Mini-Series บทสัมภาษณ์ผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ตอนที่ 7
เป็นครั้งแรกนะครับที่ทาง Think of Living ได้มีโอกาสมาสัมภาษณ์ผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งทางคุณเสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร AMUST Group เจ้าของโครงการหมู่บ้าน ZENMURA ได้ให้เกียรติมาเป็นแขกรับเชิญของเราเป็นคนแรก ซึ่งทางคุณเสาวภาคย์ หรือขอเรียกง่ายๆ “พี่ต้อง” ก็ได้ให้ไอเดียไว้มากมาย กับการพัฒนาโครงการ ช่วยให้เจ้าของหมู่บ้านหน้าใหม่ได้เรียนรู้กันมากขึ้นครับ
“เรามองว่าการทำโครงการบ้านของ AMUST ทุกโครงการ จะต้องผสมผสานแนวความคิดสร้างสรรค์ โดยมีลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง พร้อมทั้งดึงปรัชญาของ AMUST ออกมาเพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ให้กับบ้านทุกหลัง ซึ่งก็คือ A: Aesthetic Experience การสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีสุนทรียภาพ M : Magnificent Design การตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า U: Unique Identity เอกลักษณ์และตัวตน สะท้อนความเป็นตัวคุณ S: Signature Quality สัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจ และสุดท้ายคือ T: Timeless Masterpiece จะต้องเป็นผลงานหรือความภาคภูมิใจของชีวิตระดับ Masterpiece ที่อยู่เหนือกาลเวลา”
ขอเริ่มถามก่อนเลยว่า ทำไมพี่ต้อง (คุณเสาวภาคย์) ถึงอยากเริ่มทำหมู่บ้าน ในวงการอสังหาริมทรัพย์ครับ
คือ เดิมทีพี่อยู่ในวงการธุรกิจของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ก่อนแล้วค่ะ พี่ก็เลยมีความคิดที่ว่าอยากจะทำบ้านที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย เพราะเราเชื่อว่าบ้านก็เป็นเหมือนการสร้างคุณภาพชีวิตค่ะ
โอเคพอเข้าใจได้ ประเด็นต่อมา คำว่า “ZENMURA” แปลว่าอะไรครับ มาที่มาจากไหนครับ
เริ่มจากการที่เราคิด Concept ของตัวโครงการก่อน คือ The Modern Zen Living คือนำความ Modern มาผสมกับความเป็น Zen นั้นคือความเรียบง่ายมีความลงตัวอย่างพอดี เราคิดว่าคนเราใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน ข้างนอกก็ทำงานมีความวุ่นวาย เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ต่อสู้อะไรมามากมาย พอแต่ละวันเรากลับบ้านมาก็อยากจะมีสถานที่ที่มีความสุขตลอด 365 วัน เพราะฉะนั้นที่ตรงเนี่ยมันต้องเป็นบ้านจริงๆ เราเลยคิดว่าบ้านจะต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิต ก็เลยคิดว่าความเป็น Zen เนี่ยมันเป็นวิถีที่มีการใช้ชีวิตที่นำเอาธรรมชาติมาหล่อหลอมรวมกัน แล้วเราก็หยิบความเป็น Modern กับความเป็น Zen มาประสานกันเป็นแนวคิด จนกลายมาเป็นที่มาของการตั้งชื่อของโครงการด้วย นอกจากนั้นในภาษาญี่ปุ่นเนี่ยคำที่แปลว่าหมู่บ้านคือคำว่า Mura เราก็เลยเอาทั้งสองคำมารวมกันกลายเป็นคำว่า “ ZENMURA คือหมู่บ้านวิถีคิดแห่ง Zen
ZENMURA เป็นโครงการแรกเลยหรือเปล่าครับ
ก็ถือเป็นโครงการแรกที่เน้นแนวไลฟ์สไตล์ค่ะ
พี่ต้องเคยทำโครงการอื่นมาก่อนรึเปล่าครับ
ทำค่ะ แต่จะเป็นลักษณะของ Mass Product ของทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว แต่โครงการนี้เนี่ยเราเริ่มทำเป็นแบบ Niche Market
ซึ่งมีวิธีคิดของเรามาจากความเป็น AMUST ก่อน คือตัวบริษัทของเราเอง ทุกครั้งที่เราจะไปทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ เราจะต้องหยิบปรัชญาของ AMUST มาเป็นแกนหลักในการทำโครงการ แล้วปรัชญาของ AMUST ก็จะอยู่ในคำของ AMUST นั่นเอง ซึ่งก็ประกอบไปด้วยตัวแรก A: Aesthetic Experience ก็คือการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีสุนทรียภาพ เพราะเรามองว่าความสุข และความสุนทรียภาพจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้ ทำให้เรามีจินตนาการดีๆและมีความสุขได้ ซึ่งการที่เราจะมีแรงบันดาลใจที่ดี เราก็ควรจะมีรูปแบบ งานสถาปัตย์ งานดีไซน์ ที่จะต้องมีความสง่างามโดดเด่นขึ้นมา ซึ่งก็คือ M: Magnificent Design เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพราะ ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราทำบ้านเพื่อขายบ้าน เราจะไม่ได้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นเราจะต้องจับตัวตนของลูกบ้านที่จะเข้ามาอยู่กับเรา นั่นก็คือ U: Unique Identity และการที่เราจะทำแบบนั้นได้และทำให้ลูกบ้านสัมผัสถึงความเป็นรูปธรรม ก็เกิดจากการที่เราคัดเลือกสเปควัสดุงานให้เป็นระดับ Signature หรือ S: Signature Quality คือเป็นสัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจ และทั้งหมดนี้จะต้อง Timeless คือเป็นตัว T: Timeless Masterpiece จะต้องเป็นผลงานหรือความภาคภูมิใจของชีวิตระดับ Masterpiece ที่อยู่เหนือกาลเวลา ทั้งหมดนี้ก็รวมกันเป็นคือ AMUST ที่เราถือเป็นแกนในการทำโครงการภายใต้ AMUST GROUP ทั้งหมด
ทาง AMUST GROUP ทำมาทั้งหมดกี่โครงการแล้วครับ
ZENMURA ดำเนินโครงการภายใต้ บริษัท AMUST Development เป็นโครงการแรกที่เรามีความภาคภูมิใจมาก เพราะเรามองว่าเป็นโครงการที่เราสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ จากที่เราเปิดไป 1ไตรมาสเนี่ย เราก็ได้เห็นเสียงสะท้อน หรือแม้กระทั่งจากลูกบ้านที่มาอยู่เอง ที่บอกเลยว่านี่แหละเป็นสิ่งที่พวกเค้าอยากได้ เหมือนบางทีที่เราอยากได้อะไร แต่เราไม่รู้ว่าเราจะบอกว่าเราอยากได้อะไร แล้วเหมือนทางโครงการทำสิ่งนี้ขึ้นมา แล้วเค้าบอก เนี่ยแหละ ใช่เลย สิ่งที่เค้าอยากได้
พี่ต้องมองเรื่องทำเลเป็นยังไงบ้างครับ
ตัว ทำเลของ ZENMURA เนี่ย เราถือว่าเราเป็นจุดศูนย์กลางของ 4 ถนนสายหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนเทพารักษ์ ศรีนครินทร์ บางนา หรือกิ่งแก้ว ถ้าเราจะออกจากโครงการไปเนี่ย ถ้าเราออกไปทางซ้าย ก็จะวิ่งสู่ถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นถนนที่สามารถจะเข้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวกสบาย หรือถ้าออกไปทางขวามือ ตรงไปก็จะเป็นถนนศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานี BTS แบริ่ง นอกจากนั้นในระหว่างเส้นเนี่ย ก็จะมีถนนซอยลัดที่ตัดไปที่ซอยบุญธรรมอนุสรณ์ สามารถเข้าวงแหวนที่ไปพระราม 2 ไปฝั่งสาทร หัวหินได้อย่างสบาย ในขณะที่ซอยลัดอีกฝั่งด้านขวา สามารถออกไปทางบางนา เพื่อไปเซ็นทรัลบางนา ไป Ikea ได้ เพราะฉะนั้นเนี่ย เรามองว่า ทำเลของที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ถ้าเราเอาความสะดวก บางทีจะไม่ได้ความสงบ แต่ถ้าเราเอาความสงบ บางทีความสะดวกก็ไม่มาเช่นกัน แต่เรามองว่าตัว ZENMURA เนี่ยเป็นจุดศูนย์กลางของ 4 ถนนสายหลักที่ได้ทั้งความสะดวกและความสงบภายในเวลาเดียวกัน
อยากจะขอถามเรื่องขั้นตอนการพัฒนาด้วย พี่ต้องคิดว่าการสร้างหมู่บ้าน มันต้องมีอะไรบ้าง คิดแนวไหนบ้านถึงออกมาเป็นรูปแบบนี้
แนว คิดในการทำโครงการก็ต้องเริ่มจากการที่เรามีแกนความคิดใหญ่ของเราหล่ะ คือปรัชญา เราใช้กรอบความคิดสร้างเป็นโมเดลที่มี 5 มุมมองขึ้นมาสำหรับการทำโครงการ รวมถึงการที่เราได้คอนเซปต์โครงการก่อนซึ่งก็คือความเป็น The Modern Zen Living และความเป็น Zen จึงกลายมาเป็นโจทย์และกรอบให้กับ Architect ทำเป็นรูปแบบโมเดลที่มี 5 มุมมองขึ้นมา เริ่มตั้งแต่ความคิดแรก ‘คิดพื้นที่จากพื้นฐาน’ ซึ่งก็คิดจากพื้นที่การใช้ชีวิตของคนเราในการจัดการใช้งานของบ้าน เพราะถ้าเราทำบ้านในแบบที่เป็น Mass ทั่วไปเนี่ย Pattern เราจะเหมือนเดิม แต่ถ้าสำหรับโครงการ ZENMURA เราก็วาง Pattern ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยจริงๆ เช่น การที่เราทำ Function บ้านให้เป็น Open Plan Open Space ซึ่งลูกค้าสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นตัวแบ่งประโยชน์พื้นที่ใช้สอยของบ้าน รวมถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์สามารถที่เป็นตัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณด้วย
อย่างแปลน Living Room อยู่กลางบ้านล่ะครับ เป็นส่วนหนึ่งไหม?
ใช่ค่ะ เพราะเราต้องการให้ส่วนของ Living Room เปิดโล่ง ผู้อยู่อาศัยสามารถมองเห็นสวนของคุณได้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ Living Room เท่านั้น แต่เราทำให้ทุกมุมมองของบ้านไม่ว่าคุณจะอยู่จุดไหนของบ้านจะต้องมองเห็นสวน เหมือนสวนเป็นจุดเชื่อมต่อของบ้าน เราก็เลยตั้งคอนเซปต์นี้ขึ้นมาที่เป็นอีกมุมใน 5 มุมมองดังกล่าวก็คือ ‘สวนของคุณต้องทักทายคุณ ไม่ใช่สวนของเราต้องไปทักทายคนอื่น’ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะสังเกตุได้ว่าภายในตัวบ้าน เราจะสามารถเห็นสวนได้จากทุกมุมมอง หรือแม้กระทั่งอยู่บนห้องนอน เราก็สามารถชมสวนได้ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในรูปธรรมที่เราสามารถจับต้องได้
คราวนี้กลับมาที่การคิดพื้นที่จากพื้นฐาน การวาง Function ของบ้าน เราลงรายละเอียดและให้ความสำคัญจนถึงการวางสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ถ้าห้องนอนใหญ่ เราจะวางสุขภัณฑ์ห้องน้ำกับที่อาบน้ำให้อยู่ในที่ที่ปกปิด ไม่ใช่ว่าเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปจะต้องเจอสุขภัณฑ์ เราจัดให้ห้องน้ำเป็นห้องที่เข้าไปแล้วมีความสุข มีความสุนทรี เห็นอ่างอาบน้ำลอยเท่ๆอยู่กลางห้อง ส่วนอื่นที่ไม่น่าจะโชว์ก็จะไปอยู่ในส่วนที่มีผนังกั้นไว้ นอกจากนี้อีกหนึ่งมุมมองที่เป็นรูปธรรมชัดเจนก็คือ ‘เพราะคุณเป็นคุณ’ ห้องเพราะคุณเป็นคุณ คือเรามองว่า คนเรามีตัวตน มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องมีที่ให้เค้าแสดงออก ก็เลยมีห้อง Multipurpose ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านเป็นผนังกระจก ซึ่งเป็นเหมือน Display ของบ้าน เวลาที่มีแขกมาบ้าน เราก็อยากจะมีห้องที่สามารถโชว์ความเป็นตัวตนของเราจริงๆ แต่ถ้าส่วนห้องที่มีความเป็นส่วนตัวก็จะมาอยู่ข้างใน
นอกจาก โครงการ ZENMURA แล้ว AMUST มีแผนการในอนาคตเป็นยังไงบ้าง
คือในปลายเดือนนี้ เราจะมีโครงการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เหมือนกัน แต่จะอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น มีชื่อโครงการว่า LAKE NAKARA
พี่เคยอยู่ที่ขอนแก่นมาก่อนรึเปล่าครับ หรือว่ายังไง
ที่ขอนแก่นนี้ เรามี Partner ที่เป็นคนท้องถิ่น และเป็นผู้มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่ะ
อ่อครับ ชื่อโครงการ LAKE NAKARA นี่อยู่แถวๆ บึงแก่นนคร รึเปล่าครับ
ไม่ใช่ค่ะ โดยทำเลเนี่ย ต้องบอกว่า ‘สองนาทีถึงมอ(ม.ขอนแก่น) สามนาทีถึงเมือง’ และเรายังเป็นทำเลที่มีทะเลสาบอยู่ในโครงการ
พื้นที่นี่ใหญ่มั้ยครับ
ทั้งหมดประมาณ 70 กว่าไร่ นอกจากนี้บ้านของเรายังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนถึง 3 กลุ่ม มีบ้านหลากหลายให้เลือกถึง 6 แบบด้วย
มาถึงคำถามต่อไปล่ะครับ ถ้ามีลูกค้าเดินเข้ามาหาพี่ต้อง บอกว่าอยากได้บ้านซักหลังนึง อยากให้พี่ต้องแนะนำเค้าซัก 3 ข้อ พี่จะแนะนำเค้าเรื่องอะไรบ้างครับ
เอาแบบตรงไปตรงมาเลยนะครับ
ขั้น แรกเนี่ยคุณจะต้องหาบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณให้ได้ก่อน เพราะคนเราถ้าจะตัดสินใจมีบ้านซักหลัง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะบ้านเราไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ ฉะนั้นคุณต้องดูว่าบ้านหลังนี้ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณได้มั้ย ให้คุณภาพชีวิตที่ดี ให้ความสุขทุกย่างก้าวของชีวิตคุณ เป็น All Moment of Life ของคุณหรือเปล่า
ส่วน ข้อที่สองคือสังคมและสภาพแวดล้อมภายในโครงการ รวมถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ด้วยกัน เราควรอาศัยอยู่กับกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน มีความชอบคล้ายกัน ควรเป็นโครงการที่มีความโดดเด่น แต่เป็นโครงการที่ไม่ใหญ่มาก ที่จะทำให้มีสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ส่วนปัจจัยสำคัญสุดท้ายก็คือ ทำเล อย่างที่บอกไปว่า ถ้าเราเอาความสะดวก บางทีจะไม่ได้ความสงบ ถ้าเราเอาความสงบ บางทีความสะดวกก็ไม่มาเช่นกัน เพราะงั้นคุณต้องหาที่ที่มีทั้งความสงบและความสะดวกอยู่ด้วยกัน
สุดท้ายครับ ในฐานะที่พี่ต้องเป็นหนึ่งใน Developer ถ้าลูกค้าคนนึงกำลังจะเลือกซื้อระหว่างคอนโดแนวสูง หรือบ้านแนวราบ คือบางทีราคาใกล้เคียงกันมาก เช่น บ้านก็ 4-5 ล้าน คอนโดก็ 4-5 ล้าน พี่มีคำแนะนะในการตัดสินใจยังไงบ้างครับ
คือ ถ้าคนที่ซื้อคอนโด 4-5 ล้านได้ พี่มองว่าเค้าไม่ได้ยึดเอาปัจจัยความคุ้มค่าอย่างเดียว แต่ต้องไปดูด้วยว่าบ้านต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตเค้าได้จริงๆ ทำให้ทุกวันมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดแนวสูง หรือบ้านแนวราบ ขอแค่ต้องสามารถตอบโจทย์ชีวิตให้ได้
ครับ ขอบคุณพี่ต้องมากครับ
Mini-Series บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร Real Estate โดย ThinkofLiving.com