รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.214 – รีวิวคอนโด Manor สนามบินน้ำ

12 มิถุนายน 2016

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 257 … Manor สนามบินน้ำ เป็นคอนโดมิเนียมโปรเจคแรกที่ทาง Major Development ตั้งใจจะปั้นแบรนด์ใหม่ “แมเนอร์” ให้เกาะอยู่ในตลาดคอนโดมิเนียมราคาประหยัด โดยเลือกทำเลโปรเจคแรกอยู่ข้างกระทรวงพาณชิย์ ติดถนนใหญ่สนามบินน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นคอนโดมิเนียมกึ่งรีสอร์ทเพื่อการพักผ่อน โดยไม่ต้องไปไหนไกล อยู่แค่นนทบุรีนี่เองละครับ

สามารถอ่านรีวิวฉบับตึกเสร็จพร้อมอยู่ได้โดย (คลิกที่นี่)

Fact @ 4 November 2012

  • แมเนอร์ สนามบินน้ำ (Manor Sanambinnam)
  • Major Development .,Plc.
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 25 ชั้น 2 อาคาร และ 35 ชั้น 2 อาคาร รวมประมาณ 1,848 ยูนิต 
  • ที่ดินประมาณ 10-3-75 ไร่
  • 1 Bedroom /2 Bedrooms
  • พื้นที่ใช้สอย 25 – 71 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.25 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 50,000 – 60,000 บาท
  • กำหนดสร้างเสร็จ 2558
  • www.manorbymajor.com

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

แผนที่โครงการ Manor สนามบินน้ำ สามารถเข้าออกได้จากถนนใหญ่ 2 เส้นหลักคือ ถนนติวานนท์และถนนรัตนาธิเบศร์ และอีก 1 ถนนเส้นรองก็คือถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

วัดระยะทางจากถนนรัตนาธิเบศร์เข้าไปได้ 1.25 กิโลเมตร แปลงที่ดินอยู่ติดกระทรวงพาณิชย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนสนามบินน้ำ

เราตั้งต้นกันที่สะพานข้ามแยกบริเวณ The Mall งามวงศ์วานกันก่อนเลยนะครับ

วิ่งมุ่งตรงไปทางรัตนาธิเบศร์เรื่อยๆ

ข้ามสะพานข้ามแยกมาลง Esplanade งามวงศ์วาน

ไล่ตามรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกไปท่าน้ำนนทบุรีและถนนสนามบินน้ำ ตรงนี้ก็เข้าช่องขนานละครับ

การที่ถนนทำอยู่รถเลยติดพอควร ขาไปไม่เท่าไร ขากลับนี่สาหัสจริงๆ

วิ่งเลยนิตยาไก่ย่างมา

จะเจอแยกที่เลี้ยวซ้ายไปท่าน้ำนนทบุรี ซึ่งเป็นสี่แยกที่ตัดกันระหว่างถนนสนามบินน้ำและถนนรัตนาธิเบศร์ จุดนี้จะเลี้ยวขวาไม่ได้ทำให้เราต้องวิ่งตรงข้ามแยกไปกลับรถมานะครับ

ชิดซ้ายกลับรถ ถ้าชิดขวาจะข้ามแม่น้ำไปยาวเลย

กลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า 2528

ข้างบนก็เป็นสะพานพระนั่งเกล้าเหมือนกัน แต่จะข้ามแยกสนามบินน้ำไปด้วยเลย

กลับไปที่แยกชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนสนามบินน้ำตามที่ต้องการ

ถนนสนามบินน้ำดูแล้วจะค่อนข้างเก่าๆออกคลาสสิกหน่อย เป็นถนนที่มีทั้งหมด 4 เลน มีเกาะกลางบางๆ

วิ่งตรงไปประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงโครงการ และถัดไปนิดนึงก็จะเป็นกระทรวงพาณิชย์

พอเห็นป้ายก็ให้ชิดซ้าย ปล. เสาไฟถนนสนามบินน้ำสวยดีครับ

เข้าไปจอดรถที่โครงการก่อน

หน้าตาโครงการในปัจจุบัน (พ.ย. 2555) ยังไม่มีอะไรมากนอกจากสำนักงานขายกับแนวต้นปาล์มทั้งสี่ ขณะนี้ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆ

พอลงเดินแล้วภาพจะเคลียร์มากขึ้นเพราะไม่มีกระจกรถมาก่อกวน นี่เป็นภาพที่หันไปทางขามานะครับ

ฝั่งตรงข้ามโครงการมีสภาพเป็นชุมชน มีร้านขายของข้างทางโน่นนี่ มีตึกแถวอยู่ 5 ตึก ยังไม่ใช่ชุมชนที่คึกคักนะครับ

ด้านหน้าโครงการกำลังทำฟุตบาทกันใหม่ กองบล็อคตัวหนอนกันอยู่

ซูมไปฝั่งตรงข้าม เป็นซอยนนทบุรี 22

เดี๋ยวเดินไปกระทรวงพาณิชย์กัน

ก่อนถึงกระทรวงเป็นร้านเสริมสวย

นี่เป็นทางเข้ากระทรวงพาณิชย์

มองเข้าไปในกระทรวง

มีสะพานลอยเขียวอยู่ด้านหน้ากระทรวง ฝั่งตรงข้ามเป็น 7-11

เราเดินเข้าไปในกระทรวงกัน

จากโรงอาหารของกระทรวง มองออกไปจะเห็นที่ดินของ Manor เป็นแปลงข้างๆนี่แหละครับ

เขียวๆยังไม่มีการก่อสร้างใดๆ

ปลายสุดของที่ดินเป็นแม่น้ำ เห็นลิบๆอยู่โน่น

ซูมเข้าไปได้นิดนึง

มองไม่เห็น ไม่เป็นไร เราไปเดินท่าน้ำหลังกระทรวงกัน

นี่ครับ เจ้าพระยา ผมมาตอนประมาณ 11 โมงเศษๆ ถ้ามาตอนสัก 6 โมง จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยเลย

เพราะทิศนี้คือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ดังนั้นตึกที่อยู่ฝั่งซ้ายจะสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินกับแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งเป็นวิวที่ดีที่สุดของที่นี่

มุมนี้เลยครับทิศตะวันตก ถ้าชั้นสูงๆ 25+ ผมว่าจะเห็นทั้งสะพานพระนั่งเกล้าและโค้งน้ำในระยะ 1.6 กิโลเมตร

ถ่ายย้อนไปข้างๆให้เห็นริมน้ำของ Manor

อีกวิวที่เทพมากๆ แต่น่าจะมีห้องที่เห็นได้อยู่ไม่กี่ห้อง นั่นก็คือ Riverfront ตึกเหนือ เป็นวิวเกาะเกร็ดที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 2.5 กิโลเมตร ชั้นสูงๆ 30+ น่าจะเห็นได้ชัดเจน เป็นพื้นที่โค้งน้ำสวยเลยล่ะ

ขอบคุณกระทรวงพาณิชย์นะครับ

อ่อ จากการสอบถาม รปภ. แถวนี้ พบว่าคราวก่อนที่น้ำท่วมปี 54 นั้น น้ำขึ้นมาถึงแนวขอบขาวๆนี่ละครับ แต่กันได้ดีน้ำไม่เข้ากระทรวงนะ

เจาะลึกโครงการ 

แนวตึกของ Manor ตั้งเป็นแนวยาวเข้าจากถนนใหญ่ไปสุดแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตั้งเป็น 2 Column คล้ายๆกับ LPN พระราม 3 ที่เราพึ่งจะไปรีวิวกันมาสดๆหลังตึกสร้างเสร็จหมาดๆ

แปลงด้านหน้าจริงๆแล้วไม่ใหญ่เท่าแปลงหลัง อนาคต Major จะทำเป็น Retail คือมีร้านขายของอยู่ตรงนี้ เพื่อให้คนในตึกสามารถอยู่ได้ด้วย ไม่เช่นนั้นการที่ไม่มีอะไรเลยอยู่สองฟากถนนจะทำให้หาของกินยากมาก

ตัวตึกเป็น Step ด้านหน้ามี 2 Towers สูง 25 ชั้น และด้านหลังมี 2 Towers สูง 35 ชั้น

มีทางเชื่อมกันระหว่าง 2 Towers หน้าและหลัง

ตรงกลางเป็นส่วนกลางใหญ่ ดีไซน์เป็นเกาะกลางระหว่างตึกทั้ง 4 และส่วนที่เป็นสระริมแม่น้ำ

ด้านหน้า Riverfront มีการทำสระสวยงามเบิ้ลไปอีก 1 สระ และฟิตเนสทรงกระบอกโค้งๆ

มองจากด้านข้าง

ถ่าย Shop ด้านหน้าให้ดูอีกครั้ง

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย

รถไฟฟ้าสายที่ใกล้ที่สุดก็คือรถไฟฟ้าสายสีม่วงบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า ห่างราวๆ 1.2 – 1.3 กิโลเมตร เดินไม่ไหวนะครับ อาจจะต้องหารถพี่วินนั่งไป

หน้าตาโครงการ Manor มีประมาณ 1,848 ยูนิต ไม่รวม Shop ด้านหน้า ความแออัดสูงแต่น้อยกว่า LPN พระราม 3 ที่มี 2 พันกว่ายูนิตอยู่บ้าง

ห้องแบบ 1 Bedroom ของแต่ละตึก  Tower A และ B (สองตึกหน้า) จะมีขนาดเล็กกว่าห้องในตึก C และ D (สองตึกหลัง)

หน้าตาของแปลนอาคารโดยรวม

หน้าตาของห้อง 2 Bedrooms ที่มีในตึก C และ D ขนาด 61 ตารางเมตร

ภาพ Perspective บริเวณสระน้ำและส่วนกลาง

สิ่งอำนวยความสะดวกท้ังหมดมีเยอะมาก ไล่ตามรูปข้างบนได้เลย

โดยรวมก็คือส่วนกลางจะแบ่งออกเป็น 2 ชุดด้วยกัน โดยชุดหนึ่งจะอยู่บริเวณชั้น 6 ที่เป็น Podium ของตึก A/B และอีกชุดหนึ่งจะอยู่บริเวณชั้น G ของของตึก C/D

ที่จอดรถทั้งหมดจะอยู่บริเวณตึก A/B โดยใช้ทางเชื่อมเดินข้ามระหว่างตึก มีประมาณ 50% ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ริมน้ำและชั้น 6
  • ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ริมน้ำและชั้น 6
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • สวนริมน้ำ
  • สนามบาสเก็ตบอล
  • สนามเด็กเล่น
  • โต๊ะปิงปอง, ห้องสนุกเกอร์
  • ลานเอนกประสางค์
  • ห้องซักแห้ง
  • ห้องอบซาวน่าและสตีม
  • ห้องสมุด
  • ห้องสันทนาการ
  • ห้องโยคะ
  • ห้องเด็กเล็ก
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร มีลิฟท์บริการทุกอาคาร
  • ความหนาแน่นสูงสุด 24 Units ต่อชั้น ของตึก A, B
  • ความหนาแน่นสูงสุด 13 Units ต่อชั้น ของตึก C, D
  • อัตราส่วนลิฟท์ประมาณ 1:154
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

ห้องแรกเป็นห้องชุดขนาด 28 ตารางเมตร ของตึก A, B นะครับ จัดว่าใหญ่กว่าห้องขนาดเล็กที่สุดที่มีขนาด 25 ตารางเมตรเล็กน้อย

ห้องจะหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร มือจับเขาควายเปิดเข้าไป ประตูด้านในใช้ลูกบิด

ห้องนี้หน้ากว้าง 5 เมตร ซึ่งทางเมเจอร์แบ่งให้ห้องรับแขกมีขนาดเล็กเพียง 2.2 เมตร ให้น้ำหนักกับห้องนอนที่ 2.8 เมตร การนั่งดูทีวีก็อาจจะลำบากนิดๆ ใช้โต๊ะกลางไม่ได้ต้องใช้โต๊ะขาตั้งแบบนี้แทน

ขนาด 2.2 เมตรอาจจะทำให้ดูแคบๆไปนิด ด้านซ้ายเป็นครัวด้านขวาเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร

พื้นของที่นี่ใช้แกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งใช้ประโยชน์จากความลึกได้เต็มที่ มีที่นั่งกินกันสบายๆ มีตู้ด้านหลังพิงฝา จะขยายโต๊ะให้ยาวกว่านี้อีกนิดยังพอทำได้ ให้วางกับข้าวได้ดีขึ้น

ชุดครัวมีประมาณนี้ ขนาด 1 ห้องนอนจะไม่มีเตาและเครื่องดูดควัน จะมีให้แต่ตู้ ท๊อป และซิงก์

เฟอร์ชุดนี้รวมนะครับ

ท๊อปแบบ High Pressure Laminate มีซิงก์ 1 หลุมสแตนเลสหลุมตื้น ไม่มีที่พักจาน

เตาไม่มีนะครับ

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือ “มือจับ” ตรงนี้ทำออกมาเป็นสไตล์ Colonial Classic หวานและสวยงาม

เครื่องดูดควัน Hafele แต่ไม่มีให้นะครับ

มือจับสวย อย่างที่บอก ชม

เมื่อเป็นคอนโดมิเนียมริมน้ำก็ต้องให้ความสำคัญกับระเบียงพอควร ตรงนี้เป็นระเบียงของห้องนั่งเล่น

วงกบอลูมิเนียม ที่เปิดปิดเป็นแบบนี้

ระเบียงกว้างเกือบๆ 1 เมตร มีตำแหน่งให้ต่อปลั๊กและเครื่องซักผ้า ซึ่งคอมแอร์จะแขวนอยู่บริเวณนี้ ข้อเสียก็คือเป่าลมร้อนเข้าระเบียง ไม่ได้หันออกด้านนอน

ขนาดจริงๆของระเบียง

กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ติดโคมซาละเปาดังภาพ

แอร์แถม 1 เครื่อง บัวฝ้าและงานตามวงกบต่างๆในห้องตัวอย่าง ของจริงไม่มีนะครับ

งานวงกบประตูซับหลายๆชั้นแบบนี้ไม่มี พื้นเป็นลามิเนตสีนี้เลย ค่อนข้างคลาสสิก

ห้องนอนสวยงาม พอแต่งออกมาเป็นแบบ Colonial แล้วจะหวานๆมีระดับดี

กระจกในห้องนอน ช่องบนสุดนั้นจริงๆแล้วมีเฉพาะชั้นบนๆนะครับ ชั้นล่างๆกระจกบานเล็กกว่านี้ เนื่องจากห้องนอนได้รับการแบ่งให้มีความกว้างถึง 2.8 เมตร กินพื้นที่ห้องนั่งเล่นไปเยอะ จะรู้สึกได้ว่าอยู่ในห้องนอนแล้วสบายกว่าอยู่ในห้องนั่งเล่นเยอะพอควร

มีระยะให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย

มาดูห้องน้ำกันบ้าง

สุขภัณฑ์ของ KARAT นี่เป็นซิงก์ล้างมือทรงวงรี

ชั้นวางของพวกนี้มีให้ทั้งหมด

สุขภัณฑ์ของ KARAT เรื่องดีไซน์อาจจะดูไม่ดีเท่าพวก Cotto หรือ American Standards

กระจกนิรภัยของ Cristina ติดเป็นกรอบห้องอาบน้ำ แต่ไม่ใช่กระจกบานเปลือย

ฝักบัวในห้องอาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower ไม่มี Rain Shower

ที่นั่งอาบน้ำตรงนี้มีให้ ดีมาก เหมาะสำหรับหลายๆคน

เวลาเปิดกระจกมามีตัวกันกระแทกให้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวเปิดมาแล้วชนผนัง กระจกแตก

เราเดินไปดูห้องที่ 2 กันต่อ …

ห้องนี้เป็นห้องขนาด 2 Bedrooms 61 ตารางเมตร

เป็นไงครับ เปิดประตูเข้าไปเจอห้องนั่งเล่น … ดูดีกว่าห้องเมื่อครู่ “มาก”

ความกว้างของห้อง 4.1 เมตร พอที่จะพอที่จะให้เราวางทุกอย่างที่ต้องการ ห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว ห้องครัว เป็นแบบ Open Plan – All in one

มุมรับประทานอาหาร

ชุดครัวตัว L

ห้องแบบ 2 Bedrooms พวกนี้จะได้เครื่องครัวครบเลย มีเตา 4 หัวในแบบ Hot Plate

ซิงก์ดีขึ้นมาก เป็นหลุมลึกและมีที่วางจานขนาดใหญ่ จัดวางในรูปตัว L ทำให้ทำครัวง่ายขึ้นด้วย

Hood ของ Hale

มองย้อนจากครัวไปโต๊ะรับประทานอาหารและห้องรับแขก บอกได้ว่าพื้นที่เหลือเฟือ

กระจกเป็นบานเลื่อนแบบนี้ เปิดจากบานกลางเลื่อนออกไปซ้ายขวา สองข้างเป็นบาน Fix

ได้ระเบียงริมน้ำเต็มๆ  ยาว 4 เมตร กว้าง 1 เมตร

ห้องนอนเล็กใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องน้ำกลาง

อุปกรณ์เหมือนห้องน้ำเมื่อครู่เด๊ะๆ

ห้องนอนเล็กก็เหมือนกับห้องนอนเมื่อครู่เด๊ะๆ

ภาพนี้ผมนั่งที่โซฟาให้ดูทีวี … ไกลไปนิดปะครับ สงสัยจะต้องใช้จอขนาด 52 – 60 นิ้ว

พื้นห้องเหมือนกัน

ห้องนอนใหญ่สวยงามจัดไป

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ เหมือนเดิม จบแล้วครับผม

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 04/11/2012

  • ห้อง 1 Bedroom ชั้น 9 อาคาร A ขนาด 25.44 ตารางเมตร วิวสระน้ำ ราคา 1.298 ล้านบาท หรือ 51,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ห้อง 1 Bedroom ชั้น 7 อาคาร D ขนาด 30.53 ตารางเมตร วิวเจ้าพระยา ราคา 1.604 ล้านบาท หรือ 52,500 บาทต่อตารางเมตร
  • ห้อง 2 Bedrooms ชั้น 7 อาคาร D ขนาด 61.26 ตารางเมตร วิวเจ้าพระยา ราคา 3.345 ล้านบาท หรือ 54,600 บาทต่อตารางเมตร
  • ห้อง Riverfront ยังไม่เปิดขาย

  • ห้องเปล่า ครัว แอร์
  • จอง 5,000 – 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 – 40,000 บาท
  • ค่ากองทุน 300 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

Manor สนามบินน้ำเป็นคอนโดมิเนียมชั้นประหยัดโครงการแรกของ Major Development และเห็นได้ชัดว่าทางเมเจอร์ก็ทำการบ้านมาเยอะ แทนที่จะทำให้โครงการดู Modern เป็นเหลี่ยมๆเหมือนโครงการอื่น ก็ใส่กลิ่นอายของพวก Classic เข้าไปบ้าง ทำให้ดูมีระดับขึ้นในราคาที่ยังจัดว่าเป็นคอนโดมิเนียมรุ่นประหยัด ชูเป็นความแตกต่างเมื่อเทียบกับโครงการของแบรนด์ใหญ่เจ้าอื่นอย่าง LPN และศุภาลัยที่ครองตลาดนี้

ทำเลของแมเนอร์สนามบินน้ำไม่ได้อยู่ในเมือง ไม่ได้เป็นที่ดินสุด Hot หรือไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินถึง แต่แมเนอร์เลือกที่จะอยู่รอบนอกออกไปชานเมืองอีกหน่อย บนถนนสายรองอย่างถนนสนามบินน้ำ ใกล้สถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์ และที่สำคัญคือติดแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นจุดขายหลักของโครงการนี้

วิวของแมเนอร์จึงเป็นจุดเด่นที่สุด รับรองว่ามองอย่างไรก็โล่งไม่มีอาคารใดๆบัง เว้นเสียแต่ว่าบางยูนิตของตึกหน้าจะมองไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาสักเท่าไรหากไม่อยู่สูงเพียงพอ และวิวที่สวยที่สุดของโครงการนี้ก็คือวิวพระอาทิตย์ตกดินในตึกฝั่งใต้ ทิศตะวันตก ซึ่งในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยแสงแดดและความร้อนจากพระอาทิตย์

ดังนั้นคำแนะนำก็คือ ถ้าใครซื้อเพื่ออยู่จริงจัง สมควรเลือกตึกฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะดีกว่า หากต้องการชมพระอาทิตย์ตกก็สามารถเดินลงมาที่ชั้น 6 ได้ ทางโครงการมีส่วนกลางเป็นจุดชมวิวเตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครต้องการเลือกซื้อเป็นกึ่งๆคอนโดมิเนียมตากอากาศ อยากมีบ้านพักสงบๆริมเจ้าพระยา ผมว่าเลือกฝั่งตะวันตกก็ไม่เลว ทั้งนี้ห้อง Riverfront ยังไม่เปิดขาย หากเปิดขายแล้วก็คงจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับคนที่ชอบวิวแม่น้ำ ชอบดูพระอาทิตย์ตก เส้นขอบฟ้าสวยๆไม่มีเมืองมาบังเหมือนกับแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ กับราคาที่ค่อนข้างประหยัด

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ทำได้ค่อนข้างสะดวก อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าแถวนี้รถติดมาก เส้นรัตนาธิเบศร์นั้นสาหัสเหลือหลาย แต่ถนนสนามบินน้ำมีจุดดีก็คือสามารถเลือกได้ว่าจะวิ่งไปถนนเลี่ยงเมืองนนท์หรือถนนติวานนท์ก็ได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถเลี่ยงรถติดได้พอสมควร ซึ่งทางเราก็แนะนำว่าถ้าหากจะเลือกโครงการนี้ก็สมควรจะมีรถขับ ยกเว้นว่าทำงานอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์นะครับ

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์นั้นปัจจุบัน (2555) จัดว่ายังไม่สมบูรณ์ อย่างน้อยต้องรอให้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดใช้บริการแล้วค่อยนั่งรถสาธารณะไปยังรถไฟฟ้าที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ก็จะสามารถเดินทางได้โอเค ทั้งนี้ต้องดูว่าโครงการแมเนอร์ที่กำลังจะเสร็จในปี 2558 ตามที่ทางเมเจอร์ได้ประกาศไว้ ณ เวลาดังเกล่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้วหรือยัง ส่วนการหาของกินของใช้รอบๆโครงการนั้น ทาง Major ก็ได้คิดมาก่อนหน้าแล้ว ที่จะมีตึกเล็กๆเป็นพวกร้านค้าต่างๆตั้งอยู่หน้าโครงการ ให้ชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้สบายขึ้น

สาธารณูปโภคจัดว่าใหญ่ยักษ์อลังการ แม้ว่าจำนวนยูนิตจะมากถึง 1,848 ยูนิต แต่สาธารณูปโภคก็ได้ Double เป็นสองเท่าในเกือบทุกส่วน ทั้งที่ชั้น 6 และบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีสาธาณูปโภคแปลกๆเติมเข้ามาด้วย อาทิเช่น สนามบาส, โต๊ะปิงปอง, โต๊ะสนุกเกอร์, จุดชมพระอาทิตย์ตก, ห้องเด็กเล็ก ฯลฯ ทำให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่จะเป็นคอนโดกึ่งตากอากาศมากขึ้น

ความหนาแน่นของโครงการนี้จัดว่ามากพอสมควร ที่อัตราส่วนลิฟท์ประมาณ 1:150 แต่ยังดีที่มีลิฟท์โดยสารให้ 3 ตัวทุกตึกและมีลิฟท์บริการแยกต่างหาก ซึ่งความหนาแน่นต่อชั้นของตึก A,B จะมากกว่า อยู่ที่สูงสุดราวๆ 24 ยูนิตต่อชั้น ส่วนตึก C,D นั้นความหนาแน่นจะน้อยกว่า สูงสุดอยู่ที่ 13 ยูนิตต่อชั้น แต่ตึก C,D มีทั้งหมด 35 ชั้น อาจทำให้รอลิฟท์นานกว่า และเดินไกลจากที่จอดรถมากกว่าเช่นกัน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

กรณีที่ 1 คิดแบบคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัย

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 52,500 บาทต่อตารางเมตร, 04/11/2012

  • ทำเล 7.5/10 – ถนนสนามบินน้ำ ชานเมือง ริมเจ้าพระยา
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – รถติดแต่มีทางเลี่ยง
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – เพิ่มเงินอีกนิดได้โครงการใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง
  • วัสดุ 8/10 – ดูดีกว่าคอนโดชั้นประหยัดทั่วไป
  • แบบ 8/10 – แบบห้อง 2 Bedrooms ดูดีกว่า 1 Bedroom พอควร
  • สาธารณูปโภค 9.5/10 – ใหญ่มาก มีเยอะ ยูนิตเยอะ แบ่งๆกันใช้

  • ECONOMY CLASS
  • 7.86 / 10.00

กรณีที่ 2 คิดแบบคอนโดมิเนียมตากอากาศ

ทำเลและการเดินทาง 25%, ทัศนียภาพและธรรมชาติ 30%, แบบห้องพัก 10%, วัสดุ 10%, ความหนาแน่น 10% และสาธารณูปโภค 15%

เทียบกับราคา 52,500 บาทต่อตารางเมตร, 04/11/2012

  • ทำเลและการเดินทาง 8.5/10 – แค่นนทบุรีใกล้ๆ ไปสะดวก
  • ทัศนียภาพและธรรมชาติ 7.75/10 – เจ้าพระยาสวยทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นโค้งน้ำ สะพานพระนั่งเกล้าและพระอาทิตย์ตกดิน
  • แบบห้องพัก 8/10 – แบบห้อง 2 Bedrooms ดูดีกว่า 1 Bedroom พอควร ยังไม่เห็นแบบห้อง Riverfront
  • วัสดุ 8/10 – ดูดีกว่าคอนโดชั้นประหยัดทั่วไป
  • ความหนาแน่น 6.5/10 – เกือบ 2 พันยูนิต
  • สาธารณูปโภค 9.5/10 – ใหญ่มาก มีเยอะ ยูนิตเยอะ แบ่งๆกันใช้

  • ECONOMY CLASS
  • 8.13 / 10.00

BOTTOM LINE

Manor สนามบินน้ำนั้นเหมาะกับเป็นคอนโดมิเนียมทั้งอยู่อาศัยและตากอากาศ เหมาะสำหรับคนชอบแม่น้ำและริมเจ้าพระยา กับบรรยากาศธรรมชาติใกล้ๆกรุงเทพมหานคร ในงบประมาณ 1 – 3 ล้านกว่าบาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