“หลายๆท่านอาจเคยเจอปัญหาว่าคอนโดที่ซื้ออยู่บางแห่ง เวลาอยู่อาศัยจริงในระยะยาวต้องพบกับปัญหาความอึดอัดไม่คล่องตัว จนต้องมองหาบ้านมาทดแทนในท้ายที่สุด แต่บ้านก็ค่อนข้างจะอยู่รอบนอกเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเดินทางไปทำงานในเมืองก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร”
ทางทีม Think of Living มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์อย่างเป็นกับเองกับ คุณวีรศักดิ์ แก้วหนู กรรมการผู้จัดการ SBG บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และ คุณสุริยา หาญพาณิช รองประธานสายงานธุรกิจ PR ที่โครงการ The Privacy ติวานนท์ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดที่ทาง The Privacy ทำการเปิดตัวในปีนี้
โบว์ : ในเมื่อพฤกษามีแบรนด์คอนโดมิเนียมอยู่มากมายแล้ว ทำไมต้องตั้งแบรนด์ใหม่อย่าง Privacy ขึ้นมา
คุณวีรศักดิ์ : อันดับแรกเลยเรามองถึงลูกค้าที่อยากมีที่อยู่อาศัยส่วนตัว เหมือนอยู่บ้าน เป็นลูกค้าที่ไม่อยากอยู่คอนโดที่มียูนิตเยอะๆ และแย่งกันใช่ Facility ทำให้เรามองเห็นช่องทางว่าถ้าเรามีคอนโดที่ไม่เกิน 80 ยูนิต ประกอบกับที่ดินที่ไม่ใหญ่นัก 1-2 ไร่ ซึ่งมีจำนวนมาก สามารถ Supply ได้ จึงเกิด The Privacy ขึ้นมา
โบว์ : มองกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร
คุณวีรศักดิ์ : เรามองถึงกลุ่มที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆ และกลุ่มผู้เช่าคอนโด อพาร์ทเม้นท์ ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง สามารถเปลี่ยนจากค่าเช่ามาเป็นผ่อนชำระแทนได้
โบว์ : มีหลักเกณฑ์ในการเลือก Location อย่างไรบ้าง
คุณวีรศักดิ์ : มองเรื่องชุมชนเป็นหลัก ใกล้ห้างสรรพสินค้า การคมนาคมเป็นไปได้สะดวก ที่ดินไม่ได้ติดถนนใหญ่ อาจจะเข้าซอยมาเล็กน้อย แต่ก็ยังเดินทางออกไปได้สะดวกอยู่ มีความสงบ ร่มรื่นเหมือนอยู่บ้าน เน้นที่ดิน 1-2 ไร่ ที่เป็นชุมชนเดิม
บูม : เห็นทาง The Privacy มีเปิดตัวโครงการที่ งามวงศ์วาน เรวดี และติวานนท์ มีมองโซนอื่นนอกจากนี้หรือไม่
คุณวีรศักดิ์ : ในแผนธุรกินปีหน้า เราจะ Move ไปในเมืองมากขึ้น ซึ่งที่ดินขนาดเล็กแบบนี้ยังคงมีอยู่ มองเป็นคอนโดยูนิตน้อย และคงความเป็นส่วนตัว
บูม : ที่ต้องทำเป็นคอนโดน้อยกว่า 80 ยูนิต เพราะอยากหลีกเลี่ยงเรื่องการขอ EIA หรือไม่
คุณวีรศักดิ์ : เรามองถึงที่ดินที่อยู่ในเมืองแปลงเล็กๆจำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำมาพัฒนาเป็นโครงการใหญ่ๆได้มากกว่า คอนโดขนาด 78 ยูนิตที่เราทำสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการแย่งชิงการใช้ Facility ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เราคิดโปรเจคนี้ออกมา
โบว์ : จุดเด่นของ The Privacy คืออะไร
คุณวีรศักดิ์ : เราออกแบบ The Privacy ให้เหมือนคนอยู่บ้าน เปลี่ยนคอนโดเป็นบ้านขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ด้วย Ceiling ที่สูง 2.65 เมตร เน้นความโปร่ง มีการระบายอากาศ ลดความแออัด เราสร้าง 78 ยูนิต 1 ชั้นมี 13 ยูนิต มีเพียง 7 ชั้นเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถอยู่อาศัยได้จริง สำหรับ Facility เรามี สระว่ายน้ำ Library คลับเฮาท์ และมีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ ซึ่งเพียงพอสำหรับลูกค้า ไม่ต้องแย่งกันใช้
โบว์ : สำหรับการออกแบบในแต่ละที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร
คุณสุริยา : เราจะมองแต่ละ Location ก่อน แล้วค้นหาว่าแถวนั้นเป็นอย่างไร The Privacy ก็จะออกแบบมาเป็น Theme ของที่นั้นๆ สำหรับโปรเจคที่อยู่ในเมือง เรามองเรื่องความสะดวก การใช้งานจริงเป็นหลัก ซึ่งจะมีเพิ่ม Home Automation เข้าไปด้วย
โบว์ : ทำการตลาดอย่างไรบ้าง
คุณวีรศักดิ์ : เนื่องจาก The Privacy เป็นแบรนด์ใหม่ของพฤกษา เราจึงใช้แบรนด์พฤกษาเป็นตัวสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า นอกจากการออกแบบที่เป็นจุดเด่นแล้ว เราทำการก่อสร้างที่ทำให้ผู้ซื้อมาอยู่อาศัยได้เร็ว 1 ตึกเราใช้เวลาในการสร้างเพียง 6 เดือน ระยะเวลาในการจองจนถึงเข้าอยู่ ใช้เวลาประมาณ 7-8 เดือน ซึ่งจุดนี้เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้าที่เช่าอยู่ จะได้เซฟเรื่องค่าเช่า เปลี่ยนมาเป็นค่าผ่อนได้เร็ว ต่างจากคอนโดใหญ่ที่ใช้เวลา 2-3 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าเอง ก็สามารถปล่อยเช่าได้เร็วขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นในการทำตลาดของ The Privacy
บูม : สำหรับระดับราคาตั้งไว้อย่างไร
คุณวีรศักดิ์ : ขี้นอยู่กับ Location เป็นหลัก จะอยู่ 1.5 – 3 ล้านบาท เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้านบาท
โบว์ : ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
คุณวีรศักดิ์ : เราวางแผนว่า 1 โปรเจค ขายหมดภายใน 6 เดือน ใกล้เคียงกับระยะการก่อสร้าง สำหรับที่งามวงศ์วานเราเปิดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ขายได้มากกว่า 50% แล้ว สำหรับเรวดีเปิดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามเป้าเช่นกัน ส่วนติวานนท์เป็นตัวล่าสุดที่เราเพิ่งเปิดตัว ผลตอบรับก็ดีเช่นกัน เนื่องจากเราวาง Target ไว้เป็น Real Demand ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย 80-90% เพราะฉะนั้นลักษณะการขายของ The Privacy คล้ายกับการขายแนวราบ
บูม : โครงการจะสร้างแล้วเสร็จเมื่อไหร่
คุณวีรศักดิ์ : ที่งามวงศ์วานสร้างเสร็จพร้อมโอนประมาณมีนาคม 2557 เรวดี สร้างเสร็จพร้อมโอนประมาณมิถุนายน 2557 และ ติวานนท์ สร้างเสร็จพร้อมโอนประมาณพฤศจิกายน 2557
บูม : ปีหน้าตั้งใจเปิดกี่โครงการ
คุณวีรศักดิ์ : ตาม Business Plan เราเปิดในเมือง 5-6 โครงการ และ รอบนอกอีก 5-6 โครงการ
บูม : มี Land bank แล้วมากน้อยแค่ไหน
คุณวีรศักดิ์ : มีบางส่วนที่เตรียมไว้แต่ยังไม่ครบตาม Business Plan เนื่องจากโครงการไม่ต้องยื่นขอ EIA ทำให้การก่อสร้างทำได้เร็ว ตอบรับกลุ่มคนทำงาน ส่วนในเมืองที่มองไว้คือ รัชดา พระราม 9 สุขุมวิท ส่วนทำเลรอบนอกที่มองไว้คือ บางกรวย ประชาอุทิศ ลาดพร้าว จรัญ
โบว์ : มองภาพรวมอสังหาฯปีนี้และปีหน้าอย่างไรบ้าง
คุณวีรศักดิ์ : สำหรับตลาดคอนโดเอง ผมมองว่ายังเติบโตอยู่ ปีหน้าคาดว่าโตอย่างต่อเนื่อง โตมาทดแทน Town house มากขึ้น เนื่องจากการเดินทาง เช่น รถไฟฟ้า ทำให้คอนโดโตมากขึ้น หลายๆคนกังวลกับสถานการณ์ปีหน้า แต่ The Privacy เน้นทำโครงการที่มีคุณภาพ จำนวน 78 ยูนิตที่ขาย เรามองว่ายังมี Real Demand อยู่ ซึ่งตลาดนี้ยังคงเติบโตขึ้นได้อีกเรื่อยๆ เราพัฒนา The Privacy ให้กลุ่มคนเช่า ผ่อนได้ไม่ต่างจากที่เช่าอยู่ คิดว่าเป็นตลาดที่ไม่กระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ
โบว์ : อยากให้ฝากอะไรถึงผู้อ่านเกี่ยวกับโครงการ The Privacy
คุณวีรศักดิ์ : The Privacy เป็นแบรนด์ เป็นโปรเจคที่สร้างความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ทุกคนที่อยู่เหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ เพราะเรามีเพียง 78 ห้อง เป็น community ที่อยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่แตกต่างจากการอยู่บ้าน ใกล้ที่ทำงานและชุมชน เน้นคุณภาพ วัสดุ การออกแบบ มี Green Area มากกว่า Facility ใช้ได้จริง
คุณสุริยา : เรามีผลวิจัยร่วมกันกับคณะสถาปัตย์จุฬาฯ ผลออกมาว่ามี 3 Generation คือ 1. วัยกลางคน เป็นส่วนใหญ่ 2. ผู้สูงอายุ ที่มองหาความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการดูแลรักษาที่อยู่อาศัยเยอะ และ 3. กลุ่มวัยรุ่น ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้สถานศึกษา ทั้ง 3 กลุ่มนี้มองหาที่อยู่ที่มาอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ The Privacy สามารถรองรับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ จากผลวิจัยยังบอกอีกว่าในปี 2560 ผู้สูงอายุจะสูงขึ้น และมองหาที่อยู่อาศัยที่ใกล้กับลูกหลานได้
คุณวีรศักดิ์ : มองเป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ มีความอบอุ่น ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อเรามีบางส่วนเป็นครอบครัวเดียวกันแต่มาซื้ออยู่ด้วยกัน เพื่อให้ได้อยู่ที่เดียวกัน แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวได้อยู่ เรามองถึงคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้อยากเดินทางไกลมาก มีสิ่งเดียวคือ พ่อแม่ ต้องย้ายมาอยู่ใกล้ลูกแทน แต่สถานที่ต้องเหมาะกับผู้สูงอายุในระดับนึงด้วย เราจึงมองว่า The Privacy สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้
จากการที่ได้ร่วมพูดคุยกันวันนี้ ทำให้เราเห็นว่าแนวคิดของ The Privacy แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆของพฤกษาอย่างชัดเจน ยังไงต้องรอติดตามชมค่ะ ว่าปีหน้าทาง The Privacy ที่จะเข้าสู่ในเมืองมากขึ้น รูปแบบหน้าตาโครงการจะเป็นอย่างไร ทางทีม Think of Living จะตามไปอัพเดทข้อมูลเพื่อผู้อ่านได้ติดตามกันแน่นอนค่ะ