นายโกศล โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า “สืบเนื่องจากการชะลอตัวของความต้องการสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2560 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% หรือประมาณมูลค่าที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับกับความต้องการสร้างบ้านที่ตกค้างจากปีที่แล้ว เป็นเหตุให้บริษัทรับสร้างบ้านต่าง ๆ งัดกลยุทธ์การลดราคาออกมาใช้เพื่อดึงยอดผลประกอบการของปีนี้ให้สูงขึ้นจากเดิม โดยพบว่าส่วนลดของการรับสร้างบ้านค่อนข้างสูงมากอย่างน่าตกใจ ซึ่งต้องแสดงความเป็นห่วงไปยังผู้บริโภคให้ใช้วิจารณญาณในการเลือกใช้บริการ โดยแนะนำให้คำนึงถึงความเหมาะสมด้านราคาและคุณภาพของงานสร้างเป็นหลัก”
นายโกศล กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของปี 2559 ที่ผ่านมา รอแยลเฮ้าส์ไม่สามารถทำยอดขายได้ตามที่กำหนดไว้ โดยยอดที่ทำได้ลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้ 15% แม้ว่า 3 ไตรมาสแรกของปี บริษัทจะสามารถปิดยอดผลประกอบการได้ถึง750 ล้านบาท แต่ในช่วงปลายของไตรมาสที่ 3 ผู้บริโภคกลับใช้เวลาในการตัดสินใจสร้างบ้านนานมากกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถปิดการขายลากยาวมาถึงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่กับประชาชนชาวไทยขึ้น ผู้บริโภคไม่อยู่ในสภาวะที่จะตัดสินใจสร้างอะไรใหม่ ๆ ส่งผลให้รอแยลเฮ้าส์ต้องปิดยอดผลประกอบการในปี 2559 ไปอย่างไม่ถึงเป้า แต่กระนั้น รอแยลเฮ้าส์ก็ยังคงยืนยันที่จะไม่ลงไปร่วมในสงครามการลดราคาที่กำลังดุเดือดและน่ากังขา แต่เสนอเป็นสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ให้กับผู้บริโภคแทน เนื่องจากยึดถือในมาตรฐานงานก่อสร้างและความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นหลัก
โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ขนาดบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของรอแยลเฮ้าส์ คือบ้านกลุ่มราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมด โดยผู้บริโภคนิยมสร้างบ้านแบบ คอนเทมโพรารี่ มากที่สุดถึง 50 หลัง
“สำหรับปี 2560 รอแยลเฮ้าส์ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยจะใช้กลยุทธ์ในการดำเนินงานแบบ Multigen Strategy ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคทั้ง 3 เจนเนอเรชั่น เนื่องจากผลรายงานของบริษัทพบว่า กลุ่มลูกค้าของรอแยลเฮ้าส์มีการขยับสัดส่วนของอายุลดลง โดยเป็นกลุ่มคนตั้งแต่ 25-70 ปีขึ้นไป จากเดิมที่จะเป็น 45 ปีขึ้นไปอย่างเดียว อันแสดงว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ เริ่มมีความสนใจในการสร้างบ้านเองมากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม รอแยลเฮ้าส์จึงวางแผนการสื่อสารและการตลาดให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
โดยสำหรับกลุ่มลูกค้า Baby Boomer อันถือเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าแก่ที่มีความภักดีต่อแบรนด์ การตลาดแบบ Word of Mouth ยังใช้ได้ดี ซึ่งนั่นหมายความว่าผลงานการสร้างบ้านของรอแยลเฮ้าส์ต้องดีพอที่จะบอกต่อด้วย และรอแยลเฮ้าส์ก็มีความมั่นใจเป็นอย่างมากในส่วนนี้ ถัดมากับกลุ่ม Gen X อันเป็นกลุ่มคนที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีกำลังซื้อ มีไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ผสมผสานกับคนรุ่นเก่า สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรอบด้าน กิจกรรมทางการตลาดที่เหมาะสมกับคนกลุ่มนี้จึงเป็นการให้ข้อมูล โน้มน้าวใจด้วยเหตุผล และการสื่อสารทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ส่วนกลุ่มสุดท้าย คือ Gen Y ที่เริ่มมาเป็นลูกค้าของรอแยลเฮ้าส์ และ มองว่าจะกลายมาเป็นลูกค้าของรอแยลเฮ้าส์ในอนาคต ก็ได้มีการวางแผนการตลาดแบบคิดนอกกรอบในสื่อออนไลน์ เช่น campaign ช่างแซ่บที่มียอดการเข้าเห็นถล่มทลายกว่า 700,000 ครั้ง การปรับปรุง website ครั้งใหญ่ที่กำลังเริ่มดำเนินการ การเริ่มใช้ RH Workflow ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้เกิดขึ้นในคนกลุ่มนี้”
นายโกศล ยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “สำหรับเทรนด์การสร้างบ้านในปี 2018 มีเทรนด์ที่น่าสนใจ อันได้แก่ Solitude การสร้างบ้านสำหรับประชากรโสดที่เพิ่มอัตราสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน, Safe & Secure เน้นเรื่องความปลอดภัย Soaring การสร้างบ้านในพื้นที่จำกัดแต่เพิ่มชั้นให้สูงขึ้น และ Space Solutions ที่มีการจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยเทรนด์การสร้างบ้านดังกล่าวนี้ รอแยลเฮ้าส์ก็ได้นำมาพัฒนาและออกแบบบ้านเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเรามีแบบบ้านใหม่ถึง 2 แบบ มานำเสนอให้ทุกท่านได้ชมกัน และทุกท่านจะสามารถพบกับแบบบ้านใหม่นี้ รวมถึงแบบบ้านทั้งหมดของรอแยลเฮ้าส์ พร้อมทั้งคำแนะนำและการให้คำปรึกษาในทุกเรื่องของการสร้างบ้าน ได้ในงานมหกรรมรับสร้างบ้าน ระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคม 2560 ที่บูธหมายเลข V3 ชั้น 1 เซนทรัลพลาซา ลาดพร้าว พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษมานำเสนอ คือ โปร 4 ต่อ
- ส่วนลดสูงสุดถึง 10%
- โปรโมชั่นสูงสุด point*10 กับธนาคารไทยพาณิชย์
- แถมทอง 1 บาท สำหรับปลูกสร้างบ้านเกิน 3.5 ล้านบาท
- โปรโมชั่นร่วมกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน”