My Resort @ River จรัญ 72 คอนโดริมน้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัด [รีวิวฉบับที่ 437]

รีวิวฉบับที่ 437 … My Resort @ River คอนโดพร้อมอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ซึ่งเป็นที่ดินริมน้ำในฝั่งธนบุรีค่ะ ในอนาคตตึกนี้จะกลายเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด ที่ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ตัวสถานีจะตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตบางพลัด ระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 76 และซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 คิดเป็นระยะทาง 500 เมตรจากตัวคอนโดมิเนียมนะคะ

โครงการ My Resort @ River นี้แปลกมากตรงที่ไม่มีห้อง Studio และ 1 Bedroom แม้แต่ห้องเดียว ห้องทั้งหมดเริ่มต้นที่ 2 +1 ห้องนอน ขนาด 150 ตารางเมตรขึ้นไป ดังนั้นแม้ว่าราคาต่อตารางเมตรจะไม่สูง แต่ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่ ราคาต่อห้องจึงเกิน 12 ล้านบาทขึ้นไปทุกยูนิต และมีห้อง Penthouse กับห้อง Villa ราคาหลักร้อยล้านอยู่ด้วย ทางเวปไซต์จึงจัดโครงการนี้อยู่ในระดับ LUXURY CLASS นะคะ โดยรีวิวนี้มะเหมี่ยวเป็นคนเขียนบรรยายและทางคุณบีมเป็นคนสรุปค่ะ

Fact @ 30 September 2013

• มายรีสอร์ท แอท ริเวอร์ (My Resort @River)
• Equity Resident Chaophya Co., Ltd. (ในเครือ Everland)
• LUXURY CLASS 2013 (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด High Rise 1 อาคาร 37 ชั้น ยูนิตรวม 123 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 200%
• ที่ดินประมาณ 3-3-21 ไร่
• สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2554
• Studio ไม่มี
• 1 Bedroom ไม่มี
• 2 Bedrooms  156.68-177.71 ตารางเมตร (Standard)
• 3 Bedrooms+ 208 – 784 ตารางเมตร
• Penhouse 778.80 ตารางเมตร
• Villa 819 – 876 ตารางเมตร
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 12 ล้านบาท
• ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 90,000 – 110,000 บาท
• http://www.myresort.co.th/
• โทร 0 2461 2950

เจาะลึกทำเลที่ตั้ง

My Resort @River ตั้งอยู่ในย่านจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นฝั่งธนนะคะ มีสะพานข้ามแม่น้ำที่ใกล้ที่สุดก็คือสะพานซังฮี้

(พิกัด Google Maps: 13.788811,100.505644)

My Resort @River ตั้งอยู่บริเวณในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยการเดินทางมาโครงการ My Resort @ River นั้นทำได้สะดวกด้วยสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง 3 สะพาน มีระยะทางต่างๆจากสะพานนี้ดังนี้ค่ะ

• สะพานพระราม 7 ประมาณ 3 กิโลเมตร (ข้ามไปย่านลาดพร้าว จตุจักร เตาปูน หมอชิด รัชดา เส้นนี้เช้าๆ บางวันติดมากๆค่ะ)
• สะพานกรุงธนฯ  หรือสะพานซังฮี้ ประมาณ 2 กิโลเมตร (ข้ามไปย่านกลางใจเมือง ราชวิถี สยาม แต่เส้นนี้เช้าๆ เย็นๆ ติดนะคะ)
• สะพานพระราม 8  ประมาณ 5.5 กิโลเมตร (ข้ามไปย่านราชดำเนินได้ค่ะ)

ด้วยตัวโครงการที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำเท่าไรนัก ดังนั้น เวลาอยู่บนตัวโครงการจะได้วิวสะพานทั้ง 3 สะพานที่กล่าวมาชัดเจนทีเดียวค่ะ

My Resort at River นี้ตั้งอยู่ ใน ซ.จรัญสนิทวงศ์ 72 ซอยเดียวกับวัดอาวุธสิกสิตารามค่ะ ซึ่งวัดนี้มีท่าเรือข้ามฟากสาธารณะอยู่ด้วย สามารถข้ามไปท่าเรือพายับเพื่อนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาได้ค่ะ ในอนาคตโครงการ My Resort @ River ก็จะมีท่าเรือเหมือนกัน (ปัจจุบันยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์) ดังนั้นก็จะสามารถข้ามเรือได้จากในโครงการเลย

นอกจากนี้ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่วงส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ สถานีอนาคต สถานีบางพลัด  ที่ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ บริเวณสำนักงานเขตบางพลัด ระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 76 และซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 (ข้อมูลจาก http://www.mrta-blueline.com) โดยระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้ารวมประมาณ 500 เมตร  ค่ะ

สำหรับห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดของทำเลนี้ก็คือ Tesco Lotus ค่ะ อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตรเช่นกัน

ซึ่งในวันนี้ Think of Living จะพาไปชมโครงการโดยจะข้ามสะพานพระราม 7 ไปกันนะคะ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนวงศ์สว่าง เตรียมขึ้นสะพานพระราม 7 ค่ะ

สะพานพระราม 7 เวลาประมาณบ่ายโมง รถโล่งมากค่ะ

แต่เช้าๆ ขาเข้ามาวงศ์สว่างนี่ ติดมากทีเดียว เพราะการก่อสร้าง MRT … อนาคตทุกอย่างน่าจะดีขึ้นค่ะ

ลงสะพานพระราม 7 มา จะเจอป้ายบอกทาง ตรงไปไปจรัญสนิทวงศ์ค่ะ

ส่วนถ้าเข้าซ้ายรอดใต้สะพาน ไป การไฟฟ้าบางกรวย ค่ะ

ถนนจรัญสนิทวงศ์ด้านพระราม 7 นี่จะเป็นช่วงปลายๆ ของจรัญสนิทวงศ์นะคะซึ่งยังพอมีส่วนที่มีเกาะกลางถนนให้เห็นอยู่ แต่ถ้าขับเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอเขตก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล้วค่ะ

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำให้การจราจรบนถนนเส้นนี้ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นจะค่อนข้างติด รถราหนาแน่นมาก เวลาข้ามสะพานทีนึงก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงค่ะ

ย่านนี้เป็นชุมชนเก่า มีตึกแถวตลอดแนวถนนทั้งสองฟาก ข้างทางเห็นโล่งๆ อย่างนี้ บางวันก็มีรถมาจอดส่งของบ้าง จอดรับประทานอาหารบ้าง พอมีรถมาจอดข้างทาง ยิ่งทำให้เส้นทางการจราจรที่มีอยู่ 3 ช่องทางลดลงไปเหลือ 2 ช่องทาง ก็จะมีปัญหาอยู่บ้างค่ะ

วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นว่ารางรถไฟฟ้า เริ่มขึ้นมาให้เห็นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเสร็จเมื่อไร ภาวนาว่าให้ทันปี 2559 ตามที่เคยประกาศไว้ค่ะ

กลางภาพ ตึกสูงสีขาวด้านหน้า เป็นโรงพยาบาลยันฮีนะคะ บางวันก็มีรถรอเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลไหลออกมาจอดเต็มท้องถนนเลย ดูสภาพการจราจรจะเห็นว่ารถติดเหมือนกันค่ะ

ประมาณ 3 กิโลเมตร จากสะพานพระราม 7 ก็ถึงปากซอยจรัญสนทิวงศ์ 72 ซึ่งมีป้ายซอยขาวๆเขียนอยู่แบบนี้ ป้ายซอยเป็นป้ายที่โครงการ My Resort @ River ทำไว้ให้ ซึ่งเป็นป้ายเดียวกับป้ายชื่อวัดอาวุธวิกสิตารามด้วยค่ะ

จากปากซอยจะเห็นตึกสูงๆตึกเดียวอยู่ด้านในสุดเลย นั่นก็คือโครงการ My Resort @River

ซอยนี้ช่วงต้นซอยมีเกาะกลางถนนนะคะ รถวิ่งสวนกันได้สองเลน มีรถจอดข้างทางทั้งสองด้าน

