“แสนสิริ” ประกาศความสำเร็จผู้นำตลาดเชียงใหม่ กวาดยอดขายล่าสุด ทะลุกว่า 4,000 ล้านบาท SOLD OUT! รวด 3 โครงการ เผย 3 ปัจจัย ทำเล-บริการหลังการขาย-คุณภาพแบรนด์ มัดใจลูกค้าไทยและต่างชาติ 

(เชียงใหม่, 25 กุมภาพันธ์ 2562) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรชั้นนำของไทย ประกาศความสำเร็จผู้นำในตลาดอสังหาฯจังหวัดเชียงใหม่ กวาดยอดขายล่าสุด ทะลุกว่า 4,000 ลบ. รวมกว่า 1,200 ยูนิต SOLD OUT! รวด 3 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด พิงค์, เศรษฐสิริ สันทราย, บี อเวนิว เชียงใหม่ เผยความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ฮอท “ดีคอนโด” แข็งแกร่ง ล่าสุด ดีคอนโด ริน เปิดตัว กวาดยอดขายช่วง pre-sale ถึง 90% ชี้ 3 ปัจจัยหลัก ทำเลโครงการ บริการหลังการขาย และคุณภาพ แบรนด์ ครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินหน้าเร่งเครื่องอัดแคมเปญ “โปรหมดเปลือก” คัดส่วนลดเน้นๆ สูงสุดถึง 12 ลบ. บ้านเดี่ยว-คอนโด-ทาวเฮ้าส์ พร้อมอยู่กว่า 30 โครงการ ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศ ฟรีโอน ฟรีส่วนกลาง และอยู่ฟรี 2 สำหรับคอนโดฯ ก่อนหมดมาตรการรัฐ ตั้งแต่วันนี้-15 มี.ค.62โอกาสสุดท้าย! เตรียมรีบจับจองยูนิตสวย โดนใจกับ ดีคอนโด ริน เปิดขายเฟสสุดท้ายเริ่ม 2 มี.ค. นี้ เป็นต้นไป กระตุ้นยอดขายรวมในไตรมาสแรก มั่นใจตลาดเชียงใหม่ยังมีดีมานด์คุณภาพลูกค้าจ่อรอซื้อ

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)เผยว่า “ปี 2561 นับว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของแสนสิริในตลาดอสังหาฯเชียงใหม่ ซึ่งสามารถปิดการขายทั้ง3 โครงการแนวสูงและแนวราบรวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ ดีคอนโด ยังคงเป็นแบรนด์หลักที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดี และเป็นแบรนด์ ที่ติดตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านทำเล ราคา และคอนเซ็ปท์โครงการ ประกอบด้วย  กลุ่มลูกค้าหลัก คนไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากกว่า เพื่อสร้างความคึกคักในช่วงต้นปีแสนสิริ ยังจัดแคมเปญพิเศษโปรหมดเปลือก ให้ส่วนลดสูงกว่า 12 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ตอบโจทย์ตลาดที่ยังมีความต้องการและขยายตัวขึ้น”

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาฯในจังหวัดเชียงใหม่ โครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียม จากข้อมูลสำรวจปี 2561 มียอดขายและโอนโครงการแนวสูงรวมทั้งสิ้นกว่า 3,800 ล้านบาท จำนวนกว่า1,700 ยูนิต โดยแสนสิริ สามารถครองสัดส่วนการตลาดยอดขายสูงถึง 40% จากการปิดยอดขายพร้อมโอน โครงการล่าสุดอย่าง ดีคอนโด พิงค์ มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท จำนวน 687 ยูนิต

ปัจจัยที่ทำให้ โครงการดีคอนโด พิงค์ ประสบความสำเร็จนั้น มาจากปัจจัยแข็งแกร่งหลักของแสนสิริ 3 ด้าน ได้แก่ ความเชื่อมั่นในคุณภาพแบรนด์แสนสิริ ทำเลโครงการ ติดถนนซูปเปอร์ ไฮเวย์ เดินทางสะดวกติดห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเพียง 150เมตร บริการหลังการขาย ที่คงรักษามาตรฐานและคุณภาพโครงการอยู่เสมอ ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าในอัตราที่สูง โดยปัจจุบัน มีอัตราเฉลี่ยการปล่อยเช่าเฉลี่ยสูงถึง 6-8% ตลอดจนโครงการ ดีคอนโด ซายน์ ซึ่งเป็นโครงการที่ขายหมดมาแล้วกว่า 4 ปี ยังคงได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยในระดับที่สูงถึง 5–7% ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้ โครงการล่าสุดอย่าง ดีคอนโด ริน มียอดขายทะลุสูงถึง 90% ในช่วงเวลา pre-sale พร้อมกันนี้ ได้เตรียมเปิดขายเฟสสุดท้ายเริ่ม 2 มี.ค. นี้ เป็นต้นไป

สำหรับตลาดแนวราบ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมียอดขายและโอนกว่า 1,300 ยูนิต ที่ระดับราคา 3.5 – 5ล้าน ได้รับการตอบรับดี รองลงมา คือ ระดับราคา 8 – 20 ล้าน โดยเขตสันกำแพง เป็นทำเลที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากแผนการสร้างสนามบินแห่งที่ 2 รวมถึงผังเมืองที่กำหนดโซนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ไม่สามารถสร้างได้ในเขตเมืองชั้นในหรือในเขตอำเภอเมือง ส่งผลให้โครงการของแสนสิริได้รับการตอบรับดีและมียอดขายอย่างต่อเนื่อง ในทำเลที่ถือว่า เป็นทำเลที่ดี ศักยภาพ เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก

โครงการเศรษฐสิริ สันทราย ปิดการขายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยการซื้อ ยังคงเป็นเรื่องของทำเลติดถนนใหญ่ สายหลักสันทราย-แม่โจ้ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกตลาดรวมโชค โลตัสรวมโชค บริการ    หลังการขาย และความเชื่อมั่นในคุณภาพแบรนด์แสนสิริเอง อีกหนึ่งโครงการที่มีผลตอบรับที่ดีเช่นกัน คือ โครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่80% ของเฟสที่เปิดขาย ซึ่งอยู่ในที่ดินผืนสุดท้ายที่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ ตามประกาศผังเมืองที่กำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว รอบโครงการคงจุดเด่นรายล้อมด้วยธรรมชาติ การขยายถนนหน้าโครงการ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่เชื่อมการเดินทางระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่และศูนย์ราชการ สนามบินแห่งที่ 2 ในอนาคต และเป็นเส้นทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตม่อนแจ่มได้ง่ายดาย นอกจากนี้ โครงการ B-avenue เชียงใหม่ ปิดการขายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือเป็นโครงการที่เป็นทำเลค้าขาย ใกล้กับ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ซึ่งมีความชัดเจนในเรื่องกลุ่มลูกค้า ทั้งลูกบ้าน และกลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” คุณสมเกียรติ กล่าว

สำหรับปี 2562 นี้ แสนสิริ มองเห็นศักยภาพตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย 3 ปัจจัยหลักด้านทำเลโครงการ บริการหลังการขาย และคุณภาพของแบรนด์แสนสิริที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับระดับแถวหน้าของไทยซึ่งยังคงครองใจกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าได้รับผลตอบรับที่ดีตามเป้าที่วางไว้เช่นเคย และคาดว่าจะสามารถครองสัดส่วนการตลาดเชียงใหม่ได้อีกเช่นเคยอย่างแน่นอน