างนั้นจะมี Magnetic Sensor ติดไว้ให้ที่ประตูหน้าบ้านและหลังบ้าน

แผงควบคุมระบบสัญญาณกันขโมยจะอยู่ที่ส่วนห้องนั่งเล่นนี่แหละค่ะ คือจะเข้า หรือจะออกก็ต้องมากดปุ่มเปิดปิดที่นี่ โดยระบบจะหน่วงไว้ 30 วินาที ก่อนเราออกจากบ้าน ระบบนี้ของ GE ค่ะจะมีให้กับบ้านทุกหลัง โดยเมื่อมีการงัดแงะหรือมีเหตุเกิด สัญญาณจะไปดังที่เบอร์โทรของเจ้าของบ้านและรปภ.

มองเข้าไปภายในตัวบ้านชั้นแรกค่ะ บ้านหน้ากว้าง 5 ลึก 16 เมตร กระเบื้อองพอชเลน

ห้องมุมก็จะได้เปรียบตรงที่ได้รับแสงเข้ามาจากด้านข้างด้วย บรรยากาศเลยน่าอยู่มากขึ้นเมื่อเทียบกับห้องปกติ

ความสูงของฝ้าเพดานนั้นอยู่ที่ 2.8 เมตรค่ะ และแอร์ให้มาด้วย โดยมีตำแหน่งติดตามที่เห็นเลยและเดินท่อไปทางหลังบ้าน

พื้นที่ติดตั้งทีวีจะติดกับห้องเก็บของใต้บันไดและทางขึ้นชั้น 2 แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งทับประตูห้องเก็บของไปเลย ส่วน Motion Sensor ที่โครงการให้มาจะอยู่ตรงบริเวณนี้ซึ่งพูดถึงการใช้งานจริงๆแล้ว เป็นส่วนที่มีคนเข้าออกและคนเดินขึ้นลงบันไดพอดี ทำให้รู้ถึงการเคลื่อนไหวได้ แต่จริงๆเราสามารถติดเพิ่มได้นะคะ โครงการให้มา 2 ตัว

เทียบให้ดูกับบ้านมาตรฐาน จะมีประตูห้องเก็บของและลูกกรงบันไดที่แตกต่างกัน

 

ส่วนของครัวนั้นก็ตกแต่งมาเป็นแนวทางค่ะ ไม่มีอะไรให้เป็นห้องโล่งๆเลย

บานประตูต้องดูในรายการวัสดุที่จะให้อีกทีเพราะแจ้งมาว่าเป็น UPVC ค่ะ แต่สำหรับบ้านเปล่าที่ไปชมจะเป็นบานตกแต่งแบบนี้ทั้งห้องน้ำและห้องนอน

 

ห้อง Powder Room ข้างล่าง ตัวอ่างล้างมือจะวางตรงข้ามกับสุขภัณฑ์

 

เป็นของ COTTO ค่ะ

 

เปิดประตูมาต้องระวังชนด้วยแบบนี้

 

หลังบ้านจะปูกระเบื้องให้บางส่วนค่ะ สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ซักล้างได้

 

ช่องนี้เอาไว้เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์

 

จะติดกับหน้าต่างของห้องน้ำพอดี เป็นหน้าต่างเปิดไม่ได้อยู่แล้วค่ะ

 

ขึ้นไปที่ชั้นสอง บันไดจะเป็นโครงเหล้ก ราวจับไม้แดง ลูกตั้ง ลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป

 

ไฟบันไดหน้าตาเหมือนไฟที่ใช้ภายนอก หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์

 

ราวจับบันไดมีให้ยาวตลอดผนัง ดีจัง

ห้องที่เจอห้องแรกเป็นห้องเก็บของค่ะ ซึ่งระบบไฟฟ้าต่างๆ เบรคเกอร์จะเก็บไว้ที่ห้องนี้

 

ชั้นบนจะเป็นลามิเนทหนา 12 มิลลิเมตร

 

