TOSTEM THAILAND ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจากประเทศญี่ปุ่น เดินหน้ารุกตลาดเมืองไทย ส่งผลิตภัณฑ์ดีไซน์มินิมอล พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกวัย เอาใจคนไทยอยู่บ้านที่ต้องการความโปร่งโล่งสบาย ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้ารายย่อย พร้อมคาดยอดขายปีนี้โต 40%

(ภาพจากขวา : นายวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮ้าส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท ลิกซิล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

นายภากร มหพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของบริษัท เอ็ม สเปซ)

 

นายวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮ้าส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท ลิกซิล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ทอสเท็ม” กล่าวว่า ผู้บริโภคในเมืองไทยมีความต้องการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบ้านที่มีคุณภาพดี ฟังก์ชันการทำงานครบครัน และดีไซน์สวยงาม ซึ่งดีไซน์แบบญี่ปุ่นซึ่งเน้นความเรียบง่ายแบบมินิมอล การใช้งานสะดวกตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้ดี

นายวิชากล่าวว่า มี 2 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของคนไทยในยุคปัจจุบัน คือ ไลฟ์สไตล์คนที่เปลี่ยนไป ต้องทำงานและอยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้มีความต้องการพื้นที่โล่งโปร่งสบาย อากาศหมุนเวียนดี สามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้โดยมีสิ่งบดบังน้อยที่สุด  ขณะเดียวกัน สังคมไทยที่มีคนหลายรุ่นอยู่ในบ้านเดียวกัน (Intergeneration) และกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ ทำให้คนไทยสนใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกวัย ซึ่งแบรนด์ “ทอสเท็ม” ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว เช่น หน้าต่าง ATIS Series พร้อมนวัตกรรมมือจับชนิดก้านหมุน (Operator Handle) ที่เปลี่ยนให้มือจับใช้งานได้ง่ายทั้งสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ หมุนง่ายโดยไม่ต้องออกแรง

ขณะเดียวกัน ได้กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจว่า  ก่อนโควิด-19 ระบาด รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ หรือประมาณ 70% มาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบโครงการหรืออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ แต่หลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มมีรายได้จากตลาดลูกค้าที่อยู่อาศัยรายย่อยมากขึ้น เพราะคนอยู่บ้านมากขึ้น จึงเลือกหาอุปกรณ์ในบ้านเอง เพื่อนำไปปรับปรุงบ้านให้อยู่อาศัยอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ก็ตั้งเป้าที่จะขยายสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไป

“บริษัทฯ ตั้งเป้าว่า ในปี 2565 ยอดขายของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่แล้ว โดยในช่วงไตรมาสแรก ยอดขายเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งต้องการเพิ่มสัดส่วนยอดขายกลุ่มลูกค้ารายย่อยจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% ของยอดขายทั้งหมด” นายวิชากล่าว

ทั้งนี้ “ทอสเท็ม” พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้า เช่น ปลายปีที่แล้วได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ATIS Series ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ซ่อนการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ ภายใต้กรอบอะลูมิเนียมเพรียวบาง ทำให้ผู้อยู่อาศัยเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในที่อยู่อาศัยกับธรรมชาติภายนอกแบบไร้สิ่งกีดขวาง เช่น หน้าต่าง ATIS Tilt &Slide เป็นครั้งแรกของตลาดหน้าต่างอะลูมิเนียมที่รวมฟังก์ชันหน้าต่างแบบบานเลื่อนและบานยกไว้ด้วยกัน และมี Smart Insect Screen นวัตกรรมเกราะล่องหน ที่ช่วยป้องกันแมลงและมลพิษจากภายนอก อีกทั้งช่วยระบายอากาศได้ดีกว่ามุ้งลวดปกติ 20% และโปร่งแสงขึ้น 40% ทำให้มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจ

กลยุทธ์สำคัญอีกอย่างคือ การปรับเปลี่ยนขนาดและฟังก์ชันการใช้งานให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เช่น ปัจจุบัน Grants Series ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงของบริษัท มีกรอบประตูสูงถึง 4.5 เมตร พร้อมพื้นที่ของกระจกมากขึ้นเพื่อเปิดมุมมองสู่ภายนอกแบบพาโนรามา ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเน้นเรื่องคุณภาพและการใช้งานในระยะยาว

นายวิชากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้ทำการตลาดออนไลน์เชิงรุกเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า เช่น มีโชว์รูมแบบ Virtual ทำให้สามารถเลือกดูสินค้าทางออนไลน์ได้ และมีเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ด้วย รวมถึงยังผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจขยายโชว์รูมในพื้นที่จริง โดยเน้นหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว เพื่อหวังขยายตลาดลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, รีสอร์ท และบริษัทรับสร้างบ้านในพื้นที่ดังกล่าว

นายภากร มหพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของบริษัท เอ็ม สเปซ กล่าวถึงเทรนด์ที่อยู่อาศัยในเมืองไทยว่า คนไทยให้ความสนใจกับเรื่องคุณภาพ ฟังก์ชันการใช้งาน และดีไซน์มากขึ้น เพราะคนอยู่บ้านมากขึ้นหลังโควิดระบาด และมีความนิยมดีไซน์แบบญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นที่ (Space) ที่เชื่อมโยงพื้นที่ภายในบ้านและบรรยากาศภายนอกบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทอสเท็มตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในงานสถาปนิก’65 ท็อสเทม ได้เนรมิตพื้นที่กว่า 162 ตารางเมตรเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในเทรนด์ Intergeneration ภายใต้แนวคิด “FRAMING THE BEAUTY OF LIVING” จัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีในรูปแบบ “Home Solution & Living Space” หลากหลายรุ่น เช่น ผลิตภัณฑ์รุ่น ATIS, GRANTS และ GIESTA เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ของการอยู่บ้านด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ดีไซน์สวยงาม และคงทน

ผู้สนใจสามารถเลือกชมผลิตภัณฑ์ทอสเท็มได้ที่ https://tostemthailand.com/