เพราะแอร์กับบ้านเป็นของคู่กัน  โดยเฉพาะในเมืองไทยบ้านเราที่อากาศพร้อมจะแตะ 40 องศาเซลเซียสได้ทุกวัน  แต่จะว่ากันแล้วปัญหาจุกจิกอย่าง  แอร์เสีย  จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาคลาสสิกของคนมีบ้านไปแล้วเช่นกัน  ที่ต้องรับภาระค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมแอร์สักตัวนึงกันไปไม่น้อยทีเดียว  บางทีซ่อมยังไม่พอ  ซ่อมกันบ่อย ๆ ก็ชักไม่ไหวต้องซื้อแอร์ใหม่แก้ปัญหากันเลยทีเดียว  แต่เอะอะซื้อใหม่นี่ก็จะไหวหรอ ?  ทำให้  “แอร์ยี่ห้อไหนทนที่สุด”  ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ผู้คนนิยมค้นหากันทางอินเตอร์เนตตามมา

สำหรับคนที่กำลังมองหาแอร์ตัวใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกคนในบ้านกันอยู่ ก็คงกำลังมีเครื่องหมายคำถามมากมายเกี่ยวกับแอร์  ว่าแต่  “ทนแล้วดียังไง”  น่าจะเป็นคำถามหลักสำหรับเจ้าของบ้านที่กำลังเล็ง ๆ แอร์กันอยู่  และ  เพราะความทนจริงหรอ?? ที่ทำให้ Mitsubishi heavy duty ครองใจทุกบ้าน  งั้นไปดูกันเลยดีกว่าว่า  Mitsubishi heavy duty นั้นทนและดียังไงบ้าง

1.เพราะ Mitsubishi Heavy Duty ทนทานยาวนานคู่อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี

เริ่มต้นกันด้วยชื่อเสียงอันยาวนานระดับตำนานของเครื่องปรับอากาศของญี่ปุ่น ชื่อเสียงของแบรนด์ Mitsubishi heavy duty อยู่คู่กับอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ มาอย่างยาวนาน ทำให้แบรนด์มีความเข้มแข็ง ประกอบกันการทำตลาดเครื่องปรับอากาศในภายหลังก็ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพอีกมากมาย จนทำให้ทุกวันนี้ Mitsubishi Heavy Duty ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศก็กลายเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศระดับโลกเช่นเดียวกัน

2.เพราะ Mitsubishi Heavy Duty “เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ

นอกเหนือจากความทนทาน  สิ่งที่ต้องมาพร้อมกันเพื่อมัดใจผู้ใช้แอร์ให้อยู่หมัดนั้น  ก็ต้องเป็นความเย็นที่รวดเร็วทันใจ  และความประหยัดไฟที่จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้งานในระยะยาวอีกด้วย

สำหรับเรื่องความเย็นเร็ว  เย็นฉ่ำ  ทันใจนั้น  Mitsubishi Heavy Duty  มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดทันสมัยด้วยระบบ Jet flow หรือการออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีชนิดเดียวกับที่ใช้ในเครื่องบินเจ็ท  พร้อมส่งความเย็นไปได้ไกลสูงสุดถึง 17 เมตร , Hi power หรือฟังก์ชั่นโหมดการทำงานพลังสูง เร่งรอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศช่วยทำให้ห้องเย็นเร็วตามอุณหภูมิที่กำหนดได้ภายในเวลาเพียง 15 นาทีทั้งยังมีฟังก์ชั่นกระจายลมทั่วทุกมุมห้อง 3D Auto คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง ที่จะช่วยปรับระดับความแรงของลมเย็นอัตโนมัติให้สามารถกระจายความเย็นไปให้ทั่วถึงทุกจุดทุกมุมห้อง  ฟังก์ชั่นที่ช่วยปรับบานสวิงอัตโนมัติในแนวตั้ง 6 รูปแบบและแนวนอน 8 รูปแบบ ช่วยให้เครื่องปรับอากาศสามารถกระจายลมเย็นได้ทั่วทุกมุมห้อง

เท่านี้ยังไม่พอ  แค่เย็นเร็วอย่างเดียวนั้นยังไม่เท่าไหร่  เพราะให้โดนใจสุด ๆ ก็ต้องประหยัดไฟด้วย  กับเทคโนโลยี Inverter แท้ทั้งระบบ  หรือ Inverter 100%  (Real Inverter)  ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  รักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดระยะเวลาการใช้งานและประหยัดไฟ  ด้วยเทคโนโลยีแบบเหนือชั้น  ทั้ง 4 ชิ้นส่วนซึ่งทำงานสอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ  อันได้แก่

  • แผงวงจรอัจฉริยะ DC PAM Inverter ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์ ปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงานให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • DC Motor มอเตอร์กระแสตรง  ช่วยควบคุมความเร็วรอบและเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ
  • วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV (Electronic Expansion Valve) ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็น เพื่อให้วงจรสารทำความเย็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด รักษาอุณหภูมิได้คงที่
  • DC Compressor คอมเพรสเซอร์กระแสตรง ปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงานให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้อง  ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

บอกเลยว่าต้องลองใช้  Mitsubishi Heavy Duty  ดูแล้วจะรู้ว่าระบบ Inverter ที่แท้จริง  ประหยัดไฟได้ขนาดไหน

3.เพราะ Mitsubishi Heavy Duty ทนทานจริงทุกชิ้นส่วน จนกล้ารับประกันชิ้นส่วนทุกชิ้นนานถึง 5 ปี

ด้วยอะไหล่แท้  คุณภาพดี ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต  ได้รับการรับรองระบบคุณภาพและมาตรฐาน   สิ่งแวดล้อมและระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจาก TUV NORD  อาทิเช่น ISO9001 , ISO14001 และ TIS18001  เป็นต้น  ทำให้เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty กล้ารับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนานถึง 5 ปีเลยทีเดียว  เรียกว่าซื้อ  Mitsubishi Heavy Duty  จ่ายเงินทีเดียว  คุ้มค่ายาวนานหายห่วงอย่างน้อย 5 ปีกันไปได้เลย

4.เพราะ Mitsubishi Heavy Duty ทนทานต่อสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษในสภาวะปัจจุบัน

ในโลกยุค 4.0 ที่มลภาวะ  สารพิษ  และเชื้อโรคกำลังเป็นปัญหาอันหนักหน่วงคุกคามอยู่ตอนนี้  แต่ Mitsubishi Heavy Duty สามารถช่วยคุณได้ด้วยฟังก์ชั่นเสริมที่เพิ่มเติมมาเอาใจคนรักสุขภาพ  ด้วย filter ที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty  ทั้ง  Natural Enzyme Filter ที่สามารถป้องกันและทำลายเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยส่วนประกอบของเอ็นไซม์ธรรมชาติ  Natural Solar Filter  ที่ช่วยกรองอากาศ และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์  ทำให้อากาศในห้องสะอาดสดชื่น  Anti-allergy & Activated carbon filter  ซึ่งเป็นตัวดูดซับก๊าซอันตราย  ฝุ่นละอองในอากาศ  และกำจัดสารก่อภูมิแพ้อีกด้วย  และต่อยอดด้วย  Vitamin C Filter ที่ช่วยกระจายวิตามิน C ในอากาศทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น  แบบนี้แล้วมลภาวะในยุคนี้จะสาหัสแค่ไหน  Mitsubishi Heavy Duty ก็เอาอยู่  ช่วยดูแลคุณและทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี

5.เพราะ Mitsubishi Heavy Duty ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน

นอกเหนือจากความทนทาน  คุณภาพ  การรับประกัน  และความใส่ใจต่อสุขภาพของผู้ใช้งานแล้ว  Mitsubishi Heavy Duty ยังละเอียดอ่อนและใส่ใจในสิ่งแวดล้อม  เพื่อต่อยอดความยั่งยืนของธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป  ด้วยการงดใช้สารทำความเย็นที่เป็นอันตรายต่อชั้นโอโซนในบรรยากาศอีกด้วย

และถ้าจะให้แนะนำสำหรับรุ่นที่น่าจะตอบโจทย์  และครองใจผู้ใช้งานมากที่สุด  ก็เห็นจะอดแนะนำ Mitsubishi Heavy Duty  รุ่น ZSXS ไปไม่ได้  เพราะเป็นรุ่นที่สามารถทำงานได้ถึง 2 ระบบ ทั้งระบบ Cooling Operation และ Heating Operation  นอกจากนี้แล้ว  Mitsubishi Heavy Duty  รุ่น ZSXS  ยังเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากมายหลากหลาย  อย่างฟังก์ชั่น  Motion Sensor คอยจับความเคลื่อนไหวทำให้สามารถปรับโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภายในห้อง  Eco Operation โหมดการทำงานโดยอัตโนมัติปรับอุณหภูมิและระดับพัดลมให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่อยู่ในห้อง ตลอดจนการเข้าสู่โหมด Stand by และปิดอัตโนมัติ (Auto Off) เมื่อไม่มีคนอยู่ที่จะช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

รู้แล้วใช่ไหมว่า  “เพราะทนแบบนี้นี่ไง  เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi heavy duty ถึงครองใจทุกบ้านได้อย่างยาวนาน”  การันตีทั้งความน่าเชื่อถือ  ความทนทาน  คุณภาพคับแก้ว  แถมยังใส่ใจทั้งคนใช้งานและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย  ต้องขอบอกเลยว่า  Mitsubishi Heavy Duty  คุ้มค่า  คุ้มราคา จริง ๆ พูดเลย


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving