สวัสดีครับ วิเคราะห์เปรียบเทียบห้องและโครงการ นี้เป็น Series ยาวๆ ของบทวิเคราะห์เปรียบเทียบห้องแต่ละแบบของโครงการต่างๆ และเปรียบเทียบโครงการต่างๆ ซึ่ง Mr.Oe ได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่ชอบให้ผมเปรียบเทียบห้อง+โครงการต่างๆให้กันจังเลย ถามกันมาเกือบทุกวัน และส่วนมากก็ซ้ำๆกันอีกต่างหาก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆคนอื่นๆ ผมเลยเอามาแชร์ซะเลย เผื่อใครกำลังจะหาข้อมูลลักษณะแบบเดียวกัน จะได้มีข้อมูลพอจะตัดสินใจได้… หรือแม้ว่าจะยังไม่ได้หา อ่านๆไป ก็จะพอมีพื้นฐานความรู้ เป็น Guide Line ที่จะตัดสินใจเลือกห้อง และเปรียบเทียบห้องโครงการต่างๆได้ด้วยตัวเอง… บทความนี้ตั้งใจเขียนโดยคนความรู้ระดับบ้านๆ ให้คนที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์อ่าน สำหรับพี่ๆ เฮียๆ ที่อยู่ระดับ Advance ถ้าช่วยๆกัน Comment หรือแชร์มุมมอง ร่วมแบ่งปันข้อมูลกันบ้าง ผมขออธิษฐานให้รวยความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะๆครับ
ในตอนแรกนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบห้อง Duplex จากโจทย์ เพื่อนมาเลย์ของผม ซึ่งทำงานอยู่ชลบุรี จันทร์ถึงศุกร์ และมาอยู่กรุงเทพวันเสาร์อาทิตย์ รู้จักแค่บางนา สุขุมวิท และชอบแอบไปแถวรัชดา ต้องการโครงการที่เดินไป BTS-MRT สะดวกเท่านั้น และมีงบ ไม่เกิน 10 ล้าน บวกลบได้ ขอโครงการใหม่ ไม่เอา Resales นะครับ… โจทย์ง่ายๆ ชัดเจนดี ผมเลยขอเริ่มที่ปลายสุขุมวิทตัดบางนาก่อนเลย เดี๋ยวตอนต่อไปค่อยไล่โซนไปเรื่อยๆ
Fact @ 18 Sep 2012
- โครงการใหม่ทำเล สุขุมวิทตอนปลาย เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช-แบริ่ง
- เปรียบเทียบ : Ideo Mobi – Whizdom the Exclusive – The Coast – Knightsbridge (กดที่ชื่อโครงการ ถ้าต้องการอ่าน รีวิวของแต่ละโครงการ)
- UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- เปรียบเทียบเฉพาะห้อง Duplex Only
- พื้นที่ใช้สอย 42 – 128 ตารางเมตร
- ราคาต่อห้องประมาณ 3.7 – 13 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 80,000 – 120,000 บาท
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
ยกที่ 1: เปรียบเทียบเรื่องทำเลที่ตั้ง
อย่างที่บอกจากโจทย์ครับ เพื่อนผม ทำงานอยู่ชลบุรี ปัจจุบันบริษัทมีบ้านให้อยู่ที่ชลบุรี แต่ตัวเองหลงรักเมืองไทยเสียแล้ว ต้องการซื้อบ้านอยู่ที่เมืองไทย แต่เป็นต่างชาติเลยต้องซื้อคอนโดแทน และต้องการห้องแบบ Duplex เพราะชอบแต่งบ้าน เวลาเข้ากรุงมาตอนเสาร์อาทิตย์ อยู่ Service Apartment แถวสุขุมวิท คุ้นเคยทำเลย่านสุขุมวิท บางนาเป็นพิเศษ และทำเลที่ชอบอีกอันคือพระรามเก้าตัดรัชดา เวลามาทางมอเตอร์เวย์เค้าสะดวก … เค้ารู้แค่นี้แหละครับ ถ้าจับไปอยู่ที่อื่น ไปไม่เป็นละ