สภาพชุมชนแถวนี้ก็เป็นแนวบ้านหลังเล็กๆ ตึกแถวชุมชนโบราณ ที่มาตั้งถิ่นฐานกันนานแล้วค่ะ

จะเห็นว่าสองข้างทางก็มีรถจอดอยู่ตลอด ทำให้การจราจรนั้นวิ่งได้จริงๆ 1 เลน และมีเลนจอดอีก 1 เลน

ที่ดินที่เป็นหลังคาโค้งๆทางขวามือนี้เป็นอู่ซ่อมรถค่ะ อยู่ติดกับโครงการเลย

ด้านซ้ายเป็นวัดอาวุธวิกสิตารามค่ะซึ่งต่อมาใช้เป็นชื่อท่าเรือข้ามฝาก ฝั่งตรงข้ามจะข้ามไปท่าเรือพายัพนะคะ

ถึงแล้วค่ะ หน้าโครงการ My Resort @River ทางเข้ามีคุณ รปภ. และประตูอัลลอยค่ะ (ปัจจุบันที่เห็นเป็นรั้วเลื่อนนั้น ยังทำการก่อสร้างไม่เสร็จนะคะ)

เจาะลึกตัวโครงการ

My Resort @ River สร้างเสร็จเมื่อปี 2554 นะคะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 37 โดย ชั้น G และ ชั้น 2 จัดเป็นลานจอดรถ ชั้น 4-5 จัดเป็น Facility

ชั้นที่อยู่อาศัยเร่ิมที่ชั้น 6 จนถึงชั้น 37  ค่ะ ซึ่งชั้น 36-37 เป็น  Penhouse  2 ชั้น ห้องเดียวเลยนะคะ

ห้องทุกห้องที่นี่ ได้วิวเจ้าพระยาทุกห้องนะคะ … ก็แน่ละ เริ่มต้นตั้งห้องละ 12 ล้านบาทนี่นา

เหมี่ยวเอาแปลน Facility ชั้น 4 มาให้ดูก่อนที่จะพาไปดูตัวโครงการจริงๆนะคะ ชั้นนี้มีสระว่ายน้ำ ริมฝั่งเจ้าพระยา พร้อม Deck  และที่นั่งรอบสระค่ะ สำหรับโถงด้านใน มีห้องสันทนาการ สำนักงานนิตอบุคคล ห้องน้ำแยกชาย-หญิง

และโซนด้านหลังเป็นสนาม สควอช และสนามเทนนิส ค่ะ

พื้นที่ของชั้น 5 เกินครึ่งหนึ่งนั้นเป็นพื้นที่เปิดโล่งด้านบนของชั้น 4 ที่เปิดให้เพดานสูงจะได้ดูโล่งๆโปร่งๆ

ทั้งชั้นประกอบด้วยห้องออกกำลังกาย ห้องอเนกประสงค์ ห้องประชุม และห้องสมุดค่ะ เป็น Facility ล้วนๆ 2 ชั้นเลย

Floor Plan ชั้น 6 ที่มีทั้งหมด 3 ห้องนะคะ ทุกห้องได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากทางด้านโค้งค่ะ โดยชั้นนี้แบ่งเป็นแบบ Two Bedrooms 2 ห้องทางซ้ายมือ และ Three Bedrooms 1 ห้องทางขวามือค่ะ

Floor Plan ชั้น 7-35 ค่ะ แต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 4 ห้อง เป็นแบบ Two Bedrooms ทั้งหมด ฝั่งซ้ายของ Lift 2 ห้อง และฝั่งขวา อีก  2  ห้องค่ะ จัดเป็นยูนิตต่อชั้นไม่เกิน 4 ห้อง

มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว จัดเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, ลิฟท์ขนของ 1 ตัว และลิฟท์ Fireman อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ที่ 1:61

ชั้น 36-37 เป็น Penhouse 1 ห้อง 2 ชั้นค่ะ ราคาประมาณ 200 ล้านบาท

เราไปดูสถานที่จริงกันบ้างนะคะ ภาพแรกเป็นทางเข้าโครงการค่ะ อย่างที่เคยกล่าวถึงไปแล้วนะคะ ว่า มี ป้อมรปภ.อยู่ด้านหน้า ซึ่งตรงนี้จะมีประตูอัลลอยมาติดตั้งหลังสร้างเสร็จสมบูรณ์ค่ะ

ป้อม  รปภ. หน้าโครงการ วางอยู่บริเวณทางลาดก่อนขึ้นไปยังชั้น G

ชั้น G มีพื้นที่จอดรถบนถนนด้านหน้าโครงการแบบ Outdoor และยังมีด้านในตึกด้วยนะคะ รวมทั้งหมด 200% ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถไม่พอค่ะ

ทางเข้าที่จอดรถเป็นทางลาดขึ้นไปอีก

บันไดตรงนี้เป็นจุด Drop off ที่ชั้นล่างสุดเป็นบันไดขึ้นไป ส่วน Lobby โครงการค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วสามารถวนไปชั้น 2 มีจุด Drop off อยู่อีกที่ด้วยค่ะ

บริเวณพื้นที่จอดรถ Outdoor นะคะ ตรงไปด้านนี้เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ส่วนที่ติดริมน้ำเตรียมทำเป็นห้องพักอาศัยเช่นกันค่ะ อยู่ริมเจ้าพระยาเลย เป็นห้องพัก 2 ห้อง แต่ละห้องมีทั้งหมด 5 ชั้นค่ะ เรียกว่า The Villa อยู่ระหว่างดำเนินการค่ะ ทางเราไม่ได้เดินเข้าไปดูข้างใน ดังนั้นก็จะวาง Floor Plan ลงรายละเอียดคร่าวๆนะคะ

ชั้น 1 เป็นส่วนรับแขกริมเจ้าพระยาค่ะ

ชั้น 2 ค่ะ แต่ละห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัว แบบ Pool Villa ของโรงแรม เป็นส่วนนั่งเล่นและส่วนพักผ่อนค่ะ

ชั้น 3 เป็นห้องนอนทั้งสิ้น 2 ห้องนอน แต่ละห้องมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ

ชั้น 4 มีห้องนอน 2 ห้อง และมีอ่าง jacuzzi ที่มองเห็นริมเจ้าพระยา

ชั้น  5 มีพื้นที่ระเบียงที่กว้าง จะจัดเป็นส่วน Outdoor Party ที่ที่นั่งเล่นมองแม่น้ำก็ได้ค่ะ

ซึ่งส่วนของ The Villa ทั้งสองห้องนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่นะคะ ยังไ่ม่เสร็จสมบูรณ์ค่ะ

ขึ้นมาจากบันไดโค้งส่วน Drop Off จะเจอส่วนของบันได Lobby ด้านหน้าค่ะ

ดังนั้น เมื่อมองไปด้านขวามือ จะเห็นพื้่นที่จอดรถบางส่วนของโครงการอย่างนี้นะคะ

ทางเข้าโถง Lobby มี รปภ. คอยเปิดประตูให้ด้วยนะคะ โถง Lobby เพดานสูงโปร่ง มีชุดรับแขก 1 ชุดอยู่ตรงกลาง

Facility ที่นี่ มีทั้งหมด 3 ชั้น คือชั้น G, ชั้น 4 และชั้น 5

โดย Lobby จะอยู่ด้านล่างสุดเป็นชุดรับแขกเก้าอี้สานสไตล์รีสอร์ทค่ะ

เพดานของ Lobby ชั้น G นั้นเป็นเพดานสูง 2 ชั้น มีโถงลิฟท์ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวด้านตรงข้ามชุดรับแขก ซึ่งจัดไว้ค่อนข้างโอ่อ่า

ตู้จดหมายชั้นล่างจัดให้เป็นห้องแยกต่างหากเลยค่ะ

เดี๋ยวเราเดินออกไปดูด้านนอกกันบ้างนะคะ

Lobby ตรงนี้จะเชื่อมจากชั้น G และชั้น 2 ทั้งสองชั้น โดยจะมี Drop Off ทั้งหมด 2 จุดค่ะ

(ด้านล่างเป็นทางที่เราเดินเข้ามาเมื่อครู่นะคะ จากจุด Drop off ด้านหน้าชั้นล่าง)

จุด Drop off ด้านบนค่ะ มีที่จอดรถได้อีกมาก

ตรงนี้ก็เดินไปร้านอาหารริมเจ้าพระยาด้านหน้า ที่กำลังก่อสร้างอยู่ได้เหมือนกันค่ะ ร้านอาหารเป็นร้านที่ทางเจ้าของโครงการจะเป็นผู้ดูแลเองนะคะ

เข้ามาบริเวณ Lobby อีกรอบนะคะ เรามาดูกันดีกว่าว่าช่องเปิดด้านบนนั้นเจาะเอาไว้ทำอะไร?

