รีวิวฉบับที่ 625 … หลังจากที่ทางทีมงานได้พาตระเวนไปดูทาวน์เฮาน์ 3 ชั้น ของพี่แสนเค้ามาหลายที่แล้ว คราวนี้มาดูแบรนด์น้องเล็กบ้าง โครงการนี้มีชื่อว่า Habitown Nest ท่าข้าม – พระราม 2 ตัวนี้จะเป็นทาวน์เฮาส์สูงแค่ 2 ชั้น ออกแบบมาแนว Modern จ๋าเอาใจวัยรุ่นยุคใหม่ เน้นความเรียบของตัวอาคาร ทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ (วนแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้) ครับ ヾ(＾-＾)ノ~♪
Fact @ 27 June 2014
- Habitown Nest Thakham – Rama 2 (ฮาบิทาวน์ เนสท์ ท่าข้าม – พระราม 2)
- บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- Segment : Economy CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางขุนเทียน
- เนื้อที่โครงการ 27-2-71.1ไร่ 331 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 18 – 35.2 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาทหรือ 123,800 บาท/ตร.วา
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ กลางปี 2558
- http://www.sansiri.com/townhouse/habitown_nest_thakham_rama2/th/home/
- Call Center : 1685
- สำนักงานขาย : 02-416-4558
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.622715,100.446557
แผนที่จากโครงการจะแสดงให้เห็นพื้นที่สำคัญต่างๆแบบพื้นที่กว้าง ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้ ซึ่งเป็นทางยกระดับที่เชื่อมต่อกับทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ ดังนั้นตัวถนนจึงเป็นทางคู่ขนานกับทางด่วนและมีถนนแค่ด้านเดียวเวลาจะเข้าโครงการต้องลอดใต้สะพานไป ดังนั้นสภาพแวดล้อมจะดูแปลกๆตาไปจากโครงการที่ติดถนนธรรมดา เดี๋ยวไปดูจากแผนที่จริงจะเข้าใจง่ายกว่าครับ
ตัวโครงการจะอยู่ฝั่งด้านล่าง(ทิศใต้) ของถนนวงแหวน การจะเข้าโครงการจากถนนใหญ่พระราม 2 สามารถเข้่าได้หลัก 2 ทางคือเข้าจากซอยท่าข้าม หรือเข้าจาก ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล ส่วนทางเข้าอื่นๆสามารถเข้าจากถนกาญจนาภิเษกโดยตรงเลยก็ได้ หรือจะถ้ามาทางสุขสวัสดิ์ก็วิ่งเลียบทางด่วนมาได้เช่นกัน เนื่องจากถนนเส้นนี้ไม่ใช่ถนนหลักอย่างพระราม 2 ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์ หรือแหล่งของกินต่างๆจะอยู่ไกลซักหน่อย ต้องวิ่งไปบนเส้นพระราม 2 เลย ซึ่งผมเคยทำรีวิวทำเลตรงนั้นไปแล้ว สามารถกดที่นี่เผื่ออ่านได้เลยครับ
การเดินทางจากถ.พระราม 2 ถ้ามาจากในเมือง ซ.ท่าข้าม(เส้นทางที่ 2)จะเป็นซอยที่ถึงก่อน แต่ซอยนี้เป็นซอยที่มีคนอยู่กันเยอะรวมถึงแหล่งโรงงานขนาดเล็ก-กลางต่างๆ ทำให้การจราจรจะติดขัดต้องใช้เวลาเยอะกว่าจะทะลุมาถึงถ.เลียบวงแหวน แต่ถ้าวิ่งเลยซ.ท่าข้ามไปหน่อยก็ไปเข้าทางเส้น บางขุนเทียน – ชายทะเล(เส้นทางที่ 1) ก็ได้ เส้นนี้จะมีขนาดถนนที่ใหญ่กว่าและวิ่งได้เร็วกว่า ความซับซ้อนของเส้นทางก็มีน้อยกว่า ส่วนระยะทางทั้ง 2 เส้นทางก็ไม่ต่างกันมาก เอาเป็นว่าลองไปวิ่งดูทั้ง 2 ทางแหละครับเผื่อจะเล็งเรื่องอาหารการกินตามเส้นทางต่างๆไว้ด้วย
มาซูมดูตรงทางเข้ากันอีกหน่อยนะครับ ถ้าลองดูจากพื้นที่รอบๆจะเห็นว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นของพี่แสนเค้านะแหละครับ แล้วเอาที่ดินมาซอยย่อยเป็นโครงการต่างๆ ซึ่งโครงการบ้านเดี่ยว บุราสิริ จะอยู่ด้านหน้าสุดเป็นโครงการราคาประมาณ 5 – 10 ล้าน ส่วนด้านในจะเป็น Habitia Shine (บ้านแฝด) และ Habitown Nest (ทาวน์โฮม) เป็นโครงการระดับราคารองๆลงมา ที่ใช้ถนนทางเข้าร่วมกัน
เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่ฝั่งที่ติดถนนหลักเลยทำให้มีระยะจากถนนเข้ามาที่โครงการประมาณ 730 เมตรแบ่งเป็น ระยะจากลอดใต้สะพานถึงถนนทางเข้าโครงการ 210 เมตร และจากถนนหน้าทางเข้าโครงการถึงหน้าโครงการอีก 520 เมตร ถ้าใครนึกภาพไม่ออกเดี๋ยวผมจะพาไปดูนะครับ
เส้นทางที่จะพาผมเลือกไปทาง บางขุนเทียน-ชายทะเล นะครับ เพราะวิ่งสะดวกดี ถ้ามาจากทางด่วนให้วิ่งบนถนนหลักยาวๆเลยจนเจอป้ายบอกไปบางขุนเทียนแล้วค่อยชิดซ้ายออกมา พอเจอสะพานข้ามแยกแบบนี้ก็เลี้ยวซ้ายได้เลย
บนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยแหล่งสำนักงานและโรงงานต่างๆ อย่างด้านซ้ายนี้คือโรงงานทำรองเท้า Kito แล้วฝั่งตรงข้ามเป็นโรงงาน SOKEN
ตรงเข้ามาได้ประมาณ 1.6 กม. จะเจอซอยย่อยที่ไปออกซอยท่าข้ามและถนนพระราม 2 ได้
ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวไปโครงการจะเจอ 3 แยกไฟแดง ที่เลี้ยวขวาไปซ.สะแกงาม กับ ถนนกาญจนาภิเษก ตรงนี้ช่วงกลางต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่หน่อยนะครับ เพราะแยกนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
พอวิ่งมาเจอทางยกระดับ กาญจนาภิเษก ก็ให้เลี้ยวซ้ายก่อนลอดใต้สะพานไปนะครับ
พอเลี้ยวซ้ายมาแล้วสภาพถนนจะเป็นแบบที่เห็นเลยครับคือเราจะวิ่งขนานกับตัวทางด่วนไป ก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าโครงการจะมีจุดสังเกตคือร้าน สเต็กมะจันทร์ ที่มีขายทั้งสเต็กและก๋วยเตี๋ยว รสชาติก็กลางๆกลับแต่ราคาย่อมเยาว์ดี ^__^
ตรงทางเลี้ยวขวาเข้าโครงการจะมีป้ายสีฟ้าของโครงการติดอยู่หลายอันเลย รูปนี้มืดๆหน่อยนะครับเพราะถ่ายย้อนแสง
เนื่องจากทางด่วนนี้เป็นสะพานที่ไม่ได้สร้างยกสูงเหมือนทางด่วนทั่วไป ความสูงในการลอดใต้สะพานเลยเตี้ยหน่อย
พอลอดใต้สะพานมาแล้วจะเห็นโครงการบุราสิริ อยู่ตรงหน้าเลย ให้เลี้ยวขวาไปนะครับ ถนนหน้าโครงการที่เห็นอยู่นี้ไม่สามารถวิ่งยาวๆแบบถนนฝั่งนู้นได้นะครับเป็นแค่ถนนสำหรับคนที่อยู่ในละแวกนี้เท่านั้น
พอเลี้ยวมากแล้วไม่ต้องกลัวหลงครับ เพราะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่บอกทางอยู่ วิ่งไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเลย
ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ใช้ร่วมกันทั้ง 2 โครงการ
วิ่งตรงมาจนสุดจะเจอจุดเริ่มต้นที่ดินของโครงการ
ตรงเข้าสุดจะเห็นทางเข้าทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เซ็นทรัล พระราม 2 5.8 กม.
- Tesco Lotus พระราม 2 5.3 กม.
- Big C พระราม 2 5.7 กม.
- HomePro, SB Furniture 5.7 กม.
- โรงพยาบาลนครธน 6.6 กม.
- โรงพยาบาลบางปะกอกอินเตอร์ ถนนพระราม 2 12.5 กม.
- โรงพยาบาลบางมด 14.9 กม.
- ม. เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 10 กม.
มาดูผังโครงการกันบ้างนะครับ ตัวโครงการจะมีที่ดินบางส่วนที่ติดกับถนนทางเข้าด้านหน้าและมียูนิตบางส่วนอยู่ตรงนั้นด้วย ซึ่งทางเข้าจะมีแค่ทางเดียวยูนิตตรงนั้นจะต้องอ้อมสระว่ายน้ำและสวนตรงกลางไป ถนนหน้าโครงการและถนนหลักจะกว้าง 16 เมตร และช่วงกลางๆโครงการจะลดเหลือ 12 เมตร ส่วนซอยย่อยต่างๆจะกว้าง 9 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่รถเล็ก (B Segment) กลับรถหน้าบ้านได้เลยนะ ยูนิตที่ได้วิวสวนจะมีแค่แถวเดียวเท่านั้นเพราะอีกฝั่งเป็นถนนเมนและตัวบ้านหันข้างให้กับสวน ระยะจากหน้าโครงการถึงท้ายโครงการประมาณ 260 เมตร ถือว่าไม่ไกลากนักพอเดินหรือปั่นจักรยานมาใช้ส่วนกลางได้สบายๆ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
บริเวณทางเข้าที่ใช้ร่วมกนของทั้ง 2 โครงการก็จัดมาให้แบบกว้างๆเลยครับ
จากรูปเมื่อกี้ทางเข้าของ Habitown Nest ด้านขวามือ ตัวป้อมยามดูโล่งๆไปหน่อยนะ
ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะมีแค่รปภ. และรั้วกั้นไม้กระดกเท่านั้น ไม่มี CCTV และ Key Card Access
เข้ามาปุ๊บก็เจอสวนขนาดใหญ่เลย ตอนนี้โครงการอยู๋ในระหว่างการก่อสร้าง มีเสร็จแค่บางส่วนเท่านั้น
หันไปด้านหน้าจะเห็น Club House อยู่ข้างๆป้อมยาม ซึ่งทางเข้าต้องมาเข้าจากทางนี้เท่านั้นนะครับ ลูกบ้านที่อยู่อีกฝั่งจะต้องเดินอ้อมสวนมาเข้าทางดี
ตัว Club House ก็ออกแบบมาให้อยู่ในสไตล์เดียวกับตัวบ้าน คือเน้นแนวเรียบๆดูเป็นกล่องๆ เหลี่ยมๆ ป้ายทางเข้า H-Club ดูเป็นเอกลักษณ์ดีนะ สระว่ายน้ำของที่นี่ดีอย่างตรงที่เค้าปลูกไม้พุ่มบังไว้บดเลย ช่วยให้เล่นน้ำได้สบายใจหน่อย
เดินเข้ามาใน Club House ตัวสระจะอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งรอบๆจะทำเป็นสวนหย่อมไว้ให้นั่งเล่นได้
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร พอมีระยะให้ว่ายออกกำลังกายได้
ทางเดินลงสระก็ออกแบบให้เป็นบันไดยาวๆ ดูสวยดีแต่ผูู้สูงอายุควรยืนิดริมๆแล้วค่อยเดินลงจะปลอดภัยกว่า
รอบๆสระในส่วนที่เป็นที่นั่งพักผ่อนจะมีต้นไม้ใหญ่มาลงให้พอสมควร ซึ่งคงต้องอีกสัก 2 -3 ปีกว่าจะแตกกิ่งก้านให้ร่มเงาแบบจริงจังได้
ทางลงเดินไปยังพื้นที่นั่งเล่นรอบๆสระจะเป็นทรายล้างสลับกับกระเบื้องและมีไฟส่งทางเดินติดมาให้ด้วย
ทางเดินรอบๆจะมีการออกแบบ Landscape กับสวนมาช่วยสร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่นั่งเล่น อีกหน่อยต้นไม้โตขึ้นให้ร่มเงาเยอะพื้นที่ตรงนี้คงสวยขึ้นเยอะเลยครับ (แต่ต้องดูแลรักษากันดีๆนะ)
ขอบสระด้านนี้จะเป็นแบบน้ำล้น เด็กๆไม่ควรปีนขึ้นมาตรงนี้นะเพราะจะลื่นเอา
จากตรงนี้จะเดินเข้าสวนไม่ได้นะครับเพราะมีไม้พุ่มกั้นไว้อยู่อีกชั้น
หันกลับไปดูสระว่ายน้ำอีกมุม
เดี๋ยวเราไปดูส่วนของ Fitness กันต่อนะครับ
ห้อง Fitness ของที่นี่จะเป็นหน้าต่างรอบด้าน และเป็นประตูบานเลื่อนที่สามรถเปิดได้ทุกบานเลย
ภายในจะมีเครื่องเล่นประมาณ 5 เครื่อง วิวที่ได้จะเป็นประมาณนี้ครับ