จากโจทย์ ผมลองดูตัวเลือกโครงการใหม่ ที่ไม่ใช่ Resales เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS ย่านปลายสุขุมวิท ก่อน เลือกมาเทียบกันก่อน 4 โครงการ คือ Ideo Mobi – Whizdom the Exclusive – The Coast – Knightsbridge ซึ่งเกาะสถานี BTS อ่อนนุช – ปุณณวิถี – บางนา – แบริ่ง ตามลำดับ และระยะทางจากอ่อนนุช – แบริ่ง คือ 5 กิโลเมตร อยู่ในโซนที่พอจะเทียบกันได้แบบไม่หลุดโซนจนเกินไปนัก
เริ่มจาก Ideo Mobi ก่อน..ทำเลถือว่าได้เปรียบและดีที่สุด ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช 80 เมตร เวลาเดินทางมาจากชลบุรี ใช้เส้นบางนาตราด เลี้ยวขวาเข้าสุขุมวิท และยูเทิร์นเข้าโครงการตรงหน้าโครงการได้ ไม่ลำบากมาก และขึ้นทางด่วนง่ายดี ข้อเสียคือที่จอดรถค่อนข้างน้อยไปนิด แต่ถ้าจะเดินทางแบบไม่ใช้รถ สะดวกสุดๆ โดนใจคุณเพื่อน เพราะเรียกแทกซี่ก็ง่าย มันติดถนนสุขุมวิทอยู่แล้ว หรือขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองนี่ก็สะดวกมากๆ … ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการดีมาก ตรงข้ามมีโลตัส รอบๆ มีที่กินข้าว ใต้ตึกมี Maxvalu+True Coffee
ต่อด้วย Whizdom the Exclusive… ทำเลเข้าซอยปุณณวิถี ไป 480 เมตร เป็นทำเลสงบ แต่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร สำหรับตอนไม่ใช้รถ เวลาจะไปรถไฟฟ้าโครงการมี Shuttle Service ให้ แต่ดึกๆ กลางคืนจะเรียกแท็กซี่นี่ ต้องออกมาสุขุมวิทสถานเดียว ถ้าใช้รถส่วนตัวสะดวกดี ไปมาสะดวกขึ้นทางด่วนสะดวก ที่จอดเยอะเกิน 100% ส่วนความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการระยะเดินได้ก็น้อย เรียกว่าเค้าทำมาสำหรับคนชอบความสงบเท่านั้น ซึ่งคุณเพื่อนผมนี่แกจะเน้นความบันเทิงซะมากกว่า เป็นพวกชอบทำลายความสงบนะครับ
ตามมาด้วย The Coast บางนา ทำเลติดแยกบางนาเลยเดินมา BTS บางนาประมาณเกือบ 300 เมตร เวลาเข้าออกโครงการจะลำบากหน่อย ถ้ามาจากชลบุรี ใช้เส้นบางนาตราด เพราะต้องไปยูเทิร์นกลับเข้ามา และเวลาจะเข้าออกอาจจะวุ่นๆนิด เพราะด้านหน้าโครงการเป็น Community Mall โครงการอยู่ใกล้แยก จะขึ้นทางด่วนสะดวกสุดๆ ส่วนถ้าไม่ขึ้นทางด่วน ต้องปาดบ้างอะไรบ้างนะครับ อ่อเวลาลงทางด่วนมาจากในเมือง