5 ข้อเสนอกระตุ้นอสังหา

ใกล้จะสิ้นปี 2563 กับทิศทางเศรษฐกิจที่ดิ่งลงเรื่อยๆ เช่นเดียวสถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงไม่มีแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ ล่าสุดมี 5 ข้อเรียกร้องกระตุ้นอสังหา จาก 3 สมาคม เป็นจดหมายเปิดผนึกส่งตรงถึงรัฐบาล ส่วนจะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก amnaj @Adobestock

  1. ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ลงถึงอัตราต่ำสุดเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในทุกประเภท ทุกระดับราคา ทั้งที่อยู่อาศัยใหม่ และบ้านมือสองจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
  2. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการยกเลิกการบังคับใช้มาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อสามารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้มากขึ้น โดยเชื่อว่าทุกสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) มีระบบการพิจารณาที่เข้มงวดอยู่แล้ว
  3. ขอให้มีการประกาศขยายการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% ออกไปอีก 2 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้กับประชาชน และผู้ประกอบการทั่วประเทศ
  4. ขอให้ผู้ซื้อห้องชุดชาวต่างชาติได้รับวีซ่า โดยมีระยะเวลาตามมูลค่าของห้องชุด
    – มูลค่า 3-5 ล้าน ต่อห้อง ได้รับวีซ่าเป็นเวลา 5 ปี
    – มูลค่า 5-10 ล้าน ต่อห้อง ได้รับวีซ่าเป็นเวลา 10 ปี
    – มูลค่าเกิน 10 ล้านต่อห้อง ได้รับสิทธิมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
  5. ขอให้นำโครงการบ้านดีมีดาวน์ มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยที่ภาครัฐสนับสนุนเงินลดภาระการผ่อนดาวน์ในรูปแบบของ Cash Back ให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยกลับมาใช้อีกครั้ง และขอเพิ่มวงเงินจากเดิม 50,000 บาท ต่อราย เป็น 100,000 บาท ต่อราย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้มากขึ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

กระแสตอบรับของรัฐบาลจาก 5 ข้อเสนอกระตุ้นอสังหา 

ข้อเสนอที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปไม่ได้

  • การลดค่าโอน-จดจำนองสำหรับบ้านทุกระดับราคา เดิมทีมาตรการนี้ จำกัดอยู่ที่บ้านระดับราคาไม่เกิน 3 ลบ. และกำลังจะหมดเขตในวันที่ 24 ธ.ค. 2563 แต่ก็ยังไม่มีเสียงความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะสามารถต่อได้หรือไม่ ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า ความเป็นไปได้ที่มาตราการนี้จะได้ไปต่อค่อนข้างต่ำ
  • การยกเลิก LTV  ก่อนหน้านี้ทางสมาคมพยายามเรียกร้องให้ปลดล็อกมาตั้งแต่ 2 ปีก่อน แต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งแม้ว่าจะเจอกับ Covid-19 ก็ไม่ได้ทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยยอมเปลี่ยนใจเลย โดยล่าสุดได้ออกมาปฏิเสธ และให้เหตุผลว่ามาตรการนี้ไม่ได้ส่งผลต่อการซื้อบ้านหลังแรกสำหรับกลุ่ม Real Demand หากพิจารณายอดปล่อยสินเชื่อที่โตขึ้นเรื่อยๆ
  • การลดภาษีที่ดิน 90% ปี 2563 เป็นปีแรกที่เริ่มมีการเก็บภาษีที่ดิน ซึ่งผลกระทบของ Covid-19 ทำให้คลังตัดสินใจลดค่าภาษีที่ดินเป็นระยะเวลา 1 ปี และยังไม่มีเสียงตอบรับว่าจะต่อไปอีกปีหรือไม่ แต่ดูจากความเป็นไปได้ ค่อนข้างยาก

ข้อเสนอที่ชัดเจนเลยว่าน่าจะเป็นพระเอก และเป็นความหวังเดียวสำหรับปีนี้

  • การให้วีซ่าชาวต่างชาติหากซื้อบ้านตามราคาที่กำหนด คำตอบของข้อเสนอนี้มาในรูปแบบ Elite Card Flexible One เมื่อซื้ออสังหาในโครงการที่ร่วมกับ Elite Card รวมมูลค่า 10 ลบ. ขึ้นไป จะได้รับวีซ่านาน 5 ปี แต่ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่า Elite Card อีก 500,000 บาท ซึ่งตรงนี้ยังมีข้อถกเถียงจากฝั่งผู้ประกอบการว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นราคาที่สูงเกินไป