การที่ทำเป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้ มีข้อดีคือสามารถช่วยระบายอากาศและความชื้นของห้อง Fitness ได้เป็นอย่างดีช่วยให้ไม่มีกลิ่นอับ แถมถ้าหน้าหนาวอากาศดีๆไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดประตูรับลมก็ได้นะครับ (ถึงแม้ปีนึงจะหนาวไม่กี่วันก็เถอะนะ)
ด้านหน้าห้อง Fitness จะมีระแนงบังแดดมาให้ แต่ช่วงบ่ายๆแดดจะส่องเข้าด้านในพอดีระแนงตรงนี้ก็ช่วยได้นิดหน่อย
ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งอยู่คนละฝั่งกันเลย
ภายในมี Locker มาให้ 9 ช่อง
มีห้องอาบน้ำและห้องสุขภัณฑ์มาให้อย่างละห้อง
เดี๋ยวเราไปเดินดูส่วนที่เหลือกันต่อ รอบๆสวนหย่อมจะมีทางเดินเป็นทรายมาให้ แต่ไม่สามารถวิ่งรอบๆได้นะครับ เพราะไม่ได้เชื่อมกันเป็นวงกลม
ทางที่วิ่งรอบๆได้จะเป็นรอบสนามหญ้าตรงนี้ แต่ระยะก็สั้นเหลือเกินเหมาะเอาไว้เดินเล่นยามเย็นมากกว่า
สุดทางจะมีศาลาให้นั่งพักผ่อน 1 จุด
วัสดุเป็นหินขัดเหมาะสำหรับตากแดดตากฝน เพราะตรงนี้ไม่ได้เป็นหลังคาปิดเป็นแค่ระแนงบังแดดเท่านั้น ตอนกลางวันอย่าไปนั่งนะครับ รับรอง…สุก แน่นอน 555
จากศาลาจะมีทางเดินลงไปยังส่วนของสนามเด็กเล่นได้ มีเครื่องเล่นมาให้นิดหน่อย พื้นสนามเด็กเล่นเป็นแบบบล็อคยางกันกระแทก
อีกด้านเป็นที่นั่งสำหรับผู้ปกครองและมีต้นไม้ใหญ่บังแดดให้ด้วย
ทางเดินข้างๆสนามเด็กเล่นจะมีต้นไม้ใหญ่ลงมาให้เยอะพอสมควรเลย รออีกหน่อยคงร่มรื่นแน่ๆครับ
ถ่ายบรรยากาศภายในมาให้ดูครับ น่าเสียดายที่พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆไม่ได้ลงต้นไม้ใหญ่มาให้เลย เลยดูแห้งๆร้อนๆหน่อย
รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรและต่อรั้วโปรงไปอีก 0.5 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด xxx ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
- สวนหย่อม
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.5 เมตร
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 16 – 12 เมตร ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตร
แบบบ้านของที่นี่มีแค่แบบเดียวคือ หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถพื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 18 – 35.2 ตร.วา ตัวบ้านได้หน้ากว้าง 5.7 ช่วยให้จอดรถสะดวกขึ้นมาก แต่ความลึกของตัวบ้านกลับเหลือแต่นิดเดียว (ประมาณ 6 เมตร) ทำให้บรรยากาศในตัวบ้านดูเล็กไปหน่อย แต่ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆแค่ 2 – 3 คนก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ถ้าอยู่เกินกว่านี้จะเริ่มอึดอัดแล้ว ฟังก์ชั่นหลักๆของบ้านก้ใส่มาให้ครบ แต่พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก อย่างพื้นที่จอดรถเค้าใช้วิธีเอาที่จอดรถอีกคันยื่นเข้าไปในตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องตากแดดตากฝนมาก แต่อีกคันจะต้องตากแดดหน่อยนะ เดี๋ยวไปดูของจริงกันดีกว่ครับว่าจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไร
หน้าตาตัวบ้านจะเป็นเหลี่ยมๆ กล่องๆอย่างที่เห็น ตัวกำแพงจะยื่นออกมาเป็นกรอบให้กับตัวบ้านและยังช่วยให้ดูมีมิติมากขึ้น
ตัวระเบียงที่ให้มาจะเป็นระเบียงที่ไว้ใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์เท่านั้น ไม่สามารถเดินออกมาได้
เทียบกับบ้านเปล่า พอไม่มีการตกแต่สวนด้านหน้านี่ยิ่งโล่งใหญ่เลย
พื้นบ้านของจริงจะเป็นพื้น คสล. ธรรมดา รั้วระหว่างบ้านสูง 1 เมตร
ประตูรั้วของบ้านจะเป็นแบบพับ 3 ตอนและเป็นแบบพับออกไม่ต้องกังวลว่าจะเปิดไปโดนรถที่จอดอยู่
หน้าบ้านจะได้ประตูทางเข้าแบบบานเลื่อนเดี่ยว และมีเฉลียงปูกระเบื้อง 30 x 30 ซม. มาให้ ดังนั้นเวลาจะซื้อเฟอร์นิเจอร์อย่าลืมคำนวณระยะของประตูด้วยนะครับ เดี๋ยวซื้อของชิ้นใหญ่ๆมาแล้วจะเอาเข้าบ้านไม่ได้
ทางเข้าบ้านจะมีส่วนที่ลึกเข้าไปครึ่งนึง เพื่อให้จอดรถแบบกึ่งร่มกึ่งแดดได้
ตรงนี้จะมีห้องเก็บของและเฉลียงหน้าบ้านมาให้ ซึ่งมีขนาดกว้างกว่า ทางเข้าหน้าบ้านอยู่นิดหน่อย
หน้าตามือจับกลอนประตู กรอบประตูของที่นี่จะเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติทั้งหมด
พื้นบ้านยกระดับขึ้นมาจากเฉลียงประมาณ 10 ซม.
เปิดประตูเข้ามาบ้านจะเห็นทุกส่วนของบ้านเลย เพราะตัวบ้านไม่ได้ลึกมาก พื้นชั้นล่างได้เปนพื้นหินกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
เทียบกับบ้านเปล่า จะไม่มีการ Drop ฝ้าแล้วใช้แอร์แบบแขวนผนังไม่ได้เป็นแบบ แอร์คอยล์เปลือย (Conceal Type) เหมือนในบ้านตัวอย่าง
ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร และขนาดของโซฟาที่วางได้เต็มที่แค่ 3 ที่นั่ง เพราะวางใหญ่กว่านี้จะไปกระทบกับพื้นที่โต๊ะทานอาหาร
ถ่ายมาให้ดูสัดส่วนกับบรรยากาศในชั้นล่างอีกสักมุม
ขนาดโต๊ะทานอาหารที่วางได้เหมาะกับแค่ 4 ที่นั่ง
ส่วนครัวจะได้พื้นที่แค่เป็นขนาดเล็ก ถ้าจะทำใหญ่กว่านี้คงต้องต่อเติมด้านหลังบ้านเอา แล้วปรับส่วนนี้เป็นครัวฝรั่งแทน
เทียบกับบ้านเปล่า ตรงส่วนครัวจะมีหน้าต่างมาให้ 1 ชุดเป็นบานเลื่อนสลับ
กรอบหน้าต่างเป็นแบบกรอบเล็กเวลาจะเปิด/ปิดก็จะเป็นอย่างในรูปครับ ตัวล๊อคเป็นแบบก้นหอย
ส่วนหลังบ้านจะเป็นทางึ้นชั้น 2 และห้องน้ำ กับ ทางออกไปยังหลังบ้าน
ประตูที่ได้จะเป็นแบบเดียวกันทั้งหลัง ได้กลอนแบบลูกบิด แม้กระทั่งประตูห้องน้ำก็ไม่ได้แบบที่มีร่องระบายอากาศนะ
ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะมีโซนอาบน้ำมาให้ ซึ่งมีระยะที่ไม่พอติดฉากกั้นทำให้เวลาอาบน้ำก็เลอะเทอะนิดหน่อย แต่ก็ยังดีที่ทิศทางของฝักบัวไม่ได้หันไปทางโถสุขภัณฑ์โดยตรง
หน้าตาฝักบัวเป็นแบบน่ารักจิ้มลิ้ม
อ่างล้างหน้าจะมาแบบแขวนพร้อมกระจกเงากว้างพอดีตัวตัวอ่าง ไม่มีเคาน์เตอร์วางของมาให้
เวลาใช้งานจริงต้องหาชั้นมาติดเพิ่มเองนะครับ ขนาดอ่างกลางๆไม่ใหญ่ และก้นอ่างไม่ลึก
ชุดสุขภัณฑ์ของโครงการนี้ใช้ของ American Standard ตำแหน่งของที่แขวนทิชชู่ใช้งานสะดวก แต่ควรเปลี่ยนเป็นแบบมีที่ผิดกันน้ำเพราะอยู่ใกล้กับฝักบัวเลย
พื้นของห้องย้ำลดระดับลงมาประมาณ 8 ซม.
ช่องระบายอากาศเป็นบานกระจกสลับกัน หน้าต่างแบบนี้จิ้งจกชอบนักแล…;p
ออกมาดูหลังบ้าน ตรงนี้จะมีเฉลียงเทปูนมาให้ประมาณ 70 ซม. ถ้าจะใช้งานต้องเทพื้นเพิ่มเติมเอง
หันกลับมาดูพื้นที่วางทีวีที่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 บ้าง
เทียบกับบ้านเปล่าที่ได้ ตัวบันไดไม่ได้เป็นไม้นะครับแต่เป็นไฟเบอร์ซีเมนต์เวลาเดินจะให้ความรู้สึกอีกแบบ ไม่ได้แน่นเหมือนพวกไม้ยางพาราประสาน
บันไดที่นี่มีระยะสั้นเลยทำให้ต้องใช้แบบ 3 เปลี่ยมเข้ามุม ราวระเบียงเป็นโครงเหล็กทำสีขาว
พื้นชั้น 2 ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
โถงทางเดินชั้น 2 โถงทางเดินภายในจะไม่กว้างพอให้ใส่ตู้เก็บของหรืออะไรลงไปได้
และตู้เมนไฟของบ้านจะติดอยู่หน้าห้องน้ำ
ห้องนอนเล็กที่อยู่หน้าบ้านจะมีขนาดประมาณ 2.8 x 2.9 ซึ่งเหมาะสำหรับห้องนอนเด็กวางเตียงแค่ 3.5 – 5 ฟุตก็พอ หน้าต่างก็เป็นชุดเดียวกันกับชั้นล่างเลยครบ
ต่อมาเป็นห้องนอนใหญ่ที่ไม่มีห้องน้ำในตัว สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้แต่ต้องวางชิดกำแพงด้านนึงแบบในห้องตัวอย่างครับ
จะได้พื้นที่รอบๆเตียงที่เหลือประมาณนี้
อีกฝั่งก็ทำเป็น Built-in ตู้เสื้อผ้าไป ห้องนี้ขนาดจะอยู่ที่ประมา 3.8 x 2.7 เมตร
ห้องน้ำชั้นบนจะมีขนาดใหญ่หน่อย ใช้งานได้สะดวกขึ้น
โซนอาบน้ำสามารถติดตั้งฉากกั้นเป็นสัดส่วนได้ ผนังที่ติดฝักบัวจะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องสีต่างๆมาให้ แต่ก็ยังคุมโทนสีให้เข้าได้ดี
ราวแขวนผ้าจะติดอยู่ที่ทางเข้าห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม. และมีธรณีกั้นโซนเปียกมาให้
ส่วนห้องสุดท้ายทางโครงการแต่งเป็นห้องนั่งเล่นแทน ซึ่งการใช้งานจริงก็ไม่ควรทำห้องนี้เป็นห้องนอนเท่าไหร่เพราะมีพื้นที่เล็กที่สุดในบ้านประมาณ 2.7 x 2.7 เมตรเท่านั้นแนะนำให้ทำเป็นห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องดูหนังจะใช้งานได้ดีกว่า
ระยะพื้นที่อีกด้านถ้าใส่ตู้เสื้อผ้าก็ทำได้ไม่มากเท่าไหร่ สำหรับใครที่คิดว่าห้องนอนแบบนี้เล็กไปและอยากได้ใหญ่กว่านี้ ยังมีวิธีปรับเปลี่ยนได้อยู่ครับ
โดยทางโครงการเค้าเตรียมบ้านตัวอย่างสำหรับคนที่อยากได้ห้องนอนขนาดใหญ่ เป็นแบบมี Walk-in Closet(W.I.C.) ในตัว มาให้ดูด้วย เพราะผนังภายในเป็นผนังเบาสามารถทุบออกได้ อย่างห้องตัวอย่างนี้เค้าทุบออกแล้วทำให้เหลือแค่ 2 ห้องนอน โดยเอาห้องนั่งเล่นในบ้านตัวอย่างหลังแรกมาแปลง W.I.C. แทน
การกั้นห้องทำได้โดยใช้เป็นบานเลื่อนคู่แทน
นอกจากจะได้พื้นที่ W.I.C เพิม่แล้วยังใส่โต๊ะทำงานเพิ่มไปอีกตัวได้ด้วย
ขนาดตู้เสื้อผ้าที่ใส่เพิ่มจะได้ประมาณนี้ ซึ่งคงถูกใจสาวๆแน่นอนครับ เพราะให้เก็บของของกระจุ๊กกระจิ๊กมากมายเลย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 June 2014
- TH มุมสวน ยูนิต 0101 พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 35.2 ตร.วา ราคา 3.49 ล้านบาทหรือ 99,100 บาท/ตร.วา
- TH กลาง ยูนิต 0802 พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 18.6 ตร.วา ราคา 2.99 ล้านบาทหรือ 160,800 บาท/ตร.วา
- TH กลาง ยูนิต 1206 พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 18.6 ตร.วา ราคา 2.59 ล้านบาทหรือ 139,200 บาท/ตร.วา
- TH มุมรั้ว ยูนิต 1201 พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 18.7 ตร.วา ราคา 2.89 ล้านบาทหรือ 154,500 บาท/ตร.วา
- TH กลาง ยูนิต 2406 พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ที่ดิน 18.5 ตร.วา ราคา 2.29 ล้านบาทหรือ 123,800 บาท/ตร.วา
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 3 งวด
- ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ Habitown Nest ท่าข้าม – พระราม 2 เป็นทำเลที่เรียกว่าแปลกๆซักหน่อย เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ เป็นถนนที่วิ่งคู่ขนานไปกับทางยกระดับที่ไปเชื่อมต่อกับทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ เนื่องจากตัวถนนเลียบวงแหวนไม่ได้มีทั้ง 2 ฝั่งของทางยกระดับทำให้การเข้าโครงการต้องวิ่งลอดใต้ทางยกระดับเพื่อไปถนนหน้าโครงการแล้วค่อยเลี้ยวเข้าซอยไปอีกที เลยมีระยะในการเข้าโครงการหน่อย
ทำเลตรงนี้เป็นทำเลที่รถใช้สัญจรกันเยอะพอสมควรเพราะเป็นทางเชื่อมไปยัง ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล, ถ.สุขสวัสดิ์ และประชาอุทิศได้ แต่บริเวณนี้ยังด้อยเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการถึงแม้จะมีหมู่บ้านมาขึ้นกันบ้างแล้วก็ตาม แหล่งร้านอาหารการกินต่างๆยังต้องการพัฒนาอีกซักระยะ ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะไปอยู่บนเส้นพระราม 2 มากกว่าเพราะมีทั้ง เซ็นทรัล, Big C, Home Pro และ SB Furniture ทำให้การเดินทางต้องใช้รถยนต์เป็นหลัก รถสาธาณะจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่
การเดินทางด้วยรถยนต์ต้องบอกว่าถ้าเป็นคนที่ทำงานหรืออยู่แถวๆนี้ คงจะคุ้นเคยกับการลัดเลาะตามซอยเล็กซอยเป็นอย่างดี เพราะพื้นที่แถวๆนี้เป็นเหมือนรังมดที่มีจุดเชื่อมต่อกันเยอะมาก เรียกว่าจากโครงการสามารถไปออกถนนหลักๆรอบๆโครงการได้ครบทุกเส้นเลย เส้นทางหลักๆในการใช้งานจะเข้าออกทางซ.ท่าข้ามก็ได้ แต่เส้นนี้เป็นซอยเล็กและมีคนอาศัยกันอยู่เยอะทำให้รถติดหนักเป็นช่วงๆ ถ้าใครทำความเร็วหน่อยก็ใช้เส้นบางขุนเทียน-ชายทะเลได้ เพราะตัวถนนกว้างกว่าและเส้นทางไม่ซับซ้อนวิ่งง่ายกว่าไม่ต้องเข้าซอยเล็กซอยน้อยเพื่อมายังโครงการ แค่วิ่งมาตรงๆแล้วเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนก็ถึงเลย
วัสดุของโครงการนี้ให้มาสมราคาบ้างไม่สมราคาบ้าง ส่วนใหญ่จะได้ตามมาตรฐานระดับราคานี้อยู่แล้ว มีแค่บางอย่างที่ดูด้อยไปหน่อย พื้นชั้นล่างได้พื้นหินแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. การก่อสร้างเป็นแบบ Tunnel Form หรือผนังรับน้ำหนักนั่นเอง ส่วนผนังภายในเป็นผนังบเบาสามารถทุบหรือต่อเติมได้ แต่ถ้าใครจะซื้อ 2 ยูนิตแล้วมาเชื่อมต่อเป็นหลังเดียวกันจะทำไม่ได้นะ ตัวพื้นบันไดเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ไม่ใช่ไม้ยางพาราประสานเหมือนคนอื่นเค้า สุขภัณฑ์ห้องน้ำใช้ของ American Standard พื้นชั้น 2 ได้ พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมแต่เป็นแบบกรอบขนาดเล็ก
