ncGroup_131328-side

นาย สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มีความเชื่อมั่นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังขยายตัวได้อีกส่งผลมาจาก ปี 2558 มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ภาพเศรษฐกิจไทยดีขึ้น รวมถึงแนวโน้มธุรกิจผลประกอบการ มีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่ง เอ็น.ซี. เดินตามแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทุกปี  และเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาสินค้าแนวราบออกสู่ตลาด ในปี 2559   มองปัจจัยบวกมาจากการลงทุนภาครัฐ ด้านสาธารณูปโภคการขนส่งเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ  และส่วนต่อขยาย สายสีแดง และสีเขียว ที่ทำให้คมนาคมของโซนเหนือ มีความพร้อม และมีศักยภาพทำเลสูง เหมาะกับการเลือกเป็นทำเลเพื่ออยู่อาศัย   ปีนี้ เอ็น.ซี. มีการเติบโตเพิ่มขึ้น  อย่างมีพัฒนาการด้านโครงการ และควบคู่กับ การโตขึ้นของฐานลูกค้า ที่ต่อยอดแบรนด์ ให้แข็งแกร่ง ด้วยความพร้อมด้านประสบการณ์ ทีมงาน พัฒนาสินค้าและบริการหลังการเข้าอยู่อาศัย อย่างดี เข้าสู่ปีที่ 22 ของการพัฒนาโครงการ 

สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ ที่เราจะดำเนินมุ่งสู่ การเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Growth  ซึ่งแผนงานการรองรับเพื่อสร้างการเติบโต Brand Value ที่ลูกค้าเชื่อมั่น และพึงพอใจสูงสุด ถือเป็นค่านิยมหลักแบรนด์ เอ็น.ซี ที่ดี เพื่อปฏิบัติ และยึดมั่น หล่อหลอม ปลูกฝังในองค์กร และทีมงาน เพื่อมุ่งเน้นด้านคุณภาพสินค้า และบริการให้กับลูกค้า ผนวกกับ กลยุทธ์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าตอบรับเทรนด์ที่อยู่อาศัยด้าน Smart Innovation  สร้างความโดดเด่นผ่านแบรนด์ Projects ทั้งด้านดีไซน์ ผลิตภัณฑ์ Life Style เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการใหม่

  เอ็น.ซี.ได้มีการพัฒนา ศึกษาและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัย ใช้พัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการเลือกนวัตกรรมที่เหมาะสม และดีที่สุดสำหรับลูกบ้านทุกเพศ ทุกวัย การออกแบบบ้านเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานและการเตรียมที่อยู่อาศัยให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับทุกช่วงวัยของชีวิต มาตอบโจทย์บ้านสำหรับผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันและอนาคต 

นายสมเชาว์กล่าวต่อว่าปีนี้เรามีแผนการเปิดโครงการใหม่แนวราบเพิ่ม3 โครงการ 3 ทำเล  มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนที่เป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคา 5-15 ล้านบาท ในทำเลโซนเหนือ   ที่เรายังมีฐานลูกค้า ที่มีความต้องการบ้านหรูในสนามกอล์ ของ เอ็น.ซี. สร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ และมูลค่าเพิ่มให้กับ โครงการใหม่ พร้อม Concept ใหม่  ตอบสนองตลาดของกลุ่มผู้ซื้อบ้าน โดยวางเป้าหมาย ยอดขาย ปี 2559 ที่   2,600 ล้านบาท และ รับรู้รายได้  2,000 ล้านบาท  เรามีความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังมีความสดใสของบ้านแนวราบ 

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม  รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวถึง รายละเอียดโครงการใหม่ ประเดิมต้นปี  เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้อยู่อาศัย ปี 2559 โครงการนี้มีแนวคิด มาจากความเป็นกรีน ของธรรมชาติ สนามกอล์ฟธัญญะ เสมือนปอดขนาดใหญ่ กว่า 400 ไร่ มีความโดดเด่น ด้านทำเลที่ตั้ง บวกกับธรรมชาติขนาดใหญ่สีเขียว ซึ่ง เอ็น.ซี. นำแนวคิดการพัฒนาสินค้าผนวกกับเรื่องการดูแล สุขภาพ ทุกวัย ในครอบครัวไทย  Smart Innovation  : System and Design ที่นำการออกแบบ และระบบพร้อมเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน Eco Home   ,  Care Home  ส่งต่อนวัตกรรมความสุขของการอยู่อาศัยปี  2559    เพื่อความเป็น แบรนด์บ้านหรูในสนามกอล์ฟ  พร้อมนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยเอาไว้ด้วยกัน โดยร่วมมือกับคู่ค้าพันธมิตรใหญ่ อย่าง SCG และ Panasonic ที่เชื่อมโยงการออกแบบมาใช้กับบ้านโครงการใหม่  NC On Green  ให้เป็นทางเลือกใหม่ สำหรับครอบครัวไทยที่ใส่ใจด้านสุขภาพ และชีวิตที่ดีกว่าที่เลือกได้  ด้วยระบบบ้านเย็นให้บ้านคุณได้มีการระบายอากาศ ให้สดชื่นในทุกวัน ระบายความร้อนออกจากตัว