ความสูงของ Lobby ที่นี่เจาะทะลุขึ้นไปถึงเพดานชั้น 5! เราแทบไม่เคยเห็นโครงการไหนทำแบบนี้มาก่อนเลย

ความสูงของเพดาน ทำให้ส่วน Facility ดูโอ่อ่าขึ้นมามากทีเดียวค่ะ แต่ก็ยังคงสไตล์ความเป็นรีสอร์ทตาม Concept โครงการได้เป็นอย่างดีนะคะ

เตรียมขั้นบันไดวนไปดูชั้นต่อไปกันได้เลยค่ะ

ลูกนอนขั้นบันไดค่อนข้างกว้างเดินแล้วปลอดภัย จับราวบันไดทางซ้ายเอาไว้ให้มั่น

ขึ้นมาถึงแล้วค่ะ

เจอกามเทพน้อยอยู่บริเวณหัวเสาบันได หันหน้าออกไปมองแม่น้ำเจ้าพระยา

Facility โดยรวมจะตั้งอยู่บนชั้น 4 และชั้น 5 ราวกันตกทั้งหมดใช้เป็นกระจกนิรภัย ให้สามารถมองทะลุได้ เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มที่

สามารถมองลงไปส่วน Lobby ด้านล่างได้ด้วยค่ะ

มาสำรวจกันดีกว่า ว่า Facility ทั้งหมดนี้มีอะไรบ้างนะคะ

แนวชุดรับแขกส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์รีสอร์ทค่ะ มีทั้งหวายและเก้าอี้สาน

เก้าอี้นั่งพักผ่อนสไตล์ชิงช้า

Day Bed เอาไว้นอนเล่น ริมเจ้าพระยา

ชุดเก้าอี้นั่งเล่น พร้อมโต๊ะกลางแบบสานๆค่ะ

โต๊ะตัวนี้นั่งทำงานได้นะคะ

ก่อนจะเดินไปสำนักงานนิติบุคคลที่อยู่ด้านซ้ายมือ ก็สังเกตเห็นมุมนี้พอดีค่ะ ด้านข้างมองเห็นวัดและเสาไฟฟ้าแรงสูง

สำนักงานนิติบุคคลปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการ My Resort @ River

ห้องสันทนาการหรือห้อง Party ค่ะ จัด Layout คล้ายๆห้องอาหาร ผนังทำจากกระจกทั้งหมด

ภายในรับรองผู้คนได้มากอยู่นะคะ ด้านหลังมีครัวด้วย

ใช้เป็นโต๊ะหินอ่อน เก้าอี้ยังคง Concept เก้าอี้สานสไตล์รีสอร์ทค่ะ

ส่วนอีกด้านเป็นบาร์แบบนี้ค่ะ มี Sink ให้ ไว้จัดปาร์ตี้ Buffet หรือ ปาร์ตี้ Cocktail ได้นะคะ

ต่อไปเป็นห้องน้ำค่ะ แยกเป็นห้องน้ำหญิงกับห้องน้ำชาย

เข้าไปจะเจอกระจกบานใหญ่ก่อนเลยค่ะ

ถัดมาเป็นห้องซาวน่าแยกชายหญิง

ด้านในค่ะ ดูดีทีเดียว

เข้าไปดูต่อนะคะ ด้านในสุดของห้องน้ำ ตกแต่งด้วยอิฐที่มีลวดลาย มีเวลาแสงธรรมชาติส่องเข้ามานี่ ดูสวยไปอีกแบบ

ด้านในสุดของห้องน้ำนั้นสามารถเข้าออกได้สองทางนะคะ ทางหนึ่งเข้าจากโถงกลางของ Facility ที่ชั้น 4 และอีกทางหนึ่งเข้าจากสระว่ายน้ำค่ะ

ที่ตึกนี้ใช้แนวคิดน้ำต่อน้ำ โดยออกแบบให้ขอบของสระว่ายน้ำนั้นจรดไปที่แม่น้ำเจ้าพระยาพอดี เวลายืนมองอย่างนี้จะเห็นเป็นผืนน้ำต่อเนื่องกัน โดยมีสระเด็กอยู่ด้านในเว้าเข้ามาในตัวตึก ให้รู้สึกใกล้มือและปลอดภัยมากกว่า ส่วนสระผู้ใหญ่นั้นวางขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ด้านหลัง

ริมทางขวาของสระว่ายน้ำ จัดเอา Element ของ Resort เข้ามาเสริม โดยสร้างเป็น น้ำพุ, หินเทียม, มุมน้ำตก และปลูกต้นตาลให้ได้บรรยากาศรีสอร์ทค่ะ

ด้านหลังเป็นคอนโดเพื่อนบ้านชื่อว่า Bangkok River Marina ตึกทรงวงรีนั่นละค่ะ

Deck ริมสระ พร้อมเก้าอี้นั่งเล่น ติดกับฝั่ง Villa ด้านซ้าย

ปลายสุดตั้งเป็นเก้าอี้แช่ลงไปในสระว่ายน้ำเลย ให้นอนแช่น้ำได้ และมองเห็นวิวสระพานพระราม 8 ไกลๆ ด้วย

มุมจากสระน้ำมองมาด้านในอาคาร ดูโอ่อ่าทีเดียว สาเหตุมาจากเสาขอบทอง 5 ต้นนั้นแน่ๆ

จากชั้น 4 ไปชั้น 5 สามารถขึ้นลงบันไดได้ 2 จุด คือด้านริมสระตรงนี้ หรือบันไดจากด้านใน

มีบันไดด้านใน อยู่ข้างๆห้องน้ำค่ะ

เดี๋ยวเราจะเดินขึ้นบันไดไปดูด้านบน เยี่ยมชม Facility ช้ัน 5 กันนะคะ

ห้องแรกเป็นห้องออกกำลังกายค่ะ พื้นที่พอสมควร วางอุปกรณ์ได้ราวๆ 10 ชิ้น

ออกกำลังกายได้วิวสระว่ายน้ำและเจ้าพระยา

อีกด้าน ติดกระจกติดผนังค่ะ ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นค่ะ

ชั้น 5 นี้นอกจากห้องออกกำลังกายแล้วยังมีห้องอื่นอีก เดี๋ยวเราจะพาไปสำรวจในแต่ละห้องกันเลยนะคะ

ห้องแรกเป็นห้อง Spa ค่ะ มีเก้าอี้วางไว้ใต้้ต้นไม้ 4 ทิศรอบด้านใต้ต้นไม้เลย

ตรงนี้เป็นพื้นที่นวด สามารถกั้นห้องนวดพร้อมๆกันได้ 3 คน

ต่อมาเป็นห้องที่ 2 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตกแต่ง เป็นห้องเสริมสวย ทำผม ค่ะ

