ในไตรมาส 4 ของปี 2556 นี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัวลดความร้อนแรงลง เนื่องจากเริ่มมีปัจจัยลบเข้ามารุมเร้า ทั้งสภาพเศรษฐกิจไม่ได้บูมเหมือนช่วงหลังน้ำท่วม กำลังซื้อลดลง และความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังระอุ ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ยิ่งเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดในช่วงเวลาที่เหลือน้อยลงเพื่อให้ได้เป้าหมายตามยอดขายที่ตั้งเอาไว้
บรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างขนโครงการใหม่ออกมาประชันโฉมพร้อมด้วยแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อท่ามกลางปัจจัยลบหลากหลายที่ยังรุมเร้า ทั้งเรื่องแบงก์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อภาระหนี้สินผู้ซื้อบ้าน กำลังซื้อ ค่าครองชีพ ปัญหาการเมือง โดยประเด็นที่ 3 สมาคมแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์เป็นห่วงมากที่สุด ณเวลานี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่แบงก์เข้มกับการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย จากปัญหาหนี้สินของตัวผู้บริโภคเอง
ทั้งนี้ มีหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงินมีความกังวลว่า คอนโดมิเนียมกำลังจะอยู่ในภาวะล้นตลาด (over supply) แต่ผู้ประกอบการเกือบทุกรายเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่เกิดปัญหาล้นตลาดแน่นอน แต่ยอมรับว่าบางทำเลที่แข่งขันกันสูง มีอัตราการขายที่ช้าลง ทำให้มีสินค้าเหลือค้างสต็อกบ้าง แต่เป็นตัวเลขที่ไม่น่าห่วงนัก เพราะสุดท้ายแล้วผู้ประกอบการก็จะมีวิธีขายออกไป จึงทำให้ตลาดโดยรวมไม่น่าจะเกิดปัญหาล้นตลาด
ที่มาบางส่วน: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์และผู้จัดการ
การเมืองร้อนแรง กดดันยอดซื้ออสังหาฯ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การเมืองในกรุงเทพมหานครนั้นร้อนระอุไปด้วยผู้คนนับหมื่นนับแสน ที่ออกมาเดินขบวนแสดงเจตนารมณ์ของตัวเอง ไม่เพียงแต่นักการเมือง ขั้วการเมืองเท่านั้น แต่รวมไปถึงสถาบันต่างๆอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย
พื้นที่ที่เป็นโซนสำคัญๆในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างอโศก สุขุมวิท รัชดา พระราม 9 ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบดังกล่าวชั่วคราวในเรื่องของการเข้าถึง แต่ผลกระทบระยะที่ยาวกว่าคงจะเป็นเรื่องของอารมณ์ของความไม่แน่นอนจากปัจจัยทางด้านการเมือง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการชลอตัวของผู้บริโภค
อสังหาฯลุ้นหนัก ภาระหนี้สินท่วม อาจโอนไม่ได้ตามเป้า
อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าเป็นห่วงเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมที่ขายไปแล้ว และมีกำหนดต้องโอนในไตรมาสนี้มากที่สุด อาจจะโอนไม่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากการที่ผู้ซื้อบ้านมีภาระหนี้สินมากยังเป็นปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงการที่แบงก์เริ่มไม่เร่งรีบกับการปล่อยสินเชื่อบ้านมากนัก เพราะแบงก์ค่ายใหญ่ๆ ปล่อยสินเชื่อบ้านได้ตามเป้าหมายแล้ว
ขณะที่การขายที่อยู่อาศัยใหม่ก็ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการหลายค่ายต้องพิจารณาปรับลดเป้าหมายยอดขายลงในรอบหลายปี โดยในส่วนของศุภาลัยเองตั้งแต่ต้นปีตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาทต้องประเมินสิ้นเดือน ต.ค.นี้อีกครั้งว่าจะคงเป้าหมายเดิม หรือต้องปรับเป้าลดเหลือ 2.4 หมื่นบาทหรือไม่สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 4 ปีนี้เจออุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เหนื่อยกว่าทุกปีจึงคาดว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้เติบโตได้ไม่เกิน 5% โดยบ้านเดี่ยวยังชะลอตัวต่อเนื่องส่วนทาวน์เฮาส์มีการเติบโตที่ดี
ธอส. อัดฉีดดอกเบี้ยคงที่ 1% ในปีแรก
นางอังคณาปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เปิดเผยว่า ธอส.ร่วมงาน “มันนี่ เอ็กซ์โปเชียงใหม่ ครั้งที่ 8” และเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี ได้นำสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยคงที่ 1% ต่อปี นาน 1 ปีแรก ปีที่ 2 ดอกเบี้ยคงที่ 5.125% ต่อปี และปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR -1.00%ต่อปี ส่วนลูกค้ารายย่อยทั่วไป คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกฯ คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR ธอส.เท่ากับ 7.125%)พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้และค่าประเมินราคาหลักประกัน เฉพาะลูกค้าที่จองสิทธิ์ภายในงานเท่านั้น โดยต้องยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายใน30 ธันวาคม 2556