ก็ต้องไปกลับรถเช่นกัน… การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เรียกแทกซี่สะดวกมากๆ เลี้ยวเข้ามาใน Mall ได้เลย และเดินไป BTS ได้ไม่ไกลมาก ในอนาคตได้ยินว่า จะมีทำ Sky Walk เชื่อมกับ Mall ด้วย จะเดินสบายขึ้นเยอะ… ความอุดมสมบูรณ์สะดวกมากมาย เพราะมี Mall + Super Market เดินลงมาจากตึกก็เจอแล้ว แต่อาจจะวุ่นวายพลุกพล่านหน่อย ถ้าบริหารจัดการไม่ดี.. ด้านหลังตึก A เป็นวัด แต่ตึก B โอเค.. ข้อเสียคืออยู่ใกล้แยก อาจมีปัญหาเรื่องฝุ่นควัน และเสียงดังจากการจราจรบนถนนมากกว่าโครงการอื่นๆที่เทียบกันนะครับ
สุดท้าย เป็น Knightsbridge โครงการ High Rise ในซอยแบริ่ง ทำเลห่างสถานี BTS แบริ่ง แบบเดินถึงประมาณ 500 เมตร บวกลบนิดหน่อย สุดปลาย BTS พอดี ตัวทำเลโครงการ เดินทางสะดวกด้วยรถส่วนตัว ไปมาได้หลายทาง เวลามาจากชลบุรีใช้เส้นบางนาตราด แล้วอยากจะเลี่ยงรถติดตรงแยกบางนา สามารถเลี่ยงวิ่งเข้ามาจากด้านศรีนครินทร์ได้ ขึ้นลงทางด่วนได้ไม่ลำบาก แต่ถ้าไม่ใช้รถ จะเดินมา BTS ไกลที่สุดในจำนวนตัวเทียบทั้งหมด แต่ได้ สะดวกในการเรียก Taxi หรือพี่วิน เพราะมีวิ่งตลอด มันใกล้ปากซอย.. ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการพึ่ง 7-11 ร้านค่้า ร้านอาหาร แผงลอยแถวนี้ มีเยอะพอสมควร
ยกแรกนี้ โครงการที่เหมาะกับคุณเพื่อนผมคือ Ideo Mobi – The Coast – Knightsbridge – Whizdom the Exclusive เรียงตามลำดับนะครับ … โดย The Coast กับ Knightsbridge คะแนนสูสี มีดีมีเสียกันคนละนิดละหน่อย The Coast มีข้อตำหนิที่ใกล้แยกเกินไป ส่วน Knightsbridge มีข้อตำหนิคือ เดินไกลเกินระยะของคุณชายเค้าครับ
ยกที่ 2 : เปรียบเทียบตัวโครงการ
เริ่มจาก Ideo Mobi กันก่อน โครงการของ Ananda เป็นตึกคู่ แยก Facility กัน จำนวนห้องรวมกัน 900 กว่ายูนิต โดยมี Spec ห้องเหมือนกันและ Facility เหมือนกัน โครงการค่อนข้างแน่น เพราะขนาดห้องเริ่มต้นที่ 21 ตารางเมตร แต่ก็มีห้องใหญ่ 2 Bed และห้อง Duplex แทรกอยู่เยอะเหมือนกัน ห้องที่เด็ด และน่าสนใจมากที่สุดในโครงการไม่นับห้องเล็กนะ คือห้องแบบ Duplex Sky Home ที่มีการวิเคราะห์ละเอียดยิบ กันไปแล้ว (กดที่นี่เพื่ออ่านบทวิเคราะห์ห้อง Duplex Sky Home) โครงการนี้เน้นความสะดวกเด่นมากในทำเล แต่ตัวเนื้อโครงการค่อนข้างค่อนข้างไม่เด่นเท่าไร แถม Facility ส่วนกลาง แชร์กันเยอะไปหน่อยนะครับ
ข้อมูลตึก A
ข้อมูลตึก B
Facility สรุปรวมๆ แต่ละตึกมีประมาณนี้
- Pool
- Garden
- Games Room
- Living Room
- Fitness
- Laundry
- Library (ชั้น 5)
- Lobby