ห้องที่ 3  นี้เป็นห้องประชุมค่ะ มีโต๊ะประชุม โซฟา และไวท์บอร์ทจัดเตรียมไว้ให้

ห้องสุดท้ายนี้อยู่ด้านหน้า ริมเจ้าพระยาตรงข้ามกับห้องออกกำลังกาย เป็นห้องสมุดค่ะ

บรรยากาศด้านในน่านั่งอ่านหนังสือเลยนะคะ

เดี๋ยวเราจะขึ้น Lift ไปดูห้องชั้นบนกัน โถงลิฟท์ประดับด้วยไม้แบบนี้ค่ะ

ลิฟท์เป็นระบบลิฟท์ล็อคชั้น แต่สังเกตดูว่าไม่มีชั้น 36 ให้กดนะ เพราะว่า ชั้น 36 และชั้น 37 เป็น Penthouse ห้องเดียวเลยค่ะ

ด้านหน้าโถงลิฟท์ของแต่ละชั้นค่ะ ตกแต่งแบบนี้

ออกมาจากลิฟท์จะเห็นเจอส่วนกั้นตกแบบนี้ด้วย

สาเหตุที่ต้องมีส่วนกันตกก็เพราะว่าทุกชั้นถูกเจาะเป็นช่องโปร่งไปถึงด้านบน ช่วยในการถ่ายเทอากาศค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Facility ชั้น 1, 4 และ 5
• ร้านอาหารชั้น 2 ริมเจ้าพระยา
• Lobby ชั้น G
• ห้องออกกำลังกาย ชั้น 5
• ส่วนนั่งเล่นพักผ่อน ชั้น 4
• ห้องซาวน่าแยกชาย/หญิง ชั้น 4
• ห้องสมุด ชั้น 5
• ห้องประชุม ชั้น 5
• ห้อง Spa ชั้น 5
• ห้องเสริมสวย ทำผม ชั้น 5
• ห้องสันทนาการชั้น 4
• สระว่ายน้ำ แยกเป็นสระเด็ก  สระผู้ใหญ่
• สนามเทนนิส ชั้น 4
• สนามสควอช ชั้น 4
• Passenger Lift 2 ตัว, Service Lift อีก 1 ตัว และ Fireman Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 200%
• Proxy Lift

Product Walkthrough

 

ห้องแรกที่จะพาไปดูคือห้องแบบ 2 Bedrooms Type A ชั้น7 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 177.71 ตารางเมตร นะคะ

ก่อนที่จะไปดูห้องตัวอย่างกัน เราจะพาไปดูทางหนีไฟก่อนค่ะ

ซ้ายมือก่อนถึงประตูเข้าห้องจะมีทางเดินไปทางหนีไฟค่ะ

โดยจะสามารถใช้เป็นทางเข้า/ออก ที่ 2 ของห้อง Type A นี้ด้วย

บริเวณโถงหน้าห้อง Type A แขวนภาพประดับไว้แบบนี้ ให้ดูประตูและกรอบวงกบขนาดใหญ่มาก

ประตูที่ได้จะเป็นขนาด Oversize ซึ่งสามารถเปิดได้ 2 บาน ซ้าย-ขวา

โดยปกติแล้วเราก็จะเดินเข้าประตูทางด้านซ้ายบานเดียวนี่ละค่ะ แต่ถ้าต้องการยกของขนาดใหญ่เข้าห้องก็สามารถเปิดประตูทางด้านขวาขยายทางเข้าให้กว้างขึ้นได้

กลอนล็อคประตูหน้าห้องเป็นกุญแจไขพร้อมมือจับค่ะ

พื้นห้องส่วนหน้าสุดปูด้วยกระเบื้องนะคะ ส่วนพื้นที่ด้านในที่ต่อกันนั้นเป็น Engineering Floor เวลาใส่รองเท้าเข้ามาให้ห้อง จะได้มีบริเวณให้ไว้ถอดรองเท้าที่ทำความสะอาดง่ายค่ะ

จากด้านในมองไปบริเวณด้านหน้าปากประตูนะคะ ผนังด้านทาสีขาวเหมือนกับประตูให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

ภาพแรกที่เห็นจกาในห้องคือภาพนี้ หน้าต่างที่แสงจ้าๆตรงนั้นเป็นวิวเจ้าพระยาค่ะ

โซนแรกเป็นชุดรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานข้าวแบบ 6 คนได้สบายๆ

มุมอีกด้านหนึ่งวางชั้นวางทีวีไว้อย่างนี้ค่ะ สามารถนั่งไป ทานข้าวไปดูทีวีไปก็ได้ หรือว่าจะมองเรือแล่นไปแล่นมาในวิวเจ้าพระยาก็ดีนะคะ

ถัดมาเนื่องจากพื้นที่เหลือ ก็สามารถทำเป็นโต๊ะทานน้ำชา นั่งเล่น ทานของว่างแบบ Informal ได้ 4 ที่นั่ง

ด้านในสุดเป็นส่วนของระเบียงขนาดใหญ่ด้านนอก เดี๋ยวเราจะพาออกไปดูกัน แต่ตอนนี้ ไปดูห้องนั่งเล่นด้านซ้ายมือกันก่อนนะคะ

มุมนั่งเล่นวิวเจ้าพระยา พื้นที่ใหญ่มากพอที่จะจัดวางโซฟาตัวใหญ่ๆ โซฟารูปตัว L หรือโซฟาอื่นๆ ได้สบายๆ โดยแอร์ทั้งห้องเป็นแบบฝังทั้งหมดนะคะ

มุมกระจกโค้งเจ้าพระยา วางเก้าอี้นอนไว้ตัวหนึ่ง นอนชมวิวได้สบายๆเลย

โดยด้านข้างของห้องนั่งเล่น เป็นกระจกเต็มบาน มองเห็นวิวเจ้าพระยาอีกด้าน พร้อมระเบียงใหญ่ด้วยค่ะ

ออกไปดูวิวด้านนอก บริเวณระเบียงกันเลยนะคะ ^^

มือจับและระบบล็อคของระเบียงค่ะ ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนกรอบขาวนะคะ ค่อนข้างหนัก แข็งแรงทีเดียวค่ะ

พื้นระเบียง เป็นพื้นปูกระเบื้องค่ะ ลดระดับลงไปจากพื้นห้องไม่มาก

บริเวณระเบียงวางเก้าอี้พักผ่อนไว้ค่ะ วางเก้าอี้สองตัว สบายๆ ไม่อึดอัด ไม่คับแคบ

อีกมุมนึงยังเหลือพื้นที่ วางโต๊ะประดับไว้ค่ะ ตรงนี้เหลือพื้นที่ใหญ่พอให้เราประดับอะไรก็ได้เลยนะคะ

 

ราวกันตกบริเวณระเบียงเป็นกระจกนิรภัยครึงนึง แล้วก็ก่ออิฐผิวหินเลียนแบบธรรมชาติค่ะ

แนวริมรั้วกันตกจัดเป็นพื้นที่ปลูก้นไม้เพิ่มความร่มรื่นให้แก่บริเวณระเบียงได้ด้วย

วิวโค้งน้ำเจ้าพระยามองเห็นสะพานพระราม 8  สะพานซังฮี้ … ตอนกลางคืนวิวพระราม8 จะสวยมากค่ะ

วิวอีกด้านค่ะ ด้านพระราม 7

วิวด้านหน้านะคะ เป็นวิวมองเข้าเมืองเห็นท่าเรือพายัพค่ะ

เพดานห้องสูงตั้งแต่ 2.5 – 3 เมตร โดยจะดรอปมาแต่ละจุดไม่เท่ากัน โคมไฟที่ใช้เป็น Down Light และ Halogen เฉพาะห้องที่แต่งครบเท่านั้นค่ะ

ต่อมา เราจะพาไปดูในส่วน Service กันนะคะ

ส่วนของ Service นี้สามารถล็อคได้ หากเราต้องการให้แม่บ้านมาอยู่ด้วย ก็สามารถจัดเป็น Service Quarter แยกส่วนจาก Living Quarter ที่เป็นส่วนพักอาศัยของเจ้าของห้อง โดยแม่บ้านจะสามารถเข้าออกได้อีกทางหนึ่ง แยกกันกับเจ้าของห้องไปเลย จะได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่มากขึ้น หากแม่บ้านที่เราเลือกมานั้นยังไม่สามารถไว้ใจได้ 100% ค่ะ

วัสดุปูพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิโต้นะคะ ไม่ใช้ไม้เหมือนด้านนอก เพราะฉะนั้น เราสามารถดูแลรักษา และทำความสะอาดได้ง่ายกว่ามากค่ะ

Pantry ครัวท๊อปหินสังเคราะห์สีขาว มีทั้งหมด 2 ด้าน ด้านขวามือมีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันพร้อมตู้ลอยเก็บของ

เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน … เตาน่าจะให้มาสัก 4 หัวนะคะ ห้องใหญ่ตั้ง 150 ตารางเมตรขึ้นไป

อีกฝั่งหนึ่ง Pantry ด้านซ้ายเป็นตำแหน่งวาง Sink ค่ะ ใช้เตรียมอาหารได้ และเป็นครัวที่เหมาะกับการทำอาหารมาก

Sink แบบ 2 หลุมของ Teka ด้านหลังเป็นกระจกสี Glass Kote

ด้านในสุดของครัวจะมีทางเข้าห้องอยู่ 2 ห้องค่ะ

ด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำที่มีห้องอาบน้ำในตัว ส่วนด้านขวาเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ

พื้นห้องน้ำอยู่ระดับเดียวกับพื้นด้านนอกเลย ภายในแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้า ท๊อปหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ด้านข้างค่ะ

พื้นที่อาบน้ำส่วนเปียก ก่อเป็นธรณีสูงขึ้นมา ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเปลือยไว้ให้ด้วย

ฝักบัว และ Rain Shower ค่ะ เป็นรุ่นที่ฉีดน้ำลงมาจากฝ้าเลย

ต่อไปไปดูห้องอเนกประสงค์ด้านหลังนะคะ

พื้นที่ห้องนี้สามารถเลือกที่จะทำเป็นห้องอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผ่อน, ห้องทำงาน, ห้องซักรีด, ห้องแม่บ้าน หรือห้องเก็บของ

ห้องตัวอย่างนี้โครงการจัดเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ

มุมนี้จัดเป็นที่นั่งขนาดใหญ่ ด้านข้างมีช่องแสงบานกระทุ้ง

เปิดออกมาเป็นแบบนี้ เห็นเสาไฟเต็มๆเลย

ฝั่งตรงข้าม Built-in  เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมตู้เสื้อผ้าค่ะ

มุมนี้มีช่องแสงด้านหลังนะคะ

เปิดไปเป็นเห็นวัดอาวุธฯค่ะ

สุดท้ายหลังบ้าน ประตูบานซ้ายสามารถเปิดออกไปด้านนอกเป็นทางเข้าออกที่ 2 และส่วนบานขวาเป็นทางออกไปยังลานซักล้างค่ะ

ประตูหลังเปิดเข้าออกได้อีกทางหนึ่ง

ประตูด้านขวา เป็นประตูเปิดไปเจอระเบียงซักล้าง

และเป็นพื้นที่แขวนคอมแอร์ด้วยค่ะ

ต่อไปเราจะไปดูห้องนอนกันบ้าง ซึ่งมีทั้งหมด 2 ห้อง … เรามาดูห้องทางด้านซ้ายก่อนนะคะ

เปิดประตูเข้ามาจะเห็นว่าโครงการติด Door Stopper ไว้ให้ด้วย

ห้องนอนเล็กนี้สามารถวางเตียง Queen Size หรือ King Size ได้ แต่รูปห้องจะไม่เป็นสี่เหลี่ยมสักทีเดียวนะคะ อาจจะยากในการเลือกเฟอร์นิเจอร์เพื่อมาเข้ามุมให้สวยๆค่ะ

ปลายเตียง Built in เป็นชั้นวางของ และตู้เสิ้อผ้าสูงจรดเพดานอย่างนี้นคะ

ห้องนี้ได้หน้าต่างเข้ามุมนะคะ โดยฝั่งหนึ่งถูกปิดเอาไว้ด้วยม่านมู่ลี่

อีกฝั่งหนึ่งเป็นประตูบานเลื่อนสองบาน เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวค่ะ

ราวกันตกระเบียงเป็นกระจกนิรภัยครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง ก่ออิฐและตกแต่งด้วยหินเลียนแบบธรรมชาติ โดยแนวระเบียงมีพื้นที่ลดระดับไว้ให้วางกระถางต้นไม้ด้วย

มองกลับมา ด้านประตูห้องนะคะ

ด้านซ้ายมือที่เว้าเข้าไป เรามองไม่เห็นนี่เป็นประตูทางเข้าห้องน้ำส่วนตัวค่ะ

พื้นห้องน้ำปูด้วยพื้นกระเบื้อง บริเวณประตูไม่ได้มีธรณีก่อ หรือตัวจบใดๆ มากั้น ไม่ต้องกลัวสะดุดค่ะ

ด้านในมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บของค่ะ

โถสุขภัณฑ์ แบบ Wall Hung ฝังอ่างในผนัง ซึ่งจะดีมากเวลาทำความสะอาดพื้นที่ด้านล่าง และด้านบนก็มี Counter ไว้ให้เรียบร้อย

ส่วนอาบน้ำมีธรณีก่อขึ้นมาเป็นส่วนเปียก พร้อมฉากกั้น ทำเป็น Shower Box ด้านในมีทั้ง Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำนะคะ แถมช่องแสงแบบบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศ เวลาอาบน้ำด้วยค่ะ

ช่องแสงบานกระทุ้งค่ะ เอาไว้เปิดระบายอากาศจากห้องน้ำ

ต่อมา เราจะพาไปดูห้องนอน Master Bedroom ด้านขวามือค่ะ

ห้องนี้สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆเลยนะคะ

ข้างเตียง มีกระจกบานเข้ามุม ซึ่งมีกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดได้ค่ะ

ทุกห้องนอนมีระเบียงส่วนตัว โดยระเบียงด้านนอกหน้าต่าง ปลูกต้นไม้ประดับไว้เช่นเคย

ข้างเตียงอีกด้าน วางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไว้อย่างนี้ค่ะ

ปลายเตียง Built in เป็นชั้นวางของไว้อย่างนี้ด้วย อยากจะวางทีวี หรือว่าจะแขวนทีวีืติดผนังก็ได้นะคะ

อีกฝั่งหนึ่งเป็นประตูทางเข้า Walk in Closet ค่ะ ด้านใน Built in เป็นตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดาน พร้อมติดกระจกบานใหญ่ส่องได้เต็มตัวค่ะ

ถัดจาก Walk-in Closet ก็จะเป็นห้องน้ำ โดยมีฟังก์ชั่นมาตรฐานเหมือนห้องนอนที่แล้วค่ะ

ส่วนที่แตกต่างกันจะเป็นส่วนอาบน้ำ ที่ See Through มองทะลุออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ … แต่ด้วยยูนิตห้องตัวอย่างที่เป็นชั้น 7 แนะนำว่าติดม่านเถอะค่ะ

พื้นที่อาบน้ำ ขนาดพอประมาณนะ

จบไปกับห้อง Type A … ต่อไปเราไปดูห้อง Type B ที่อยู่ข้างๆกันบ้างนะ

ห้องแบบ Two  Bedrooms Type B ชั้น7 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 156.81 ตารางเมตร … จัดเป็นห้องที่ “เล็กที่สุด” ของโครงการนี้ กับขนาดกว่า 150 ตารางเมตร

ตามมาดูห้อง Type B กันเลย

ด้านซ้ายมือหน้าประตู ทางโครงการสร้างเป็นที่นั่งใส่รองเท้าแบบนี้ค่ะ ด้านล่างเก็บรองเท้าได้ 3 ตู้

