ปก the connect

รีวิวฉบับที่ 1091 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ  The Connect เพชรเกษม 48 โครงการตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 สามารถเข้า-ออกได้ทางถนนเพชรเกษมและถนนจรัญสนิทวงศ์(บางแวก) ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 2.1 กิโลเมตร ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5  เมตร ขนาดเนื้อที่ดิน 19.90-40.40 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 4.48 ล้านบาท หน้าตาของโครงการและตัวบ้านจะเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา ^^

Facts @ 19 May 2016

  • เดอะ คอนเนค เพชรเกษม 48
  • The Connect Phechkasem 48
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยเพชรเกษม 48 ถนนเพชรเกษม แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. 10140
  • เนื้อที่โครงการ : 9-3-74 ไร่ จำนวน 95 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
  • เนื้อที่ดินขนาด 19.90- 40.40 ตร.วา
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 และ 3 สูง 2.55 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 4.48 ล้านบาทหรือ 225,125 บาท/ตร.วา หรือ 28,000 บาท/ตร.เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call centre : 1739

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

 

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.727142, 100.434918

Map_Cn_30

จากแผนที่ของโครงการจะเห็นว่า The Connect เพชรเกษม 48 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48  สามารถเข้าออกได้ทั้งทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก) และถนนเพชรเกษม ซึ่งบนถนนเพชรเกษมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีเพชรเกษม 48 ห่างจากปากซอยเพชรเกษม 48 ประมาณ 100  เมตร หรือห่างจากโครงการประมาณ 2.1 เมตร

The connect สถานที่

ย่านบางแคเป็นทำเลย่านชานเมือง ที่อยู่ระหว่างทางเข้าเมืองกับจังหวัดนครปฐม  ที่อยู่อาศัยจะเป็นแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ โดยบ้านที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ ด้านล่างมักเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร  ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยก็เป็นบ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์โฮม แต่หลังจากที่มีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายก็เริ่มมีการสร้างคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้า มีคนย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้นส่งผลให้บริเวณโดยรอบพื้นที่ก็มีความเจริญมากขึ้นกว่าเดิม การจราจรจึงหนาแน่นขึ้นตามไปด้วย ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้มีค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษม ร้านอาหารส่วนมากจะเป็นร้านในตึกแถว  มีตลาดบางแคให้จับจ่ายซื้อของสดของแห้งกัน ส่วนห้างที่ใกล้ๆก็มี ซีคอน บางแค, The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C หรือจะแวะไปเส้นราชพฤกษ์ก็มี  The Circle และ ร้านอาหารสวยๆนั่งสบายๆ อยู่หลายร้านค่ะ 

หากโฟกัสมาที่ทำเลรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวเก่าแก่ที่สร้างมานานแล้ว ไม่มี 7/11 ในระยะใกล้ แต่จะมีร้านขายของชำและร้านโชว์ห่วยอยู่รอบๆโครงการประมาณ 2-3 ร้าน หากต้องการซื้อขนม, น้ำดื่ม หรือของใช้ในบ้านเล็กๆน้อยๆก็พอมีให้ซื้อกันได้ ออกไปจากโครงการหน่อยจะมี Comminity mall ที่กำลังจะเปิดใหม่สไตล์จีน ชื่อ Dragon Mall ให้ไปกินข้าว ซื้อของ ช็อปปิ้งกันได้ ส่วนถ้าใครอยากไปจ่ายตลาดก็ต้องออกไปทางช่วงต้นซอยเพชรเกษม 48 จะมีตลาด, Tesco Lotus express และมีของให้เลือกหลากหลายเลย

Map การเดินทาง รถไฟฟ้า

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : หลักๆเลย สามารถเข้า-ออก ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก)ห่างจากโครงการ 1.1 กิโลเมตร  และทางถนนเพชรเกษม ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร โดย

  • จากโครงการหากไปออกทางถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 (บางแวก) เลี้ยวซ้าย จะไปทะลุถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไปออกเพชรเกษม หรือไปบรมราชชนนีก็ได้ หากเลี้ยวขวา จะไปทะลุถนนราชพฤกษ์หรือถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้
  • จากโครงการ หากไปออกทางถนนเพชรเกษม จะบังคับเลี้ยวซ้าย สามารถตรงไปออก ถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือออกไปวงเวียนใหญ่เชื่อมไปออกสาทรได้  และจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 จะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 100 เมตร 

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เนื่องจากโครงการอยู่ในซอย หากจะมาที่ถนนใหญ่ก็ต้องอาศัยพี่วิน แท๊กซี่ หรือรถสองแถวที่มีวิ่งผ่านเข้า-ออกภายในซอยทั้งวัน สำหรับรถไฟฟ้าคงต้องอดใจรออีกซักระยะ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเพชรเกษม 48 ที่ห่างจากหน้าปากซอยเพชรเกษมแค่ 100 เมตร สามารถนั่งพี่วินหรือแท๊กซี่จากโครงการแล้วยิงยาวมารถไฟฟ้าเลยก็ได้ค่ะthe connect รถไฟฟ้า