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, Service Lift 1 ตัว ต่ออาคาร
- ที่จอดรถ ประมาณ 40%
ต่อด้วย Whizdom the Exclusive เป็นโครงการ Low Rise แต่ใจถึง จัดห้อง Duplex เข้ามาซะ 32 ห้อง จากจำนวนห้องทั้งหมด 79 ห้อง เป็นโครงการเล็กๆ ของ Magnolia ที่จัดเต็มเรื่องนวัตกรรมการอยู่อาศัย ทั้งการออกแบบเรื่องแสงธรรมชาติ และ การระบายอากาศ เข้ามาในห้อง โครงเลือกใช้วัสดุที่ดีต่อสุขภาพผู้พักอาศัย แต่จะไม่ได้วิว สูงๆ สวยๆ และขาดความสะดวกในเรื่องของ Facility ต่างๆ ที่ออกจะมีจำกัดและขนาดค่อนข้างเล็ก ดีที่คนมาช่วยแชร์ใช้น้อย เลยได้ใช้เต็มที่หน่อย ส่วนสัดส่วนลิฟท์และที่จอดรถดีมากมีให้เหลือเฟือกันเลยทีเดียว
สรุป Facility ส่วนกลาง
- Lobby
- Library
- Free Wifi Internet 2 ปีแรก
- สระว่ายน้ำ
- Fitness
- ที่จอดรถเกิน 100%
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
ตามมาด้วย The Coast บางนา ที่มีจุดเด่นตรง Community Mall ขนาดไม่เล็กนะครับ วางอยู่หน้าโครงการเลย โครงการนี้เป็นตึกคู่ ตึก A ซ้ายมือ ตึก B ขวามือ จุดเด่นคือ Community mall นี่แหละ ใครชอบความสะดวก บันเทิง พลุกพล่าน ก็น่าสนใจ ตัวโครงการผมยังไม่เคยรีวิว รอห้องตัวอย่าง On Site เสร็จก่อน คงไม่พลาดแวะไปเก็บข้อมูลนะครับ
Community Mall ด้านหน้าโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นที่กิน นะ
Facility ส่วนกลางเป็นสวน และสระว่ายน้ำยกระดับ ให้พ้นจากระยะของ Community Mall
เห็นกล่องๆ ผนังกระจกที่ยื่นออกมาจากผนังอาคารปกติไหม นั่นแหละ ห้อง Duplex ของ The Coast จะยื่นออกมารับวิว และ ได้ Privacy เต็มที่
ที่ตึก A เวลาเปิดห้อง Duplex ออกมาจะเจอสวนลอยฟ้า Pocket Garden อยู่ตรงข้ามห้องด้วย
สรุป Facility ส่วนกลาง
- สระว่ายน้ำ
- สวน + Pocket Garden + Jogging Track
- Fitness
- Library
- ห้องเด็ก
- Multi Purpose Room
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ดับเพลิง 1 ตัว
สุดท้าย Knightsbridge โครงการ High Rise โครงการ High Rise ตัวแรกในซอยแบริ่ง โครงการนี้ ออกแบบมาค่อนข้างละเอียด รายละเอียดเยอะ ลองอ่านในรีวิวนะครับ ต่างชาติค่อนข้างจะชอบกัน เพราะ Function หลายอย่างมันถูกใจเค้า Facility ส่วนกลางโอเค ตัวห้องออกแบบมาดีเกือบจะเป็น Fully Furnished อยู่แล้ว แต่เลือก Unit ห้องค่อนข้างยากนิกนึง เพราะทำเลห้องมันต่างกันมาก ราคาก็ต่างกัน แถมบางชั้นมี Sky Garden อีกต่างหาก
ตัวดาดฟ้า จัดเป็นสวน และที่นั่งเล่น เดินเล่น รับวิว ปากน้ำ สมุทรปราการ และแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ครับ
สระว่ายน้ำแบบ Semi Indoor ว่ายน้ำตอนกลางวันได้ ไม่ต้องกลัวดำ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว + Service ลิฟท์ 1 ตัว
- ที่จอดรถ 45% (รวมจอดขวางแล้วเน้อ)
- ห้องสมุด
- ห้องประชุม
- สวนชั้น G-6-22-25
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมสระเด็ก
- Fitness
- Steam
- CCTV / Access Card / ลิฟท์ Lock ชั้น
- ร้านค้าที่ชั้น G
ยกที่ 3 : วิเคราะห์รูปแบบห้องของแต่ละโครงการ
จับห้องของแต่ละโครงการมาเทียบกันดูครับ ว่าโครงการไหนจัดห้องได้เป็นอย่างไร รายละเอียดพวกห้องตัวอย่างของจริง ที่ละเอียดกว่านี้ และพวกวัสดุ กดดูในรีวิวของแต่ละโครงการได้เลยนะครับ อันนี้หยิบผังห้องมาดูว่าอยู่สบายไหม
ขอเริ่มจาก Ideo Mobi ก่อนเช่นเคย จะแน่นๆคับๆหน่อย เพราะห้อง Duplex เค้าออกแบบมาขนาดเริ่มต้นแค่ 42 ตารางเมตรเอง ข้อดีคือหยิบง่ายซื้อง่าย ข้อเสียคือขาดความโปร่งโล่ง
Unit ที่ตรงใจคือ Sky Home (อ่านวิเคราะห์ห้อง Sky Home กดตรงนี้) ชั้นล่างดูเพื่อนบ้านเล่นน้ำ หรือจะเปิดประตูบ้าน มากระโดดน้ำเล่นทำตัวเป็นเจ้าของสระก็ได้ ส่วนชั้นบน ห้องนอน ได้ Privacy
แนวการตกแต่ง
เริ่มจาก Duplex ตัวเล็กสุด 42 ตารางเมตร ห้องค่อนข้างเล็กแบ่งเป็น 21 ตารางเมตรชั้นล่าง และ 21 ตารางเมตรชั้นบน ทั้งชั้นบนและชั้นล่างเสียพื้นที่ให้กับบันไดไปมิใช่น้อย ทำให้ Function การใช้งานทุกอย่างมันดูเล็กไปหมด… ห้องนี้เหมาะสำหรับชายโสดหรือเป็นคู่ ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก แต่ไม่เหมาะกับเพื่อนผมที่มี Budget มากกว่านี้สบายๆ
ห้องนี้ก็ 42 ตารางเมตรเช่นกัน ที่ดูแคบยาวเพราะห้องนี้เกิดจากการเอาห้อง 21 ตารางเมตร Version หน้าแคบมาทับซ้อนกันบนล่าง โดยการใช้งานยังเหมือนเดิม วางห้องรับแขก โต๊ะอาหาร และห้องครัวไว้ด้านล่าง แต่การที่เป็นห้องลึก และเสียพื้นที่ความกว้างที่ต้องวางบันได ทำให้ห้องรับแขกนั่งได้ไม่สะดวก ห้องไม่มีระเบียงชั้นล่าง มีแต่กระจกข้างประตู ก็จะเปิดระเบียงออกไปนั่งเล่นรับลมที่ชั้นล่างไม่ได้ ส่วนระเบียงชั้นบนก็แคบเกินไปที่จะทำอะไรได้ กลายเป็นพื้นที่ ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์
ห้อง 60 ตารางเมตร ห้องนี้ค่อยสมบูรณ์ขึ้นมาหน่อย Function การใช้งานด้านล่างโอเคแล้ว แต่ด้านบนห้องน้ำเล็กไป ไม่สมฐานะเท่าไร ห้องนอนเล็กปรับออกทำเป็นห้องนอนใหญ่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นได้ อันนี้ตรง Spec แต่ติดเรื่องห้องน้ำ
ต่อด้วย Whizdom the Exclusive ดูห้องเต็ม ห้องนี้ การออกแบบ Function การใช้งานทุกอย่างเหมาะสม อยู่สบาย แสงดี ลมดี ขนาดพื้นที่และงบประมาณเหมาะเจาะ แต่วัสดุยังด้อยไปบ้างในหลายจุด เช่นพื้นลามิเนต ราวจับบันได เป็นต้น แต่โดยรวมเฉพาะตัวห้องนี้ลงตัวสำหรับเพื่อนผมแล้ว เสียแต่ดันมาอยู่ในโครงการที่เป็นทำเลซอยเล็ก และเป็น Low Rise เหมาะกับคนชอบสงบนี่แหละ
ห้องนี้จัด ครัวและห้องนั่งเล่น เอาไว้ที่ชั้นล่าง พร้อมด้วยห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง มีระเบียงขนาดใหญ่นั่งเล่น Outdoor ได้ กระจกปิดสองชั้น พื้นปูแกรนิตโต 60×60 ซม. ทั้งชั้น พื้นที่ใต้บันได ได้แสงเต็มที่เพราะเป็นกระจกโปร่ง
ส่วนชั้นสอง จัดเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องทำงาน พื้นปูลามิเนต 8 มม ทั้งชั้น ผนังกระจกได้บานเต็ม พื้นเกือบถึงเพดานเลย ชั้นสองมีประตูเข้าออกที่ด้านห้องทำงาน
(ดูห้องตัวอย่างจริง แบบ Duplex ของ Whizdom กดตรงนี้) แล้วอ่านตรง Product Walkthrough นะจ๊ะ
ตามติดมาด้วย The Coast เป็นห้อง Duplex ขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวน 4 โครงการ เพดานสูงโปร่ง ผนังกระจกรับวิวเต็มๆ มีออกโฉนดพื้นที่จอดรถให้ 1 คัน (สามารถซื้อขายได้) และสิทธิ์จอดรถฟรีได้อีก 1 คัน
ผังชั้น ห้องที่มีสวนอยู่ตรงข้าม
ผังชั้นห้องที่เป็น Open Space อยู่ตรงข้าม
ห้อง Duplex ของ The Coast แต่ละชั้นนี้จะมีแค่ห้องเดียว ยื่นออกมารับวิวเต็มๆ ได้ Privacy ฝั่งตรงข้ามถ้าเป็นตึก A ห้องวิวทิศตะวันออกจะมีสวนด้วย ส่วนวิวตะวันตกจะเป็น Open Space ส่วนตึก B วิวทิศเหนือจะมีสวนหน้าห้อง วิวทิศใต้ เป็น Open Space ตัวห้องจะยื่นออกมาในอากาศ 3 เมตร
ภายในห้องตกแต่งได้หน้าตาแบบนี้ ส่วนห้องนั่งเล่น โล่งโปร่งเพดานสูง พื้นที่ห้องนี้เยอะ จัดได้สบายๆ อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน
ชั้นล่างห้องนี้ เป็นส่วน Living กับรับประทานอาหาร ระเบียงไม่ได้เปิดโล่ง แต่มีบานเปิดออก ทำเป็นที่นั่งเล่นได้ การตกแต่งแล้วแต่คนชอบ โครงการทำมาโล่งๆ เหมาะกับคนชอบพื้นที่กว้างๆ และไม่มีของมากนัก แต่ถ้าอยากจะจัดวางหรือกั้นให้เป็นสัดส่วน ก็สามารถทำได้โดยเหลือพื้นที่แต่ละห้องได้สบายๆ พื้นที่ใต้บันไดทำเป็นห้องเก็บของ มีประตูเปิดปิดอยู่ข้างประตูทางเข้า และมีพื้นที่วางแอร์แยกต่างหากซึ่งทางโครงการไม่ได้คิดเงินครับ