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางรองเท้าอีกค่ะ วางได้หลายชั้น จรดเพดานกันเลยทีเดียว

ถัดจากชั้นวางรองเท้า ด้านขวามือ มีห้องอเนกประสงค์เล็กๆค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ตรงนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายฟังก์ชั่น ห้องนี้แต่งเป็นห้องแม่บ้านเอาไว้ … แต่ห้องนี้ไม่มีทางเข้าออกที่สอง และไม่สามารถแยกส่วน Service กับ Living ได้ ทำให้แม่บ้านที่จะมาอยู่กับเราตรงนี้สามารถเข้าถึงได้ทุกส่วนของห้อง การที่จะเลือกห้อง Type B เราก็ต้องมีแม่บ้านที่ได้รับความไว้วางใจสูงๆด้วยนะคะ

ภายในห้องมีหน้าต่างระบายอากาศ แต่ไม่ใช่ระบายออกภายนอกนะ เป็นช่องลมข้างๆโถงลิฟท์ต่างหาก

มองกลับไปด้านหน้าห้องค่ะ จะเห็นว่าพอเข้ามาในส่วนของพื้นที่ห้องจริงๆ วัสดุจะเปลี่ยนจากกระเบื้องแกรนิโต้ เป็นพื้นไม้นะคะ

บริเวณแรกของห้องเป็นส่วนของ Pantry Island วางอยู่ด้านหน้าครัว บริเวณนี้สามารถใช้เป็นที่รับประทานอาหารเล่นๆ ได้ หรือว่า จะว่าจะจัดเป็นพื้นที่วาง Cocktail จัดปาร์ตี้ภายในห้องได้ หรือว่าจะจัดเป็นพื้นที่ทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ร่วมกันภายในครอบครัวก็ได้ค่ะ

ด้านหลังเคาท์เตอร์ เป็นห้องครัวค่ะ ในแปลนห้องนี้จะไม่ได้มีประตูมาให้ แต่ว่าห้องตัวอย่างนี้จะ Built เป็นครัวปิดให้นะคะ

ประตูครัวที่โครงการ Built in มาให้ดูเป็นตัวอย่าง

เปิดเข้าไปจะเห็นว่า พื้นครัวเป็นกระเบื้อง เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

พื้นที่ครัวทั้งหมดจัดว่าเล็กกว่าห้อง Type A มากๆ ความสะดวกในการทำอาหารเรียกว่าสู้ห้อง Type A ไม่ได้เลย

ทางขวามือมุมสุดด้านบนของภาพ เป็นตำแหน่งวางตู้เย็นนะคะ อย่าลืมวัดขนาดไปดีๆ นะคะ ต้องซื้อมาให้พอดี และเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้ให้ตู้เย็นระบายอากาศด้วยนะคะ

Pantry ด้านในครัวค่ะ ใช้หินสังเคราะห์สีดำ Built in ตู้ลอยไว้ให้ด้วย

Sink  แบบ 2 หลุมของ Teka

อีกด้านหนึ่งค่ะ จะเห็นว่าครัวเป็นตัว L ใช้เป็นตำแหน่งวางเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน

เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน Teka ด้านหลังเป็นผนังกระจก Glass Kote

จุดที่เด่นของห้องนี้คือการจัดว่าห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร และ Island Pantry รวมกันเป็นแบบ Open Plan

จากเคาท์เตอร์หน้าครัว มองไปทางเจ้าพระยาจะเห็นเป็นโซนโต๊ะรับประทานอาหาร ตำแหน่งใกล้ครัว จะสะดวกเวลาเตรียมอาหาร โดยถัดไปเป็นส่วนนั่งเล่นริมด้านเจ้าพระยา ได้วิวและแสงธรรมชาติจากระเบียงด้านหลัง

ชุดรับประทานอาหารแบบ 6 ที่นั่งแต่วางเก้าอี้แค่ 4 ตัวนะ

ชุดนี้สามารถวาง Grand Sofa ได้เลย ขนาดใหญ่มากๆ นั่งสบายหายห่วง

ระยะดูทีวีกว้างมาก อย่างต่ำควรใช้ทีวีขนาด 50 นิ้วนะคะ หรือถ้าชอบใหญ่ๆ จัดแบบ 60 – 70 นิ้วไปเลยยังได้

ถัดมาเปิดประตูกระจกบานเลื่อน ไปดูพื้นที่ระเบียงด้านนอกกันนะคะ

ระเบียงห้องนี้เป็นแนวยาวค่ะ แต่ก็กว้างพอที่จะวางเก้าอี้น้ำชาแบบสองที่นั่งนี้ได้ค่ะ

ระเบียงห้องนี้ถูกลดความสำคัญลงเมื่อเทียบกับห้องที่แล้ว โดยจะเอาคอมเพรสเซอร์แอร์มาวางตรงนี้ด้วย ทำให้มีเสียงและความร้อนจากคอมพ์แอร์มารบกวน

ใครชอบนั่งระเบียงสบายๆ แนะนำ Type A จะดีกว่านะ

วิวด้านซ้ายมือของห้องนี้ เป็นวิวพระราม 8 แบบชัดเจนนะคะ แอบเห็นคอนโดเพื่อนบ้านด้วย

วิวด้านหน้า แบบตรงๆ เป็นวิวเมืองค่ะ มองเห็นท่าเรือพายัพ เรือด่วนกำลังจอดที่ท่าพอดีเลย

ด้านขวามือของภาพ สังเกตดีๆ จะเห็นคลองเล็กๆ ที่ไหลลงเจ้าพระยา ตรงนั้นคือคลองสามเสนค่ะ

วิวด้านขวามือไปทางพระราม 7 ค่ะ

ห้องนี้จะได้วิวระเบียงในแนวกว้างกว่านะคะ เห็นเจ้าพระยาในแนวกว้างมากกว่าค่ะ ไม่ติดวิววัด หรือ เสาไฟฟ้าแสงสูงด้วย

ก่อนจะเข้าไปดูห้องนอนใหญ่ เราจะเจอห้องน้ำแขก บริเวณด้านหน้าห้องนอนใหญ่ก่อนนะคะ

ห้องนี้ Function มาตรฐานห้องน้ำนะคะ ด้านในสุดเป็นห้องอาบน้ำค่ะ อะไรที่ซ้ำๆขอข้ามนะคะ

ต่อมาเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ ห้องนี้จัดว่าใหญ่มาก ใหญ่กว่าห้อง Type A มากๆ ใครชอบห้องนอนใหญ่ๆ ได้วิวแบบ Panorama ก็เลือก Type B ดีกว่านะคะ รับรองไม่ผิดหวัง

กระจกในห้องนอน เห็นวิวเจ้าพระยาแบบ Panorama … บานซ้ายใหญ่มากขอบอก

เก้าอี้ข้างเตียงตัวนี้ เห็นเรียบง่ายแบบนี้ แต่วิวไม่ธรรมดานะคะ

นั่งเก้าอี้ลงไปจะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ เจ้าพระยา และสะพานพระราม 8 ต่อเนื่องกันเลย

มองกลับไปด้านหน้าห้อง ทางขวามือที่เห็นเป็นบานกระจกมีลวดลายตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ

เปิดไปเจอจะเห็นเป็นตู้เสื้อผ้าบานใหญ่เลยค่ะ

ด้านขวามือบริเวณทางเข้า เป็นห้องน้ำ Master Bathroom โดยฟังก์ชั่นต่างๆแทบจะเหมือนห้องที่แล้วเลย

แต่ห้องน้ำนี้มีความพิเศษอยู่ตรงที่มีอ่าง jacuzzi เข้ามุมแบบนี้ ที่ห้องอื่นไม่มีล่ะ

