grand-boulevard-17-540x405

“เรายังคงเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นหลัก และเน้นพัฒนาโครงการแนวราบระดับลักซ์ชัวรี่ต่อไป เพราะถือเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อย  เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงและมีกำลังซื้อสูง ”  คุณกรี กล่าว

จะด้วยความเซียนบวกความเก๋าในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง SC ASSET (แอสซีแอสเสท) หรือจะด้วยคู่แข่งที่ขายบ้านระดับไฮเอนด์หดตัวกันไปหลายราย หรือกระทั่งผู้บริโภคยังทุนหนาถือเงินมาซื้อบ้านหลังละหลายสิบล้านบาทได้ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ก็ตามที  แต่ ณ ตอนนี้ SC ก็ประกาศมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ทั้งปีที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 8,400ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกรายได้ไปแล้วกว่า 4,200 พันล้านบาท

(อืมมม ทุนหนาจริงไรจริงค่ะ ^ ^ )

ข้อมูลข้างต้นนั้น ได้จากการที่เราทีมงาน Thinkofliving ไปเกาะติดในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า” คฤหาสน์หลังงาม ที่มียอดขายแล้วกว่า 600  ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายในโครงการนี้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งภายในงานได้รับเกีรยติจาก เรืออากาศเอกกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC มาเป็นหัวเรือใหญ่ในการสัมภาษณ์ ซึ่งเราก็ได้ถอดประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอกันค่ะ โดยขอใช้ตัวอักษรย่อ Q & A เป็นตัวเดินเรื่องนะคะ

grand-boulevard-202-540x405

Q: มองภาพรวมอสังหาฯ เป็นไปในทิศทางใดค่ะ

A: ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ยังไปได้ดี แต่อาจจะไม่หวือหวานัก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ต่างฝ่ายต่างเป็นกังวลก็มองว่าผู้ประกอบการคงต้องเหนื่อยมากขึ้นเพราะที่ดินหายากขึ้น และมีราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็คิดว่าบริษัทต่างๆ ในตลาดยังมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง

Q: แล้วตลาดอสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ (อสังหาฯระดับบน) มีแนวโน้มเป็นยังไงบ้างค่ะ

A: เราพูดถึงทั้งบ้านและคอนโดฯนะ ตลาดบ้านหรูที่เป็นสินค้าหลักของบริษัทเชื่อว่าไม่รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าจะซื้อเงินสด หากจะมีการผ่อนก็เป็นจำนวนที่น้อยมาก ส่วนคอนโดมิเนียมที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะล้นตลาด มันก็เป็นบางที่นะ เรายังไม่เห็นปัญหาว่ามีลูกค้าทิ้งเงินดาวน์เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรายังเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ คือ ลูกค้ามีความต้องการจริง ซื้อเป็นทรัพย์สินไม่ใช่ซื้อเพื่อเก็งกำไร ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

grand-boulevard-99-540x405

Q: ถามถึงเรื่องอัตราเงินดาวน์ของบริษัทนิดนึงค่ะว่าเป็นยังไง

A: ตอนนี้เรายังไม่มีนโยบายขึ้นอัตราเงินดาวน์ครับ โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมยังคงกำหนดเงินดาวน์ที่ 10% และในส่วนของแนวราบกำหนดเงินจองที่ 300,000 บาท และทำสัญญา 10% เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าจะซื้อด้วยเงินสด โดยเฉพาะโครงการแนวราบ ที่มีสัดส่วนถึง 70% ของโครงการทั้งหมด ในขณะที่อัตราการทิ้งเงินดาวน์ของลูกค้าSC อยู่ที่ประมาณ 5% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากครับ

Q:ได้ข่าวว่าเราทำกลยุทธ์การตลาดโดยการ นำคอนโดฯ ไปโรดโชว์ที่ต่างประเทศด้วยใช่ไหมค่ะ

A: เราเคยไปโรดโชว์ที่ต่างประเทศมาแล้วและได้ผลตอบรับดี ปีนี้เราก็ไปอีกโดยไปที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนำคอนโดมิเนียม 3 แห่ง ไปทำการเปิดขาย ประกอบด้วย โครงการเซนทริค ห้วยขวาง สุขุมวิท 49 และ สุขุมวิท24 และหลังจากนั้นในช่วงเดือนต.ค. ปีนี้ก็จะเดินทางไปโรดโชว์ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยจะนำคอนโดมิเนียมเซนทริค ห้วยขวาง ไปเปิดขายคาดว่าจะมียอดขายทั้งหมด 700 ล้านบาท จากการโรดโชว์ทั้ง 2 ประเทศ แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมที่สุขุมวิททั้ง 2 แห่ง 200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมเซนทริคที่ห้วยขวาง 500 ล้านบาทครับ

Q: เรามีแผนจะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับอื่นบ้างไหมค่ะ หรือจะเจาะแต่กลุ่มระดับบน

A: “เรายังคงเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์เป็นหลัก และเน้นพัฒนาโครงการแนวราบระดับลักซ์ชัวรี่ต่อไป เพราะถือเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อย  เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริงและมีกำลังซื้อสูง ”

grand-boulevard-151-540x405

เรียกได้ว่าตลาดอสังหาฯ ไม่เคยหลับเลยก็ว่าได้นะคะ โดยเฉพาะกับตลาดบ้านระดับไฮเอนด์ที่ SC ASSET การันตีว่าไม่มีวันดับ และจะเดินหน้าผุดโครงการอย่างต่อเนื่อง แว่วมาว่ามีที่ดินรอการพัฒนาอยู่อีกไปจนถึงปี 2015 กันเลยที่เดียว อย่างไรก็ตามหากมีประเด็นดีๆ จาก SC เราจะพาไปคุยกับผู้บริหารกันแบบเต็มอิ่มมากกว่านี้นะคะ  ^ ^

บทสัมภาษณ์ : โบ ผู้สื่อข่าว