บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ปรับภาพลักษณ์ทันสมัยขึ้น ผ่านสโลแกนใหม่ “สัมมากร สร้างจากความเข้าใจชีวิต” วางแผนปรับเปลี่ยนทั้งระบบ ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร ภาพลักษณ์ โลโก้ รวมถึงการออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ พร้อมรุกการสื่อสารแบรนด์ผ่านสื่อดิจิทัลในทุกแพลตฟอร์ม คาดเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนภายในปีนี้ ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ขณะเดียวกัน ลุยเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้า “สัมมากร เพลส” ให้เป็นแหล่งศูนย์กลางชุมชนและศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัว

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2561 คาดว่าเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 6-8% เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศปีที่ผ่านมาการเติบโตไม่สูงนัก ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าติดลบ 5-6% ในขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการในอสังหาริมทรัพย์แต่ขาดศักยภาพทางการเงิน โดยปี 2561 สัมมากรคาดว่า จะมีแนวโน้มเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น สัมมากรพร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ ครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ซึ่งจะเอื้อให้สัมมากรมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ

นายกิตติพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 สัมมากรวางแผนปรับลุค “สัมมากร” ใหม่ จากเดิมภาพลักษณ์ดูเป็นผู้ใหญ่และคอนเซอร์เวทีฟ (Conservative) ให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ยังคงจุดเด่นของสัมมากร ความเป็นแบรนด์คุณภาพที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจมานานกว่า 48 ปี การสื่อสารจุดเด่นแบรนด์สัมมากรผ่านสื่อรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะสื่อดิจิทัลในหลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน ครอบครัวใหม่ และครอบครัวขยาย การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ สัมมากร ครั้งนี้ ถือเป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่เป็นองค์รวมทั้งระบบ โดยปรับใน 3 ส่วนหลัก คือ

  1. วัฒนธรรมองค์กร ค่านิยมองค์กร ระบบการทำงานของพนักงาน
  2. ภาพลักษณ์ของบริษัท ปรับโลโก้ใหม่ การสื่อสารกับลูกค้า ยูนิฟอร์มพนักงาน และอื่นๆ
  3. การออกแบบสินค้า ปรับการออกแบบบ้านให้สวยและทันสมัยยิ่งขึ้น โดยยังคงคุณภาพความเป็นสัมมากรไว้ แต่เพิ่มความใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบบ้าน ด้วยฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านที่สัมมากรคิดค้นให้ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งบ้านรูปแบบใหม่ จะพบได้ในโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2561 นี้

นายณพน เจนธรรมนุกูล ผู้จัดการทั่วไปสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงปลายปี 2560 สัมมากรได้เปิดตัว 2 โครงการใหม่ ได้แก่

  1. โครงการสัมมากร อเวนิว สุวรรณภูมิ ในรูปแบบทาวน์โฮม 272 ยูนิต บนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
  2. โครงการสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน ทาวน์โฮม 292 ยูนิตบนพื้นที่ 27 ไร่ มูลค่าโครงการ 930 ล้านบาท ราคาต่อยูนิต เฉลี่ย 3.0-4.0 ล้านบาท

โดยในปีนี้ สัมมากร วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการออฟฟิศ พาร์ค รามอินทรา-วงแหวน โฮม ออฟฟิศ 4 ชั้น 22 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 143 ล้านบาท ราคาต่อยูนิต เฉลี่ย 6.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดจากปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้
  2. โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 ขยายเฟสใหม่ จำนวน 271 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,270 ล้านบาท ราคาต่อยูนิต เฉลี่ย 3.5-6.0 ล้านบาท โดยวางแผนที่จะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3
  3. โครงการสัมมากร ชัยพฤกษ์ วงแหวน 2 จำนวน 171 ยูนิต บนพื้นที่ 44 ไร่ มูลค่าโครงการ 971 ล้านบาท ราคาต่อยูนิต เฉลี่ย 4.2-5.2 ล้านบาท คาดว่าพร้อมเปิดตัวไตรมาสที่ 3

“ขณะเดียวกัน ธุรกิจศูนย์การค้าขนาดย่อม หรือ คอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall) หลังจากรีแบรนด์อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้เช่าและลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยได้ปรับชื่อจาก “เพียวเพลส” เป็น “สัมมากร เพลส” ให้สอดคล้องกับแบรนด์สัมมากร เพื่อให้ภาพลักษณ์ของ สัมมากร เพลส เป็นศูนย์รวมของลูกบ้านสัมมากร สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของให้กับลูกบ้านสัมมากร นอกจากนี้ ยังปรับเปลี่ยนโลโก้เป็นรูปคล้ายพลุ ถือเป็นการจุดพลุว่า สัมมากร เป็นแลนด์มาร์คของคนในชุมชน เส้นสายของโลโก้ที่มาบรรจบกันสะท้อนถึงความเป็นศูนย์การค้าที่เป็นศูนย์กลางชุมชนและศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัว การปรับร้านค้าภายในศูนย์ ปรับรูปโฉมใหม่ และเพิ่มกิจกรรมเพื่อดึงดูดให้ลูกบ้านสัมมากร และลูกค้าในละแวกใกล้เคียงมาจับจ่ายใช้สอยภายในศูนย์มากขึ้น ซึ่งจะทยอยปรับศูนย์การค้า สัมมากร เพลส ให้แล้วเสร็จทั้ง 3 สาขา ได้แก่ รามคำแหง 110 รังสิต คลอง 2 และราชพฤกษ์ ภายในกลางปีนี้”

จุดเด่นของศูนย์การค้าสัมมากร เพลส อยู่ที่การให้ความสำคัญกับการสำรวจความคิดเห็น ความต้องการรูปแบบร้านค้า ไลฟ์สไตล์ของคนในชุมชน และสำรวจความพึงพอใจการใช้บริการของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อนำมาพัฒนาและคัดเลือกร้านค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง ปัจจุบันมีผู้เช่ารวมแล้ว 95 % ของพื้นที่และมีพันธมิตรที่ให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์สัมมากร เพลส อาทิ แม็คโครฟู๊ดเซอร์วิส วิลล่ามาร์เก็ต แม็กซ์แวลู สตาร์บัคส์ ธนาคารชั้นนำ ฯลฯ ทั้งนี้หลังจากปรับโฉมแล้วเสร็จกลางปี 2561 คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้ามาจับจ่ายใช้จ่ายที่ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส เพิ่มขึ้น 20% นายณพน กล่าวปิดท้าย