สำหรับรถไฟฟ้า ในอนาคตจะมีมาผ่านบริเวณใกล้ๆกับโครงการอยู่ 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งต่อขยายมาจาก สถานีบางหว้า วิ่งตรงมาตาม ถนน ราชพฤกษ์ สถานีที่น่าจะใกล้กับโครงการคือ สถานีบางเชือกหนัง อยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนบางแวกกับถนน ราชพฤกษ์พอดี ส่วนอีกสายที่แน่นอนคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งจะแยกเป็น 2 ช่วงคือช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ต่อขยายมาจากสถานีบางซื่อ วิ่งผ่านเตาปูน บางโพ มาเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์  ส่วนช่วงหัวลำโพง – บางแค ต่อขยายมาจากสถานีหัวลำโพง วิ่งมาตามถนนเพชรเกษม สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ เพชรเกษม 48 โดยมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า ตอนนี้สายสีน้ำเงินยังอยู่ในระหว่างการสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 ส่วนสายสีเขียวส่วนต่อขยายคงต้องอดใจรอกันไปก่อนค่ะ

Map การเดินทางตัวอย่าง

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากสามแยกที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 1 เข้าสู่ถนนเพชรเกษม ซึ่งจะอยู่ในช่วงซอยเพชรเกษม 60/1 ขับไปบนถนนเพชรเกษมเพื่อดูสภาพแวดล้อมทั้งสองข้างทาง ผ่านรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญที่กำลังก่อสร้าง จนมาถึงซอยเพชรเกษม 48 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ดูบรรยากาศทั้งสองข้างทางประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงโครงการค่ะ

เราเริ่มจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 เข้าสู่ถนนเพชรเกษม จะเห็นว่าข้างหน้ามีรางรถไฟฟ้าให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

เมื่อเราเลี้ยวเข้ามาบนถนนเพชรเกษม จะอยู่ในช่วงซอยเพชรเกษม 60/1

บรรยากาศสองข้างทางของถนนเพชรเกษม ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว สลับกับบ้านพักอาศัย มีการประกอบธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางอยู่ใต้อาคารพาณิชย์นั้นๆ โดยธุรกิจที่เห็นเยอะที่สุดจะเป็นร้านเกี่ยวกับรถยนต์ ทั้งอู่ซ่อมรถ ศูนย์เปลี่ยนยาง ประดับยนต์ รวมทั้งโชว์รูมรถก็มีตามประสาทำเลที่ค่อนมาทางชานเมือง ทางขวามือจะเป็นรางรถไฟฟ้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

เราขับมาเรื่อยๆจนถึงรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญ ทางขวามือของรถไฟฟ้าจะติดกับห้าง Seacon บางแค เลย

บริเวณรถไฟฟ้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในจุดที่ตั้งของป้ายรถเมล์พอดี จึงมีการตั้งป้ายรถเมล์ชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกผู้คนที่มารอรถเมล์ค่ะ

เลยรถไฟฟ้ามาหน่อยจะมีห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ประชาชน ซึ่งจะเปิดในวันอังคาร-เสาร์ เวลา 08.30-20.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. จะปิดในวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ขัยมาเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายซอยเพชรเกษม 48/1 ซึ่งเราจะยังไม่เข้าซอยนี้นะคะ แต่เราจะเตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยเพชรเกษม 48 ที่อยู่ข้างหน้า

ห่างจากปากซอยเพชรเกษม 48 ไปประมาณ 100 เมตร จะเป็นรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 เดี๋ยวเราจะพาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 48 กัน

โดยซอยเพชรเกษม 48 นี้จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ซอยวัดจันทร์ประดิษฐาราม บรรยากาศของหน้าซอยทั้งสองด้านจะเป็นอาคารพาณิชย์ ทางซ้ายมือเป็นร้านทองและทางขวามือเป็นร้านขายของชำค่ะ

ช่วงต้นซอยคึกคักมาก ทั้งสองข้างทางเป็นตึกแถว 2 ชั้น ที่มีทั้งร้านขายเสื้อผ้า เบเกอรี่ บิวตี้ ทำผม ฯลฯ

ร้านรับทำกุญแจ ร้านอัดรูปดิจิตอล ร้านขายยา ร้านทอง ร้านขายโทรศัพท์ ฯลฯ

ทางซ้ายมือเป็นตลาดเล็กๆ มีทั้งของสด ของคาว กับข้าวขาย

ใกล้ๆกันมี Tesco Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง

ระหว่างที่เราอยู่ภายในซอย  จะเห็นแท๊กซี่ พี่วิน และรถสองแถวขับผ่านเข้า-ออก ตลอดเวลาโดยรถสองแถวนี้เป็นรถสองแถวสีแดงสาย 1450 วัดจันทร์-นิศาชล ดังนั้นแม้ว่าโครงการจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ทั้งถนนบางแวกและถนนเพชรเกษม แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัวก็สามารถไปไหนมาได้ด้วยรถโดยสารสาธารณะเหล่านี้ค่ะ

ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอสามแยก หากเลี้ยวขวาจะไปยังถนนเพชรเกษม 46 แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปทางวัดจันทร์ประดิษฐารามกัน

พอเลี้ยวมาเราจะเจอทั้งสองข้างทางเป็นตึกแถวสูง 2-4 ชั้น ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายยา คลีนิคเวชกรรม

ตรงมาสุดซอยจะเจอโรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายไปตามทางนะคะ

จากโรงเรียน เราตรงมาเรื่อยๆจะเจอสะพานข้ามคลองบางจาก

ลงจากสะพานมาจะเป็นทางเข้าวัดจันทร์ประดิษฐาราม บริเวณหน้าวัดค่อนข้างคึกคัก มีของกินขายตามแนวรั้ววัดและใต้ตึกแถวฝั่งตรงข้าม

ของกินแถวนี้เยอะมาก 7/11 ก็มีให้ซื้อของกัน

ถัดจากวัดมาก็มีโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐารามอีกแห่ง

เลยจากเขตวัดและโรงเรียนจะเป็นเขตชุมชนจันทรังษี ที่เป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวเหมือนช่วงอื่นๆของซอย

ระหว่างทางเราจะเจอทางโค้งขวาา..

ทางโค้งซ้ายย… และเจอบ้านพักอาศัย รวมทั้งอพาร์ทเมนต์ให้เห็นเป็นช่วงๆ

ในชุมชนแถวนี้จะมี “Dragon Mall” ซึ่งเป็น Community Mall ที่มีร้านค้า สินค้า และการบริการที่เน้นกิจกรรมสไตล์จีน เช่น สอนกังฟู ร้านชาจีน ของเสริมมงคล เป็นต้น

ใกล้ๆกับ Dragon Mall ค่อนข้างคึกคัก มีทั้งอพาร์ทเม้นต์ ร้านขายของ ร้านขายอาหาร และมีพี่วินประจำการด้วย 1 จุด

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอหมู่บ้านจันทร์ประดิษฐ์ ทางซ้ายมือ

ไม่ไกลกันก็จะเจอโครงการ  The Connect เพชรเกษม 48 แล้วค่าา

Map Zoom บริบท**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวเก่าแก่ บ้านพักอาศัย หมู่บ้านใหญ่ และที่ดินว่างเปล่า รวมทั้งภายในโครงการยังมีคลองเล็กๆพาดผ่านถึง 2 คลอง คือ คลองลำกระโดง และคลองสาธารณะที่กลางหมู่บ้าน โดย

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้นและหมู่บ้านธีรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทางทิศนี้ค่อนข้างเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนเพชรเกษม 48 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้นที่มีร้านขายของชำเล็กๆให้ไปซื้อของได้
  • ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินของบุคคลอื่น
  • ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ที่ดินว่างเปล่า และตึกแถว 4 ชั้น

ทางทิศใต้ของโครงการ จะติดกับตึกแถว 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

the connect 2

ทางทิศตะวันตก หรือฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นตึกแถวเก่าแก่ 4 ชั้น ซึ่งเป็นของคนดั้งเดิมที่อยู่มานานแล้ว ใต้ตึกแถวมีร้านขายของชำและร้านขายของเล็กๆน้อยๆให้ซื้อของได้

the connect 3

ทางทิศเหนือ ของโครงการจะติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้นที่เป็นบ้านไม้ค่อนข้างเก่า

the connect (3)

คลองลำกระโดง ที่พาดผ่านโครงการและอยู่ติดกับรั้วโครงการด้วย สภาพเป็นคลองเล็กๆ น้ำออกเป็นสีใบบัวบก ไม่มีกลิ่นค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

  • Dragon Mall ~700 เมตร
  • มหาวิทยาลัยสยาม ~ 2.4 กิโลเมตร
  • ซีคอน บางแค ~ 3.3 กิโลเมตร
  • ไอที แกรนด์ บางแค ~  4.1 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus บางแค ~  5.2 กิโลเมตร
  • เดอะมอลล์ บางแค ~ 6.2 กิโลเมตร
  • ตลาดบางแค ~  6.5 กิโลเมตร
  • รพ. เกษมราษฎร์ บางแค ~ 7 กิโลเมตร
  • บิ๊กซี ซุเปอร์เซ็นเตอร์ ~ 9.7 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Map โครงการ connect