ไปดูห้องนอนเล็กอีกห้องนึงกันต่อนะคะ ห้องนี้วางเตียง Queen Size ค่ะ

ปลายเตียงขวามือเป็นกระจกเข้ามุมอย่างนี้นะคะ

ข้างเตียงเป็นห้องน้ำ แบบเปิดอย่างนี้ค่ะ พอดีห้องตัวอย่างนี้ Upgrade ห้องน้ำให้ดีกว่าปกติค่อนข้างเยอะ และปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นใหม่ ดังนั้นเราขอข้ามนะคะ

เอาเป็นว่าห้องน้ำนี้ก็มีฟังก์ชั่นคล้ายๆกับห้องน้ำด้านนอกเลยค่ะ

จบจาก Type B เรามาดู Type C ที่เป็นห้อง Mirror กับ Type B กันค่ะ

โดยจะเป็นห้องที่ยังสร้างไม่เสร็จ ไม่ใช่ห้องตัวอย่าง เราจะลองพาไปดูวิวห้องนี้นะคะ ส่วนแปลนอื่นๆ คล้ายกับ Type B ที่เราเคยอธิบายไปแล้วค่ะ

ออกตัวว่าห้องนี้ยังสร้างเสร็จไม่สมบูรณ์ ทางเราขอเข้าไปเก็บภาพวิวเท่านั้นนะคะ วิวของห้อง Type C จะเป็นสะพานกรุงธน และพระราม 8

มองเข้ามาด้านขวาเข้าไปอีกหน่อย เห็นคอนโดเพื่อนบ้านและวิวเมืองฝั่งธนฯ จากตรงนี้มองเห็น  Tesco Lotus  ด้วย

อีกฝั่งหนึ่งที่เป็นท่าเรือพายัพ ถนนแนวยาวด้านหลังท่าเรือพายัพ คือ ถนนนครชัยศรีค่ะ

วิวจากห้องนอนใหญ่ค่ะ ได้เป็นกระจกมุม เห็นสะพานพระราม 8 และฝั่งพระนครแบบเต็มๆ

วิวห้องนอนของ Type C นี่สวยสุดแล้วค่ะ

สุดท้ายเป็น Type D ห้อง Mirror กับ Type  A แต่วิวต่างกัน ซึ่งห้องนี้จะได้วิวฝั่งธนฯ มากหน่อยค่ะ

เข้าไปจะเห็นว่าระเบียง จะได้วิวเจ้าพระยา แบบมีคอนโดเพื่อนบ้านบังวิวนะคะ คิดว่าวิว Type D ด้อยที่สุดในบรรดา 4 ห้องแล้วค่ะ

วิวตรงส่วนนั่งเล่น ใกล้ระเบียงสุดเป็นวิวฝั่งธนฯค่ะ

วิวด้านหลัง เห็นฝั่งธนฯตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หันไปทาง ถ.จรัญสนิทวงศ์ ทางที่เรามานะคะ

Zoom ไปดู ซ.จรัญฯ 72 บริเวณปากซอยที่เราเข้ามา เห็นชัดเจนค่ะ … อนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านตรงนี้แน่แล้ว

ต่อมาเราจะพาขึ้นไปดูชั้น 37 ซึ่งเป็น Penthouse ห้องที่อยู่สูงสุดของโครงการ My Resort @River  ห้องนี้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย Pool เหนือเจ้าพระยา บนชั้น 37 ค่ะ

(ขออภัยภาพห้อง Penthouse นั้นยังอยู่ระหว่างงานก่อสร้าง ไม่เรียบร้อย ทางเราจึงขอภาพเอาออกก่อนชั่วคราว รอให้งานก่อสร้างเสร็จแล้วจะนำมาโพสไว้ใหม่ค่ะ)

เก็บวิวจากระเบียงด้านบนมาฝากนะคะ ฝนใกล้จะตกแล้ว ฟ้าหม่นๆหน่อย เสียดายจุงเบย

ด้านแรกนี้เป็นด้านพระราม 8 สะพานซังฮี้ ระเบียงเป็นกระจกนิรภัยนะคะ ไม่มีอะไรมากั้น ดูโปร่งโล่งมากค่ะ

วิวเมืองมองเข้าไปเห็นตึกที่สูงที่สุดอย่างใบหยก 2 … มองเข้าไปในเมืองแสงไฟตอนกลางคืนคงสวยน่าดูค่ะ

โค้งน้ำอีกด้านหนึี่งด้านพระราม 7 ค่ะ

มองเห็นถึงคุ้งบางกะเจ้าเลย

มาดูวิวด้านหลังฝั่งธนฯกันบ้างค่ะ โลตัสใหญ่ๆสีขาวๆ

วิวฝั่งธนฯ จากชั้น 37 ค่ะ ถึงเส้นขอบฟ้าเลย ^^

Penthouse ที่นี่ เต็มพื้นที่ ทั้งชั้น 37 และชั้น 36 ด้วยนะคะ เป็นห้องเดียวกันค่ะ พ้ืนที่รวมห้องนี้อยู่ที่ 778.80 ตารางเมตรนะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย (29/09/2556)

• Type A ชั้น7 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 177.71 ตารางเมตร ราคา 20,969,780 บาท (123,000 บาท/ตารางเมตร) [ห้องตัวอย่างแต่งครบ]
• Type A ชั้น10 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 177.71 ตารางเมตร ราคา 21,858,330 บาท (118,000 บาท/ตารางเมตร)
• Type B ชั้น7 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 156.81 ตารางเมตร ราคา 18,817,200 บาท(120,000 บาท/ตารางเมตร) [ห้องตัวอย่างแต่งครบ]
• Type CD ชั้น7 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พื้นที่ 328.80 ตารางเมตร ราคา 31,236,000 บาท(95,000บาท/ตารางเมตร)

• จอง + ทำสัญญา 20% ของราคาขาย (จอง 1 แสน ที่เหลือเป็นเงินทำสัญญา)
• ทำสัญญาภายใน 15 วัน
• ไม่มีผ่อนดาวน์โอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที

• โปรโมชั่น  – รับส่วนลด 20% จากราคาขาย,ค่าธรรมเนียมการโอนคนละครึ่ง (คิด Net เป็น​ 76,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร)
• ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ ตารางเมตร/เดือน
• เงินกองทุน 500 บาท/ ตารางเมตร
• ความสูงพื้นถึงเพดาน 2.50 – 3.00 เมตร

หมายเหตุ: ขายแบบไม่มีเฟอร์ฯ แต่ที่โครงการมีให้คือ พื้นไม้,เครื่องปรับอากาศทุกห้อง,ชุดครัว,สุขภัณฑ์ในห้องนำ,อ่างจากุสซี่(เฉพาะแบบ B,C)*** แต่ทางโครงการก็มีบริการรับทำบิ้วอินตกแต่งห้องด้วยหรือจะตกแต่งเหมือนห้องตัวอย่างก็ได้

เจาะลึกรวบยอด

น้องเหมี่ยวเขียนบรรยายถึงเท่านี้ต่อไปผมบีมจะเป็นคนสรุปนะครับ

ทำเลของโครงการ My Resort @ River นั้นตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ท้ายซอยจรัญฯ 72 ซึ่งติดริมน้ำเจ้าพระยาเลย ทำเลนี้บอกก่อนได้เลยว่าไม่ใช่ทำเล Prime Location แต่เป็นทำเลที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ก็คือติดแม้น้ำเจ้าพระยา และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินวิ่งผ่าน โดยระยะทางจากตัวโครงการออกไปยังรถไฟฟ้านั้นอยู่ที่ 500 เมตร จัดว่าไม่ไกลเท่าไร อยู่ในระยะที่สามารถพอจะเดินไปได้ครับ

โครงการ My Resort @ River นั้นพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็น “Resort Condominium” ของแท้จริงๆ ที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง ซึ่งมีสาธารณูปโภคครบครัน ให้ตั้งแต่ชั้น G ไปจนถึงชั้น 5 ทั้งสระว่ายน้ำ, สนามเทนนิส, สนามสควอช, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุด, ซาวน่า, ห้องสปา, ห้องเสริมสวย, ห้องจัดเลี้ยง รวมไปถึงชุดเก้าอี้นั่งกินลมชมวิวเจ้าพระยาอีกนับ 10 ชุด ในขณะที่มีห้องพักเพียง 123 ห้องเท่านั้น ทำให้จุดเด่นที่สุดของโครงการนี้จะเป็นอย่างไรไปไม่ได้นอกเสียจาก Facility นะครับ

หากดูจากราคาต่อตารางเมตรที่อยู่ตั้งแต่ 76,000 – 100,000 บาท (สำหรับราคาที่ลด 20% แล้ว) โครงการ My Resort @ River ก็คงจะไม่ได้อยู่ในประเภท Luxury Class แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่เกิน 12 ล้านบาท และขนาดห้องที่เล็กที่สุดอยู่ที่ 150 กว่าตารางเมตร ทำให้เราต้องขยับประเภทของคอนโดนี้มาที่ Luxury Class จึงจะดูสมเหตุสมผลนะครับ

โดยรวมแล้วโครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ แต่ยังมีส่วนที่สร้างไม่เสร็จอีกก็มาก ทั้งในเรื่องส่วนกลาง รอบๆห้อง และยังมีรายละเอียดเล็กๆที่ชำรุดเสียหายยังต้องเก็บงานกันอีกพอสมควร เรียกว่ายังไม่ “เนี๊ยบ” ซึ่งทางเราก็คาดหวังว่าเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์แบบแล้วจะงดงามนะครับ ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าอาคารนี้เป็นอาคารเก่าก่อนปี 2535 ที่นำมาบูรณะซ่อมแซมใหม่ ทางโครงการยืนยันว่าโครงสร้างแข็งแรงดี แต่ว่าเรื่อง Finishing นั้นก็ต้องเก็บงานกันต่อไปนะครับ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจัดว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไร เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่บนถนนจรัญฯ ซึ่งปัจจุบัน (ก.ย. 2556) รถติดมากๆโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ลดช่องทางการจราจรจาก 3 ลงไปเหลือ 2 ช่อง ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ก็ทำใจไว้ล่วงหน้ากันได้เลย และปัจจัยที่สองก็มาจากการที่รถติดบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเป็นคอขวดของรถฝั่งธนบุรีที่จะต้องข้ามไปฝั่งพระนครอยู่แล้ว ทั้งสะพานกรุงธน, สะพานพระราม 8 และสะพานพระราม 7 … ก็ต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ดีนะครับ แต่พอรถไฟฟ้ามา ทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมเชื่อว่าการจราจรบนถนนจรัญฯจะดีขึ้นตามลำดับ ทั้งจากเครือข่ายการขนส่งมวลชนที่จะทำให้ปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลลดลง และการคืนผิวการจราจรกลับมาเป็นปกติ

ที่จอดรถเป็นอะไรที่วิเศษมากๆสำหรับโครงการนี้ โดยโครงการให้มาถึง 200% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ดังนั้นเราก็ไม่ต้องห่วงด้วยเหตุผลประการใดๆว่าที่จอดรถจะเต็ม หรือมีปัญหาเรื่องช่องจอดไม่พอเพียง ซึ่งจัดเป็นข้อดีอันดับต้นๆของครอบครัวที่ขับรถและมีรถมากกว่า 1 คัน … โครงการนี้รองรับรถของท่านได้ครับ

แนวทางการออกแบบเรื่องความสวยงามผมไม่ขอคอมเม้นท์นะครับ แต่เรื่องการใช้สอยและความอยู่สบายนั้น ที่นี่จัดว่าโอเคเลยทีเดียว ชั้นๆหนึ่งมียูนิตสูงสุดเพียง 4 ห้อง มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 2, ลิฟท์ขนของ 1 และลิฟท์ดับเพลิง 1 และถ้าเราคิดอัตราส่วนลิฟท์โดยสาร ก็จะได้ที่ 62:1 ซึ่งจัดว่าต่ำมาก ไม่มีปัญหาเรื่องรอลิฟท์แน่นอน … ความหนาแน่นต่ำ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงครับ

มองมาถึงเรื่องวิว ซึ่งเป็นประเด็นหลักของคอนโด My Resort @ River ที่พยายามจะรวมเอา “คอนโดตากอากาศ” กับ “ชีวิตประจำวัน” เข้ามาอยู่ด้วยกัน โดยทั้ง 4 Type นั้น ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด แต่ห้องที่ดูแล้วจะด้อยกว่าใครเพื่อนก็คือ Type D ที่จะถูกบังวิวไปส่วนใหญ่จากตึกคอนโดเพื่อนบ้าน รองลงมาคงจะเป็น Type A ชั้นเตี้ยๆ ที่มีวัดและเสาไฟฟ้าแรงสูงมารบกวน … แต่ถ้าชั้นสูงๆแล้ว ผมคิดว่าวิวห้อง Type A, B, C ทั้งสามแบบนี้ใช้ได้ทั้งหมด ให้เลือกที่แบบห้องมากกว่าครับว่าต้องการแบบไหน

วัสดุต่างๆจัดออกมาค่อนข้างใช้ได้ พื้น Engineering Wood และแกรนิตโต้, ฝ้าเพดานสูง 2.5 – 3 เมตร, ครัวท๊อปหินสังเคราะห์, ห้องน้ำสุขภัณฑ์แบบ Wall Hung, กระจก Tempered Glass บานเปลือยทั้งโครงการ และมีตู้ Built-in ให้ไว้หลายๆส่วน ซึ่งทั้งหมดนี้จัดว่าโอเคมากๆกับราคานี้

สุดท้ายคือเรื่องของอนาคต ว่าพอรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดใช้งานแล้ว โครงการต่างๆก็คงจะมาขึ้นเกาะสถานีรถไฟฟ้าเป็นแน่ ทำให้พื้นที่ต่างๆบริเวณจรัญฯ – บางพลัด พัฒนาขึ้นไปอีกมาก แต่เราก็ต้องมาชั่งใจดูด้วยว่า การจ่ายเงิน 12 – 20 ล้านให้กับ “บ้าน” หลังนี้นั้นโอเคไหม เนื่องด้วยห้องที่ใหญ่ขนาดนี้ การตัดสินใจซื้อคงจะไม่ใช่การซื้อคอนโดในเมืองไว้อยู่ชั่วคราวแล้ว แต่จะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อที่อยู่อาศัยที่เราจะอาศัยอยู่ไปอีกเป็นช่วงใหญ่ๆของชีวิตครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 90,000 บาทต่อตารางเมตร, 30/09/2013

• ทำเล – 7.75/10 ริมน้ำเจ้าพระยา แต่อยู่ในซอยจรัญฯ 72 ไม่ติดถนนใหญ่ ไม่ใช่ Prime Location
• เดินทางด้วยรถ – 8/10 รถติดมากมาย แต่มีที่จอดรถให้ 200% นะ
• ไม่ใช้รถ – 7/10 อาจจะลำบากหน่อย ต้องเดินเข้าซอย
• ไม่ใช้รถ (เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จ) – 8/10 อนาคตมีรถไฟฟ้าในระยะ 500 เมตร
• วัสดุ – 8.5/10 ให้ค่อนข้างดี คุณภาพวัสดุใช้ได้
• แบบ – 9/10 อยู่สบาย ความหนาแน่นน้อย
• สาธารณูปโภค – 10/10 จัดเต็มไปเลย

• LUXURY CLASS
• 8.14 / 10.00
• 8.29 / 10.00 (เมื่อมีรถไฟฟ้า)

BOTTOM LINE

My Resort เป็นทางเลือกของครอบครัวที่ต้องการคอนโดห้องใหญ่ๆติดริมน้ำเจ้าพระยาฝั่งธนุบรี มีสาธารณูปโภคเยอะๆ อนาคตสามารถใช้รถไฟฟ้าได้ แต่ก็ต้องทนรถติดในปัจจุบันไปก่อนนะ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