สามย่านมิตรทาวน์ พร้อมทุ่ม 200 ล้านบาท ผ่าน 3 กลยุทธ์เด็ดปี 2020 ขนทัพร้านค้าวันแอนด์โอนลี่ – ซิกเนเจอร์อีเว้นท์ – ผนึกพาร์ทเนอร์ชั้นนำเด็ดมัดใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่ในระดับเดียวกันกับช่วงแรกหลังเปิดตัวที่ 70,000 – 80,000 คน/วัน ตลอดปี
ธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า “หลังจากเปิดให้บริการ “สามย่านมิตรทาวน์” โครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 9,000 ล้านบาท เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาที่เปิดให้บริการแล้ว 4 เดือน ปัจจุบันสามย่านมิตรทาวน์มีผู้เช่าแล้วกว่า 95% โดยมีผู้ใช้บริการมากกว่า 70,000 คนในวันธรรมดา และมากกว่า 80,000 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ และในช่วงที่มีกิจกรรมพิเศษ ซิกเนเจอร์อีเว้นท์ เช่น ลานนมสามย่าน สามารถเพิ่มยอดผู้ใช้บริการได้ถึง 100,000 คนต่อวัน”
โดยในปี 2020 ทางศูนย์การค้ามีกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องผ่าน 3 กลยุทธ์ดังนี้
1) ขนทัพร้านค้าเปิดให้บริการที่นี่ที่เดียว (One and Only) สามย่านมิตรทาวน์ยังคงมุ่งเน้นไปที่ร้านค้าสายฟู้ด สายโนวเลดจ์ พร้อมร่วมกันสร้างชุมชน “คลังอาหารและการเรียนรู้” ซึ่งทัพร้านอาหาร อาทิ ทิม ฮอร์ตัน (Tim Hortons) เชนร้านกาแฟแบรนด์ดังจากแคนาดา ดินส์ (Din’s) ร้านอาหารนีโอไต้หวัน เม่ย เว้ย หว่าน (Mei Wei Wan) ต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อไต้หวัน สไปซี่ เฮ้าส์ (Spicy House) ร้านอาหารรัสเซียสูตรต้นตำหรับ โคกิดา (Gogida) ต้นตำรับปิ้งย่างส่งตรงจากเกาหลี และมีเค สตรีท (K-StrEAT) ศูนย์รวมอาหารเปิดประสบการณ์และวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆ ได้ที่นี่เท่านั้น ที่เตรียมเปิดบริการเมษายนนี้ และทัพร้านค้าส่งเสริมการเรียนรู้ อาทิ แองกริซ (Angkriz) โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษโดยครูลูกกอล์ฟ โรงเรียนแซฮุน (Zaehoon Korean Language School) โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีด้วยหลักสูตรเอาใจวัยรุ่นให้ได้เรียนกับเจ้าของภาษาอย่างใกล้ชิด โรงภาพยนตร์เฮ้าส์สามย่าน (House Samyan) โรงภาพยนตร์สำหรับกลุ่ม Moviegoers ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ รวมถึงการอัพเดทร้านค้าที่ศูนย์ดำเนินการเองอย่างเช่น มีเดียม แอนด์ มอร์ (Medium and More) ศูนย์รวมงานอาร์ตแอนด์คราฟท์ และเวิร์คช็อป และ แอพรอน วอล์ค (Apron walk) ศูนย์รวมวัตถุดิบ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารครบวงจร ซึ่งการปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการให้มีความทันสมัย เป็นทางเลือกในการช้อปปิ้งที่เหมาะสมกับผู้บริโภคยุคใหม่อยู่เสมอ
2) ปั้นซิกเนเจอร์อีเว้นท์ (Signature Event) ตอกย้ำแบรนด์ดิ้งศูนย์การค้าขวัญใจทุกเพศ ทุกวัย หลังประสบความสำเร็จจาก “ลานนมสามย่าน” สามารถตอบโจทย์ด้วยรูปแบบการจัดงานที่ผู้ใช้บริการสามารถแสดงตัวตนในด้านดี ทำให้เกิดกระแสพูดถึงในออนไลน์จนโด่งดังเป็น Talk of the Town ด้วยจุดเด่นที่เป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองปราศจากแอลกอฮอล์ โดยมีอาหารคาวหวานที่มีส่วนผสมของนมเป็นซิกเนเจอร์ แต่ยังคงความบันเทิงตามเทศกาลช่วงเวลาเฉลิมฉลองเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Happy New Me ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยการเป็นคนที่ดีขึ้นให้กับตัวเอง ในปี 2020 ทางศูนย์การค้าได้เตรียมปั้นซิกเนเจอร์อีเว้นท์อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย ไตรมาสละ 1 ครั้ง โดยเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ถึง 200 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีได้จัดงาน “สามย่านมิตรทาวน์ ไชนีส นิวเยียร์ 2020” ซึ่งมี “งิ้วเปลี่ยนหน้า” เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากงานตรุษจีนของศูนย์อื่น และได้นำการแสดงงิ้วโบราณมาแสดงกลางศูนย์ฯ สร้างความสนใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่หาโอกาสชมงิ้วได้ยากขึ้นทุกที นอกจากนี้ยังเตรียมอีเว้นท์ล่าสุดที่กำลังจะจัดขึ้นกลางเดือนกุมภาพันธ์อย่าง “Happy Single Me 2020” เทศกาลฉลองวาเลนไทน์ให้กับคนโสด ไม่ต้องเหงาและเปล่าเปลี่ยวในเทศกาลแห่งความรัก เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าศูนย์การค้าให้ความสำคัญและมีเข้าใจกับลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
3) ผนึกพาร์ทเนอร์ชั้นนำ (Mitr Partnership) ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาสามย่านมิตรทาวน์ได้ผนึกพาร์ทเนอร์ชั้นนำ เกิดเป็นกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ -สามย่านมิตรทาวน์-เอไอเอส ขนทัพ 5G ให้คนไทยได้สัมผัส กิจกรรมประกาศความพร้อมของการให้บริการ 5G พร้อมทัพพรีเซนเตอร์และกิจกรรมส่งเสริมการขายอัดแน่นตลอดกิจกรรม สามย่านมิตรทาวน์-อมรินทร์ กับการร่วมมือจัดมหกรรมนิยายนานาชาติ ครั้งที่ 1 งานบุ๊คแฟร์ที่รวบรวมหนังสือนิยายเอาไว้มากที่สุด สามย่านมิตรทาวน์-การีน่า Free Fire Pro League การแข่งขันลีกสำหรับมืออาชีพครั้งแรกของเกม Free Fire ที่จะเฟ้นหาสุดยอดฝีมือของประเทศไทย ซึ่งในปี 2020 นี้ทางศูนย์การค้ายังคงเปิดรับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่สนใจจัดกิจกรรมที่จะเป็นผู้สร้างตำนานใหม่ให้กับสามย่านได้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการพูดคุยกับพาร์ทเนอร์แล้วหลายราย คาดว่าจะสร้างความคึกคักให้กับตลาดรีเทลให้น่าจับตามองยิ่งขึ้น
ธีรนันท์ กรศรีทิพา กล่าวต่อว่า “ทั้งนี้ปัจจัยลบจากการท่องเที่ยวผลกระทบต่อธุรกิจรีเทล โดยตลาดนักท่องเที่ยวจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่มาใช้บริการรีเทลในประเทศไทย สำหรับปัจจัยลบด้านปัญหาสุขภาพในจีน เชื่อว่าจะส่งผลเพียงระยะสั้น เนื่องจากทางการจีนได้ควบคุมขอบเขตการระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสามย่านมิตรทาวน์ยอดผู้ใช้บริการที่มาใช้บริการในศูนย์ฯ และเข้าพักที่โรงแรมทริปเปิ้ลวายโฮเทล ยังคงเป็นผู้ใช้บริการสัญชาติไทยป็นอันดับ 1 ขณะที่สัดส่วนผู้ใช้บริการที่เป็นสัญชาติจีนเมื่อเทียบกับสัญชาติไทย คิดเป็นเพียง 2% เท่านั้น ปัจจัยลบดังกล่าวนี้จึงแทบไม่กระทบกับยอดลูกค้าของสามย่านมิตรทาวน์
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยังคงท้าทายการดำเนินธุรกิจของสามย่านมิตรทาวน์ แต่ด้วยการจัดสรรร้านค้าของศูนย์ฯ ที่ตั้งเป้าหมายจะเป็น ศูนย์การค้าที่ใช้บริการได้ทุกวัน กลยุทธ์การตลาดผ่านซิกเนเจอร์อีเว้นท์ ร้านค้าแม่เหล็กที่มีที่นี่ที่เดียว และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จะเป็นส่วนช่วยให้สามย่านมิตรทาวน์สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในการรักษาฐานลูกค้าให้อยู่ในระดับเดียวกันกับช่วงแรกหลังเปิดตัวที่ 70,000 – 80,000 คน/วัน ตลอดปี เรามั่นใจว่าวันนี้ กลุ่มเป้าหมายเกือบทุกคนรู้จักสามย่านมิตรทาวน์ และส่วนใหญ่เคยมาใช้บริการแล้ว แต่การจะรักษากลุ่มเป้าหมายให้ใช้เวลาอยู่ในศูนย์นานขึ้น กระตุ้นให้ลูกค้าเข้าไปช้อป ชิม ชิลล์ ในร้านค้าของผู้เช่าของเราอย่างต่อเนื่อง และสร้างการเติบโตร่วมกันเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ”
โครงการสามย่านมิตรทาวน์อยู่บนทำเลหัวมุมถนนพญาไท-พระราม 4 เนื้อที่กว่า 14 ไร่ พื้นที่ใช้สอยรวม 222,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นโซนที่อยู่อาศัย โซนอาคารสำนักงาน และโซนรีเทลหรือ Urban Life Library สูง 6 ชั้น พื้นที่ให้เช่ารวม 36,000 ตารางเมตร พัฒนาจากแนวคิดเรื่อง “การเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้ ถ้าทุกอย่างถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นมิตร” โดยออกแบบให้พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้ใช้งาน (Smart) และ เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (Friendly) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Urban Life Library” หรือ “คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” รีเมคตำนานสามย่านบทใหม่ ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่จะเติมเต็ม Urban Life Library ของทุก ๆ คน