จาก Master Plan จำลองผังโครงการ จะเห็นว่าโครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียว คือจากซอยเพชรเกษม 48 ภายในโครงการจะมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด คือสะพานข้ามคลองลำกระโดงที่อยู่ก่อนถึงซุ้มทางเข้าโครงการ และสะพานข้ามคลองสาธารณประโยชน์ที่อยู่ด้านหลังโครงการ โดยเมื่อเลี้ยวเข้าโครงการมาเข้ามาจะเจอสะพานข้ามคลองเล็กๆแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้า-ออก ที่มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนหย่อมเล็กๆทางซ้ายมือ  เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนในซอยย่อยกว้าง 9 และ 10 เมตร ตามลำดับ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีสวนหย่อม และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ที่หน้าโครงการ  ส่วนยูนิตพักอาศัยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มีแบบเดียวทั้งโครงการ ขนาดที่ดิน 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยส่วนสีส้มเข้มเป็นทาวน์โฮมแปลงมุม ส่วนสีเทาเป็นทาวน์โฮมแปลงกลางขนาดเนื้อที่บ้านจะต่างกัน ขณะนี้โครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง จึงยังมีบางส่วนที่ไม่เรียบร้อย 100% แต่หน้าตาโครงการก็พอให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูบรรยากาศของโครงการกันค่ะ

เรามาเริ่มที่หน้าโครงการจะเป็นถนนสาธารณะ มีการล้อมรั้วเหล็กโปร่งและปลูกไม้พุ่มสร้างพื้นที่สีเขียว สองข้างทางมีฟุตบาทเผื่อลูกบ้านใช้เดินออกมาจากโครงการได้ มองตรงไปจะเห็นสะพานข้ามคลองลำกระโดง

ทั้งสองด้านของสะพานจะมีกำแพงปูนก่อขึ้นมาเป็นรั้วสะพานทึบค่อนข้างสูง สาเหตุที่ทำรั้วกำแพงทึบก็เนื่องจากต้องการไม่ให้ลูกบ้านที่เดินผ่านไปมาเห็นเจ้าคลองลำกระโดงที่เป็นคลองเล็กๆที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่(แต่ไม่มีกลิ่นนะ) ถือเป็นการแก้ปัญหาเรื่องมุมมองทางเข้าโครงการที่ดีค่ะ

ข้ามสะพานมาเราจะเจอซุ้มทางเข้าโครงการแล้ว มองตรงไปเราจะเห็นเขตที่ล้อมรั้วไว้เป็นเส้นทางเดินรถขณะที่โครงการกำลังทำการก่อสร้าง เมื่อโครงการแล้วเสร็จรั้วนี้ก็จะถูกปิดตายค่ะ

มองกลับไปที่สะพานข้ามคลองที่เราเดินเข้ามา จะเห็นว่าระหว่างสะพานและซุ้มทางเข้าโครงการจะมีสวนหย่อมเล็กๆ เพิ่มความร่มรื่นให้หน้าโครงการด้วย

ซุ้มประตูของโครงการมีป้อม รปภ. 1 ป้อมตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออกที่แบ่งเป็น 2 เลน โดยลูกบ้านจะเข้า-ออกโครงการด้วย Access Card ระยะใกล้ แตะบัตรแล้วประตูไม้กระดกจะเปิดอัตโนมัติ ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนค่ะ นอกจากนี้ยังมีประตูรางเลื่อนอัตโนมัติที่จะเปิดในเวลา 6.00 น. และปิดในเวลา 20.00 น. แต่ผู้มาติดต่อที่ไม่ใช่ลูกบ้านจะเข้าโครงการไม่ได้หลัง 18.00 น. กฏเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านอีกชั้นหนึ่ง ทั้งทางเข้าและทางออกมีกล้อง CCTV รวมทั้งมีในโครงการรวม 8 จุด

the-connect-17

เข้ามาในโครงการจะเจอถนนกว้าง 10 เมตร มองไปทางขวามือจะเห็นรั้วกั้นทางไปด้านหลังโครงการ ซึ่งจะประกอบด้วยสะพานข้ามคลองสาธารณะ และเป็นเขตทาวน์โฮมด้านหลังโครงการทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจึงมีการล้อมรั้วไว้ค่ะ
the-connect-10

ถ้ามองไปทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของนิติบุคคลและ Sale Office รวมทั้งบ้านตัวอย่าง

ซึ่งนิติบุคคลของโครงการ ปัจจุบันยังว่างอยู่เนื่องจากโครงการยังอยู่ในขณะก่อสร้าง

สาธารณูปโภคของโครงการจะมีจุดเดียวคือ สวนสาธารณะรูปตัว L ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ภายในสวนประกอบด้วยสนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ และศาลานั่งเล่น 1 จุด

สนามเด็กเล่นภายในสวนจะมีเครื่องเล่นประมาณ 2 เครื่อง และลานเล็กๆให้เด็กเล่นกัน

ถัดมาเป็นลานอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก

อีกด้านเป็นศาลานั่งเล่นที่มีเก้าอี้ยาวรองรับไว้ให้ 2 ตัว เผื่อลูกบ้านอยากมานั่งคุยกันนอกบ้าน แต่ไม่ต้องการตากแดด จากศาลานี้มีทางเดินออกไปยังซอยย่อยของทาวน์โฮมที่อยู่ข้างๆได้

