แม้ว่าชื่อของ “ปริญสิริ” จะปรากฎบนหน้าสื่อไม่มาก แต่สำหรับลูกค้าที่มองหา “บ้านหลังแรก” ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ้านของ “ปริญสิริ” เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
เป็นเวลาสิบกว่าปี ที่ “คุณสิริลักษณ์ โกวิทจินดาชัย” ก่อตั้ง “ปริญสิริ” ขึ้นมา ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์ของบ้านที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ” โดยมุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้มีความยั่งยืน ให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติมากขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ดี ดังนั้นจุดเด่นของทุกๆ โครงการของปริญสิริ คือบรรดาพันธุ์ไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงาแก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการ
และเมื่อถึงคราวลูกชายคนเดียวอย่าง “คุณปริญญา โกวิทจินดาชัย” ร่วมบริหาร ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสายการตลาดของบริษัทฯ คุณปริญญาก็ยังคงให้ความสำคัญกับแนวคิดนี้อย่างเหนียวแน่น
Think of Living มีโอกาสพบคุณปริญญา โกวิทจินดาชัย โดยเลือก “โครงการซิตี้เซนส์ พระราม 2 – ท่าข้าม” โครงการทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ ย่านพระราม 2 เป็นสถานที่ในการสัมภาษณ์ ซึ่งแม้จะเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่การคัดสรรต้นไม้ขนาดใหญ่ และความเขียวชอุ่มของโครงการ ก็สะท้อน “หัวใจหลัก” ของปริญสิริได้เป็นอย่างดี
“ตอนที่ปริญสิริก่อตั้ง ประมาณปี 2000 เนื่องจากคุณแม่เป็นคนชอบต้นไม้ บ้านของปริญสิริตั้งแต่ยุคแรก จึงเน้นเรื่อง “เสน่ห์ของบ้านที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ” ซึ่งโครงการที่พัฒนาในช่วงนั้น ก็ได้รับรางวัล Gold Nugget Awards ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับราคา B+ และ A- มาหลายปี จนผมได้มาดูแลโครงการ “ปริญญ์ สาทร–ราชพฤกษ์” เลยลองกลับมาดูว่า สมัยก่อน เราคือ “เสน่ห์ของบ้านที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ” แต่คำว่า “ธรรมชาติ” ในสมัยนั้นคือ “ต้นไม้” ผ่านมา 10 กว่าปี เราตีความใหม่เป็นคำว่า “Sustainability” กลายเป็นเรื่องของ Green Technology, Green Material, Green Design เลยเป็นที่มาของแนวคิด “Oxygen Community” ที่ ปริญญ์ สาทร–ราชพฤกษ์
หลังจากพัฒนาโครงการต้นแบบ แนวคิดนี้ก็ถูกส่งต่อไปยังโครงการอื่นๆ ที่พัฒนาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นฟอร์เร่ ศาลายา ซึ่งก็เป็นโครงการที่ได้รับรางวัลในเรื่องของ Green หรือแม้แต่โครงการทาวน์โฮมซิตี้เซนส์ พระราม 2–ท่าข้าม”
นอกจากให้ความสำคัญต่อการสร้างสังคมการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Oxygen Community” แล้ว “พลังงานทดแทน” ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณปริญญาให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“ผมเรียนจบ Entrepreneurship จาก Babson College แล้วมาทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย 1 ปี ในแผนก Multi Corporate ดูแลลูกค้า ช่วงนั้นมีโอกาสได้ดูแลลูกค้ากลุ่มโซล่าร์ฟาร์มยุคแรกๆ ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทน, โซล่าร์เซลล์ แล้วก็ชอบมาก รู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับประเทศเราที่มีแสงแดดเยอะ พอได้เข้ามาเรียนรู้งานที่ปริญสิริ แล้วจับโครงการแรกคือปริญญ์ สาทร–ราชพฤกษ์ จึงพยายามนำ “พลังงานทดแทน” มาใช้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด”
“การนำแนวคิด “Oxygen Community” และ “พลังงานทดแทน” มาใช้ในโครงการของปริญสิริ ความท้าทายคือเรื่องของต้นทุน กับ Value ที่ลูกค้าให้ต่อสิ่งที่เราใส่เข้าไป เราต้องพยายาม Balance ให้มันเป็น Benefit
อย่างโครงการปริญญ์ สาทร–ราชพฤกษ์ สิ่งที่เอามาใช้จะเป็นการดีไซน์ฟังก์ชั่นบ้าน “L-SHAPE”
ปัจจุบันมี “C-SHAPE” เพิ่มขึ้นมา ซึ่งแบบบ้านทั้ง 2 แบบก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งยังได้รับรางวัล บ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ด้านสถาปัตยกรรม จาก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ถึง 2 ปี นอกจากนั้น ยังมีการใช้ Green Material ในวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างภายในบ้าน, LED บนถนนเมนรอบโครงการ และ Bike Lane โดยคุณภาพของโครงการจะต้องสอดคล้องกับคุณภาพการใช้ชีวิตของลูกบ้านด้วย”
จากวันแรกถึงวันนี้ มีการวางรูปแบบสินค้าเปลี่ยนไปอย่างไร?
“ตั้งแต่แรก…ปริญสิริจะถนัดสินค้าประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ถ้าดู Product Mix 2-3 ปีที่ผ่านมาก จะเห็นว่า บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ประมาณ 80% คอนโดประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ และปีนี้ก็น่าจะอยู่ประมาณนั้น เพราะเป็นสินค้าที่เราถนัด แต่อนาคต เรามีแผนทำคอนโด Low Rise เพิ่มขึ้น เพราะเรามีความเชี่ยวชาญจากการทำกลุ่มคอนโด Zelle ไม่ว่าจะเป็น Zelle รัตนาธิเบศร์ Zelle ศาลายา ปัจจุบันเราเริ่มเข้าใจตลาดนี้ และมี Capability การก่อสร้างให้ได้คุณภาพที่ดี ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม”
ปัจจุบันปริญสิริ พัฒนาโครงการมาแล้วหลายโครงการ ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม คอนโด สำหรับในปีนี้เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ เป็นทาวน์โฮมย่านรังสิต และคอนโด Low Rise ใกล้สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู โดยตั้งเป้าบริษัทฯ โตประมาณ 5-10%
“เราพยายามเน้นสินค้าที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้าได้มากที่สุด สินค้าที่เราเข้าใจลูกค้า สินค้าที่เราถนัด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด”