คอลัมน์สัมภาษณ์วันนี้เรามีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับคุณสุกิจ ตรัยวนพงศ์ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ฟายน์โฮม จำกัด  ในงานแถลงข่าวเปิดตัว 2 โครงการใหม่ สดๆ ซิงๆ อย่างโครงการ I’m Fine Condominium @Bangna และ The Fine Residence @ Ching Rai บ้านเดี่ยวใจกลางเมืองเชียงราย เพื่อหวังจะผลักดันยอดขายของบริษัทให้ทะลุเป้าปลายปีนี้

ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ผู้ประกอบการรายนี้มีประสบการณ์ในการทำโครงการบ้านและคอนโดฯ ในกรุงเทพ ฯ อย่าง โครงการบ้านแบรนด์ อนันตธาราย่าน ประชาอุทิศ 14 – บุรีรมย์, ปิ่นเกล้า – ทวีวัฒนา ,หัวหมาก และคอนโดฯ เดอะ ฟายน์ แอท ริเวอร์ ย่านทร – เจริญนคร 17 รวมถึง เดอะ ฟายน์ บาย ฟายน์ โฮม แถวซอยอารีย์ 4  แต่เดินหน้าเจาะตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด และขึ้นเหนือไปไกลถึงเชียงรายได้อย่างไร  เราจึงไม่รอช้าที่จะคว้าประเด็นเรื่องการไปเปิดโครงการที่เชียงรายนี้มาฝากทุกคนกันค่ะ

โดยประเด็นที่น่าสนใจ มีดังนี้คือ

1. ทำไมถึงไปรุกตลาดอสังหาฯในเชียงราย เพราะส่วนใหญ่ถ้าเริ่มแรกของการทำตลาดอสังหาฯ ก็จะไปทำที่หัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่มากกว่า ความยากง่ายในการเริ่มต้นทำธุรกิจมีมากน้อยแค่ไหน

2.ธุรกิจอสังหาฯ ที่เชียงรายเป็นอย่างไร มีการแข่งขันสูงหรือไม่ ในขณะที่เราเป็นผู้ประกอบการขนาดดกลาง เราสร้างความต่าง และสร้างจุดแข็งให้กับตนเองอย่างไร

3.ได้ยินว่า เทรนด์คอนโดฯที่นี่กำลังบูมเลย คิดเห็นยังไงบ้าง และเรามีโครงการจะสร้างคอนโดฯไหม

4.พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าที่เชียงรายเป็นอย่างไร แล้วกลุ่มผู้บริโภคของเราเป็นใคร

5.กุญแจสำคัญในการทำธุรกิจที่คิดว่าทำให้ประสบความสำเร็จและยืนอยู่ได้ดี คืออะไร

ประเด็นหลักๆ ก็จะมีประมาณนี้ค่ะ อย่างนั้นไม่รอช้าเราเริ่มบทสัมภาษณ์ที่ประเด็นแรกที่หลายคนสนใจว่า

1. ทำไมถึงไปรุกตลาดอสังหาฯในเชียงราย ส่วนใหญ่ถ้าเริ่มแรกของการทำตลาดอสังหาฯ ก็จะไปทำที่หัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่มากกว่า  ความยากง่ายในการเริ่มต้นทำธุรกิจมีมากน้อยแค่ไหน

คุณสุกิจ : ถ้าให้เปรียบเทียบและพูดถึงทำเลเฉพาะในภาคเหนือแล้ว คนก็จะมุ่งไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่กัน แต่อย่าลืมนะว่าที่เชียงใหม่มีการแข่งขันสูง คู่แข่งเยอะมาก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯที่ไปซื้ออยู่และปล่อยเช่า และเริ่มหนาแน่นขึ้นมาก ฉะนั้นการเปิดตลาดใหม่ย่อมเป็นข้อได้เปรียบ การมาทำตลาดที่เชียงรายเพราะถือเป็นจังหวัดที่ลงตัวมากที่สุดในตอนนี้ เพราะเป็นเส้นทางการขนส่งต่างๆที่เตรียมต้อนรับ AEC  ในอีกสองปีข้างหน้า ต่างชาติเองก็เริ่มเข้ามาลงทุนซื้อที่ดินสร้างโรงงานที่นี่เพื่อเตรียมทำธุรกิจร่วมกับไทย จีน ลาว  อีกด้วย  นอกจากนี้คือที่นี่อากาศดี เย็นสบาย หนาวก็หนาวจริง  เรียกว่าเหมาะกับการมาอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก

ส่วนถ้าถามว่ามันยากง่ายยังไง แน่นอนที่สุดมันมีความยากตรงที่เราเป็นกลุ่มทุนหน้าใหม่ แต่ความง่ายก็มีนะเพราะเรามีพันธมิตรที่ดี ก็กลุ่มเพื่อนๆ ของเรา ที่ทำงานเกี่ยวกับหอการค้าจังหวัด รู้เรื่องผังเมือง รู้เรื่องพื้นที่นั้นๆ ก็ช่วยเราได้มาก อย่างเรื่องผังเมืองของที่นี่ก็ถือว่าดีเพราะยังให้ความสำคัญกับความเป็นเมืองเก่าอยู่ ในเมืองจะสร้างตึกก็ไม่ให้สูงเกิน 8 ชั้น แบบนี้เป็นต้น  ซึ่งก่อนจะขึ้นโครงการเราก็ศึกษาตรงนี้มาอย่างละเอียดแล้วนะ

 

2.ธุรกิจอสังหาฯ ที่เชียงราย มีการแข่งขันสูงหรือไม่ ในขณะที่เราเป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง เราสร้างความต่าง และสร้างจุดแข็งให้กับตนเองอย่างไร

คุณสุกิจ :  เดิมทีธุรกิจอสังหาฯ ที่เชียงรายนี่ก็ไม่หวือหวามากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นซะมากกว่า ทำบ้านชั้นเดียวราคาประมาณ  2 ล้านบาท สองชั้นก็ประมาณ 3 -4 ล้านบาท มีไม่กี่เจ้า เพราะปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงาน ผู้รับเหมาก็หายากขึ้น   แต่ ณ ปัจจุบันพอจะเปิด AEC ก็มีกลุ่มทุนหลายรายจากกรุงเทพฯ เข้ามาทำธุรกิจและกว้านซื้อที่ดินที่นี่เยอะมาก รายใหญ่ๆ นี่เริ่มมากันแล้วโดยเค้ามีภาษีตรงแบรนด์ ขายง่าย แต่เราเองก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาชิงเค้กก้อนนี้ และคิดว่าจะพัฒนาโครงการที่นี่ให้เป็นที่รู้จักก่อนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ   โดยใช้จุดแข็งเรื่องบ้านประหยัดพลังงาน รวมถึงโครงสร้างของเราที่ใช้อิฐมอญ 2 ชั้นในการก่อสร้าง เพื่อให้บ้านเย็น เป็นต้น

3.ได้ยินว่า เทรนด์คอนโดฯที่นี่กำลังบูมเลย คิดเห็นยังไงบ้าง และเรามีโครงการจะสร้างคอนโดฯไหม หวั่นเรื่องแผ่นดินไหวบ้างรึเปล่า

คุณสุกิจ :  เทรนด์คอนโดฯที่เชียงรายนี่มาแรงเหมือนกัน เจ้าใหญ่ๆ ที่นี่เค้าทำเป็น 10  โครงการเลยนะ     ส่วนเราเองนอกจากบ้านเดี่ยวที่เราสร้าง เราก็มีแผนสร้างคอนโดฯ เหมือนกัน เนื้อที่ก็ประมาณ 1-2 ไร่ ขนาด 8 ชั้น ประมาณ 200 ยูนิต  คงเปิดต้นปีหน้า ซึ่งถามว่าเราห่วงเรื่องแผ่นดินไหวมั้ย เราไม่ห่วงมากนัก เพราะที่นี่สถิติการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ 2 ริกเตอร์ ซึ่งถือว่าไม่รุนแรงมากนัก และเราก็สร้างด้วยเสาเข็มขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว

4.พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าที่เชียงรายเป็นอย่างไร แล้วกลุ่มผู้บริโภคของเราเป็นใคร 

คุณสุกิจ: แต่เดิมคนเชียงรายที่อยู่ในท้องที่จริงๆ ก็เลือกซื้อบ้านก่อน  จนถึงตอนนี้ก็ซื้อบ้านกันนะ ส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการ หมอ พยาบาล และคนที่ไปทำงานต่างประเทศแล้วกลับมาซื้อบ้านที่ไทย  แต่ตอนนี้อย่างที่ว่ากระแสคอนโดฯ  มาแรงลูกค้าทั้งคนพื้นที่จริงและนักธุรกิจต่างชาติอย่างจีน เกาหลี ยุโรป มีหมด ก็หันมาดูคอนโดฯ กันมากขึ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าของเราก็มีทุกกลุ่มเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเรื่องทำเลกลางเมือง ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง และเน้นสไตล์บ้านที่โมเดิร์นขึ้น

The Fine_Boulevard

5.กุญแจสำคัญในการทำธุรกิจที่คิดว่าทำให้ประสบความสำเร็จ คืออะไร

คุณสุกิจ : ทั้งหมดทั้งมวลในการทำธุรกิจสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ ต้องรักษาคุณภาพการก่อสร้าง เรื่องเด่นอย่างเรื่องประหยัดพลังงานต้องไม่ทิ้ง ยิ่งเราไม่ใช่รายบิ๊กๆ เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยมากๆ เพราะมันจะรักษาชื่อเสียงของเรา และทำให้โครงการใหม่ๆ ในอนาคตประสบความสำเร็จไปด้วย

 

โดย:อัมพวรรณ หงส์แก้ว :โบ