แบบบ้านของที่นี่ออกแบบตัวบ้านจะค่อนข้างสั้นเพราะมีพื้นที่ 109 ตร.ม. ให้หน้ากว้างมา 5.7 เป็นข้อดีที่ทำให้จอดรถ 2 คันแล้วเปิดประตูเข้าออกได้สะดวกหน่อยไม่เหมือนพวกหน้ากว้าง 5 เมตรที่เอาเข้าจอดรอถ 2 คันนี่ เปิดประตูกันลำบากเลย ส่วนข้อเสียคือตัวบ้านค่อนข้างสั้นเดินเข้าบ้านมาเจอห้องนั่งเล่นกับห้องครัวติดๆกันเลย แถมออกแบบให้พื้นที่จอดรถครึ่งนึงยุบเข้าไปในตัวบ้านเลยทำให้พื้นที่ในบ้านลดลงไปด้วย ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาตัวบ้านมาแบบเรียบจริงๆเป็นทรงเหลี่ยมไม่มีประดับอะไรมากมาย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ
สาธารณูปโภคของที่นี่ถือเป็นข้อดี เพราะมีมาให้เยอะกว่าหลายโครงการในระดับราคาเดียวกัน มีให้ทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แถมลงต้นไม้ใหญ่บริเวณสระว่ายน้ำมาให้พอสมควร โครงการทาวน์เฮาส์ช่วงราคา 2 – 3 ล้านบาท หลายๆที่เริ่มทำแบบไม่มีสระว่ายน้ำกับ Fitness และให้มาแค่สวนอย่างเดียว ซึ่งการที่โครงการลงทุน Facility แบบนี้ให้มีข้อดีคือลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น บรรยากาศภายในโครงการก็ดูดีขึ้นด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือในระยะยาวคือเรื่องของการดูแลรักษาครับ เพราะค่าส่วนกลางจะแพงกว่าพวกที่ไม่มี Facility เหล่านี้แน่นอน ดังนั้นคุณควรถามตัวเองก่อนว่าชอบใช้ Facility แบบนี้ไหม๊ แล้ว OK กับค่าส่วนกลางรึเปล่า ถ้าใช่โครงการนี้ก็เป็น 1 ในตัวเลือกสำหรับคนที่หาบ้านทาวน์เฮาส์ ในราคาไม่เกิน สามล้านห้า แล้วมีส่วนกลางให้ใช้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่คิดจะใช้ส่วนกลางแบบนี้และไม่อยากเสียค่าส่วนกลางกับการดูแลรักษาโครงการนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคุณเท่าไหร่
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.29 – 3.49 ล้านบาท, 27 June 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – ตัวโครงการอยู่ในซอยย่อยต้องใช้รถยนต์เป็นหลัก
- ความปลอดภัย 6.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน แค่นั้น
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบบลงตัวจัดฟังก์ชั่นได้ครบ แต่ตัวบ้านสั้นไปหน่อย
- วัสดุ 6.75/10 – คุณภาพของวัสดุตามมาตรฐานระดับนี้ แต่ให้มาน้อยไปหน่อย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – ได้ต้นไม้เยอะที่สวนตรงกลาง ส่วนอื่นๆดูแห้งๆไปหน่อย (คงต้องรอดูตอนโครงการสร้างเสร็จอีกทีครับ)
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – ได้สระว่ายน้ำและ Club House ใหญ่
- 7.11 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความสงบและใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะตัวโครงการอยู่ในซอยย่อย เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กมีสมาชิก 2 – 3 คน ตัวบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มาก ชอบใช้ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและ Fitness มีงบประมาณ 2 ล้านปลายๆ – 3 ล้านกลางๆ มีกำลังผ่อนประมาณ 16,000 – 22,000 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
(ﾉ´ヮ´)ﾉ*:･ﾟ✧
