งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 29 ทุ่มงบประชาสัมพันธ์ 20 ล้านบาท เน้นรูปแบบการจัดการให้ทันสมัยขึ้นตามเทรนด์คอนโดแนวรถไฟฟ้า สถานที่จัดงานในครั้งนี้จึงหนีไม่พ้นศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่สามารถเดินทางได้สะดวก ซึ่งงานในครั้งนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ “ครบที่สุด ทุกที่ ทุกทำเล ทุกราคา หาได้ที่นี่” คาดการณ์ว่ามีผู้เข้าชมงานมากกว่าแสนราย
ทางทีมงาน Think of Lining ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์พูดคุยกับคุณรุ่งอนันต์ ลิ่มทองแท่ง ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 29 และประธานฝ่ายบริหารสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
บีม : อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการจัดงานบ้านและคอนโดฯ ว่าเริ่มมาได้ยังไงและรูปแบบการจัดงานแต่เดิมเป็นอย่างไร
คุณรุ่งอนันต์ : ตัวผมเองเป็นกรรมการชุดใหม่จากการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจริงๆ จุดเริ่มต้นของการจัดงานบ้านและคอนโดมีมานานแล้ว เกิดจากความร่วมมือของ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ได้แก่ สมาคมบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งกรรมการจัดตั้งจะเป็นคนละชุดกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วรู้จักกัน และมี Connection กันอยู่แล้ว ในส่วนของการจัดงานเองสมัยก่อนมีปีละครั้ง แต่ช่วง 3-4 ปีให้หลังมีการจัดงานปีละ 2 ครั้ง โดยเลือกจัดช่วงต้นปีและปลายปี สำหรับช่วงปลายปีจะเป็นจังหวะที่ดีกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเด็กปิดเทอม ส่งผลให้ผู้ปกครองมีเวลาหาบ้าน แต่ก็ยังติดเรื่องฝนตก ความกังวลเกี่ยวกับน้ำท่วม ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม คนจะเลิกกังวลเรื่องเหล่านี้ และเป็นช่วงที่ได้โบนัสพร้อมรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นในปีถัดไป มีผลทำให้คนตัดสินใจซื้อบ้าน
บีม : เรายังคงรูปแบบการจัดงานเดิมไว้ยังไงบ้าง และมีการปรับหรือพัฒนาการจัดงานอย่างไรบ้าง
คุณรุ่งอนันต์ : เรามีการพัฒนารูปแบบการจัดงานให้ทันสมัยมากขึ้น อิงตามเทรนด์คอนโดติดรถไฟฟ้า เลือกจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากเดิมที่มีการจัดที่เมืองทองธานีด้วย รวมทั้งผู้ประกอบการที่มาจัดบูธมีการเปลี่ยนแปลงไป เมื่อก่อนสัดส่วนบ้านและคอนโดเป็น 70:30 ในขณะที่ปัจจุบันเป็น 50:50
บีม : ดูจากตัวเลขปีนี้ที่ผ่านมาโครงการคอนโดเปิดมากกว่าบ้านและทาวน์เฮ้าส์เกือบเท่าตัว คิดเห็นอย่างไรบ้าง
คุณรุ่งอนันต์ : ที่เป็นลักษณะนี้อาจเป็นไปได้ว่าคอนโดต้องรีบเปิด อาจจะเป็นด้วยสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย EIA และอื่นๆ เพราะฉะนั้นโครงการไหนที่เปิดได้จึงรีบเปิดตัวกัน ในขณะที่แนวราบเจอปัญหาน้ำท่วมปี 2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักพัฒนาโครงการชะลอตัว และรอดูท่าทีว่ารัฐบาลจะจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างไร พอเข้าปี 2555 นักพัฒนาโครงการก็ต้องถมดินเพิ่มเพื่อกันปัญหา ประกอบกับปีนี้ที่ฝนตกตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทำให้โครงการแนวราบต้องยืดเวลาการเปิดตัวออกไปอีก
บีม : กลุ่มเป้าหมายของงานครั้งนี้
คุณรุ่งอนันต์ : จากผลการทำแบบสอบถามของศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คราวที่แล้ว ผู้เข้าร่วมงานแบ่งเป็น 3 กลุ่มในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือ 1. กลุ่มที่อยู่กับครอบครัว ปัจจุบันทำงานแล้ว แต่ยังไม่มีบ้าน ประมาณ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ 2. กลุ่มที่มีบ้านอยู่แล้ว แต่มาดูเพื่อการลงทุน และ เพื่ออยู่ใกล้กับที่ทำงาน ประมาณ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ 3. กลุ่มที่ไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง อาศัยแบบเช่าอยู่ ประมาณ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ทุกๆครั้งที่เราจัดงาน ตัวเลขผู้ร่วมงานจะมากกว่าแสนราย แต่มีการลงทะเบียนหน้างาน 1-2 หมื่น เนื่องจากบางท่านมากันเป็นครอบครัว
บีม : คาดการณ์ว่ายอดการตัดสินใจซื้อในปีนี้มากน้อยแค่ไหน
คุณรุ่งอนันต์ : คาดว่ามากกว่า 3 พันล้าน เนื่องจากทุกครั้งเราจะเลือกจัดช่วงปิดเทอม เช่น มีนาคม และ ตุลาคม และยิ่งช่วงปลายปีเป็น High Season ในการซื้อขายบ้าน ประกอบกับสถาบันการเงินเตรียมปล่อยกู้ ซึ่งหลังๆเองสถาบันการเงินเริ่มเข้ามาคุยกับโครงการเพื่อจัด Promotion ร่วมกันมากขึ้น เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ฟรีค่าจดจำนอง เป็นต้น
บีม : บ้านแนวราบกับงานลักษณะนี้ และยิ่งมีการจัดในเมืองด้วย คิดว่าจะได้ลูกค้ามาอย่างไร
คุณรุ่งอนันต์ : เราจัดงานตามสโลแกนคือ “ครบที่สุด ทุกที่ ทุกทำเล ทุกราคา หาได้ที่นี่” คนที่มาก็เข้าใจว่ามาแล้วมีสินค้าให้เลือกครบทุกประเภท การที่จัดในเมืองก็เพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้สะดวก และเลือกวันที่จัดคร่อมระหว่างวันทำงานและเสาร์อาทิตย์
บีม : หลังๆมีงานลักษณะนี้จัดขึ้นมาหลายเจ้า มีผลกระทบต่องานมหกรรมบ้านและคอนโดหรือไม่
คุณรุ่งอนันต์ : ไม่กลัว เพราะเราเป็นเจ้าแรก ใหญ่ที่สุดในประเทศ และจากการร่วมมือของ 3 สมาคมรวมทั้งจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ และที่ไม่ได้เป็นสมาชิกแต่ร่วมมือกันมานาน ทำให้โครงการที่มีผู้ประกอบการมาร่วมงานเยอะที่สุด รวมทั้งเป็นการจัดงานที่ไม่ได้มุ่งหวังกำไร ประกอบกับงบโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ที่มีมากขึ้น อย่าง Think of Living เอง เราก็มองเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางใหม่สำหรับเราอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจาก Life style ของกลุ่มคนซื้อบ้านเปลี่ยนแปลงไป เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาข้อมูล และใช้ Social Network มากขึ้น ส่วนสื่อเก่าๆก็ยังคงใช้ด้วยเหมือนกัน แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนเลือกใช้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และมุ่งเน้นสื่อ Digital มากขึ้นด้วย
ต่อมาเราจะมาพูดถึง บ. ซื่อตรง กรุ๊ปกัน
บีม : อยากให้แนะนำในส่วนของ บ. ซื่อตรง กรุ๊ป
คุณรุ่งอนันต์ : ในส่วนของ บ. ซื่อตรง กรุ๊ปเปิดมาปีนี้เป็นปีที่28แล้ว เราทำทุกอย่างยกเว้นคอนโด High Rise เราเชี่ยวชาญในการพัฒนา Townhome Townhouse และ บ้านเดี่ยว โดยมาก Land bank ที่มีอยู่ในเขตปริมณฑล ลักษณะที่ดิน ดูแนวโน้มแล้วมีการเจริญเติบโตในอนาคต เราถนัดแนวราบมากกว่า และคุ้นเคยกับการบริหารการก่อสร้างในแนวราบ
บีม : ทางซื่อตรงกรุ๊ปเคยมีใช้ Precast หรือไม่
คุณรุ่งอนันต์ : เราเคยลองใช้ Precast แต่รู้สึกว่ายังไม่เหมาะกับสินค้าของเรา เนื่องจากจุดขายหลักของซื่อตรงกรุ๊ป อันแรกคือ เน้นการหาทำเลที่ติดถนนใหญ่ ถนนหลัก เป็นที่ดินผืนใหญ่ และจุดขายอีกอย่างของเราคือการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของลูกค้าได้นิดหน่อย ในกรณีที่มีการผ่อนดาวน์นานๆ ถ้าลูกค้าอยากปรับเปลี่ยนอะไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน เราทำให้ลูกค้าได้ ซึ่ง Precast ทำไม่ได้
บีม : อยากให้เล่าถึงแผนงานในอนาคต
คุณรุ่งอนันต์ : ในอนาคตอยากลองทำคอนโดในเมือง อาจจะเป็น Low Rise ส่วนตึกสูงอาจจะยังไม่ทำเพราะยังไม่เชี่ยวชาญและยังไม่มี Land bank ที่สามารถทำได้
บีม : ภาพของซื่อตรงกรุ๊ปที่คนมองว่าเป็นธุรกิจแนวราบ
คุณรุ่งอนันต์ : อาจเป็นเพราะตัวทรัพย์สินที่เรามี ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในปริมณฑล ประกอบกับเรามีต้นทุนในที่ดินเดิมที่ไม่สูงมาก ทำให้เราทำบ้านออกมาได้ในราคา 3-5ล้าน Townhouse ที่ราคา 1ล้านต้นๆ และ Townhome 3 ชั้นในราคา 3ล้านต้นๆ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยน Brand ให้กับสินค้าตัวใหม่ๆด้วย
เชื่อว่างานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 29 นี้ต้องยิ่งใหญ่และร่วมสมัยที่สุดในปี 2556 แน่นอน งานจะมีจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อม Promotion มากมายจากผู้ประกอบการรายต่างๆรวมทั้งสถาบันการเงินที่เข้าร่วม ยังไงรอติดตามการรีวิวตัวงานมหกรรมบ้านและคอนโดจากทีมงาน Think of Living ได้นะครับ