พื้นนั้นสำคัญไฉน [Infographic]

สวัสดีค่า พบกันอีกครั้งกับ  Infographic ตอนที่ 11 วันนี้เราขอนำเสนอ “พื้นนั้นสำคัญไฉน” โดยสำรวจข้อมูลจากคอนโดสร้างเสร็จระหว่างปี 2014-2015  ซึ่งจากการหาข้อมูลใน www.thinkofliving.com คร่าวๆ เราสามารถแบ่งประเภทวัสดุที่ใช้ปูพื้นในคอนโดได้ดังนี้

1. ไม้ลามิเนต (Laminated Flooring)

ลามิเนต คือ วัสดุทดแทนไม้ ภายในมีคุณสมบัติคล้ายกระดาษอัดแข็ง ปิดผิวด้านบนด้วยแผ่นผิวให้ดูเหมือนไม้ โดยมาตรฐานความหนาของแผ่นลามิเนตมีอยู่ 2 ขนาด คือ 8 mm. และ 12 mm. 

ข้อดีของลามิเนตคือ ให้ความรู้สึกคล้ายไม้จริง แต่ราคาและงบประมาณในการดูแลถูกกว่า และการยืดหดของไม้ก็น้อยกว่าไม้จริง ส่วนข้อเสียคือ ถ้าช่างปูพื้นปรับสภาพพื้นผิวไม่ดีจะทำให้คุณภาพของการใช้งานลดลง ปูได้ไม่นานพื้นก็โป่งบวมออกมา

พื้นไม้ลามิเนตต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก เนื่องจากการออกแบบสำหรับการใช้งานที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ จึงหมดปัญหาเรื่องการเก็บฝุ่นเหมือนพื้นกระเบื้อง ทำให้บรรยากาศของการพักอาศัยดีขึ้นไปด้วย สังเกตได้ว่าคอนโดระดับ Super Economy-High Class ปูด้วยลามิเนตเป็นหลัก

2. ไม้วีเนียร์  (Wood Veneer)

ไม้วีเนียร์  คือ วัสดุปิดผิวที่ได้จากการฝานลำต้นไม้ออกมาเป็นแผ่นบางๆ ราว 0.5 mm. แล้วนำไปปิดบนผิววัสดุที่ต้องการ ซึ่งปิดได้ทั้งบนพื้นผิวเรียบแบนและพื้นผิวโค้ง โดยมีความยาวไม่จำกัด ปัจจุบันไม้วีเนียร์มีหลายลักษณะเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน

3. ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood)

ไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นพื้นไม้ที่มีความสมจริงมากขึ้น มีการนำไม้จริงๆมาปิดเป็นหน้า ตัวโครงสร้างจะคล้ายๆกับพื้นไม้ลามิเนตคือมีแกนกลางและแผ่นรองปูพื้น จะต่างกันก็ตรงผิวหน้าที่ได้ไม้จริงหนาประมาณ 3.5 – 4 mm. ผิวสัมผัสของพื้นไม้แบบนี้ก็จะให้ความรู้สึกสมจริงมากขึ้น แต่การบำรุงรักษาแตกต่างจากไม้จริง เพราะเมื่อใช้งานไปนานๆแล้วจะไม่สามารถขัดผิวหน้าทำสีใหม่ได้เหมือนลายไม้ ดังนั้นถ้าจะเลือกติดตั้งพื้นไม้ประเภทนี้ควรเลือกยี่ห้อที่มีการเคลือบผิวหน้าที่ดีทนทานต่อการใช้งาน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผิวหน้าไม้มักจะผ่านกรรมวิธีเสริมความแข็งแกร่งของผิวหน้าอยู่แล้ว

ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง ไม้เอ็นจิเนียร์นิยมถูกนำมาใช้ในคอนโดมิเนียมระดับ Upper Class ขึ้นไป

4. กระเบื้องเซรามิค (Ceramic Tile) เป็นวัสดุที่มักจะถูกใช้งานในส่วนของห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องน้ำ หรือพื้นที่ๆต้องทนต่อความชื้นและการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เพราะคุณสมบัติของกระเบื้องจะมีค่าการดูดซับน้ำที่ค่อนข้างต่ำ

5.กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granito Tile)

แกรนิตโต้ มีชื่อเรียกที่หลากหลาย ทั้ง Homogeneous Tile, Granite Tile, Granito Tile, Porcelain Tile แต่โดยรวมๆแล้วเนื้อวัสดุจะถูกเรียกว่า Porcelain วิธีการผลิตทำได้โดยการนำเศษหินแกรนิตมาย่อยสลายเป็นผงๆและขึ้นรูปเป็นแผ่นด้วยความร้อนสูง หลังจากนั้นจะมีการตกแต่งผิวหน้าเป็นแบบขัดผิวหน้าและไม่ขัด แต่สิ่งที่ควรดูเวลาซื้อคือด้านข้างของแผ่นว่าเนื้อของกระเบื้องเป็นแบบ Porcelain ทั้งแผ่นหรือไม่ เพราะมีบางรุ่นบางยี่ห้อที่ใช้เนื้อ Porcelain แค่ผิวหน้า ทำให้การแข็งแรงโดยรวมลดลง การบำรุงรักษาของวัสดุจะทำได้ง่ายหน่อยเพราะแกรนิตโต้จะมีรูพรุนที่พื้นผิวน้อยทำให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกไม่เข้าไปเยอะ

6. หินอ่อนอัด ( Compress Marble)