แสนสิริเปิดคอนโดมิเนียม “HQ Thonglor” เพื่อให้สื่อมวลชนเยี่ยมชมหลังสร้างเสร็จพร้อมอยู่ โดยปิดการขายตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ชี้ “ทองหล่อ” ทำเลสุดท็อปกรุงเทพฯ ชั้นใน พบดีมานด์คอนโดมิเนียมสูงต่อเนื่อง ทั้งตลาดซื้อขายและตลาดเช่า ขณะที่ซัพพลายต์มีน้อย เหตุที่ดินทำเลดีสำหรับพัฒนาคอนโดฯ หายากมากขึ้นในปัจจุบัน เผยทองหล่อเป็นศูนย์กลางรวมไลฟ์สไตล์ย่านสุขุมวิท ต่างชาตินิยมเช่า โดยเฉพาะชาวอังกฤษและญี่ปุ่น ดันคอนโดฯ รีเซล ราคาสูงขึ้นถึง 12% ขณะที่ราคาที่ดินพุ่งแตะถึง 1-1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ส่งผล “เอชคิว ทองหล่อ(HQ Thonglor)” ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Jewel of Thonglor’ ตอบรับดี ปิดการขายทันทีในช่วงเปิดพรีเซลล์ ลูกค้าทยอยโอนต่อเนื่อง คาดสิ้นปีนี้โอนได้กว่า 70%
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทำเลทองหล่อ หรือซอย สุขุมวิท 55 เป็นทำเลยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆของกรุงเทพฯชั้นใน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ คมนาคม รวมถึงเป็นแหล่งรวมการใช้ชีวิตของคนเมือง รายล้อมด้วยร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร สปา สถานเสริมความงาม และ Community Mall ที่ตอบสนองต่อกการใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ตอบไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ทำเลดังกล่าวมีเสน่ห์ในทุกพื้นที่ที่ต่างกันไป จึงทำให้ทำเลเป็นที่ต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวอังกฤษและชาวญี่ปุ่น
“ในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆในย่านทองหล่อ เนื่องจากหาทำเลที่ดีในการพัฒนาโครงการยากมากขึ้น ดังนั้นทำเลนี้จึงมี Supply สูงมาก ทั้งตลาดซื้อขายและตลาดเช่า ทำให้ราคาซื้อขายคอนโดมิเนียมสูงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาซื้อขายคอนโดมือสองเฉลี่ย 160,000-170,000 บาทต่อตารางเมตร จากปี 2555 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 140,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ราคาที่ดินได้เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 1-1.5 ล้านบาทต่อตารางวาและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากในอนาคตมีโครงการใหม่เปิดขึ้นคาดว่าราคาเสนอขายไม่น่าต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรแน่นอน”
นายอุทัย กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแสนสิริได้เล็งเห็นศักยภาพของทำเลทองหล่อ และได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ชื่อ “เอชคิว ทองหล่อ (HQ Thonglor)” ขึ้น ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 55 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาก จนสามารถปิดการขายหมดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงที่เปิดพรีเซลล์ และทยอยส่งมอบห้องพักอาศัยให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถส่งมอบห้องห้องพักอาศัยให้ลูกค้าได้ถึงกว่า 70% หรือมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท
“เอชคิว ทองหล่อ ถือว่าเป็นโครงการที่แสนสิริประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดเด่นโครงการซึ่งติดริมถนนทองหล่อ ใกล้บีทีเอสสถานีทองหล่อ และเชื่อมต่อการคมนาคมได้อย่างกว้างขวาง ทั้งเชื่อมต่อถนนสุขุมวิท สามารถทะลุไปยังซอยข้างเคียง ทั้งสุขุมวิท 49, 51 ,53 และ 63 (เอกมัย) และยังเชื่อมต่อไปเส้นเพชรบุรีตัดใหม่ได้ อีกด้วย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ทั้งมาร์เก็ต เพลส และเจ อเวนิว จึงทำให้สะดวกสบายและตอบสนองการใช้ชีวิตในเมืองอย่างรอบด้าน ไม่เพียงเท่านี้ โครงการยังมีความเป็นส่วนตัว ด้วยการดีไซน์ที่มีจำนวนห้องอาศัยเพียง 197 ยูนิต และยังให้โล่งโปร่งสบาย เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง รวมถึงฟังก์ชั่นห้องก็ออกแบบได้อย่างลงตัว จึงดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อเพื่อลงทุนถึง 70% และอยู่เอง 30% ซึ่งลูกค้าเน้นซื้อไปเพื่อลงทุนปล่อยเช่าเพราะให้ผลตอบแทนที่สูงและคุ้มค่า โดยปัจจุบันราคาปล่อยเช่าห้องพักอยู่ที่ 800 – 1,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว” นายอุทัย กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ “เอชคิว ทองหล่อ (HQ Thonglor)” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-3-58 ไร่ บนซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เป็นอาคารประเภท High Rise สูง 36 ชั้น ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Jewel of Thonglor’ เปรียบเสมือนอัญมณีที่ทรงคุณค่าย่านใจกลางทองหล่อ ด้านสถาปัตยกรรมยึดหลักดีไซน์ Minimalistic ที่เน้นความเรียบง่ายของวัสดุแต่ซ่อนฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนเอาไว้ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานและความสวยงาม เพียบพร้อมด้วย facilities ครบครัน บนพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดกว่า 2,800 ตร.ม. ประกอบด้วย Lobby, Skywalk, ที่จอดรถ, Fitness, สระว่ายน้ำ Lap pool ยาว 25 เมตร พร้อมสระเด็ก, Jacuzzie, ห้อง Stream, สวนส่วนกลาง และ wifi internet อีกทั้งมีบริการรถรับ-ส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งสิ้น 197 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 40.50 – 262.50 ตร.ม. ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องนอน Duplex, 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ, 2 ห้องนอน Duplex และเพนท์เฮ้าส์