โดยซอยย่อยในแต่ละซอยของโครงการจะกว้าง 9 เมตร บรรยากาศภายในซอยจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นหันหน้าเข้าหากัน ด้านหลังเป็นรั้วรอบโครงการสูง 2.50 เมตร ติดกับหมู่บ้านธีรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมหน้าโครงการและสวนสาธารณะ 1 จุด
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 8 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูรางเลื่อนอัตโนมัติ
  • ถนนหลักกว้าง 16 เมตร และถนนภายในซอยกว้าง 9 และ 10 เมตร

 

 


Product Walkthrough

Screen Shot 2016-06-01 at 6.10.20 PM

แบบบ้านในโครงการเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 19.90- 40.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 160 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถ 2 คัน เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับ ห้องรับประทานอาหารและครัวเล็กๆที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้านเป็นที่สามารถจัดสวนหรือเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ทางด้านขวาของตัวบ้านจะห้องน้ำรวมที่ไม่มีส่วนอาบน้ำให้ จะต้องไปอาบน้ำที่ชั้น 2 หรือชั้น 3 เท่านั้น

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่ด้านหนึ่งเป็น Master Room ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้  และยังมีห้องน้ำให้ในตัว อีกด้านหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่น หรือ Family area ของบ้าน ซึ่งเราสามารถกั้นห้องทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเด็กเล็กได้ ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนเล็ก ห้องน้ำรวม และห้องนอนขนาดกลางที่มีขนาดเท่ากับห้องนอนใหญ่ แต่ไม่มีห้องน้ำให้ในตัว ต้องมาใช้ห้องน้ำรวมร่วมกับห้องนอนเล็กค่ะ

หน้าตาทาวน์โฮม 2 ชั้น ดีไซน์เรียบๆสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา-ขาว-ดำ ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.7 เมตร เป็นประตูบานพับ 3 ตอนให้ โดยบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ด้านข้างมากกว่าแปลงกลาง 2 เมตร

the connect (2)

ประตูรั้วระหว่างบ้านเป็นกำแพงทึบสีขาว มองไปข้างบ้านจะได้มุมมองแบบนี้

ถ้าเป็นบ้านแปลงมุม รั้วด้านข้างจะเป็นรั้วเหล็กโปร่งทาสีดำ มีการปลูกไม้พุ่มข้างๆบ้านให้ เนื่องจากติดกับถนนของโครงการ

เราเดินมาดูพื้นที่ข้างบ้านกว้างประมาณ 2 เมตร ที่พื้นจะถมดินไว้ให้ เผื่อใครอยากปูสนามหญ้า ปลูกต้นไม้หรือจัดสวน  ส่วนใครอยากถมปูนปูกระเบื้องก็ได้ค่ะ

เดินวนมาดูหลังบ้านจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.85 เมตร ที่พื้นเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ เผื่อไว้ให้เป็นลานซักล้าง ติดตั้งปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำให้เรียบร้อย ซึ่งหากใครอยากจัดพื้นที่หลังบ้านเป็นส่วนนั่งเล่นเล็กๆที่มี Pantry ปูพื้นด้วยสนามหญ้าเทียมแบบบ้านตัวอย่าง ก็เป็นไอเดียที่ดีอย่างหนึ่งค่ะ

เรากลับมาที่หน้าบ้านกัน บริเวณหน้าบ้านมีประตู 2 จุด คือประตูทางเข้าบ้านและประตูห้องเก็บของ

โดยประตูห้องเก็บของเป็นประตูสีขาว เมื่อเปิดออกมาจะเห็นว่าฝ้าเพดานลาดเอียงเนื่องจากห้องเก็บของอยู่ใต้บันได ที่พื้นห้องมีการยกระดับขึ้นมาจากชานหน้าบ้านและปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเรียบร้อย ทำความสะอาดง่ายค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ตัวบานเป็นกระจกใสเขียวตัดแสงกรอบอลูมิเนียมสีดำ

ตัวล็อกประตูหน้าตาแบบนี้

ตรงพื้นทางเข้าบ้านมีชานที่ยกระดับขึ้นมาจากพื้นลานจอดรถเล็กน้อย ปูด้วยประเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ส่วนพื้นภายในบ้านจะยกระดับขึ้นมาอีก Step และปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ลองหันกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องรับแขกให้เห็นชัดๆเมื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.30 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 42″-56″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ โดยในบ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีหน้าต่างด้านข้างให้ แต่หากเป็นบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างนะคะ

ตัวหน้าต่างที่ผนังสำหรับบ้านแปลงมุมจะมี 2 บาน เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ตัวล็อกหน้าต่างเป็นแบบก้นหอย หากหมุนลงจะเป็นการล็อก และหากหมุนขึ้นจะเป็นการปลดล็อก