ส่วน Family Area จะโปร่งแบบนี้ สูงประมาณ 6 เมตรค่ะ เชื่อมพื้นที่ในแนวตั้งของสองชั้นเข้าด้วยกัน บรรยากาศโปร่งโล่ง นับเป็นข้อดีมากของการมี Double Space แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะ คือเรื่องระบบปรับอากาศ การเปลี่ยนดูแลหลอดไฟ ความร้อนที่เข้ามาทำให้ต้องติดม่านช่วยเป็นต้นค่ะ

 

 

ลองมาเทียบกับบ้านเปล่า สังเกตเห็นไหมค่ะว่า ระแนงด้านนอกบ้านที่หน้าต่างข้างบนนั้น จริงๆแล้วเป็นตัวบังแดดชั้นดีเลยค่ะ คือกรองแสงให้ชั้นนึงก่อนถึงตัวบ้าน

 

ไฟที่ให้ของห้องนี้ในบ้านมาตรฐานนั้นมีแค่ดาวน์ไลท์ 2 ดวง ซึ่งไม่พอต่อการใช้งานแน่ๆ

Family Area จะมีระเบียงค่ะ ออกไปดูกัน

ระเบียงด้านนอกปูกระเบื้องเซรามิคค่ะ สีเทาเข้ม ต้องระวังลื่นถ้าฝนตก พื้นที่ระเบียงกว้างมากพอที่จะจัดสวนได้หรือหาชุดเก้าอี้มานั่ง (ถ้าไม่ร้อนนะ) ราวระเบียงไม้และกระจกเทมเปอร์

โดยจะลดระดับจากส่วนของพื้นภายใน 5 เซนติเมตรค่ะ

มองเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นระแนงบังแดดพอดี ซึ่งมีระยะห่างจากตัวหน้าต่างพอๆกับระเบียงค่ะ เพื่อกรองแสงและความร้อน ตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ตรงนี้เพื่อหลบสายตาเวลามองออกมาจากในบ้าน

อีกหนึ่งห้องในชั้นนี้คือห้องนอน จะมีหน้าต่างที่ทำให้เห็นกิจกรรมในส่วนของ Family Area ด้วย

ภายในห้องค่ะ การวางเตียงสามารถวางขนาด 6′ ได้แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆ

เทียบกับบ้านเปล่าจะโล่งๆแบบนี้

ถ้าทำผนังชั้นวางทีวีแบบนี้ก็ได้ ตำแหน่งก็อยู่ Center พอดีด้วย

 

ส่วนด้านในเป็นห้องน้ำค่ะ

 

ซึ่งจะรวม Walk-in Closet เข้ามาด้วยกัน แบ่งซ้ายและขวา โดยบ้านเปล่านั้นจะไม่มีประตูกั้นให้ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำค่ะ โดยส่วนนี้จะปูลามิเนทเกือบทั้งหมดยกเว้นภายในห้องอาบน้ำและสุขภัณฑ์ การรวบพื้นที่ใช้สอยเข้าด้วยกันทำให้สะดวกดีแต่ต้องดูการแบ่งวัสดุของแต่ละส่วนด้วยนะ

อ่างล้างมือที่เห็นเต็มเคาน์เตอร์รุ่นนี้สวยนะคะ แต่ไม่ใช่มาตรฐาน

มาตรฐานจะเป็นชิ้นนี้ค่ะ

พื้นตรงส่วนนี้จะปูเป็นกระเบื้องค่ะ สายไม้สีน้ำตาล ซึ่งดีแล้วเพราะเวลาเปียกชื้นลามิเนทจะไม่ทนเอา ส่วนชั้นเก็บของด้านล่างมีบานเปิดและลิ้นชัก 4 ชุด

แต่ถ้าเปิดพร้อมกันจะชนมุมมือจับแบบนี้

ห้องน้ำแยกออกมาเดี่ยวๆแบบนี้ มีหน้าต่างฝ้า และหลืบไฟ คนนึงอาบน้ำ คนนึงปวดท้องไม่แย่งกันค่ะ

ภายในปูกระเบื้องเซรามิค มีที่วางสบู่ในผนังและ ฝักบัวกับ Rain Shower ชุดนี้ของ Cotto

ข้อเสียของลามิเนท…จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอามาใกล้ความชื้นค่ะ

 

ห้องน้ำก็อยู่อีกฝั่ง

 

ขึ้นไปข้างบนต่อ ตำแหน่งบันไดตรงนี้จะไม่ตรงกับชั้น 1 นะแต่จะขยับมาด้านหน้าค่ะ ผนังที่เห็นตกแต่งเพิ่มเติม

 

บ้านจริงค่ะ จะเป็นผนังทึบลักษณะนี้

บันไดทางขึ้นมีราวจับตลอดแนวข้างผนังค่ะ บันไดจะเป็นบันไดชุดเดียวกันเลยยาวไปถึงชั้นบนสุด

มีชานพักของบันไดช่วงยาวๆแบบนี้แยกไปชั้นลอยขวามือ ราวบันไดส่วนที่โปร่ง จะเป็นโครงเหล็กและขึงสลิง เท่ห์ดีค่ะ

 

พอราวบันไดโปร่งๆก็ทำให้เห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในบ้าน

มากันที่ชั้นลอยค่ะ ซึ่งโครงการตกแต่งไว้เป็นห้องนอน สามารถวางเตียงคิงไซด์ได้เช่นกัน ขนาดไม่แตกต่างจากห้องนอนที่แล้วเท่าไหร่

ห้องนี้มีหน้าต่างที่มองลงไปข้างล่าง ตรง Family Area ได้ค่ะ ถ้าใครอยากได้บรรยากาศสงบๆ ก็ติดม่านเพิ่มก็ได้

 

โดยจะมีส่วนที่สมารถทำ Walk-in Closet ได้เช่นกันค่ะ แต่จะเป็นข้างเดียว และไม่มีประตูแบ่งระหว่างส่วน Walk-in Closet เช่นเดิม

ส่วนอีกด้านเป็นพื้นที่ใต้บันได เลยไม่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้เหมือนกับชั้นล่าง

 

ระเบียงด้านหลังเป็นระเบียงที่เน้นเอาไว้ Service มากกว่าค่ะ ขอบประตูค่อนข้างสูงทีเดียว

เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ของชั้นนี้ มีระแนงบังให้เรียบร้อย

 

ห้องน้ำก็จะแบ่งพื้นที่การใช้งานครบแห้งเปียก

 

ชุดฝักบัวให้เหมือนกันค่ะ

ระดับพื้นจะลดระดับมาอย่างละ 5 เซนติเมตร

 

ขึ้นไปดูชั้นสาม บนสุด

 

พอสุดทางจะมีขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยมแบบนี้

หน้าห้องจะมีพื้นที่เล็กๆค่ะ ไม่น่าหวาดเสียวเท่าไหร่ แต่เวลายกของชิ้นใหญ่ๆขึ้นมาจะลำบากหน่อยละ

เข้ามาชั้นบนจะเจอห้องน้ำก่อนเลย

 

แยกห้องอาบน้ำและห้องสุขา ไม่ต้องแย่งกันใช้

 

ห้องอาบน้ำมีเชื่อมออกไประเบียงที่เราสามารถจัดเป็นสวนก็ได้

เข้าไปด้านในค่ะ ซ้านขวาที่เป็นกระจกนั้นคือพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet มีทั้งสองข้างเก็บกันจุดใจไปเลย

 

ขนาดห้องด้านนึงก็กว้างทีเดียว

 

ห้องนี้ตกแต่งแบบมีลูกเล่นดีค่ะ คือบานประตูที่มีกระจกตกแต่งนั้นสามารถเลื่อนสลับระหว่างประตูห้องน้ำกับประตู Walk-in Closet ได้

เทียบกับบ้านเปล่าจะเห็นว่าโครงการแบ่งห้องเอาไว้เหลือแค่ประตูปิด ซึ่งจริงๆแล้วถ้าข้าวของไม่เยอะ ห้องนี้อาจเปลี่ยนไปใช้งานเป็นอย่างอื่นก็ได้นะคะ

 

ส่วนอีกฝั่งก็คล้ายๆกันแต่จะเป็นแค่ตู้เสื้อผ้าค่ะ

บ้านจริงเป็นแค่ผนังที่ยื่นออกมาเล็กน้อย ตู้เราต้องทำเอง

พื้นที่วางเตียงก็เหลือเฟือ นอกจากใส่ขนาด 6 ฟุตได้แล้วยังยังมีพื้นที่ข้างๆเหลืออีกแยะ

ฝั่งปลายเตียงก็นอกจากดูทีวีแล้วทำเป็นส่วนนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานก็ได้

ด้านนอกระเบียงจะมีม้านั่งหินขัดแบบนี้ ตัวใหญ่ ยาว เอาไว้นั่งกินลมชมบรรยากาศได้รอบๆ

มองดูวิวรอบๆค่ะ ที่เห็นอยู่ตรงนั้นคือทางด่วนห่างมาพอสมควร ส่วนใกล้ๆรอบๆก็เป็นชุมชนอยู่อาศัย วิวนี้โล่งดี ถ้าชอบนั่งกินลมก็สบายๆ

ด้านนี้เป็นวิวสถานีสูบน้ำค่ะ

 

ด้านหน้าโครงการเลยตรงถนนซอยก็เป็นตึกแถว

มี Sky light รับแสงด้วย ประหยัดการเปิดไฟไปได้ระดับนึง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 07 October 2014

• โซน N แปลงที่ 10 เนื้อที่ 20.60 ตารางวา ราคา 8,900,000 บาท หรือ 432,038 บาทต่อตารางวา
• โซน S แปลงที่ 35 เนื้อที่ 20.60 ตารางวา ราคา 9,690,000 บาท หรือ 470,388 บาทต่อตารางวา
• โซน N แปลงมุม 31 เนื้อที่ 50.50 ตารางวา ราคา 14,200,000 บาท หรือ 218,188 บาทต่อตารางวา

• จองและทำสัญญา 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 90 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

Promotion ภายใน ต.ค. 57

• ฟรีเครื่องปรับอากาศ 5 เครื่อง
• Wallpaper ทั้งหลัง
• ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

Bless Town สุขุมวิท 50 เป็นทำเลที่อยู่อาศัย รายรอบด้วยชุมชน เข้ามาจากซอยสุขุมวิท 50 ประมาณ 400 เมตรและ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณเกือบกิโล อยู่ในทำเลเข้าซอยจากสุขมวิท 50 ไปอีก  ซึ่งความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์จะเทียบไม่ได้กับสุขุมวิทช่วงต้นซอยสุขุมวิท 50 …. ถึงไม่ได้มีสาธารณูปโภคเเบบเด็ดๆ เป็นของตัวเองเเต่ว่า แถวนี้เจริญขึ้นไปมากหลังจากรถไฟฟ้ามา อีกทั้งคนที่พักอาศัยเเถวนี้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างไม่ไกลเกินไป ด้วยความที่ถนนสายหลักหลายเส้น เช่น สุขุมวิท (เข้าไปอโศก เอกมัย หรืออีกด้านคือ บางนา) พัฒนาการ (เพชรบุรี พระรามเก้า) ศรีนครินทร์ (ไปพาราไดซ์พาร์ค โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ รามคำแหง) ดังนั้น โครงการ Bless Town การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกกว่าไม่มีรถมาก และความหนาแน่นตรงบริเวณสถานีอ่อนนุชนั้นถือว่าเยอะ ดังนั้นแล้วการหากินพึ่งพาปากท้อง ไปลำบากเลย ส่วนภายในซอยระยะเดินเองนั้นอาจจะมีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารตามไม่กี่ร้าน

สภาพแวดล้อมรายรอบโครงการเป็นถนนซอยที่เป็นซอยตันค่ะ บ้านใกล้เรือนเคียงจะเป็นชุมชนบ้านไม้ 2 ชั้น ตึกแถว และที่ตั้งของสถานีสูบน้ำพระโขนง  ดังนั้นคนที่สัญจรเข้าออกจะค่อนข้างหน้าเดิมๆ ไม่พลุกพล่านมาก แน่นอนว่า มีเรื่องของกลิ่นจากคลองอยู่บ้าง ในส่วนใกล้ๆสวนหย่อม ….ทำเลย่านนี้ โดยมากส่วนที่ใกล้ไปทางสถานีรถไฟฟ้า พื้นที่ส่วนมาจะเปลี่ยนเป็นคอนโดมิเนียมกันหมดค่ะ เรียกว่า โครงการแนวราบในซอยนั้นมี แต่น้อยจะมี Low rise ในซอยบ้าง  ดังนั้น เป็น Product ที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาทาวน์โฮมในซอยสุขุมวิท 50 โอเคกับสภาพทำเลโดยรอบและการเข้าถึงตัวโครงการ

การเดินทางด้วยรถยนต์นับว่าเป็นทางเลือกอันดับต้นๆแน่นอน เพราะด้วยความที่สามารถเชื่อมต่อเข้าออกเมืองได้ค่อนข้างสะดวกเลยทั้งเข้าออกเมือง และที่เป็นจุดเด่นคือเรื่องใกล้ทางด่วน ใกล้อ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 ….การเดินทางไปต่างจังหวัดทางภาคตะวันออกก็จะสามารถใช้มอเตอร์เวย์ได้สะดวกคือสามารถขึ้นตรงลาดกระบังได้ค่ะ นอกจากนี้ ตรงลาดกระบังก็จะมีทางเข้าถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งเป็นถนนเลี่ยงเมืองเส้นสำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วยค่ะ สุขุมวิท 50 เองก็เป็นซอยลัดไปพระโขนงเวลาเลี่ยงรถติด ไปออกปรีดี 2, 4, 14 

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นับว่ายังห่างจากตัวสถานีรถไฟฟ้าอยู่แบบระยะเดินเหนื่อยค่ะ เพราะเข้าจากถนนสุขุมวิทและยังต้องกระเถิบมาในซอยอีก ที่พึ่งพาได้หลักๆจากปากซอยสำหรับคนลงจากรถไฟฟ้าก็พี่วินนี่แหละค่ะ

แบบบ้านมีให้เลือกเพียงแบบเดียวค่ะ หน้าตาของบ้านที่นี่ออกแนวโมเดิร์น ลอฟท์ค่ะ ซึ่งตรงระแนงหน้าบ้านชั้นบนนั้นก็ทำออกมานอกจากความสวยงามแล้วยังหลักๆเอาไว้บังแดด กรองความร้อนที่จะเข้ามาโดยตรงสู่ตัวบ้านค่ะ นับว่าคิดมาในระดับนึงเลย พื้นที่ใช้สอยภายในนั้น  3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 240 ฟังก์ชั่นหลักๆ พื้นที่ส่วนรวมของบ้านจะอยู่ที่ชั้นล่าง และ Family Area กับ ห้องนอนใหญ่ ส่วนชั้นลอยและชั้นสามนั้น สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้เช่นกัน แต่ใครคิดว่าห้องนอนเยอะไปหน่อยจะเปลี่ยนเป็นห้องอื่นก็ได้ไม่ว่ากัน  ตรง Family Area จะมีพื้นที่ Double Space มาให้ ส่วนครัวจะไม่ได้เป็นครัวปิด บ้านที่ขายเป็นบ้านเปล่าค่ะ ซึ่งบ้านลักษณะนี้อาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เพราะการจัดทำห้องนอนที่ชั้นล่างเป็นไปได้ยาก ต้องปรับเปลี่ยนต่อเติมเยอะ แต่จะถูกใจคนที่ชอบบ้านแบบสูงโปร่งแนวนี้ เพราะ Space ค่อนข้างต่อเนื่อง แบบบ้านไม่โหลค่ะ

วัสดุอุปกรณ์ถือว่าให้มามาตรฐานสำหรับบ้านแนวทาวน์โฮม พื้นบ้านชั้นล่างได้กระเบื้องแกรนิตโต้ ทั้งหมด ส่วนชั้น 2 ,ชั้นลอย และ 3 ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหน้า 8 มม. หนา 12 มม. ห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. การก่อสร้างผนังเป็นแบบ Conventional ชุดโถสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto ประตูและหน้าต่างจะได้เป็นบานกระจกเขียวตัดแสง กรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ Powder Coat ตัวประตูภายในได้เป็น UPVC ปิดผิวลามิเนตลายไม้ ที่จะให้มาพิเศษคือเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยค่ะ จะมี Magnetic Sensor ให้ที่ประตูชั้นล่าง 2 จุด (ประตุหน้าหลัง) และ Motion Sensor 2 จุด ในบ้าน บางจุดเนื่องจากการออกแบบนั้น อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องความคงทนในการใช้วัสดุได้เช่น พื้นลามิเนทที่ใกล้กับส่วนเปียกของห้องน้ำ เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆแน่นอนว่ามีโอกาสชำรุดได้

สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะ และระบบรักษาความปลอดภัยที่เราสามารถเข้าดูกล้อง CCTV จากมือถือ ให้เห็นด้านหน้าบ้านเราและถนนซอยได้ ถนนทั้งโครงการกว้าง 9 เมตร รั้วรอบ 3 เมตร ด้วยความที่ยูนิตไม่เอยะมาก เลยไม่ได้มีสัดส่วนไว้ให้กับส่วนสโมสร แต่เทียบกับค่าส่วนกลางที่จัดเก็บแล้วถือว่าราคาแรงค่ะ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 8 – 12 ล้านบาท, 07 October 2014

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ไม่ติดถนนใหญ่เป็นซอยตัน เข้าซอยสุขุมวิท 50 ไปอีก แต่ทำเลเดินทาง ไม่ไกลทางด่วน
• ความปลอดภัย 7.5/10 –  รปภ.หน้าหมู่บ้าน, ประตูเหล็ก, Access Card, CCTV , Motion Sensor ในบ้าน, Magnetic Sensor ในบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 –  แบบลงตัว สวย ผ่านการคิดออกแบบมา
• วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ มีดีมีด้อยปนกัน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 6.5/10 – โครงการเล็ก มีสวน 2 จุด ต้นไม้ไม่เยอะ
• สาธารณูปโภค 6.5/10 – สวนหย่อม และระบบรักษาความปลอดภัย
• 7.25 / 10.00

BOTTOM LINE

Bless Town สุขุมวิท 50 เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางที่กำลังหาที่อยู่ในย่านอ่อนนุช พระโขนง ใช้รถยนต์เป็นหลักขับแถวเส้น อ่อนนุช สุขุมวิท หรือพระโขนงบ่อยๆ สะดวกขึ้นทางด่วนไปไหนมาไหน เลือกใช้บีทีเอสบ้าง ไม่ค่อยใช้ Facility ชอบตกแต่งบ้านและอยากได้พื้นที่ส่วนตัว เวลากลางวันดู CCTV หน้าบ้านจากที่ทำงานได้ มีงบประมาณ 8 – 12 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนประมาณ 60,000 – 90,000 บาท

ชอบกด Like ใช่กด Share เลยนะคะ 😉