ภายหลังจากที่รัฐบาลมีความชัดเจนในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงหมอชิตคูคต และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ดูเหมือนจะเพิ่มความร้อนแรงให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมมีความคึกคักขึ้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทำให้หลายพื้นที่ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ได้กลายเป็นทำเลทองของนักลงทุน ดังเช่นทำเล พหลโยธินสะพานใหม่ จุดตัดบริเวณสถานีหลักสี่ ที่ตัดกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่เรียกกันว่า Interchange Zone ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

ปัจจัยที่สนับสนุนให้ทำเลดังกล่าวขึ้นชั้นเป็นทำเลทองที่น่าจับตามองแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯนั้นมีดังนี้

อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากถึง 3 สาย คือฝั่งถนนวิภาวดี มีรถไฟฟ้าสายสีแดง (เส้นทางบางซื่อรังสิต) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ฝั่งพหลโยธินมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (ส่วนต่อขยายเส้นทางหมอชิตสะพานใหม่คูคต) ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเช่นกัน ส่วนอีกฝั่งคือถนนรามอินทรา มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (เส้นศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะมีนบุรี)

โดยโครงการรถไฟฟ้าได้ช่วยการกระจายของทำเลคอนโดมิเนียมแทนการกระจุกตัวในเมือง ซึ่งประชาชนสามารถซื้อคอนโดมิเนียมที่ถูกกว่าหากตั้งอยู่ห่างออกไป 3-4 สถานีโดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวถือเป็นสายที่มีศักยภาพมากที่สุดที่เดินทางตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองอีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีต่างๆได้ง่าย ว่ากันว่าเมื่อรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายสร้างเสร็จและเปิดใช้บริการ บริเวณจุดตัดวงเวียนหลักสี่และพื้นที่ละแวกนั้นจะเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

ใกล้แหล่งงานสถานราชการสำคัญๆ เป็นพื้นที่ที่มีสถานที่สำคัญๆ อยู่รายล้อม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเป็นทำเลที่มีสถานศึกษาสำคัญ ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย และที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญอีกประการ

ตอบทุกโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง เพราะเป็นทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก จึงอุดมไปด้วยแหล่งกิน แหล่ง
ช้อปปิ้ง ทั้งร้านอาหาร มินิมาร์ท ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และห้างสรรพสินค้าสำคัญอย่าง Big Cสะพานใหม่  Tesco lotus หลักสี่ Central Plaza รามอินทรา

ตอกย้ำความสำเร็จแอสเซทไวส์ลุยเปิดคอนโดซีรีส์ Modiz

หากพิจารณาพื้นที่ทั้งโซนพหลฯสะพานใหม่ ย่านวงเวียนหลักสี่ กล่าวได้ว่าเป็นที่ตั้งของเขตที่อยู่อาศัยหนาแน่น
พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นปัจจัยที่ส่งให้โซนนี้เป็นอีกโซนคอนโดมิเนียมที่มีผู้ประกอบการพัฒนาโครงการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็รวมถึงเจ้าตลาดอย่าง บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง ล่าสุดได้ส่งคอนโดฯ ซีรีส์ “Modiz” บุกทำเลเด่นติดรถไฟฟ้าสถานีวัดพระศรีมหาธาตุหรือสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ตอกย้ำความสำเร็จภายใต้ชื่อโครงการโมดิซ อินเตอร์เชนจ์” (Modiz Interchange) เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูง ที่พัฒนาต่อจาก โมดิซ สเตชั่น และ Wynn Condo พหลโยธิน 52

โมดิซ อินเตอร์เชนจ์ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 217 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.7-63.22 ตร.. ประกอบด้วย

  • 1 Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ใช้สอย 22.70-24.37 ตารางเมตร (ตร..) จำนวน 111 ยูนิต
  • 1 Bedroom Extra (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ใช้สอย 28.04-28.29 ตร.. จำนวน 90 ยูนิต
  • 1 Bedroom Plus (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์) พื้นที่ใช้สอย 38.0-42.94 ตร.. จำนวน 15 ยูนิต
  • Duplex (2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) พื้นที่ใช้สอย 63.22 ตร.. จำนวน 1 ยูนิต

โครงการโมดิซ อินเตอร์เชนจ์เป็นโครงการเดียวใน Interchange Zone ที่ได้รับ EIA Approved และเริ่มการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อย จุดเด่นคือไม่ต้องเดินไกลกว่าจะถึงสถานี เดินทางสะดวกกว่าเพราะมีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย คือ สายสีเขียวเข้มกับสายสีชมพู อยู่หน้าอาคารพักอาศัย ทำให้เดินทางสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและคล่องตัว นอกจากนี้ โครงการยังล้อมรอบด้วยถนนหลักหลายเส้น สามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองและออกนอกเมืองได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรามอินทรา และถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้สถานที่สำคัญ ทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ

นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีจุดเด่นที่ครบครันด้วยเทคโนโลยีตอบสนองไลฟ์สไตล์ วัสดุระดับพรีเมียม และการดูแลความปลอดภัย ทั้ง Bluetooth Sound System, Digital Door Lock, และ Key Card Access สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องแบบ Fully-Furnished พร้อมให้ลูกบ้านเข้าอยู่ทันที อยู่เองแสนสะดวก ปล่อยเช่าไร้กังวล (ไม่ต้องกังวล สำหรับ Additional Budget ในการตกแต่งห้องเพิ่มเพื่อผู้เช่า) ส่วนกลางที่ครบครัน ทั้ง Fitness วิวสวย สระว่ายน้ำ Co-Working Space และ Duplex Lobby ด้วยจุดเด่นต่างๆ ทำให้ที่นี่โมดิซ อินเตอร์เชนจ์เป็นที่สุดของการอยู่อาศัยบนสุดยอดทำเล คอนโดหนึ่งเดียวที่ติดสถานีรถไฟฟ้า 2 สาย ราคาที่จับต้องได้ ไม่สูงนัก

ด้วยเพราะราคาขายที่ไม่สูง และเชื่อว่าทำเลนี้ความต้องการจะสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคตและหากพิจารณาถึงกลุ่มผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ จะเป็นกลุ่มคนท้องถิ่นที่คุ้นเคยอาศัยในโซนนี้ในรัศมี 10-15 กิโลเมตร และยังมีกลุ่ม Blue Collars คนทำงานอิสระหรือทำงานที่ไม่ได้ทำในออฟฟิศ และกลุ่ม White Collars หรือกลุ่มคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานในออฟฟิศ ผู้บริหาร เจ้าของกิจการ และในอนาคตเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย

….ว่ากันว่าทำเลนี้ จะเป็นทำเลที่แข็งแกร่งมีผู้อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม รองรับทั้งที่เป็นกลุ่มคนโสด กลุ่มคนเพิ่งแต่งงานสร้างครอบครัวมีลูก 1-2 คน