69503

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทยผนึกบริษัท B.Grimm Power ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ร่วมลงทุนธุรกิจ “โซลาร์ ฟาร์ม” ด้านผู้บริหาร “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” มั่นใจช่วยต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดเตรียมจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในสิ้นปี”58 พร้อมเตรียมต่อยอดในธุรกิจ Solar Rooftopในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา

69496

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวในงานลงนามในสัญญาความร่วมมือธุรกิจกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ทำให้บริษัทฯ เริ่มตระหนักถึงความอันตรายจากที่ภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ จึงเริ่มมีการศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานอย่าง บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จนตกลงที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจ Solar Farm เป็นการเริ่มต้นการทำธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Economy of Scale นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้บ้านในโครงการของเสนา ด้วย Solar Rooftop

การร่วมทุนกับB.Grimm Power ถือเป็นมิติใหม่ในการลงทุนของ SENA หลังจากบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาแนวทางในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจ และ บี.กริม เพาเวอร์ ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชั้นนำของโลก ทำให้เราตัดสินใจร่วมลงทุนธุรกิจ Solar Farmโปรเจคแรกนี้ร่วมกับทาง บี.กริม เพาเวอร์ และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากต่างมีจุดแข็ง โดย SENA ถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯชั้นนำของเมืองไทย มีที่ดินพร้อมสำหรับรองรับการก่อสร้าง หรือขยายการลงทุน ขณะที่B.Grimm Power ก็มีความชำนาญด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เมื่อผนวกกันแล้ว จะยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และแข็งแกร่งในอนาคต

69494

เป้าหมายหลักในการลงทุนธุรกิจ Solar Farm จริง ๆ แล้วก็เพื่อต่อยอดไปยัง Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา การทำ Solar Farm จะทำให้ประหยัดต้นทุน ได้ราคาแผงโซล่าร์ที่ถูกลง   อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดธุรกิจ Recurring Income ของบริษัทฯ สร้างผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน รัฐจะรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด กำหนดให้ราคาเป็นแบบ Feed In Tariff ที่ 5.66 บาทต่อหน่วย (KW/H) เป็นระยะเวลา 25 ปี ทำให้เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับลูกบ้าน และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท

69510

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า การร่วมมือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ด้วยเหตุที่ B.Grimm Power เป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้าและไอน้ำอยู่แล้วทั้งหมด 10 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ และยังมีโรงไฟฟ้าที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอีก 8 โรง กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,200 เมกะวัตต์ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความพร้อมในทุกด้าน บี.กริม เพาเวอร์ จึงขยายธุรกิจมาทางด้านพลังงานทดแทน เช่น แสงแดด และ ลม รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว และพม่า  ในธุรกิจพลังงาน ทั้งที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และ น้ำ โดยวางเป้าหมายไว้ว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้าจะมีกำลังการผลิตถึง 5,000 เมกะวัตต์

ในการพิจารณาการลงทุนของ B.Grimm Power จะเน้นการเป็นพันธมิตรยาวนานกับบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือและมีชื่อเสียงที่ดี กลุ่มเสนา ก็เป็นผู้ร่วมลงทุนที่เราภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันและเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า เราจะร่วมมือกันก่อสร้างและบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด

6 ธุรกิจหลัก B.Grimm

  1. ธุรกิจด้านพลังงาน
  2. ธุรกิจด้านคมนาคม ร่วมกับทางซิเมนส์ เยอรมัน เป็นผู้จัดหาระบบการควบคุมและการบริการของรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตเรลลิงค์
  3. ธุรกิจด้านเครื่องปรับอากาศ ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำอย่าง Carrier
  4. ธุรกิจด้านสุขภาพ ด้วยการเข้าเป็นหุ้นส่วนองค์กรหลายแห่งที่จัดหาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ป้อนตลาด
  5. ธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ ที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย เช่น Burberry,L’OCCITANE หรือ La Perla และ
  6. ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีอาคารหลักๆ คือ อัลมา ลิ้งค์ ที่ย่านชิดลม และ อาคาร ดร.เกฮาร์ด ลิ้งค์

ทั้ง 6 ธุรกิจสร้างรายได้เฉลี่ยต่อปีไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมี “ฮาราลด์ ลิงค์” หรือ “หรัณ เลขนะสมิทธิ์” นั่งเป็นประธานกลุ่มบริษัท บี.กริม เขาเป็นทายาทรุ่นที่ 3 เป็นหลานปู่ของ “หมอยาฝรั่ง” นาม “อดอล์ฟ ลิงค์” ที่เข้ามาในประเทศไทยเพื่อร่วมทำงานกับผู้ก่อตั้งบริษัท (แบร์นฮาร์ด กริม และ แอร์วิน มุลเลอร์) ตั้งแต่ปี 2421 จนถึงทุกวันนี้