ผนังฝั่งตรงข้ามกันเป็นผนังข้างบันไดที่ว่างเปล่ามีการ Drop ผนังเข้าไป เราสามารถ  Built-in ตู้วางทีวีแบบในบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัว ที่สามารถ  Built-in ครัวเปิดแบบนี้ได้ ด้านหลังมีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศเวลาทำครัว และมีประตูสามารถเปิดออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้

ข้างๆกันเป็นห้องน้ำและโถงบันได โดยบ้านของจริงจะมีประตูสำเร็จรูปสีขาว มีเกร็ดระบายอากาศแบบนี้ติดตั้งมาให้ค่ะ

มองกลับลงไปจะเห็นว่าบันไดเป็นลักษณะรูปตัว U ซึ่งต้องระวังนิดนึงตรงช่วงโค้งเพราะลูกนอนบันไดเป็นรูปสามเหลี่ยม หากไม่ระวังอาจจะสะดุดล้มได้ พื้นห้องชั้น 2  เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ สีใกล้เคียงกับลูกนอนบันไดค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2  จะเห็นโถงบันไดที่เป็นบันไดวนขึ้นไปยังชั้น 3  ตรงชานพักระหว่างทางขึ้นชั้น 3 มีหน้าต่าง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าโถงบันไดได้ดี

โดยเมื่อเราขึ้นบันไดมาจะเจอ Master Bedroom ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูสำเร็จรูปสีขาว

ตัวล็อกประตูเป็นแบบ 2 ชั้น คือแบบตัวล็อกธรรมดาและแบบก้นหอยช่วยล็อกอีกชั้นหนึ่ง

พื้นที่ระเบียงขนาด 3.4 x 0.6 เมตร ขนาดค่อนข้างแคบ เหมาะกับการออกไปยืนรับลมหรือวางกระถางต้นไม้ประดับระเบียง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อกันน้ำจากภายนอกเข้าห้อง ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำสูง 0.85 เซนติเมตร

เข้ามาดูภายในห้องกันต่อ ด้วยขนาดของห้องนี้สามารถวางเตียง  5-6  ฟุตได้สบายๆ ในขณะที่หัวเตียงด้านหนึ่งสามารถวางโต๊ะทำงานและอีกด้านหนึ่ง Built-in โซฟาได้อีก ที่ผนังหัวเตียงของจริงจะเป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา ซึ่งบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างให้แบบนี้ แต่แปลงกลางจะเป็นผนังทึบ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ สามารถ Built-in ฉากกั้นแบบนี้แล้วทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet แบบบ้านตัวอย่างก็ได้

ด้านหลังฉากกั้น สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้ค่ะ ข้อดีคือที่ผนังมีหน้าต่างให้ด้วย เวลาคุณผู้หญิงนั่งแต่งหน้าตอนเช้า ก็สามารถเปิดผ้าม่านใช้แสงธรรมชาติจากตรงนี้ได้เลย 🙂

ข้างๆประตูทางเข้าห้องนอนเป็นประตูห้องน้ำ ที่เป็นประตูสำเร็จรูปสีขาว มีเกร็ดระบายอากาศให้

ส่วนอาบน้ำไม่มีการลดระดับพื้นให้ แต่จะมีกรอบประตูเป็นธรณีขึ้นมา เพื่อกันน้ำไหลไปเปียกส่วนแห้งขณะอาบน้ำ ที่พื้นใช้กระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เหมือนกับส่วนแห้ง

ฝักบัวขนาดพอดีมือ ไม่ใหญ่มาก

ถัดจาก Master Bedroom จะเป็นทางเดินไปยัง Living area ชั้น 2 ซึ่งไม่มีประตูหรือฉากกั้นอะไรให้ หากใครอยากได้พื้นที่แบบปิด ก็สามารถกั้นห้องเองได้นะคะ

Living area ที่ชั้นสอง มีพื้นที่ประมาณ 4 x 2.5 เมตร หากเป็นทาวน์โฮมแปลงกลางจะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ทางซ้ายมือให้เพียงหน้าต่างเดียว แต่หากเป็นแปลงมุมจะมีหน้าต่างบานเปิดแบบทางขวามือให้อีก 2 บานแบบในบ้านตัวอย่างค่ะ โดยห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง หรือจะเป็นห้องนอนเด็กเล็กก็ได้ ตามต้องการ

the connect

โดยผนังด้านที่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 3 จะมีการ Drop ผนังเข้าไปแบบนี้ เราสามารถ Built-in เป็นมุมนั่งทำงาน, ตู้เก็บของ โต๊ะวางทีวี หรือ Built-in ชั้นวางของลอยตัวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นบันไดไปดูชั้น 3 กัน

