หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตาของอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องภาษีที่ดินใหม่ หลายฝ่ายก็ยังลุ้นๆ อยู่ว่าจะได้ใช้ทัน 1 .. ปีหน้ารึเปล่า หลังจากเลื่อนพิจารณามาแล้วเกือบ 300 วัน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ได้มีการประชุมรัฐสภา โดยสนช. มีมติขยายเวลาในการพิจารณา “ร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ…” ไป อีก 60 วัน ซึ่งนับเป็นรอบที่ 6 ที่ร่างนี้เจอ “โรคเลื่อน” รวมๆ แล้วก็เกือบครบ 1 ปีพอดี

Think of Living ได้ลองรวบรวมข้อมูลงบซื้อที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2560 โดยเปรียบเทียบกับงบที่ใช้ไปจริงๆก็พบว่ามีบางบริษัทฯที่มีการซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นจากงบที่วางไว้

เพราะการร่วมทุนทำให้โตแบบก้าวกระโดด?

ถ้ามองภาพรวมแล้ว มีไม่กี่บริษัทที่ทุ่มงบซื้อที่ดินโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งล้วนเป็นบริษัทที่มีการร่วมทุนกับต่างประเทศอาทิ Origin Property, Sena Development และ Sansiri

ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ Origin Property โตแบบก้าวกระโดด หลังจากก้าวเข้าตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่างบลงทุนก็ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย  เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มหันมารุก Recurring Income โดยคว้าที่ดิน 3 แปลงใจกลางเมือง ทำเลทองหล่อ พร้อมพงศ์ พญาไท ปั้นมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 70,000 ลบ.

Sansiri หลังจากร่วมทุนกับ Tokyu Corporation แสนสิริก็ไม่หยุดพัฒนา ทุ่มงบกว่า 2,800 ลบ. ดึงเอาบรรดาบริษัท Start Up ชั้นนำของโลกมาร่วมสร้างฐานในเมืองไทย  ไม่ว่าจะเป็น One Night, Hostmaker, JustCo, และ Farmshelf โดยปีนี้วางแผนเปิด 4-6 โครงการร่วมทุน ทั้ง BTS และ Tokyu Group มูลค่ารวมประมาณ12,000-19,000 ล้านบาท  

Sena Development เดิมทีตั้งเป้าซื้อที่ดินไว้แค่ 1,000 ลบ. แต่ทางผู้บริหารให้เหตุผลว่า เมื่อเจอที่ดินที่น่าพอใจก็ไม่ลังเลที่จะเพิ่มงบลงทุนด้านนี้ ทำให้ปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ใช้งบไปทั้งหมด  7,000 ลบ. โดยทุกแปลงจะถูกนำมาพัฒนาในปีนี้ ซึ่งดูจากแผนแล้ว หนึ่งในโครงการเด็ด ก็คือ คอนโดร่วมทุนที่เอกมัย มูลค่า 5,000 ลบ. เพิ่งเซ็นสัญญากันไปหมาดๆ