นายดลลาภ เกียรติสุไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฆราปนิก จำกัด หนึ่งบริษัทสถาปนิกชั้นนำที่ให้บริการออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งอาคาร เปิดเผยถึงแนวโน้มและทิศทางการเติบโตของธุรกิจกิจว่า ที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่มนี้มีการเติบโตได้ดีสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาฯ ระดับกลางและล่างประสบกับภาวะชะลอตัวตามเศรษฐกิจ รวมถึงการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร และ ความไม่มั่นใจของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่พักอาศัย ตรงกันข้ามกับตลาดอสังหาฯ ในระดับบน ทั้งกลุ่มที่พักอาศัย โรงแรม และ รีสอร์ทหรูระดับ 4 ดาวขึ้นไป ถือว่ายังมีการเติบโตได้ดี ส่งผลให้ธุรกิจออกแบบด้านสถาปัตยกรรม ตกแต่งอาคารที่ตอบสนองต่อลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับการเติบโตของ ฆราปนิก ซึ่งมีการวางตำแหน่งและกลุ่มเป้าหมายหลักทางการตลาดคือกลุ่มลูกค้าพรีเมียมระดับบน โดยเป็นบ้าน และ คอนโด ประมาณ 60% และ โรงแรม รีสอร์ท หรูประมาณ 40% ทำให้ปีที่ผ่านมา (2559) มีรายได้เฉพาะส่วนของงานออกแบบด้านสถาปัตยกรรมและตกแต่งอาคารอยู่ที่ 40 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 20%
สำหรับทิศทางและแผนการดำเนินงานในปีนี้ยังคงเน้นที่ตลาดกลุ่มที่พักอาศัยระดับบนเช่นเดิม แต่จะให้น้ำหนักกับกลุ่มโรงแรม และ รีสอร์ทระดับ 4-5 ดาวขึ้นไปเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมซึ่งถือว่าหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐจนทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการห้องพักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนั้นไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความสนใจในการลงทุนในด้านธุรกิจโรงแรมจากเชนต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งให้ความสำคัญกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และมีความแตกต่าง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มน้ำหนักกับลูกค้าในกลุ่มนี้
ส่วนแผนการขยายธุรกิจนั้น ฆราปนิก ได้มีการจัดทัพธุรกิจใหม่ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเครือขึ้นเพื่อรองรับงานทั้งจากภายในและภายนอกที่มีปริมาณมากขึ้น ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทสถาปนิกที่ครบวงจรอย่างแท้จริง ซึ่งมีรูปแบบในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำคือในส่วนของการออกแบบสถาปัตยกรรม การก่อสร้าง และ ในส่วนของปลายน้ำด้านการตกแต่งอาคาร ปัจจุบัน ฆราปนิก มีทีมนักออกแบบผู้ชำนาญการ 50 คน ดูแลลูกค้าทั้งในกลุ่มบ้าน ที่พักอาศัย อาคาร โรงแรม และ รีสอร์ท มาแล้วกว่า 500 โครงการ คาดว่าหลังจากเปิดบริษัทก่อสร้างในเครือแล้วจะทำให้บริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 80 % และ คาดว่าจะสร้างรายได้รวมในปี 2560 เพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านบาท