ที่ผนังตรงชานพักบันไดทางขึ้นชั้น 3 จะมีหน้าต่างบานเปิด 1 บาน ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าโถงบันไดได้ดีในช่วงกลางวัน นอกจากนี้ด้านนอกหน้าต่างนั้นยังมีพื้นปูนที่ยื่นออกไปเพื่อวาง Compressor แอร์ หน้าต่างนี้จึงสามารถเป็นทางเข้า-ออกให้ช่างไปเซอร์วิสได้ค่ะ

ที่ด้านนอกหน้าต่างมีพื้นปูนยื่นออกไปให้วาง Compresor แอร์ได้พอดี

ขึ้นมาที่ชั้น 3 เราจะเจอโถงเล็กๆที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำรวม เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องต่างๆโดยเริ่มจาก ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และห้องนอน 3 ตามลำดับนะคะ

เข้ามาที่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งเป็นห้องนอนเล็กที่สุดของบ้าน ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3  ฟุตครึ่งได้พอดีๆ โดยยังมีพื้นที่ไว้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกทั้งสองด้าน หากสังเกตดีๆจะเห็นว่าห้องนี้มีขนาดพื้นที่และช่องเปิดเท่าๆกับ Living area ด้านล่างเลยคะ จะต่างกันก็เพียงหน้าต่างทางขวามือที่ให้เป็นบานเปิดคู่มา 2 บานเท่านั้น พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา  8 มม. และที่ฝ้าเพดานติดโคมไฟซาลาเปามาให้

ที่ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

ส่วนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1 x 1.5 เมตร ที่พื้นไม่มีการลดระดับพื้นให้ แต่จะมีกรอบประตูเป็นธรณีขึ้นมา เพื่อกันน้ำไหลไปเปียกส่วนแห้งขณะอาบน้ำ ที่พื้นใช้กระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เหมือนกับส่วนแห้ง

ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ สามารถ Built-in ฉากกั้นแบบนี้แล้วทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet แบบบ้านตัวอย่างได้ ทางซ้ายมือมีการ  Drop ผนังเข้าไป

โดยเราสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ

สวิตซ์ไฟและเต้ารับภายในโครงการจะใช้ของ schneider หน้าตาแบบนี้ทั้งหมด

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 May, 2016

  • TH กลาง แปลงที่ 10 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 19.90 ตร.วา ราคา 5,030,000 ล้านบาทหรือ 252,763 บาท/ตร.วา
  • TH กลาง แปลงที่ 7 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 19.90 ตร.วา ราคา 5,230,000 ล้านบาทหรือ 262,814 บาท/ตร.วา
  • TH มุมรั้ว แปลงที่ 9 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 33.90 ตร.วา ราคา 5,770,000 ล้านบาทหรือ 170,206 บาท/ตร.วา
  • TH มุมสวน แปลงที่ 5 พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ที่ดิน 30.80 ตร.วา ราคา 6,040,000 ล้านบาทหรือ 196,103 บาท/ตร.วา

 

  • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 5 %
  • ที่ดินเพิ่ม-ลด ราคาตร.วาละ 85,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ The Connect เพชรเกษม 48 เรียกว่าอยู่ในย่านชานเมืองที่กำลังพัฒนา เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังไปถึง ซี่งอีกไม่นานก็คงได้ใช้งานกันแล้ว แน่นอนว่าความเจริญส่วนใหญ่จะไปเกาะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า คือบนถนนเพชรเกษม ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ซีคอนบางแค, The Mall บางแค, บิ๊กซี, โลตัส หรือถนนใกล้ๆอย่างเส้นราชพฤกษ์ ก็มี Community Mall ที่น่าสนใจหลากหลาย ถ้าเจาะลึกภายในซอยเพชรเกษมเองความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะไปกองอยู่แถวช่วงต้นซอยมีทั้งตลาด Lotus Express และร้านค้าหลากหลายมาก พอผ่านโค้งวัดจันทร์ประดิษฐารามมาก็จะเป็นโรงเรียน บ้านพักอาศัย ตึกแถว และอพาร์ทเม้นซะเป็นส่วนใหญ่ ความคึกคักจะลดลงมา สาธารณูปโภคใกล้ๆโครงการที่พอจะพึ่งพิงได้ก็มีร้านขายของชำใกล้ๆโครงการ ถ้าออกมาหน่อยก็จะมี Dragon Mall หรือจะเลยไปช่วงถนนบางแวกก็มีของกินให้เลือกหลายหลายพอสมควร

การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวก สามารถทะลุออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง โดยทางเข้าออกหลักๆคือทางถนนเพชรเกษมสามารถทะลุออกถนนราชพฤกษ์ หรือจรัญสนิทวงศ์ได้ อีกทางคือถนนบางแวก สามารถใช้เข้ามาโครงการทางถนนพุทธมณฑลสาย 1 หรือเลี้ยวไปทะลุถนนราชพฤกษ์ หรือจรัญสนิทวงศ์ก็ได้ค่ะ การจราจรภายในซอยเพชรเกษม 48 ในช่วงกลางวันจะคล่องตัว แต่ช่วงเช้ากับเย็นจะมีติดขัดบ้างเนื่องจากช่วงกลางซอยมีโรงเรียนถึงสองแห่ง และเนื่องจากซอยนี้เป็นทางลัดทะลุถนนได้หลายเส้นทาง จึงไม่แปลกที่การจราจรจะหนาแน่น

