ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาวะเปราะบาง เนื่องจากโดนกระทบจากวิกฤตหลายครั้ง การฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ และการเติบโตทางศก. ยังคงกระจุกตัวอยู่เพียงแห่งเดียว
ปัจจัยกระทบจากต่างประเทศ
- USA ยังคงต้องจับตาดูจากนโยบายใหม่ของ Donald Trump
- จีน ปีที่ผ่านมาชะลอตัว 6.5% เนื่องจากเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนไหลออกความสัมพันธ์กับ USA และอยู่ระหว่างการปฏิรูป ศก.
- EUROPE ผลกระทบจาก Brexit การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของประเทศต่างๆ และปัญหาทางศก.ของกรีซและอิตาลี
แต่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพรวมที่ดี คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ 3.6% เนื่องจากมีความเข้มแข็งจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนภาครัฐ และแรงสนับสนุนจากการส่งออก ซึ่งภาครัฐมองว่าสามารถออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถ้ามีความจำเป็น
อสังหาริมทรัพย์: ภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ
ถือเป็นหนึ่งภาคใหญ่ที่เชื่อมโยงกับด้านอื่นๆ อาทิ การก่อสร้าง การจ้างงาน วัสดุก่อสร้าง และการเงิน โดยมีสัดส่วนเป็นอันดับที่สี่ในการผลิตของไทย คิดเป็น 8.3%
รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนด้านอสังหาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอน–จดจำนอง ลดภาษีบ้านหลังแรก และบ้านประชารัฐ ซึ่งแม้ว่ามาตรการจะครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็ยังมีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการว่า อสังหาในอยู่ภาวะชะลอตัว เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาบ้าน–คอนโดปรับตัวขึ้นไปอีก และในอนาคตรัฐบาลอาจออกมาตรการสินเชื่อเพื่อให้ผู้ประกอบการระดมทุนได้มากขึ้น
ถ้ามองจากภาพรวมแล้ว อสังหาริมทรัพย์จะโตได้จากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาโครงสร้างพื้นทาง และการกระจายระบบคมนาคม กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในพื้นนอกรอบ กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น
โดยรัฐบาลต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโอกาสลงทุนของอสังหา ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่ม Supply-demand ในตลาด เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแท้จริง