ด้านเงินฝากชูเงินฝาก “ออมทรัพย์พิเศษ พลัส พลัส” ทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนสุดคุ้ม ด้วยอัตราดอกเบี้ยจูงใจ 3.25% ต่อปี โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยให้
เท่ากับเงินฝากออมทรัพย์พิเศษบวกเพิ่มให้อีก 1.25% ต่อปี เป็นระยะเวลานานถึง 8 เดือน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษเท่ากับ 2.00% ต่อปีบวกเพิ่มอีก 1.25% ต่อปี เท่ากับ3.25%ต่อปี) เงื่อนไขเพียงเปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท ฝากครบ8 เดือน นับตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีโดยไม่มีการถอนเงินต้นหรือดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 8 เดือน ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด สำหรับดอกเบี้ยรับไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี รับดอกเบี้ยเต็มๆไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่มีการฝากเงินเป็นไปตามเงื่อนไข”โครงการฉลองครบรอบ 60 ปี ลุ้นรับทองคำกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธอส.” สามารถรับสิทธิลุ้นทองคำหนัก 1 บาทอีกด้วย ซึ่งจะมีการจับรางวัลครั้งที่2 ในเดือนมกราคม 2557
ต่างจังหวัดร้อนไป ภาพรวมคอนโดเปิดใหม่ทะลุ 7 หมื่นยูนิต
สำหรับตลาดต่างจังหวัดที่ก่อนหน้านี้ร้อนแรงมากในเกือบทุกภูมิภาค เวลานี้ก็ต้องวิเคราะห์สถานกาณ์ให้ดีโดยจังหวัดที่ยังมีโอกาสในการเติบโตได้จะต้องมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจท้องถิ่นที่พึ่งพาธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว เช่น จ.ชลบุรีแม้อุปทานในตลาดจะมีจำนวนมาก แต่ยังเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ทั้งจากอุตสาหกรรมและท่องเที่ยว ส่วนจังหวัดที่มีเศรษฐกิจขาเดียว หรือพึ่งพารายได้อย่างเดียวโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมจะมีความเสี่ยงสูงสุด
ขณะที่ ธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การที่กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ทำให้คอนโดมิเนียมติดริมถนน ติดสถานีรถไฟฟ้าที่มีราคาแพงชะลอตัวเล็กน้อย แต่กลุ่มคอนโดมิเนียมล้านต้นๆ ยังไปได้ดี เช่น โครงการที่อยู่ในซอยย่อยของทำเลใจกลางเมืองได้รับความสนใจมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการยังมีอยู่ แต่ที่ตลาดชะลอเพราะราคาค่อนข้างสูง
ทางด้านภาพรวมการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ปีนี้จะเป็นปีที่ร้อนแรงมากเป็นประวัติศาสตร์ เพราะคาดการณ์ว่าทั้งปีจะมีคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่แตะ7-7.5 หมื่นยูนิตเติบโตจากปีที่แล้วมากถึง 15% ส่วน 9 เดือนแรก คอนโดมิเนียมใหม่เปิดตัวแล้ว 6.1 หมื่นยูนิต
คาดหวังงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 29 อาจช่วยกระตุ้นตลาด
พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า จากปัจจัยลบดังกล่าว ทำให้คาดหวังว่างานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่14-17 พ.ย. 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจในช่วงโค้งท้ายปีนี้ได้ดีขึ้นเพราะภายในงานจะมีแคมเปญแรงๆ เช่น อยู่ฟรี ทั้งส่วนลด ข้อเสนอพิเศษ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำซึ่งการที่ บรรยากาศการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ไม่คึกคัก ไม่ใช่ เพราะความต้องการไม่มี แต่เป็นปัญหาจากทั้งกำลังซื้อและปัญหาหนี้สิน ซึ่งหากมีแคมเปญที่สามารถช่วยปลดล็อกในเรื่องนี้ได้เชื่อว่าการซื้อขายจะยังเดินหน้ารวมถึงจุดขายในเรื่องบ้านต้นทุนเดิมด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล 8 เดือนแรก มีจำนวน106,555 แปลง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7% โดยอาคารชุด โอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดจำนวน 41,935 หน่วย เพิ่มขึ้น 1% บ้านเดี่ยว19,761 หน่วย เพิ่มขึ้น 14% และทาวน์เฮาส์จำนวน 32,910 หน่วย เพิ่มขึ้น 14%
แม้จะมีปัจจัยลบขวางอยู่มากมายและคงต้องออกแรงอีกเยอะ แต่เชื่อเถอะว่าตลาดอสังหาฯ ช่วงเข้าโค้งสุดท้ายจะดุเด็ดเผ็ดร้อนแน่นอน
ที่มาบางส่วน: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์และผู้จัดการ / รวบรวมและเรียบเรียงโดย Think of Living