บ้านแบบอัตโนมัติควบคุมระบบด้วย Active AIRflow  นำระบบบ้านเย็นของ SCG  อุปกรณ์ที่จะประกอบติดกับตัวบ้าน ทำหน้าที่ผลักดันสร้างสมดุลย์อุณหภูมิ อากาศร้อนภายในตัวบ้านและดึงขึ้นไปชั้นบน และถ่ายเทออกไปทางโถงหลังคา ช่วยให้การหมุนเวียนอากาศเร็วขึ้น ดีขึ้น ระบบนี้จะติดตั้งพร้อมโซล่าร์เซลล์ขนาดเล็กเพื่อให้พลังงานดูดพัดลมโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อีกทั้งสุขภันฑ์ที่ตอบรับผู้สูงอายุ ซึ่งนำ SCG Eldercare Solution อาทิ ห้องน้ำรองรับผู้สูงวัย คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้สอย ,ระบบพื้นลดแรงกระแทก นอกจากนี้ ยังออกแบบบริเวณรอบบ้านเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ สามารถเดินได้ทั่วบริเวณบ้าน อย่างปลอดภัย อีกทั้ง เพิ่มด้าน Security ชั้นเยี่ยมระบบความปลอดภัย แบบเหนือชั้น Triple Security และ VDO Doorphone  พร้อมกล้องวงจรปิดรอบโครงการ ของแบรนด์ชั้นนำ  Panasonic รวมกันไว้ในโครงการใหม่ล่าสุด

NC On Green บ้านหรูริมสนามกอล์ฟ มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท บนเนื้อที่ 32 ไร่  ราคาเริ่มต้น  5 -15 ล้านบาท  จำนวน 109 ยูนิต ด้วยรูปลักษณ์แบบบ้านที่ทันสมัย รวบรวมเสน่ห์ทุกจุด มาไว้ ณ ที่แห่งนี้  รหัสสีเขียวแห่งความสุข  Charming Living ความเหนือระดับแห่งการใช้ชีวิต กับ โครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ  NC On Green เป็นโครงการ Luxury Brand ด้วย 3 แบบบ้าน   ลักษ์       ( LUXX ) ” ให้คุณได้สัมผัสคฤหาสน์แนวใหม่บนพื้นที่ใช้สอย 410 ตร.. พร้อมฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ  ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อม Walk-in Closet ทุกห้อง Double Family Room ในตำแหน่งที่ลงตัว พร้อมปรับฟังก์ชั้นตามใจผู้อยู่อาศัย เช่น ห้องนอนที่ 5 ห้องอ่านหนังสือ หรือกระทั่ง Cinematic Room เสมือนยกโรงหนังมาไว้ที่บ้านคุณ เรือนรับรองเสมือนห้องนอนชั้นล่าง เชื่อมต่อด้วยGreen Room กับมุมพักผ่อน ส่วนเตรียมอาหาร และครัวไทยขนาดใหญ่ ห้องซักรีด และลานซักล้าง ห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำแยกส่วน ที่จอดรถมาตรฐาน 3 คัน ขยายได้อีก 3 คัน

พราว ( PROUD )  แบบบ้านสวยฟังก์ชั้นครบ บนพื้นที่ใช้สอย 280 ตร.. 4ห้องนอน 4 ห้องน้ำ Family room ขนาดใหญ่ คู่ห้องพระดีไซน์ลงตัว สะดวกสบายด้วยห้องนอนชั้นล่าง และ Working room with outdoor decoration ต่อยอดความคิดในการทำงาน ส่วนเตรียมอาหารและครัวไทยขนาดใหญ่ พร้อมห้องซักรีดเชื่อต่อลานซักล้าง ให้ความสะดวกสูงสุด ที่จอดรถ 3 คัน มิตร ( MITT ) ” บ้านสวยที่เป็นมิตรกับทุกคน ด้วยพื้นที่ใช้สอย 176 ตร..พร้อมฟังก์ชั่นครบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Master bedroom ขนาดใหญ่พร้อม Walk-in Closet ห้องทำงานเป็นสัดส่วน จัดเตรียมมุมไหว้พระบริเวณโถงบันได มีพื้นที่รอบบ้านให้เพิ่มเติมเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือครัวไทยนอกบ้าน ที่จอดรถ 2 คัน    ระดับราคาที่นำเสนอเริ่มต้น ที่ 5 ลบ ถึง 15 ลบ 

นายสมนึก กล่าวอย่างมั่นใจ ถึง NC On Green  ด้วย Concept โครงการ และ Design  ผนวก กับ เป็นโครงการบ้านเดียว ที่อยู่ในสนามกอล์ฟ พร้อม Smart Innovation หนึ่งเดียวในโซนเหนือ พร้อมราคา ที่นำเสนอ ให้กับผู้ซื้อบ้าน ยอมรับว่า เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดในการเปิดโครงการใหม่ ต้นปี ด้วย Concept :   Charm สำหรับโซนด้านหน้า ทำเลสวย รับส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท , แถมเครี่องปรับอากาศ สูงสุด 5 เครื่อง รับ mini Ipad  พร้อมจัดสวนรอบบ้าน ตกแต่งพร้อมม่าน และวอลเปเปอร์ ให้อีกด้วย  โครงการ NC On Green ตั้งเป้าการขายสำหรับ 3 เดือนไว้ที่  250 ล้านบาท