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากหน้าโครงการมีรถแท๊กซี่และพี่วินวิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรถสองแถวสีแดง วิ่งรับส่งภายในซอย ซึ่งจากโครงการไปถึงหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 มีระยะทาง 2 กิโลเมตร เราสามารถนั่งรถแท๊กซี่ พี่วิน หรือสองแถวไปได้สบายๆ และถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสร้างเสร็จแล้ว ก็ยังไปใช้บริการได้ที่สถานีเพชรเกษม 48 อยู่ห่างจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 48 ประมาณ 100 เมตร หรือถ้าไปทางถนนบางแวกก็สามารถไปใช้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีบางหว้าได้ค่ะ

ความปลอดภัยภายในโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการเป็นแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูรางเลื่อนอัตโนมัติ ลูกบ้านเข้าออกโครงการโดยใช้ Key Card Access ระยะใกล้  มีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 8 จุด รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.5 เมตร โดยรวมแล้วให้ตามมาตรฐานเหมือนโครงการทั่วไป

วัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ ตัวโครงสร้างเป็น Pre-Cast ตามสไตล์พฤกษา ผนังฉาบเรียบทาสี หน้าต่าง-ประตูใช้วงกบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวใสตัดแสง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 2.75 เมตร, ชั้น 2 และ 3 สูง 2.55 เมตร โคมไฟซาลาเปา วัสดุปูพื้นใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และพื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต  ส่วนกระเบื้องห้องน้ำเป็นเซรามิคแผ่นเล็กขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีฉากกั้นอาบน้ำให้ที่ชั้น 2 และชั้น 3 โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Mogen

สภาพโครงการค่อนข้างร่มรื่น มีการปลูกต้นไม้ที่รั้วบ้านตลอดแนว ตัวถนนหลักกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 และ 10 เมตร ค่อนข้างกว้างไม่แออัด และสัญจรสบาย  ภายในโครงการจะมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด โดยคลองนี้เป็นคลองเล็กๆ ไม่มีกลิ่นและน้ำไม่ใส โครงการจึงออกแบบให้แนวรั้วสะพานทึบเพื่อไม่ให้มองเห็นคลอง สร้างมุมมองที่ดีขึ้นค่ะ

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา-ขาว-ดำ ส่วนการจัดวาง Function ในบ้านเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย มีการจัดวางพื้นที่ให้ห้อง Master Bedroom สามารถจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เช่น นั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้  ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็น Family area ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 เหมือนกันเลย เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งทางเข้าห้องน้ำ โดยชั้น 2 ทางเข้าห้องน้ำจะเป็นของ Master Bedroom ส่วนชั้น 3 จะเข้าห้องน้ำจากทางโถงกลาง ดังนั้นเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นห้องเองได้ตามไลฟ์สไตล์ค่ะ

สาธารณูปโภคของโครงการจะมีสวนหย่อมหน้าที่โครงการ และสวนสาธารณะด้านในโครงการอีกจุด พื้นที่ส่วนกลางให้มาไม่มากเท่าไหร่ และถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 50 บาท ต่อตารางวา ก็ถือว่าสูงอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตที่น้อยแค่ 95 ยูนิต ก็แสดงว่ามีการแชร์ส่วนกลางกันน้อยตามไปด้วย

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4.48-6 ล้านบาท, 19 May, 2016

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เดินทางด้วยรถสะดวก ไม่มีรถก็เดินทางง่าย อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีเพชรเกษม 48 ประมาณ 2.1 กิโลเมตร
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและบานเลื่อนอัตโนมัติ มี CCTV ที่ Main Gate และในโครงการรวม 8 ตัว
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – รูปแบบและฟังก์ชั่นดี ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ง่าย
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – สภาพโครงการมีสะพานข้ามคลอง 2 จุด ถนนกว้าง มีต้นไม้รอบๆร่มรื่นดี
  • สาธารณูปโภค 6.75/10 –มีสวนหย่อมและสวนสาธารณะที่หน้าโครงการ
  • 7.46 / 10.00

BOTTOM LINE

The Connect เพชรเกษม 48 เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มองหาทาวน์โฮมในย่านชานเมือง ที่ใช้รถส่วนตัวสะดวก มีแนวโน้มจะใช้รถไฟฟ้าในอนาคต ชอบบ้านที่มีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลาย ไม่เน้นใช้ Facilities มีงบประมาณ 4.48-6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 31,360-42,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )