นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาจราจรใน 6 เมืองใหญ่ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น พิษณุโลก และสงขลา (หาดใหญ่) เนื่องจากผลการศึกษาเดิมทำไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ปัจจุบันการพัฒนาหัวเมืองใหญ่จะเดินตามรอยกรุงเทพฯ ทั้งการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ขณะที่ผังเมืองยังควบคุมไม่ได้เต็มที่ ทำให้เมืองมีการเติบโตและขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง จึงประสบปัญหารถติด ไม่ต่างจากกรุงเทพฯ
“การแก้รถติดเมืองใหญ่ สนข.ศึกษามา 7-8 ปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการผลักดันให้เป็นจริง เพราะว่าขณะนั้นยังไม่คุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากเมืองยังไม่หนาแน่น มีคนใช้บริการน้อย จึงต้องเก็บผลการศึกษาไว้ ตอนนี้การจราจรหนาแน่น สภาพเมืองเปลี่ยนไป ที่ศึกษาไปก็ใช้ไม่ได้ เพราะเมืองโต เปลี่ยนหมดทุกอย่าง ต้องศึกษาทบทวนกันใหม่ อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าปีหน้าจะสรุปได้แต่ละเมืองจะ แก้ปัญหารูปแบบไหนถึงจะเหมาะสม”
สำหรับแผนการแก้ปัญหา ผอ.สนข.กล่าวว่า ในระยะสั้นจะเป็นการปรับด้านกายภาพ เช่น ปรับสัญญาณไฟจราจร ตีเส้นการจราจรใหม่ ระยะกลางจัดระเบียบระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่เดิมให้คนมาใช้บริการมากขึ้น ขณะที่ระยะยาวต้องมีการลงทุนระบบขนส่งมวลชนสาธารณะรูปแบบใหม่มารองรับการเดินทางตามความเหมาะสมของแต่ละเมือง เช่น รถบีอาร์ที รถรางไฟฟ้า (แทรม) รถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) รถไฟฟ้ารางเบา (ไลต์เรล) เป็นต้น
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ยกตัวอย่างกรณีที่เคยศึกษาทั้ง 6 จังหวัดให้ฟังว่า
- จ.เชียงใหม่ผลการศึกษาเมื่อปี 2552 จะแก้ปัญหาโดยรถบีอาร์ที แต่โครงการไม่คุ้มค่า จึงยังไม่ได้รับการผลักดัน ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก ทั้งการลงทุน นักท่องเที่ยว คนอพยพไปตั้งถิ่นฐานมาก ระบบผังเมืองก็เปลี่ยนใหม่หมด ทำให้ต้องศึกษาโครงการใหม่ โดยนำผลการศึกษาเก่ามาเป็นฐานข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าในการลงทุน
- จ.นครราชสีมา เทศบาลเมืองเคยเสนอโครงการบีอาร์ทีไฟฟ้า แต่ไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากไม่มีเงินลงทุน จึงของบประมาณจากรัฐบาลสนับสนุนโครงการ
- จ.ขอนแก่นที่เอกชนท้องถิ่นจะเสนอตั้งกองทุนเพื่อมาลงทุนโครงการ บีอาร์ที ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องรอผลการศึกษาของ สนข.ให้เสร็จก่อน จ
- จ.พิษณุโลกเพิ่งได้รับงบประมาณปีนี้ ศึกษาออกแบบโครงการจากเดิมเคยเสนอโครงการบีอาร์ที
- จ. ภูเก็ตชัดเจนว่าเป็นรถแทรม แต่รอสรุปรูปแบบการลงทุน ว่าจะเป็นรัฐบาลกลางโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงทุน ท้องถิ่น เอกชน หรือรัฐร่วมกับเอกชน ในหลักการจะดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม PPP โครงการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น
- จ.สงขลาทางจังหวัดมีข้อเสนอเป็นรถแทรม
สิ่งที่ สนข.ทำจะเหมือนกรุงเทพฯ ให้มีแผนแม่บท เป็นโรดแมปของแต่ละจังหวัดพัฒนาไปอีก 10-20 ปี ข้างหน้าให้ลงทุนพัฒนาโครงการตามที่แผนแม่บทกำหนด ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ต้องเดินตามแผนนี้ ไม่งั้นจะเหมือนที่ผ่านมาก็คิดและศึกษากันไปเรื่อย ๆ จึงไม่ได้รับการผลักดัน อย่างจริงจัง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