ชั้นสอง แม้จะเสียพื้นที่บางส่วนแลกกับเพดานสูงของส่วนนั่งเล่น แต่ก็ทำออกมาได้ดีมาก ห้องนอนทั้งสองได้วิวทั้งคู่ และมี Function ที่ค่อนข้างครบ … แต่ห้องนี้ ใหญ่และเกินงบไปพอสมควร สำหรับการอยู่คนเดียวหรือสองคนในบางเวลาของเพื่อนผม
ตบท้ายด้วย Knightsbridge ห้อง Duplex ของที่นี่หลักๆมี 2 size คือ 46.5 กับ 57 ตารางเมตร จัดมาแบบเน้นใช้พื้นที่คุ้ม จึงไม่มี Double Volume เพดานสูง ห้องโปร่งๆนะครับ
รูปห้อง 46.5 ตารางเมตร ใช้พื้นที่อย่างคุ้ม เลยจะดูแน่นๆนะครับ ขนาดห้องใต้บันไดยังทำเป็นห้องน้ำเลย (powder room) ใครชอบความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่ ก็ดีไป ข้อด้อยของห้องนี้คือครัวค่อนข้างเล็ก และไม่มีโต๊ะกินข้าวแบบวางถาวร
ผังห้องนี้ เล็กแต่มีครบ 1 นอน 2 น้ำ 1 ครัว 1 นั่งเล่น 1 ระเบียง + 1 ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง ห้องน้ำด้านล่างไม่มีที่อาบน้ำ ล้างมือล้างหน้าทำธุระหนักเบาได้ ส่วนห้องน้ำชั้นสอง Function ครบ ทั้งอ่างอาบน้ำและ Shower Box ข้อด้อยคือพื้นที่จำกัด ห้องนอนเล็ก และที่เก็บของเก็บเสื้อผ้าน้อย
ผังแบบจัดห้องให้ดู ชั้นล่าง
ผังแบบจัดห้องให้ดู ชั้นบน
ห้อง 57 ตารางเมตร จัดมาสำหรับเป็น 2 Bedrooms เหมาะกับอยู่กันแบบครอบครัวเล็ก พื้นที่จัดมาคุ้มแน่นเช่นเคย
ผังห้องนี้ครบเครื่องลงตัวแล้ว แต่ครัวเล็กไปหน่อย มีที่กั้นห้องแต่ละส่วน จะเปิดหรือปิดก็ได้ ส่วนชั้นสอง ได้มาสองห้องนอนก็จริง แต่เสีย Function อ่างอาบน้ำไป
ผังแบบจัดให้ดูชั้นล่าง
ผังแบบจัดให้ดู ชั้นบน
(ดูวัสดุแนวการแต่งและห้องจริง ของ Knightsbridge กดตรงนี้) แล้วอ่านตรง Product Walkthrough นะคร้าบบ
ยกที่ 3 เปรียบเทียบห้องแต่ละโครงการ .. Whizdom the Exclusive – The Coast – Knightsbridge – Ideo Mobi ล้วนแล้วแต่มีข้อดีข้อด้อย ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันมาก Whizdom จัดมาค่อนข้างดี พื้นที่เหมาะสมลงตัวด้อยเรื่องวัสดุไปบ้าง ส่วน The Coast ก็สมบูรณ์แบบตามที่ห้อง Duplex ควรจะเป็น แต่พื้นที่เยอะ และใช้ฟุ่มเฟือยไปนิด.. ห้องนี้ถ้ามีงบ แต่งเล่นสนุกที่สุด… Knightsbridge กับ Ideo Mobi มาแนวเดียวกัน คือมี Duplex ตัวเล็กหยิบง่าย มีงบไม่ถึงสี่ล้านก็หยิบห้อง Duplex ของ Knightsbridge ได้แล้ว ห้องของทั้งสองโครงการเน้นการใช้พื้นที่คุ้มค่า ได้ความคุ้มไม่ฟุ่มเฟือย แต่เสีย Function บางอย่างและขาดความโปร่งโล่งสวยๆของ Duplex แท้ๆดั้งเดิมไปนะครับ
ยกที่ 4 : เปรียบเทียบราคา
- Ideo Mobi Duplex ขนาด 42-62 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.7 ล้านบาท หรือประมาณ 110,000 บาทต่อตารางเมตร
- Whizdom The Exclusive Duplex ขนาด 81-109 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท หรือประมาณ 84,000 บาทต่อตารางเมตร
- The Coast Duplex ขนาดประมาณ 128 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท หรือประมาณ 100,000 บาทต่อตารางเมตร (ตึก B)
- Knightsbridge Duplex ขนาดประมาณ 46 – 57 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท หรือประมาณ 80,000 บาทต่อตารางเมตร
ยกที่ 5 : เจาะลึกรวบยอด
เปรียบเทียบกันมาทั้งสี่โครงการ ว่าด้วยเรื่องความคุ้มค่าทางทำเล Ideo Mobi น่าหยิบจับที่สุด ในแง่ทำเลสะดวกและเดินทางสบายที่สุดถ้าไม่ใช้รถ Whizdom จะเป็นทำเลสงบๆเหมาะกับคนใช้รถ The Coast สะดวกสบายใกล้แยกบางนา ขึ้นทางด่วนง่าย แต่ขากลับลำบากและมีจุดด้อยตรงใกล้แยกไปหน่อย ส่วน Knightsbridge เน้นครบเครื่องแต่ไม่เด่นมาก เหมาะกับคนแถวนี้ที่ไม่ข้ามแยกบางนามากกว่า
เปรียบเทียบตัวโครงการ นี่ค่อนข้างชัดเจนมาก ถ้าชอบสงบๆอยู่แบบ Low Rise คนน้อยๆ Whizdom เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ถ้าชอบคึกคักสะดวกสบายมี Community Mall ก็ The Coast ส่วน Ideo Mobi และ Knightsbridge จะแนวเดียวกันคือมี Facility ครบเครื่องในตัวตึก แต่ Ideo Mobi จะคนเยอะกว่า สี่ร้อยกว่าห้องต่อตึก เทียบกับ Knightsbridge ที่มีแค่สองร้อยกว่าห้อง
เปรียบเทียบตัวห้อง ถ้าเอาพื้นที่ใช้คุ้มค่า ก็ต้องมองมาที่ Ideo Mobi กับ Knightsbridge มีห้องเล็กให้เลือกหยิบง่ายๆ มีหลาย Size ให้เลือก ส่วน Whizdom จะเป็นห้องที่ออกแบบมาค่อนข้างลงตัวตามแบบ Duplex ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ Function ครบ ส่วน The Coast ห้องใหญ่สุดและเป็น Unit ที่เป็น Duplex แบบโปร่งโล่งเพดานสูง คนชอบแต่งบ้านน่าจะชอบ
เปรียบเทียบราคา ในแง่ความคุ้มค่า ก็ต้องให้ Knightsbridge และ Ideo Mobi (โดยเฉพาะ Unit Sky Home ของ Ideo Mobi ถือว่าคุ้มมาก เพราะราคาเท่าห้องปกติ ถูกกว่าห้อง Duplex ชั้นบนๆ) มีห้องเล็กหยิบง่ายด้วย… Whizdom ราคาดูไม่แพงก็จริง แต่ทำเลและตัวเนื้อโครงการ อาจจะด้อยกว่าโครงการอื่น ส่วน The Coast ราคาต่อห้องสูงเกินเพื่อนๆไปเยอะครับ
ทีนี้จะเลือกอย่างไร ผมไม่ฟันธงครับ จะให้แต่ละคนที่สนใจ ไปจัดน้ำหนักคะแนน และลองให้คะแนนดูเอง เพราะแต่ละคน รวมทั้งคุณเพื่อนผมด้วย ให้น้ำหนักต่อส่วนต่างๆไม่เหมือนกันครับ 😀
ในตอนต่อไป จะพาไปดูห้อง Duplex ที่อยู่แถวๆ พระราม 9-รัชดา กันบ้างครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